Sunday, 19 May 2024
หญิงรฐา

‘แม่น้อย’ โวย!! ถูกลูกสาว ‘หญิง รฐา’ สั่งหยุดขายส้มตำ ด้านแม่สวนกลับ ยื่นคำขาด!! “จะให้เลิกตำ ต้องมีหลานให้ฉัน”

(15 ก.ค. 66) ถูกสั่งห้ามขายส้มตำซะแล้ว สำหรับ ‘แม่น้อย โพธิ์งาม’ ที่ปัจจุบันเปิดร้านขายส้มตำอยู่แถวบางนา ก.ม.14 (ขาออก) แต่ด้วยความเป็นห่วงของลูกสาว อยากให้แม่ได้พักผ่อน ไม่ต้องทำงานให้เหนื่อยให้ลำบากแล้ว

ล่าสุด แม่น้อย เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับ หญิง รฐา ที่ร่วมกับเพื่อนๆ จัดงานเปิดตัว The Grand Opening of Our New ‘ACTLAB THE MASTERS’ เปิดสถาบัน แอ็ค แล็บ ห้าห้า เดอะ มาสเตอร์ สถาบันสอนการแสดง สาขาบางนา ที่ ลานอีเวนต์ ชั้น 1 ATT U Park Bangna

จากนั้น แม่น้อย ได้เปิดใจกับสื่อมวลชนถึงเรื่องร้านส้มตำที่ลูกสาวไม่อยากให้ไปทำแล้ว โดยเจ้าตัว เผยว่า…

“อยากให้ช่วยหน่อยว่าอย่าให้เขามาห้ามแม่มากนัก เพราะแฟนๆ ส้มตำของฉันเขาก็บอก ว่าบอกลูกด้วยว่าถ้าแม่น้อยหยุดฉันไม่มีที่กิน”

ใครห้ามแม่พูดไป?
แม่น้อย : “ญาญ่า ญิ๋ง นี่แหละค่ะ แล้วลูกเขยฉันเป็นคนเสริม แม่ครับจะทำอะไรแม่ทำตามใจที่แม่ชอบเลย (อีกคนยุอีกคนห้าม?) แล้วฉันจะไม่รักลูกเขยฉันได้ยังไง แกคิดดูสิ”

แล้วทำไมลูกมาทำอย่างนี้กับแม่ได้?
แม่น้อย : “ฉันบอกหญิงฟังฉันนะ ฉันไม่ได้ทำฟรี ฉันได้ตังค์ด้วยนะ (ฉันหาเงิน?) เออ พูดถูก ไอ้นี่พูดดี (หัวเราะ) เล่นตลกมาเลี้ยงมันก็เงินจากประชาชนนี่แหละ และแฟนๆ สมัยนั้นยังไม่มีโซเชียล เขาก็รักเรามาตลอด นี่ก็โตมาได้ก็เงินของประชาชน แล้วตอนนี้ฉันนะไม่ได้เล่นตลก ฉันเอาส้มตำมาแทน ก็เงินของแฟนๆ ฉันทั้งนั้น (แล้วจะมาห้ามฉันทำไม?) ใช่ (หัวเราะ)”

แล้วไม่เคยเล่นติ๊กต็อกใช่มั้ย?
แม่น้อย : “หลานสาวเอามา คอมเมนต์เพียบเลยบอกว่าให้กำลังใจแม่น้อยนะ เพราะฉะนั้นตอนนี้ น้อย โพธิ์งาม ขอสรุป ถ้านางจะให้ฉันเลิกตำส้มตำ นางต้องมีหลานให้ฉัน (หัวเราะ) แล้วฉันจะวางสากวางครก”

ประกาศตรงนี้เลยนะ?
แม่น้อย : “ใช่ เพราะอยู่บ้านมันจะเหงา ขอโทษลูกๆ ทุกคนนะคะ อย่าห้ามพ่ออย่าห้ามแม่ ให้แกได้ทำอะไรให้ซ้อมได้ปั่น ได้คิดเงิน ได้ตำบ้าง ให้ฉันได้ตอแหลกับแฟนๆ บ้าง จะมาห้ามอะไรฉัน เพราะฉะนั้นคำชมต่างๆ ที่ให้แม่น้อยมาก็ขอขอบคุณตรงนี้ด้วยนะคะ”

ยื่นคำขาดไปนานหรือยัง ว่าต้องมีหลานนะ?
แม่น้อย : “ก็นี่แหละ เต็มๆ ก็วันนี้ (ครั้งแรกในโลก?) ใช่ ครั้งแรกในโลก (แล้วถ้ามีหลานจริงๆ แฟนๆ ส้มตำล่ะ?) ห๊ะ ฉันก็จะรักหลานมากกว่าก็ได้ (หัวเราะ)”

