Saturday, 27 April 2024
ฟิลิปปินส์

‘ฟิลิปปินส์ - อังกฤษ’ ย้ำจุดยืน!! ‘ไม่แบนบุหรี่ไฟฟ้า’ เครือข่ายบุหรี่ไฟฟ้าแนะไทย ดูเป็นแบบอย่าง

เครือข่ายบุหรี่ไฟฟ้า เผยความเคลื่อนไหวจากการประชุมยาสูบโลก ชี้รัฐบาลฟิลิปปินส์ลุกขึ้นแถลงจุดยืนกลางที่ประชุมฯ ว่าจะเน้นนโยบายควบคุมยาสูบแบบสมดุล ทั้งทางด้านกฎระเบียบและการเก็บภาษี และจะไม่แบนบุหรีไฟฟ้า เพื่อป้องกันผลเชิงลบ ขณะที่อังกฤษระบุอัตราผู้สูบบุหรี่ลดต่ำสุด เป็นผลมาจากมาตรการที่ครอบคลุมรวมถึงการสนับสนุนบุหรี่ไฟฟ้า แนะประเทศไทยเดินตามรอยสองประเทศ เพื่อประโยชน์ประเทศและผู้สูบบุหรี่

นายอาสา ศาลิคุปต เครือข่ายบุหรี่ไฟฟ้า กลุ่มลาขาดควันยาสูบ และเพจ "บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร" เผยความเคลื่อนไหวจากการประชุมภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบ ขององค์การอนามัยโลก ครั้งที่ 9 หรือ FCTC COP 9 ระบุว่า “กระทรวงต่างประเทศของฟิลิปปินส์เป็นตัวแทนของประเทศลุกขึ้นเรียกร้องให้องค์การอนามัยโลกพิจารณาข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทดแทนการสูบบุหรี่ เพื่อทำให้มาตรการควบคุมการสูบบุหรี่กลับมามีประสิทธิภาพอีกครั้ง ฟิลิปปินส์ยอมรับว่าการเก็บภาษีบุหรี่ทำให้รัฐบาลมีรายได้จำนวนมาก เพื่อใช้บริหารประเทศและทำกิจกรรมรณรงค์เลิกบุหรี่ แต่ฟิลิปปินส์รู้ว่าการเก็บภาษีอย่างสุดโต่งไม่ทำให้การเลิกบุหรี่สำเร็จได้ จึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการควบคุมยาสูบแบบสมดุลทั้งทางด้านกฎระเบียบและการเก็บภาษี และย้ำอย่างชัดเจนว่าจะไม่มีการแบนบุหรี่ไฟฟ้าแน่นอน”

นายเทอโดโร ลอคสิน จูเนียร์ รมว.ต่างประเทศกล่าวเพิ่มเติมระหว่างการเปิดประชุม FCTC COP 9 ว่าการแบนบุหรี่ไฟฟ้ายิ่งทำให้เกิดตลาดใต้ดินและการลักลอบนำเข้าในประเทศมากขึ้น ซึ่งฟิลิปปินส์เสนอว่าการแก้ปัญหาบุหรี่และตลาดใต้ดินบุหรี่ไฟฟ้าจำเป็นต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย และการปรึกษาหารืออย่างครอบคลุมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด

ขณะที่ตัวแทนจากกระทรวงสาธารณสุขประเทศอังกฤษกล่าวว่า อัตราการสูบบุหรี่ในประเทศอังกฤษลดลงอย่างต่อเนื่องมาตลอด 20 ปี ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการควบคุมการบริโภคยาสูบอย่างครอบคลุม ซึ่งรวมถึงการขึ้นภาษีบุหรี่ การห้ามสูบบุหรี่ในพื้นที่สาธารณะ และการสนับสนุนให้ผู้สูบบุหรี่เปลี่ยนไปใช้บุหรี่ไฟฟ้าที่ได้รับการควบคุม

