Monday, 20 May 2024
เอกวาดอร์

‘วิลลาวิเซนซิโอ’ ผู้สมัครชิงตำแหน่ง ปธน.เอกวาดอร์ ถูกลอบยิงดับ ขณะลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้ง

เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 66 นายเฟร์นานโด วิลลาวิเซนซิโอ สมาชิกสภาแห่งชาติและผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเอกวาดอร์ ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตระหว่างไปร่วมงานที่จัดขึ้นในเมืองตอนเหนือของกรุงกีโต เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ตามเวลาท้องถิ่น

ทีมงานหาเสียงของนายวิลลาวิเซนซิโอให้สัมภาษณ์สื่อท้องถิ่นว่า นายวิลลาวิเซนซิโอกำลังก้าวเข้าไปในรถ เมื่อชายคนหนึ่งรุดขึ้นมาข้างหน้าและจ่อยิงเข้าที่ศีรษะของเขา โดยพยานที่เห็นเหตุการณ์ระบุว่า นายวิลลาวิเซนซิโอถูกยิงถึง 3 ครั้ง

ขณะที่อัยการสูงสุดของเอกวาดอร์ระบุผ่านโซเชียลมีเดียว่า ผู้ต้องสงสัยถูกยิงและยังยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ก่อนที่มือปืนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมาเนื่องจากได้รับบาดเจ็บ

ประธานาธิบดีกิเยร์โม ลาสโซ ของเอกวาดอร์ ซึ่งไม่ได้ลงสมัครชิงตำแหน่งในครั้งนี้ให้คำมั่นว่า อาญชากรจะต้องถูกนำตัวมาลงโทษ โดยเขาแสดงความโกรธเคืองและตกใจกับเหตุสังหารดังกล่าว และว่าอาชญากรมาไกลเกินไปแล้ว แต่น้ำหนักของกฎหมายจะต้องกดทับพวกเขา

ทั้งนี้ อาชญากรรมที่รุนแรงมากขึ้นในเอกวาดอร์เมื่อไม่นานมานี้ ได้รับแรงหนุนจากแก๊งค้ายาในประเทศที่เพิ่มมากขึ้น และเรื่องดังกล่าวได้กลายมาเป็นประเด็นการหาเสียงเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเอกวาดอร์ในปีนี้

เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา นายลาสโซได้ประกาศภาวะฉุกเฉินและบังคับใช้มาตรการเคอร์ฟิวในช่วงค่ำคืนใน 3 จังหวัดหลัก หลังมีการสังหารหมู่ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มอาชญากร

นอกจากเรื่องควาปลอดภัยแล้ว การรณรงค์หาเสียงของนายวิลลาวิเซนซิโอยังเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาการทุจริต ซึ่งเป็นหัวข้อที่เขาให้ความสำคัญขณะที่ทำงานเป็นนักข่าวมาก่อนหน้านี้ รวมถึงการลดการทำลายสิ่งแวดล้อม

นายวิลลาวิเซนซิโอเป็น 1 ใน 8 ผู้สมัครในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเอกวาดอร์รอบแรก แม้ว่าเขาจะไม่ใช่ผู้ที่คาดว่าจะเป็นผู้นำในการเลือกตั้งดังกล่าว

การสังหารนายวิลลาวิเซนซิโอเกิดขึ้นหลังจากการสังหารนายออกัสติน อินทริอาโก นายกเทศมนตรีเมือง Manta ในเดือนกรกฎาคม และการสังหารนายโอมาร์ เมเนนเดซ ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีในเมือง Puerto López ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

นายออตโต ซอนเนนโฮลซ์เนอร์ อดีตรองประธานาธิบดีและผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในครั้งนี้ ได้แสดงความเสียใจและความเป็นหนึ่งเดียวกับครอบครัวของนายวิลลาวิเซนซิโอ ซึ่งมีบุตรถึง 5 คน

ขณะที่ลุยซา กอนซาเลส ผู้ที่คาดว่าจะมีคะแนนนำในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเอกวาดอร์ ก็แสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับครอบครัวของนายวิลลาวิเซนซิโอ พร้อมทั้งบอกด้วยว่า การกระทำอันเลวทรามนี้จะต้องไม่ถูกปล่อยให้ไม่ได้รับโทษ

ทั้งนี้ การเลือกตั้งประธานาธิบดีเอกวาดอร์กำหนดจะมีขึ้นในวันที่ 20 สิงหาคมนี้

'เอกวาดอร์' นำร่องประชาธิปไตยเพื่อสิ่งแวดล้อม ชวน ปชช.ทำประชามติตัดสินใจเดินหน้าหรือยุติโครงการขุดเจาะน้ำมันในเขตป่าแอมะซอน

