Sunday, 28 April 2024
ธรรมนัสพรหมเผ่า

‘ธรรมนัส’ โว!! มั่นใจ พปชร. กวาดยก จ.พิจิตร ปมจับมือพรรคอื่นหลังเลือกตั้ง ชี้เป็นเรื่องอีกไกล ขอมุ่งหาเสียง

(25 มี.ค.66) ที่วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร อ.เมือง จ.พิจิตร ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีต ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานภาคเหนือ ให้สัมภาษณ์ก่อนปราศรัย ช่วยผู้สมัครหาเสียงถึงความคาดหวังที่นั่งส.ส.พปชร. ในภาคเหนือ ว่าเมื่อปี 2562 จ.พิจิตร เราได้ยกจังหวัด โดยตนดูแล จ.พิจิตร โดยตรง ฉะนั้นครั้งนี้คงไม่ต่างกัน มั่นใจว่าจะได้ยกจังหวัดทั้ง 3 เขต 

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะป้องกันแชมป์และการแลนด์สไลด์ของพรรคอื่นอย่างไร ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า แชมป์ของพรรค คือ นายพรชัย อินทร์สุข ส่วนอีก 2 คนย้ายไปอยู่พรรคอื่นไม่ต้องพูดถึง ส่วนคนใหม่ที่หามาแทนมีคุณภาพ มั่นใจว่าครั้งนี้จะได้ยกจังหวัดเช่นเดิม ส่วนการป้องกันแลนสไลด์นั้นต้องบอกว่า จ.พิจิตร เป็นการแข่งกันระหว่างพรรค พปชร. พรรคภูมิใจไทย (ภท.) และเพื่อไทย (พท.) ที่ขับเคี่ยวกันอยู่ 

เมื่อถามถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับสื่อประเทศญี่ปุ่น ว่ายินดีที่จะกลับมารับโทษที่ประเทศไทย ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ได้ยินเรื่องนี้มานานพอสมควร หากนายทักษิณกลับมาแล้วเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามกฏหมาย เป็นเรื่องที่ดี บ้านเมืองจะได้เดินหน้าต่อไปตามนโยบายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพปชร. ที่ต้องการก้าวข้ามความขัดแย้ง

เมื่อถามย้ำว่าก่อนหน้านี้นายทักษิณ เคยพูดว่ากลับมาอย่างเท่ แต่ตอนนี้เปลี่ยนที่จะยอมกลับมารับโทษแล้ว ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า คิดว่าเป็นคำพูดที่จะพูดให้ดูดีหรือไม่ดูดีมากกว่า การ
กลับมาก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เลี่ยงไม่ได้ ตนไม่เข้าใจเจตนารมณ์ของนายทักษิณ แต่โดยกฎหมายแล้ว ไม่ว่ายังไงก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

เมื่อถามว่า การพูดของนายทักษิณ จะช่วยเพิ่มคะแนนเสียงเสริมแลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เรื่องของกฎหมายกับการหาเสียงคนละประเด็นกัน และมองว่าคนไทยมีความรู้ทางด้านกฎหมาย แม้จะพูดให้ดูดีอย่างไร แต่คนไทยก็รู้อยู่แล้วว่าต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

ผู้สื่อข่าวถามถึงความชัดเจนของการจับมือกับพรรคเพื่อไทย หลังการเลือกตั้ง ยังมีความเป็นไปได้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เมื่อวันที่ 24 มี.ค. ได้คุยกับหัวหน้าพรรคนานพอสมควร และมองว่ายังเร็วเกินไปที่จะคุยในเรื่องดังกล่าว ตอนนี้ขอมุ่งเรื่องการหาเสียงก่อน เพื่อให้ลูกพรรคมีชัยชนะให้มากที่สุด เรื่องการจับมือตนว่าเป็นเรื่องอีกไกล

‘ธรรมนัส’ ชูสานต่อบัตรประชารัฐ 700 บาท-แก้ปัญหาที่ดินทำกิน ลั่น!! ‘พปชร.’ ขออาสาพัฒนาสร้างบ้านแปงเมืองพะเยาให้ดียิ่งขึ้น