นายมาริษ กรัณยวัฒน์ ตัวแทนเครือข่ายลาขาดควันยาสูบ อีกรายกล่าวเสริมว่า “ฟิลิปปินส์ให้ความสำคัญกับงานวิจัยทั้งในประเทศและต่างประเทศซึ่งสรุปตรงกันว่าบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายน้อยกว่าบุหรี่ จึงเพิ่งผ่านร่างกฎหมายควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อเป็นกรอบควบคุมยาสูบรูปแบบใหม่ที่จะช่วยให้ดอันตรายให้กับผู้สูบบุหรี่ได้ ในขณะเดียวกันก็ช่วยป้องกันการขายผลิตภัณฑ์ให้กับเด็กอายุต่ำกว่าเกณฑ์ ส่วนอังกฤษก็เป็นประเทศต้นแบบที่สนับสนุนเรื่องการใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพื่อการเลิกบุหรี่ สองประเทศนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของการพิจารณาอย่างรอบคอบและรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย มาตรการที่ออกมาจึงมีการศึกษาข้อดีและผลกระทบอย่างรอบคอบแล้ว”

 

ฟิลิปปินส์อนุมัติวัคซีน 'โนวาแวกซ์' ฉีด 2 โดส ห่างกันไม่เกิน 21 วัน

ทางการฟิลิปปินส์อนุมัติวัคซีนโควิด-19 ของบริษัท โนวาแวกซ์ สำหรับการใช้แบบฉุกเฉิน เป็นวัคซีนชนิดที่ 9 ที่ผ่านการอนุมัติในประเทศ

รายงานรอยเตอร์ (17 พ.ย. 64) อ้างคำแถลงของโรลันโด เอนริเก โดมิงโก ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (เอฟดีเอ) ของฟิลิปปินส์ ว่า วัคซีนของโนวาแวกซ์ ซึ่งใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบใช้โปรตีนภายใต้ชื่อทางการค้าว่า ‘โคโวแวกซ์’ และผลิตโดยสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย ได้รับการอนุมัติสำหรับการใช้งานแบบฉุกเฉินกับผู้ใหญ่ที่อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปในฟิลิปปินส์

เขากล่าวว่า วัคซีนโคโวแวกซ์ ซึ่งผลการทดลองทางคลินิกให้ประสิทธิผลถึง 89.7% เป็นวัคซีนที่ต้องฉีด 2 โดส ในเวลาห่างกันไม่เกิน 21 วัน

‘INTERPOL’ ประสานสืบ ตม.รวบ!แก๊งลักรถฟิลิปปินส์ หลังก่อคดีบินซุกไทย - กบดานเป็นครูสอนภาษา

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี    เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ/ผอ.ศปชก.ตร. มอบหมายให้ศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปชก.ตร.)   ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมายก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด 

ศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปชก.ตร.) โดย พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม./หัวหน้าชุดปฏิบัติการที่ 2 ศปชก.ตร. พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.อาภากร โกมลสุทธิ รอง ผบก.สส.สตม. และ ว่าที่ พ.ต.อ.พิสิษฐ์  ศรีอ่อน ผกก.2 บก.สส.สตม. ร่วมแถลงข่าว

โดยมีรายละเอียด ดังนี้ ศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปชก.ตร.) ได้รับการประสานจากตำรวจสากลฟิลิปปินส์ (INTERPOL) ขอความร่วมมือให้ช่วยติดตาม นายหลุยส์ และ นางออเรีย สัญชาติฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นบุคคลต้องการตัวตามประกาศตำรวจสากลสีแดง (INTERPOL Red Notice) โดยเป็นผู้ต้องหาหลบหนีตามหมายจับศาลสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ในข้อหาโจรกรรมรถยนต์ ได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทย

พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม.ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 2 ศปชก.ตร. สืบสวนหาตัวบุคคลตามประกาศตำรวจสากลสีแดง (INTERPOL Red Notice) ทั้งสองรายซึ่งได้หลบหนีหมายจับจากสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ เข้ามาพำนักอยู่ในประเทศไทย เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 2 ศปชก.ตร. จึงได้ทำการสืบสวนพบว่า คนต่างด้าวทั้งสองรายได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทย เมื่อวันที่ 12 พ.ย.2562 และ 27 ธ.ค.2562 ตามลำดับ โดยได้พักอาศัยอยู่ที่คอนโดมิเนียมย่าน ถนนเสรีไทย แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม. และได้ขออยู่ต่อในราชอาณาจักรเพื่อประกอบอาชีพเป็นครูสอนภาษาของโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ กทม.

