Friday, 3 May 2024
ยุโรป

อียูไฟเขียว รับรอง Thailand Digital Health Pass บน ‘หมอพร้อม’ ใช้เดินทางเข้าออกยุโรปฉลุย 60 ประเทศ

10 ก.พ. 65 - ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายธานี ทองภักดี ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒน์พันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และนพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข ร่วมกันแถลงข่าวเรื่อง “การใช้ Digital Health Pass บนหมอพร้อม เพื่อการเดินทางในกลุ่มประเทศ EU”

นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยเปิดให้เดินทางเข้าประเทศผ่านระบบ Test&Go อีกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 รวมถึงยังมีการเข้าประเทศผ่านระบบแซนด์บอกซ์และระบบกักตัว จึงต้องมีการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคในผู้เดินทางเข้าประเทศอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2564 สหภาพยุโรป (EU) ได้มีมติยอมรับและขึ้นทะเบียนเอกสารรับรองเกี่ยวกับโควิด-19 ของประเทศไทย หรือ Thailand Digital Health Pass บนหมอพร้อม ให้มีความเท่าเทียมกับเอกสารรับรองของสหภาพยุโรป (EU Digital COVID Certificate : EU DCC) ดังนั้น ผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยทุกคนจึงสามารถใช้เอกสารรับรองบน Thailand Digital Health Pass ของหมอพร้อม แสดงสถานะสุขภาพเกี่ยวกับโควิด-19 ก่อนเดินทางสู่ประเทศ/ดินแดนที่เข้าร่วมระบบการตรวจสอบเอกสารรับรองของสหภาพยุโรปนี้กว่า 60 ประเทศ/ดินแดน (ข้อมูล ณ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565) รวมถึงสามารถใช้แสดงข้อมูลก่อนเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ในประเทศ/ดินแดน เหล่านั้นได้ด้วย ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้เปิดให้ประชาชนเริ่มทดสอบใช้งานระบบดังกล่าวได้แล้ว

“ต้องขอบคุณคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข และผู้บริหารทั้ง 3 กระทรวง ที่ร่วมกันขับเคลื่อนและผลักดันเรื่องนี้จนประสบความสำเร็จ เชื่อมั่นว่าประชาชนทุกคนจะได้รับความสะดวกจากการใช้งานระบบ Digital Health Pass และสามารถเดินทางระหว่างประเทศได้อย่างอุ่นใจและปลอดภัย” นายอนุทินกล่าว

ดร.สาธิต กล่าวว่า การเข้าร่วม EU DCC นอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ประชาชน ที่ถือเอกสารรับรองฯ ของประเทศไทยแล้ว ยังจะช่วยให้กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามและตรวจสอบสถานะสุขภาพของนักเดินทางจากประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป และประเทศนอกกลุ่มสหภาพยุโรปที่ได้รับการขึ้นทะเบียน EU DCC ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้ด้วย โดยเจ้าหน้าที่ของไทย ร้านค้า/หน่วยงานต่างๆ สามารถสแกนคิวอาร์โคดตรวจสอบข้อมูลที่เกี่ยวกับโควิด-19 ของนักเดินทางได้เช่นกัน เป็นการยกระดับระบบตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับโควิด-19 ของประเทศไทย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมโรคของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อย่างไรก็ตาม สายพันธุ์โอมิครอนสามารถแพร่ระบาดได้ง่าย การเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ จึงยังคงต้องระมัดระวังสูงสุดยึดมาตรการ VUCA คือ การฉีดวัคซีน การป้องกันตนเองสูงสุดตลอดเวลา COVID Free Setting และการตรวจ ATK เพื่อช่วยป้องกันการแพร่และรับเชื้อ

