Saturday, 27 April 2024
บัญชีม้า

แฉขบวนการ ‘บัญชีม้า’ กลโกงฟอกเงิน สร้างความเสียหายมหาศาล! | Click on Clear THE TOPIC EP.175

📌รู้ทันกลโกง ‘บัญชีม้า’ ก่อนตกเป็นเหยื่อ! ไปกับ ‘อภิวัฒน์ นุ่มบรรเทิง’ Senior Associate Lawyer / Herrera & Partners !

📌 ใน Topic : แฉขบวนการ ‘บัญชีม้า’ กลโกงฟอกเงิน สร้างความเสียหายมหาศาล!

ในรายการ Click on Clear THE TOPIC จับประเด็น เน้นความรู้

ดำเนินรายการโดย ปริม กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา PROGRAM DIRECTOR THE STATES TIMES

.

.

สืบนครบาลรวบ 'หมูฟ้า' หลอกทุกกระบวนท่าเจ้าตัวอ้างแค่บัญชีม้าตำรวจไม่เชื่อ

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบที่สร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก  โดยต่อมาชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบนครบาล ได้รับแจ้งเรื่องความเดือนร้อนของประชาชนทางเพจ 'สืบสวนนครบาล IDMB' ให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมตัวหมูฟ้า หรือ น.ส.ดวงอรทัย ไพทูล มีพฤติการณ์หลอกหลวง 'หลายรูปแบบ' เช่น หลอกลวงแฮ็คเฟสบุ๊คผู้เสียหายสูงอายุเอาข้อมูลรหัส ID Password เพื่อยืมเงินคนอื่น , ใช้หน้าไลน์ปลอมเป็นบุคคลอื่นเพื่อหลอกเอาเงิน ,หลอกลงทุนผ่านเพจ DM WALL , หลอกขายของออนไลน์ผ่าน Facebook Mami Mami เป็นต้น  และจากการตรวจสอบพบบัญชีที่เกี่ยวข้องกว่า 10 บัญชีที่เป็นชื่อ น.ส.ดวงอรทัย ไพทูล มีเงินหมุนเวียนในบัญชีร่วมล้านบาท สืบสวนนครบาลจึงได้เร่งรัดออกสืบสวนติดตาม

เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 65 เวลาประมาณ 09.30 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ ผกก.4 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.รัฐนันท์ สมวงศ์ รอง ผกก.ฯ เจ้าหน้าที่ กก.สส.4 บก.สส.บช.น. และ สภ.แม่ปิง ร่วมสืบสวนติดตามจับกุมตัว น.ส.ดวงอรทัย ไพทูล หรือ หมูฟ้า อายุ 20 ปี ที่อยู่ 51 หมู่ที่ 7 ตำบลศรีชมภู  อำเภอพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ ผู้ต้องหา พบหมายจับจำนวน 3 หมาย ประกอบด้วย
1. หมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 1028/2565 ลงวันที่ 19 พ.ย.65 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน 'ฉ้อโกงฯและ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์' ท้องที่ สภ.แม่ปิง
2. หมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 1029/2565 ลงวันที่ 19 พ.ย.65 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน 'ฉ้อโกงฯและ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์' ท้องที่ สภ.แม่ปิง
3. หมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 1030/2565 ลงวันที่ 19 พ.ย.65 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน 'ฉ้อโกงฯและ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์' ท้องที่ สภ.แม่ปิง
โดยกล่าวหาว่า “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่นและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบื่อน หรือปลอมไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด”

โดยจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่บริเวณซอยเทศบาลบางปู 69/3 ถนนสุขุมวิท ตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ พฤติการณ์กล่าวคือ สืบเนื่องจาก น.ส.ดวงอรทัย ไพทูล หรือหมูฟ้า ได้ตระเวนก่อเหตุฉ้อโกงในโลกออนไลน์ หลายรูปแบบ เช่น ใช้หน้าไลน์ปลอมเป็นบุคคลอื่นเพื่อหลอกเอาเงิน , หลอกลงทุนผ่านเพจ DM WALL , หลอกขายของออนไลน์ผ่าน Facebook Mami Mami โดยก่อเหตุมาแล้วไม่ต่ำกว่า 7 คดี โดยล่าสุดได้หลอกลวงแฮ็คเฟสบุ๊ค และไลน์ของผู้เสียหายหญิงสาววัย 59 ปี โดยหลอกเอาข้อมูลรหัส ID Password จากเฟสบุ๊คโดยการแสร้งสนทนาเพื่อขอหมายเลขโทรศัพท์ของเหยื่อ จากนั้นเมื่อได้หมายเลขโทรศัพท์แล้วก็นำหมายเลขโทรศัพท์ของเหยื่อ ใส่เข้าไปใน ID ช่อง Login แล้วแจ้งลืม Password เพื่อให้ระบบส่งข้อความ OTP เข้าไปยังโทรศัพท์ของเหยื่อ จากนั้นจะหลอกให้เหยื่อแค็ปภาพหน้าขอข้อความดังกล่าวส่งกลับมาให้ ทำให้เฟสบุ๊คของเหยื่อตกไปอยู่ในมือผู้ต้องหาทันที และจากนั้นก็เข้าไปตระเวนยืมเงินจากเพื่อนในแอ็พพลิเคชั่น ซึ่งต่อมาผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.แม่ปิง จ.เชียงใหม่กระทั่งได้มีการออกหมายจับ น.ส.ดวงอรทัยฯ เป็นจำนวน 3 หมายจับ ซึ่งต่อมา ชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ได้รับแจ้งเรื่องความเดือนร้อนของประชาชนทางเพจ 'สืบสวนนครบาล IDMB' ให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมตัว น.ส.ดวงอรทัยฯ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ ผกก.4 บก.สส.บช.น. นำทีม กก.สส.4 บก.สส.บช.น. สืบสวนติดตามจับกุมตัว

‘ตำรวจ’ รวบ ‘เจ้าแม่เปิดบัญชีม้า’ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ รับ!! เปิดบัญชีจำนวนมาก ส่งให้ ‘บอสใหญ่ชาวจีน’

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ส่งทีมนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรม ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ PCT ชุดปฏิบัติการที่ 5 และทีมสืบสวนนครบาลแกะรอยสืบสวนทำสงครามกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์รูปแบบ ตามนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการปราบปรามขบวนการเปิดบัญชีม้าให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์สร้างความเดือนร้อนให้ประชาชนอย่างเด็ดขาด พบว่ามีการเปลี่ยนรูปแบบการหาบัญชีม้าต่างไปจากเดิม โดยล่าสุด พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. / หน.PCT ชุดปฏิบัติการที่ 5 สืบสวนพบว่านางสาวมลเป็นเจ้าแม่เปิดบัญชีม้าให้กับบอสชาวจีน หัวหน้าแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ มูลค่าความเสียหาย 3 ล้านบาท

(16 ก.พ.66) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร., พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.ผอ.ศปอส.ตร. (PCT), พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. สั่งการ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. หน.PCT ชุดที่ 5, พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. รอง หน. PCT ชุดที่ 5, พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.มาโนช ทองแก้ว สว.กก.2 บก.สส.บช.น., พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กลุ่มงานสอบสวน บก.น.4, ร.ต.อ.พลวัต นาคถมยา รอง สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น., ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพ รอง สว.กก.2 บก.สส.ภ.2, ร.ต.อ.หญิง ธิดารัตน์ ผดุงประเสริฐ รอง สว.กก.2 บก.สส.ภ.2 ร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 5 และสืบนครบาล จับกุม น.ส.ดวงกมล บุ้งทอง อายุ 37 ปี หรือ มล ผู้ต้องหาตามหมายจับ 3 หมายจับข้อหาฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่นหรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 391/11 ม.6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจากปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ระบาดในปัจจุบันซึ่ง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. มือปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้วางแนวทางการป้องกันและปราบปรามในทุกมิติ เสมือนการทำสงครามกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งได้มีการจัดตั้งทีมนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรมคอยวิเคราะห์แผนประทุษกรรมของกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้ 

