Saturday, 11 May 2024
อาวุธ

'รัสเซีย' ออกโรงขู่ ชาติตะวันตก ล็อกเป้าถล่มขบวนอาวุธที่จัดหาให้ยูเครน 

รัสเซียเปิดเผยว่าทหารของพวกเขาอาจล็อกเป้าถล่มเสบียงอาวุธของตะวันตกในยูเครน หลังสหรัฐฯ และอียูยังคงเดินหน้าจัดหาอาวุธแก่เคียฟ สำหรับใช้ต่อกรกับพวกเขา ชี้เป็นความเคลื่อนไหวที่อันตราย

"เราขอเตือนสหรัฐฯ ที่บงการคาดคั้นอาวุธจากหลายประเทศ มันไม่ใช่แค่เป็นความเคลื่อนไหวที่อันตราย แต่มันเป็นความเคลื่อนไหวที่จะเปลี่ยนขบวนขนอาวุธเหล่านี้เป็นเป้าหมายที่ชอบธรรม" เซอร์เก รยาบคอฟ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์แห่งรัฐในวันเสาร์ (12 มี.ค.)

เขาบอกว่ามอสโกขอเตือน "ถึงผลสนองของการขนย้ายอันเลินเล่อไปยังยูเครน ไม่ว่าจะเป็นระบบป้องกันภัยทางอากาศแบบประทับบ่า ระบบขีปนาวุธต่อต้านรถถังและอื่นๆ"

รยาบคอฟกล่าวต่อว่าวอชิงตันไม่ใส่ใจอย่างจริงจังกับคำเตือนของมอสโก พร้อมเผยว่ารัสเซียและสหรัฐฯ ไม่ได้เตรียมจัดการเจรจาใดๆ ในประเด็นยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ส่งทหารรัสเซียเข้าไปยังยูเครนในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ โดยอ้างว่ามีเป้าหมายทำให้ประเทศแห่งนี้ไม่เป็นนาซี

มอสโกถูกนานาชาติกำหนดมาตรการคว่ำบาตรเป็นชุดๆ นับตั้งแต่เปิดฉากรุกราน ในขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี เรียกร้องซ้ำๆ ให้มหาอำนาจตะวันตกส่งมอบความช่วยเหลือทางทหารเพิ่มเติมแก่ประเทศของเขา และเตือนว่าทหารรัสเซียจะไม่หยุดที่พรมแดนยูเครน หากมอสโกสามารถยึดครองประเทศของเขาได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

แม้สหรัฐฯ และนาโต้ปฏิเสธเสียงเรียกร้องของเซเลนสกีซ้ำๆ ในการบังคับใช้เขตห้ามบินเหนือยูเครน แต่พวกเขาได้จัดหาและส่งมอบอาวุธแก่ยูเครนในระดับที่รวดเร็วอย่างมาก ในนั้นรวมถึงยุทโธปกรณ์ที่อ่อนไหวสูงอย่างเช่นขีปนาวุธยิงจากบ่าหรือที่เรียกว่าระบบป้องกันภัยทางอากาศแบบประทับบ่า ซึ่งมีแสนยานุภาพสอยอากาศยานได้

'สหรัฐฯ' ส่อหยุดชะงักส่งอาวุธช่วยเหลือ 'ยูเครน' เหตุ ต้องรอสภาคองเกรสอนุมัติงบก่อน

การส่งอาวุธของสหรัฐฯ ให้ยูเครนอาจถูกตัด อย่างน้อยๆ ก็ชั่วคราว จนกว่าสภาคองเกรสจะอนุมัติงบประมาณใหม่เกือบ 40,000 ล้านดอลลาร์ สำหรับช่วยเหลือยูเครนสกัดการรุกรานของรัสเซีย จากคำเตือนของกระกรวงกลาโหมอเมริกาเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว

"19 พฤษภาคมคือวันนั้น หากปราศจากอำนาจเพิ่มเติม เราจะเริ่มไม่มีศักยภาพส่งมอบอาวุธใหม่ๆ เข้าไป" จอห์น เคอร์บี โฆษกทำเนียบขาวเปิดเผยกับพวกผู้สื่อข่าวเมื่อวันศุกร์ (13 พ.ค.) "ในวันที่ 19 พฤษภาคม มันจะเริ่มส่งผลกระทบต่อความสามารถมอบความช่วยเหลือโดยไม่ติดขัด"

การส่งมอบอาวุธไปยังยูเครนจะไม่หยุดลงในทันทีในวันที่ 20 พฤษภาคม แม้ปราศจากงบประมาณดังกล่าว เพราะว่ายังคงเหลืออาวุธบางส่วนที่จัดซื้อภายใต้อำนาจการใช้จ่ายราว 100 ดอลลาร์สหรัฐในงบประมาณช่วยเหลือยูเครนของเพนตากอนในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม เคอร์บี ยอมรับว่าเพนตากอนอาจต้องหยุดนิ่งเคลื่อนไหวใดๆ ไม่ได้ในระยะเวลาหนึ่ง หากการอนุมัติเห็นชอบแพกเกจช่วยเหลือยูเครนรอบใหม่ล่าช้าเป็นเวลานาน

แพกเกจช่วยเหลือยูเครนรอบใหม่ของวอชิงตัน มูลค่า 39,800 ล้านดอลลาร์ ผ่านความเห็นชอบอย่างท่วมท้นจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ในคืนวันอังคาร (10 พ.ค.) แต่วุฒิสภาสหรัฐฯ ล้มเหลวในความพยายามเร่งรัดให้ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวผ่านความเห็นชอบในวันพฤหัสบดี (12 พ.ค.)

