Thursday, 2 May 2024
มศว

ชัยวุฒิ’ ชู!! นโยบายการศึกษา มุ่งพัฒนา ‘ภาษา-ดิจิทัล’ ด้าน นักศึกษา มศว ปลื้ม ‘พี่โอ๋ ตัวตึง’ เป็นกันเองกว่าที่คิด

‘ชัยวุฒิ’ ร่วมเสวนานโยบายการศึกษา ระบุชัด ความจริงมีเรื่องเดียว แต่ได้รับข้อมูลไม่ตรงกัน จึงมีความเห็นต่าง พปชร.ขออาสาประสานให้ทุกฝ่ายสามารถพูดคุยกันได้ เพื่อพัฒนาประเทศและระบบการศึกษาไทย ด้านนักศึกษา มศว ปลื้ม ‘พี่โอ๋ ตัวตึง’ เป็นกันเองกว่าที่คิด ให้ถ่ายรูปได้อย่างใกล้ชิด 

(9 พ.ค. 66) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เข้าร่วมเสวนาทางการเมือง ซึ่งหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร จัดขึ้นในหัวข้อ นโยบายด้านการศึกษาและสังคม ณ สนามกีฬากลาง ม.ร.ว.จุรีพรหม กมลาศน์ (มศว ประสานมิตร) โดยมีตัวแทนจาก ทั้งหมด 8 พรรคการเมืองเข้าร่วม

ทั้งนี้ ได้กล่าวถึงนโยบายระบบการศึกษาว่า ส่วนมากหลายพรรคการเมืองมักไม่ค่อยพูดถึงเรื่องการศึกษาในเวทีดีเบตต่างๆ เท่าที่ควร เนื่องจากเป็นนโยบายที่ไม่ค่อยมีความขัดแย้งทางความคิดกันมากนัก หลายๆ พรรคมักจะมีนโยบายเกี่ยวกับระบบการศึกษาที่คล้ายกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเปิดโอกาส การเรียนเสริมด้านภาษา เทคโนโลยีและดิจิทัล ทุกรัฐบาลที่ผ่านมาก็มีการพัฒนามาโดยตลอด เพราะไม่ต้องใช้การเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่หนึ่งปัญหาใหญ่ของประเทศ คือ การขาดแรงงานด้านเทคโนโลยีดิจิทัล หรือ ‘STEM’ ที่ค่อนข้างมีน้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้าน และเรื่องของภาษาก็มีส่วนสำคัญ ที่ต้องพัฒนา เพราะมีส่วนสำคัญต่อการตัดสินใจของนักลงทุนต่างชาติ ที่จะเข้ามาเปิดโรงงาน หรือ ฐานการผลิตภายในประเทศ 

ขณะที่ปัญหาความเหลื่อมล้ำของระบบการศึกษา ระหว่างพื้นที่ห่างไกลกับเขตเมือง ซึ่งยังคงมีคุณภาพที่แตกต่างกันอยู่ ถือเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องเร่งแก้ไข โดยทุกรัฐบาลก็พยายามแก้ไข ให้โอกาสเด็กๆ ทั้งประเทศได้มีความเท่าเทียมกันทางด้านการศึกษา

นอกจากนี้ นายชัยวุฒิ ยังได้กล่าวทิ้งท้ายในการเสวนาครั้งนี้อีกด้วยว่า เห็นด้วยกับหลายนโยบายด้านการศึกษาของพรรคต่างๆ ที่มาร่วมเสวนาในวันนี้ ซึ่งถือเป็นการร่วมมือกันพัฒนาประเทศ ทั้งนี้ เรื่องของการเมืองนั้นไม่ได้สำคัญแค่เรื่องนโยบาย แต่สำคัญที่ว่า หากพรรคนั้นได้เป็นรัฐบาลแล้ว สามารถทำให้รัฐบาลมีสเถียรภาพได้หรือไม่ ทำงานได้ บ้านเมืองก้าวไปข้างหน้าได้ โดยไม่มีความขัดแย้ง ซึ่งพรรคพลังประชารัฐ ขออาสาแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง บางเรื่องสามารถคิดต่างกันได้ เห็นไม่ตรงกันได้ แม้ความจริงจะมีอยู่เรื่องเดียว แต่รับข้อมูลมาไม่เหมือนกันก็เกิดเป็นความขัดแย้ง พรรคพลังประชารัฐจึงสามารถประสานให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน พูดคุยทำความเข้าใจกันได้ หาทางออกแก้ไขร่วมกัน จับมือไปด้วยกัน ให้ประเทศไทย เป็นบ้านเมืองที่น่าอยู่ตลอดไป