ถ้าหญิงบอกว่า แม่ไม่ต้องทำงานให้ เขาให้เงินเดือนละ 1 ล้าน?
แม่น้อย : “ไม่ต้องล้าน แค่แสน แม่ก็ไม่ทำอะไรแล้ว แต่ที่ฉันทำนี่อย่างน้อยๆ นะ เอาจริงๆ หนี้สินนะหมดแล้ว แต่ดันไปสร้างร้านขึ้นมาก็มีขาดทุนบ้าง โควิดบ้าง เขาก็บอกอะไรของแม่เนี่ย แล้วฉันขอถามหน่อย ถ้าไม่ให้ฉันทำ ฉันนั่งเป็นง่อยอยู่บ้านแกพอใจไหม ลูกๆ ทุกคนที่ห้ามพ่อแม่ไม่ให้ทำอะไร เธอน่ะเป็นตัวฆ่าพ่อฆ่าแม่ ไม่ได้นะคนแก่สมัยนี้ต้องทันเด็กรุ่นใหม่”

คำนี้พูดกับ หญิง ใช่ไหม?
แม่น้อย : “พูดกับทุกคนนี่แหละ (หัวเราะ) (นี่คือความในใจใช่ไหม?) ใช่ ฉันไม่ได้เจอกับนักข่าวมานานมาก แต่ก่อนหญิงเขาพาฉันไปทำงานด้วย ฉันจะไปด้วยทำไม ฉันตำส้มตำ ฉันได้ตอแหลกับชาวบ้านฉันสนุกกว่า ไปกับเขานะ เขาพูดแต่ภาษาอังกฤษกัน ฉันไม่รู้เรื่องกับเขา ฉันก็ไม่รู้เรื่อง (หัวเราะ)”

ตอนนี้ขายยังไงบ้าง?
แม่น้อย : “มีออกบูธนะ ตามกระทรวงต่างๆ โรงพยาบาลต่างๆ เรียกไปหมดแล้ว (หญิงก็ห่วงแม่จะไม่สบาย?) ฉันเดือดร้อนมันหรือเปล่า เปล่าเลย ประกันเป็นคนจ่าย (หัวเราะ)”

ตอนไฟดูด ตอนมีดบาดทำยังไง?
แม่น้อย : “อันนั้นตกใจ หงายเงิบเลย ฉันเก่งนะ ฉันขับรถออกไปเอง มือหนึ่งกำมือหนึ่งขับรถเองด้วย (เก่งขนาดนี้ไม่ต้องมีลูกก็ได้?) (หัวเราะ) เธอนะถูกใจฉันจริงๆ ขอขายของหน่อย ร้านฉันอยู่แถวนี้เอง บางนา ก.ม.14 ก่อนถึงธนาซิตี้ค่ะ”

‘แม่น้อย’ ขอโทษลูกสาว ทำร้านส้มตำขาดทุน 2 ล้าน ด้าน ‘หญิง รฐา’ เข้าใจ ขอแค่แม่ให้มีความสุขก็พอ

‘หญิง รฐา’ ควงสามี ‘ตุลย์ ตุลยเทพ’ พร้อมคุณแม่สุดที่รัก ‘น้อย โพธิ์งาม’ มาเปิดชีวิตครอบครัวที่ไม่เคยพูดที่ไหนมาก่อน ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องวัน 31 ที่มี ‘พีเค ปิยะวัฒน์’ และ ‘บูม สุภาพร’ เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

>>ออกรายการพร้อมกัน 3 คนครั้งแรก?
หญิง : ใช่ไม่เคยออกรายการมีพี่ตุลย์ แม่ หญิง เลย

>>แต่งมา 2 ปี เรือนหอเสร็จแล้ว?
หญิง : ยังไม่ 100%
ตุลย์ : ยังไม่ได้ตกแต่ง

>>สาเหตุที่ไม่ย้ายไปอยู่เรือนหอ เพราะยังไม่เสร็จหรือติดแม่?
หญิง : รวมๆ แต่ก่อนบ้านพี่ตุลย์จะอยู่กับคุณพ่อ พี่สาว พอคุณพ่อเสีย พี่สาวอยู่บ้านคนเดียว เราไม่อยากให้พี่สาวอยู่บ้านคนเดียว เลยให้พี่ตุลย์กลับไปอยู่บ้านตัวเองด้วย ส่วนคุณแม่ เราอยู่ติดบ้าน เป็นคนชอบอยู่บ้านตัวเอง ก็เลยเป็นลักษณะ 3 วันอยู่บ้านพี่ตุลย์ อีก 4 วันมาอยู่บ้าน แต่ก็มีซื้อคอนโดเอาไว้ แต่ยังไม่ได้ตกแต่ง

