Friday, 3 May 2024
ศิลัมพาเลิศนุวัฒน์

‘ศิลัมพา’ ซัด ‘พท.’ ชี้แจงนโยบายแจกเงินดิจิทัลไม่เคลียร์ ชี้!! ทำ ปชช.สับสน โว ‘คนละครึ่ง’ ของ ‘บิ๊กตู่’ ยังเข้าใจง่ายกว่า

(26 เม.ย. 66) น.ส.ศิลัมพา เลิศนุวัฒน์ ผู้สมัคร ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงนโยบายแจกเงินดิจิทัลของพรรคเพื่อไทย หลังจากการลงพื้นที่จนถึงขณะนี้ว่า ชาวบ้านยังคงสับสนกับนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทของพรรคเพื่อไทย ว่าตกลงแล้วจะแจกเป็นรูปแบบใดกันแน่ เพราะการอธิบายของแกนนำพรรคเพื่อไทยแต่ละคน ก็พูดไม่เหมือนกัน และชาวบ้านบอกว่าเข้าใจยาก

รวมถึงกรณีล่าสุด ที่นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ออกมาอธิบาย เกี่ยวกับ การนำเงินดิจิทัล ไปเปลี่ยนเป็นเงินสดของร้านค้าต่าง ๆ โดยอธิบายว่า พรรคเพื่อไทย ตั้งเงื่อนไขเอาไว้ว่า คนที่จะขึ้นเงินได้จะต้องเป็นร้านค้าในระบบภาษีเท่านั้น ถ้าเป็นร้านค้าที่ไม่อยู่ในระบบภาษีก็ขึ้นเงินไม่ได้ ซึ่งเมื่อข่าวออกไปร้านค้ารายย่อยในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นร้านขายของชำ ร้านขายอาหารตามสั่ง ร้านข้าวแกงต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ทำไมเงื่อนไขยุ่งยาก และถ้าเป็นแบบนี้คงจะไม่เข้าร่วมโครงการแน่ ๆ และเมื่อเปรียบเทียบกับโครงการคนละครึ่งของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ยังเข้าใจง่ายกว่าและมีประโยชน์กว่าชัดเจน

ในขณะที่ชาวบ้านทั่วไป บอกว่า หากเปรียบเทียบการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทของพรรคเพื่อไทย กับบัตรลุงตู่หรือบัตรสวัสดิการรัฐ ที่จะให้เงิน 1,000 บาทนั้น แม้ตัวเลขของพรรคเพื่อไทยจะดูเยอะกว่า แต่ก็ดูยุ่งยากซับซ้อนและไม่แน่ใจว่าจะทำได้จริงหรือไม่ ในขณะที่บัตรลุงตู่นั้น ชาวบ้านเห็นแล้วว่าใช้ได้ง่ายและได้จริง ยิ่งเพิ่มเงินเป็น 1,000 บาททุกเดือน ยิ่งดีกว่าเดิมและมั่นใจมากขึ้น

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่ชาวบ้านวิจารณ์โครงการนี้ หลังจากที่ได้อ่านข่าวที่รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทยออกมาอธิบายนั้น ชาวบ้านบอกว่า ถ้าร้านค้าย่อยที่ไม่ได้อยู่ในระบบภาษีจะไม่สามารถขึ้นเงินได้ ก็เท่ากับว่าเงินทั้งหมดปลายทางจะไปอยู่ที่นายทุนใหญ่หรือเจ้าสัว อย่างที่พรรคเพื่อไทยชอบหยิบมาโจมตีโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์มาตลอดนั่นเอง