นพ.เกียรติภูมิกล่าวว่า เอกสารดิจิทัลเกี่ยวกับโควิด-19 ของ EU DCC ใน Thailand Digital Health Pass จะแสดงข้อมูลสำคัญ 2 ส่วน คือ 1.) ข้อมูลพื้นฐานจำเป็นในการยืนยันตัวตน ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก อายุ สัญชาติ และหมายเลขหนังสือเดินทาง (ถ้ามี) ซึ่งได้รับความร่วมมือจากกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ในการเชื่อมโยงข้อมูลชื่อนามสกุลภาษาอังกฤษและหมายเลขหนังสือเดินทาง (passport number) ของผู้ที่ถือหนังสือเดินทางของประเทศไทย 

และ 2.) ข้อมูลเกี่ยวกับโควิด-19 ประกอบด้วย 1.) ข้อมูลการฉีดวัคซีนโควิด-19 มีอายุ 180 วัน นับจากวันที่รับเข็มล่าสุด 2.) ข้อมูลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR หรือ ATK เฉพาะรุ่นที่ EU รับรอง มีอายุ 7 วัน นับจากวันที่ตรวจล่าสุด และ 3.) ข้อมูลการหายป่วยจากโควิด-19 มีอายุ 180 วัน นับจากวันที่ได้รับการวินิจฉัยว่าป่วย โดยแสดงในรูปแบบ QR Code ที่มีลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Signature) กำกับ เพื่อป้องกันการปลอมแปลงเอกสาร ซึ่งจะอ่านได้เฉพาะแอปพลิเคชันที่ถูกพัฒนาตามมาตรฐานของ EU เท่านั้น

นายธานี กล่าวว่า การที่สหภาพยุโรปรับรอง Thailand Digital Health Pass ให้มีสถานะเทียบเท่า EU Digital COVID Certificate แสดงถึงความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างไทยและยุโรป รวมถึงความสามารถ ความพร้อม และมาตรฐานด้านดิจิทัลของไทย ทำให้ระบบของประเทศไทยเชื่อมโยงกับระบบเอกสารวัคซีน 60 ประเทศ ได้แก่ ประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป 27 ประเทศ และประเทศนอกสหภาพยุโรปที่ได้รับการขึ้นทะเบียนรับรอง 33 ประเทศ โดยไทยเป็นประเทศที่ 2 ในอาเซียนที่ได้รับการรับรองระบบนี้ อย่างไรก็ตาม การเดินทางเข้าประเทศต่างๆ จะมีความแตกต่างกันในเงื่อนไข ทั้งชนิดวัคซีนและชุดตรวจ ATK ที่องค์การยาแห่งสหภาพยุโรปให้การยอมรับ จึงขอให้ตรวจสอบเงื่อนไขก่อนเดินทางทุกครั้ง

'สหรัฐฯ-ยุโรป' กุมขมับ!! ส่อแตะยุคข้าวยากหมากแพง สารพัดม็อบโผล่ 'ดอลลาร์-ยูโร' แกว่ง แต่รูเบิลรัสเซียแรง

ภายหลังจากยุโรปรับคำสั่งสหรัฐฯ และอังกฤษ ให้แบนรัสเซีย ผลทางจิตวิทยาชั่วคราวระยะสั้นค่าเงินรูเบิลรัสเซียอ่อนค่าลงเป็นราว 140 รูเบิล/ดอลลาร์

แต่ไม่นานนักเมื่อรัสเซีย โต้กลับสหรัฐฯ-ยุโรป โดยเริ่มแบนกลับพลังงานน้ำมัน ก๊าซ ถ่านหิน ปุ๋ย ก็ทำให้โลกความจริงกลับมา สิ่งที่คนยุโรปกลัวที่สุดคือ "หุ้นตก" อัตราเงินเฟ้อเกิน 7.0% การใช้จ่ายถดถอย น้ำมัน ก๊าซ สินค้าอุปโภคบริโภคแพงมาก ปุ๋ยที่เป็นต้นธารอาหาร ขาดแคลน ราคาแพง

สารพัดม็อบในยุโรปหลายชาติ เริ่มโผล่มาปิดถนน ปิดเมืองหลวง รัฐบาลยุโรปเริ่มออกอาการร่อแร่

