Monday, 9 June 2025
POLITICS TEAM

ผลลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ 6 ครั้งย้อนหลัง รัฐมนตรีท่านไหน ถูก ‘ไม่ไว้วางใจ’ (%) มากที่สุด!!

***อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลประยุทธ์ 2 (2564)

1.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไว้วางใจ 272 ไม่ไว้วางใจ 206 งดออกเสียง 3 ผู้เข้าร่วมประชุม 481 สัดส่วนไม่ไว้วางใจ = 42.83%

2.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณรองนายกรัฐมนตรี ไว้วางใจ 274 ไม่ไว้วางใจ 204 งดออกเสียง 4 ผู้เข้าร่วมประชุม 482 สัดส่วนไม่ไว้วางใจ = 42.35%

3.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ไว้วางใจ 275 ไม่ไว้วางใจ 201 งดออกเสียง 6 ผู้เข้าร่วมประชุม 482 สัดส่วนไม่ไว้วางใจ = 41.70%

4.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ไว้วางใจ 268 ไม่ไว้วางใจ 207 งดออกเสียง 7 ผู้เข้าร่วมประชุม 482 สัดส่วนไม่ไว้วางใจ = 42.95%

5.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ไว้วางใจ 272 ไม่ไว้วางใจ 205 งดออกเสียง 3 ผู้เข้าร่วมประชุม 482 สัดส่วนไม่ไว้วางใจ = 42.53%

6.) ***นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ไว้วางใจ 258ไม่ไว้วางใจ 215 งดออกเสียง 8 ผู้เข้าร่วมประชุม 482 สัดส่วนไม่ไว้วางใจ = 45% (ถูกไม่ไว้วางใจมากที่สุดในการอภิปรายรอบ 6 ครั้งล่าสุด)

7.) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ไว้วางใจ 263 ไม่ไว้วางใจ 212 งดออกเสียง 5 ไม่ลงคะแนน 1 ผู้เข้าร่วมประชุม 482 สัดส่วนไม่ไว้วางใจ = 43.98%

8.) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ไว้วางใจ 268 ไม่ไว้วางใจ 201 งดออกเสียง 12 ไม่ลงคะแนน 1 ผู้เข้าร่วมประชุม 482 สัดส่วนไม่ไว้วางใจ = 41.70%

9.) นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ไว้วางใจ 272 ไม่ไว้วางใจ 206 งดออกเสียง 4 ผู้เข้าร่วมประชุม 482 สัดส่วนไม่ไว้วางใจ = 42.74%

10.) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไว้วางใจ จำนวน 274 คน ไม่ไว้วางใจ จำนวน 199 คน งดออกเสียง 5 คน ไม่ลงคะแนน 1 คน ผู้เข้าประชุม 479 คน สัดส่วนไม่ไว้วางใจ =41.54%

***อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลประยุทธ์ 1 (2563)

1.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไว้วางใจ 272 ไม่ไว้วางใจ 49 งดออกเสียง 2 ผู้เข้าร่วมประชุม 323 สัดส่วนไม่ไว้วางใจ = 15.17%

2.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ไว้วางใจ 277 ไม่ไว้วางใจ 50 งดออกเสียง 2 ผู้เข้าร่วมประชุม 329 สัดส่วนไม่ไว้วางใจ = 15.20%

3.) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ไว้วางใจ 272 ไม่ไว้วางใจ 54 งดออกเสียง 2 ผู้เข้าร่วมประชุม 328 สัดส่วนไม่ไว้วางใจ = 16.46%

4.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ไว้วางใจ 272 ไม่ไว้วางใจ 54 งดออกเสียง 2 ผู้เข้าร่วมประชุม 328 สัดส่วนไม่ไว้วางใจ = 16.46%

5.) นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ไว้วางใจ 272 ไม่ไว้วางใจ 55 งดออกเสียง 2 ผู้เข้าร่วมประชุม 329 สัดส่วนไม่ไว้วางใจ = 16.72%

6.) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไว้วางใจ 269 ไม่ไว้วางใจ 55 งดออกเสียง 7 ผู้เข้าร่วมประชุม 331 สัดส่วนไม่ไว้วางใจ = 16.62%

***อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลยิ่งลักษณ์ (2555)

1.) นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไว้วางใจ 308 ไม่ไว้วางใจ 159 งดออกเสียง 4 ไม่ลงคะแนน 9 ผู้เข้าร่วมประชุม 480 สัดส่วนไม่ไว้วางใจ = 33.13%

2.) ร้อยตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ไว้วางใจ 287 ไม่ไว้วางใจ 157 งดออกเสียง 25 ไม่ลงคะแนน 11 ผู้เข้าร่วมประชุม 480 สัดส่วนไม่ไว้วางใจ = 32.71%

3.) พลอากาศเอกสุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (รมว.คมนาคม ในขณะนั้น) ไว้วางใจ 284 ไม่ไว้วางใจ 160 งดออกเสียง 25 ไม่ลงคะแนน 11ผู้เข้าร่วมประชุม 480 สัดส่วนไม่ไว้วางใจ = 33.33%

4.) พลตำรวจโทชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (รมช.คมนาคม ในขณะนั้น) ไว้วางใจ 284 ไม่ไว้วางใจ182 งดออกเสียง

5.) ไม่ลงคะแนน 10 ผู้เข้าร่วมประชุม 481 สัดส่วนไม่ไว้วางใจ = 37.84%

***อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลอภิสิทธิ์ (2554)

1.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกกรัฐมนตรี วางใจ 249 ไม่วางใจ 184 งดออกเสียง 11 ไม่ลงคะแนน 23 ร่วมประชุม 467 สัดส่วนไม่ไว้วางใจ = 39.40%

2.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี วางใจ 249 ไม่วางใจ 185 งดออกเสียง 11 ไม่ลงคะแนน 22ร่วมประชุม 469 สัดส่วนไม่ไว้วางใจ = 39.45%

3.) นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง วางใจ 245 ไม่วางใจ 185 งดออกเสียง 12 ไม่ลงคะแนน 22 ร่วมประชุม 464 สัดส่วนไม่ไว้วางใจ = 39.87%

4.) นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ วางใจ251ไม่วางใจ 186 งดออกเสียง 9 ไม่ลงคะแนน 23 ร่วมประชุม 469 สัดส่วนไม่ไว้วางใจ = 39.66%

5.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี วางใจ 246 ไม่วางใจ 182 งดออกเสียง 17 ไม่ลงคะแนน 21ร่วมประชุม 466 สัดส่วนไม่ไว้วางใจ = 39.06%

6.) นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร วางใจ 247 ไม่วางใจ 185 งดออกเสียง 16 ไม่ลงคะแนน 22 ร่วมประชุม470 สัดส่วนไม่ไว้วางใจ = 39.36%

7.) นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย วางใจ 250 ไม่วางใจ 188 งดออกเสียง 8 ไม่ลงคะแนน 23 ร่วมประชุม 469 สัดส่วนไม่ไว้วางใจ = 40.09%

8.) นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม วางใจ 248 ไม่วางใจ 188 งดออกเสียง 11 ไม่ลงคะแนน 22 ร่วมประชุม 469 สัดส่วนไม่ไว้วางใจ = 40.09%

9.)นายศุภชัย โพธิ์สุ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ วางใจ 243 ไม่วางใจ188 งดออกเสียง 16 ไม่ลงคะแนน21 ร่วมประชุม 468 สัดส่วนไม่ไว้วางใจ = 40.17%

10.)นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ วางใจ 247 ไม่วางใจ 188 งดออกเสียง 13 ไม่ลงคะแนน 21 ร่วมประชุม469 สัดส่วนไม่ไว้วางใจ = 40.09%

***อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลอภิสิทธิ์ (2553)

1.)นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกกรัฐมนตรี ไว้วางใจ 246 ไม่ไว้วางใจ 186 งดออกเสียง 11 ไม่ลงคะแนน 21 ผู้เข้าร่วมประชุม 464 สัดส่วนไม่ไว้วางใจ = 40.09%

2.)นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ไว้วางใจ 245 ไม่ไว้วางใจ 187 งดออกเสียง 11 ไม่ลงคะแนน 21 ผู้เข้าร่วมประชุม 464 สัดส่วนไม่ไว้วางใจ = 40.30%

3.)นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ไว้วางใจ 244 ไม่วางใจ 187 งดออกเสียง 12 ไม่ลงคะแนน 22 ผู้เข้าร่วมประชุม 465 สัดส่วนไม่ไว้วางใจ =40.22%