เมื่อวันอาทิตย์ (20 ส.ค.66) เป็นเลือกตั้งใหญ่ในเอกวาดอร์ที่นอกจากคนเอกวาดอร์จะต้องออกมาเข้าคูหาเลือกผู้นำคนใหม่แล้ว ยังมีโอกาสได้เลือกอนาคตของชาติด้วยว่า จะยังคงเป็นชาติที่มีเศรษฐกิจพึ่งพารายได้จากพลังงาน โดยยอมแลกกับทรัพยากรสิ่งแวดล้อมของชาติหรือไม่

เนื่องจากในวันนั้น รัฐบาลเอกวาดอร์กำหนดให้เป็นวันทำประชามติ ถามความเห็นประชาชนโดยตรงว่าจะยังคงให้มีการสำรวจ ขุดเจาะน้ำมันในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ Yasuní National Park ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าดิบชื้นแอมะซอน หนึ่งในสถานที่ที่มีความสมบูรณ์ด้านความหลากหลายทางชีววิทยามากที่สุดในโลก และยังเป็นที่อยู่อาศัยของชนเผ่าพื้นเมืองที่มีอัตลักษณ์เฉพาะตัวสูง  

นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของเอกวาดอร์ ที่ให้สิทธิ์ประชาชนร่วมตัดสินใจในประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม ที่หลายประเทศทั่วโลกกำลังจับตาถึง แนวทางประชาธิปไตยเพื่อสิ่งแวดล้อมในครั้งนี้จะได้คำตอบออกมาเช่นไร 

Yasuní National Park ในเอกวาดอร์ มีพื้นที่มากถึง 9,823 ตารางกิโลเมตร เป็นป่าฝนดิบชื้น ที่อุดมสมบูรณ์ทั้งในด้านแหล่งน้ำ สัตว์ป่า ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นเขตสงวนชีวมณฑลขององค์กรยูเนสโก้ เป็นแหล่งธรรมชาติที่ทรงคุณค่าที่ยังคงเหลืออยู่ไม่มากแล้วในโลก 

แต่ทว่า ใต้พื้นดินในเขตป่าแอมะซอนของเอกวาดอร์ ยังเป็นแหล่งน้ำมันดิบมหาศาลกว่า 1.7 พันล้านบาร์เรล เทียบเท่ากับ 40% ของแหล่งน้ำมันสำรองที่บ่อน้ำมัน Ishpingo-Tiputini-Tambococha แหล่งน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของเอกวาดอร์ 

ย้อนกลับไปราวปี 2007 อดีตประธานาธิบดีเอกวาดอร์ ราฟาเอล กอร์เรอา เคยนำประเด็นแหล่งน้ำมันในอุทยานแห่งชาติ Yasuní มาต่อรองกับประชาคมโลก ว่าเอกวาดอร์จะยอมยุติการขุดเจาะ และสกัดน้ำมันภายในพื้นที่อุทยานป่าแอมะซอนแห่งนี้ แลกกับเงินช่วยเหลือจากประชาคมโลกจำนวน 3.6 พันล้านเหรียญ ซึ่งเทียบเท่ากับรายได้ครึ่งหนึ่งจากบ่อน้ำมันแห่งนี้ คำนวณจากราคาน้ำมันดิบในปีนั้น 

เรื่องราวควรได้ข้อยุติไปแล้ว แต่เมื่อเวลาผ่านไปไม่ถึง 10 ปี ในปี 2016 บริษัทน้ำมันของรัฐบาลเอกวาดอร์ได้เปิดพื้นที่ในเขตอุทยานแห่งชาติ Yasuní ที่เรียกว่าเขต Block 43 เพื่อขุดเจาะน้ำมันใต้ดินขึ้นมาใช้อีกครั้ง และปัจจุบันสามารถผลิตน้ำมันได้ถึง 55,000 บารเรลต่อวัน คิดเป็น 12% ของปริมาณน้ำมันดิบที่ขุดได้ในเอกวาดอร์ 

และได้สร้างมลพิษอย่างมากมายให้กับพื้นที่แห่งนี้ ทั้งคราบน้ำมันปนเปื้อนในแหล่งน้ำ การทำลายป่าเป็นวงกว้างเพื่อขุดเจาะน้ำมัน และการเบียดเบียนทำลายระบบนิเวศทางธรรมชาติในพื้นที่ สร้างความไม่พอใจอย่างมากต่อชนพื้นเมือง นักวิทยาศาสตร์ นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม และประชาชนจำนวนมาก 

