Monday, 29 April 2024
ปรับครม

'บิ๊กป้อม' ยิ้มแย้มถกครม.เรียบร้อยดี ยันไม่ปรับครม. สงบศึกพรรคร่วมรัฐบาล

(30 ส.ค. 2565) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงบรรยากาศการประชุมครม.ในวันเดียวกันนี้ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ว่า ไม่มีอะไรเรียบร้อยดี เมื่อถามถึงกระแสข่าวการเมืองที่วุ่นวายในขณะนี้ พล.อ.ประวิตร กล่าวย้ำว่า ไม่มีอะไร

เมื่อถามว่าจะมีการปรับครม. ในช่วงเป็นที่เป็นรักษาการนายกฯ หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวยืนยัน ไม่มีการปรับครม.

เมื่อถามถึงกรณีส.ส.ประชาธิปัตย์ขู่ถอนตัว จากกระแสข่าวส.ส.ภาคใต้พรรคพลังประชารัฐ เสนอให้ปรับครม. โดยให้ริบโควตากระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงพาณิชย์ พล.อ.ประวิตร กล่าวย้อนว่า "ไปถาม ส.ส.ใต้ดู เพราะผมไม่ได้พูด"

เมื่อถามย้ำว่าจะปรับครม.หรือไม่ในช่วงนี้ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ปรับทำไม ยังทำงานได้

‘บิ๊กป้อม’ ไม่ปรับครม.หลัง ‘นิพนธ์’ ไขก๊อก รอการตัดสิน!! หาก ‘บิ๊กตู่’ อยู่ต่อให้มาทำเอง

‘บิ๊กป้อม’ ย้ำ ไม่สามารถปรับครม.ได้ ต้องรอให้การตัดสินออกมาก่อน หากบิ๊กตู่อยู่ต่อ ให้นายกฯมาทำเอง

5 กันยายน 2565 ที่ศาลากลางจังหวัดกระบี่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังประชุมติดตามสถานการณ์น้ำ การคาดการณ์ และการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคใต้ จังหวัดกระบี่ ถึงกรณีนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง เพื่อต่อสู้คดีไม่เบิกจ่ายเงินค่ารถอเนกประสงค์ซ่อมบำรุงทาง 2 คัน วงเงินรวม 50 ล้านบาท ให้แก่บริษัท พลวิศว์เทค พลัส จำกัด เมื่อปี 2556 สมัยดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) สงขลา ว่า “เดี๋ยวดูก่อน ผมเป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการ ไม่สามารถปรับครม.ได้ ต้องรอให้การตัดสินออกมาก่อน หากนายกฯ อยู่ต่อ นายกฯก็จะมาทำเอง”

'บิ๊กตู่' เดอะแบก!! ไม่ปรับ ครม. เกรงใจพี่เห็นใจน้อง หวั่น!! รอยร้าวสะเทือน 'สุข-ทุกข์' ประชาชนยามนี้

มีอะไรซ่อนอยู่? หลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันแล้วว่า “ยังไม่มีการปรับ ครม.” ในวันแรกของการประชุม ครม.ที่ พล.อ.ประยุทธ์ กลับมานั่งหัวโต๊ะเหมือนเดิม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีลาป่วยกะทันหัน

ขณะที่ นายกฯ ชาย 'เดชอิศม์ ขาวทอง' รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเข้ามารับตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เมื่อปีที่ผ่านมา และนำพาพรรคประชาธิปัตย์คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งซ่อมเขต 6 สงขลา แทน 'ถาวร เสนเนียม' ซึ่งเป็นชัยชนะที่นายกฯ ชายสามารถคว้ามาให้ 'สุภาพร กำเนิดผล' หรือ คุณน้ำหอม ผู้เป็นภรรยานั้น ก็ได้กล่าวยืนยันในวงสัมมนาใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ ว่า “ถ้ามีการปรับ ครม.ก็จะไม่รับตำแหน่งบริหาร เพราะตั้งแต่รับตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ภาคใต้ ยังไม่ได้พิสูจน์ฝีมืออะไร” 