4.) นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ไว้วางใจ 239 ไม่วางใจ190 งดออกเสียง 15 ไม่ลงคะแนน 21 ผู้เข้าร่วมประชุม 465 สัดส่วนไม่ไว้วางใจ = 40.86%

5.) นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ไว้วางใจ 236 ไม่วางใจ 194 งดออกเสียง 14 ผู้เข้าร่วมประชุม 22 ผู้เข้าร่วมประชุม 466 สัดส่วนไม่ไว้วางใจ =41.63%

6.) นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ไว้วางใจ 234 ไม่วางใจ 196 งดออกเสียง 13 ไม่ลงคะแนน 22 ผู้เข้าร่วมประชุม 465 สัดส่วนไม่ไว้วางใจ = 41.15%

***อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลอภิสิทธิ์ (2552)

1.)นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไว้วางใจ 246 ไม่วางใจ 176 งดออกเสียง 12 ไม่ลงคะแนน 15 ผู้เข้าร่วมประชุม 449 สัดส่วนไม่ไว้วางใจ = 39.20%

2.)นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ไว้วางใจ 246 ไม่วางใจ 174 งดออกเสียง 12 ไม่ลงคะแนน 15 ผู้เข้าร่วมประชุม 447 สัดส่วนไม่ไว้วางใจ = 38.93%

3.)นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ไว้วางใจ237 ไม่วางใจ 184 งดออกเสียง 12 ไม่ลงคะแนน 13 ผู้เข้าร่วมประชุม 447 สัดส่วนไม่ไว้วางใจ = 41.16%

4.)นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ไว้วางใจ246 ไม่วางใจ 167 งดออกเสียง 20 ไม่ลงคะแนน 14 ผู้เข้าร่วมประชุม 446 สัดส่วนไม่ไว้วางใจ = 37.44%

5.)นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ไว้วางใจ 246 ไม่วางใจ 174 งดออกเสียง 12 ไม่ลงคะแนน 15 ผู้เข้าร่วมประชุม 447 สัดส่วนไม่ไว้วางใจ = 38.93%

6.) นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ไว้วางใจ 246 ไม่วางใจ 168 งดออกเสียง 18 ไม่ลงคะแนน 15 ผู้เข้าร่วมประชุม 447 สัดส่วนไม่ไว้วางใจ = 37.58%


ที่มา: Wikipedia

‘ธรรมนัส’ สั่งยุติโครงการเมืองต้นแบบอุตสาหกรรม ‘จะนะ’ เสียดาย ครม.เห็นชอบกับแผนงาน แต่ต้องให้ ศอ.บต. และ สศช. ศึกษาโครงการร่วมกัน โอดในความจริง สศช. ไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรเลย

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดำเนินการขยายผลเมืองต้นแบบ สามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ไปสู่เมืองต้นแบบ 4 อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต ว่า

“ที่ประชุมเห็นชอบให้ยุติโครงการเป็นการยุติชั่วคราว เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น โดยขั้นตอนจากนี้ จะรายงาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมทำหนังสือถึงศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ด้วย

“ปัจจัยหลักที่พิจารณาให้ยุติโครงการนี้ คือ ครม.เห็นชอบกับแผนงาน แต่ครม.มีเงื่อนไขว่าต้องให้ ศอ.บต.และสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. ศึกษาโครงการร่วมกัน แต่ สศช.ไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรเลย ศอ.บต.ทำแต่เพียงลำพัง จึงเดือดร้อนมาจนถึงวันนี้ ทั้งนี้ที่ผ่านมาได้ตั้งคณะอนุกรรมการ 2 คณะ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องของระเบียบและข้อกฎหมาย และอีกคณะเป็นการพิจารณาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตของประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาได้ข้อสรุปแล้วว่า ทำผิดมติคณะรัฐมนตรี” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