ทันทีทันใด รัสเซีย ก็รีบหวดซ้ำ โดยแบนอาหาร และประกาศขายพลังงานให้ประเทศที่ขึ้นบัญชีดำว่าไม่เป็นมิตรเป็นเงิน "เปรโตรรูเบิล" เท่านั้น ไม่รับชำระเป็นดอลลาร์, ยูโร หรือปอนด์ 

สิ้นคำประกาศของฝั่งรัสเซีย ตลาดหุ้นในยุโรป ร่วงกราว เงินรูเบิลมี Demand ความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างไม่อั้น เพื่อแลกไว้เป็นเงินทุนสำรองซื้อพลังงานราคาถูกจากรัสเซีย 

ประเทศต่างๆ ในยุโรปที่เคยทำสัญญากับรัสเซียว่าจะซื้อขายพลังงานกันเป็นดอลลาร์-ยูโร ถึงกับเหวอ ต้องเร่งเทขายทิ้ง วิ่งไปหาซื้อรูเบิล มาสำรองจ่ายค่าพลังงานราคาถูกจากรัสเซีย ไม่เช่นนั้นจะถูกตัดพลังงาน 

ส่งผลให้ค่าเงินรูเบิลล่าสุดแข็งค่าขึ้นมาเป็น 89.5 รูเบิล/ดอลลาร์ ส่วนค่าเงินดอลลาร์ ยูโร ต่ำลงไปอีก 10% แถมตลาดหุ้นตื่นตระหนกร่วงซ้ำลงไปอีก  

'จีน' โต้ข้อครหา 'เลี่ยงคว่ำบาตรรัสเซีย' พร้อมเตือน "นี่เป็นเรื่องที่ชาวยุโรปต้องแก้ไขเอง"

รัฐบาลจีนออกมาชี้แจงวันนี้ (2 เม.ย.) ว่าไม่ได้พยายามที่จะ “หลบเลี่ยง” มาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย หลังเจ้าหน้าที่สหภาพยุโรป (อียู) เตือนว่าความพยายามใดๆ ก็ตามที่จะช่วยเหลือมอสโกในสงครามยูเครนอาจกระทบสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ

เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศจีนให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมทางไกลระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงอียูกับคณะผู้นำจีนเมื่อวานนี้ (1 เม.ย.) ว่า “เราไม่ได้จงใจทำอะไรเพื่อหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรที่ชาวอเมริกันและชาวยุโรปใช้กับรัสเซีย”

จนถึงขณะนี้ ปักกิ่งยังคงยืนกรานที่จะไม่ “ประณาม” ปฏิบัติการรุกรานยูเครนของรัสเซีย ขณะที่สหรัฐฯ เกรงว่าจีนอาจสนับสนุนมอสโกในด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ หรือช่วยค้ำจุนเศรษฐกิจรัสเซียให้สามารถฝ่าฟันบทลงโทษของตะวันตกไปได้

“เราขอคัดค้านการคว่ำบาตร เพราะผลของมาตรการเหล่านี้เสี่ยงที่จะส่งผลเสียลุกลามไปยังทั่วโลก” หวัง ลู่ถง (Wang Lutong) ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุโรปของกระทรวงการต่างประเทศจีน ระบุในงานแถลงข่าว

'โปแลนด์' โวย 'ฝรั่งเศส-เยอรมนี' ใกล้ชิดรัสเซียเกินไป แถมล้มเหลวหนุนอาวุธยูเครน-ไม่คว่ำบาตรน้ำมันรัสเซีย

สำนักข่าว AFP รายงาน รัฐบาลวอร์ซอได้กล่าวหารัฐบาลปารีส-รัฐบาลเบอร์ลิน ว่าใกล้ชิดกับรัฐบาลมอสโกมากเกินไป

โดยรองนายกรัฐมนตรีของโปแลนด์ กล่าวหาถึงท่าทีของฝรั่งเศสและเยอรมนีว่า มีความใกล้ชิดรัสเซียมากเกินไปในการให้สัมภาษณ์ที่ตีพิมพ์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ขณะที่เขาประณามพฤติกรรมของรัฐบาลเบอร์ลินที่มีต่อรัฐบาลมอสโกก่อนการรุกรานยูเครนด้วย