>>ลูกสาวติดคุณแม่ ได้ยินแบบนี้อิ่มเอิบไหม?
แม่น้อย : ไม่ต้องได้ยินหรอก การกระทำมันห่างแม่ไม่ได้ ยังบอกเธอมีสามีแล้วนะ เธอยังให้ฉันเกาหลังอยู่ เขาเกาไม่เหมือนแม่เกา เอ้า...จะมีผัวทำไม มันก็มาอ้อนเรื่อยๆ

>>ตกลงลูกสาวติดแม่ หรือแม่ติดลูกสาว?
แม่น้อย : ก็ทั้งคู่ เหมือนกันเลย แม่ก็ไม่มีใคร มีหญิงคนเดียว แล้วมามีลูกชายนี่แหละ จะไม่ให้รักมากได้ยังไง
หญิง : มีหญิงคนเดียว หญิงไม่ใช่ลูกนะ แล้วมีลูกชาย

>>เห็นว่าคนรักลูกชายคนนี้ แม่เคยหนีพี่ตุลย์มาก่อน?
แม่น้อย : ไม่ใช่หนีพี่ตุลย์ คือมันมีเรื่องที่รู้ ๆ กันอยู่ คือเราจะรู้ไหมว่าลูกเราไปคบกับใคร ก็มันไม่เคยมีเหตุการณ์อย่างนี้ เราก็เลยงอนลูก ขับรถหนีลูกไปเลย รู้ว่าพี่ตุลย์จะมาขับรถหนีลูกไปเลย ไม่รู้ฉันยังไม่พอใจ เพราะข่าวออกมาอย่างนั้น แล้วลูกเรา เราก็คิดมาก พอตุลย์มาพูดเท่านั้นสยบทุกอย่างเลย

>>แม่น้อยหวงลูกสาว ตอนนั้นรู้อยู่แล้วไหม?
ตุลย์ : รู้ครับ แต่ไม่ได้กังวลอะไรมาก ถ้าเรามีความตั้งใจดี การกระทำดี ไม่ใช่สิ่งที่ต้องกังวลอะไร เราไม่ได้เข้ามาเพื่อมาหลอกลูกสาวเขา คุยกับหญิงเหมือนกันว่าจะทำยังไงให้พิชิตใจคุณแม่ได้ แค่เราเป็นตัวของเราเอง แล้วทำอย่างที่เราทำให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเราคบกันจริง เราตั้งใจจริง แล้วเราไม่ได้ทำให้หญิงเสียใจ สักวันคุณแม่จะเข้าใจ

>>คุณแม่สตาร์ตรถไปกี่ครั้งกว่าจะได้เจอ?
ตุลย์ : ไม่ได้นับครับ
แม่น้อย : เขาไม่เห็น
หญิง : พาร์ตนี้พี่ตุลย์จะไม่รู้เลยว่าแม่ไม่อยู่บ้าน แม่ไม่อยู่เป็นระยะเวลานานเหมือนกันนะ
แม่น้อย : จนกระทั่งเรื่องมันเงียบ

หญิง : เหมือนเขาจะขับมารับ มาส่ง ไปกินข้าว ดูหนัง แต่ว่าเขาจะไม่เคยเจอแม่เลย เขาส่งเขาจะอยู่แต่ชั้นล่าง
แม่น้อย : แล้วข่าวมันแรงไง เขาบอกว่าหญิงไปทำให้เขาแตกกัน แม่ไม่รู้ว่าคนนั้นคือใคร แล้วทำให้เขาแตกกัน ฉันก็ใส่ลูกเลย แกทำอะไรเนี่ย แกทำแบบนี้เพื่ออะไร แกคิดดีแล้วเหรอ แกทำงานมาตลอดชีวิต หญิงก็บอกว่า พ่อก็มีลูกมาก่อน แต่ฉันก็ย้อนไปว่า แม่คิดได้ตอนพ่อมีลูกเขา 7 ขวบแล้ว เขาเลิกกันมาแล้วมาเจอแม่ พอเขาพูดมาแม่สะอึก เฮ้ย..ดวงลูกจะเหมือนเราหรือเปล่า
หญิง : เขากลัว คือต้องยอมรับว่าแม่มีปมในใจเรื่องนี้ว่าแบบ ตัวเขาเองคุณพ่อเคยมีครอบครัวมาก่อน แล้วคุณแม่เข้ามา