ด้าน ‘น้องมังกร’ นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มศว ปี 1 นักศึกษาที่มาร่วมรับฟังการเสวนา ได้สะท้อนมุมมองที่มีต่อพรรคพลังประชารัฐ และนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค ว่า รู้สึกปลื้มใจ ไม่คิดว่าจะเป็นกันเองมากขนาดนี้ จากที่เห็นภาพลักษณ์ตามเวทีดีเบตต่างๆ ที่ได้ฉายา ‘ตัวตึง’ คิดว่าจะเข้าถึงได้ยาก แต่กลับกัน เป็นคนที่อัธยาศัยดี เป็นกันเอง ขอถ่ายรูปก็ได้ถ่ายด้วยอย่างใกล้ชิด จึงรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก พร้อมขอบคุณที่มาร่วมในการเสวนา และให้ความรู้ในวันนี้

‘ดร.หิมาลัย’ ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดกับเด็กรุ่นใหม่ ย้ำชัด!! ควรหยุดวาทกรรม ‘ชังชาติ’ ก่อนทำสังคมแตกแยก

(11 พ.ค.66) ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ร่วมเวทีเสวนา : คนรุ่นใหม่ชังชาติจริงหรือไม่? ซึ่งจัดโดยเครือข่ายแรงใจ โดยมีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) เข้าร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจำนวนมาก 

พร้อมกันนี้ ดร.หิมาลัย ได้ให้ความเห็นว่า ในบริบทของสังคมไทยในปัจจุบัน โดยส่วนตัวแล้วไม่อยากให้ใช้คำว่า ‘ชังชาติ’ ไม่ว่ากับคนกลุ่มใด เพราะความรักชาติของคนแต่ละช่วงวัยนั้นไม่เหมือนกัน และอาจแสดงออกแตกต่างกัน เพราะฉะนั้น จะต้องเปิดใจรับฟังซึ่งกันและกัน

เพราะคนที่ถูกตราหน้าว่า ‘ชังชาติ’ นั้น แท้จริงแล้วเขาอาจจะรักชาติในมุมของเขาก็ได้ และแสดงออกในแบบที่เขาเชื่อว่าถูกต้องจนสุดโต่ง ส่วนคนที่บอกว่าตนเองรักชาตินั้น บางครั้งอาจจะเลยไปถึงขั้นชาตินิยม และจะไม่ยอมรับความเห็นต่างจากคนอื่น ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องนัก เนื่องจากในบริบทของสังคมทุกสังคม จะต้องยอมรับความเห็นและให้เกียรติซึ่งกันและกัน แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของกรอบกฎหมาย

ดร.หิมาลัย ย้ำว่า สังคมไทยกำลังถูกวาทกรรมและความคิดของคนต่างวัยบ่อนทำลาย เพราะฉะนั้น อยากให้ผู้ใหญ่รับฟังความคิดเด็ก ๆ คนรุ่นใหม่โดยไม่ปิดกั้น เพราะความคิดของเด็กก็ไม่ใช่ว่าจะผิดทุกครั้ง และเช่นเดียวกัน ความคิดของผู้ใหญ่ก็ใช่ว่าจะถูกต้องเสมอไป เรื่องบางเรื่องผู้ใหญ่ควรเรียนรู้จากเด็ก

