Saturday, 27 April 2024
ยอดเขาเอเวอเรสต์

ไขปริศนา!! เพราะเหตุใดจึงไม่มีการจัดการกับร่างนักปีนเขา ซึ่งเสียชีวิตบนเขาเอเวอเรสต์

ข้อมูลอ้างอิงตัวเลขจนถึงเดือนมกราคม พ.ศ. ๒๕๖๔ มีผู้เสียชีวิตขณะพยายามปีนขึ้นสู่ยอดเขาเอเวอเรสต์มากถึง ๓๐๕ ราย ร่างของผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่มากกว่า ๒๐๐ ร่าง ยังคงอยู่บนเอเวอเรสต์ บางร่างก็ไม่เคยถูกพบมาก่อน บางร่างก็ต้องทำหน้าที่เป็นเหมือนกับ ‘เครื่องหมาย’ ที่น่าสะพรึงกลัวตลอดเส้นทางสู่ยอดเขา และบางร่างจะถูกพบในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าเมื่อสภาพอากาศบนยอดเขาเอเวอเรสต์เปลี่ยนแปลงไป

เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. ๒๕๖๔ มีนักปีนเขาที่หวังจะประสบความสำเร็จในการพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์สูงถึง ๑๐,๑๘๔ ราย แต่มีแค่บางคนที่สามารถพิชิตสำเร็จได้หลายครั้ง จึงมีผู้พิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์สำเร็จเพียง ๕,๗๓๙ คน แม้ว่าจำนวนนักปีนเขาที่เสียชีวิตบนภูเขาจะมีเป็นจำนวนมาก แต่คิดเป็นอัตราการเสียชีวิตเพียง 3% สำหรับยอดเขาเอเวอเรสต์ นั่นหมายความว่า นักปีนเขาประมาณหนึ่งคนในสามสิบสามคนจะจบลงด้วยความตาย

ทำไมพวกเขาถึงทิ้งร่างของนักปีนเขาที่เสียชีวิตบนเอเวอเรสต์ไว้มากมาย? ทำไมไม่จัดการกับร่างเหล่านั้นอย่างถูกต้องตามประเพณี? บ้างก็อ้างว่า ร่างอยู่ที่นั่นเป็นเหมือนเครื่องหมายอ้างอิงแสดงเส้นทางให้นักปีนเขาคนอื่น ๆ 

แต่แน่นอน นี่ไม่ใช่เหตุผลที่ฟังขึ้น เพราะความจริงแล้วจุดอ้างอิงนั้นจะมีประโยชน์อย่างไร ในเมื่อจุดนั้น ๆ มีเพียงหิน และน้ำแข็งปกคลุม เมื่อร่างผู้เสียชีวิตถูกทิ้งไว้จึงดูไม่แปลกจากสภาพแวดล้อมอื่นๆ อีกทั้งร่างพวกนั้นอยู่ในเขตที่เรียกว่า ‘แดนมรณะ’ นั่นคือระดับความสูงที่มนุษย์จะเสียชีวิตหากปราศจากออกซิเจนในทุกวินาทีที่อยู่บนนั้น

โดยธรรมชาติแล้วร่างกายของมนุษย์ไม่สามารถรับมือกับระดับความสูงมาก ๆ ได้นาน เพราะความสูงประมาณ ๙,๐๐๐ เมตร เท่ากับระดับความสูงการบินของเที่ยวบินโดยสารระยะสั้น แม้จะมีออกซิเจนเสริม 

ทุกสิ่งที่มนุษย์ต้องทำกลายเป็นความพยายามอย่างน่าเหลือเชื่อ เพราะต้องทำเรื่องที่คิดว่าง่ายที่สุด (ในสถานการณ์ปกติ) ระหว่างการปีนเพื่อไต่ความสูงในระดับสูงมาก ๆ ขนาดนั้น เช่น การดื่ม การกิน การย่อยอาหาร การนอนหลับ และรักษาบาดแผล ล้วนแล้วแต่มีผลต่อการใช้ออกซิเจนของบรรดานักปีนเขาเหล่านั้นทั้งสิ้น 

แต่หากนักปีนเขาเข้าสู่เขตมรณะแล้ว ก็จะมีคำเตือนที่ว่า ควรจะใช้เวลาอยู่ในบริเวณนั้นให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ไม่มีการจัดการกับร่างของบรรดานักปีนเขาที่เสียชีวิตบนเอเวอเรสต์

แต่หากร่างผู้เสียชีวิตอยู่ในพื้นที่ที่สามารถเข้าถึงได้ และครอบครัวของนักปีนเขาที่เสียชีวิตเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ ทีมงานก็จะพยายามเก็บกู้ร่างของพวกเขาออกมา ซึ่งต้องแลกกับความเสี่ยงที่สูงมาก ๆ ของนักปีนเขาที่ขึ้นไปเก็บกู้ จึงมีค่าใช้จ่ายมหาศาลทั้งแรงงานของนักปีนเขาชาวเชอร์ปาในท้องถิ่นและค่าชั่วโมงบินของเฮลิคอปเตอร์