ซึ่งต่อมาได้สืบสวนกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์รูปแบบ ‘หลอกให้หลงรักและลงทุนเหรียญดิจิทัล’ จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ในฐานะหัวหน้าชุด PCT5 ทำการสืบสวนจนทราบแผนประทุษกรรมของแก๊งนี้คือ จะมีการสร้างโปรไฟล์เป็นหนุ่มเกาหลีที่มีโปรไฟล์ดี อายุรุ่นราวคราวเดียวกันมาตีสนิท โดยพูดคุยกันเป็นภาษาอังกฤษ เมื่อพูดคุยก็รู้ว่าคนร้ายเป็นคนที่สื่อสารภาษาอังกฤษได้จริง ๆ ทำให้เกิดความเชื่อใจ คนร้ายจึงชักชวนลงทุนเทรดสกุลเงินดิจิทัล Crytocurrency ผู้เสียหายก็มีความรู้ด้านสกุลเงินดิจิทัล Crytocurrency อยู่บ้าง จึงหลงกลคนร้ายลงทุนเทรดผ่าน MetaTrader 5 และ ในเว็บไซต์ www.bithumbgjcoltd.com ก็สามารถถอนออกได้จริง จึงหลงกลอุบายของคนร้าย ทำให้ใช้เงินลงทุนมากขึ้น 

โดยมีการโอนเงินไปให้กับคนร้ายที่บัญชีชื่อ น.ส.ดวงกมล บุ้งทอง ธนาคารออมสิน เลขที่บัญชี 020385181480 จากการสืบสวนทราบว่ามีผู้เสียหายไม่ต่ำกว่า 20 ราย และมูลค่าความเสียหายรวมไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งต่อมาได้มีการออกหมายจับ น.ส.ดวงกมล บุ้งทอง 3 หมาย คือ หมายจับศาลอาญา ที่ จ.1098/2565 ลงวันที่ 8 มิ.ย. 2565 ในข้อหา ‘ร่วมกันฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น’, หมายจับศาลแขวงนครปฐม ที่ จ.27/2566 ลงวันที่ 11 ม.ค. 2566 ในข้อหา ‘ร่วมกันฉ้อโกง’ และหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.114/2566 ลงวันที่ 10 ก.พ. 2566 ในข้อหา ‘ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน’   

ต่อมาวันที่ 15 ก.พ. พล.ต.ต.ธีรเดช นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด PCT5 และสืบสวนนครบาล ลงพื้นที่สืบสวนจนทราบว่า น.ส.ดวงกมลฯ คนร้ายกบดานอยู่ในบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และมีพฤติกรรมพบปะกับ ‘บอสชาวจีน’ ที่โรงแรมชื่อดังในพื้นที่พัทยาบ่อยครั้ง จึงได้นำกำลังเข้าจับกุม น.ส.ดวงกมลฯ ตามหมายจับ โดยจับกุมได้ที่บริเวณ หน้าบ้านเลขที่ 415/17 ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ในชั้นจับกุม น.ส.ดวงกมลให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

บัญชีม้า! ตำรวจสืบนครบาลตามรวบหนุ่มรับจ้างเปิดบัญชีให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ สร้างความความเสียหาย กว่า 2 ล้าน

ันที่ 12 มีนาคม พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. / หัวหน้าชุด PCT ชุดปฏิบัติการ 5 แถลงผลชุดวิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. นำทีม พ.ต.ท.พิทักษ์ ศรีกะแจะ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พร้อมเจ้าหน้าที่  จับกุม นายนิพนธ์ บุญแสง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37 ซอยรามอินทรา 65 แยก 2-14 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพ  ตามหมายจับ  2 หมายจับ ศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ 245/2565    
ลงวันที่ 7 ธันวาคม 2565 ความผิดฉ้อโกงทรัพย์และโดยทุจริตนำเข้าข้อมูลทางคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นและศาลแขวงสุรินทร์ ที่ จ96/2565 ลงวันที่ 19 ตุลาคม 2565             ความผิด ร่วมกันฉ้อโกง จับตัวได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 37 ซอยรามอินทรา 65 แยก 2-14 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร กรุงเทพ        