แต่ก็มีชาวเอกวาดอร์ไม่น้อยเช่นกันที่สนับสนุนโครงการขุดเจาะน้ำมันในเขตป่าแอมะซอน ที่จะช่วยพยุงเศรษฐกิจในประเทศ นำรายได้จากการส่งออกน้ำมันมาแก้ปัญหาความยากจน และยังช่วยสร้างงาน และรายได้ให้แก่แรงงานชาวเอกวาดอร์จำนวนมาก 

เมื่อประเด็นการขุดน้ำมันในอุทยานแห่งชาติ Yasuní มีการถกเถียงกันมานานกว่า 10 ปี ศาลรัฐธรรมนูญของเอกวาดอร์จึงตัดสินให้รัฐบาลต้องทำประชามติ ถามความเห็นของประชาชนโดยตรง ในวันเดียวกับวันเลือกตั้งใหญ่ของประเทศ ให้ประชาชนได้ใช้สิทธิ์ตัดสินใจเรื่องระดับชาติไปในคราวเดียวกัน

ทำให้การออกมาลงคะแนนเสียงเลือกตั้งของชาวเอกวาดอร์ในครั้งนี้ มีความหมายมากกว่าทุกครั้ง แม้ในด้านหนึ่ง เอกวาดอร์กำลังเผชิญวิกฤติด้านสังคม และ การเมืองอย่างรุนแรง บ้านเมืองถูกครอบงำด้วยแก๊งมาเฟีย และเครือข่ายพ่อค้ายาเสพติด มีการซุ่มลอบสังหารนักการเมืองหลายคนในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง และเศรษฐกิจตกต่ำยาวตั้งแต่ช่วง Covid-19 

แต่สำหรับการลงประชามติในโครงการขุดเจาะน้ำมันที่ Yasuni กลับมีบรรยากาศที่ผิดกัน ชาวเอกวาดอร์มีความกระตือรือร้น และรู้สึกมีความหวังกับการตัดสินใจครั้งนี้มากกว่าการเลือกตั้งทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด เพราะเชื่อว่าการแสดงออกผ่านประชามติครั้งนี้ พวกเขาสามารถเลือกอนาคตของชาติได้อย่างเป็นรูปธรรม สร้างความเปลี่ยนแปลงได้ หรือ รักษาสิ่งที่พวกเขาหวงแหนได้อย่างแท้จริง

ซึ่งก็ต้องมาติดตามว่า ชาวเอกวาดอร์จะเลือกรักษาสภาพแวดล้อมของผืนป่าแอมะซอน และลดการพึ่งพาเศรษฐกิจพลังงาน หรือจะยอมแลกพื้นที่ป่าเพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ปากท้องของประชาชนที่ยังต้องพึ่งรายได้จากการส่งออกน้ำมันเป็นสำคัญ

และยังเป็นการชี้วัดว่า การใช้กระบวนการทางประชาธิปไตยเพื่อสิ่งแวดล้อม จะกลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการแก้ปัญหาความเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของโลกได้หรือไม่ 

เรื่อง: ยีนส์ อรุณรัตน์

‘ดาเนียล โนโบอา’ นักธุรกิจวัย 35 ชนะเลือกตั้ง ปธน.เอกวาดอร์ ท่ามกลางความหวัง ปชช. ช่วยขจัดความรุนแรง-อาชญากรรม

เมื่อวานนี้ (16 ต.ค. 66) สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีเอกวาดอร์ รอบ 2 เมื่อวันที่ 15 ต.ค. 66 ตามเวลาท้องถิ่น โดยผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ที่นับแล้วร้อยละ 90 ชี้ให้เห็นว่า นายดาเนียล โนโบอา นักธุรกิจชื่อดังวัย 35 ปี ชนะการเลือกตั้งอีกครั้ง ซึ่งเป็นการคว้าชัยชนะเหนือ น.ส.ลุยซา กอนซาเลซ คู่แข่งจากพรรคขบวนการปฏิวัติพลเมือง พรรคประชานิยมฝ่ายซ้ายและตัวแทนของอดีตประธานาธิบดีราฟาเอล กอร์เรอา ในการเลือกตั้งรอบแรกเมื่อเดือน ส.ค. 66 ที่
ผ่านมา

และส่งผลให้นายโนโบอา ขึ้นแท่นเตรียมเป็นผู้นำประเทศที่มีอายุน้อยที่สุดเป็นประวัติการณ์ของเอกวาดอร์ โดยประชาชนตั้งความหวังว่าผู้นำคนใหม่จะแก้วิกฤตอาชญากรรมและความรุนแรงในประเทศที่อัตราการฆาตกรรมเพิ่มขึ้นไปกว่า 4 เท่าในช่วง 61-65


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top