จึงได้เสนอ ผบก.สส.สตม. ดำเนินการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร เนื่องจากมีพฤติการณ์เข้าลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 12(7) แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 กล่าวคือเป็นบุคคลที่มีพฤติการณ์น่าเชื่อว่าเป็นบุคคลที่เป็นภัยต่อสังคม หรือจะก่อเหตุร้ายให้เกิดอันตรายต่อความสงบสุขหรือความปลอดภัยของประชาชน หรือความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร หรือบุคคลซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างประเทศได้ออกหมายจับ ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 2 ศปชก.ตร. ได้ไปตรวจสอบที่คอนโดมิเนียมย่าน ถนนเสรีไทย แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม. พบคนต่างด้าวทั้งสองราย จึงได้แจ้งคำสั่งเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรให้ทราบ และนำตัวส่ง กก.3 บก.สส.สตม. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป 

 

สำรวจภูมิทัศน์! 'การเมืองฟิลิปปินส์' ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดี!! | Click on Clear THE TOPIC EP.152

📌  ส่องระบบก่อน ‘การเลือกตั้ง’ ผู้นำประเทศ ‘ฟิลิปปินส์'!! ไปกับ ‘ดร.ปิติ ศรีแสงนาม’ ผู้อำนวยการศูนย์อาเซียนศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

📌 ใน Topic : สำรวจภูมิทัศน์! 'การเมืองฟิลิปปินส์' ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดี!!

ร่วมจับประเด็น เน้นความรู้ได้ในรายการ Click on Clear THE TOPIC

ดำเนินรายการโดย ปริม กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา PROGRAM DIRECTOR THE STATES TIMES

.

.

'ภรรยา' ไลฟ์ขายแบรนด์เนมสามี หลังจับได้มีชู้ เหน็บแรง "สินค้าทุกชิ้นสภาพดีค่ะ ดีหมด ยกเว้นเจ้าของ"

"ภรรยา" ชาวฟิลิปปินส์ ไม่ไหวจะเคลียร์ ไลฟ์สดขายเสื้อผ้าแบรนด์เนมของสามีหลังจาก ที่ทิ้งเธอไปกับหญิงอื่น ชาวเน็ตแห่ถูกใจกันยกใหญ่

กลายเป็นไวรัลข้ามคืน ทำเอาโลกโซเชียลสะเทือนเลยทีเดียวสำหรับ "ภรรยา" สาวรายนี้ Jamille Margarita Galvez เธอเป็นสาวจากประเทศฟิลิปปินส์ ที่ได้ไลฟ์ขายเสื้อผ้าแบรนด์เนมของสามีหลังจาก ที่ทิ้งเธอไปกับหญิงอื่น

ในการไลฟ์นั้น "ภรรยา" ตั้งชื่อไลฟ์ว่า "ไลฟ์ขายสิ่งของ ของคนที่จากบ้านนี้ไปแล้ว" (Mga gamit ng sumakabilang-bahay live selling) ซึ่งเป็นการเล่นคำได้อย่างแสบๆ คันๆ จากคำว่า sumakabilang-buhay ในภาษาฟิลิปปินส์ ที่แปลว่า ผู้ที่ตายจากไป แล้วได้ด้วย โดยในการไลฟ์ของเธอนั้นมีผู้ที่เข้ามารับชมมากกว่า 28,000 คนเลยทีเดียว

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ พร้อมคณะเดินทางประชุมระหว่างประเทศด้านการต่อต้านการค้ามนุษย์ ณ กรุงมะนิลา ฟิลิปปินส์

เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 65 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) พร้อมคณะผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้แทน DSI ได้เดินทางเข้าร่วมการประชุมระหว่างประเทศด้านการต่อต้านการค้ามนุษย์ ครั้งที่ 8 จัดขึ้น ณ กรุงมะนิลา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ โดยภายในการประชุมดังกล่าว ได้มีผู้แทนหน่วยงานด้านการต่อต้านการค้ามนุษย์จากประเทศสมาชิกอาเซียนทั้งหมดมาร่วมงานกันเป็นจำนวนมาก รวมทั้งผู้แทนหน่วยงานและองค์กรระหว่างประเทศอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น โครงการ ASEAN-ACT และประเทศออสเตรเลีย เป็นต้น

ในการประชุมระหว่างประเทศครั้งนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้มีโอกาสในการแสวงหาความร่วมมือในการปราบปรามการค้ามนุษย์ระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนได้มากยิ่งขึ้น และได้มีโอกาสในการนำเสนอการทำงานของ ศพดส.ตร. การแบ่งโครงสร้างการปฏิบัติซึ่งมีความครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ รวมทั้งผลงานการปฏิบัติของ ศพดส.ตร. และชุดปฏิบัติการ TICAC ในรอบปีที่ผ่านมา 

