Tuesday, 10 June 2025
POLITICS TEAM

'โฟกัส' แนะลดงบประมาณกองทัพ เจียดเงินช่วยประชาชน พร้อมวางแผนเยียวยาแบบยั่งยืน ดีกว่าช่วงแบบแจกเงินส่ง ๆ

วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564 โฟกัส จีระกุล ดารานักแสดง โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับเรื่องงบประมาณ โดยระบุว่า...

เพียงลด ‘งบประมาณ’ ที่ ‘ไม่จำเป็น’ นำมาพัฒนาประเทศในด้านอื่น ๆ นำมาทำแผนเยียวยาแบบยั่งยืน ที่ไม่ใช่การแจกเงินส่ง ๆ สอนให้คนรู้จักทำงาน หาช่องทางทำงานให้เค้า เยียวยาธุรกิจเล็ก ๆ ช่วยเหลือคนตกงาน

ลองเริ่มจากลดงบ ‘กองทัพ’ ดูค่ะ งบที่มากมายขนาดนั้น เงินมากมายที่ชาตินี้ก็ใช้ไม่หมด เจียดเงินมาช่วยเหลือประชาชนบ้างเถอะค่ะประชาชนจะได้ไม่อดตาย

ทำไมวันตรุษจีน ต้องจุดประทัด!!

สำหรับ ‘วันตรุษจีน’ ถือเป็น ‘วันขึ้นปีใหม่’ ตามปฏิทินจีน ซึ่งจะว่าไปแล้วก็คล้าย ๆ กับวันสงกรานต์ของบ้านเรา

โดยในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้ ชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีน จะหยุดงาน หยุดเรียนเป็นเวลากว่าหนึ่งสัปดาห์ เพื่อให้ผู้คนได้เดินทางกลับไปร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุขกับครอบครัว

แน่นอนว่าพอเข้าเทศกาลตรุษจีนทีไร สิ่งที่เรามักเห็น คือ การประดับตกแต่งหน้าบ้าน หรือหน้าร้านด้วยโคมไฟสีแดง ที่ชาวจีนนั้นเชื่อว่าเป็นสีนำโชค

นอกจากนี้ ยังมีการไหว้บรรพบุรุษ และหลังจากไหว้บรรพบุรุษ ก็จะมีการ ‘จุดประทัด’ ตามกันมาแทบทุกครอบครัว

...ว่าแต่เคยสงสัยกันหรือไม่ว่า? ทำไมถึงต้องจุดประทัดในเทศกาลตรุษจีน

มีตำนานเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับวันตรุษจีน ที่เป็นความเชื่อแบบเชื่อมโยงไปสู่การ ‘จุดประทัด’ ซึ่งเกี่ยวพันกับสิ่งที่เรียกว่า ‘ปีศาจเหนียน’

...ปีศาจเหนียน ปีศาจร้ายในตำนานวันตรุษจีน

หากเอ่ยถึงสัตว์ในตำนานของชาวจีน หลายคนก็มักจะนึกถึงแต่ ‘มังกร’ ที่เปรียบเสมือนสัตว์เทพที่เป็นสัญลักษณ์ของความเจริญรุ่งเรือง

แต่ถ้าใครได้มีโอกาสไปเที่ยววัดเชื้อจีน อาจเคยเห็นรูปปั้นของสัตว์ประหลาดสี่เท้า ที่หัวมีลักษณะคล้ายมังกร ลำตัวใหญ่เป็นสองเท่าของสิงโต และมีเขี้ยวแหลมคม

นั่นแหละที่เขาเรียกว่า ‘ปีศาจเหนียน’

ปีศาจเหนียน เป็นสัตว์ป่าที่ดุร้ายและน่ากลัวมากตัวหนึ่งในสมัยโบราณ มักออกอาละวาดกินคน และสัตว์เลี้ยงเป็นประจำ สวรรค์จึงได้สั่งลงโทษ ด้วยการสาปให้ปีศาจเหนียนกลายเป็นหิน