คดีนี้มีผู้เสียหายจังหวัดปทุมธานี ร้องเรียนมายังเพจ สืบสวนนครบาลIDMB ถูกแก๊งคอลเซนเตอร์หลอกให้โอนเงินไปตรวจสอบ เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องในการฟอกเงิน หากตรวจสอบแล้วไม่พบความผิด จะโอนเงินกลับคืนให้ ผู้เสียหายหลงเชื่อ ได้โอนเงินไปให้ตรวจสอบ ที่หมายเลขบัญชีชื่อนายนิพนธ์ (ขอสงวนนามสกุล) รวมเป็นเงินจำนวน 340,000 บาท จากนั้นผู้เสียหายไม่ได้รับโอนเงินกลับคืนและไม่สามารถติดต่อกับผู้รับโอนได้ เชื่อว่าถูกหลอกจนเกิดความเสียหาย จึงร้องทุกข์ไว้ และอีกรายมีผู้เสียหายจังหวัดสุรินทร์ แจ้งว่าถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้โอนเงินไปตรวจสอบในลักษณะเดียวกัน ผู้เสียหายหลงเชื่อ ได้โอนเงินไปให้ที่หมายเลขบัญชีเดียวกัน รวมเป็นเงินจำนวน 1,170,000 บาท จึงได้แจ้งความร้องทุกข์

‘ชัยวุฒิ’ เตือน คนเปิด ‘บัญชีม้า’ โทษหนัก หลัง ‘พ.ร.ก.ปราบอาชญากรรมออนไลน์’ บังคับใช้วันนี้

‘ชัยวุฒิ’ ยินดีคนไทย ‘พ.ร.ก.ปราบอาชญากรรมออนไลน์’ ประกาศใช้แล้ว แนะผู้เสียหายแจ้งธนาคารระงับบัญชีม้าได้ทันที เตือนคนทำผิดรีบไปยกเลิกบัญชีม้าก่อนเจอโทษหนัก

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ซึ่ง อยู่ระหว่างการประชุม World Summit on the Information Society Forum 2023 นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ กล่าวแสดงความยินดีกับคนไทยทุกคน หลัง พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี มีการประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา และจะมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค. เป็นต้นไป  ซึ่งกฎหมายฉบับนี้เป็นกฎหมายสำคัญ ที่รัฐออกมาเพื่อแก้ไขปัญหาการหลอกลวงทางออนไลน์ และปัญหาอาชญากรรมทางออนไลน์ทั้งหมด ทำให้ปัญหาจะลดลงอย่างแน่นอนหลังจากนี้

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า หลังจากนี้หากประชาชนถูกหลอกลวงทางออนไลน์ให้รีบแจ้งไปที่ธนาคารโดยตรง เพื่อที่ธนาคารจะได้ระงับบัญชีไม่ให้เงินถูกโอนออกไปเป็นทอดๆ ซึ่งหลังจากนี้ ธนาคารจะมีอำนาจระงับบัญชีต้องสงสัยได้ทันที จากเดิมต้องรอไปแจ้งความก่อนถึงจะระงับบัญชีได้

‘ดีอีเอส’ เตือน ปชช. ระวังตกเป็นเหยื่อ ‘แก๊งบัญชีม้า’ หลอกให้เปิดบัญชี อ้างได้เงินตอบแทนจากหน่วยงานรัฐฯ

(22 มี.ค. 66) นางสาวนพวรรณ หัวใจมั่น โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฝ่ายการเมือง (ดีอีเอส) กล่าวว่า จากกรณีที่มีการหลอกลวงประชาชนให้ค่าตอบแทน 400-500 บาท อ้างว่าจะนำเป็นหลักฐานไปใช้ในการทำสวัสดิการต่าง ๆ จากหน่วยงานรัฐฯ อาทิ การร่วมเป็นสมาชิกพรรคการเมือง การรับเงินสนับสนุนต่าง ๆ ส่งผลให้ประชาชนบางส่วนหลงเชื่อและอยากได้เงินค่าจ้าง โดยบางรายมาทราบทีหลังพบว่า มีการเปิดบัญชีธนาคารและมีเงินหมุนเวียนหลายแสนบาท ซึ่งมีผู้ถูกดำเนินคดีฐานความผิดเปิดบัญชีม้าแล้ว

ขณะนี้ มีประชาชนจำนวนมากที่ออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ แจ้งความต่อตำรวจตามโรงพักในท้องที่ และตรวจสอบตามธนาคารต่าง ๆ เพื่อตรวจสอบและดำเนินการปิดบัญชี เพราะหากมีการนำเอกสารไปเปิดบัญชีโดยไม่มีส่วนรู้เห็น เพื่อป้องกันความผิดฐานเปิดบัญชีม้า