(5 เม.ย.66) ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 จ.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้นำคณะลงพื้นที่ไปพบปะประชาชนเพื่อขอคะแนนเสียงตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงค่ำ โดยเริ่มจากไปพบปะทักทายพ่อค้า แม่ค้าและประชาชนทั่วไปในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา ที่ตลาดเช้าแม่นาเรือ ก่อนจะขึ้นรถแห่ทักทายประชาชนรอบตลาดแม่นาเรืออีกครั้ง จากนั้นไปพบชาวบ้านในพื้นที่บ้านแม่ต๋ำบุญโยง, ตลาดแม่กาเยื้องวัดแม่กาห้วยเคียน แล้วไปต่อที่วัดบ้านดาวเรือง (จำป่าหวาย) ตลาดเครือวัลย์ (จำป่าหวาย) และตลาดท่าวังทอง และตลาดสุวรรณเภรี เป็นต้น โดยมีพ่อค้าแม่ค้า และประชาชนทั่วไปที่มาจับจ่ายซื้อสินค้า ให้การต้อนรับและมอบดอกไม้ ตลอดจนพวงมาลัยดอกดาวเรือง พวงมาลัยดอกมะลิ เพื่อเป็นกำลังใจให้ ร.อ.ธรรมนัสเป็นจำนวนมาก โดยหลายคนได้เข้ามาสวมกอด และขอถ่ายภาพเซลฟี่อีกด้วย ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัสก็ได้ร่วมถ่ายภาพอย่างเป็นกันเอง

โดย ร.อ.ธรรมนัสกล่าวกับประชาชนที่มาคอยให้กำลังใจช่วงหนึ่งว่า รู้สึกดีใจที่วันนี้ได้มาพบกับพ่อแม่พี่น้องทุกคน ถึงแม้อากาศจะร้อนแต่ก็ยังเห็นทุกคนมาคอยให้กำลังใจไม่ยอมถอย จึงรู้สึกซาบซึ้งใจและขอบคุณทุกท่านอย่างยิ่ง วันนี้จึงมาขอฝากเรื่องราวดีๆ ที่เป็นนโยบายของพรรคพลังประชารัฐเพื่อประโยชน์ของพ่อแม่พี่น้องประชาชน ทั้งเรื่องการสานต่อบัตรประชารัฐ 700 บาท เรื่องการดูแลผู้สูงอายุหรือเบี้ยยังชีพเดือนละ 3,000 บาท 4,000 บาท และ 5,000 บาท ตามช่วงอายุ 60-80 ปี นอกจากนี้เราจะดูแลทุกช่วงวัยทั้ง “แม่ บุตร ธิดา ประชารัฐ” รวมไปถึงแก้ปัญหาที่ดินทำกิน “มีเรา ไม่มีแล้ง มีน้ำ ไม่มีจน” เปลี่ยน ส.ป.ก.เป็นโฉนด และ คทช.เปลี่ยนเป็น ส.ป.ก.

“ช่วง 4 ปีที่ผ่านมาที่ผมเคยหาเสียงตั้งแต่ปี 2562 และได้พูดกับพี่น้องประชาชนว่า ผมจะมาทำงานรับใช้พ่อแม่พี่น้องอย่างเต็มที่หากได้เลือกผมมาเป็น ส.ส.ของพวกท่าน และผลงานของผมที่ผ่านมาก็ได้เห็นชัดเจนว่า ผมได้ทำงานพัฒนาสร้างบ้านแปงเมืองและช่วยแก้ปัญหาในทุกเรื่องอย่างเต็มที่และมีทิศทางดีขึ้น ยกตัวอย่างเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน ถนนสายหลักทุกสายมีการเปลี่ยนแปลงชัดเจน จาก 2 เลน เป็น 4 เลน ช่วยให้การเดินทางสะดวกสบายและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีการแก้ปัญหาเรื่องน้ำ กรรมสิทธิ์ที่ดินทำกิน และราคาพืชผลการเกษตรต่าง ๆ มาวันนี้จึงมาขอโอกาสและความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนทุกท่านเพื่อเข้าไปทำงานสานต่อและดูแลรับใช้ทุกท่าน เพื่อพัฒนาสร้างบ้านแปงเมืองของเราต่อไป อย่าลืมวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ เข้าคูหาเลือกผมเป็น ส.ส.กาเบอร์ 6 และกาเบอร์ 37 เลือกพรรคพลังประชารัฐ” ร.อ.ธรรมนัสกล่าว