...แต่ในทุก ๆ 1 ปีคำสาปจะคลายลงในวันสิ้นปีของจีน หรือก็คือวันก่อนวันตรุษจีน 1 วัน ซึ่งตรงกับความเชื่อของชาวจีนที่ว่าเป็นวันที่ส่งเจ้าขึ้นสวรรค์

ดังนั้น เมื่อถึงวันสิ้นปีของทุกปี ผู้คนต่างอพยพเข้าไปหลบซ่อนในหุบเขาลึก เพื่อไม่ให้ปีศาจเหนียนมาทำร้าย

แล้ว ‘ปีศาจเหนียน’ ไปเกี่ยวอะไรกับ ‘การจุดประทัด’

ก็อย่างที่กล่าวไปข้างต้ว่า ก่อนวันตรุษจีน 1 วัน ปีศาจเหนียนจะหลุดพ้นจากคำสาปและลงมาอาละวาดทำร้ายผู้คน

ทว่าก็ได้มีผู้ที่ค้นพบจุดอ่อนของปีศาจเหนียน นั่นคือ สีแดงฉูดฉาด, แสงไฟ และเสียงดังเปรี้ยงปร้าง ทำให้ผู้คนสามารถคิดหาวิธีกำจัดปีศาจเหนียนได้โดยไม่ยากนัก

พอวันตรุษจีนเวียนมาอีกครั้งหนึ่ง ทุก ๆ ครัวเรือนจึงต่างนำกระดาษสีแดงมาติดไว้บนประตูหน้าบ้าน หรือแขวนโคมไฟสีแดง พร้อมกับ ‘จุดประทัด’ และตีฆ้องรัวกลองอย่างต่อเนื่อง

เมื่อปีศาจมาถึงหมู่บ้าน เห็นแสงไฟสว่างไสว มีเสียงประทัดดังสนั่นจึงตกใจเผ่นหนีกลับเข้าป่าไป ไม่กล้าออกมาอาละวาดอีกเลย

นี่เป็นอีกเรื่องเล่า คำกล่าวขาย และตำนานที่ชาวจีนต่างเชื่อกันมา และทำให้การจุดประทัดในเทศกาลตรุษจีนกลายเป็นความเชื่อที่ทำตามกันมา จนกลายเป็นประเพณีนิยมจนปัจจุบัน


ที่มา: https://www.shopat24.com/blog/trending/opening-the-chinese-new-year-legend-nian-devil-the-origins-of-the-firecrackers/

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สานความสัมพันธ์ 46 ปี ‘ไทย - จีน’ จัดเทศกาลตรุษจีนในรูปแบบ New Normal ตอกย้ำมิตรภาพแน่นแฟ้นยาวนานของทั้ง 2 ประเทศ

วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 18.00 น. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีเปิดไฟประดับตกแต่งในโอกาสเทศกาลตรุษจีน ร่วมด้วย นายหยาง ซิน อุปทูตรักษาการเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย ดร.นาที รัชกิจประการ ประธานคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. นางสาวอาทิตยา โชคกิจมนัสชัย ผู้อำนวยการเขตสัมพันธวงศ์ นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย และนายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟ จำกัด (มหาชน) ณ ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา ถนนเยาวราช เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร

โดย ททท. ได้จัดการตกแต่งประดับไฟฟ้า เส้นทางตั้งแต่มูลนิธิเทียนฟ้าถึงแยกเฉลิมบุรี ระยะทาง 200 เมตร เพื่อสร้างบรรยากาศ แต่งเติมสีสันแห่งการเฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีนในย่านเยาวราช ซึ่งถือเป็นย่านชุมชนวัฒนธรรมไทย - จีน อันสำคัญ ที่ได้รับผลกระทบด้านการค้าและการท่องเที่ยวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง

สำหรับการประดับไฟเนื่องในเทศกาลตรุษจีนปี 2564 ตกแต่งภายใต้แนวคิด “เฉลิมฉลองวันตรุษจีน ต้อนรับปีวัวทอง กับถนนสายมังกรเยาวราช” สร้างสรรค์เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นสิริมงคลในเทศกาลตรุษจีน อาทิ มังกร นางฟ้า ดอกเหมย

