Saturday, 11 May 2024
นักเคลื่อนไหว

‘คุณปู่วัย 77 ปี’ สวมบท ‘จอห์น วิค’ ควักปืนยิง 2 นักเคลื่อนไหวดับ เหตุหงุดหงิด!! ปิดถนนชุมนุมนานหลายชั่วโมง จนสัญจรไม่ได้

เมื่อไม่นานมานี้ กลายเป็นภาพข่าวที่เป็นกระแสไวรัลไปทั่วอเมริกาอย่างรวดเร็ว เมื่อ นายเคเนธ ดาร์ลิงตัน คุณปู่ชาวอเมริกันเชื้อสายปานามา วัย 77 ปี ควักปืนยิงใส่ 2 นักเคลื่อนไหว เพื่อสิ่งแวดล้อมในปานามา ดับคาทางหลวง Pan American Highway ท่ามกลางสายตาผู้ชุมนุม ที่กำลังถ่ายคลิปวิดิโอเป็นจำนวนมาก โทษฐานทำแกหงุดหงิดที่กลุ่มผู้ชุมนุมมาปิดถนนนานหลายชั่วโมงจนผู้ใช้ถนนสัญจรไม่ได้

สิ่งที่ชวนตะลึงยิ่งกว่าคดียิงกันตายบนท้องถนน คือสีหน้าของ ปู่เคเนธ ดาร์ลิงตัน ขณะลั่นไกยิงคู่กรณีที่เข้ามาโวยวายใส่ปู่ ขณะที่แกลงจากรถไปรื้อไม้กั้นถนนของกลุ่มผู้ชุมนุม แกก็ชักปืนสั้นออกมาให้รู้ว่ามีปืนนะ อย่ามายุ่ง

แต่ก็ไม่วาย คู่กรณียังมายืนขวางหน้า ปู่แกเลยยิงซึ่ง ๆ หน้าระยะเผาขนด้วยสีหน้าเรียบเฉยมาก ไม่สะทกสะท้านใด ๆ แม้เห็นคู่กรณีล้มคว่ำไปต่อหน้าต่อตา จนชาวเน็ตอดไม่ได้ที่จะเทียบบุคลิกนิ่งๆ แต่สายตาเย็นเยียบขณะลั่นไก ว่าคล้ายกับ 'จอห์น วิค' ตัวละครในหนังฮอลลิวูดเรื่องดัง

และทำให้เกิดกระแสถกเถียงกันในโลกโซเชียล ทั้งในสหรัฐและปานามา ว่าจะมายกปู่แกเป็น  ‘จอห์น วิค’ ไม่ได้ เพราะ Bottom Line แล้ว ปู่แกคือคนร้ายที่ยิงคนตายกลางถนนถึง 2 คน

แต่อีกส่วนหนึ่งก็อยากให้เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงการกระทำของกลุ่มนักเคลื่อนไหวบ้าง ที่มุ่งแต่ประท้วง ปิดถนนสายหลักแบบไม่สนใจว่าใครจะเดือดร้อนบ้าง ถึงการกระทำของปู่จะสุดโต่ง แต่ก็อยากให้กลุ่มนักเคลื่อนไหวรู้จักรอมชอมบ้างในบางกรณี

ส่วนประเด็นความขัดแย้งเบื้องหลังที่นักเคลื่อนไหวในปานามาต้องยกพลมาปิดถนนหลวงประท้วงใหญ่ เกิดจากที่รัฐบาลตกลงให้สัมปทานกับ First Quantum Minerals บริษัททำเหมืองแร่จากแคนาดา เข้ามาทำเหมืองแร่ทองแดง ที่จะนำมาใช้เป็นส่วนประกอบแบตเตอรีรถยนต์ไฟฟ้าในปานามาเป็นเวลา 20 ปี

ซึ่งบริเวณที่รัฐให้สัมปทานเป็นเขตพื้นที่ป่าฝนดิบชื้นอันอุดมสมบูรณ์ของประเทศ กว่า 3.2 หมื่นเอเคอร์โดยรัฐบาลอ้างว่า การสร้างเหมืองจะสร้างงาน สร้างรายได้ให้ชาวปานามาหลายพันครอบครัว ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อปากท้องของชาวปานามา