‘เสธ.หิ’ งง!! ลง ‘พะเยา’ ครั้งแรกถูกโยงเอี่ยวกร่าง หลัง ‘ธรรมนัส’ อ้างคนสนิท ‘เสธ.คนดัง’ ใช้ทหาร-อาวุธขู่

จากกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้สมัคร ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ และประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคเหนือ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า บ้านใหญ่เจ๊ ล. ขาใหญ่อำเภอปง พะเยา ซึ่งเป็นพี่สาว ผู้สมัคร ส.ส. พะเยา เขต 3 ของพรรคหนึ่ง ที่ตอนนี้ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลกร่าง ผู้นำท้องถิ่น ท้องที่ เล่าให้ฟังว่า พอไปถึงบ้านเจ๊ ล. ก็มีกองกำลังทหารเกือบ 1 หมวด พกอาวุธ (ปืนสั้น) ภายใต้การควบคุมของเสธ น. (ลูกน้องเสธ นอกราชการคนดัง) และข่มขู่ว่าจะจัดการกับผู้นำขั้นเด็ดขาดหากไม่ช่วยผู้สมัครรายนี้ จะเริ่มปฏิบัติการโดยใช้กองกำลังทหารค้นบ้านผู้นำทุกรายที่เห็นต่าง

ทั้งนี้ การออกมาโพสต์ข้อความดังกล่าว ประจวบเหมาะกับ ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) รับผิดชอบการเลือกตั้งภาคเหนือของพรรค ได้เดินทางไปร่วมโชว์วิสัยทัศน์ ในรายการ BIG DEBATE เวทีจังหวัดพะเยา ซึ่งจัดโดยสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 เมื่อวันที่ 11 เม.ย. 66 ที่ผ่านมา พอดี

เป็นไปได้ว่า เสธ.นอกราชการคนดัง ที่ ร.อ.ธรรมนัส ระบุถึง ก็คือ ดร.หิมาลัย นั่นเอง

ล่าสุด ดร.หิมาลัย ได้กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ตนเองเพิ่งมีโอกาสเดินทางไปจังหวัดพะเยาครั้งแรก เมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อร่วมเวทีดีเบต ซึ่งทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 เป็นผู้จัด เมื่อเดินทางถึงจังหวัดพะเยา ก็ได้ไปพูดคุยกับคุณไพโรจน์ ตันบรรจง ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค เพื่อต้องการรับทราบประเด็นปัญหาของจังหวัดพะเยา สำหรับใช้เป็นข้อมูลในการดีเบต จากนั้น จึงเดินทางไปยังเวทีดีเบต และอยู่ในพื้นที่นั้นตลอดเวลาโดยไม่ได้เดินทางออกนอกพื้นที่เลย

‘ธรรมนัส’ เคลียร์ใจ อดีตผู้สมัคร ส.ส.นครศรีฯ ‘พปชร.’ ปมท่อน้ำเลี้ยงตัน ยัน!! ไร้ปัญหาคาใจ พร้อมร่วมงานกันต่อ

(29 พ.ค. 66) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ว่าที่ ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวกรณีนายคมเดช มัชฌิมวงศ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 7 พรรคพลังประชารัฐ ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมแทนอดีตผู้สมัคร ส.ส. ประมาณ 20 คน โดยทวงถามเงินค่าใช้จ่ายหลังเลือกตั้งว่า ตนได้รับมอบหมายจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจกับกลุ่มอดีตผู้สมัคร ส.ส. และเข้าใจกันดีแล้ว ทราบว่าปัญหาเกิดจากการประสานงานเข้าใจกันคลาดเคลื่อน ในเรื่องการปฎิบัติงานต่างๆ ในพื้นที่ จากนี้จะร่วมกันแก้ปัญหาต่อไป