ทั้งนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระราชทานโคมไฟขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 67 นิ้ว (เท่ากับพระชนมายุ 67 พรรษา) จำนวน 4 ลูก ให้แก่กรุงเทพมหานคร เพื่อประดับตกแต่งบริเวณซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษาด้วย

ผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมการตกแต่งประดับไฟในเทศกาลตรุษจีนได้ตั้งแต่วันที่ 11-28 กุมภาพันธ์ 2564 ตั้งแต่เวลา 18.00 - 24.00 น.

พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการฟ้องร้องคุณหญิงพันธุ์เครือ ยงใจยุทธ (หญิงหลุยส์) อดีตภรรยาว่า...

สัญญาในใบหย่า ได้มอบทรัพย์สินให้คุณหญิงพันธุ์เครือ มีเจตนาเพื่อให้เเบ่งสรรปันส่วนให้ลูกหลาน แต่กลับนำไปขายเเละจำนองโดยไม่ทราบว่านำเงินไปทำอะไร จึงมีการฟ้องร้องเรื่องทรัพย์สินและศาลนัดพิจารณาในวันที่ 25 ก.พ.นี้

ทั้งนี้การที่ไม่ยอมเปลี่ยนกลับไปใช้นามสกุลเดิมของตนเองถือเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะหย่าขาดจากกันแล้ว อีกทั้งตนไม่พอใจที่นำบ้านที่จังหวัดนครพนมไปมอบให้กับผู้อื่น ซึ่งไม่ได้เกี่ยวพันธุ์กันทางสายเลือด เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นหลังการหย่า

ความจริงตนไม่ต้องการหย่า เเต่คุณหญิงพันธุ์เครือชวนไปหย่า และคุณหญิงพันธุ์เครือเป็นคนเเรกที่เซ็นใบหย่า

ทั้งนี้ตนเป็นชายชาติทหารต้องเคารพสตรี โดยเฉพาะภรรยา แต่การนำบ้านที่ตนให้ไปขายมอบให้คนอื่นคือปัญหาสำคัญสำหรับคนที่รักในศักดิ์ศรีตระกูล ตนมีแต่ความรู้สึกที่ดีที่มอบให้ แต่คุณหญิงพันธุ์เครือไม่ดูแลตน แม้แต่ตอนหกล้มเมื่อปี 59

 

ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ได้ทำการศึกษาความเชื่อมโยงของความสามารถทาง ‘ปัญญา’ กับ ‘อคติ’ ที่มีต่อ ‘กลุ่มคนรักร่วมเพศ’ โดยพบว่า 'คนที่เกลียดกลัวการรักร่วมเพศ' มักจะมีสติปัญญาที่ต่ำกว่าคนในกลุ่มอื่น

ทีมวิจัยได้ศึกษากับกลุ่มตัวอย่างชาวออสเตรเลียจำนวน 11,564 คน ด้วยแบบสอบถามสำหรับการวิเคราะห์ในเรื่องของระดับสติปัญญา ซึ่งในแบบสอบถามดังกล่าวจะมีคำถามบางส่วนสอดแทรกไปในลักษณะที่ว่า เห็นด้วยหรือไม่กับประโยคที่ว่า

ในแบบสอบถามดังกล่าว จะมีคำถามบางส่วนสอดแทรกไปในลักษณะที่ว่า เห็นด้วยหรือไม่กับประโยคที่ว่า “กลุ่มคนรักร่วมเพศ (ชาย-ชาย / หญิง-หญิง) ควรมีสิทธิเท่าเทียมกับกลุ่มคนรักต่างเพศ (ชาย-หญิง)” โดยจะให้ผู้ตอบแบบสอบถามเลือกว่าเห็นด้วยกับประโยคดังกล่าวมากน้อยแค่ไหน ตั้งแต่ 1 (ไม่เห็นด้วยเลย) ไปถึง 7 (เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง)