แม้ร่างงบประมาณดังกล่าวผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ แต่มันจำเป็นต้องได้ไฟเขียวอย่างเป็นเอกฉันท์จากสมาชิกวุฒิสภาทั้ง 2 พรรค สำหรับลงมติโดยไม่จำเป็นต้องอภิปรายใดๆ ทว่าความพยายามดังกล่าวถูกยับยั้งด้วย 1 เสียงค้านของ ส.ว.แรนด์ พอล จากเคนทักกี พรรครีพับลิกัน ซึ่งยืนกรานให้มีการแต่งตั้ง “ผู้ตรวจสอบ” เพื่อติดตามการใช้จ่ายเงินก้อนนี้ว่าเป็นไปอย่างเหมาะสมหรือไม่อย่างไร

พอล เรียกร้องให้แก้ข้อความในร่างกฎหมายเพื่อกำหนดให้มีผู้ตรวจสอบพิเศษ (inspector general) คอยกำกับการใช้เงิน และยังตั้งข้อสังเกตว่า เงินที่จะช่วยยูเครนนั้นมากกว่างบประมาณที่สหรัฐฯ ใช้จ่ายกับหลายๆ โครงการในประเทศเสียอีก และยังมากพอๆ กับงบป้องกันประเทศที่รัสเซียจัดสรรตลอดทั้งปี ซึ่งจะทำให้สหรัฐฯ ขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้น และกระพือปัญหาเงินเฟ้อ

“ไม่ว่าเราจะเห็นอกเห็นใจพวกเขาขนาดไหน แต่ผมได้ให้สัตยาบันตอนเข้ารับตำแหน่งว่าจะปกป้องความมั่นคงของสหรัฐอเมริกา” พอล กล่าว “เราไม่สามารถปกป้องยูเครนด้วยการทำลายเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เองได้”

เคอร์บี เน้นย้ำว่า เพนตากอนร้องขอให้มอบงบประมาณใหม่สำหรับช่วยเหลือยูเครน ให้ทันสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนพฤษภาคม "แน่นอน เราเรียกร้องวุฒิสภาดำเนินการอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เราไม่สามารถปล่อยให้ผ่านไปจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม โดยปราศจากอำนาจใช้จ่ายเพิ่มเติมใดๆ"

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ อนุมัติร่างงบประมาณช่วยเหลือยูเครนมากกว่า 40,000 ล้านดอลลาร์ ด้วยคะแนนเสียง 368 ต่อ 57 แต่ด้วยทุกเสียงที่โหวต “ไม่เห็นด้วย” ล้วนมาจากพรรครีพับลิกันนั้น มันบ่งชี้ว่าฝ่ายรีพับลิกันนั้นมีความเห็นแตกแยกกันมากขึ้นเรื่อยๆ ในประเด็นนี้

'บิ๊กตู่' เร่งแก้ปัญหา 'อาวุธปืน-ยาเสพติด' ย้ำ!! เอาจริง สั่งทุกฝ่ายเดินหน้าปราบปรามเข้มข้น

(17 ก.พ. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการกระทรวงมหาดไทย, กระทรวงยุติธรรม, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งดำเนินการหาแนวทางการป้องกัน และการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการครอบครองอาวุธปืนและยาเสพติด ที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตลอดจนการป้องกันเหตุที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ขณะนี้กระทรวงมหาดไทย บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการแก้ไขปัญหาอาวุธปืน และมีมาตรการดำเนินการ ดังนี้...

1.) การอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน เพิ่มเติมเอกสารใบรับรองแพทย์ ปัจจุบัน อยู่ระหว่างการหารือกับกรมสุขภาพจิต และโรงพยาบาลสมเด็จพระยาในเรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการในการตรวจสุขภาพจิตและหาสารเสพติดของผู้ยื่นคำขอใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน รวมทั้งศึกษาแนวทางแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 

เนื่องจากพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ไม่ได้ให้อำนาจนายทะเบียนท้องที่ออกคำสั่งให้ผู้ขออนุญาตดำเนินการตรวจสุขภาพจิตและหาสารเสพติด, ออกหนังสือรับรองจากหน่วยงานต้นสังกัดหรือนายจ้าง โดยกำชับนายทะเบียนท้องที่ให้ตรวจสอบประวัติอาชญากร และการรับรองความประพฤติของผู้ยื่นคำขออนุญาตทุกราย 

ทั้งนี้ การขออนุญาตให้ซื้ออาวุธหรือเครื่องกระสุนส่วนบุคคลให้มีอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนสำหรับการค้าให้มีอาวุธปืน (แบบ ป.3) และการขอใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน ให้มีอาวุธปืนไว้เพื่อเก็บ ให้มีและใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนชั่วคราว (แบบ ป.4) โดยในกรณีที่เป็นข้าราชการจะต้องผ่านการรับรองจากผู้บังคับบัญชา หรือหากเป็นบุคคลทั่วไปจะต้องได้รับการรับรองจากเจ้าพนักงานตำรวจหรือพนักงานฝ่ายปกครอง เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งการออกใบรับรองให้ผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งหากปรากฏภายหลังพบว่ามีพฤติกรรมชวนสงสัยหรือถูกดำเนินคดีอาญา ต้องแจ้งให้ มท. ทราบเพื่อดำเนินการแจ้งนายทะเบียนท้องที่ดำเนินการตามอำนาจต่อไป 

