Tuesday, 7 May 2024
ธนบุรี

‘พิธา’ นำทีมผู้สมัคร ส.ส.ก้าวไกลฝั่งธนฯ ประกาศความพร้อมสะบัดธงส้มทั้งธนบุรี มั่นใจประชาชนต้องการเปลี่ยนแปลง ส่ง ส.ส.เข้าสภากวาดที่นั่งครบทุกเขต

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ร่วมนำทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคก้าวไกล ในฝั่งธนบุรีของกรุงเทพมหานคร ร่วมเดินสายพบปะพี่น้องประชาชนเพื่อประชาสัมพันธ์ตัวผู้สมัคร ทั้ง 9 คนใน 10 เขต และแสดงความพร้อมในการสู้ศึกเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ พร้อมมั่นใจว่าชาวฝั่งธนบุรีมีความต้องการเปลี่ยนแปลง และพร้อมสนับสนุนว่าที่ผู้สมัครทั้ง 9 คนของพรรคก้าวไกลให้เข้าไปเป็นผู้แทนของทุกคน

พิธา ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนก่อนการเดินสายพบปะประชาชน โดยระบุว่าพรรคก้าวไกลมีความมั่นใจต่อผลการเลือกตั้งในฝั่งธนบุรีเป็นพิเศษทโดยเฉพาะเมื่อดูจากผลการเลือกตั้งสองครั้งที่ผ่านมา คือในปี 2562 เมื่อครั้งเป็นพรรคอนาคตใหม่ ที่พรรคก้าวไกลได้ ส.ส. 6 จาก 9 เขต ส่วนในการเลือกตั้ง สก. พรรคก้าวไกลก็ได้คะแนนมาเป็นอันดับหนึ่งไม่ก็อันดับสองอยู่หลายเขต ซึ่งทำให้เห็นว่าธนบุรีเป็นพื้นที่ที่ประชาชนมีความต้องการเปลี่ยนแปลงสูง

โดยที่บัดนี้ พรรคก้าวไกลได้ตัวว่าที่ ส.ส. ครบทั้ง 10 เขตแล้ว และเป็นส่วนผสมที่กลมกล่อม โดยมีทั้งอดีต ส.ส. ที่ทำงานได้ดีทั้งในพื้นที่และในประเด็นระดับชาติและยังมีผู้สมัครหน้าใหม่จากทุกวงการ ไม่ว่าจะเป็นภาคธุรกิจ ภาคสังคม การเมืองภาคประชาชน อดีตผู้บริหาร ผู้ประกอบธุรกิจส่งออก ผู้จัดการธนาคาร อดีตพนักงานสายการบิน และอดีตบุคลากรสาธารณสุข ซึ่งพรรคก้าวไกลมีความมั่นใจว่าจะผู้สมัครทั้ง 10 คนนี้ จะเป็นผู้แทนที่มีคุณภาพและสามารถขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่ฝั่งธนบุรีในอนาคตได้

พิธา ยังกล่าวต่อไป ว่าจุดเด่นของฝั่งธนบุรี ซึ่งมีพื้นที่กว่า 450 ตารางกิโลเมตร มีประชากรกว่า 4.7 ล้านคน และอยู่ไม่ไกลจากฝั่งพระนครมากนัก คือศักยภาพทั้งในเรื่องของการพัฒนาเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการใช้ประโยชน์พื้นที่ริมน้ำ ขณะเดียวกันธนบุรีก็มีสิ่งที่เป็นความท้าทายหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการคมนาคม สิ่งแวดล้อม ความแออัด และการปะทะขัดแย้งกันระหว่างวิถีชุมชนเก่าริมน้ำกับวิถีชุมชนใหม่ที่มีทั้งหมู่บ้านจัดสรรและคอนโดมีเนียม ซึ่งควรจะต้องจัดสรรการพัฒนาให้มีควรมสอดคล้องและสมดุลกันได้

