Monday, 29 April 2024
น้ำมันรั่ว

กองทัพเรือ แถลงจัดตั้ง  "ศูนย์อำนวยการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน กองทัพเรือ "เร่งขจัดคราบน้ำมันที่รั่วไหลในทะเลระยอง  คาดสถานการณ์คลี่คลาย ใน 5 วัน  หากถึงหาดแม่รำพึง ก็มีแผนรับมือได้

ที่ห้องโพธิ์สามต้น หอประชุมกองทัพเรือ พล.ร.ท.ปกครอง  มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ พร้อมนางสาวพรพิมล เจริญส่ง  ผู้อำนวยการกองจัดการคุณภาพน้ำ  กรมควบคุมมลพิษ  นายพิทักษ์ วัฒนพงศ์พิศาล  ผู้อำนวยการสำนักความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมทางน้ำ กรมเจ้าท่า  และ ดร.พรศรี สุทธนารักษ์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ร่วมกันแถลงข่าวจัดตั้ง ศูนย์อำนวยการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน กองทัพเรือ (ศอปน.ทร.) เพื่อเร่งขจัดคราบน้ำมันที่รั่วไหลในทะเลระยอง

พล.ร.ท.ปกครอง กล่าวว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน กองทัพเรือ (ศอปน.ทร.) จะมีหน้าที่ในการอำนวยการกำกับการ และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในขณะเดียวกันก็สั่งการให้ทัพเรือภาคที่ 1 จัดตั้ง "ศูนย์ควบคุมการปฏิบัติการในการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน ทัพเรือภาคที่ 1 " (ศคปน.ทรภ.1) หรือ On Scene Commander เพื่อทำหน้าที่กำหนดแผน และยุทธวิธีในการขจัดคราบน้ำมัน  ปฏิบัติการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันที่เกิดขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบ  ตลอดจนอำนวยการประสานกับส่วนราชการ และหน่วยงานภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด 

ด้าน พล.ร.ต. วิฉณุ  ถูปาอ่าง  ผู้อำนวยการสำนักกิจการความมั่นคง กรมยุทธการทหารเรือ เปิดเผยถึงการดำเนินการต่อไป สำหรับการดำเนินการต่อไปได้วางแผนการขจัดคราบน้ำมันในทะเล โดยแบ่งเป็น 2 ลักษณะ ได้แก่   การขจัดกลุ่มคราบน้ำมันขนาดใหญ่ ดำเนินการโดยใช้ทุ่นลอบกัก แล้วใช้เครื่องดูดหรือ Skimmer ดูดคราบน้ำมันซึ่งถือว่าเป็นสารพิษอันตราย จากทะเลสู่ถังเก็บ แล้วนำส่งกรมอุตสาหกรรมเพื่อทำการทำลายต่อไป     

สำหรับในส่วนของการขจัดกลุ่มคราบน้ำมันที่มีทิศทางการเคลื่อนที่ที่เป็นอันตรายต่อชายฝั่งและพื้นที่เปราะบาง ดำเนินการโดยใช้ทุ่นล้อมเบี่ยงทิศการเคลื่อนที่ให้ออกห่างจุดเปราะบางไปสู่ทะเลเปิด แล้วทำการล้อมดักและดูดไปทำลายตามกระบวนการต่อไป
      
สำหรับแผนการขจัดคราบน้ำมันบริเวณชายฝั่ง ได้จัดแผนการดำเนินการแบ่งเป็น 2 ลักษณะ โดยแยกเป็นพื้นที่ชายฝั่งในทะเล ได้ประสานกับทางจังหวัด ในการใช้ทุ่นล้อมกันขึ้นฝั่ง ไม่ให้คราบน้ำมันขึ้นสู่ชายฝั่งซึ่งจะเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมาก   พื้นที่ชายฝั่งบนบก บริเวณที่เป็นหินจะใช้การฉีดน้ำให้คราบน้ำมันรวมตัวกัน แล้วตักเก็บไปทำลายบริเวณที่เป็นหาดทรายจะใช้รถแบ็คโฮลตักคราบน้ำมันที่ปะปนกับทรายแล้วนำไปทำลาย ทั้งนี้การปฏิบัติของ เจ้าหน้าที่จะต้องสวมชุดป้องกันและสามารถปฏิบัติงานได้เพียง 4 ชั่วโมง ต่อวันเท่านั้น เนื่องจากสารพิษจะเป็นอันตรายต่อร่างกายของผู้ปฏิบัติงาน