การที่ พล.อ.ประยุทธ์ ส่งสัญญาณว่ายังไม่ปรับ ครม.ไม่ได้หมายความว่า ช่วงเวลาที่เหลืออยู่ 6 เดือนจะไม่มีการปรับ ครม.เพียงแต่บอกว่าเวลานี้ สถานการณ์ยังไม่ถึงขั้นปรับ ครม.เท่านั้นเอง เพราะเวลาเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยน อาจจะมีการปรับ ครม.เกิดขึ้นก็ได้

สถานการณ์เปลี่ยนที่ว่า ก็เช่น พรรคประชาธิปัตย์, พรรคภูมิใจไทย กดดันให้ปรับ ครม. หรือแม้แต่ในพรรคพลังประชารัฐเอง ก็อาจจะกดดันให้แต่งตั้งรัฐมนตรีแทนตำแหน่งที่ว่างอยู่สองตำแหน่ง หรือกดดันให้ปรับรัฐมนตรีที่ไม่เวิร์กออกไป เอาคนใหม่เข้ามาแทน 

แม้กระทั่งความขัดแย้งระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคภูมิใจไทย ก็เป็นแปรที่จะเดินไปถึงจุดที่กระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาล ส่งผลให้การปรับ ครม.อาจจะเกิดขึ้นได้แม้จะมีช่วงเวลาในการบริหารราชการแผ่นดินเพียงสั้น ๆ ก็ตาม 

ทว่า เรื่องของงานบริหาร การตัดสินใจ ไม่ควรจะขาดช่วงขาดตอน เพราะนั่นคือ 'สุข-ทุกข์' ของประชาชน

มองไปที่พรรคประชาธิปัตย์ หากมีการปรับ ครม.เมื่อนายกฯ ชายประกาศชัดว่าไม่รับตำแหน่ง ถ้าโควต้าของ 'นิพนธ์ บุญญามณี' เป็นโควต้าของภาคใต้ โอกาสก็จะเป็นของ 'นริศ ขำนุรักษ์' ส.ส.หลายสมัยของประชาธิปัตย์พัทลุง และในการเลือกครั้งปี 2562 เขาเพียงหนึ่งเดียวที่รักษาหน้าประชาธิปัตย์ไว้ได้ เพราะ 'นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ' ที่ว่าแน่ยังสอบตกเลย

โอกาสเป็นของ 'นริศ' ถ้า 'ชินวรณ์ บุณยเกียรติ์' ผู้อาวุโสแห่งเมืองนครศรีธรรมราช ไม่ลดตัวไปนับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วย ที่เคยนั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการมาก่อนแล้ว จึงไม่เสียหายอะไรถ้าจะเปิดทางให้คนใหม่ ๆ อย่าง 'นริศ' เข้ามาทำหน้าที่บริหาร แถมจะเป็นผลดีต่อการเลือกตั้งของจังหวัดพัทลุงด้วยเสียอีก

สำหรับพรรคภูมิใจไทย ถ้ามีการปรับ ครม.ก็มีการสะกิดให้ 'บุญลือ ประเสริฐโสภา' ส.ส.ราชบุรี ปัดแป้งแต่งหน้ารอไว้แล้ว เข้ามาแทน 'กนกวรรณ วิลาวัณย์' รัฐมนตรีช่วยศึกษาธิการ ที่เวลานี้ศาลสั่งพักงานอยู่ หลังโดนคดีบุกรุกป่าเขาใหญ่

โดยสรุปที่นายกรัฐมนตรียืนยันไม่ปรับครม.ในเวลานี้อาจจะเกิดจากความลังเลใจในส่วนของพรรคพลังประชารัฐมากกว่า ว่าจะเกิดแรงกระเพื่อมขึ้นหรือไม่ กับสองตำแหน่งที่ว่างอยู่ คือ รัฐมนตรีช่วยเกษตรและสหกรณ์ แทน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และรัฐมนตรีช่วยแรงงานฯ แทน ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ที่ถูกปลดไปเมื่อครั้งแผนล้มประยุทธ์รั่ว 

ไม่เพียงแค่นั้น สำหรับพรรคพลังประชารัฐแล้ว ยังมีรัฐมนตรีบางคนเริ่มขาลอยกับการปฎิบัติหน้าที่ที่ไม่เข้าตากรรมการ ไม่เอาใจใส่ ส.ส.ในพรรค และรัฐมนตรีบางคนก็ไม่ยึดโยงกับพรรค เพราะเป็นโควต้ากลางของ พล.อ.ประยุทธ์ 