ปัจจุบัน มท. อยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ในประเด็นการกำหนดอายุใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน, ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ยื่นคำขออนุญาต กำชับนายทะเบียนท้องที่ให้ตรวจสอบคุณสมบัติผู้ยื่นคำขออนุญาต ทั้งก่อนและหลังการออกใบอนุญาตและซักซ้อมแนวทางปฏิบัติให้เป็นไปตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง เช่น ซักซ้อมแนวทางปฏิบัติให้ผู้ที่จะยื่นคำขอต่อนายทะเบียน ตามแบบ ป.3 หากเป็นการซื้ออาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนในราชอาณาจักรให้ขออนุมัติผ่อนผันและรายงานให้ มท. ทราบทุกครั้ง 

ทั้งนี้ กรณีสนามยิงปืนจะอนุญาตให้ซื้อกระสุนปืนได้เฉพาะสนามยิงปืน ที่จัดตั้งเป็นสมาคมกีฬาโดยถูกต้องตามพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 และต้องแก้ไขชนิดและขนาดปืนที่ได้รับอนุญาตตามแบบ ป.4 เท่านั้น กรณีมีผู้ยื่นคำขออนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนชนิดหรือขนาดเดียวกันจำนวนมากผิดปกติ ให้เรียกอาวุธปืนและใบอนุญาตมาตรวจสอบเป็นราย ๆ ไป

หากพบว่ามีการแสดงข้อมูลเป็นเท็จโดยใช้ชื่อตนเอง เพื่อซื้ออาวุธปืนให้บุคคลอื่นให้เพิกถอนใบอนุญาตทันที, เพิกถอนใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว มีการกำชับแนวทางการอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวภายในเขตจังหวัด และแจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเพิกถอนใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว (แบบ ป.12) ได้ทันที หากพบว่าเป็นผู้ที่ไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ หรือถูกเพิกถอนแบบ ป.4, และเชื่อมโยงฐานข้อมูล มท. ได้อนุมัติสิทธิให้ ตช. (ส่วนกลาง) สามารถเข้าระบบเพื่อตรวจดูข้อมูลทะเบียนอาวุธปืนได้ และอยู่ระหว่างการหารือด้านเทคนิคการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงาน

2.) การจัดการอาวุธปืนที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือที่มีกฎหมายห้ามออกใบอนุญาต กระทรวงมหาดไทยได้เสนอร่างพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ปัจจุบันอยู่ระหว่างเปิดรับฟังความคิดเห็นในระบบกฎหมายกลาง โดยมีหลักการสำคัญ ได้แก่

(1) หากบุคคลที่มีการครอบครองอาวุธปืนที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายมาขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมายและอยู่ในความควบคุมของรัฐโดยได้รับการยกเว้นโทษ
(2) กรณีอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตได้ ให้ผู้ครอบครองส่งมอบให้อยู่ในการควบคุมของรัฐโดยได้รับการยกเว้นโทษ
และ (3) กำหนดให้มีการจัดเก็บอัตลักษณ์หัวกระสุนและปลอกกระสุนของอาวุธปืนทุกกระบอกโดยให้มีกำหนดโทษทางอาญาสำหรับผู้ฝ่าฝืนไว้ด้วย ทั้งนี้ อัตราการออกใบอนุญาตให้ซื้ออาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนส่วนบุคคล (แบบ ป.3) ระหว่างเดือนกรกฎาคม-15 ธันวาคม 2565 มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง

โชว์แสนยานุภาพ!! ‘ผู้นำคิม’ เปิดคลังแสง อวดโฉมอาวุธ ‘รมว.กห.รัสเซีย’ ยัน!! โสมแดงพร้อมหนุนมอสโก ร่วมต่อสู้เพื่อความยุติธรรม

(27 ก.ค. 66) สำนักข่าวกลางเกาหลีเหนือ (เคซีเอ็นเอ) รายงานว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ พานายเซอร์เกย์ ซอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย ที่อยู่ระหว่างเดินทางเยือนเกาหลีเหนืออย่างเป็นทางการ ชมการแสดงแสนยานุภาพทางการทหารของเกาหลีเหนือ

ซอยกูเยือนเกาหลีเหนือเพื่อร่วมงานฉลองครบรอบ 70 ปีของการสิ้นสุดสงครามเกาหลี ที่เกาหลีเหนือเฉลิมฉลองในชื่อ “วันแห่งชัยชนะ” การเยือนของซอยกูถือเป็นการเยือนเกาหลีเหนือครั้งแรกโดยรัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย นับตั้งแต่การล่มสลายของอดีตสหภาพโซเวียต

ผู้นำคิมนำซอยกูเยี่ยมชมนิทรรศการอาวุธและยุทโธปกรณ์ทางทหารชนิดใหม่ ที่มีการจัดแสดงขีปนาวุธหลายชนิด รวมถึงเครื่องยิงแบบหลายเพลา ทั้งยังมีภาพที่นักวิเคราะห์ระบุว่าดูเหมือนจะเป็นโดรนชนิดใหม่อีกด้วย ทั้งยังบอกด้วยว่า การชมขีปนาวุธของเกาหลีเหนือของซอยกูเป็นเครื่องบ่งชี้ว่า รัสเซียยอมรับโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ

เคซีเอ็นเอรายงานว่า ซอยกูได้มอบจดหมายจากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ให้กับผู้นำคิม ขณะที่คิมได้ขอบคุณปูตินที่ส่งคณะผู้แทนทหารมาเยือนเกาหลีเหนือ ซึ่งถือเป็นการเปิดบ้านต้อนรับคณะผู้แทนต่างประเทศครั้งแรก นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19