แม่น้อย : ทีแรกเราไม่รู้
หญิง : สุดท้ายคุณแม่เป็นคนที่สองแต่ได้แต่งงาน คราวนี้เขาเลยกลัวว่าชีวิตเราจะเหมือนเขา เขาเลยมาถามเราว่า เขาเลิกกันจริงๆ แล้วใช่ไหม เรารู้อะไรบ้าง เรายังไง หญิงบอกหญิงตอบแม่ไม่ได้หรอก คนที่ตอบได้คือพี่ตุลย์

>>หญิงนัดตุลย์มาหาแม่เลย?
หญิง : ใช่ ตอนนั้นค่ำๆ แล้วแม่ก็ไล่หญิงขึ้นบ้านไปเลย แม่ขอคุยกับตุลย์
แม่น้อย : แม่นั่งเฉย ๆ พูดคำแรกเลย ตุลย์จำได้หมด ตุลย์รู้ไหมแม่มีลูกสาวคนเดียว แล้วตั้งแต่เล็กจนโตหญิงทำงานอย่างเดียวเลย แล้วหญิงไม่เคยมีประวัติอะไรเลย แม่พูดไปตั้งยาว เขาไม่พูดอะไรสักคำ พอแม่หยุด ตุลย์บอกว่า ครับ ผมจะไม่ทำให้แม่กับน้องเสียใจ ผมจะดูแลแม่และน้องไปตลอด แค่นี้เองแล้วแม่ก็ไม่พูดอะไรเลย

>>ความกังวล ความโกรธ ความเครียด?
แม่น้อย : ไม่มี หายหมดเลย
หญิง : แม่ก็เคลียร์ด้วยแหละว่าเลิกกันไปแล้วจริง ๆ ใช่ไหม แล้วพี่ตุลย์ก็ยืนยัน
แม่น้อย : เราถามเขาด้วยว่ามันเป็นยังไง เขาบอกว่าผมอยู่มา 2 ปีแล้ว ไม่ได้คุยอะไรกันเลย

>>ตอนนั้นเราตอบประโยคสั้น ๆ แล้วทุกอย่างจบเลย ทำไมถึงตอบแบบนั้น?
ตุลย์ : จริง ๆ เป็นคนที่ไม่ได้พูดเก่ง ไม่ได้พูดเยอะด้วย ก็เลยคิดว่าพูดแค่สิ่งที่เรามั่นใจดีกว่า บอกคุณแม่ว่าผมอาจจะรักหญิงไม่เท่าที่คุณแม่รัก อาจจะไม่ถึงครึ่งนึงด้วยซ้ำ แต่ว่าจะทำให้ดีที่สุดและจะไม่ทำให้หญิงกับคุณแม่เสียใจ

หญิง : หลัก ๆ คุณแม่แค่อยากรู้ว่าเราเข้าไปในวันที่เขาเลิกกันแล้วจริง ๆ หรือเปล่า พอเขาเคลียร์ว่าเราเข้าไปในวันที่เขาเลิกกันแล้วจริง ๆ แยกกันอยู่คืออยู่คนละบ้าน เขาก็สบายใจแล้ว เขาต้องการความมั่นใจ
แม่น้อย : การที่แม่พูดบ่อย ๆ ว่าใครก็ได้ ไม่ต้องเป็นอะไรมา ชั้นฟ้า แผ่นดินไหนก็แล้วแต่ให้รักลูกฉันครึ่งนึงของฉันก็พอ แต่นี่มันเกินครึ่งนึงของฉัน

>>ลูกเขยคนนี้เหมือนกับหนึ่งของขวัญพอเศษที่เบื้องบนส่งมาเลยไหม?
แม่น้อย : แม่ยอมรับตรงนั้น มันมีอะไรที่มาเติมเต็มบ้านเรา บ้านเราไม่มีผู้ชาย

>>แล้วจุดไหนที่แม่เริ่มรักลูกเขยมากกว่าลูกสาว?
แม่น้อย : ฉันทำอะไรเขารับประทานหมดเลยทุกอย่าง ส่วนหญิง คำ สองคำ แล้วมันวางบอกว่าอร่อยแค่นั้นเอง แล้วคนที่กินหมดมันน่าชื่นใจไหม เราต้องคอยดูเลยว่าวันไหนลูกเขยจะมาบ้าน วันไหนจะคอยถาม ตุลย์ทำอย่างนี้คงที่ตลอด พอวันศุกร์เขาจะมาบ้าน ฉันจะเอาหมาของเขาไปอาบน้ำ คอยตุลย์มา แล้วเจ้าหมาก็รักพ่อ รักแม่มัน เราก็ทำให้สะอาด ตู้ปลา บ้านช่อง ที่นอน เราก็ทำให้สะอาดหมดเลย ลูกชายกับลูกสาวมานอนจะต้องหอม ห้องน้ำฉันไปล้างเองนะ