'บิ๊กตู่' ยินดี สถิติแจ้งความคดีอาชญากรรมออนไลน์ลดลง พร้อมสั่งกำชับทุกหน่วยงานบังคับใช้ กม. อย่างเข้มงวด

(30 มี.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ความสำคัญและห่วงใยประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ โดยได้กำชับให้ทุกหน่วยงานดำเนินการอย่างจริงจังและบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด จึงผลักดันการพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่ เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์อาชญากรรมทางเทคโนโลยีในปัจจุบัน คุ้มครองประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ป้องกันการสูญเสียทรัพย์สิน ที่สำคัญคือชีวิตของประชาชน 

‘ตร.’ รวบ ‘บังฟัด’ รับจ้างเปิดบัญชีม้าให้เครือข่ายยาบ้า เจ้าตัวรับสารภาพได้ค่าตอบแทน 5 พันบาท

(7 เม.ย. 66) ที่ กองปราบปราม พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. สั่งการ พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.5 บก.ป.พ.ต.ต.ธีระพงษ์ คงเขียว สว.กก.5 บก.ป.จับกุม นายอาราฟัด ผลพนม อายุ 20 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ จ.118/2566 ลงวันที่ 17 มี.ค.66 ข้อหา “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตตามีน หรือยาบ้า) และสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดฯ” ได้หน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 3 ตำบลนาเคียน อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 26 ต.ค. 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พุนพิน ได้จับกุมขบวนการค้ายาเสพติดพร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 701,400 เม็ด ขณะซุกซ่อนในรถกระบะ ได้คาด่านตรวจบริเวณแยกยางงาม ต.หนองไทร อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี สอบสวนทราบว่าลำเลียงจาก จ.สมุทรปราการ เพื่อนำไปส่งต่อที่ จ.นครศรีธรรมราช ต่อมาสอบสวนขยายผลทราบว่า นายอาราฟัด ผู้ต้องหาเป็นหนึ่งในเครือข่ายดังกล่าว จึงขอศาลออกหมายจับไว้ กระทั่งตามจับกุมได้ดังกล่าว

สอบสวน ผู้ต้องหา ให้การปฏิเสธว่า ก่อนหน้านี้มีชายคนหนึ่งมาจ้าง 5,000 บาท ให้เปิดบัญชีธนาคาร โดยไม่ทราบว่าถูกนำไปใช้ในการโอนเงินซื้อขายยาเสพติด เจ้าหน้าที่จึงนำส่ง สภ.พุนพิน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ที่มา : https://mgronline.com/crime/detail/9660000032492

รองโฆษก ตร. เตือน สงกรานต์นี้ต้องระวัง 'ภัยออนไลน์หน้าร้อน' ย้ำมิจฉาชีพมาได้ทุกรูปแบบ ขู่!!! รับจ้างเปิด 'บัญชีม้า – เบอร์ม้า' ติดคุก 3 ปี ปรับ 3 แสน !!!

วันนี้ (8 เม.ย.66) เวลา 11.00 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.ท.หญิง ดร.ณพวรรณ ปัญญา รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชน ระวังมิจฉาชีพใช้โอกาสเทศกาลสงกรานต์ออกอุบายหลอกลวงออนไลน์

รองโฆษกฯ เปิดเผยสถิติคดีอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนร้องเรียนผ่านแจ้งความออนไลน์ เว็บไซต์ thaipoliceonline.com ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีจำนวนถึง 22,486 คดี ยอดความเสียหายรวมสูงกว่า 1,842 ล้านบาท โดย 5 ลำดับสูงสุด ได้แก่ 1) หลอกซื้อขายสินค้าหรือบริการที่ไม่เป็นขบวนการ 2) หลอกให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ 3) หลอกให้โอนเงินเพื่อทำงานฯ 4) ข่มขู่ทางโทรศัพท์ (Call Center) และ 5) หลอกให้กู้เงิน