หาเสียงแนวใหม่ ! ‘กรณ์’ - ‘สราวุฒิ’ ลงพื้นที่สำรวจแหล่งท่องเที่ยว เขต 3 นครศรีธรรมราช ล่องแพยาง - บอร์ดยืนพาย โชว์การท่องเที่ยวทางน้ำ เป็นของดีอันใหม่ แพ็คทีมผู้บริหารพรรค เดินสายพบประชาชนหลายพื้นที่ ย้ำความพร้อมลงมือทำทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งซ่อมเขต 3 จังหวัดนครศรีธรรมราช ตลอดหลายวันที่ผ่านมา เป็นไปอย่างคึกคัก ผู้สมัครหมายเลข 1 นายสราวุฒิ สุวรรณรัตน์ จากพรรคกล้า ลงพื้นที่หาเสียงพบปะประชาชนต่อเนื่อง ผู้บริหารพรรคทั้งนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค , นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรค , และรองหัวหน้าพรรค นายวรวุฒิ อุ่นใจ , นายพงศ์พรหม ยามะรัตน์ , นายภิมุข สิมะโรจน์ ที่ปรึกษาพรรค พร้อมทีมงานกล้าอาสา ที่เคยลงพื้นที่ช่วยชาวนครศรีธรรมราชเมื่อครั้งประสบอุทกภัย พบปะพูดคุยกับ ชาวบ้าน ได้รับการสะท้อนปัญหาน้ำประปาไม่ทั่วถึงหลายพื้นที่ใน อ.พระพรหม รวมถึงปัญหาที่ดินทับซ้อนในพื้นที่ใน อ.เฉลิมพระเกียรติ นอกจากนี้พรรคกล้ายังได้เข้าไปช่วยวางแผนเติมเงินในกระเป๋าให้ชาวบ้าน ด้วยการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์กระจูด ที่ อ.ชะอวด และเตรียมผลักดันเป็นเมืองท่องเที่ยวอันซีนของประเทศไทยอีกด้วย

นายกรณ์ ได้โพสต์เฟซบุคส่วนตัว พร้อมยก อ.ชะอวด เป็น Hidden Gem มีของดีซ่อนอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นทุ่งกระจูดที่พรุควนเคร็ง สามารถนำกระจูดมาจักสานเป็นผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาท้องถิ่น แหล่งท่องเที่ยวริมน้ำที่สวยงาม สะพานโค้ง 100 ปี , บ้านวังหอน , นบบัวแก้ว ทุ่งนาใต้ , หนานเรือหนานครก หรือที่คลองห้วยแหยง

นายกรณ์ บอกว่า รักการท่องเที่ยวทาง “น้ำ” มาตั้งแต่เด็ก สมัยเรียนมหาวิทยาลัยเป็นนักกีฬาพายเรือ ทำให้ทุกครั้งที่มาชะอวด ต้องไปท่องเที่ยววิถีริมน้ำในทุกครั้งที่มีโอกาส ชะอวดมีของดีอยู่แล้ว หากเติมความคิดสร้างสรรค์เข้าไป มันจะกลายเป็นความสดใหม่ ที่สร้างโอกาสให้กับคนชะอวด และนครศรีธรรมราชได้อีกมาก ยิ่งยุคนี้เป็นยุคโซเชียลมีเดีย มีเพจท่องเที่ยว มีบล็อคเกอร์มากมาย นอกจากมีแหล่งท่องเที่ยวสวยๆแล้ว การมีรูปเก๋ๆ ไว้โพสต์ก็ทำให้เกิดการแชร์ไปในวงกว้าง สร้างโอกาสในแหล่งท่องเที่ยวได้อีกด้วย

หัวหน้าพรรคกล้า ยังได้ชวนลูกสาว (กานต์ จาติกวณิช) และนายสราวุฒิ สุวรรณรัตน์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม เบอร์ 1 มาช่วยกันใส่ไอเดียให้กับแหล่งท่องเที่ยว นำแพยางน่ารักสดใส ลอยน้ำเล่นกันที่คลองห้วยแหยง นอกจากได้รูปสวยๆ แล้วยังมีเด็กๆและชาวบ้านแถวนั้นให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก และเอาบอร์ดยืนพาย (Stand Up Paddle board) ไปลองแม่น้ำปากพนัง ใต้สะพานโค้งรถไฟ 100 ปี ผสมผสานวิถีชุมชนกับของอินเทรนด์ ทำให้ชะอวดมีสีสันขึ้นได้ ผู้คนจะมาท่องเที่ยวกันมากขึ้น ทำให้รู้ว่านอกจากไอไข่แล้ว นครศรีธรรมราชยังมีของดีอีกหลายอย่าง