ทั้งนี้ทางทีมวิจัยได้นำแบบสอบถามทั้งหมดมาวิเคราะห์ และพบว่า ยิ่งไม่เห็นด้วยกับประโยคในลักษณะนี้มากเท่าไหร่ สติปัญญาของคนเหล่านั้นก็จะยิ่งต่ำกว่าคนอื่นตามไปด้วย ก็ยิ่งแสดงถึงความเชื่อมโยงกันของทั้งสองสิ่งนี้

นอกจากนี้ นักวิจัยยังพบด้วยว่า ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น จะส่งผลรุนแรงอย่างมากในส่วนของทักษะการใช้คำพูด หรือก็คือ คนที่มีอคติกับกลุ่มรักร่วมเพศ มักจะเป็นคนที่ขาดการใช้สติปัญญาในการแสดงออกทางวาจานั่นเอง

งานวิจัยดังกล่าว ถือว่าช่วยสนับสนุนผลงานวิจัยอื่นๆ ก่อนหน้านี้ในสหรัฐอเมริกา ที่เคยมีการพบว่าผู้ที่มีอคติต่อกลุ่มรักร่วมเพศหรือกลุ่ม LGBTQ นั้น จะมีระดับสติปัญญาต่ำเช่นเดียวกัน


ที่มา

https://www.catdumb.tv/homophobia-research-339/?fbclid=IwAR0f76JLJyj1HjXnJvbEPObSdCGUZPafDq2K7Rc2SGtuIRKTEb6Ds5mKLQA

https://www.sciencedirect.com/science/article/abs/pii/S0160289617303628

https://www.unilad.co.uk/science/homophobia-and-low-intelligence-are-linked-study-finds/

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รายงานว่า ตำรวจชุดสืบสวน ได้ร่วมกับชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมาน กองบังคับการปราบปราม นำกำลังเข้าจับกุมตัว นายสมชาย จุติกิติ์เดช หรือ ‘หลงจู๊’ ผู้ถูกกล่าวหาเจ้าของบ่อนพนันหลายแห่งใน ภาคตะวันออก

สำหรับ ‘หลงจู๊สมชาย’ เป็นนักธุรกิจสีเทาระดับประเทศ เป็นเจ้าพ่อบ่อนการพนันหลายแห่ง ทั้งในจังหวัดระยองและรวมถึงภาคตะวันออก และอีสานบางส่วน เริ่มต้นชีวิตจากศูนย์ จนโด่งดังในยุทธจักรบ่อนพนัน และโด่งดังยิ่งขึ้นเมื่อกลายเป็นต้นเหตุการระบาดของโควิด-19 ล่าสุด

หลงจู๊สมชาย ถูกกล่าวขานมาเป็นเวลานานในฐานะนักพนัน ตั้งแต่เริ่มต้นจากศูนย์ คนในวงการมักเปรียบว่ามาจาก ‘ผี’ เพราะไม่มีอะไร แต่ด้วยความเป็นนักพนันใจถึง มีผู้หลักผู้ใหญ่ในจังหวัดระยองสนับสนุน จึงค่อยๆ เติบโตจากคนเดินโพยหวย ขยับมาเป็นเจ้ามือหวย เป็นเจ้าของสถานบริการในเมืองระยอง ทั้งนวดแผนโบราณ คาราโอเกะ ต่อมาเข้าไปพัวพันกับแก๊ง ‘ล็อกหวย’ ที่มีด้วยกัน 3 คน คือ ‘กลม บางกรวย - ชัย โคกสำโรง’ และตัวเขาเองที่ได้เจ้าของฉายา ‘ชาย ระยอง’ หรือ ‘ชาย บ้านค่าย’

