(3 ก.พ. 66) ที่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ วางพวงมาลา เนื่องในวันทหารผ่านศึก ประจำปี 2566 โดยองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในฐานะหน่วยงานที่ทำหน้าที่ดูแลให้การสงเคราะห์แก่ทหารผ่านศึก ครอบครัวทหารผ่านศึก ทหารนอกประจำการ และผู้ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ ในการปกป้องอธิปไตยและรักษาความมั่นคงของชาติ ได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อสดุดีและรำลึกถึงวีรกรรม ความกล้าหาญของทหารผ่านศึก ที่ได้เสียสละเลือดเนื้อและชีวิตเพื่อปกปักรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้คงอยู่ตราบเท่าทุกวันนี้
อีกทั้งยังเป็นการเชิดชูเกียรติทหารผ่านศึกให้เป็นที่ประจักษ์แก่ประชาชนชาวไทย โดยมีผู้แทนส่วนราชการต่าง ๆ ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย สมาคม, ชมรม, มูลนิธิ ตลอดจนทหารผ่านศึกนอกประจำการกรณีสงครามต่าง ๆ ร่วมวางพวงมาลา
ทั้งนี้ ในช่วงเช้า เวลา 07.45 น. องค์การฯ ได้จัดพิธีจุดตะเกียงโบราณ และเวลา 08.00 น. ได้จัดพิธีจุดตะเกียงตามประทีปและสักการะอัฐิ เวลา 08.20 น. พิธีเชิดชูเกียรติทหารผ่านศึกดีเด่น ประจำปี 2566 โดยมี พล.อ.สัณทัศน์ นันทิภาคย์หิรัญ ผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเป็นประธานในพิธี
พ.อ.สุวรรณ จินดา อดีตนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชาประจำผู้บังคับบัญชา และอดีตทหารผ่านศึกสงครามเกาหลีอายุ 95 ปี เปิดเผยว่า ตนเคยได้รับเหรียญจากประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ซึ่งท่านเคยไปเตะฟุตบอล ที่หน้าค่ายทหารไทย ซึ่งตอนนั้นตนได้ไปรับเหรียญที่ทำเนียบ ตนได้บอกว่า ถ้าเราคิดจะทำงานเพื่อประเทศชาติต้องทุ่มเทกำลังกายกำ ลังใจ และกำลังความคิด และต้องเยี่ยมเยียนประชาชน จะมานั่ง ๆ นอน ๆ ไม่ได้
ตนได้ไปรบ ปัจจุบันนี้ทหารที่ไปร่วมรบด้วยกัน ก็เสียชีวิตกันหมดแล้ว เหลือแค่ตน ส่วนเคล็ดลับ อายุยืนนั้นคือ
“ยิ้มแย้มแจ่มใส ตั้งใจสนทนา วาจาไพเราะ สงเคราะห์เอื้อเฟื้อ ขาดเหลือเจือจุน"