"เยอรมนีก็เหมือนกับฝรั่งเศส ที่มีอคติอย่างแรงกล้าที่จะสนับสนุนมอสโก” ยาโรสลอว์ คาซินสกี้ ซึ่งเป็นผู้นำพรรคกฎหมายและความยุติธรรม (PiS) บอกกับหนังสือพิมพ์รายวันของเยอรมัน Die Welt ในการให้สัมภาษณ์ โดยเขาบนเข็มต่อว่าไปทางรัฐบาลเบอร์ลินหนักกว่ารัฐบาลปารีสค่อนข้างมากอีกด้วยว่า...

“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ดูเหมือนรัฐบาลเยอรมันจะไม่ต้องการเห็นสิ่งที่รัสเซียกำลังทำสิ่งที่เกิดขึ้นภายใต้การนำของ ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน แต่เราเห็นผลลัพธ์ที่จริงแล้วในวันนี้” คาซินสกี้ กล่าว

“โปแลนด์ไม่พอใจกับบทบาทของเยอรมนีในยุโรป” เขากล่าวเสริม พร้อมตำหนิเบอร์ลิน ที่พยายามเดินตามรอยสิ่งที่อดีตนายกรัฐมนตรีออตโต ฟอน บิสมาร์ก เคยทำมาในศตวรรษที่ 19 นั่นคือ "พลังอำนาจของเยอรมันที่มีรัสเซียคอยเคียงข้าง"

(ทั้งนี้ ในยุคของบิสมาร์กเยอรมนีได้กลายเป็นมหาอำนาจของยุโรปและของโลกและสามารถถ่วงดุลอำนาจในยุโรป ด้วยการไม่ทำตัวเป็นศัตรูกับรัสเซีย เพื่อให้เยอรมนีสามารถต่อกรกับภัยคุกคามจากฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักรได้) 
 

คณะกรรมาธิการยุโรป กล่าว!! จีนแสดงให้โลกเห็น 'ประชาธิปไตย' ไม่ใช่กุญแจสำหรับการเติบโต

กลายเป็นข่าวเด่นในแวดวงเศรษฐกิจโลกกันขึ้นมาเลยทีเดียว หลังจากล่าสุด 1 ในคณะกรรมาธิการทางด้านเศรษฐกิจของสหภาพยุโรปอย่าง Paolo Gentiloni เริ่มส่อแววแปรพักตร์ไปหาจีน 

โดยเขาได้กล่าวว่าตอนนี้ 'จีน' แสดงให้โลกเห็นแล้วว่า "ประชาธิปไตย" นั้นไม่ใช่กุญแจสำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจ ?? ซึ่งคำพูดนี้ถือเป็นการหักหน้าสหรัฐฯ อย่างไม่ต้องถามหมอกันเลยทีเดียว !

Paolo Gentiloni กล่าวในงานที่สถาบันปีเตอร์สันในวอชิงตัน ดี.ซี. ว่า...

“การเติบโตของจีนแสดงให้เห็นแล้วว่าประชาธิปไตยนั้นไม่จำเป็นต่อการบรรลุความสำเร็จทางเศรษฐกิจเลย และนั่นคือการเปลี่ยนแปลงวิถีที่เราได้เห็นและมีการหารือกันกับอีกหลายประเทศ ผมคิดว่าภาพลวงตาแห่งการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบอบการปกครองแบบเผด็จการ ผ่านด้านการค้า การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และความสัมพันธ์ส่วนบุคคล กำลังจางหายไป”

(China’s growth shows that democracy is not necessary to achieve economic success and that is changing the way we see and interact with such countries, I think the illusion of changing an autocratic regime through trade, cultural exchanges, personal relations, is fading,)