ศบค.เคาะแล้ว ต่อ พรก.ฉุกเฉินอีก 1 เดือน ถึง 31 มี.ค. แต่ผ่อนคลายให้นั่งดื่มและฟังดนตรีสดได้ถึง 23.00 น. ยกเว้นสมุทรสาครจังหวัดเดียวที่ยังเป็นพื้นที่สีแดง

เมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.เปิดเผยว่า ที่ประชุม ศบค.เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบต่อ พรก.ฉุกเฉิน ไปจนถึงวันที่ 31 มีนาคม และเหลือพื้นที่สีแดงเพียงจังหวัดเดียวคือจังหวัดสมุทสาคร ส่วนสีส้ม เหลือ 8 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ สมุทรสงคราม นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี ราชบุรี ตาก เป็นต้น สีเหลือง 14 สีเขียว 54 จังหวัด

ทั้งนี้ สามารถดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ได้ทุกพื้นที่ ยกเว้นสมุทรสาคร จนถึงเวลา 23.00 น. รวมถึงสามารถเล่นดนตรีสดได้ แต่คงห้ามเต้น ส่วนศูนย์การค้าเปิดได้ตามปกติ สำหรับสถานการศึกษาสามารถเปิดได้ตามปกติและผสมผสาน ส่วนสถานที่ออกกำลังกายเปิดได้ตามปกติ ส่วนการแข่งขันยังคงจำกัดผู้ชุม

อย่างไรก็ตาม สำหรับข้อกำหนดในการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น ให้เป็นอำนาจของแต่ละจังหวัดเป็นผู้ประกาศ

‘ชวน’ ยัน แก้คะแนนโหวตไม่ไว้วางใจไม่ได้ หลัง ‘พิธา’ โวยเครื่องลงคะแนนผิดพลาด ชี้ทำได้แค่บันทึกไว้ในการประชุมเท่านั้น แต่สั่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้ว โบ้ยอาจเป็นเพราะไม่ได้แสดงตนก่อนกดลงมติก็ได้

เมื่อวันที่ 22 ก.พ. เวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ปฏิเสธหลังปรากฏมีการลงคะแนนไว้วางใจ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ว่าเกิดจากความผิดพลาดของเครื่องลงคะแนนว่า เบื้องต้นได้ทราบจากข่าวแล้ว โดยจะให้ทางสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว แต่จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงคะแนนได้ เนื่องจากสิ้นสุดการลงคะแนน และมีการแจ้งต่อที่ประชุมไว้ก่อนแล้ว แต่สามารถบันทึกไว้ในการประชุมได้

ซึ่งเบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุของความผิดพลาดดังกล่าว ที่ผ่านมามีสมาชิกขอตรวจสอบคะแนนในกรณีลงคะแนน แต่ไม่ปรากฏคะแนนเสียงของตัวเอง ตนจึงกำชับสมาชิกทุกคนก่อนลงคะแนนทุกครั้งว่าเกิดปัญหาใดหรือไม่ ประเด็นดังกล่าวอาจจะเกิดจากไม่ได้แสดงตน หรือเมื่อแสดงตนแล้ว ก่อนลงมติต้องกดแสดงตนอีกครั้งหนึ่ง

สำหรับการประชุมร่วมของรัฐสภาในการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม วาระที่สองในวันที่ 24 - 25 ก.พ. นายชวน กล่าวว่า จะมีการนำร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ตำรวจแห่งชาติ และร่างพ.ร.บ.ส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. .... ซึ่งค้างจากการประชุมครั้งก่อนขึ้นมาพิจารณก่อนในการประขุมครั้งนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 - 3 ชั่วโมง หลังจากนั้นจะพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญในวาระที่สอง ตลอดทั้ง 2 วัน

โดยไม่มีการกำหนดกรอบเวลาในการอภิปราย สามารถประชุมได้จนกว่าการอภิปรายจะแล้วเสร็จทั้งหมด เพื่อให้สามารถเปิดประชุมสมัยวิสามัญพิจารณาในวาระ 3 ได้ ซึ่งการเปิดประชุมสมัยวิสามัญจะเป็นวันใด จะอยู่ที่ฝ่ายบริหารเป็นผู้พิจารณา หากร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับแก้ไข ผ่านตามกำหนดจะมีการแจ้งสมาชิกทราบล่วงหน้า ซึ่งตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญจะต้องเว้นจากวาระสอง 15 วันถึงจะพิจารณาวนสาระสามได้