นายพิทักษ์ กล่าวว่า เราได้ระงับการรั่วไหล ปิดวาล์วได้หมด  พร้อมเฝ้าระวัง มลพิษ ที่ค่อนข้างมีปริมาณมาก จึงยกระดับให้กองทัพเรือ เป็นหน่วยบัญชาการเหตุการณ์  เร่งด่วน คือ การเฝ้าระวังการเคลื่อนไหว ดูทิศทางการเคลื่อนที่ และคลื่นลม ว่าจะไปทางใด และปริมาณ ที่ลงทะเล แพร่กระจายมากน้อยแค่ไหน 

ด้านนางสาวพรพิมล เปิดเผย ถึงแนวทางของกรมควบคุมมลพิษ คือ  1 ตรวจสอบค่าน้ำทะเล  2 ให้อนุญาต สำหรับปริมาณการใช้สารขจัดคราบน้ำมัน โดยสารดิสเพอร์แซนท์ โดยครั้งนี้ใช้ใน อัตรา 1:10  และ 3 จัดทำแผนฟื้นฟู 

ดร.พรศรี   เปิดเผยถึงความกังวล ของคราบน้ำมัน ที่จะส่งผลทรัพยากรใต้ทะเล ที่มี แนวปาการัง 150 ไร่ และย่าทะเล 300 ไร่ พร้อมยืนยันว่า จะมีการเรียกร้องค่าเสียหาย ที่เกิดขึ้น ทั้งการดำเนินการ และทรัพยากร ที่เสียหาย และในระยยาว จะมีการตั้งกองทุนฟื้นฟู ทรัพยากร   

เมื่อถามว่า ส่วนตัวเลขการรั่วไหลน้ำมับดิบ ที่บริษัทแจ้งว่า กว่า 4 แสนลิตร และรมต.ทรัพย์ ระบุเพียง 2 หมื่นลิตร ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร  นายพิทักษ์ ระบุว่า เป็นหารประเมินการณ์ ว่า 4 แสนลิตร เพื่อจัดเตรียมอุปกรณ์ รับมือสถานการณ์  ขณะที่พลเรือตรี วิษณุ ระบุ วิศวกร ของบริษัท แจ้งล่าสุด มีน้ำมั่น 20-50 ตัน  ต่างจากครั้งแรก ที่แจ้งไว้ และระบุ ยังมีน้ำมัน คงเหลือ 5.3 ตัน   ขณะที่โฆษกกองทัพเรือ  ระบุว่า ดูสภาพจริง ลดลงเยอะ   เบา กว่าที่เราคาดการณ์ไว้ แต่ยังไม่รู้ตัวเลขแน่ชัด  แต่จากใช้เครื่องบิน บินสำรวจ  ลากตระเวนด้วยสายตา  คาดว่า ตัวเลข 2 หมื่นลิตร  น่าจะใกล้เคียงกับข้อเท็จจริง 

“พล.ร.ท.ปกครอง กล่าวเสริม ว่า ทั้งนี้ยืนยันว่า ทางบริษัท คงไม่มีเจตนาปกปิดปริมาณน้ำมันที่รั่วไหล เพราะยิ่งปิด จะยิ่งสร้างความเสียหาย ขอให้มั่นใจ จากกองทัพเรือ 

‘สุริยะ’ มั่น!! เหตุน้ำมันรั่วเคลียร์จบในวันนี้ ยัน!! ไม่กระทบท่องเที่ยวระยองแน่นอน

