Thursday, 16 May 2024
สัญชาติไทย

ตม.จว.ภูเก็ต - บก.ตม.6 และ บก.สส.สตม. ร่วมกันจับกุม! ผู้ต้องหา ‘สวมสิทธิขอสัญชาติไทย’

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัย เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย หรือลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติ ที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. มอบหมายให้ พล.ต.ต.อาชยน  ไกรทอง รอง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.ตม.6 พ.ต.อ.ธเนศ สุขชัย ผกก.ตม.จว.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.ภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ บก.สส.สตม. แถลงข่าวการจับกุมคนร้าย ดังนี้ 

นายโอมจี อายุ 47 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ 284/2564 ลง 7 ตุลาคม 2564 และ 288/2564 ลง 8 ตุลาคม 2564 ข้อหา “เป็นผู้ยื่นคำขอมีบัตรประชาชนโดยมิได้มีสัญชาติไทย ด้วยการแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อความจริงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่, เป็นคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย ทำหรือใช้หรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จหรือกระทำการเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นมีชื่อหรือมีรายการอย่างหนึ่งอย่างใดในทะเบียนบ้านหรือเอกสารทะเบียนราษฎร์อื่นโดยมิชอบ, แจ้งข้อความอันเป็นเท็จหรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในการที่มีบัตรประจำตัวประชาชน, แจ้งความอันเป็นเท็จแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย, แจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารมหาชนหรือเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับให้เป็นพยานหลักฐานโดยที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน, ใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการกระทำผิดตามมาตรา 267 ในประการที่น่าจะให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”

สืบเนื่องจาก ตม.จว.ภูเก็ต ได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับคนต่างด้าวมีพฤติกรรมทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ของ  ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จว.ภูเก็ต จึงได้ดำเนินการตรวจสอบสืบสวนจนพบข้อมูลต้องสงสัยน่าเชื่อว่า นายโอมจี อายุ 49 ปี เดิมเป็นบุคคลสัญชาติเมียนมา ได้รับสัญชาติไทย ซึ่งอาจเป็นผู้ได้มาซึ่งสัญชาติไทยโดยไม่ถูกต้อง จากนั้น จึงได้ตรวจสอบไปยังกรมการปกครองและได้รับการสนับสนุนข้อมูลจากกรมการปกครองกลับมาว่า บุคคลดังกล่าว ( นายโอมจี ) มีภาพใบหน้าลักษณะคล้ายชาวอินเดียไม่น่าจะเป็นพี่น้องกับบุคคลในทะเบียนประวัติราษฎร อีกทั้ง ทะเบียนประวัติมีลักษณะเป็นการจัดทำขึ้นใหม่ทั้งฉบับซึ่งไม่ปรากฏหลักฐานดังกล่าวในฐานข้อมูลการทะเบียนราษฎร ประกอบกับการการทำบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยครั้งแรกนั้นได้ดำเนินการหลังระยะเวลาที่ได้จัดทำทะเบียนประวัติเป็นเวลานาน 

ตม.จว.ภูเก็ต จึงได้ประสานข้อมูลให้ บก.สส.สตม. ช่วยสืบสวนหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม รวมถึงสอบสวนปากคำพยานซึ่งเป็นบุคคลในครอบครัวที่นายโอมจีเข้าไปสวมสิทธิ เจ้าหน้าที่สืบสวนได้สืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน จนน่าเชื่อว่า นายโอมจีฯ มีพฤติกรรมสวมสิทธิของบุคคลอื่น เพื่อขอมีสัญชาติไทย ขอมีบัตรประชาชนและเพิ่มข้อมูลในทะเบียนราษฎร์โดยทุจริต เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ทำรายงานสืบสวนเสนอผู้บังคับบัญชา และแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ป่าตอง และ สภ.ถลาง เพื่อดำเนินคดีและออกหมายจับผู้ต้องหาในเวลาต่อมา

‘ดร.ทมิตา’ เล่าถึงพระเมตตาของ ‘ในหลวงรัชกาลที่ 9’ หลังทรงพระราชทานสัญชาติไทยแก่ชาวกะเหรี่ยง-ชาวมอญ

เมื่อไม่นานนี้ ได้มีผู้ใช้ติ๊กต็อกรายหนึ่ง ชื่อ ‘dr.tammytiktok’ หรือ ‘ดร.ทมิตา วนาพิทักษ์กุล’ ได้ออกมาเล่าประสบการณ์ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงพระราชทานสัญชาติไทยให้แก่ชาวกะเหรี่ยง และชาวมอญในอำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ โดย ดร.ทมิตา กล่าวว่า…

“โอชุงลาไซค่ะ (แปลว่า สวัสดีค่ะ) ดิฉัน ‘ดร.ทมิตา วนาพิทักษ์กุล’ สาวกะเหรี่ยงบ้านๆ คนหนึ่ง ที่ได้รับ ‘สัญชาติไทย’ จากสถาบันพระมหากษัตริย์ เด็กกะเหรี่ยงที่ไม่มีสัญชาติ เด็กกะเหรี่ยงที่ไม่มีทุนการศึกษา พ่อแม่ยากลำบากจนไม่มีคำไหนที่จะสามารถบรรยายได้ แต่สิ่งที่เราบรรยายจากหัวใจของเราได้ คือ กราบขอบพระคุณในหลวงรัชกาลที่ 9 และราชวงศ์ทุกๆ พระองค์ ที่ยังสานต่อด้วยการดูแลประชาชน คนที่ไร้สัญชาติในอำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์อีกมากมาย และจนถึงทุกวันนี้ทั้งนายอำเภอ ทั้งผู้ใหญ่ที่ใจดีทุกท่าน ก็ยังคงสานต่อสิ่งเหล่านี้อยู่ ทั้งชาวกะเหรี่ยง ชาวมอญ ก็ยังคงได้รับโอกาสดีๆ เหมือนที่ ดร.คนนี้ได้รับเช่นกัน