“อยากจะยกตัวอย่างสิ่งที่ผู้ใหญ่ควรเรียนรู้จากเด็กรุ่นใหม่ จากสิ่งที่เพิ่งประสบมาล่าสุด จากการที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติบางคน ที่ออกมาเรียกร้องค่าใช้จ่ายในการหาเสียงจากทางพรรค ซึ่งเป็นนักการเมืองรุ่นเก่า ตนได้ชี้แจงไปว่า พรรคเราทำการเมืองตามอุดมการณ์ ใช้งบประมาณตามที่ได้รับบริจาคมา ซึ่งไม่มีมากนัก แต่เมื่อย้อนกลับไปดูผู้สมัครที่เป็นคนรุ่นใหม่ ทั้งที่อยู่ในพรรคของเราเอง และพรรคอื่น ๆ ที่มีความตั้งใจทำงานการเมืองอย่างที่อยากทำ กลับไม่มีการเรียกร้อง แต่ใช้การบริหารงบประมาณได้รับ และหาวิธีหาเสียงกับกลุ่มเป้าหมายโดยไม่ย่อท้อ ซึ่งตรงนี้ต้องขอยกย่องและเป็นสิ่งที่นักการเมืองรุ่นเก่าหรือผู้ใหญ่จะต้องเรียนรู้และปรับตัว”

ขณะที่ ส่วนประเด็นที่หลายคนกล่าวหาว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นพรรคเผด็จการนั้น ดร.หิมาลัย ชี้แจงว่า จากการที่ได้ทำงานร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์อย่างใกล้ชิด และท่านได้ตัดสินใจทำการเมืองต่อ ไม่ใช่เพราะการอยากจะสืบต่ออำนาจแต่อย่างใด เพียงแต่ท่านเห็นว่ายังมีสิ่งที่ยังน่ากังวล และต้องการทำสิ่งที่เริ่มต้นมาแล้วให้สำเร็จลุล่วง แต่ในขณะเดียวกันท่านได้ย้ำเสมอว่า การจะได้ทำต่อหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพี่น้องประชาชน ถ้าประชาชนเห็นว่าสิ่งที่ท่านทำมาตลอดนั้นมีประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่ถ้าประชาชนไม่ให้ไปต่อ ก็ต้องยอมรับ เพราะท่านยึดหลักในระบอบประชาธิปไตย อำนาจอยู่ที่ปลายปากกาของประชาชน และไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาเช่นไรท่านก็พร้อมจะยอมรับ

‘น้องใยไหม’ อดีตดาราเด็ก สวมชุดนักศึกษาเฟรชชี่ปี 1 ใสๆ หลังสอบติดม.ดัง พี่สาวชาวเน็ตอึ้ง!! โตเป็นสาวเกือบจำไม่ได้

(11 ส.ค.66) เผลอเเป๊ปเดียวโตเป็นสาวสวยเเล้ว สำหรับ ‘น้องใยไหม ชินารดี อนุพงษ์ภิชาติ’ อดีตดาราเด็กที่โด่งดังเป็นที่รู้จักจาก โฆษณา TVC เบบี้มายด์ ครีมอาบน้ำ ละครโทรทัศน์เรื่อง ลิขิตเสน่หา รับบทเป็น ‘ไข่ตุ๋น’ และละคร วาสนารัก รับบท ‘จินตนา’ รุ่นลูกตอนเด็ก

ล่าสุดในอินสตราแกรมของคุณเเม่น้องใยไหม ได้โพสต์ภาพของลูกสาวสวมใส่ชุดนักศึกษาสุดน่ารัก หลังจากที่สามารถสอบติดมหาวิทยาลัยชื่อดังอย่าง มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

หลังจากที่ภาพนี้ถูกเผยเเพร่ออกไปต่างมีเเฟนคลับเข้ามาคอมเมนต์มากมาย อาทิ ตามมาตั้งแต่เด็ก ๆ โตเป็นสาวแล้วววว, น่ารักครับน้องใหม่ ปี 1, เห้ยๆ เด็ก มศว. เป็นต้น


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top