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า หลังพูดคุยกับอดีตผู้สมัคร ส.ส.ทุกคนยืนยันยังเคารพ รัก และเชื่อมั่นในตัวพล.อ.ประวิตร อย่างเหนียวแน่นและพร้อมทำงานกับพรรค เพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ต่อไปในทุกเรื่องที่ทำได้ และจะไปทำความเข้าใจกับอดีตผู้สมัคร ส.ส.คนอื่น ที่ไม่ได้มาพูดคุยวันนี้ เพื่อให้เข้าใจว่าพรรค จะแก้ปัญหาและให้ความเป็นธรรมแน่นอน

ด้านนายคมเดช กล่าวว่า จากการพูดคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส ทุกคนเข้าใจกันดี จากนี้จะรอการประสานงานเพื่อแก้ปัญหาร่วมกับผู้ใหญ่ในพรรคตามขั้นตอน โดย ร.อ.ธรรมนัส จะนำเรื่องไปรายงานหัวหน้าพรรค จากนั้นจะนัดหมายทำความเข้าใจ และหารือแก้ปัญหาต่อไป

ตนและกลุ่มอดีตผู้สมัคร ส.ส.ยืนยันกับ ร.อ.ธรรมนัส ว่าเรายังเคารพรักและเชื่อมั่นในตัว พล.อ.ประวิตร เสมอและตลอดไป เราไม่ต้องการทำลายพรรค และยังยืนยันจะทำงานร่วมกับพรรค เพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ต่อไปแน่นอน

‘ธรรมนัส’ ยัน พปชร. ไม่ดัน ‘ลุงป้อม’ ชิงนายกฯ ย้ำชัด!! ไม่ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย

(18 ก.ค. 66) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ในฐานะประธานประสานงาน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ภายหลังการหารือภายใน สำหรับการประชุมรัฐสภา เพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 ในวันพรุ่งนี้ (19 ก.ค.) ว่า ส่วนแนวทางพรรคการโหวตเลือกนายกฯ รอบ 2 นั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่สามารถบอกอะไรได้ ต้องรอดูหน้างานก่อนการโหวตในวันพรุ่งนี้ โดยก่อนจะมีการโหวตทางพรรคพลังประชารัฐจะประชุม ส.ส.เพื่อหาข้อตกลงร่วมกันอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ร.อ.ธรรมนัส ย้ำว่า พรรคพลังประชารัฐ มีนโยบายชัดเจนในเรื่องก้าวข้ามความขัดแย้ง เพราะฉะนั้น คนที่จะมาเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ของประเทศไทย หากไม่มีประเด็นที่ขัดกับจุดยืนของพรรคพลังประชารัฐ ก็ไม่มีปัญหา ทางพรรคฯ พร้อมจะสนับสนุน ขณะเดียวกัน ทางพรรคฯ ไม่มีแนวทางการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย โดยจะไม่เสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ในการโหวตนายกฯ 

ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อแทน คงต้องหารือกันอีกครั้ง พร้อมระบุว่า ยังไม่ถึงเวลาของเรา และขณะนี้ ยังไม่ได้รับการติดต่อจากใคร และยังไม่ถึงเวลาที่จะพูดถึงเรื่องนั้น ต้องรอให้การโหวตพรุ่งนี้ผ่านไปก่อน

‘บิ๊กป้อม’ ควง ‘ธรรมนัส’ ทำบุญพิธียกช่อฟ้าอุโบสถ วัดโพสพผลเจริญ  ด้าน ปชช.ในพื้นที่รอให้กำลังใจ ตะโกนเรียกนายกฯ คนที่ 30