‘สุริยะ - สาธิต’ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์สำรวจพื้นที่กรณี ‘น้ำมันรั่วมาบตาพุด’ ย้ำภายในวันนี้ (27 ม.ค. 65) เคลียร์คราบน้ำมันได้หมด เผยตัวเลขปริมาณน้ำมันล่าสุดเหลือเพียง 5 พันลิตร มั่นใจสถานการณ์ดังกล่าวจะไม่กระทบการท่องเที่ยวของจังหวัดระยองและกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว พร้อมสั่งตั้งคณะ กก.ตรวจสอบข้อเท็จจริงด่วน

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากกรณีเหตุน้ำมันรั่วไหลของ บมจ.สตาร์ปิโตรเลียม พื้นที่ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง นายกรัฐมนตรี (พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา) ได้แสดงความเป็นห่วงอย่างมากโดยเฉพาะผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชนในพื้นที่ รวมถึงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จึงได้สั่งการให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบหาข้อเท็จจริงดังกล่าว เนื่องจากการรายงานข่าวในเบื้องต้นมีการรายงานตัวเลขของปริมาณน้ำมันที่รั่วไหลออกมาว่ามีจำนวน 4 แสนลิตร ซึ่งเป็นการประเมินเบื้องต้นในช่วงของการเกิดเหตุการณ์กลางดึกของวันที่ 25 มกราคม 2565 ต่อมาทางบริษัทฯ ได้มีการส่งนักประดาน้ำลงสำรวจจุดเกิดเหตุ พบว่า มีปริมาณน้ำมันที่รั่วไหลอยู่ที่ประมาณ 50,000 ลิตร โดยหลังจากการดำเนินการควบคุมพื้นที่และกำจัดคราบน้ำมันในช่วงคืนที่ผ่านมา (26 มกราคม 2565) สามารถกำจัดออกไปได้ 45,000 ลิตร จึงเหลือตกค้างอยู่ประมาณ 5,000 ลิตร คาดว่าภายในวันนี้จะสามารถดำเนินการจนกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้

“จำนวนของคราบน้ำมันที่เหลืออยู่ประมาณ 5,000 ลิตร ผมเชื่อมั่นว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะที่บริเวณหาดแม่รำพึงที่มีการเกรงว่าอาจส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวนั้น ยืนยันไม่ส่งผลกระทบอย่างแน่นอน ขณะเดียวกันเราจะมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อร่วมกันตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งประกอบไปด้วย กระทรวงคมนาคม (กรมเจ้าท่า) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงอุตสาหกรรม โดยเบื้องต้น ได้มีการหารือกับรัฐมนตรีทั้ง 3 กระทรวงเรียบร้อยแล้ว เพื่อสอบสวนหาสาเหตุของการรั่วไหลในครั้งนี้ รวมทั้งหามาตรการหรือแนวทางในการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นซ้ำอีก” นายสุริยะ กล่าว

ขณะที่ด้าน นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้กล่าวเสริมว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2556 ที่เคยเกิดการรั่วไหลของน้ำมัน และส่งผลกระทบในวงกว้างนั้น จากการตรวจสอบทั้งในส่วนของปริมาณน้ำมัน กระแสคลื่นลมและทิศทางลมในวันนี้ มีความมั่นใจว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ แต่อย่างไรก็ตามทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องมีการติดตามความเสียหายในทุกมิติ ทั้งในแง่ของเศรษฐกิจ คุณภาพชีวิตของประชาชน และสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้มีการประสานไปยังกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้มีการตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมและความเสียหายในทุกมิติต่อไป

กองทัพเรือเร่งระดมเฮลิคอปเตอร์ –เรือจากภาครัฐและภาคเอกชน ป้องกันและขจัดคราบน้ำมัน ไม่ให้กระทบอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า

พล.ร.ท.ปกครอง  มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เเถลงความคืบหน้าเรื่องการเร่งขจัดคราบน้ำมันที่รั่วไหลในทะเลท่าเรือมาบตาพุด จ.ระยองว่า ตามที่กองทัพเรือได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน กองทัพเรือ หรือ ศอปน.ทร. เนื่องจากเหตุการณ์ท่อน้ำมันดิบใต้ทะเลของบริษัทสตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) มีน้ำมันดิบรั่วไหล จากท่อใต้ทะเลของทุ่นรับน้ำมันดิบกลางทะเล บริเวณอ.มาบตาพุด จ.ระยอง เมื่อเวลา 21.06 น. ของวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น ขณะนี้ทิศทางของคราบน้ำมันได้เคลื่อนที่ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ และกระจายตัวเข้าหาฝั่ง ปัจจุบันห่างจากชายฝั่ง 4.7 ไมล์ทะเล คาดว่าถึงอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า ต.เพ อ.เมือง จ.ระยองในช่วงบ่ายวันนี้ (28 ม.ค.)