ช่วงแรกแก๊งหวยล็อกจะเดินสายกระจายแทงเจ้ามือใหญ่ในหัวเมืองต่างๆ และไปสะดุดตอที่เจ้าพ่ออีสาน โดย ‘เป๊กตั๊ก’ เจ้าพ่อหวยเมืองสุรินทร์ เห็นว่าถูกลูกค้านิรนามกินติดต่อกันหลายงวด และสงสัยกลุ่ม ‘ชาย ระยอง’ หรือ ‘หลงจู๊สมชาย’ ในปัจจุบัน จะเป็นตัวการ จึงเข้าแจ้งต่อกองปราบปราม และเป็นที่มาของการเปิดโปงขบวนการ ‘หวยล็อก’ ต่อมามีการดำเนินคดี...แต่ ‘หลงจู๊ สมชาย’ รอดมาได้

หลังข่าวคราวหวยล็อกเงียบไป ชื่อเสียงของ ‘หลงจู๊สมชาย’ ก็โด่งดังในยุทธจักรบ่อนพนัน และกิจการตู้ม้า ตู้สลอต โดยว่ากันว่าเขาได้รับการสนับสนุนจาก ‘นักการเมืองคนดัง’ ของจังหวัดนครราชสีมา และนายตำรวจระดับ พล.ต.ต.คนหนึ่งแถวภาคอีสาน ให้สัมปทานบ่อน ตู้ม้า ในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภาค 3 ทั้ง จ.นครราชสีมา จ.อุบลราชธานี และอื่นๆ อีกหลายแห่ง

เมื่อครั้งน้ำท่วมใหญ่ จ.อุบลราชธานี เงินจำนวน 1 ล้านบาท ของ ‘หลงจู๊สมชาย’ ก็ถูกนำไปสร้างบารมี สร้างฐานสีเทาให้แก่ตัวเอง โดยมีลูกน้องคนสนิทซึ่งแท้จริงเป็นคนโปรโมตบ่อน สวมบทเป็นผู้ใจบุญบริจาค

ด้วยความใจถึง อีกทั้งระยะหลังมักมีข่าวว่า ‘หลงจู๊สมชาย’ มีอาการเพี้ยน เนื่องจากผลข้างเคียงของการใช้ยาบางอย่าง และอาจเป็นคนใจถึงอยู่แล้ว อีกทั้งมีแรงหนุนจาก ‘นักการเมืองคนดังภาคอีสาน’ ที่ทำงานติดตัวเบอร์ต้น ๆ ของขั้วอำนาจในรัฐบาล ‘หลงจู๊สมชาย’ จึงบ่ายหน้าเข้าสู่วงการบู๊ลิ้มเมืองหลวง

ระยะแรกสร้างความปั่นป่วนไม่น้อย เพราะการปล่อยสมุนมือขวาออกป่วน แต่ในที่สุดไปไม่รอด ต้องกลับไปดูแลฐานเดิมคือ ภาคตะวันออกในหลายพื้นที่ของภาค 2 ภาค 3 จนช่วงหนึ่งถูกระดมปราบปรามจากชุดเฉพาะกิจกรมการปกครองอย่างหนักหน่วง จากปฏิบัติการทะลายบ่อน RJ ต.มาบตาพุด จ.ระยอง ซึ่งทราบกันดีว่าบ่อนแห่งนี้เป็นของ ‘หลงจู๊สมชาย’ ปรากฏเป็นข่าวครึกโครม

แต่ด้วยเส้นสาย และ ‘นักการเมืองดังอีสานคนใกล้ตัวขั้วอำนาจ’ ทำให้ในที่สุด ‘หลงจู๊สมชาย’ รอดตัวเช่นเคย แต่ฝ่ายมั่นคงก็เตรียมเชือดต่อ โดยส่งชุดปฏิบัติการของดีเอสไอ เพื่อตั้งเป้าขยายผลเกี่ยวกับการฟอกเงิน ซึ่งหลายคนเชื่อว่านี่คือปฏิบัติการเชือดไก่เพื่อปิดตำนานความยิ่งใหญ่ของ ‘เจ้าพ่อธุรกิจสีเทา’ อย่างแน่นอน