“ผู้นำคิมได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับประเด็นที่เป็นข้อห่วงกังวลร่วมกัน ในการต่อสู้เพื่อปกป้องอธิปไตย การพัฒนา และผลประโยชน์ของทั้งสองประเทศ จากการปฎิบัติโดยพลการตามอำเภอใจของพวกจักรวรรดินิยม เพื่อการบรรลุซึ่งความยุติธรรมและสันติภาพระหว่างประเทศ” เคซีเอ็นเอระบุ

เคซีเอ็นเอยังรายงานด้วยว่า ผู้นำคิมได้แสดงความเชื่อของเขาซ้ำว่า กองทัพและประชาชนรัสเซียจะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ในการต่อสู้เพื่อสร้างประเทศที่ทรงพลัง

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า นายคัง ซุน นัม รัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีเหนือ กล่าวว่า เกาหลีเหนือสนับสนุนการต่อสู้เพื่อความยุติธรรมของรัสเซียอย่างเต็มที่ เพื่อปกป้องอธิปไตยของตน

‘ก.ยุติธรรมสหรัฐฯ’ ฟ้อง!! แกนนำพรรคเดโมแครต  รับสินบนลับจาก ‘อียิปต์’ เพื่อปลดล็อกแบนขายอาวุธ

เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 66 สำนักข่าวเอเจนซีส์ / รอยเตอร์ รายงานว่า แกนนำพรรคเดโมแครต ‘สว.บ็อบ เมเนนเดซ’ (Bob Menendez) และภรรยาล็อบบี้ยิสต์ชาวอาร์เมเนียเกิดในกรุงเบรุต ‘นาดีน เมเนนเดซ’ (Nadine Menendez) โดนกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ วันศุกร์ (22 ก.ย.) ฟ้องดำเนินคดีรับสินบนจากหลายแสนดอลลาร์จากรัฐบาลอียิปต์ เพื่อปลดล็อกแบนให้วอชิงตันขายอาวุธให้ไคโร เจ้าตัวปฏิเสธลาออกจาก สว. แต่ยอมลาออกจากตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศประจำสภาสูงสหรัฐฯ ชั่วคราว นอกจากนี้ ยังได้มีการตรวจค้นบ้านพักและพบเงินสดร่วม 500,000 ดอลลาร์แอบซุกซ่อนไว้ รวมไปถึงทองคำแท่งจำนวนมากและรถหรูอีกด้วย

สำนักข่าวเอบีซีนิวส์ของออสเตรเลีย รายงานเมื่อวันเสาร์ (23 ก.ย.) ว่า FBI ค้นบ้านพักของ ‘สว.บ็อบ เมเนนเดซ’ ในรัฐนิวเจอร์ซีที่ถูกตกแต่งพร้อมกับของกลางรถสุดหรู ‘เมอร์เซเดสเบนซ์’ จอดอยู่ในโรงรถ ล้วนแล้วมาจากนักธุรกิจนิวเจอร์ซีย์ 3 คนที่เป็นตัวกลางติดต่อกับรัฐบาลอียิปต์ ได้แก่ วาเอล ฮานา (Wael Hana), โฮเซ่ อูริบ (Jose Uribe) และเฟรด เดบส์ (Fred Daibes)

อ้างอิงจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เมเนนเดซ และภรรยา นาดีน เมเนนเดซ ในวันศุกร์ (22 ก.ย.) ถูกอัยการสหรัฐฯ ประจำเขตแมนแฮตตัน สั่งฟ้องดำเนินคดีข้อหารับสินบนจำนวนหลายแสนดอลลาร์ เพื่อแลกเปลี่ยนกับอำนาจและอิทธิพลในฐานะวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ ของเขา เพื่อปกป้องและสนับสนุนเพื่อนนักธุรกิจของตัวเองและผลประโยชน์ของรัฐบาลอียิปต์

สำนักข่าวรอยเตอร์ชี้ว่า ‘บ็อบ เมเนนเดซ’ เป็นที่รู้จักในแวดวงการเมืองสหรัฐฯ เขานั่งในตำแหน่งสำคัญประธานคณะกรรมาธิการด้านกิจการต่างประเทศสหรัฐฯ ประจำสภาสูงสหรัฐฯ ซึ่งเมเนนเดซยอมลาออกจากตำแหน่งชั่วคราวหลังเขาและภรรยาและก๊วนเพื่อนนักธุรกิจทั้งหมดโดนรัฐบาลสหรัฐฯ ดำเนินคดีทางกฎหมาย

เมเนนเดซเป็นคนใกล้ชิดของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ‘โจ ไบเดน’ จากการที่ผู้นำสหรัฐฯ ต้องการทำให้อเมริกายังคงความเป็นเจ้าอิทธิพลในเวทีโลก และในช่วงเวลาที่ไบเดนต้องการผ่าทางตันให้แพกเกจความช่วยเหลือยูเครนผ่านสภาคองเกรสหรัฐฯ ในเวลาเดียวกันกับที่ต้องต่อต้านการผงาดขึ้นมาของ ‘จีน’

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า การสอบสวนล่าสุดนี้ถือเป็นครั้งที่ 3 ที่เมเนนเดซโดนรัฐบาลกลางสหรัฐฯ สอบ แต่ทว่าเขาไม่เคยถูกดำเนินคดีมาก่อน

อ้างอิงจากสำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษ พบว่า อัยการแมนแฮตตันกล่าวหา สว.เมเนเดซ และภรรยาจำนวน 3 กระทง ได้แก่ สมคบคิดในการรับสินบน สมคบคิดต่อไม่ซื่อตรงต่อหน้าที่ (honest services fraud) และสมคบคิดในการกรรโชก