‘เมืองเกซอนซิตี’ เปิดให้บริการรับวัคซีน ‘ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า’ ฟรี เนื่องในเดือนแห่งความตระหนักต่อโรคพิษสุนัขบ้าระดับชาติ

(21 มี.ค. 66) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า บรรยากาศเจ้าของสัตว์เลี้ยงนำสุนัขและแมวจำนวนมากไปรับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ในเมืองเกซอนซิตีของฟิลิปปินส์ เมื่อวันจันทร์ (20 มี.ค.) ที่ผ่านมา
.
นอกจากนั้นยังมีการให้บริการเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงอื่นๆ แบบไม่เสียค่าใช้จ่าย อาทิ การรักษาถ่ายพยาธิ และการฝังไมโครชิป โดยทางเมืองได้ทุ่มเทความพยายามเพื่อปรับปรุงสุขภาพและการจัดการสัตว์เลี้ยง เนื่องในโอกาสเดือนแห่งความตระหนักต่อโรคพิษสุนัขบ้าระดับชาติในฟิลิปปินส์

‘อดีตทูตนริศโรจน์’ หวั่น!! ไทยซ้ำรอย ‘ฟิลิปปินส์’ ยุคลูกมาร์กอส ผลเลือกตั้งตรงใจชาติมหาอำนาจ รัฐบาลใหม่แข็งขืนจีน

(4 พ.ค. 66) นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า…

ฟิลิปปินส์ ได้ลูกอดีต ปธน.มาร์กอส มาเป็นผู้นำ ตอนนี้ฟิลิปปินส์เปลี่ยนไปซบชาติมหาอำนาจเดิมที่เคยยึดครองฟิลิปปินส์เต็มที่ ต่างจากสมัย ปธน.ดูเตอร์เต้ คนก่อนที่พยายามถ่วงดุลย์กับจีน

จึงไม่แปลกใจว่าทำไมพวก NGO กองทุนนอมินีของชาติมหาอำนาจนี้ จึงโหมทุ่มสรรพกำลังเต็มที่สำหรับศึกเลือกตั้งในไทยครั้งนี้!

หลังเลือกตั้งถ้าเป็นไปตามที่ชาติมหาอำนาจต้องการ ดุลย์อำนาจทางการเมืองเปลี่ยน และถ้ารัฐบาลชุดใหม่อยู่ใต้การครอบงำหรือบงการจากชาติมหาอำนาจ

‘ฟิลิปปินส์’ เผชิญเงินเฟ้อหนัก ทำค่าครองชีพประชาชนพุ่งสูง ฉุดฐานความนิยมของประธานาธิบดี ‘บองบอง มาร์กอส’ ร่วง 15%

(3 ต.ค. 66) ‘นายเฟอร์ดินานด์ บองบอง โรมูอัลเดซ มาร์กอส จูเนียร์’ ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ เผชิญกับการลดลงอย่างมีนัยสำคัญของคะแนนนิยมในตัวเขา เนื่องจากราคาผู้บริโภคที่พุ่งสูงขึ้นในประเทศที่บ่อนทำลายการสนับสนุนจากประชาชน

‘Pulse Asia’ องค์กรสำรวจความนิยมได้เผยแพร่ผลสำรวจครั้งล่าสุดในวันที่ 2 ตุลาคม โดยเป็นผลจากการสำรวจที่จัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 10-14 กันยายน ซึ่งชี้ว่า 65% ของผู้ตอบแบบสำรวจ 1,200 คน ให้ความเห็นชอบกับผลงานของประธานาธิบดีมาร์กอส จูเนียร์

แม้ดูเหมือนว่าจะยังเป็นตัวเลขให้การรับรองที่ค่อนข้างสูง แต่ถือว่าลดลงอย่างมากถึง 15% จากผลสำรวจในเดือนมิถุนายน ที่ประชาชนพอใจกับการทำงานของเขาสูงถึง 80% และยังเป็นการลดลงครั้งแรกในการสำรวจผลการทำงานของบุตรชายอดีตประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส พ่อผู้โด่งดังอีกด้วย

‘โรนัลด์ โฮล์มส์’ ประธาน Pulse Asia กล่าวว่า การเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของราคาสินค้าโภคภัณฑ์และบริการขั้นพื้นฐาน รวมถึงคำมั่นสัญญาว่าจะลดราคาสินค้าเหล่านี้ลง ดูเหมือนจะเป็นต้นเหตุให้การให้การเห็นชอบในการทำงานของประธานาธิบดีมาร์กอส จูเนียร์ ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