แต่ด้านนักเคลื่อนไหวสิ่งแวดล้อมคัดค้านอย่างหนัก มองว่ารัฐบาลปานา ขายทรัพยากรธรรมชาติของชาติที่ประเมินค่าไม่ได้ แลกกับแค่เงินลงทุนสัมปทานต่างชาติ ยังไม่นับมลพิษด้านสิ่งแวดล้อม ความเสียหายจากสารพิษปนเปื้อนแหล่งน้ำ การทำลายพื้นที่ป่า ที่ไม่เป็นผลดีต่อการแก้ไขปัญหาสภาพอากาศโลก

งานนี้ประท้วงกันหนักมาก มีชาวปานามานับหมื่นเดินทางมาประท้วงรัฐบาลนานหลายสัปดาห์แล้ว แม้บริษัทสัปทานแคนาดาจะยอมจ่ายค่าชดเชยด้านสิ่งแวดล้อมเพิ่มให้อีกปีละ 375 ล้านเหรียญ ผู้ประท้วงก็ไม่ถอย

และยกระดับปิดถนนสายหลัก เพื่อกดดันรัฐบาลจนเริ่มสร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวปานามาทั่วไป ซึ่งกลุ่มที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมากคือ เกษตรกร ที่ไม่สามารถส่งผลผลิตได้เพราะปิดถนน จนสินค้าเสียหาย

แต่นักเคลื่อนไหวก็ประท้วงอย่างแข็งกร้าวมาก ปิดคือปิด ไม่ยอมถอยแม้จะมีคนจำนวนมากร้องเรียนเพราะเดือดร้อนจากการปิดถนน เพราะพวกเขามองว่า สัมปทานทำเหมืองในพื้นที่ป่าฝนเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้!!

จนกระทั่งมาเกิดเหตุคุณปู่จอห์น วิค ในวันนี้ เป็นสถานการณ์ที่น่าเศร้าสำหรับคนที่มีเจตนาดีต่อสังคม แต่ใช้วิธีแข็งกร้าว รุนแรงในการเผชิญหน้ากับปัญหา ซึ่งประวัติส่วนตัวเล็กน้อยของคุณปู่ เคเนธ ดาร์ลิงตัน ที่ชาวเน็ตยกฉายา จอห์น วิค ให้แกชั่วคราว เป็นชาวปานามาที่เกิดในสหรัฐ จึงถือทั้ง 2 สัญาชาติ และแกเคยเป็นทนายมาก่อนด้วย ส่วนนักเคลื่อนไหว 2 คน ที่โดยแกยิงเสียชีวิตเป็นครู ทั้ง 2 คน

‘นายกฯ แคนาดา’ ถูกนักเคลื่อนไหวบุกปิดล้อมร้านอาหาร ประท้วงเรียกร้องให้หยุดยิงในกาซา ก่อนรุดหนีอย่างรวดเร็ว

มีผู้ถูกจับ 2 คน หลังพวกผู้ประท้วงฝักใฝ่ปาเลสไตน์ราว 250 คน ปิดล้อมร้านอาหารแห่งหนึ่งในแวนคูเวอร์ ที่นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด กำลังรับประทานอาหารค่ำในเย็นวันอังคาร (14 พ.ย.) พร้อมตะโกนเรียกร้องให้หยุดยิงในฉนวนกาซา

(16 พ.ย.66) โดย สตีฟ แอดดินสัน โฆษกตำรวจแวนคูเวอร์ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ 100 นายถูกส่งเข้าไปสลายการชุมนุม ขณะเดียวกัน เข้าอารักขาพาตัว ทรูโด ออกจากร้านอาหารซึ่งไม่เปิดเผยชื่อ ในย่านไชน่าทาวน์