ไหนจะเรื่องการทวงถามจาก ส.ส.กลุ่มปากน้ำ ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคไปรับปากกับกลุ่มปากน้ำไว้ว่าจะยกตำแหน่งรัฐมนตรีให้ ถ้ามีการปรับ ครม. แต่สุดท้ายหายเงียบ จนเกิดปฏิกิริยา ไม่ยกมือสนับสนุน พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีมหาดไทย ในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ

ไหนจะยังมี ส.ส.สายใต้ 14+1 ซึ่งก็มีสิทธิ์ที่จะทวงถามหาตำแหน่งรัฐมนตรีเช่นกัน ฉะนั้นระหว่าง 15 ที่นั่งของภาคใต้ กับ 7 ที่นั่งของปากน้ำ จะให้เก้าอี้รัฐมนตรีกับกลุ่มใด

‘อนุสรณ์’ ซัด!! ‘ประยุทธ์’ ปูนบำเหน็จคนใกล้ตัว เชื่อ!! ทำไปเพื่อรักษาอำนาจ ไม่ใช่เพื่อปชช.

(30 พ.ย. 65) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงโฉมหน้าครม.ใหม่ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ว่า ประชาชนไม่ได้ประโยชน์และไม่ได้ตื่นเต้นอะไร ตนไม่ได้ออกมารับน้อง แต่เห็นรายชื่อรัฐมนตรีใหม่แล้วสะท้อนธาตุแท้ของพล.อ.ประยุทธ์โดยเฉพาะกรณีการแต่งตั้งนายธนกร วังบุญคงชนะ เป็นรมว.ประจำสำนักนายกฯ ที่ยังเป็น ส.ส.ใหม่ป้ายแดง ไม่มีพรรค ไม่มีพวก ไม่มีประสบการณ์ ถ้าไปถามนายสมศักดิ์ เทพสุทินว่ายังรับนายธนกรเป็นลูกน้องอยู่หรือไม่ อาจไม่มีใครมั่นใจในคำตอบ การปรับครม.รอบนี้ พล.อ.ประยุทธ์ต้องการปั่นกระแส เรียกเรตติ้ง เพื่อไล่ต้อนคนไปพรรคการเมืองใหม่ที่พล.อ.ประยุทธ์จะไปสังกัด จึงปรับ ครม.แบบปูนบำเหน็จให้เห็นจะจะกันไปเลย ว่าต้องเป็นพวก พล.อ.ประยุทธ์เท่านั้นจึงจะได้รับการส่งเสริมและเติบโตทางการเมือง เหมือนคนต้องการเอาชนะ ต้องการแสดงให้เห็นว่าใครมีปัญหาหรือยืนตรงข้ามพล.อ.ประยุทธ์ จะมีชะตากรรมอย่างไร

ขีดเส้นใต้ 'ปรับครม.-ดิจิทัลวอลเล็ต-ปูกลับบ้าน-พลิกขั้ว' สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง อาจพาประวัติศาสตร์ซ้ำรอย

เปลี่ยนบรรยากาศขอมัดรวมสถานการณ์ด้านการเมือง ที่เป็นแก่นแกนสถานการณ์ ควรแก่การขีดเส้นใต้ให้คอการเมืองได้ติดตามสถานการณ์กันอย่างพินิจ ใคร่ครวญ...ต่อไป...

1) ถ้าไม่ยืดย้วย ภายในเดือน เม.ย.กรรมการดิจิทัล วอลเล็ต จะสรุป-เสนอรัฐบาลเรื่องให้ครม.พิจารณาอนุมัติ ซึ่งขณะนี้ประเด็นสำคัญที่ถูกตั้งคำถามมากที่สุดคือ การใช้งบประมาณของ ธกส.โดยอาศัย มาตรา 28 ของ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง 2561 ว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่? ขัดกับกฎหมายการจัดตั้ง ธกส.หรือไม่? ... ประเด็นนี้แบงก์ชาติและนักวิชาการแสดงความกังวล

อีกประเด็นคือ วิธีการใช้จ่ายเงิน ทำไมไม่ใช้ระบบเงินสดตั้งแต่รอบแรก มีวาระซ่อนเร้นหรือไม่ รวมทั้งการพัฒนาแอปฯ 'ทางรัฐ' ต้องใช้งบประมาณเพิ่มเติมอีกเท่าไหร่?