>>แม่น้อยทราบเมื่อไหร่ว่าตุลย์เขาไม่สามารถแกะเม็ดเงาะเองได้?
แม่น้อย : แม่เกตุเขาเม้าธ์มา แม่เขารักเขานะ เนี่ยเลี้ยงมาขนาดไหน มันไม่กินนะผลไม้ ไม่เลาะเม็ดให้มัน มันไม่กิน ฉันก็ไปซื้อมีดที่คว้านมา บาดมือทำไม่เป็นเลยได้มา 4-5 ชิ้น นางก็กินหมด ลูกฉันเนี่ยลองกองอย่างเดียว

>>พี่ตุลย์ แม่ทำให้ขนาดนี้ หลงเราขนาดนี้?
ตุลย์ : ก็รู้สึกซาบซึ้งใจ ขอบคุณแม่น้อยครับ ทำมาตลอด ผลไม้ไม่ใช่จานเล็กๆ คือเป็นถาด ใส่เหมือนของโรงแรมมา เราก็เกรงใจ
แม่น้อย : เขาทานหมด
ตุลย์ : ถ้าทานไม่หมดเดี๋ยวคุณแม่เสียน้ำใจ

>>แม่น้อยบ่นเราเรื่องแม่ศรีเรือน?
หญิง : ด้วยความที่หญิงอยู่กับแม่มาตลอด เวลาอยู่บ้านตัวเองแทบจะไม่ต้องทำอะไร เหมือนมีคนทำให้ตลอด เขาจะรู้สึกว่า เราทำอะไรไม่เป็นเลย ถ้าเราไปเมืองนอก ไปต่างจังหวัดกับพี่ตุลย์แล้วเราทำอาหารให้เขากินเป็นไหม แต่เขาไม่เคยมาเห็นหญิงไงว่าหญิงทำอาหารเช้าให้พี่ตุลย์กินนะ ตื่นมาหญิงปูเตียง หญิงเก็บเตียงนะ เขาไม่รู้

แม่น้อย : ฉันจะไม่รู้ได้ไง อยู่บ้านเธอลงมาถามคุณแม่อยู่ไหน แล้วก็ขึ้นไป พอมันออกไปใครปูที่นอน นี่ๆ ปูเตียง เช้ามาตุลย์มาชงกาแฟ แล้วน้องหญิงไปไหน น้องหญิงเข้าห้องน้ำครับ ยังไม่เสร็จ เขามาเอากาแฟขึ้นไปให้

หญิง : เราสลับกัน

>>หญิงบอกทำอาหารเช้าให้ตุลย์ แต่แม่บอกตุลย์ทำอาหารเช้าให้หญิง?
ตุลย์ : ถ้าอยู่ที่บ้านคุณแม่ หญิงไม่ต้องทำ เพราะมีคนทำให้ แต่ถ้าไปเที่ยวกันเมืองนอก บางวันเขาตื่นมาทำอาหารเช้า ทอดไข่ ทำเบค่อน

หญิง : นั่นเป็นเรื่องนึง แต่อีกเรื่องที่แม่ชอบบ่น หญิงเป็นคนที่เพื่อนกะเทยเยอะ แล้วมันกลายเป็นว่าสำเนียงหรือวิธีการพูดกับสามี มันจะไม่หวาน เราเหมือนเป็นเพื่อน เป็นพี่ตั้งแต่คบ ตั้งแต่จีบกันมันไม้ได้มีโมเมนต์สวีตมากเหมือนคนรู้จักกันอยู่แล้ว หญิงดูเป็นผู้ชายมากกว่าพี่ตุลย์อีก แบบพี่ตุลย์เดี๋ยวขึ้นข้างบนแล้วนะ แม่ก็จะแบบว่าทำไมพูดจาแบบนี้กับพี่เขา คะ ขา มันหายไปไหนหมด หญิงก็แบบหญิงต้องพูดคะด้วยเหรอวะ แบบพี่ตุลย์คะ มันก็เขิน

แม่น้อย : เขาก็เปลี่ยนเบาลงแล้ว

>>แม่น้อยรู้สึกกลัวพี่ตุลย์อายว่าแม่ขายส้มตำ?
แม่น้อย : เขาทำงานบริษัทใหญ่ ๆ เขาทำของเขา เราไม่รู้ว่าคุณพ่อ คุณแม่ เขาปูพื้นมาคบค้าสมาคมกันยังไง แล้วพอได้แม่ยาย แม่ยายตำส้มตำ แล้วดิฉันติดดิน ฉันเคยถามเขา ว่าแม่ไปตำส้มตำ ตุลย์ว่าอะไรไหม ตามสบายเลยครับ แม่ทำที่แม่สบายใจ แม่ทำเลยครับ คำนี้เท่านั้นเองฉันจบเลย ได้ใจฉัน มึงไม่มีลูกไม่เป็นไร ฉันตำส้มตำไป แต่ถ้าให้ฉันหยุดก็มีหลานให้ฉัน