โดยเฉพาะในเรื่องของการคมนาคม ซึ่งผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคก้าวไกลในฝั่งธนบุรีหลายคน ได้เล็งเห็นถึงประเด็นดังกล่าวและมีแนวคิดร่วมกัน ว่าควรมีการพัฒนาระบบการคมนาคมทางน้ำขึ้นมาเสริมและชดเชย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เข้าไม่ถึงระบบขนส่งสาธารณะเส้นเลือดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าหรือถนนสายหลักต่างๆ

‘จุรินทร์’ ลุยฝั่งธนฯ ช่วย ‘แนน ศิริภา’ เบอร์ 11 หาเสียง ลั่น!! ปชป.ไม่เคยทิ้งพื้นที่ เชื่อ อยู่ในสายตา ปชช.มาตลอด

‘จุรินทร์’ ควง ‘วิลาศ เบอร์ 2’ ลุยฝั่งธน หาเสียงช่วย ‘แนน ศิริภา’ เบอร์ 11 พบแฟนคลับ FC แน่น เตรียมเปิดปราศรัยใหญ่เปิดจุดยืน ประชาธิปไตยเต็มใบ ไม่โกง ที่วงเวียนใหญ่ 23 เม.ย.นี้

(17 เม.ย. 66) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.), นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค, นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม., ดร.รัชดา ธนาดิเรก นายบุณย์ธีร์ พานิชประไพ ผู้สมัครบัญชีรายชื่อของพรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 26 และนายวิลาศ จันทรพิทักษ์ ผู้สมัครเขตเลือกตั้งที่ 32 เขตบางกอกน้อย บางกอกใหญ่ ภาษีเจริญ ตลิ่งชัน ธนบุรี เบอร์ 2 ได้มาช่วยกันขอเสียงสนับสนุนให้กับ น.ส.ศิริภา อินทรวิเชียร ผู้สมัครเขตเลือกตั้งที่ 24 เขตธนบุรี คลองสาน ราษฎร์บูรณะ เบอร์ 11 โดยมี น.ส.รัศมี ทองสิริไพรศรี หรือ ‘ลูกหมี’ ซุปเปอร์โมเดล, นายสมชาย เต็มไพบูลย์กุล หรือ ‘บ๊วย’ ส.ก.เขตคลองสาน และอดีตผู้สมัคร ส.ก.รวมถึงผู้สนับสนุนพรรคร่วมกันสักการะอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสิน เนื่องในการครบรอบวันพระราชสมภพของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งตรงกับวันที่ 17 เมษายน ของทุกปี ก่อนเดินทักทายพี่น้องย่านฝั่งธนบุรี ซึ่งพี่น้องประชาชนชาวฝั่งธนส่วนใหญ่ต่างยืนยันว่า เลือกประชาธิปัตย์ เบอร์ 26 แน่นอน

นายจุรินทร์ ให้สัมภาษณ์ถึงกลยุทธ์ในการหาเสียงว่า ประชาธิปัตย์เดินหน้าทุกวันด้วย 3 ทัพ ทั้งทัพหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และอดีตหัวหน้าพรรค ทั้งท่านชวน ท่านบัญญัติ ท่านอภิสิทธิ์ ต่างมาช่วยกัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ประชาธิปัตย์สู้ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ด้วยความตั้งใจจริงและรวมกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