สิ่งสำคัญที่น้องๆ คนรุ่นหลังอาจจะไม่รู้ เพราะหนูโตขึ้นมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกให้พวกหนูหมดแล้ว แต่คนรุ่นก่อนอย่างพี่ที่ผ่านการใช้ชีวิตที่ยากลำบากมา ไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่มีทีวีดู แต่มีหนึ่งสถาบันฯ ที่เข้ามาช่วยซัพพอร์ต คือ ‘สถาบันพระมหากษัตริย์’ วันนี้เศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร เราไม่ว่า… แต่ขออย่ามาเหยียบ อย่ามาย่ำสถาบันฯ นี้เลยค่ะ เพราะยังมีคนอีกมากมายที่รักและยังคงธำรงไว้ เทิดเกล้า เทิดกระหม่อม ขออย่าไปยุ่งเลยค่ะ เพราะทุกสิ่งทุกอย่าง พวกเรารู้ดีอยู่แล้ว ดังนั้น ทำดีเพื่อพ่อหลวงของเรา รับผิดชอบตัวเองตามรอยพระราชดำรัส เศรษฐกิจพอเพียง ไม่มีคำว่าเศรษฐกิจไม่ดีค่ะ ถ้าหากว่าวันนี้เรารับผิดชอบตัวเอง ขอบคุณค่ะ”

'ฝรั่ง' อวด!! ได้เป็นคนไทยแล้ว ยอมรับ!! สัญชาติไทยขอยากมาก พร้อมเผยความในใจ!! 'อยู่ที่นี่แล้วสบายใจ-เมืองไทยเหมือนบ้าน'

(15 ก.พ.67) ช่องยูทูบชื่อ ‘มุมมองเพื่อนบ้าน’ ได้โพสต์วิดีโอถึงกรณีชาวต่างชาติรายหนึ่งออกมาแสดงความดีใจที่ได้สัญชาติและถือพาสปอร์ตไทยอย่างเป็นทางการ โดยระบุว่า…

ชาวต่างชาติรายนี้ชื่อ Mark Abbott ได้โพสต์คลิปแสดงความดีใจในอินสตาแกรมส่วนตัว ‘markabbott_official’ ว่า “I got my Thai citizenship. Video about the whole process coming soon! ผมได้รับสัญชาติไทยอย่างเป็นทางการแล้วครับ มันขอยากกว่าสัญชาติอังกฤษ/อเมริกันมาก ๆ ครับ เดี๋ยวจะทำวิดีโอเรื่องการขอแปลงสัญชาติเป็นไทยครับ”

นอกจากนี้ยังได้เล่าประวัติคร่าว ๆ ของ Mark Abbott ว่า เขาเป็นชาวอังกฤษ และได้มาประเทศไทยครั้งแรกตอนที่อายุประมาณ 20 ปี ซึ่งในปัจจุบันเขาอยู่ในประเทศไทยมากกว่า 20 ปีแล้ว จนรู้สึกว่าประเทศไทยคือบ้านของเขา และประเทศไทยก็ได้ตอบแทนความภักดีของเขาด้วยการมอบสัญชาติไทยให้

Mark Abbott ยังเคยบอกอีกว่า เขาหลงเสน่ห์ประเทศไทย ด้วยเหตุผลหลาย ๆ อย่าง เช่น อากาศดี (ไม่หนาวเกินไป) อาหารอร่อย คนไทยน่ารัก จึงตัดสินใจเรียนต่อจนจบปริญญาตรี ได้เดินทางไปหลายประเทศ รู้สึกว่าที่ไหน ๆ ก็เหมือนกัน แต่ประเทศไทยมีคนไทย ชอบคนไทยมาก ชอบวัฒนธรรมไทย ชอบความเอื้ออารี ใจกว้าง ยิ้มง่าย และใส่ใจผู้อื่นของคนไทย ที่สำคัญคือ ประเทศไทยปลอดภัยมาก นี่คือเสน่ห์ที่ชื่นชอบประเทศไทย

แม้ชาวตะวันตกจะมีความคิดแง่ลบกับนิสัยของคนไทย แต่สำหรับ Mark abbott มองว่าเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ และเขาพร้อมที่จะปรับตัวเข้ากับบริบทของสังคมไทย เขาเข้าใจดีว่าสังคมไทยเป็นอย่างไร 

ภายหลังที่เขาได้แชร์เรื่องการขอสัญชาติไทยไปแล้ว ก็มีหลาย ๆ คนเข้ามาแสดงความคิดเห็น ส่วนใหญ่เป็นคนไทยที่เข้ามาแสดงความยินดี และมีชาวต่างชาติหลาย ๆ คนที่ไม่เชื่อว่าเขาขอสัญชาติไทยได้จริง ซึ่ง Mark Abbott ก็ออกมายอมรับและบอกว่า การขอสัญชาติไทยยากมาก และยากกว่าขอของอังกฤษหรือสหรัฐฯ ด้วยซ้ำ ซึ่งหากใครไม่เชื่อก็ไปดูประกาศราชกิจจานุเบกษาได้เลย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top