แต่ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน ความไม่ชอบมาพากลก็เกิดขึ้น โดยคอลัมนิสต์สื่อหลักเริ่มเขียนแขวะปฏิบัติการนี้ และให้เหตุผลว่าบ่อนพนันเป็นหน้าที่ของตำรวจก็พอแล้ว ไม่เห็นจำเป็นต้องให้ถึงมือ ‘กรมสอบสวนคดีพิเศษ’ เพราะควรไปใช้กับคดีต่างๆ ที่มีความสลับซับซ้อน

อย่างไรก็ตาม หปฏิบัติการสยบเจ้าพ่อตะวันออกก็กลายเป็นหมัน ไม่มีใครกล้าแตะต้อง ‘หลงจู๊สมชาย’ ต่อมาเรื่อยๆ จนกระทั่งเกิดฝีแตก จากกรณีบ่อนระยอง ที่กลายเป็นแหล่งแพร่โควิด-19 ในครั้งนี้ จึงถึงจุดจบของ ‘หลงจู๊สมชาย’ ในที่สุด!!

สมบัติ ทองย้อย หัวหน้าการ์ดเสื้อแดง โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบายความอึดอัดในใจ เกี่ยวกับกลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่าเป็นฝ่ายรักในประชาธิปไตย โดยมีเนื้อหาระบุว่า...

ช่วงหลัง ๆ มานี้ยอมรับเลยสลิ่มในเฟสเยอะมาก แต่ก็ไม่ได้อะไรมากเขาเข้ามาด้วยสาเหตุใดก็ตามแต่ไม่ว่ากัน แต่เชื่อไหมบรรดาสลิ่มเหล่านั้นเวลามาเม้นท์ผม น้อยคนมากที่จะด่าด้วยคำด่าที่หยาบคาย บางคนจากเกลียดกลายเป็นมาพูดดีกับผมเรียกลุงเรียกน้าเรียกพี่

ผมไม่รู้ว่าเขาหวังอะไรจากผม เพราะจริง ๆ ผมก็ไม่มีอะไรจะให้เขา แต่ผมสิกลับโดนพวกเดียวกันเองด่าแบบสาดเสียเทเสียไม่ให้เกียรติกัน ไม่เคารพกัน ไม่นับถือกัน ซึ่งผมก็ไม่ได้โกรธ หรือโทษใครนอกจากตัวผมเองที่ผมทำตัวผมเอง

แต่แค่งงใจว่าพวกเดียวกันเองทำไมต้องด่ากันจนถึงขนาดนั้น เพียงเพราะคิดต่างกับพวกคุณ บางทีคนเสื้อแดงเพลงคนฝั่งประชาธิปไตยก็ไม่ได้น่ารักอย่างที่คิดเสียทุกคน หรือบางคนอาจจะเผด็จการทางความคิดเสียด้วยซ้ำ


ที่มา:

https://www.facebook.com/336295587309275/posts/758955375043292/

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=406579140643344&id=100038737831788

รัฐบาลสหรัฐอเมริกาของประธานาธิบดีโจ โบเดน กำลังตั้งตาคอยพินิจพิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ ในนั้นรวมถึงรายงานของคณะผู้เชี่ยวชาญนานาชาติองค์การอนามัยโลก (WHO) ที่เผยแพร่เมื่อวันอังคาร (9 ก.พ.)

ซึ่งระบุว่าไวรัสโควิด-19 ไม่ได้มีต้นกำเนิดจากห้องปฏิบัติการวิจัยในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน จากการเปิดเผยของ เจน ซากี เลขานุการฝ่ายสื่อมวลชนของทำเนียบขาว

คณะผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบที่มาที่ไปของโควิด-19 ซึ่งนำโดยองค์การอนามัยโลก ระบุว่า ค้างคาวยังคงเป็นแหล่งต้นตอที่มีความเป็นไปได้ และมีความเป็นไปได้ที่ไวรัสแพร่กระจายเชื้อผ่านอาหารแช่แข็ง พร้อมปฏิเสธสมมติฐานที่ว่ามันหลุดจากห้องปฏิบัติการวิจัยหนึ่ง

ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากเชื่อว่าโรคโควิด-19 ที่ล่าสุดทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อสะสม 106 ล้านคน และเสียชีวิตกว่า 2.3 ล้านคนนั้น มีต้นกำเนิดมาจากค้างคาว และอาจมีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอีกชนิดหนึ่งเป็นพาหะถ่ายทอดจากค้างคาวต่อมายังมนุษย์

เหลียง วานเหนียน ผู้เชี่ยวชาญจากคณะกรรมาธิการสาธารณสุขของจีน หัวหน้าคณะสอบสวนของจีนที่ร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญจากองค์การอนามัยโลก แถลงเมื่อวันอังคาร (9 ก.พ.) ว่า แม้แนวคิดดังกล่าวมีแนวโน้มเป็นไปได้ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุโฮสต์กักตุน (reservoir host) สัตว์ที่เป็นแหล่งกักตุนเชื้อโรคตามธรรมชาติและสามารถแพร่เชื้อโรคไปยังสัตว์อื่นๆ และคนได้

เขาเสริมด้วยว่า ในอีกด้านหนึ่งผลศึกษาหลายฉบับแสดงให้เห็นว่า ไวรัสสามารถแพร่เชื้อไปไกลผ่านสินค้าที่ควบคุมอุณหภูมิ ซึ่งเท่ากับมีความเป็นไปได้ว่าไวรัสโคโรนาอาจมาจากประเทศอื่น ทั้งนี้ ทฤษฎีดังกล่าวเป็นที่แพร่หลายอย่างมากในจีนในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

ขณะที่ด้าน ซากี บอกกับผู้สื่อข่าวระหว่างแถลงสรุปในวันอังคาร (9 ก.พ.) ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ได้เกี่ยวข้องในการวางแผนหรือการดำเนินการสืบสวน และต้องการตรวจประเมินอิสระต่อสิ่งที่ค้นพบและข้อมูลแฝงต่างๆ โดยเธอกล่าวต่อว่า แม้รัฐบาลกลับเข้าร่วมองค์การอนามัยโลกแล้ว แต่มัน "เป็นสิ่งจำเป็นที่เราต้องมีคณะผู้เชี่ยวชาญของเราเองที่ภาคสนามในจีน"

ด้าน ปีเตอร์ เบน เอ็มบาเรค หัวหน้าคณะผู้เชี่ยวชาญอิสระที่ลงพื้นที่เมืองอู่ฮั่นมานานเกือบ 1 เดือน ดินแดนที่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ปรากฏตัวขึ้นเป็นครั้งแรกที่ตลาดอาหารทะเลแห่งหนึ่งในช่วงปลายปี 2019 บอกว่าการทำงานของคณะผู้เชี่ยวชาญนั้นครอบคลุมข้อมูลใหม่ ๆ แต่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากมายใด ๆ ในมุมมองของพวกเขาที่มีต่อโรคระบาดใหญ่

เอ็มบาเรค บอกว่า การระบุเส้นทางที่ไวรัสนี้ผ่านจากสัตว์มาสู่มนุษย์นั้น ยังอยู่ในขั้นตอนการทำงาน ความเห็นที่สนับสนุนคำกล่าวของเหลียง และยังปฏิเสธทฤษฎีที่ว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่หลุดออกมาจากห้องปฏิบัติการทดลอง "ไม่น่าเป็นไปได้อย่างยิ่ง" และบอกว่าไม่จำเป็นต้องทำการศึกษาเพิ่มเติม

เมื่อถูกสอบถามถึงผลการค้นพบขององค์การอนามัยโลก เนด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า เขาไม่อาจสรุปได้ว่าคณะผู้เชี่ยวชาญจากองค์การอนามัยโลกได้รับความร่วมมืออย่างเต็มที่จากจีน

"ผมคิดว่าเรื่องนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป มันชัดเจนว่าอย่างน้อยๆ ก่อนหน้านี้จีนไม่ได้มอบความโปร่งใสที่จำเป็นตามที่เราต้องการ" ไพรซ์กล่าว พร้อมระบุว่าสหรัฐฯ จะทำการสรุปบนพื้นฐานของข้อมูลองค์การอนามัยโลกและข่าวกรองของตนเอง