'ยุโรป' แห่เปิดบัญชีธนาคารรัสเซีย จ่ายค่าก๊าซ ด้วย 'รูเบิล' ให้หมีขาว

สหพันธรัฐรัสเซีย ถือเป็นมหาอำนาจพลังงานก๊าซที่ยุโรปต้องใช้ราวปีละ 150 พันล้านลูกบาศก์เมตร โดยขายให้ในราคาแสนจะถูกเหมือนได้เปล่าราว 0.25 ดอลลาห์/ลูกบาศก์เมตร (250 ดอลลาห์/พันลูกบาศก์เมตร) มีท่อบริการส่งให้ถึงประตูบ้านแต่ละชาติ เปิดวาล์วใช้ได้เลยไม่ต้องมีการแปรรูปใดๆ 

แต่มาวันนี้ สหรัฐฯ กลับบอกว่ายุโรปซื้อก๊าซถูกไป จงมาซื้อก๊าซเหลว LNG ของตนดีกว่า โดยขายให้ในราคาราว 1.1 ดอลลาห์/ลูกบาศก์เมตร (1,100 ดอลลาห์/พันลูกบาศก์เมตร) แพงกว่ารัสเซีย 4.4 เท่า และซ้ำร้ายก๊าซยี่ปั๊วสหรัฐฯ จะต้องแปรสภาพจากสถานะก๊าซ เป็นของเหลว LNG ก่อนขนส่งมาทางเรือ พ่วงค่าผ่านคลองสุเอซ อียิปต์ เที่ยวละ 1 ล้านดอลลาห์ และประเทศปลายทางต้องมีการสร้างสถานที่จัดเก็บขนาดยักษ์แปรรูปคืนสภาพจากสถานะของเหลวกลับไปเป็นก๊าซดังเดิมอีกขั้นตอนหนึ่ง จึงโดนบวกราคา 2-3 เด้ง!!

แถมตามสัญญาจะต้องใช้เวลานานถึง 7 ปี ถึงปี 2029 ยี่ปั๊วสหรัฐฯ จึงจะส่งให้ยุโรปได้แค่ 50 พันล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ส่วนอีก 100 พันล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ก็ต้องซื้อจากรัสเซียอยู่ดี 

เมื่อนำก๊าซจากสหรัฐฯ มาผลิตไฟฟ้า จึงส่งผลให้ค่าไฟฟ้าครัวเรือนครอบครัว 3-4 คน ที่ใช้อย่างประหยัดสุด กระโดดจั๊มพ์แพงขึ้นมหาโหดไปปีละราว 30,000 ดอลลาร์ (กว่า 1 ล้านบาท) รวมถึงกระทบชิ่งไปยังอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยยุโรปที่เกือบ 10% ซึ่งบางประเทศเกินกว่านี้ไปเยอะแล้วด้วย 

แต่นั่นก็ไม่ใช่ความเห็นใจที่พี่หมีต้องสน เพราะเกมสงครามพ่วงสงครามพลังงาน คือ แต้มต่อที่ทำมาเพื่อให้คนที่ไม่ง้อต้องถูกเชือดโชว์!!

อย่างล่าสุดโปแลนด์ และ บัลกาเรีย ที่ค้างชำระค่าก๊าซรัสเซียเป็นเงินรูเบิล ก็ถูกบริษัท Gazprom รัสเซีย "เชือดไก่ให้ลิงดู" ไม่ต่อสัญญาขาย พร้อมระงับการจ่ายก๊าซจากท่อยามาลในทันที จนสร้างความตระหนกให้ชาติยุโรปอย่างมาก เพราะส่วนใหญ่เกินครึ่งกลัวกันหัวหดว่ารัสเซียจะเชือดนิ่มๆ แบบ 2 ชาตินั้นบ้าง จึงแห่กันไปเปิดบัญชีกับ Gazprombank ของรัสเซียร่วม 10 ประเทศ เพื่อเตรียมคุกเข่าศิโรราบจ่ายค่าก๊าซเป็นรูเบิล และมีอีก 4 ประเทศ เอาตัวรอดหนีตายจ่ายค่าก๊าซเป็นรูเบิลไปก่อนแล้ว เหลืออีก 13 ประเทศใน EU ยังเขิน เก้ๆ กังๆ 