เจ้าหน้าที่หญิงรายหนึ่งถูกพาตัวส่งโรงพยาบาล หลังโดนผู้ประท้วงรายหนึ่งชกต่อยและเล็บมือขีดข่วนบริเวณดวงตา จากการเปิดเผยของโฆษกตำรวจแวนคูเวอร์ พร้อมเผยว่าตำรวจใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าสยบผู้ต้องสงสัยวัย 27 ปีรายหนึ่ง ฐานพยายามก่อความวุ่นวาย ส่วนชายอีกคนถูกจับกรณีขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ โดยเวลานี้ชายคนแรกยังอยู่ภายใต้การควบคุมตัวของตำรวจ แต่คนหลังได้รับการปล่อยตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ก่อนหน้านี้ในวันอังคาร (14 พ.ย.) ทรูโด ถูกพวกผู้ประท้วงบุกเข้าหาที่ร้านอาหารอินเดียแห่งหนึ่ง ในอีกฟากหนึ่งของเมือง ขณะที่วิดีโอที่โพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์ เป็นภาพพวกนักเคลื่อนไหวบุกไปเผชิญหน้ากับ ทรูโด ระหว่างที่เขานั่งอยู่ตรงโต๊ะ พวกเขาส่งเสียงเรียกร้องข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับนักรบปาเลสไตน์ ‘ฮามาส’ ในฉนวนกาซา พร้อมตะโกน "คุณมันน่าอดสู" และ "จัสติน ทรูโด คุณให้เงินสนับสนุนฆ่าล้างเผ่าพันธุ์"

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีแคนาดา รุดออกจากร้านอาหารอย่างรวดเร็ว โดยไม่ได้ตอบโต้พวกนักเคลื่อนไหวใดแต่อย่างใด

ชาร์ลอตต์ เคท ซึ่งเป็นแกนนำร่วมกับกลุ่ม Samidoun Palestinian Prisoner Solidarity Network ที่เข้าร่วมกับการชุมนุมทั้ง 2 แห่ง บอกกับผู้สื่อข่าวว่า กิจกรรมนี้เป็นความเคลื่อนไหวเรียกร้องให้แคนาดา ‘แสดงจุดยืนอย่างจริงจัง’ ต่อปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในฉนวนกาซา

ทรูโด กล่าวในวันอังคาร (14 พ.ย.) เรียกร้อง เบนจามิน เนทันยาฮู แสดงออกถึงความอดทนอดกลั้นขั้นสูงสุดในปฏิบัติการทิ้งบอมบ์ถล่มกาซา ซึ่งคร่าชีวิตปาเลสไตน์แล้วมากกว่า 11,000 คน หลังอิสราเอลประกาศสงครามกับฮามาส ในวันที่ 7 ตุลาคม แก้แค้นกรณีที่นักรบกลุ่มนี้บุกจู่โจมอย่างไม่คาดคิดเล่นงานอิสราเอล สังหารผู้คนไป 1,200 ราย และจับเป็นตัวประกันราว 240 คน

เนทันยาฮู ปฏิเสธเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของทรูโด ยืนยันว่ากองทัพอิสราเอลไม่ได้ตั้งใจเล็งเป้าหมายเล่นงานพลเรือน และยืนกรานว่า ฮามาสต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อเหตุเสียชีวิตทั้งหมดในกาซา

‘Ho Yik-king’ นักเคลื่อนไหวเรียกร้องเอกราชฮ่องกง ปลิดชีพตนในอังกฤษ หลังชีวิตในแดนผู้ดี แทบไม่มีอะไรดั่งฝัน ‘ต่ำชั้นกว่าพลเมืองในประเทศ’

นักเคลื่อนไหวเรียกร้องเอกราชฮ่องกง… ฆ่าตัวตายในอังกฤษ!!

เรื่องราวที่น่าสะเทือนใจอันเป็นชีวิตจริงของหญิงสาวนักเคลื่อนไหว ผู้เรียกร้องเอกราชฮ่องกงจากจีน ‘Ho Yik-king’ (โฮ ยิก-คิง) ก่อนเข้ามหาวิทยาลัยและระหว่างการศึกษาในมหาวิทยาลัยฮ่องกง เธอประพฤติตัวดีเสมอมา หลังจากสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาเอเชียศึกษาและนานาชาติ ด้วยความชื่นชอบในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เธอจึงได้ศึกษาเพิ่มเติมในมหาวิทยาลัยเจนีวาจนสำเร็จปริญญาโท