“ผมถือโอกาสขอบคุณอดีตหัวหน้าพรรคทั้ง 3 ท่าน ท่านชวน ท่านบัญญัติ ท่านอภิสิทธิ์ และสมาชิกพรรคทุกคนที่ช่วยกันคนละไม้คนละมือ อย่างสุดกำลังความสามารถในการรณรงค์หาเสียงให้กับพรรค สิ่งนี้จะเป็นกำลังใจให้กับผู้สมัครของพรรค เป็นกำลังใจให้พวกเราชาวประชาธิปัตย์ เพื่อเร่งเดินหน้าหาเสียง และเป็นการเพิ่มแรงสนับสนุนจากพี่น้องคนไทยทั้งประเทศด้วย สำหรับในกรุงเทพมหานคร ที่แม้การเลือกตั้งคราวที่แล้วประชาธิปัตย์ไม่มีที่นั่ง ส.ส. เลย แต่พวกเราไม่เคยทิ้งพื้นที่ เชื่อว่าพี่น้องชาวกรุงเทพฯ เห็นประชาธิปัตย์อยู่ในสายตามาตลอดระยะเวลา 4 ปีเต็ม เชื่อว่าในการเลือกตั้งที่จะมาถึง พี่น้อง กทม.จะให้โอกาสประชาธิปัตย์ เบอร์ 26 มากขึ้น” นายจุรินทร์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงการรับมือกับกระแสทางการเมือง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่จะนำพาให้พรรคประชาธิปัตย์ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งครั้งนี้นั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า เรื่องนี้มี 2 ด้าน ตนอยากให้ชาว กทม.ได้พิจารณาว่าพรรคการเมืองใด และผู้สมัครของพรรคการเมืองใด มีความจริงใจกับพี่น้องชาวกรุงเทพฯ ซึ่งเรื่องนี้ประชาธิปัตย์ไม่แพ้ใคร พวกเราทำงานอย่างต่อเนื่องมาตลอด 4 ปีเต็ม โดยเฉพาะช่วงโควิด ประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองหนึ่งในไม่กี่พรรคที่มีศูนย์ ศปฉ.ปชป.เพื่อช่วยจัดหาเตียงได้ถึง 5 - 6 พันเตียง และยังมีข้าวกล่องดีลิเวอรี่ ส่งตรงถึงบ้านยามประเทศล็อคดาวน์ รวมถึงถุงน้ำใจ ปชป.ที่ทำมาต่อเนื่อง

'ดร. โสฬส' รองอธิการบดี มจธ. บางขุนเทียน ต้อนรับ กระทรวงศึกษาธิการเยี่ยมชม ห้องปฏิบัติการไฟฟ้ากำลังธนบุรี ศูนย์ทดสอบสถานศึกษาแห่งแรกในอาเซียน

นายปรีดา บุญศิลป์ ประธานอนุกรรมการ คณะอนุกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา (อ.กรอ.อศ) กลุ่มอาชีพพลังงานและพลังงานทดแทน กล่าว ขอขอบคุณรศ. ดร. โสฬส สุวรรณยืน รองอธิการบดี มจธ. บางขุนเทียนและทีมงานทุกท่าน ที่ให้การต้อนรับทาง (อ.กรอ.อศ) เป็นอย่างดีและได้ให้ความรู้เกี่ยวกับการทดสอบขั้นสูงเป็นศูนย์ทดสอบหม้อแปลงไฟฟ้าแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยและในกลุ่มประเทศอาเซียนเพื่อลดความสูญเสียด้านค่าใช้จ่ายในการวิเคราะห์ให้กับผู้ประกอบการและยกระดับความสามารถด้านการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของหม้อแปลงไฟฟ้าไทย สอดคล้องกับนโยบายพัฒนาประเทศ Thailand 4.0 ของทางรัฐบาลที่มุ่งเน้นในการขับเคลื่อนประเทศด้วย วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และ นวัตกรรม อีกด้วย 

โดย กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ให้ความสำคัญกับการจัดการอาชีวศึกษาร่วมกับสถานประกอบการเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของการพัฒนาประเทศ โดยการยกระดับคุณภาพการจัดการเรียนการสอนให้สอดคล้องและเชื่อมโยงกับสถานประกอบการ ซึ่ง อ.กรอ.อศ. เป็นภาคีเครือข่ายที่สำคัญในการจัดการอาชีวศึกษาให้มีสมรรถนะวิชาชีพ และอุปกรณ์ที่เป็น สื่อการเรียนการสอน เน้นรูปแบบการเรียนรู้สู่การปฏิบัติจริง (Learning by Doing) เพื่อสร้างสมรรถนะอาชีพและทักษะชีวิตให้ผู้สำเร็จอาชีวศึกษา มีความพร้อมเข้าสู่โลกอาชีพได้ทันต่อความต้องการกำลังคนของประเทศ หรือเป็นผู้ประกอบการได้ มีรายได้ระหว่างเรียน จบแล้วมีงานทำ (Learn to Earn) และเกิดผลสัมฤทธิ์ในการดำเนินงานอย่างแท้จริง

"ผมขอขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนร่วมในการสร้างพลังร่วมกันในการขับเคลื่อนและพัฒนาการจัดการอาชีวศึกษาให้เกิดผลสำเร็จในการผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษาสมรรถนะสูง ตอบโจทย์การพัฒนาประเทศสู่ประเทศ ตอบสนองนโยบาย "เรียนดี มีความสุข" ต่อไป"

รศ. ดร. โสฬส สุวรรณยืน รองอธิการบดี มจธ. บางขุนเทียน ต้อนรับ ตัวแทนสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาและคณะอนุกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา (อ.กรอ.อศ) กลุ่มอาชีพพลังงานและพลังงานทดแทน และได้แนะนำถึงที่มาของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี วิทยาเขตบางขุนเทียน ว่าจุดเริ่มต้นนั้นต้องการสร้างมจธ.วิทยาเขตบางขุนเทียนเพื่อเป็นสวนอุตสาหกรรม จึงมีการจัดตั้งแยกออกมาจากตัวของวิทยาเขตบางมด 

ในปัจจุบันนี้นอกเหนือจากการที่ทางมจธ.วิทยาเขตบางขุนเทียนได้มีความร่วมมือกับบริษัท    เจริญชัยหม้อแปลงไฟฟ้า จำกัด ในส่วนของห้องปฏิบัติการไฟฟ้าธนบุรี ที่ใช้ทดสอบการทนการลัดวงจรของหม้อแปลงไฟฟ้าแล้วนั้น ทางวิทยาเขตเองยังมีศูนย์พัฒนามาตรฐานและทดสอบระบบเซลล์แสงอาทิตย์ CES Solar Cells Testing Center (CSSC) ที่เป็นศูนย์ทดสอบระบบเซลล์แสงอาทิตย์ที่ได้มาตรฐานที่สุดในประเทศไทยด้วย ซึ่งถ้าทางตัวแทนสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาและคณะอนุกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา (อ.กรอ.อศ) กลุ่มอาชีพพลังงานและพลังงานทดแทน มีความสนใจที่จะเข้าเยี่ยมชมในอนาคตทางมหาวิทยาลัยก็มีความยินดี

ผศ. ดร. ศุภกิตติ์ โชติโก หัวหน้าภาคประจำภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ได้กล่าวแนะนำถึงห้องปฏิบัติการไฟฟ้ากำลังธนบุรีห้องทดสอบการทนต่อการลัดวงจรของหม้อแปลงไฟฟ้าในระบบจำหน่ายที่ทำการทดสอบตามกระบวนการในมาตรฐาน IEC 60076-5 รวมถึงได้รับการรับรองจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเพื่อใช้ทดสอบหม้อแปลงไฟฟ้าซึ่งทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้มีการจัดซื้อและกำหนดให้มีการทดสอบการทนต่อการลัดวงจร โดยห้องปฏิบัติการนี้เป็นห้องปฏิบัติการแห่งเดียวในประเทศไทยที่อยู่ในมหาวิทยาลัย โดยกระบวนการทดสอบนั้นสามารถทำได้โดยการลัดวงจรขดลวดทุติยภูมิของหม้อแปลงไฟฟ้าที่จะทำการทดสอบและป้อนแรงดันพิกัดจ่อรอไว้ที่ด้านขดลวดปฐมภูมิของหม้อแปลง หลังจากนั้นก็สับสวิตช์ในตำแหน่งที่แรงดันเป็นศูนย์(zero crossing) ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ทำให้เกิดกระแสลัดวงจรสูงสุด โดยกรณีที่เกิดการกระแสลัดวงจรไหลไหนหม้อแปลงนี้จะทำให้เกิดแรงทางกลขึ้น โดยแรงทางกลนี้มีการแปรผันตามค่าของ I2 ซึ่งในกรณีที่ทำการทดสอบหม้อแปลงไฟฟ้า 3 เฟสจะมีการทดสอบทั้งหมด 9 ครั้ง โดยเป็นการทดสอบแต่ละเฟส 3 ครั้ง และต้องควบคุมค่าต่างๆให้เป็นไปตามมาตรฐาน IEC 60076-5


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top