ด้านน.ท.อนุสรณ์ คล้ายมงคล หัวหน้าสนับสนุนปฏิบัติการ กองปฏิบัติการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล กรมยุทธการทหารเรือ กล่าวว่า บทบาทหน้าที่กองทัพเรือในการขจัดคราบน้ำมันในครั้งนี้ เกิดจากแผนป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันแห่งชาติ ได้กำหนดให้กองทัพเรือเป็นหน่วยปฏิบัติการขจัดคราบน้ำมัน กรณีที่มีน้ำมันรั่วไหลเกินกว่า 20 ตันขึ้นไป  และอยู่นอกเขตท่าเรือที่กรมเจ้าท่ารับผิดชอบ เหตุการณ์ครั้งนี้เมื่อกองทัพเรือได้รับแจ้งจึงได้จัดตั้งศอปน.ทร. และจัดตั้งศูนย์ควบคุมการปฏิบัติการในการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน ทัพเรือภาคที่ 1 หรือ ศคปน.ทรภ.1 ที่มีกำลังพลจากกองทัพเรือ หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกำหนดแผนและกลยุทธ์ในการขจัดคราบน้ำมันในพื้นที่ปฏิบติการ โดยมีการจัดอากาศยานขึ้นบินตรวจสอบคราบน้ำมันในพื้นที่ทั้งช่วงเช้าและช่วงบ่าย จัดเรือหลวงแสมสาร เรือภาคเอกชนและกรมเจ้าท่า รวมแล้ว 10 ลำ เพื่อพ่นสารเคมีขจัดคราบน้ำมันในพื้นที่ที่เกิดคราบน้ำมันขึ้น
 

'ผบ.สอ.รฝ.' เยี่ยมให้กำลังใจ!กำลังพล ในการขจัดคราบน้ำมัน ที่ชายหาดแม่รำพึง

พล.ร.ต.สรวุท ชวนะ ผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (ผบ.สอ.รฝ.) ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจกำลังพลของหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ที่มาสนับสนุนการขจัดคราบน้ำมัน ซึ่งได้รับประสานจากศูนย์ควบคุมปฏิบัติการในการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน ทัพเรือภาคที่ 1 (ศคปน.ทรภ.1) ซึ่งหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ได้สนับสนุนกำลังพลในการเข้าขจัดคราบน้ำมัน ตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค.65 เป็นต้นมา ทั้งนี้เป็นไปตามนโยบาย ผู้บัญชาการทหารเรือ ที่ต้องการให้ทุกหน่วยของกองทัพเรือ สนับสนุนการแก้ไขปัญหาในกรณีที่มีน้ำมันรั่วไหล ในจังหวัดระยอง อย่างเต็มกำลังความสามารถ

ซึ่งผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ได้นำความห่วงใย และกำลังใจ จากผู้บัญชาการทหารเรือ มามอบให้กับกำลังพลทุกนาย ได้รับทราบว่า ผู้บังคับบัญชามีความห่วงใย และเป็นกำลังใจให้เสมอ พร้อมทั้งขอให้กำลังพลทุกนายปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง ไม่ประมาท และปฏิบัติตามแนวทางของการเข้าขจัดคราบน้ำมันที่ได้รับการอบรมโดยเคร่งครัด ซึ่งการทำงานดังกล่าวนี้ ต้องใช้ความอดทนอย่างสูง

 

ระยอง - เผย!ใช้สารเคมี Dispersant 80,000 ลิตร ในการสลายคราบน้ำมันดิบรั่วไหลกลางทะเล เร่งฟื้นฟู! ‘ชายหาดแม่รำพึง’ สร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวเล่นน้ำทะเล และความปลอดภัยอาหารทะเล

