Sunday, 19 May 2024
นลินี_ทวีสิน

‘รัฐบาลเช็ก’ สนใจลงทุน ‘รถยนต์-การแพทย์’ ในไทย เล็งเดินหน้าเจรจา FTA ‘ไทย-อียู’ ให้เสร็จตามแผน

(17 พ.ย. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นางนลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย เปิดเผยถึงการหารือกับนายปาเวล ปีเตล เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเช็กประจำประเทศไทย ว่า ประเทศไทยถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพของเช็ก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ โดยเช็กมีความสนใจที่จะสร้างหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจในอุตสาหกรรมยานยนต์กับไทย เพื่อดึงดูดให้บริษัทยานยนต์ของเช็กเข้ามาลงทุน พัฒนาเทคโนโลยี และตั้งฐานการผลิตในประเทศไทย เช่นเดียวกับที่ได้ดำเนินการมาแล้วในอินเดีย เวียดนาม ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยบริษัทที่กำลังจะเข้ามาลงทุนในไทย คือ บริษัท สโกด้า (เครือโฟล์คสวาเกน) ซึ่งเป็นผู้ผลิตยานยนต์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับอีวี ซึ่งแนวทางนี้สอดคล้องกับนโยบายการส่งเสริมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของไทยด้วย 

นอกจากนี้ เช็กยังมีชื่อเสียงในด้านการผลิตสินค้าเพื่อการป้องกันประเทศ ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ และเครื่องมือแพทย์ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างส่งเสริมให้บริษัทด้านการแพทย์เข้ามาลงทุนในประเทศไทย

นางนลินี กล่าวว่า เช็กเป็นคู่ค้าที่สำคัญของไทย โดยไทยมีสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนให้กับบริษัทต่างชาติที่เข้ามาลงทุน ทั้งภายใต้บีโอไอและอีอีซี ปัจจุบันรัฐบาลมีแผนพัฒนาประเทศ เพื่อก้าวไปสู่การเป็น World’s Wellness Capital จึงเชิญชวนให้บริษัทด้านการแพทย์ของเช็กเข้ามาลงทุนในประเทศไทย และร่วมกันพัฒนาทักษะของแรงงานไทยให้มีมาตรฐานมากขึ้น สำหรับบริษัทไทยที่เข้าไปลงทุนในเช็กปัจจุบันมีหลายบริษัท เช่น บริษัท อินโด รามาเวนเจอร์ ที่ตั้งโรงงานผลิตวัสดุเสริมแรงในยางรถยนต์ และในปี พ.ศ.2567 นี้ ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและสาธารณรัฐเช็กจะครบรอบ 50 ปี จึงเป็นโอกาสอันดีหากผู้บริหารระดับสูงของทั้งสองประเทศได้มีโอกาสพบหารือกัน

นางนลินี กล่าวว่า ทั้งสองประเทศเห็นพ้องกันว่า การเจรจาความตกลงเอฟทีเอ ไทย-สหภาพยุโรป จะเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยอำนวยความสะดวกทางการค้าและส่งเสริมการเคลื่อนย้ายสินค้าระหว่างกัน อย่างไรก็ตามเอฟทีเอ ดังกล่าว ถือเป็นความตกลงที่มีมาตรฐานสูง ไทยจึงขอให้เช็กช่วยสนับสนุนการเจรจาให้แล้วเสร็จตามแผนที่วางไว้ โดยแม้ความตกลงจะมีรายละเอียดมาก และอาจต้องใช้เวลาปรับตัวในช่วงเริ่มต้น แต่เมื่อผ่านไปได้จะเกิดประโยชน์ต่อภาคธุรกิจและนักลงทุนเป็นอย่างมาก

‘ผู้แทนการค้าฯ’ ชวน ‘อาเลีย บาตต์’ ถ่ายหนังในไทยเพิ่ม หวังโชว์ ‘วัฒนธรรม-อาหาร-สถานที่เที่ยว’ สู่สายตาชาวโลก

(29 ม.ค. 67) นางนลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย กล่าวถึงการได้พบกับ Alia Bhatt (อาเลีย บาตต์) นักแสดงชาวอินเดีย ผู้รับบท ‘คังคุไบ’ จากภาพยนตร์ฮิตเรื่อง Gangubai Kathaiwadi (หญิงแกร่งแห่งมุมไบ) โดยตนได้เชิญชวนให้คุณอาเลีย บาตต์ มาถ่ายภาพยนตร์ในไทยเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากการมีนางเอกดังระดับโลกมาถ่ายทำภาพยนตร์ในไทยนั้นจะเป็นการเสริมสร้าง Soft Power ให้แก่ประเทศไทย โดยทุกอย่างที่คุณอาเลียทำ อาหารที่รับประทาน สถานที่ที่ไปจะเป็นกระแสและจะได้รับความนิยมจากฐานผู้สนับสนุนจากทั้งในอินเดียและประเทศอื่น ๆ ในชั่วข้ามคืน 

ซึ่งคุณอาเลีย บาตต์ นิยมเดินทางมาไทย โดยก่อนการหารือนั้นก็เพิ่งเดินทางกลับจากจังหวัดภูเก็ต นอกจากนี้ ยังชื่นชอบอาหารไทยเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นส้มตำ ผัดไทย และที่สำคัญคือน้ำมะพร้าวซึ่งเป็นสิ่งแรกที่ต้องทานเมื่อเดินทางถึงไทย

นางนลินี เปิดเผยเพิ่มเติมว่าตนเองยังได้มีโอกาสหารือและชักชวนให้คุณ Sajid Nadiadwala เจ้าของบริษัทภาพยนตร์ชั้นนำของอินเดีย Nadiadwala Grandson Entertainment ซึ่งผลิตภาพยนตร์ไปแล้วกว่า 200 เรื่อง และมีภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง เช่น Kick หรือ Highway และยังเป็นประธานสภาผู้ผลิตภาพยนตร์และโทรทัศน์อินเดีย 11 สมัย โดยมีบริษัทผู้ผลิตในเครือราว 400 บริษัท สนับสนุนการถ่ายทำภาพยนตร์ Bollywood ในไทยเพิ่มเติม โดยชูจุดเด่นด้าน Soft Power ของไทยทั้งในแง่ของผู้คน วัฒนธรรม อาหาร และสถานที่ท่องเที่ยว

นางนลินี  ระบุว่า คุณ Sajid ยืนยันว่าผู้ผลิตภาพยนตร์อินเดียนิยมที่จะใช้ไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำ รวมถึงชื่นชมความสามารถด้านการแสดงของนักแสดงไทย โดยเฉพาะบทการต่อสู้และศิลปะแม่ไม้มวยไทย นอกจากนี้ ตนเองยังได้หารือถึงแนวการสนับสนุนการถ่ายทำภาพยนตร์ของทางประเทศอื่น ๆ เช่น สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย หรือสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทั้งในรูปแบบการคืนเงินและการสนับสนุนด้านโลจิสติกส์ต่าง ๆ เพื่อนำไปปรับปรุงแนวทางการสนับสนุนและดึงดูดการถ่ายทำภาพยนตร์ของต่างชาติในไทยต่อไป

“การถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทยจะเป็นโอกาสสำคัญในการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของไทยไปสู่สังคมโลก รวมทั้งยังจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงเงินเข้าประเทศ รวมถึงก่อให้เกิดการจ้างงานในพื้นที่อีกด้วย” นางนลินีฯ กล่าวทิ้งท้าย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top