ทั้งคู่โดนกล่าวหาว่า รับเงินสินบน เพื่อช่วยเหลือรัฐบาลอียิปต์อย่างลับๆ แต่ทว่าคนทั้งคู่ปฏิเสธอย่างหนักต่อข้อหาทั้งหมด

สำนักข่าวเอบีซีนิวส์ของออสเตรเลีย รายงานว่า เจ้าหน้าที่ FBI บุกค้นบ้านพักของ สว.สหรัฐฯ ในเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว และสามารถค้นพบเงินสดจำนวนไม่ต่ำกว่า 480,000 ดอลลาร์อยู่ในซองและซ่อนอยู่ในตู้เสื้อผ้าและภายในตู้เซฟที่บ้านพัก และเงินสดอีกก้อนจำนวน 70,000 ดอลลาร์อยู่ภายในตู้เซฟนิรภัยธนาคารของภรรยา นาดีน

โดยซองเงินสดบางส่วนพบอยู่ในเสื้อแจ็กเกตที่มีชื่อของ สว.อยู่ซึ่งถูกแขวนไว้ที่ตู้เสื้อผ้า ขณะที่ซองเงินสดอื่นๆ พบลายนิ้วมือหรือดีเอ็นเอของเพื่อนนักธุรกิจนิวเจอร์ซีย์ เฟรด เดบส์ ปรากฏ

สื่อออสเตรเลียเปิดเผยว่า มีการค้นพบทองคำแท่งจำนวนมากที่มีมูลค่ามากกว่า 100,000 ดอลลาร์ อยู่ภายในบ้านของเมเนนเดซ

สำนักข่าวบิสซิเนสอินไซเดอร์ ชี้ว่า เป็นที่ฮือฮาที่เมเนนเดซ ซึ่งเป็นแกนนำคนสำคัญพรรคเดโมแครต ใช้กูเกิลเพื่อค้นหาว่าทองคำหนัก 1 กิโลกรัมนั้นมีมูลค่ามากเพียงใด

ตามคำฟ้องระบุว่า อดีตประธานคณะกรรมาธิการต่างประเทศสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 21 ต.ค.ปี 2021 ได้ทำการค้นหามูลค่าของทองคำหนัก 1 กิโลกรัม

และหลังจากคำฟ้องเปิดเผยในวันศุกร์ (22 ก.ย.) พบว่าการเสิร์ชค้นหา ‘ทองคำหนัก 1 กิโลกรัม’ กลายเป็นกระแสฮิตในสหรัฐฯ ในทันที ทั้งนี้ พบว่า เขาเริ่มต้นค้นหาเกี่ยวกับมูลค่าของทองคำหลังจากนาดีน ภรรยาเดินทางกลับจากอียิปต์

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในหลายโอกาสระหว่างปี 2018-2022 เมเนนเดซได้ยืนยันไปยังเจ้าหน้าที่อียิปต์ว่า เขาซึ่งดำรงตำแหน่งในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศประจำวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ จะอนุมัติยกเลิกการห้ามขายอาวุธยุทโธปกรณ์ให้อียิปต์ และนาดีน ภรรยาของ สว.ได้รับคำสัญญาที่จะได้รับเงินเป็นค่าตอบแทน

นาดีนที่เป็นศูนย์กลางคดีคอร์รัปชันนี้ เธอมีบทบาทในการล็อบบี้ช่วยอียิปต์นั้นมีความน่าสนใจมาก

อ้างอิงจากสื่อนิวเจอร์ซีย์ nj.com ระบุว่า นาดีน เบนเนเดซ หรือ ‘นาดีน อาร์สลาเนียน’ (Nadine Arslanian) เป็นชาวอาร์มาเนีย เกิดในเบรุต เลบานอน ครอบครัวหนีภัยสงครามกลางเมืองเบรุตไปที่กรีซ และต่อมาย้ายไปที่กรุงลอนดอน อังกฤษ ก่อนเดินทางเข้ามาสหรัฐฯ ในที่สุด

สื่อ nj.com รายงานต่อว่า นาดีนนั้นสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยนิวยอร์กระดับปริญญาตรี และเรียกตัวว่าเป็น ‘นักธุรกิจหญิง’ เธอได้พบกับเมเนนเดซที่ร้านอาหาร IHOP เมื่อธันวาคม ปี 2018 และคนทั้งคู่สมรสระหว่างโควิด-19 เกิดระบาดในวันที่ 3 ต.ค. 2020 ทั้งสองฝ่ายต่างเคยผ่านการสมรสมาแล้วก่อนหน้า

เอบีซีนิวส์รายงานว่า นาดีน และวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ เริ่มต้นคบหาเมื่อปี 2018 โดยนักธุรกิจนิวเจอร์ซีย์ ‘วาเอล ฮานา’ ที่เป็นตัวกลางติดต่อเจ้าหน้าที่กองทัพอียิปต์นั้นเป็นเพื่อนของนาดีน

ตามคำฟ้องระบุว่า ในการพูดคุยนั้นรวมไปถึงประเด็นเงินช่วยเหลือกิจการต่างประเทศทางการทหารให้อียิปต์

ขณะที่เมนเนเดซ ปัจจุบันวัย 69 ปี ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศประจำสภาสูงสหรัฐฯ และเขาถูกเลือกให้ดำรงตำแหน่งเป็นสมัยที่ 3 ในสภาสูงสหรัฐฯ เมื่อปี 2018 ซึ่งเป็นปีที่เขาเริ่มต้นคบหานาดีนภรรยา