กองอำนวยการปฏิบัติการกู้คราบน้ำมันรั่วไหล จังหวัดระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนันต์ นาคนิยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง พล.ร.ต.อภิชาต วรภมร รองโฆษกกองทัพเรือ และนายธวัช เจนการ หน.อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ร่วมแถลงข่าวความคืบหน้าการปฏิบัติการกู้คราบน้ำมันของ บ.SPRC รั่วไหลกลางทะเล จังหวัดระยอง

พล.ร.ต.อภิชาต วรภมร รองโฆษกกองทัพเรือ ได้ยืนยันว่าตั้งแต่ปฏิบัติภารกิจมาวันเกิดเหตุวันที่ 25 ม.ค.ไม่เหลือคราบน้ำมันหลงเหลือในพื้นที่ผิวชายหาด แต่ในทะเลที่สลายในทะเลอาจจะหลงเหลืออยู่บ้าง อาจจับตัวแป็นก้อนเล็กๆ ขึ้นฝั่ง แต่ก็มีเจ้าหน้าที่ชุดเฝ้าระวังตามหาดต่างๆ ตลอด 24 ชม.เข้าไปเก็บกู้ให้กระทบชายหาดน้อยที่สุด ส่วนการปฏิบัติการกู้คราบน้ำมันครั้งนี้ มีการขออนุญาตใช้สารเคมี Dispersant สลายคราบน้ำมันในทะเล ประมาณ 80,000 ลิตรเศษ ซึ่งจาก 2 วันที่ผ่านมา ไม่ได้มีการใช้สารเคมีสลายคราบน้ำมันเลย ส่วนคราบน้ำมันที่เก็บกู้ขึ้นมาจะมีการนำไปกำจัดอย่างถูกวิธีต่อไป

ด้านนายอนันต์ นาคนิยม รอง ผวจ.ยอมรับว่ากังวลกับการแก้ไขเหตุการณ์และความปลอดภัยของประชาชนที่มาเล่นน้ำ ได้มีการประชาสัมพันธ์งดเล่นน้ำหาดแม่รำพึงไปก่อน ส่วนหาดอื่น และเกาะเสม็ดก็สามารถมาเที่ยวได้ไม่ได้รับผลกระทบ ซึ่งบรรยากาศท่องเที่ยวจังหวัดจะได้โฟกัสหาดแม่รำพึง พยายามให้สภาพความสวยงามกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด และจะสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวในการเล่นน้ำทะเลและความปลอดภัยอาหารทะเลด้วย

ระยอง - ‘นายกช้าง’ ประกาศพร้อม!เป็นตัวกลางเจรจา ‘เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบน้ำมันรั่ว’ หากไม่ได้รับความเป็นธรรม!!

ที่ห้องประชุมชั้น 3 อบจ.ระยอง ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปิยะ ปิตุเตชะ นายก อบจ.ระยอง ร่วมแถลงข่าวกับ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว หอการค้าจังหวัดระยอง ประมงพื้นบ้านเรือเล็ก และกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในจังหวัดระยอง ทั้งนี้เพื่อหาข้อสรุปในการเจรจากับบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด(มหาชน) เพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากคราบน้ำมันรั่วไหล

นายปิยะ ปิตุเตชะ นายก อบจ.ระยอง กล่าวว่า วันนี้เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ได้รับผลกระทบจากคราบน้ำมันทุกกลุ่มมาพูดคุยกัน ทบทวนมาตรการในการเยียวยาให้เป็นที่พอใจทั้งกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยว กลุ่มชาวประมง กลุ่มร้านอาหารทะเล ฯลฯ ซึ่งจะต้องได้รับการเยียวยาโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้หากไปยื่นเรื่องศูนย์ดำรงธรรมที่ตั้งขึ้นมาแล้ว ไม่พอใจ ทาง อบจ.ก็พร้อมที่จะเป็นตัวกลางในการเจรจากับทางบริษัทฯเรียกร้องค่าเยียวยาให้ เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรมที่สุด ส่วนการกระตุ้นภาคท่องเที่ยว อบจ.ระยอง มีแผนเตรียมจัดงานอีเวนต์เร็ว ๆ นี้ เพื่อดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่ โดยชายหาดพื้นที่อื่น ๆ ของจังหวัดไม่ได้รับผลกระทบ จึงอยากเชิญชวนให้มาเที่ยวกัน