2) ทักษิณ ชินวัตร ได้เปล่งบารมีเป็นศูนย์กลางอำนาจตัวจริงของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง ขณะไปปักหลักเชียงใหม่ห้วงเทศกาลสงกรานต์ มีเพียงรัฐมนตรีของพรรค 4 คนที่ติดภารกิจเท่านั้นที่ไม่ไปร่วมคือ เศรษฐา ทวีสิน, ภูมิธรรม เวชยชัย, ปานปรีย์ พหิทธานุกร และ จักรพงษ์ แสงมณี

สายข่าวแจ้งว่า การปรับครม.น่าจะเกิดในช่วงเดือนพ.ค.หรืออย่างช้าหลังร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ 2568 ผ่านวาระแรกในเดือน 5-6 โดยวัดจากอุณหภูมิในขณะนี้ รัฐมนตรีที่ไข้ขึ้นสูงถึงขั้นต้องพักผ่อนคือ นายสุทิน คลังแสง และไชยา พรหมมา ส่วน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ถ้าจะโยกจาก รมว.สธ.ไปสภาฯ ก็ตีความกันว่า ต้องไปเป็นประธานสภาฯ แทนท่านวันมูหะหมัดนอร์ มะทา เท่านั้น

แต่คำถามมีอยู่ว่า...ท่านวันนอร์จะยอมไหม? ถ้ายอม..แล้วไม่กลัว 'พ่อมดดำ' สุชาติ ตันเจริญ ที่ยอมกลืนเลือดมา 7-8 เดือนจะโวยวายบ้างเหรอ?? งานนี้ยุ่งตาย....

3) สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามความปลอดภัยในนาทีที่ดูเหมือนบ้านนี้เมืองนี้ไม่มีอะไรสำคัญเท่าการปรับ ครม.และ ดิจิทัล วอลเลต ก็คือ...ความรู้สึกอึดอัดของผู้คนจำนวนไม่น้อยกับตัวละครคนสำคัญของ 'ดีลลับ' คือ 'ทักษิณ' ที่ยังเป็นจำเลยสังคมกรณีความเป็นนักโทษเทวดาและพักโทษ...ซึ่งล่าสุดได้พูดชัดเจนกรณีน้องสาว 'ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร' ที่หนีคดีจำนำข้าวว่า จะได้กลับบ้านอย่างแน่นอนภายในปีนี้ หรือมาทำบุญกรานต์ปีหน้าร่วมกัน...

ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์สถาบันนิด้าคนดัง โพสต์ในเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 15 เม.ย.67 ตอนหนึ่งว่า...

"สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงกำลังตั้งเค้า เป็นเงาทะมึนดำ -ท้องฟ้ากำลังสาดฉายแสงฉานสีแดงอมส้ม-การเปลี่ยนแปลงใดๆ ย่อมรอคอยสถานการณ์และเงื่อนไขที่สุกงอม-แต่สิ่งที่ประวัติศาสตร์สอนเราเสมอมาคือ ประวัติศาสตร์มักจะซ้ำรอย..ฯลฯ.."

'เล็ก เลียบด่วน' อ่านทางเดาใจ ดร.อานนท์ สรุปแล้วอาจารย์น่าจะคาดหมายว่า...ในอีกไม่นานพรรคส้มกับพรรคแดงคงจะร่วมรวมกันจับมือกัน...แล้ววันนั้นอีกฝ่ายคงจะไม่ยอมให้บ้านเมืองพลิกข้างเปลี่ยนโฉมไปมากขนาดนั้นแน่...อันตราย!!

เรื่อง: เล็ก เลียบด่วน

'อัครเดช' เผย!! 4 รัฐมนตรี รทสช. ทำงานทุ่มเท มีผลงานต่อเนื่อง ยัน!! นายกฯ ไม่มีสัญญาณปรับครม. แต่ถ้ามีโปรดรอฟังจากพรรค

(17 เม.ย. 67) ที่รัฐสภา นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี ในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในส่วนของ รทสช. ว่า เมื่อวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา ตนได้คุยกับ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ สส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรค รทสช.ยืนยันว่าการปรับ ครม. ยังไม่มีการติดต่อมาจากนายกรัฐมนตรี ส่วนในอนาคต เป็นเรื่องที่นายกฯ กับหัวหน้าพรรคฯ จะคุยกัน และทางพรรคยังไม่มีการเคลื่อนไหวอะไร หากมีความคืบหน้าก็จะแถลงให้ประชาชนได้รับทราบ  