และพบว่า ช่วงที่ระหว่างกำลังคบหาภรรยานักล็อบบี้ยิสต์ พบว่า สว.เมเนนเดซได้เคยสอบถามไปยังกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ สำหรับข้อมูลที่ไม่ใช่เป็นข้อมูลลับ แต่ถือเป็นข้อมูลอ่อนไหวสูงเนื่องมาจากเหตุผลด้านความมั่นคง

สื่อออสเตรเลียกล่าวว่า เมเนนเดซต้องการทราบถึงจำนวนและสัญชาติของเจ้าหน้าที่ ที่ประจำอยู่ในสถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงไคโร

และในเดือนเดียวกันนั้นหลังจากอาหารค่ำมื้อหรูที่ภัตตาคารชื่อดังระดับบนที่เมเนนเดซร่วมกับเพื่อนนักธุรกิจนิวเจอร์ซีย์ ฮานา พบว่านักธุรกิจได้แอบลอบส่งข้อความไปยังเจ้าหน้าที่อียิปต์อีกคนเป็น ‘ความลับที่ไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ’

ซึ่งในครั้งนี้เอบีซีนิวส์กล่าวว่า มันเป็นข้อความเกี่ยวข้องกับการยกเลิกการแบนห้ามส่งอาวุธเบาและกระสุนไปให้อียิปต์

“นี่หมายความว่าการขายสามารถเริ่มต้นได้ ที่จะรวมถึงปืนไรเฟิลรวมไปถึงสิ่งอื่นๆ” หนึ่งในข้อความที่ถูกส่งไป

‘เยอรมนี’ แจงปม ‘ยูเครน’ ปฏิเสธรับรถถังรุ่นเก่าล้าสมัยที่ส่งไปให้ เหตุเพราะขาดช่างซ่อมชำนาญ เนื่องจากประเทศไม่มีสงครามมานาน

(27 ก.ย. 66) สำนักข่าวอาร์ทีนิวส์/ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า อาวุธบางส่วนที่เบอร์ลินมอบให้แก่เคียฟ ส่วนหนึ่งในการมอบความช่วยเหลือยูเครนสู้รบกับรัสเซีย อยู่ในสภาพที่แย่ๆ หรือไม่ก็เก่าเก็บล้าสมัย จากการยอมรับของ ‘อันนาเลนา แบร์บ็อค’ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนี

ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ (25 ก.ย.) แบร์บ็อค ยอมรับว่าอาวุธที่ส่งมอบแก่ยูเครนนั้นมีประเด็นปัญหาทางเทคนิคสำคัญๆ และบอกด้วยว่าความพยายามจัดหาอาวุธป้อนแก่เคียฟนั้นยังประสบปัญหาล่าช้าต่างๆ อีกต่างหาก

แบร์บ็อค ยอมรับว่ายูเครนจะไม่ได้รับประโยชน์จากคำสัญญาจัดหาอาวุธ เนื่องจากยังคงดำเนินการไม่ลุล่วง หรือไม่ก็ยุทโธปกรณ์ทางทหารที่ส่งมอบไปนั้นไม่สามารถใช้งานได้ “ระบบของเราบางส่วนเป็นรุ่นที่เก่ามากๆ และเราเคยบอกตั้งแต่ตอนแรกว่าบางส่วนใช้งานไม่ได้” เธอกล่าว พร้อมอธิบายว่าประเด็นปัญหาดังกล่าวมาจากข้อเท็จจริงที่ว่า เยอรมนีไม่ได้สู้รบในสงครามหลักๆ หนึ่งใดมานานหลายทศวรรษแล้ว

“ครั้งที่เราส่งมอบบางอย่าง มันจำเป็นต้องใช้งานได้ในภาคสนาม” เธอเน้นย้ำ พร้อมระบุว่านี่คือเหตุผลว่าทำไมเยอรมนีถึงไม่มอบขีปนาวุธพิสัยไกล Taurus แก่ยูเครน อาวุธที่เธอให้คำจำกัดความว่าล้ำสมัยอย่างที่สุด “มันคืออาวุธใหม่ที่สุดที่เรามี ดังนั้น เราจำเป็นต้องชัดเจนทุกรายละเอียด วิธีการทำงานของมัน ใครที่สามารถใช้งานมันได้ ใช่ มันต้องใช้เวลาสักพัก แต่ครั้งที่เราส่งมอบมัน มันจำเป็นต้องทำงานอย่างได้ผล” เธอกล่าว พร้อมบอกว่าจะใช้การพิจารณาแบบเดียวกันกับอาวุธอื่นๆ ที่ผลิตโดยเยอรมนี

ยูเครนร้องขอขีปนาวุธ Taurus นานหลายเดือนแล้ว ในขณะที่มันมีพิสัยทำการ 500 กิโลเมตรและบรรทุกหัวรบหนัก 500 กิโลกรัม อย่างไรก็ตาม แม้สื่อมวลชนรายงานว่า เยอรมนีกำลังวางรอบการทำงานสำหรับการส่งมอบ แต่แบร์บ็อคแสดงความคิดเห็นอย่างระมัดระวังเมื่อช่วงกลางเดือน ว่า การส่งมอบคงจะยังไม่เกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ เพราะว่า “จำเป็นต้องทำงานในทุกรายละเอียดก่อนหน้านั้นเสียก่อน”