น.ส.ศิลัมพา ย้ำว่า นอกจากความสับสนที่ทำให้ชาวบ้านไม่เข้าใจ และร้านค้าทั่วไปที่เป็นร้านเล็ก ๆ ไม่ต้องการเข้าร่วมแล้ว ในส่วนของเงินที่จะนำมาใช้ในโครงการนี้อีกกว่า 5.6 แสนล้านนั้น ทางแกนนำพรรคเพื่อไทย ก็ยังไม่สามารถตอบได้อย่างชัดเจนว่าจะหาเงินมาจากแหล่งใด เพียงแต่บอกลอย ๆ ว่า หาเงินได้แน่นอนเท่านั้น เช่นนี้แล้วจะให้เชื่อได้อย่างไรว่านโยบายที่พรรคเพื่อไทยนำมาหาเสียงนั้น จะสามารถทำให้เกิดขึ้นได้จริง ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่มองว่า เป็นนโยบายขายฝันที่นำมาใช้เพื่อหวังคะแนนเสียงให้ชนะการเลือกตั้งเท่านั้น

'ศิลัมพา' เดือด 'พิธา' บอกให้ใช้เรือประมงรบแทนเรือดำน้ำ สวน!! เครื่องดับเพลิงมีติดบ้านไว้ ก็ไม่ได้แปลว่าอยากให้ไฟไหม้

'ศิลัมพา' งง 'พิธา' บอกให้ใช้เรือประมงรบแทนเรือดำน้ำ แนะหาข้อมูลก่อนพูดเรื่อยเปื่อย กางข้อมูลอาเซียนหลายประเทศก็มีเรือดำน้ำ ฟาดเจ็บนักการเมืองต้องทำให้กองทัพของชาติเข้มแข็งมิใช่ด้อยค่าหรือทำให้อ่อนแอลง

(1 พ.ค.66) จากกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการข่าวชื่อดัง โดยระบุถึงแนวคิดเรื่องเกี่ยวกับความมั่นคง เชื่อมโยงการตัดงบประมาณของกองทัพ โดยระบุว่า...

"เดี๋ยวนี้กองทัพเรือเวลาเขารุกกัน เขาไม่ใช้เรือดำน้ำ เขาใช้เรือประมง ให้คุณไปดูเวียดนาม คือ มันมีการสร้างความวิตกจริต มีการซ้อมรบกัน แต่มันไม่เคยเกิดขึ้นจริง” ซึ่งการแสดงความเห็นดังกล่าว ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ และถูกส่งต่อกันไปอย่างกว้างขวาง

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นางสาวศิลัมพา เลิศนุวัฒน์ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 24 กทม. พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า...

"ตนได้เห็นคลิปวีดีโอดังกล่าวเผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียแล้วรู้สึกตกใจมาก ที่คนระดับขันอาสามาเป็นนายกรัฐมนตรี แต่กลับรู้เรื่องความมั่นคงในประเทศต่ำถึงเพียงนี้ เพราะในปัจจุบันกลุ่มประเทศอาเซียน โดยเฉพาะเพื่อนบ้านใกล้ชิดไทย ต่างก็มีเรือดำน้ำเข้าประจำการในกองทัพแทบทั้งสิ้น อาทิ มาเลเซียมี 2 ลำ พม่า 2 ลำ และกำลังต่อเพิ่มอีกหนึ่ง สิงคโปร์มีประจำการแล้ว 4 ลำ อินโดนีเซีย 5 ลำ ส่วนประเทศเวียดนาม ที่คุณพิธากล่าวว่าเขาใช้เรือประมงรบกันนั้น มีเรือดำน้ำเข้าประจำการถึง 6 ลำ" นางสาวศิลัมพากล่าว และว่า

"จากคำให้สัมภาษณ์ดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงว่า หนึ่ง นายพิธาไร้ความเข้าใจความมั่นคงของชาติอย่างสิ้นเชิง เรื่องมีเรือดำน้ำเข้าประจำการในกองทัพ ก็เหมือนเราซื้อเครื่องดับเพลิงมาติดไว้ที่บ้าน ซึ่งมิได้แปลว่าเราอยากให้ไฟไหม้ แต่ก็ต้องเตรียมความพร้อมก่อนเหตุจะมาถึง 