>>ถ้าสองคนนี้มีลูกแม่น้อยเลิก เลี้ยงหลานอย่างเดียว?
แม่น้อย : จ๊ะ

>>แต่ถ้าไม่มีลูกตำไปตลอดชีวิต?
แม่น้อย : จนกระทั่งฉันถือไม่ไหว

หญิง : อีก 2 ปีก็ถือไม่ไหวแล้ว

แม่น้อย : ฉันเพิ่ง 68 เอง

>>ใจพี่หญิงจริงๆ อยากให้คุณแม่เลิกตำส้มตำ?
แม่น้อย : อย่าถามมัน
หญิง : คำว่าเลิกตำส้มตำ มันไม่ใช่อยู่ดี ๆ แค่ยืนตำอย่างเดียว มันต้องดู ซื้อของ คุยกับคน ถือของ เตรียมของ มันมีดีเทลเยอะ สั่งของต้องสั่งแต่เช้าตรู่ เราเห็นเขาทำก็รู้สึกว่าเขาเหนื่อย

>>ก็อีกออปชั่นถ้าอยากให้แม่หยุด ต้องมีหลาน?
หญิง : อายุมากแล้ว อย่ามีเลย
แม่น้อย : ข้ออ้างเธอเปล่า

>>จากการทำร้านส้มตำ มีเรื่องนึงที่แม่น้อยไม่บอกหญิง เพราะกลัวหญิงจะไปปิดร้านส้มตำ?
แม่น้อย : แม่ทำร้านขาดทุน 2 ล้าน (น้ำตาไหล)

หญิง : รู้อยู่แล้ว รู้มาตลอด

แม่น้อย : วันที่โควิด ขอโทษนะ มันไม่มีหนี้สินแล้ว โควิดมา เขาควักเงิน 5 แสนไปจ่ายตรงนั้น (ร้องไห้) มันจบแล้วไง แต่ทีนี้พอเปิดมามันก็ไม่ได้อย่างนั้น มีขาดทุนบ้าง แต่ไม่อยากให้ลูกรู้ ยิ่งพอมาแต่งงานกับตุลย์แม่เตรียมทุกอย่างเลย ไม่อยากให้ใครรู้ แม่รีบหาเงิน ขยันมาก ตอนนั้นยังไม่ได้ออกบูทด้วยนะ วันนึงจะขายได้เท่าไหร่ คิดทุกอย่าง ผลสุดท้ายมันก็ไม่หลุด จนคนนี้ต้องไปเคลียร์อย่างเดิม แม่เจ็บใจตรงนี้แหละ

หญิง : แต่ก็ห้ามไม่ได้ ยังทำอยู่

แม่น้อย : เขาให้เลิกหลายครั้งแล้ว แต่แม่ไม่เลิก

หญิง : คือมันไม่ใช่หรอก คือเรารู้อยู่แล้ว ต้นทุนที่ทำร้านก็เป็นเรา ทุกวีกต้องเบิกเราเพื่อไปซื้อของเข้าร้าน สุดท้ายพอขายของไป มันต้องไปจ่ายค่าเด็ก ค่าเช่าที่ มันไม่ได้อะไร แต่ทุกวันนี้ที่หญิงให้เขาทำ เพราะหญิงรู้สึกว่ามันคือความสุขเขา เรามีกำลังไปซัปพอร์ตเขา ณ วันนี้ก็ซัปพอร์ตเขาไป หญิงถึงบอกว่า อีก 2 ปีคงหยุดแล้วแหละ

>>เงินที่หายไปเราไม่ติดตรงนี้อยู่แล้ว?
หญิง : หนูไม่เคยคิดเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว คือทุกวันนี้สิ่งที่เขาทำมันคือการหมุนนะ ถามว่ากำไร คือเวลาลงทุนต้องได้กำไร แต่หญิงเป็นนักลงทุนที่ไม่ได้กำไรมาทั้งชีวิตเลย แต่กำไรหญิงมันเป็นกำไรจากทางอื่นมากกว่า หญิงยังมีงานทำ หญิงรู้สึกว่านี่คือกำไรในชีวิตของหญิงแล้วแหละ แต่ในส่วนของเขา เขาทำแล้วมีความสุข เขาได้ตำ คนบอกของเขาอร่อย มันเป็นความสุขของเขา หญิงรู้สึกว่าเขาคงสนุกของเขาในแบบนั้น แล้วมันไม่ใช่ก้อนที่มันมหาศาลหรืออะไรก็ยังให้เขาหมุนไปเรื่อย ๆ ที่เขาทำ