เยอรมนีลังเลที่จะจัดหาขีปนาวุธแก่ยูเครน เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ลุกลามบานปลาย หากว่าเคียฟใช้มันโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หนังสือพิมพ์ Der Spiege รายงานอ้างแหล่งข่าววงในระบุว่า ยูเครน ปฏิเสธที่จะรับรถถังรุ่นเก่าล้าสมัย เลพเพิร์ด 1 จำนวน 10 คัน เนื่องจากพวกมันอยู่ในสภาพขาดการบำรุงรักษา ในรายงานข่าวบอกด้วยว่า พวกเจ้าหน้าที่ยูเครนแจ้งกับฝ่ายเยอรมนี ว่ารถถังเหล่านั้น ซึ่งเดินทางถึงโปแลนด์แล้ว จำเป็นต้องผ่านการซ่อมบำรุงเสียก่อน แล้วถึงจะสามารถส่งเข้าประจำการในแนวหน้า ทว่าพวกเขาไม่มีทั้งบุคลากรซ่อมบำรุงและอะไหล่ที่จะทำเช่นนั้น

รัสเซียกล่าวเตือนตะวันตกซ้ำแล้วซ้ำเล่าต่อการจัดหาอาวุธป้อนแก่ยูเครน โดยชี้ว่ามันรังแต่จะทำให้ความขัดแย้งลากยาว โดยไม่เปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ในท้ายที่สุดใดๆ

‘บิ๊กก้อง’ นำทัพบุกค้น 114 เป้าหมาย ทลายปืนเถื่อนทั่วประเทศ หลังพบซื้อ-ขายเกลื่อนออนไลน์ เร่งสกัดจับ ป้องกันเหตุสลดซ้ำ

(9 ต.ค. 66) ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. นำกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ รวมทั้งชุดปฏิบัติการพิเศษ ‘หนุมานกองปราบ’ กว่า 800 นาย ปล่อยแถวระดมเพื่อกวาดล้างอาชญากรรม

โดยเป้าหมายมุ่งเน้นไปที่การจับกุมผู้จำหน่าย และผู้ลักลอบใช้หรือพกพาอาวุธปืนเถื่อน และอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ รวมทั้ง แบลงค์กัน หรืออาวุธปืนดัดแปลง ซึ่งปฏิบัติการมีขึ้นใน 47 จังหวัด รวม 114 เป้าหมายทั่วประเทศ

พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ตำรวจสอบสวนกลางทุกกองบังคับการในสังกัด จัดกำลังชุดปฏิบัติการออกระดมกวาดล้างหาเป้าหมายแหล่งอาชญากรรม มุ่งเป้าไปที่การจับกุมผู้จำหน่ายอาวุธปืนเถื่อน และผู้ที่พกพาอาวุธปืนผิดกฎหมาย หลังจากที่ผ่านมามีการลักลอบใช้อาวุธปืนเถื่อน อาวุธปืนติดมือ หรือแม้กระทั่งปืนถูกกฎหมายไปก่อเหตุร้ายในหลายพื้นที่

พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวต่อว่า ล่าสุดเกิดคดีเด็กวัย 14 ปี ก็นำอาวุธปืนแบลงค์กันไปก่อเหตุกราดยิงในศูนย์การค้า จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ซึ่งพบว่าอาวุธปืนเถื่อนส่วนมาก มีการซื้อขายกันผ่านระบบออนไลน์ จึงต้องเร่งกวาดล้างจับกุมอาวุธปืนอย่างเร่งด่วน ส่วนผลการตรวจค้นจะมีการสรุปผล และแจ้งให้ทราบต่อไป

3 เหตุผลขอใบอนุญาตครอบครองอาวุธปืน เพื่อ ‘ปกป้องชีวิตทรัพย์สิน-ล่าสัตว์-การกีฬา’

การใช้ปืนยิงทำร้ายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต มีโทษตามกฎหมายสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต แต่เมื่อผู้ก่อเหตุเป็นเพียงเด็ก เหตุใดผู้ก่อเหตุจึงสามารถมีอาวุธร้ายแรงไว้ในครอบครองได้

สถิติการครอบครองปืนในประเทศไทยมีมากถึง 10.3 ล้านกระบอก มากเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน ซึ่งสิงค์โปร์เป็นประเทศในอาเซียนที่ประชาชนมีปืนในครอบครองน้อยที่สุดเพียง 20,000 กระบอก

ในประเทศไทยหากต้องการมีปืนสักกระบอก ต้องทำอย่างไรบ้าง และจะมีปืนไว้เพื่อประโยชน์อะไร

พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุมการครอบครองปืนของประชาชน ทำให้รัฐสามารถควบคุม เก็บข้อมูลและและเป็นการจำกัดจำนวนของปืนที่มีอยู่ในประเทศไทย

หากประชาชนทั่วไปจะมีปืนสักกระบอกต้องเป็นไปเพื่อ 
1.ป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน 
2.ใช้ล่าสัตว์ 
3.เพื่อการกีฬา

ใบอนุญาตเกี่ยวกับอาวุธปืนที่สำคัญได้แก่ 
-การขออนุญาตซื้อขายปืน (แบบ ป.3)

-การอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน (แบบ ป.4) มีสองประเภทคือชั่วคราว 6 เดือน และแบบถาวร

-ใบพกพา ทั่วราชอาณาจักร หรือในเขตจังหวัด (แบบ ป.12)

การพกพาอาวุธปืนไปในทางหรือที่สาธารณโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้จะเป็นปืนที่มีทะเบียนก็เป็นความผิด เว้นแต่มีเหตุจำเป็น เช่น การใช้ป้องกันทรัพย์สิน หรือการนำปืนไปใช้ในการแข่งขันกีฬา