(30 ก.ค. 66) พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นประธานในพิธียกช่อฟ้า อุโบสถวัดโพสพผลเจริญ ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี โดยมีร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า สส.จังหวัดพะเยา ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ, พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ นายทะเบียนพรรคพลังประชารัฐ และนายสุรทิน พิจารณ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ ร่วมพิธีด้วยทั้งนี้ ก่อนที่พลเอกประวิตร จะเดินทางมาถึงที่วัดมีฝนตกโปรยปรายลงมา แต่ทันทีที่พลเอกประวิตร และคณะมาถึงฝนก็ได้หยุด และมีประชาชนมารอให้การต้อนรับจำนวนมาก พร้อมกันนี้ยังขอถ่ายรูป รวมถึงนำผ้าขาวม้ามาผูกที่เอวของพลเอกประวิตร พร้อมส่งเสียงเชียร์บอกให้สู้ๆ และเรียกนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 อีกด้วย ซึ่งพลเอกประวิตร มีสีหน้า สดชื่น ยิ้มแย้มแจ่มใส

ต่อมาในเวลา 13.19 น. พลเอกประวิตร พร้อมด้วย ร้อยเอกธรรมนัส และนายสุรทิน ได้ร่วมพิธียกช่อฟ้าอุโบสถฯ จนเสร็จสิ้นพิธี ท่ามกลางคำกล่าว “สาธุ สาธุ สาธุ” จากพุทธศาสนิกชนที่มาร่วมในพิธีเป็นจำนวนมาก จากนั้นพลเอกประวิตร ได้นำคณะไปปลูกต้นพยุง ไม้มงคล และร่วมพิธีเสริมดวงชะตาเพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งในช่วงทำพิธีดังกล่าว ทางวัดขอให้สื่อมวลชนออกไปรอภายนอกโบสถ์ ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากสื่อมวลชนเป็นอย่างดี

มีรายงานว่า หลังเสร็จพิธีแล้ว พลเอกประวิตร ยังได้ทักทายประชาชนที่รอให้กำลังใจ ก่อนจะเดินขึ้นรถกลับทันที ไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนแต่อย่างใด
 

‘ธรรมนัส’ บอกไม่รู้ สส.ก้าวไกล ดอดพบ ‘บิ๊กป้อม’ เคลียร์ปมหากจะขอเข้าพรรค ต้องให้ กก.บห.ตัดสินใจ

(25 มี.ค. 67) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกระแสข่าว สส.พรรคก้าวไกล เข้าพบพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่บ้านมีนบุรีว่า ถ้าพูดตามตรง ตนเองไม่ทราบในเรื่องนี้

ถามว่าหากมีเหตุในอนาคตที่ทำให้ สส. ของพรรคก้าวไกลต้องไปอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เป็นเรื่องใหญ่ เราจะรับใครเข้าพรรคเป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรค จะต้องมีการประชุมร่วมกัน เราจะไม่ทำอะไรที่เคยเป็นบทเรียนในอดีตที่ทำให้เกิดความหมางใจกัน เราเคยเป็นผู้ถูกกระทำ เราอย่าเอาสิ่งที่เคยถูกกระทำนั้นมาทำเอง ฉะนั้น จะต้องมีการคุยกัน

เมื่อถามว่า มีการติดต่อจากกลุ่ม สส.ของพรรคก้าวไกล มาที่เครือข่ายของ ร.อ.ธรรมนัสหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนเองไม่มีเครือข่าย มีแต่เครือข่ายภาคเกษตรฯ

ซักว่าที่ สส.ของพรรคก้าวไกลมีคนใดพอที่จะมีคุณสมบัติมาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนเห็นการทำงานของฝ่ายค้านก็เข้มข้น เพราะเราเป็น สส. เป็นถึงรัฐมนตรี เราก็เห็นการทำงานของเขาในการตรวจสอบการทำงานของเราอย่างเข้มข้น

เมื่อถามถึงในส่วนของ สส.พรรคก้าวไกลบางคน ที่มีทัศนคติที่ดีต่อพรรคพลังประชารัฐ จะมีการปิดประตูรับหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ยืนยันว่า จะต้องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการของพรรคก่อน จะตัดสินใจเองไม่ได้


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top