>>ข้อตกลงตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เรื่องแม่กับร้านส้มตำ อยากได้ยังไง?
หญิง : เอาจริง ๆ หญิงทำใจแล้ว เอาจนเขาเริ่มเหนื่อยแล้วเขาหยุดเอง จะไม่บ่นแล้ว

น้อย : (จูบแก้มลูก)
หญิง : บ่นไปก็เท่านั้น (หัวเราะ)

>>พี่หญิงเคยปรึกษาไหม เรื่องแม่ลูกทะเลาะกัน?
ตุลย์ : มีตลอดเลยครับ ส่วนมากจะเป็นเรื่องงอนกัน

หญิง : ถ้าแม่งอนก็จะฟีลตึง ๆ สมัยก่อนเราจะซื้อของที่เขาชอบมาให้กิน เขาก็จะไม่กินบ้าง ทิ้งไว้ในตู้เย็นบ้าง พอเรามีพี่ตุลย์เรารู้แล้วว่าเขาจะยอมคนนี้ เขาไม่ยอมเรา เราก็จะสะกิดลงไปดูให้หน่อยดิ

ตุลย์ : สมมติอยู่ข้างบน คุณแม่อยู่ข้างล่าง คุณแม่งอน ก็แบบพี่ตุลย์ลงไปดูให้หน่อย แม่หายยัง พอลงไป คุณแม่ครับทานหรือยังครับ เออ ทานแล้วล่ะ เดินขึ้นมา ยังตึง ๆ อยู่

>>อยากได้ลูกไหม?
ตุลย์ : ไม่ ทั้งคู่นะครับเคยคุยกันแล้วว่าไม่อยากมี คือเป็นห่วงเขาด้วย ถ้าเรามีเขาแล้ว เราเลี้ยงเขาด้านนึง แต่อีกด้านเขาต้องออกไปเจอข้างนอก ซึ่งเอาจริง ๆ ทุกวันนี้มันก็ไม่น่าเจอเท่าไหร่ ก็จะสงสารเขามากกว่า

แม่น้อย : แต่สมัยนี้ แม่เริ่มปล่อยวางแล้ว เราควบคุมเขาไม่ได้ ต่อให้พ่อแม่ดีขนาดไหน ถ้าเด็กมันเป็นไปดึงไม่อยู่เหมือนกัน

หญิง : หญิงรู้สึกว่าการจะมีก็แล้วแต่บุญ แล้วแต่กรรม แล้วแต่วาสนาเลย ถ้ามีต้องมีธรรมชาติเท่านั้น นั่นแปลว่าเขาส่งมาให้เรามี แต่ ณ วันนี้เมื่อมันไม่เกิดและมันไม่มี แปลว่าหญิงอาจจะจบที่ชาตินี้แล้วหรือเปล่า

>>ก่อนหน้าที่จะแต่งงานพี่หญิงทำทุกอย่างเพื่อแม่น้อย ปลดหนี้ทุกคนก็ทราบดีว่าเป็น 10 ล้าน?
แม่น้อย : ทุกคนพูดว่าคุณรู้ตัวไหม คุณได้ลูกสุดประเสริฐจริง ๆ ก็บอกว่าขอบใจมากที่ให้เกียรติกับน้อย แต่จริง ๆ น้อยจะบอกตามตรง น้อยโคตรโชคดี ถูกรางวัลไม่รู้กี่พันล้านได้ลูกคนนี้มา

>>ใจลึก ๆ แม่รู้สึกผิดมาก?
แม่น้อย : รู้สึกผิดมาก ทำแต่เรื่องให้ลูกตลอด เดี๋ยวใช้หนี้ให้ จะทำยังไงให้ลูกเรามีความสุขที่สุด เพราะฉะนั้นแม่ถึงบอกว่าใครก็ได้ที่รักได้ครึ่งของฉันเอาไปเลย