ที่มา: https://sondhitalk.com/detail/9640000013262?fbclid=IwAR2O8QxSRxhkPhtnpzqEJsld-_1OjUGD_1Utfzt0kbkCtjsbyzm8_JVcnF4

‘พรรคก้าวไกล’ ส่งทีมงานยื่นฟ้อง ‘วรงค์ เดชกิจวิกรม’ และ ‘ณฐพร โตประยูร’ ฐานหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหายคนละ 24 ล้านบาท พร้อมเรียกร้องให้ หยุดพฤติการณ์อันเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายอีก

วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล, นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก และ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. โฆษกพรรคก้าวไกล เดินทางมาเป็นตัวแทนในนาม “พรรคก้าวไกล” เป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดี 2 สำนวน สำนวนแรกฟ้องต่อ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ผู้ก่อตั้งพรรคไทยภักดี เป็นจำเลย

ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา กับอีกสำนวนฟ้องต่อ นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นจำเลย ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และแจ้งหรือกล่าวหาอันเป็นความเท็จว่าพรรคการเมืองกระทำความผิดกฎหมายพรรคการเมือง ตามมาตรา 101 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า "คดีฟ้อง นพ.วรงค์ ฟ้องการกระทำเมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2564 และเมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2564 คือการแถลงข่าวและการโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว มีลักษณะก่อให้เกิดความเสียหายต่อพรรค พรรคจำเป็นต้องปกป้องสิทธิ เกียรติยศชื่อเสียงของพรรค และสมาชิกพรรคที่ได้รับผลกระทบจากการให้ข้อมูลดังกล่าว เราจะฟ้องเป็นคดีอาญา เรียกค่าเสียหายในทางแพ่ง จำนวนเงิน 24,062,475 บาท และเรียกร้องให้ นพ.วรงค์ หยุดพฤติการณ์อันเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายอีก"

ส่วนคดีที่สอง ฟ้องนายณฐพรที่อ้างเคยเป็นที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวหาพรรคก้าวไกลละเมิด พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง จึงฟ้องเรียกค่าเสียหายที่เกี่ยวข้องกับความผิดฐานหมิ่นประมาท ให้ข้อมูลอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงาน

และข้อหาตามมาตรา 101 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง คือกล่าวหาพรรคการเมืองโดยรู้อยู่แล้วว่าข้อความดังกล่าวเป็นเท็จ เราเรียกร้องให้หยุดการกระทำดังกล่าว และเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่ง จำนวนเงิน 24,062,475 เช่นเดียวกัน พรรคก้าวไกลฟ้องเป็นการปกป้องสิทธิของพรรค ไม่ให้บุคคลทั้งสองทำแบบนี้อีกกับบุคคลอื่นหรือพรรคการเมืองอื่น อันเป็นการทำลายสถาบันทางการเมือง ไม่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยที่มีการติชมด้วยความเหมาะสม

ผู้สื่อข่าวถามว่าคำฟ้องเรียกร้องเฉพาะค่าเสียหายหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เป็นเรื่องของคดีอาญา ข้อหาทั้งหมดมีโทษจำคุกด้วย อย่างไรก็ตามเป็นขั้นตอนกระบวนการของศาล เรามีหน้าที่พิสูจน์ความเป็นจริงให้ศาลเห็นว่าเราได้รับผลกระทบเป็นผู้เสียหายอย่างไร ความผิดฐานหมิ่นประมาท เมื่อวานนี้ (10 ก.พ.) พรรคก้าวไกลยื่นแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพราะเรามองว่าการแสดงความคิดเห็นที่ถูกต้องเหมาะสมสามารถกระทำได้ แต่ต้องไม่ให้เกิดความเสียหายต่อบุคคลอื่น เมื่อมีกระบวนการของศาลแล้วในอนาคตเป็นเรื่องของศาล เราหวังเพียงว่าจะได้รับการคืนความเป็นธรรม


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top