‘มาร์กอส จูเนียร์’ ซึ่งควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรด้วย พยายามที่จะควบคุมอัตราเงินเฟ้อในประเทศ แต่การเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าต่างๆ ยังเกินเป้าหมายของรัฐบาลที่ 2-4% แม้ว่ารัฐจะมีมาตรการแทรกแซง เช่นการลดภาษีอาหารแล้วก็ตาม

ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อต่อปีของฟิลิปปินส์อยู่ที่ 6.6% ณ สิ้นเดือนสิงหาคม

‘ซารา ดูแตร์เต’ รองประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ บุตรสาวของอดีตประธานาธิบดีโรดริโก ดูแตร์เต ก็ประสบปัญหาคะแนนนิยมลดลงเช่นกัน โดยลดลง 11% มาอยู่ที่ 73%

‘สื่อฮ่องกง’ ชี้ ‘ทุเรียนไทย’ กำลังเสียแชมป์เจ้าตลาดในแดนมังกร หลัง ‘เวียดนาม-ฟิลิปปินส์’ แข่งส่งออก ซ้ำ!! ‘จีน’ หันมาผลิตเอง

เมื่อวานนี้ (21 ม.ค. 67) หนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์รายงานว่า ภายในแค่ 3 ปี จีนประสบความสำเร็จสามารถปลูกทุเรียนได้เองเพิ่มกำลังการผลิตจาก 50 ตัน มาอยู่ที่ 500 ตัน ภายในปีหน้า

"การบริโภคทุเรียนภายในประเทศคาดจะสามารถเพิ่มการผลิต 250 ตันปีนี้ แต่ภายในปีหน้าจะสามารถมีกำลังการผลิตมหาศาลโดยกำลังการผลิตสามารถแตะ 500 ตัน” เฟง ซูจี (Feng Xuejie) ผู้อำนวยการสถาบันผลไม้เขตอากาศร้อนชื้น (Institute of Tropical Fruit Trees) ประจำสถาบันวิทยาศาสตร์การเกษตรไห่หนาน (Hainan Academy of Agricultural Sciences)

ปีที่ผ่านมา มณฑลไห่หนานประสบความสำเร็จสามารถผลิตทุเรียนได้ถึง 50 ตัน ซึ่งเฟงมองว่ายังไม่เพียงพอต่อความต้องการทุเรียนอย่างสูงของผู้บริโภคชาวจีน

“สำหรับราคาและรสชาติของทุเรียนภายในประเทศในอนาคตนั้นขอให้เฝ้ารอ” เฟง กล่าวเสริม

ซึ่งกลายเป็นที่ฮือฮาไปทั่วเมื่อ ‘ปักกิ่ง’ ปีที่ผ่านมาประสบความสำเร็จสามารถออกผลผลิตทุเรียนปลูกเองภายในประเทศที่มณฑลไห่หนานได้

หนังสือพิมพ์ฮ่องกงรายงานว่า ผู้บริโภคทุเรียนในจีนมองทุเรียนโดยเฉพาะคนชั้นกลางที่มีกำลังซื้อต่างมองผลไม้เปลือกแข็งหนามแหลมและมีรสชาติที่หอมหวานไม่เหมือนใครว่าเป็นเสมือนรางวัล ซึ่งทุเรียนนั้นขึ้นชื่อว่าเป็น ‘ราชาผลไม้’

หนังสือพิมพ์ฮ่องกงชี้ต่อว่า การนำเข้าทุเรียนปีที่แล้วสูงลิ่ว แต่ทว่าปักกิ่งซึ่งเป็นผู้ซื้อรายใหญ่เริ่มกระจายการซื้อทุเรียนไปยังหลายแหล่งเพื่อให้ตรงตามความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคชาวจีนภายในประเทศ ซึ่งจากแต่เดิมเคยนำเข้าทุเรียนจาก ‘ไทย’ เพียงเจ้าเดียว โดยปักกิ่งได้นำเข้าทุเรียนจาก ‘เวียดนาม’ และ ‘ฟิลิปปินส์’ ส่งผลทำให้ไทยกำลังสูญเสียความเป็นเจ้าตลาดทุเรียนในจีนไปอย่างช่วยไม่ได้