>>แม่อยากจะบอกอะไรลูก?
แม่น้อย : ทำให้แม่แค่นี้พอแล้ว (เสียงสั่นเครือ) ต่อไปลูกก็ตักตวงความสุขให้มาก ๆ ไม่มีแม่ก็ไม่ว่า แต่ที่แม่พูดไปคืออย่าห้ามแม่ทำส้มตำ แม่ก็จะไม่ขัดขืนอะไรทั้งสิ้น แม่หมดแรง แม่ก็หยุดเอง เพราะเราไม่ได้ลำบากอะไรมากมาย ลูกดูแลแม่อย่างดีที่สุด แม่ขอบคุณตุลย์ด้วย ไม่ต้องมาทำอะไรให้แม่มากแล้ว ดูแลซึ่งกันและกัน ลูกเป็นแบบนี้ตลอดไป แม่ชื่นใจที่สุดแล้ว แม่รักลูก ไม่ได้รักพี่ตุลย์คนเดียว ไม่ต้องน้อยใจ ขอบคุณแม่เกตุมาก ๆ ที่เรามาร่วมเป็นครอบครัวเดียวกัน ถึงน้อยจะไม่สบายเหมือนแม่เกตุ แต่ก็ทุกสิ่ง ทุกอย่าง น้อยได้สิ่งที่ดีมา ก็ขอบคุณมาก ๆ ที่ให้เกียรติกับครอบครัวของน้อย

หญิง : หญิงเห็นแม่เป็นคนแบบเต็มที่กับทุกอย่าง แต่เหมือนเขาทำอะไรมันไม่เป็นหรือเทียบเท่ากับแรงที่เขาลงไป อยากให้เขาได้เจอความสำเร็จในเรื่องที่รัก เรื่องส้มตำ เรื่องร้าน ถ้าหญิงมีกำลัง มีแรง (ร้องไห้) หญิงก็จะพยายามช่วยเขาให้มากกว่านี้ หญิงก็รู้ในใจลึก ๆ เรามีความต่อต้านในสิ่งที่เขาทำ อยากให้เขาพักแล้ว แต่ว่าเราก็รู้ว่ามันเป็นสิ่งเดียวที่เขายังเชื่อมั่นในตัวเอง มันเป็นความเชื่อมั่นของเรา เราไม่อยากไปทำลายหรอก อยากให้เขาทำให้เต็มที่ไปเลย และหลัก ๆ ให้ดูแลสุขภาพ เพราะช่วงหลังเห็นเขาทำงานหนัก มันจะมีเรื่องแบบเจ็บขา แล้วชอบใส่ถุงเท้าเดินในบ้าน มันลื่น หญิงก็บอก อะไรที่เราเตือนอยากให้ฟังบ้าง เขาก็แบบทุกวันนี้ใส่ถุงเท้านั่งเล่นในบ้าน เข้าห้องน้ำมันลื่น เขาเผลอล้มหลายที

แม่น้อย : แม่บอกเด็กไม่ต้องบอกน้องหญิง แม่แข็งแรงไม่ได้เป็นอะไรมากมาย มันรักแม่ที่สุด หญิงคือชีวิตแม่ อยู่เพื่อลูกจริง ๆ

หญิง : ดูแลสุขภาพ อยู่กันไปนาน ๆ

แม่น้อย : ลูกก็เหมือนกัน ให้รักกันตลอดชีวิตนะ รักกันให้มากๆ แม่ฝากลูกแม่ไว้ด้วย

>>ล่าสุดแม่มีฝ้าในปอด?
แม่น้อย : มันมีจุดเล็กๆ จะเป็นวัณโรคเหรอ มันก็มี เอ้า...น้อยไม่สูบบุหรี่ น้อยไม่กินเหล้า คุณน้อยเล่นตลกมากี่ปีแล้ว สมัยก่อนมันจะสะสม คนที่อยู่ใกล้ควันบุหรี่

>>หมอบอกการรักษาไหม?
หญิง : หลัก ๆ ก็คือเลี่ยงทุกอย่างที่แพ้ พวกไรฝุ่น ที่นอนเขาต้องทำความสะอาดบ่อย ๆ มีช่วงปีแรก ๆ ห้ามไปที่ชื้น ที่เป็นหนักไอหนักก็ไม่ได้ไปต่างประเทศ จนหลังโควิดพาไปญี่ปุ่นเริ่มดีขึ้น แล้วเขาก็เริ่มไม่ค่อยไอ

>>ขนหมาแพ้ไหม?
แม่น้อย : ขนหมาก็แพ้

หญิง : ไม่แพ้

แม่น้อย : มันรักแม่ มันเลยเอาหมาไปอยู่ข้างนอก

หญิง : กลางวันอยู่ข้างนอก แต่กลางคืนให้นอนในห้อง แล้วมีห้องที่อยู่ในบ้านให้เขานอน เป็นห้องที่มีกระจก มีหน้าต่าง เปิดพัดลมให้เขา ต้องแยกส่วนกับห้องแม่ ต้องมีกระจกกั้นอีกที


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top