สุวรรณา โดตี้ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวระยอง กล่าวว่า เหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลที่เกิดขึ้น เป็นการรับเคราะห์ซ้ำของชาวระยอง ภาคท่องเที่ยวได้รับผลกระทบ ปัจจุบันที่เห็นชัดคือนักท่องเที่ยวหายไป เนื่องจากไม่มั่นใจพบยอดจองห้องลดลง อยากให้มีการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบโดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะพื้นที่ที่ได้รับกระทบโดยตรง และพื้นที่อื่นก็ได้นับว่าได้ผลกระทบเช่นกัน และที่สำคัญต้องการให้มีมาตรการป้องกันแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่มีมาตรฐาน และมีแผนกระตุ้นท่องเที่ยวที่เป็นรูปธรรม เพื่อดึงนักท่องเที่ยวให้กลับมาโดยเร็ว ในส่วนการตรวจสอบนั้น อยากให้ภาคเอกชน เข้าไปมีส่วนร่วมในการตรวจสอบวัสดุอุปกรณ์ของบริษัทฯ ด้วย ไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก

นายธนู ทิพย์มณี รองประธานกลุ่มประมงพื้นบ้านเรือเล็กแหลมเทียน กล่าวว่า ชาวประมงหากินลำบากอยู่แล้ว ต้องมาได้รับผลกระทบคราบน้ำมันรั่วไหลซ้ำเติมอีก ต้องสูญเสียรายได้นับหมื่นบาทต่อเดือน ทางกลุ่มได้มีการปรึกษากลุ่มประมงมีอยู่ประมาณ 40 กลุ่ม อยากให้บริษัทฯ เยียวยาเบื้องต้นใช้เกณฑ์การเยียวยาปี 56 คือ วันละ 3,000 บาท ทั้งนี้บริษัทฯ ต้องเข้ามาคุยกับกลุ่มประมงโดยตรง เพื่อจะได้พูดคุยการเยียวยาจะฟื้นฟูทะเลอย่างไรด้วย เพื่อให้สัตว์น้ำกลับมาอุดมสมบูรณ์  ซึ่งทะเลระยองเป็นของทุกคน ขอเรียกร้องให้มาช่วยกันปกป้องทะเลระยอง เพื่อลูกหลานจะได้มีอาชีพ และมีสัตว์น้ำไว้กินตลอดไป ส่วนการทำประมงขณะนี้ได้ขอให้งดวางอวนจับสัตว์น้ำในช่วงนี้ ให้การกู้คราบน้ำมันเสร็จสิ้นเสียก่อน

 

ระยอง - พบน้ำมันรั่วไหลกลางทะเล ซ้ำอีกที่จุดเดิม 5,000 ลิตร สาเหตุเกิดจาก เจ้าหน้าที่ยกท่ออ่อนจุดที่รั่วเดิมขึ้นมาตรวจสอบ แต่มีน้ำมันค้างท่อ

เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 10 ก.พ.2565 ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดระยอง กรณีน้ำมันดิบรั่วกลางทะเล หมู่บ้านสบาย สบาย หาดแม่รำพึง อ.เมือง จ.ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ว่าที่ ร.ต.พิรุณ เหมะรักษ์ รอง ผวจ.ระยอง ในฐานะคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงปริมาณการรั่วไหลของน้ำมัน บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด(มหาชน)หรือ SPRC และ นายพุทธิกรณ์ วิชัยดิษฐ อุตสาหกรรมจังหวัดระยอง เปิดแถลงข่าวด่วนหลังมีรายงานว่า มีน้ำมันดิบรั่วไหลกลางทะเลซ้ำจุดเดิมอีก สาเหตุเกิดจากทางบริษัท SPRC ได้มีการยกท่ออ่อนขนถ่ายน้ำมันบริเวณทุ่นขนถ่ายน้ำมันกลางทะเลจุดที่พบการรั่วไหลครั้งที่ผ่านมา ขึ้นมาตรวจสอบแต่พบว่ามีน้ำมันค้างท่ออยู่ จึงเกิดการรั่วไหลลงทะเลซ้ำอีก