'ผู้เชี่ยวชาญ' ชี้!! ฝีดาษลิงระบาดในยุโรป ความเสี่ยงระบาดต่ำ ไม่แพร่เหมือนโควิด

ยุโรปพบผู้ติดเชื้อหรือสงสัยว่า ติดเชื้อไวรัสฝีดาษลิง หรือ ไข้ทรพิษลิง (Monkeypox) เพิ่มอีก 3 ประเทศ ได้แก่ ฝรั่งเศส, อิตาลี และสวีเดน รวมเป็น 6 ประเทศ เพิ่มจากเดิม คือ สหราชอาณาจักร, สเปน และโปรตุเกส โดยทั้ง 3 ประเทศแรกนี้ยืนยันชัดว่าพบผู้ติดเชื้อแล้ว 

ด้านสหราชอาณาจักร ประเทศแรกที่พบผู้ติดเชื้อไวรัสฝีดาษลิงเมื่อวันที่ 7 พ.ค. ยืนยันยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มอีกเป็น 9 คน จากเดิม 6 คน ส่วนโปรตุเกสสถานการณ์หนักที่สุด พบทั้งผู้ติดเชื้อและสงสัยว่าติดเชื้อมากที่สุด โดยยืนยันผู้ติดเชื้อแล้ว 14 คน และพบผู้ต้องสงสัยติดเชื้ออีก 20 คน 

ขณะที่ สหรัฐฯ ยืนยันพบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงแล้ว 1 คนในรัฐแมสซาชูเส็ตส์ เพิ่งเดินทางกลับจากแคนาดา และล่าสุดพบเคสต้องสงสัย 1 คนในนครนิวยอร์ก ส่วนในแคนาดาพบผู้สงสัยว่าติดเชื้อฝีดาษลิง 13 คน แต่ยังไม่ยืนยัน

ประเทศยุโรปที่พบผู้ติดเชื้อหรือสงสัยว่าติดเชื้อฝีดาษลิง ได้เริ่มสอบสวนหาที่มาที่ไปของโรคนี้แล้ว รวมถึงสหรัฐฯ และแคนาดาก็เริ่มสอบสวนด้วยเช่นกัน

สหรัฐฯ วอนยุโรปอดทน หลังต้องตัดส่งก๊าซ 3 เดือน เหตุแท่นขุดเจาะระเบิด และยังซ่อมไม่เสร็จ

สหรัฐฯ ประกาศ!! ตัดส่งก๊าซให้ยุโรป เป็นเวลา 3 เดือน วอนยุโรป อดทนอีกนิด ชัยชนะแค่เอื้อมแล้ว

(29 มิ.ย.65) World Update รายงานถึงประเด็น ที่ทางด้านของ สหรัฐฯ ได้ประกาศว่าจำเป็นที่จะต้องตัดการส่งก๊าซให้ยุโรปต่อไปอีกเป็นเวลา 3 เดือน หลังจากที่ยังซ่อมแท่นขุดเจาะไม่เสร็จ โดยมีรายละเอียด ว่า...

'ยุโรป ชัยชนะแค่เอื้อมแล้วทนอีกสักนิด สหรัฐ ตัดส่งก๊าซต่อไปอีกแค่ 3 เดือน เท่านั้น'

จากกรณียุโรป หลงกลสหรัฐฯ คว่ำบาตรพลังงานรัสเซีย ต่อมาก็ถูกสหรัฐฯ บีบคอบังคับให้คว่ำบาตรก๊าซราคาถูกส่งมาตามท่อจากรัสเซีย แล้วหันมาซื้อก๊าซเหลว LNG อัดอุณภูมิติดลบ 160 องศา ใส่ถังใหญ่ส่งทางเรือขนส่งข้ามโลกจากสหรัฐฯ ราคาจะแพงกว่า 500% สัญญา 8 ปี เท่านั้นเอง

ทั้งนี้ สหรัฐฯ จะรับประกันความมั่นคงทางพลังงาน และจะมายืนเคียงข้างเสมอ ยุโรปไม่ต้องกลัว ทำให้ชาติยุโรปเชื่อสหรัฐฯ ผู้มีฉายา 'เข้าแก๊งค์ไหนลูกน้องตายหมด' แต่ปี 2022 นี้ตามสัญญา จะส่งให้ยุโรปแค่ราว 10% ของที่รัสเซียเคยส่งให้ 