ยกเว้นอาวุธสงคราม ที่จะไม่มีการอนุญาตให้ประชาชนทั่วไปสามารถครอบครองได้

ปืน BB GUN หรือปืน แบลงค์ กัน ถือเป็นสิ่งเทียมอาวุธปืน หมายถึง สิ่งซึ่งมีรูปและลักษณะอันน่าจะทำให้หลงชื่อว่าเป็นอาวุธปืน การจะมีไว้ครอบครองไม่ต้องขออนุญาตเหมือนปืนจริง

ถึงเวลาแล้วที่การให้มีใบอนุญาตครอบครองอาวุธ ควรจะปรับปรุงให้ดีขึ้น เช่น การกำหนดระยะเวลาใบอนุญาต การประเมินสภาพจิตก่อนออกใบอนุญาต เพื่อให้การควบคุมจำนวนปืน เป็นประโยชน์ในการป้องกันเหตุร้ายที่จะเกิดขึ้นกับสุจริตชน

สำรวจแสนยานุภาพทางทะเลของจีน ปี 2024 คืนชีพ ‘Liaoning’ - เครื่องบินขับไล่ พร้อมปฏิบัติการ

เรือบรรทุกเครื่องบิน Liaoning

‘Liaoning’ เรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกของจีน ได้เริ่มดำเนินการทดสอบทางทะเล หลังจากใช้เวลาปรับปรุงซ่อมแซมใหม่มา 1 ปีเต็ม บรรดาผู้สังเกตการณ์ทางทหารกล่าวว่า การปรับปรุงซ่อมแซมที่ยืดเยื้อนี้ น่าจะทำให้เครื่องบินขับไล่ล่องหนรุ่นใหม่ของจีนสามารถปฏิบัติการจากเรือบรรทุกเครื่องบินลำนี้ได้

ขณะเดียวกัน มหาอำนาจตะวันตกกำลังติดตามการพัฒนาทางทหารของจีนอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมองว่า จีนเป็นภัยคุกคามต่อพลังอำนาจทางทหารของสหรัฐฯ มากที่สุด แท้จริงแล้ว มีปัจจัยหลายประการที่ส่งผลต่อศักยภาพของจีน เช่น คลังอาวุธนิวเคลียร์ ประชากรที่มากที่สุดในโลก เศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก (ด้วยศักยภาพล่าสุดที่กำลังจะกลายเป็นประเทศที่เศรษฐกิจมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก) เครือข่ายที่กำลังเติบโตผ่านโครงการ Belt & Road Initiative ของเศรษฐกิจโลกที่เชื่อมโยงถึงกัน และเทคโนโลยีเครื่องบินรบยุคที่ 5 (Gen 5 Fighter)

เครื่องบินขับไล่ล่องหนแบบ J-20

จีนซึ่งมีเครื่องบินขับไล่ล่องหนแบบ J-20 มากกว่า 200 ลำ เป็นหนึ่งในสองประเทศที่มีเครื่องบินขับไล่รุ่นที่ 5 ในปริมาณที่มีผลต่อพลังอำนาจทางการทหาร (อีกประเทศหนึ่งคือสหรัฐอเมริกาซึ่งส่งเครื่องบินขับไล่ F-22 และ F- 35) แม้ว่า J-20 จะเป็นจุดเด่นของฝูงบินยุคที่ 5 ของจีน แต่จีนก็กำลังทำงานอย่างแข็งขันเพื่อพัฒนาเครื่องบินขับไล่ล่องหนแบบ FC-31 ซึ่งมีรุ่นที่สามารถปฏิบัติการจากเรือบรรทุกเครื่องบินได้ที่เรียกว่า เครื่องบินขับไล่ล่องหนแบบ J-35

เรือบรรทุกเครื่องบิน Liaoning และเครื่องบินขับไล่ล่องหนแบบ J-35 (ภาพมุมบนซ้าย)

ผู้เชี่ยวชาญของจีนวิเคราะห์เกี่ยวกับการที่มีรายงานว่า สหรัฐฯ ได้ส่งเรือบรรทุกเครื่องบินไปยังหน้าประตูบ้านของจีนมากขึ้น จนทำให้กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA) ต้องมีเรือบรรทุกเครื่องบินที่มีขีดความสามารถมากขึ้นนั้น เพื่อสร้างสมดุลแห่งอำนาจเชิงยุทธศาสตร์ของจีนในการปกป้องอธิปไตยของชาติ ความมั่นคง และผลประโยชน์ด้านการพัฒนา ตลอดจนการปกป้องสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาค

เครื่องบินขับไล่หลากภารกิจแบบ J-15

ดังนั้น จึงได้มีการเปิดตัวเครื่องบินขับไล่ล่องหนรุ่นที่ 5 คือ J-35 บนหมู่เรือบรรทุกเครื่องบินของจีน โดยเฉพาะบนเรือบรรทุกเครื่องบิน Liaoning จะแสดงนัยสำคัญถึงขีดความสามารถการต่อสู้ที่ครอบคลุม เนื่องจากเครื่องบินขับไล่ล่องหนแบบ J-35 เป็นเครื่องบินขับไล่ขนาดกลาง โดยจะมีหน้าที่รับผิดชอบในการครองความเหนือกว่าทางอากาศและเจาะแนวป้องกันศัตรู ในขณะที่เครื่องบินขับไล่หลากภารกิจแบบ J-15 จะยังคงเป็นกำลังสำคัญในการใช้ประโยชน์จากขีดความสามารถในการบรรทุกอาวุธจำนวนมาก สำหรับการต่อต้านเรือและการโจมตี 

ทั้งนี้ การรวมกันของเครื่องบินขับไล่ล่องหน J-35 และเครื่องบินขับไล่หลากภารกิจแบบ J-15 จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของเรือบรรทุกเครื่องบินของจีนได้เป็นอย่างมาก


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top