ในปี 2018 ฮ่องกงต้องประสบกับการประท้วงอันความสับสนอลหม่านภายใน โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเสนอให้แก้ไขกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อผลประโยชน์ของกลุ่มบุคคลหัวรุนแรงในฮ่องกง ซึ่งต่อต้านรัฐบาลจีน และเพื่อเป็นการแสดงออกถึงการคัดค้านการแก้ไขกฎหมายดังกล่าว กลุ่มบุคคลหัวรุนแรงเหล่านี้ จึงได้จัดการประท้วงอย่างต่อเนื่องบนท้องถนนย่านใจกลางเมืองฮ่องกง และเมื่อไม่มีการตอบโต้จากรัฐบาลฮ่องกง กลุ่มผู้ประท้วงจึงได้เพิ่มความรุนแรงในการประท้วงของพวกเขา โดยหันไปใช้วิธีทำลายล้าง หรือแม้แต่โจมตีต่อประชาชนชาวฮ่องกงทั่วไป

ในช่วงเวลานี้ ภายใต้อิทธิพลของบรรดาเพื่อนร่วมงานของเธอ ‘Ho Yik-king’ ได้รับการปลูกฝังในเรื่องการเรียกร้องเอกราชของฮ่องกงโดยสมบูรณ์ และได้เข้าร่วมขบวนการต่อต้านการส่งผู้ร้ายข้ามแดนอย่างแข็งขัน ที่สุดเธอจึงกลายเป็นบุคคลสำคัญในหมู่คนหัวรุนแรงเหล่านี้ โดยใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อแสดงมุมมองที่รุนแรง และมีส่วนร่วมในการเผชิญหน้ากับรัฐบาลฮ่องกง เชื่อกันว่า เธอได้การสนับสนุนจากรัฐบาลอังกฤษในการเรียกร้องเอกราชให้ฮ่องกง และเธอถูกรัฐบาลฮ่องกงพยายามจับกุม

หลังจากเธอขายทรัพย์สินทั้งหมดของตัวเองในฮ่องกงแล้ว ด้วยความช่วยเหลือของรัฐบาลอังกฤษ โดยเธอได้รับพาสปอร์ต ‘BNO’ (British National Overseas) อย่างไรก็ตาม หลังจากเธอเดินทางไปอยู่ในอังกฤษแล้ว เธอแทบไม่ได้รับการดูแลอะไรจากรัฐบาลอังกฤษเลย จะไปหางานทำ หรือเปิดบัญชีธนาคารก็ทำไม่ได้ เพราะพาสปอร์ต BNO ไม่สามารถทำให้เธอมีสิทธิเช่นเดียวกับพลเมืองอังกฤษ และสิ่งที่ทำให้เธอต้องประหลาดใจที่สุด คือ เธอไม่สามารถจ่ายค่าเช่าห้องอันแสนแพงได้ ทั้งยังต้องดำรงชีวิตอยู่ด้วยการทานอาหารเพียงวันละมื้อเดียว ภายใต้แรงกดดันมหาศาล ในที่สุด เธอก็ตัดสินใจจบชีวิตตนเองด้วยการฆ่าตัวตาย และได้ทิ้งจดหมายลาตายเอาไว้

ชีวิตของ Ho Yik-king จึงเป็นเพียงแค่เบี้ยตัวเล็ก ๆ ตัวหนึ่ง ที่รัฐบาลอังกฤษไม่ได้ให้ค่า ครั้นเธอจะกลับฮ่องกงก็จะต้องติดคุก ปริญญา 2 ใบของเธอ ไม่ได้ช่วยให้เธอได้ตาสว่างแต่อย่างใด ด้วยเพราะตำราที่เธอเรียนจนได้ปริญญา 2 ใบนั้น เขียนโดยชาติตะวันตกทั้งสิ้น ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าเศร้าสำหรับบุคคลที่มีภูมิทางการศึกษาดี แต่เลือกเส้นทางและความเชื่อในทางที่ผิด และเมื่อสืบค้นเรื่องราวของเธอใน Google แล้วจะพบเพียงหนึ่งเรื่องใน YouTube คือ https://www.youtube.com/watch?v=vFbjcZEfxFY และใน X มีผู้ใช้ชื่อว่า Richard Seeto @richseeto ได้นำเรื่องราวของเธอใน YouTube ไปลง สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นราวกับว่า เธอไม่เคยมีตัวตนปรากฏอยู่เลย

เรื่อง : ดร.ปุณกฤษ ลลิตธนมงคล


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top