หรือไม่เช่นนั้นร่างของผู้เสียชีวิตก็อาจจะถูกผลักลงจากหน้าผาหรือรอยแยกเพื่อให้พ้นสายตา ซึ่งถือว่าเป็นการฝังร่างตามแบบนักปีนเขาที่สง่างาม สมความภาคภูมิของเหล่าบรรดานักปีนเขา 

อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่แล้วร่างนักปีนเขาที่เสียชีวิตจะถูกทิ้งไว้ที่จุดเดิมตรงที่พวกเขาเสียชีวิต เพราะไม่มีใครที่จะยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อกู้ร่างของนักปีนเขาที่เสียชีวิตเหล่านั้น และนั่นถือเป็นเรื่องที่น่าเศร้าสลดใจ แต่ใครที่เลือกเป็นนักปีนเขาแล้ว และยินดีที่จะปีนเพื่อขึ้นไปบนนั้นย่อมรับรู้เรื่องนี้ดี

มนุษย์ที่ลืมความกลัว | TIME TO KNOW EP.17

‘หนึ่ง วิทิตนันท์ โรจนพานิช’ คนไทยคนแรกที่ปีนยอดเขาเอเวอเรสต์สำเร็จ ซึ่งเขากล่าวว่าได้ใช้พลังศรัทธา ที่ทำให้ฝ่าฟันอุปสรรค ลืมความกลัวและมุ่งสู่ความสำเร็จในการปีนยอดเขาเอเวอเรสต์ จุดสูงสุดของโลก ที่มีขนาดเพียง 4x4 เมตร ซึ่งมีเพียงไม่กี่คนบนโลกใบนี้ที่จะไปถึง ติดตามชมคลิปนี้แล้วจะได้พลังและกำลังใจดีๆ ไปใช้ในชีวิตได้อย่างแน่นอน…. 

.

วันนี้ได้รับเกียรติจาก คุณ วิทิตนันท์ โรจนพานิช 

คนไทยคนแรกผู้พิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์

.

ดำเนินรายการโดย อ๊อดโต้ วสันต์ 

Content Manager THE STATES TIMES

.

รับชม TIME TO KNOW ตอนอื่นๆ ได้ที่ :  https://youtube.com/playlist?list=PL60bae1syuyLeCUW3J3YQWxrNs4ZAeXBp 

.

🎥 ช่องทางรับชม

Facebook: THE STATES TIMES PODCAST

YouTube: THE STATES TIMES PODCAST

TikTok: THE STATES TIMES PODCAST

.

#THESTATESTIMESPodcast

#THESTATESTIMES

#TIMETOLISTENING

#คนไทยคนแรก

#ผู้พิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์

#ยอดเขาเอเวอเรสต์

'วิทิตนันท์ โรจนพานิช' คนไทยคนแรกผู้พิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ ปลื้ม!! 'ศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาฯ' เชิดชูเกียรติในฐานะผู้มีคุณูปการ-นิสิตเก่าดีเด่น

(1 มี.ค.67) นายวิทิตนันท์ โรจนพานิช คนไทยคนแรกที่พิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ ยอดเขาที่สูงที่สุดใน 7 ทวีป และเป็นคนที่ 179 ของโลก เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 พร้อมทั้งเป็นนิสิตเก่าดีเด่น ภาควิชาทัศนศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ขอบคุณทางคณะฯ ที่ได้จัดงาน 'พิธียกย่องเชิดชูเกียรติผู้มีคุณูปการและนิสิตเก่าดีเด่น' โดยระบุว่า...

กราบขอบพระคุณท่านคณาจารย์ผู้ก่อตั้งสถาปนา อาจารย์ผู้พร่ำสอนสรรพวิทยา เจ้าหน้าที่ทุกๆ ท่านที่ร่วมกันเดินทางมาจนถึงปีที่ ๔๐ ของคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันนี้กระผมได้รับเกียรติอันสูง จึงขอกราบแสดงความคารวะและกราบขอบพระคุณทุกท่านด้วยหัวใจครับ กระผมคงเป็นศิลปกรรมหนึ่งเดียว (ในตอนนี้) ที่เรียนจบภาควิชาทัศนศิลป์ เอกปีนเขา ซึ่งไม่มีใครรู้ว่า มันเป็นศิลปะ ! สิ่งนี้คืองาน Happening Art ที่โหดที่สุดในชีวิตครับ ดีใจมากกว่าการได้รับการเชิดชูคือ ได้ทำประโยชน์และทำตามความฝัน และสิ่งที่ได้เพิ่มเติมคือชื่อ ที่คนศิลปกรรมเค้าเรียกกระผมว่า 'หนึ่งบ้า'


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top