‘ศิลัมพา’ ยก ‘บิ๊กตู่’ ตัวจริงวางรากฐานประเทศ แนะ ‘คนรุ่นใหม่’ ศึกษาข้อมูลให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจ

(11 พ.ค.66) นางสาวศิลัมพา เลิศนุวัฒน์ ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กรุงเทพมหานคร เขต 24 เบอร์ 7 กล่าวถึงกรณีที่พรรคการเมืองบางพรรค หาเสียงด้วยการเน้นโปรโมตนโยบายที่จะทำเพื่อคนรุ่นใหม่ โดยระบุว่า...

พรรคการเมืองที่หาเสียงด้วยการเคลมว่า เป็นพรรคของคนรุ่นใหม่ และพร้อมจะดำเนินนโยบายเพื่อคนรุ่นใหม่นั้น ถือเป็นการขายสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น และเมื่อมองย้อนกลับไปดูผลงานของรัฐบาล ที่นำโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเห็นว่า โครงการต่าง ๆ ที่ได้ดำเนินการมานั้น ล้วนทำเพื่อคนไทยทุกกลุ่ม และยังได้วางรากฐานไว้เพื่อเด็กเยาวชนคนรุ่นใหม่ด้วย

ยกตัวอย่างโครงการที่ดำเนินการไปแล้ว ที่จะเกิดประโยชน์กับคนรุ่นใหม่ เช่น โครงการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ ‘อีอีซี’ ที่จะสร้างตำแหน่งงานนับแสนตำแหน่ง, การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล และการสนับสนุนอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมเป้าหมาย ที่จะเป็น New S Curve ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยในอนาคต

ขณะเดียวกัน รัฐบาลที่ผ่านมายังได้วางโรดแมปในการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศไทย โดยเปลี่ยนจากรถยนต์สันดาป มุ่งสู่อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ EV ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้ประเทศไทยตกขบวน และสูญเสียตลาดไปให้กับประเทศคู่แข่ง

รวมไปถึงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ โดยเฉพาะรถไฟฟ้าสายต่างในกรุงเทพมหานคร ซึ่งในปีนี้จะเริ่มเปิดทดลอง 2 สาย คือสายสีเหลืองและสายสีชมพู และในอนาคตอันใกล้ จะเชื่อมโยงสายสีต่างให้สามารถเดินทางได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม แม้ที่ผ่านมา ภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ ได้ผลักดันโครงการต่าง ๆ สำเร็จไปแล้วจำนวนมาก แต่ก็ยังมีอีกหลายส่วนที่ยังต้องผลักดันต่อ อาทิ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย ตั้งระเบียงเศรษฐกิจใหม่ 4 ภาค รวมถึงสร้างโอกาสให้คนตัวเล็กด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล และยังมีอีกหลายนโยบายที่จะต้องทำต่อ เพื่อให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศไทยดีขึ้น

“ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง เราเริ่มเห็นพรรคการเมืองบางพรรคการ ชูนโยบายมุ่งเจาะฐานเสียงคนรุ่นใหม่ด้วยวาทกรรมต่าง ๆ รวมถึงการขายฝันโครงการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต แต่อยากจะฝากถึงเยาวชนคนรุ่นใหม่พิจารณาข้อมูลให้ถี่ถ้วนว่า โครงการที่นำมาหาเสียงนั้นจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ในขณะที่พลเอกประยุทธ์ ได้ลงมือทำให้เห็นเป็นรูปธรรมจับต้องได้อย่างชัดเจนมาแล้ว ไม่ใช่แค่การสรรหาวาทกรรมที่สวยหรูมาหาเสียงเท่านั้น และสุดท้ายปลายทางสิ่งที่พลเอกประยุทธ์ได้ทำมานั้น ล้วนเกิดประโยชน์กับคนไทยทุกคน” น.ส.ศิลัมพา กล่าว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top