ว่าที่ ร.ต.พิรุณ กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ เวลาประมาณ 09.00 น.ได้รับแจ้งจาก บ. SPRC ว่าได้เกิดเหตุน้ำมันรั่วไหลซ้ำอีกจุดเดิมที่มีการรั่วไหลกลางทะเลเมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งสาเหตุเกิดจากเจ้าหน้าที่ของ บ.SPRC ได้มีการยกท่ออ่อนจุดที่รั่วไหลขึ้นมาตรวจสอบ แต่พบว่ามีน้ำมันดิบค้างท่ออยู่ จำนวน 5,000 ลิตร เกิดรั่วไหลลงทะเล แต่เป็นน้ำมันที่ไม่หนาแน่นเหมือนครั้งที่ผ่านมา โดยจุดที่พบคราบน้ำมันอยู่ห่างทุ่นขนถ่ายน้ำมันประมาณ 3 ไมล์ทะเล และอยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 20 กม. เบื้องต้นทางบริษัทฯ ได้ระดมเรือ จำนวน 9 ลำ และเฮลิคอปเตอร์ 1 ลำ เข้าควบคุมสถานการณ์ โปรยสารเคมีสลายคราบน้ำมันดังกล่าวอย่างเร่งด่วนแล้ว อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และเอาอยู่ไม่พัดเข้าฝั่งแน่นอน

ระยอง - โฆษกกองทัพเรือแจง ทรภ. 1 ส่งอากาศยาน ขึ้นสำรวจน้ำมันรั่วรอบ 2 ที่ระยอง พบไม่รุนแรง!!

พลเรือโท ปกครอง  มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงข่าวกรณีเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 บริษัทสตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด(มหาชน) หรือ SPRCได้ประกาศภาวะฉุกเฉินน้ำมันรั่วไหล Tier 1  (ภาวะน้ำมันรั่วไหลขนาดเล็ก ไม่เกิน 20 ตัน)  เนื่องจากพบฟิล์มน้ำมันดิบ (สีเงิน) บริเวณทิศเหนือ ห่างจากทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเลประมาณ 3 ไมล์ เนื่องจากมีการเข้าไปเก็บหลักฐานเพื่อประกอบทางคดี และมีการสอบสวนถึงน้ำมันในท่อและระบบซึ่งขณะทำการตรวจสอบ ได้เกิดการรั่วไหลของน้ำมันค้างท่อจำนวนประมาณ 5,000 ลิตร และ บริษัทฯ ได้ขอกำลังทางเรือและอากาศยานจากทัพเรือภาค 1 ขึ้นบินลาดตระเวนตรวจคราบน้ำมันและวางแผนการใช้สารขจัดคราบน้ำมันเพื่อระงับเหตุ ให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว และอยู่ในวงจำกัด

ระยอง - ผวจ.ระยอง เผยคราบน้ำมันจ่อประชิดฝั่งห่าง 5 กม. ยัน!เสียใจหลังน้ำมันรั่วรอบ 2 พร้อมตำหนิบริษัทต้นตอ ขาดความระมัดระวัง!! กรมเจ้าท่าแจ้งความดำเนินคดี 4 ข้อหา

เมื่อวันที่ 11 ก.พ.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผวจ.ระยอง ได้เดินทางมาตรวจและติดตาม การรับเรื่องราวร้องทุกข์ กรณีคราบน้ำมันดิบรั่วไหล บ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จก. หรือ SPRC ที่หมู่บ้านสบาย สบาย รีสอร์ท หาดแม่รำพึง อ.เมือง จ.ระยอง

นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผวจ.ระยอง ได้เปิดเผยถึง กรณีเกิดเหตุน้ำมันรั่วไหลกลางทะเล รอบที่ 2 จำนวน 5,000 ลิตร ซึ่งเป็นจุดเดิมที่มีการรั่วไหลเมื่อครั้งที่แล้วว่า จุดที่พบคราบน้ำมันรั่วไหลอยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 5 กม. ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ดำเนินการควบคุมสถานการณ์ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำอีกครั้งนี้ ตนรู้สึกเสียใจ ซึ่งทุกฝ่ายก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ต้องมีการแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายกันไป ทั้งนี้ บริษัท น่าจะทำได้ดีกว่านี้ น่าจะมีความระมัดระวังในการวางแผนเข้าดำเนินการตรวจสอบให้รอบคอบ ซึ่งการขอโทษไม่ได้ช่วยอะไร คิดว่าประชาชนคงรับไม่ได้ เบื้องต้นได้ตำหนิทาง บริษัทฯ ไปแล้ว ผลกระทบที่เกิดขึ้นมีแน่นอน โดยเฉพาะความรู้สึกของประชาชนและนักท่องเที่ยว ส่วนการปลดธงแดง และการลงเล่นน้ำทะเล ต้องขอประเมินสถานการณ์คราบน้ำมันในทะเลอีกรอบ ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า(จท.) ได้มอบอำนาจให้เจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาระยอง ในฐานะผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.ไม้ฟ้า ปักเขตานัง ร้อยเวร สภ.มาบตาพุด ดำเนินคดี 4 ข้อหา โดยแบ่งออกเป็น 4 ฐานความผิด คือ

1.ฐานความผิดตามมาตรา 119 ทวิแห่ง พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 แก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย(ฉบับที่ 14) พ.ศ.2535 กรณีก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมซ้ำเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งถือเป็นคดีที่ต่างกรรมต่างวาระ กับการกระทำผิด ซึ่งได้ร้องทุกข์ไปแล้ว เมื่อวันที่ 27 ม.ค.2565

ระยอง - ความคืบหน้าในการขจัดคราบ ‘น้ำมันรั่ว’! หลังจากพบมีปริมาณคราบน้ำมันรั่วไหล รอบ 2

ผู้สื่อข่าวรายงาน สถานการณ์และความคืบหน้าในการขจัดคราบน้ำมันรั่วไหล จังหวัดระยองอย่างต่อเนื่อง หลังจากพบมีปริมาณคราบน้ำมันรั่วไหล รอบ 2 เมื่อ 10 ก.พ. ซึ่งน้ำมันลอยอยู่กลางทะเลลักษณะเป็นแผ่นฟิล์มบาง เจ้าหน้าที่ได้นำ Boom ล้อมคราบน้ำมันบริเวณจุดเกิดเหตุและใช้สาร dispersant ฉีดพ่นเพื่อสลายคราบน้ำมันที่รั่วไหล ซี่งคราบน้ำมันยังคงอยู่ที่ตำแหน่งเดิมเนื่องจากไม่มีกระแสลม จุดพิกัด 12°36'36"N  101°18"23E มีระยะห่างจากชายฝั่ง 3.67 กิโลเมตร ห่างจากชายหาดแม่รำพึงประมาณ 8 กิโลเมตร และห่างจากชายฝั่งเกาะเสม็ด 15 กิโลเมตร ซึ่งมีบูมที่ทำการล้อมคราบฟิล์มน้ำมัน รวมพื้นที่ 0.36 ตารางกิโลเมตร บริเวณดังกล่าวมีเรือเฝ้าระวังประจำจุดรั่วไหล จำนวน 11 ลำ ประกอบด้วย เรือ Boom จำนวน 6 ลำ และเรือพ่นสารเคมี จำนวน 5 ลำ และมีการกั้น Boom จำนวน 3 ปาก และมีการกั้น Boom บริเวณหน้าอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด จำนวน 2 ปาก

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ปฏิบัติการตรวจติดตามเส้นทางการแพร่กระจายน้ำมันทางชายหาด และ คืนที่ผ่านมา กำลังพลจากหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) ยังคงปฏิบัติหน้าที่ สำรวจชายหาด ทำความสะอาด เก็บขยะบริเวณโดยรอบชายหาดแม่รำพึง จ.ระยอง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top