‘อนุทิน’ วอน ฝ่ายการเมือง ให้คิดถึงบ้านเมือง ปมวิจารณ์วัคซีนโควิด อย่าเพียงจ้องเอาชนะคะคาน หวั่น วิจารณ์วัคซีนด้านลบจนสร้างอุปสรรคในการควบคุมโรค และทำให้การจัดหาวัคซีนยากลำบากขึ้น

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ว่า ทางผู้ผลิตจากประเทศจีน รับรองแล้วว่าจะส่งวัคซีนในวันที่ 24 แน่นอน และยังแสดงความยินดี ที่ได้ช่วยเหลือภารกิจด้านสุขภาพของไทย นับว่าแผนการของไทย ยังไม่สะดุด จากนี้ ไทยจะได้วัคซีนต่อเนื่องตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป จะฉีดใคร พื้นที่ไหนบ้าง ให้เป็นไปตามการพิจารณาของคณะกรรมการที่รับผิดชอบ ซึ่งตนไม่แทรกแซง ทั้งตน และพลเอกประยุทธ์ จะได้รับการฉีดตอนไหน ก็เป็นไปตามดุลพินิจของคณะกรรมการ

ทั้งนี้ เมื่อวัคซีนมาถึง ทาง อย.และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ต้องไปตรวจสอบเพื่อให้เกิดความมั่นใจ ก่อนปักลงบนแขนของคนไทย การได้วัคซีนมาแต่ละโดสนั้น ต้องแข่งขันกันสูงมาก แต่ทีมประเทศไทย ได้ทำงานหนักจนประสบความสำเร็จ เป็นเรื่องน่าชื่นชม

สิ่งที่ต้องการสื่อสารคือ หลายครั้งที่ฝ่ายการเมือง ทำให้เรื่องวัคซีน กลายเป็นความยากลำบากขึ้นไปอีก เพราะทางผู้ผลิต ก็ไม่ต้องการตกเป็นเหยื่อทางการเมือง ยิ่งไปกว่านั้น การให้ข่าวว่าวัคซีนที่ไทยนำเข้ามา มีประสิทธิภาพต่ำ มีผลข้างเคียง ทำให้ประชาชนเกิดความสับสน ทั้งที่ ข้อเท็จจริงคือ การฉีดวัคซีนนั้น ช่วยป้องกันอาการป่วยหนัก แทนที่จะสื่อสารเพื่อสร้างความมั่นใจ ให้ชาติปลอดภัย กลับเอาแต่นำเสนอด้านลบ จนสังคมเกิดความไม่มั่นใจ กลายเป็นอุปสรรคในการควบคุมโรค ตนต้องการให้ฝ่ายการเมือง นำเสนอเพื่อให้ชาติเดินหน้า ดีกว่ามุ่งทำทุกทางเพื่อเอาชนะคะคานกัน

ในประเด็นเรื่องการจัดหาวัคซีนซึ่งบางฝ่ายกล่าวว่ารัฐผูกขาด ล็อกสเป็ก ขอย้ำว่า ไทยพร้อมคุยกับผู้ผลิตทุกราย พร้อมขึ้นทะเบียน หากเป็นไปตามเงื่อนไข และพร้อมจัดหามาแน่นอน แต่ประเด็นคือ ผู้ผลิตหลายราย เสนอมอบวัคซีนในช่วงกลางปี ถึงปลายปี ซึ่งทับซ้อนกับช่วงที่ไทยจะได้วัคซีนจากผู้ผลิตฝั่งยุโรป

วัคซีน มีอายุขัยไม่นานนัก การเก็บไว้หลายเดือน จึงไม่เหมาะสม ดังนั้น ไทยจึงไม่ได้นำวัคซีนมาจนค้างสต็อก อีกอย่างคือ ไทยสามารถผลิตได้เองด้วย นับว่าไทยเป็นประเทศที่มีความมั่นคงทางสุขภาพอย่างยิ่ง

‘มาดามเดียร์’ แจงเหตุ ส.ส.ดาวฤกษ์ ยังไม่พร้อม ต้องยกแถลงข่าว หลังผู้ใหญ่ในพรรคสั่งแถลงเหตุผล ปมสวนมติพรรคงดออกเสียงหนุน ‘ศักดิ์สยาม’