อ้างอิงข้อมูลจากตัวเลขทางการของสำนักงานศุลกากรจีนพบว่า จีนนำเข้าทุเรียนทั้งหมด 1.4 ล้านตันภายใน 12 เดือนแรกของปี 2023 สูง 69% จากปีก่อนหน้า

ขณะที่ไทยซึ่งอดีตเคยเป็นเจ้าการตลาดการส่งออกทุเรียนไปจีน มียอดการส่งออกตกจากเกือบ 100% ในปี 2021 มาอยู่ที่ 95.36 ในปี 2022 และเหลือแค่ 67.98% มาจนถึงเดือนธันวาคมปี 2023

อ้างอิงข้อมูลวันที่ 11 เม.ย ปี 2566 จากกรมการส่งออก การผลิตทุเรียนไทยต่อปีที่ 1,480,000 ตัน และสายพันธุ์ที่ปลูกและส่งออกคือ ชะนีหมอนทอง ก้านยาว กระดุมพวงมณี

กรมการส่งออกพบว่า ‘ทุเรียนฟิลิปปินส์’ ที่ส่งออกไปจีนเป็นพันธุ์ปูยัต (Puyat) มีลักษณะเนื้อสีทอง กลิ่นหอมแรงและรสชาติเข้มข้น

สมาคมอุตสาหกรรมทุเรียนดาเวา (DIADC) ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบัน มณฑล/เขต ที่ปลูกทุเรียนของฟิลิปปินส์มีจำนวน 47 แห่ง พื้นที่ปลูกทุเรียนรวมประมาณ 160 ตารางกิโลเมตร ผลผลิต 100,000 ตันต่อปี สายพันธุ์ทุเรียนที่สามารถปลูกได้ในฟิลิปปินส์คือ ชะนี, หมอนทอง, alcon fancy, arancillo และ puyat

ส่วน ‘ทุเรียนเวียดนาม’ ที่ส่งเข้าไปตีตลาดจีนและแซงหน้าไทยได้นั้นเป็น ‘พันธุ์หมอนทอง’ (Ri6 หมอนทอง 6) จากจ.ดักลัก ซึ่งก็เป็นสายพันธุ์เดียวกันกับทุเรียนไทยที่ส่งออกมายังตลาดจีน

ตามรายงานของกรมการส่งออกระบุว่า จุดแข็งของทุเรียนเวียดนามคือ ระยะทางที่สั้นและเวลาการขนส่งน้อยแค่ 2 ชม. ถึงด่านจีน ทำให้ทุเรียนเวียดนามยังคงรักษาคุณภาพได้เป็นอย่างดี

เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์รายงานว่า บรรดาผู้ส่งออกทุเรียนเวียดนามไปจีนนั้นเริ่มตั้งแต่เกือบ 0% ไปอยู่ที่ 4.63% ที่ 188.1 ล้านดอลลาร์ในปี 2022, และเพิ่มไปอยู่ที่ 31.82 % ใน 11 เดือนแรกของปี 2023 มีมูลค่าอยู่ที่ 2.1 พันล้านดอลลาร์ เบียดการส่งออกทุเรียนจากไทย

ขณะที่บรรดาผู้ส่งออกทุเรียนในมาเลเซียต่างพยายามผลักดันข้อตกลงในปีนี้เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีของความสัมพันธ์จีน-มาเลเซีย ไซมอน ชิน (Simon Chin) ผู้ก่อตั้งบริษัทส่งออก DKing กล่าว

ปัจจุบันมาเลเซียได้รับอนุญาตให้ส่งออกทุเรียนแช่แข็งไปจีนเท่านั้น

ชินแสดงความเห็นกับสื่อฮ่องกงว่า “ปัจจุบันพวกเรากำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับจีนเพื่อหาลู่ทางการส่งออกผลไม้สด เช่นเดียวกับที่ไทยและเหมือนเช่นที่ฝ่ายไทยทำ”

อย่างไรก็ตามในแง่รายได้ การส่งออกทุเรียนไทยมาจีนนั้นยังคงเพิ่มในปีที่ผ่านมาเนื่องมาจากความต้องการสูงของตลาดผู้บริโภคจีนในเมืองระดับการที่เริ่มจะมีมากขึ้น แซม ซิน (Sam Sin) ผู้อำนวยการพัฒนาประจำ S&F Produce Group ที่มีฐานอยู่ในฮ่องกงชี้


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top