เมื่อถามว่า มองการทำงานของ 4 รัฐมนตรี ของรทสช.เป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่? นายอัครเดช กล่าวว่า "การทำงานของทั้ง 4 รัฐมนตรีในโควตาของรวมไทยสร้างชาติทุกท่าน ทำงานด้วยความทุ่มเท ตนสัมผัสได้ อย่างนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรคฯ ที่เป็นรองนายกฯ และรมว.พลังงาน ก็มุ่งมั่น ตั้งใจ ที่จะแก้ปัญหาพลังงาน รวมถึงโครงสร้าง ทั้งไฟฟ้า น้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซ โดยทำอย่างเป็นระบบ และปฏิรูปเพื่อสร้างความยั่งยืน เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับพี่น้องประชาชน...

"ส่วนน.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม ก็ได้นิ่งนอนใจในการแก้ปัญหาแคดเมียม ทันที ส่วนรัฐมนตรีช่วยอีกสองคน ทั้งนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.คลัง และนายอนุชา นาคาศัย รมช.เกษตรฯ ก็ตั้งใจทำงาน และมีผลงานต่อเนื่อง ดังนั้นการปรับครม.ผู้ใหญ่ก็ต้องคุยกัน"

เมื่อถามถึงความกังวลกรณี ของนายพีระพันธุ์ ที่พบปัญหาราคาพลังงาน อาจถูกหยิบยกเป็นเหตุผลให้นายกฯ พิจารณาปรับครม.ได้? โฆษก รทสช. กล่าวว่า "เป็นเรื่องที่หลายคนให้ความสำคัญ ซึ่งเกิดจากปัญหาสงคราม นายพีระพันธุ์ก็พยายามทำอยู่สุดความสามารถ เพื่อตรึงราคาน้ำมัน จึงอยากให้พี่น้องประชาชนเข้าใจ เนื่องจากเรานำเข้าจากต่างประเทศ ปัจจัยราคาน้ำมันดิบ เราไม่สามารถกำหนดได้ แต่สิ่งสำคัญ คือการตรึงราคาขายปลีก เชื่อมั่นในความมุ่งมั่นของนายพีระพันธุ์ในการตรึงราคาน้ำมัน ส่วนสุดท้ายจะตรึงได้ถึงเมื่อไหร่ ก็อยู่ที่สถานการณ์ และอยากสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ว่านายพีระพันธุ์ เข้ามาเพื่อแก้ปัญหาระยะยาว ปฏิรูปโครงสร้างเชื้อเพลิง อย่างเป็นรูปธรรม ขณะที่ระยะสั้น เราเป็นห่วง เพราะมีเหตุการณ์ ที่ไม่สามารถควบคุมได้ แต่คิดว่าท่านให้กระทบกับประชาชนน้อยที่สุด เพื่อให้คลายความกังวลตรงนี้"

ต่อข้อถามถึงกระแสข่าวพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ว่าอาจถูกปรับ 2 คน แล้วดึง นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค รทสช. และนายสุชาติ ชมกลิ่น รองหัวหน้าพรรค รทสช. เข้ามาแทน? นายอัครเดช กล่าวว่า "ข่าวก็คือข่าว แต่ถ้าเป็นจริง ก็ต้องฟังจากหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค หรือตนในฐานะโฆษกพรรค ที่ได้รับมอบหมาย แต่ข่าวที่ออกมาคิดว่าไม่เป็นผลดีกับรัฐบาล และพรรคฯ ด้วย ยืนยันว่าเมื่อวันที่ 16 เม.ย.ตอนคุยกันยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขอให้สบายใจได้พรรครทสช.ไม่มีปัญหาการปรับครม."
เมื่อถามว่า ในอนาคตจะมีชื่อนายอัครเดช ติดโผล ครม.หรือไม่? นายอัครเดช กล่าวว่า "ตนเป็นประธานกมธ.อุตสาหกรรม ก็โอเคแล้ว ตนก็ทำงานเต็มที่ ส่วนในอนาคตเป็นเรื่องที่ประชาชนตัดสินใจ"


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top