เมื่อวันที่ 21 ก.พ. น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) แกนนำกลุ่มดาวฤกษ์กล่าวว่า ได้รับการประสานจากผู้ใหญ่ของพรรคพปชร.ให้ออกมาแถลงข่าว เรื่องการงดออกเสียงลงมติให้รัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาล ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล แต่ส.ส.ทั้ง 6 คน ยังไม่พร้อม จึงขอเลื่อนการแถลงข่าวออกไปก่อนโดยที่ ส.ส.ในกลุ่มจะหารือกันเพื่อจัดทำคำแถลงข่าวออกมาอย่างเป็นทางการต่อไป

ด้าน น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กทม. พรรคพปชร.กล่าวว่า ตนติดภารกิจลงพื้นที่จึงไม่สามารถมาร่วมแถลงข่าวได้ทัน ส่วนเหตุผลที่งดออกเสียงกรณีของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เนื่องจากเป็นการตัดสินใจในทันทีโดยที่มีข้อมูลเข้ามาจำนวนมากจึงของดออกเสียงไว้ก่อน โดยไม่ทราบว่าการงดออกเสียงจะส่งผลต่อความไว้วางใจระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ถือเป็นบทเรียนของ ส.ส.ใหม่อย่างตน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สาเหตุที่พรรคพปชร.แจ้งแถลงข่าวด่วนและต่อมาได้แจ้งยกเลิก มีรายงานว่าผลจากที่ 6 ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์ โหวตสวนมติพรรคโดยงดออกเสียงให้กับนายศักดิ์สยาม

สร้างความไม่พอใจให้กับคนในพรรคภูมิใจไทย ทำให้แกนนำของทั้งสองพรรค ต้องต่อสายพูดคุยกัน โดยแกนนำพรรคพปชร.ยืนยันให้ส.ส. ยกมือโหวตสนับสนุนรัฐมนตรีจากพรรคร่วมรัฐบาล ขณะที่แกนนำพรรคภูมิใจไทยเข้าใจแต่ขอให้ ส.ส.ที่โหวตสวนมติออกมาแถลงข่าวแสดงความรับผิดชอบ ทำให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค มอบหมายนายอนุชา นาคาศัย เลขาธิการพรรค ประสานส.ส.กลุ่มดังกล่าวให้ออกมาแถลงข่าว

แต่ ส.ส.ทั้ง 6 คน ปฏิเสธที่จะเดินทางมาแถลงข่าว ส่งผลให้ทางพรรคต้องยกเลิกกำหนดการอย่างกะทันหัน ทั้งนี้การแถลงข่าวในวันนี้พรรคภูมิใจไทย จะส่งตัวแทนมาฟังการแถลงข่าวของส.ส.ทั้ง 6 คนด้วย แต่สุดท้ายได้รับแจ้งว่าขอเลื่อนการแถลงข่าวออกไปก่อนจึงยกเลิก

สำหรับ ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์ 6 คน ประกอบด้วย นางกรณิศ งามสุคนรัตนา ส.ส.กทม. น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ ส.ส.กทม. น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กทม. น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ ส.ส.กทม. น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายศิริพงษ์ รัสมี ส.ส.กทม.

 

มาแน่ ! ‘อนุทิน’ โพสต์ภาพ วัคซีน Sinovac ล็อตจัดส่งประเทศไทย พร้อมย้ำ See you on Wednesday.

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โพสต์ Facebook ส่วนตัว ปรากฏภาพ ของวัคซีน covid-19 จากบริษัท Sinovac ขณะเตรียมจัดส่งมายังประเทศไทย พร้อมข้อความว่า

Hello Sinovac Vaccines. Have a safe flight. See you on Wednesday!!!!!

(สวัสดีวัคซีน Sinovac ขอให้เดินทางปลอดภัย เจอกันวันพุธ)

#วัคซีนมาเดือนกุมภาตามเวลานะ

#ขอให้เดินทางมาถึงไทยโดยสวัสดิภาพ

ทั้งนี้ ยังมีการโพสต์ข้อความติดต่อด้วยภาษาจีนซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพยายามอย่างสูงสุดที่จะใช้สัมพันธภาพทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งวัคซีนอีกด้วย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top