ต่อมาเกิดบูมเบอแรงก๊าซในสหรัฐฯ เกิดภาวะขาดแคลนเสียเอง ราคาแพงพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว สร้างความเดือดร้อนประชาชนในวงกว้าง บางปั๊มถึงกับต้องปิดตัวชั่วคราว คะแนนนิยมรัฐบาลโจ ไบเดน ตกต่ำเหลือแค่กว่า 30% 

และแล้วมือมืดก็ทำให้แท่นขุดเจาะบริษัท Freeport LNG ระเบิดพัง ส่งผลให้กำลังการผลิตและส่งออก 20% ของสหรัฐฯ หายไป 

สหภาพยุโรปถูกหัวหน้าหักหลัง อ้างว่าเกิดเหตุสุดวิสัย ขอระงับส่งก๊าซให้ยุโรป 3 สัปดาห์ กระทบเดือดร้อนไปทั้งยุโรป, ญี่ปุ่น, เกาหลีไต้ 

แต่แล้วขึ้นชื่อสหรัฐฯ แล้ว ไม่เคยทำให้บริวารผิดหวัง ได้แจ้งต่อว่า "ยังซ่อมไม่เสร็จ จำเป็นต้องระงับส่งก๊าซยุโรปต่ออีก 3 เดือน" ถึง ก.ย.2022 

ชาติยุโรป แทบล้มทั้งยืน เพราะสัญญาร่วมลงทุนก๊าซเยอรมนี 3%, ฝรั่งเศส 7% กับกาตาร์ นั้นจะมีผลในปี 2026 รอนานอีก 4 ปี

ส่วนสัญญา EU ซื้อก๊าซจากอิสราเอลนั้น ยังอีกนานหลายปีที่ต้องสร้างโรงอัดก๊าซในอียิปต์ แถมต้องจ่าย 'ค่าคุกเข่าขอคืนดี' จำนวน 418 ล้านยูโร แยกเป็นค่าโครงสร้างพื้นฐาน 300 ล้านยูโร และอาหาร 118 ล้านยูโร แต่ปริมาณก๊าซก็เล็กน้อยมาก ๆ แค่ราว 15,000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี (ราว 10% ของการนำเข้าจากรัสเซีย) ระยะเวลาสร้างโรงอัดก๊าซอียิปต์ อีกหลายปีไม่ทันวิกฤติ EU ในตอนนี้ ส่วนการเมืองภายในอิสราเอล นั้นวุ่นวายหนักพรรคร่วมรัฐบาล 8 พรรคแตกเป็นเสี่ยง นายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภา ตกเก้าอี้ไปแล้วเรียบร้อยแล้ว ปลายปี 2022 จะจัดเลือกตั้งใหม่ 

การผลิตก๊าซจากนอร์เวย์ และอาเซอร์ไบจัน ก็ผลิตเต็มกำลังแล้ว ส่วนแอลบาเนีย และ แอฟริกาเหนือ แม้จะขายก๊าซให้ EU แต่ ก็เป็นอริกับโมร็อกโก และอิสราเอล จึงต้องสร้างสมดุลกับพันธมิตรรัสเซีย - จีน

ครั้นจะหวังพึ่งพิงรัสเซีย ก็ยากเสียแล้ว เนื่องจากสหภาพยุโรป ยังส่งอาวุธให้ยูเครน ทำให้รัสเซีย สั่งปิดท่อก๊าซ Yamal ที่ผ่านโปแลนด์ และลดส่งก๊าซผ่านท่อ Nord stream1 ไปเยอรมนี เหลือ 40% จำนวน 67 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน และซ้ำด้วยแจ้งปิดวาล์วสนิท 100% ในเดือน ก.ค.2022 ยาว 10 วัน เพื่อซ่อมบำรุง