พ.ต.ท.หญิง ณพวรรณฯ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันโจรออนไลน์มักจะออกอุบายตามเทศกาลวันสำคัญตามประเพณี ในช่วงฤดูร้อนนี้ จึงขอแจ้งเตือนถึงรูปแบบอาชญากรรมออนไลน์ที่โจรอาจใช้ในการหลอกลวง ดังนี้

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติร่วมกับรักษาราชการแทนเลขาธิการ กสทช. ลงพื้นที่แนวชายแดนจังหวัดเชียงราย วางมาตรการป้องกัน การกระทำผิดคดีออนไลน์ คุมเข้ม ซิมม้า-บัญชีม้า แก็งคอลเซ็นเตอร์

วันนี้ (5 พ.ค.66) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาราชการแทนเลขาธิการ กสทช. เดินทางลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย ประชุมวางมาตรการแนวทางการสืบสวน ป้องกันการกระทำผิดคดีออนไลน์ ในพื้นที่จังหวัดชายแดน โดยมี พล.ต.ท.ธนธัช น้อยนาค ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปฏิบัติราชการตำรวจภูธรภาค 5 , พล.ต.ต.พิเชษฐ์ จีระนันตสิน รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5, พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รองผู้บัญชาการ ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาจมีความทางเทคโนโลยี หรือ สอท., พล.ต.ต.ฐิตวัฒน์   สุริยฉาย ผู้บังคับการ สอท.4, พ.ต.อ.แมน รัตนประทีบ รองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 5 พ.ต.อ.พงษ์สวัสดิ์ ไชยบาล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย, ร้อยตรี ชัยทัศน์ กรานเลิศ ผู้อำนวยการส่วนบริการศุลกากร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม ด่านศุลกากรแม่สาย จุดผ่านแดนถาวรสะพานข้าม แม่น้ำสายแห่งที่ 2

ก่อนการประชุม พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ และนายไตรรัตน์ พร้อมคณะ ได้เดินทางไปสำรวจเสาสัญญานโทรศัพท์ตามแนวชายแดน ซึ่งเป็นต้นเหตุให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์อาศัยพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้านในการกระทำความผิด เนื่องจากสัญญานที่ส่งออกจากเสาสามารถส่งไปถึงประเทศเพื่อนบ้านด้วย โดยช่วงหนึ่งในการประชุมได้มีการหารือในประเด็นนี้ด้วย ทั้งนี้ ที่ประชุม ได้นำเสนอสภาพปัญหาอาชญากรรมคดีหลอกลวงทางโทรศัพท์ที่เป็นขบวนการ call centerในลักษะของการเปิดซิมม้า และบัญชีธนาคารม้า ในลักษณะของขบวนการ ลักลอบเข้ามาตามแนวชายแดน เพื่อเปิดซิมม้า บัญชีม้าไปใช้ในการกระทำผิด หรือนำไปขายต่อให้แก็งอาชญากรรมออนไลน์ รวมทั้งตัวแทนจำหน่าย จุดให้บริการของการจำหน่ายซิมต่างๆ ที่จะต้องปฏิบัติตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ได้เน้นย้ำแนวทางการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยการบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กสทช., สถาบันการเงิน และ ปปง. ให้เป็นไปตามเจตนารมย์ ของพระราชกำหนดมาตราการ ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และการบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิด ให้ตำรวจ สอท.ที่มีฐานข้อมูล ส่งต่อข้อมูลกลุ่มเสี่ยงให้ตำรวจพื้นที่เข้าตรวจสอบ ส่วนตำรวจตรวจคนเข้าเมืองให้นำบุคคลกลุ่มเสี่ยง ทำผิดกฎหมายขึ้นบัญชีบุคคลเฝ้าระวัง (watchlist) เพื่อตรวจความเข้มในการเดินทางเข้าออก

ด้าน นายไตรรัตน์ ฯ กล่าวว่า จากการที่ได้ตรวจดูเสาสัญญานตามแนวชายแดน พบว่ามีเสาที่ส่งสัญญานไปถึงประเทศเพื่อนบ้านจริง โดยอาจจะมีการยกเลิก หรือปรับย้ายจุดตั้ง โดยการขยับเสาให้ออกมาห่างจากแนวชายแดน ทั้งนี้ต้องไม่ให้กระทบกับผู้ใช้บริการตามแนวชายแดนด้วย 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top