‘ยูเนสโก’ เตือน!! หลายเมืองในยุโรป จะโดนคลื่นยักษ์ถล่มแน่นอน 100%

ผู้เชี่ยวชาญขององค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ‘ยูเนสโก’ ออกมาเตือนว่า มีโอกาส 100% ที่จะเกิดคลื่นสึนามิถล่มเมืองใหญ่รอบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

ยูเนสโก เน้นย้ำว่า อันตรายจากคลื่นสึนามิถูกประเมินต่ำเกินไปในบริเวณพื้นที่ชายฝั่งที่ไม่มักค่อยเผชิญกับสึนามิบ่อยนัก แต่ตอนนี้ความเสี่ยงดังกล่าวถูกมองว่า มีเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากระดับน้ำทะเลเพิ่มสูง

ทั้งนี้ หากย้อนไปเมื่อต้นปียูเนสโก ได้ประกาศว่า ชุมชนเสี่ยง 5 แห่งในแถบเมดิเตอร์เรเนียน อาจต้องเตรียมรับมือกับภัยสึนามิที่พร้อมจะลุกลามให้ได้ภายในปี 2030 ไม่ว่าจะเป็น มาร์เซยและคานส์ในฝรั่งเศส, อเล็กซานเดรียในอียิปต์, อิสตันบูลในตุรกี และชิพิโอนาในสเปน เพราะมีความเป็นไปได้ที่เมืองเหล่านี้จะมีโอกาสเผชิญคลื่นสูงกว่า 1 เมตรใน 30 ปีข้างหน้า บนความเป็นไปได้ถึง 100% อีกด้วย

หนาวนี้สะท้าน!! หลังราคาก๊าซในยุโรปพุ่ง 30% เหตุรัสเซียปิดท่อ 'นอร์ดสตรีม 1' อย่างไม่มึกำหนด

ราคาก๊าซในสหภาพยุโรปพุ่งกระฉูด ภายหลังรัสเซียปิดท่อส่ง ‘นอร์ดสตรีม 1’ อย่างไม่มีกำหนด หลังรัสเซียแจ้งว่า เกิดการรั่วไหล่ในอุปกรณ์ท่อส่ง

ราคาก๊าซในอียูพุ่งขึ้นอีก 30% หลังรัสเซียบอกว่า ท่อส่งก๊าซหลักไปยุโรปตัวหนึ่งจะต้องปิดอย่างไม่มีกำหนด ทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับการขาดแคลนและการปันส่วนก๊าซในสหภาพยุโรปช่วงฤดูหนาว โดยราคาก๊าซพุ่งขึ้นเป็น 272 ยูโร หรือราว 9,881 บาทต่อ 1 เมกะวัตต์ชั่วโมง ภายหลังรัสเซียแจ้งว่า เกิดการรั่วไหล่ในอุปกรณ์ท่อส่งนอร์ดสตรีม 1 ทำให้ต้องปิดท่อต่อไป หลังหยุดบำรุงรักษา 3 วันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ก่อนหน้านี้ ยุโรปกล่าวหารัสเซียใช้การส่งพลังงานเป็นอาวุธ ตอบโต้ชาติตะวันตกที่คว่ำบาตรรัสเซีย กรณีบุกยูเครนเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ แต่รัสเซียบอกว่าชาติตะวันตกทำสงครามเศรษฐกิจและคว่ำบาตร เป็นตัวการขัดขวางปฏิบัติการท่อส่งก๊าซ

ทั้งนี้ ท่อส่งนอร์ดสตรีม 1 ซึ่งส่งก๊าซไปเยอรมนี ในปริมาณก๊าซแค่ 20% ก่อนที่รัสเซียหยุดส่งชั่วคราว เพื่อบำรุงรักษาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว การที่รัสเซียส่งก๊าซไปยุโรปลดลงทำให้อียูต้องแสวงหาแหล่งพลังงานทางเลือก เพื่อเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปก่อนเข้าสู่ฤดูหนาว ส่งผลให้หลายประเทศในสหภาพยุโรปมีแผนฉุกเฉิน เพื่อนำไปสู่การปันส่วนพลังงาน และมีโอกาสสูงที่เข้าสู่ภาวะถดถอย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top