Sunday, 5 May 2024
ทางม้าลาย

‘สำนักงานตำรวจแห่งชาติ’ จับมือ กทม. คมนาคม ลงพื้นที่สำรวจแก้ปัญหาทางม้าลาย!!

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.  พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ยิ่งยศ  เทพจำนงค์ โฆษก ตร. พร้อมด้วย  พล.อ.ต.นพ.อิทธิพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา ศ.เกียรติคุณ พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ นายกแพทยสภาสำนักงาน คณะผู้บริหารสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ สำนักการจราจรและขนส่ง กรุงเทพมหานคร นายสุจิณ มั่งนิมิตร ผู้อำนวยการศูนย์ความปลอดภัยคมนาคม กระทรวงคมนาคม นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณทางข้าม (ทางม้าลาย) ตรงโรงพยาบาลสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์  ถนนพญาไท ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุเฉี่ยวชน พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล เพื่อสำรวจสภาพด้านวิศวกรรมจราจร ส่วนควบและอุปกรณ์ของทางข้าม  สำหรับเป็นข้อมูลในการปรับสภาพแวดล้อมบริเวณทางข้ามดังกล่าว ให้เหมาะสม  เกิดความปลอดภัยต่อผู้ใช้รถใช้ถนนสูงสุด 

โดยจะรวบรวมข้อมูล นำเสนอคณะกรรมการนโยบายการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ ( หรือ นปถ.) ในการประชุมวันพฤหัสบดีที่ 27 ม.ค.65 ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธาน นอกจากนั้น ทาง ตร. จะได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านความปลอดภัยทางถนน ร่วมประชุมหารือ เพื่อกำหนดแนวทางการสำรวจข้อมูลทางข้ามในภาพรวมทั่วประเทศ และการปรับปรุงสภาพแวดล้อม รวมถึงแนวทางการใช้เทคโนโลยีมาติดตั้งบริเวณทางข้าม เพื่อจัดการความปลอดภัยและบังคับใช้กฎหมายในวันศุกร์ที่ 28 ม.ค.65 ต่อไป

สำหรับโดยทางข้ามหน้าสถาบันโรคไตฯ นั้น จัดทำครั้งแรกเมื่อปี 2558  มีประชาชนใช้ทางข้ามประมาณ ชั่วโมงละ 30 คน อยู่ห่างจากแยกพญาไทประมาณ 120 เมตร เป็นทางข้ามที่ยังไม่ได้ติดตั้งสัญญาณไฟจราจร

“บิ๊กตู่” สั่งการ กทม. เร่งติดตั้งไฟจราจรข้ามทางม้าลาย พร้อมให้นำนวัตกรรม “ไฟจราจรอัจฉริยะ” มาใช้งาน เพิ่มความปลอดภัยให้กับประชาชนมากขึ้น

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยต่อความปลอดภัยของผู้ใช้ทางม้าลาย สั่งกำชับให้กรุงเทพมหานครดำเนินการติดตั้งไฟจราจรข้ามทางม้าลาย เพิ่มความปลอดภัยให้กับประชาชนมากขึ้น ให้เร่งดำเนินการโดยเฉพาะทางม้าลายในจุดเสี่ยง แก้ไขปัญหาลดอุบัติเหตุ พร้อมพิจารณานำนวัตกรรมไฟจราจรอัจฉริยะ (Smart Traffic Light) ปิด เปิดไฟเขียวให้คนข้ามทางม้าลายโดยอัตโนมัติ มาใช้งาน ลดปัญหาสัญญาณไฟจราจรข้ามทางม้าลายแบบเดิม ที่ประชาชนผู้ใช้ทางม้าลายต้องเสียเวลายืนรอข้ามถนนหลายนาที

ตำรวจคมนาคม กทม. ปภ. จับมือลุย!สำรวจทางม้าลาย เตรียมปรับปรุงทั่วประเทศ พร้อมมอบรางวัลให้ประชาชนส่งคลิปผู้ฝ่าฝืนกฎหมายไม่จอดให้คนข้าม

วันนี้ (28 ม.ค.65) เวลา 09.30 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร (ศจร.ตร.) ,พล.ต.ท.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.โสภณ  พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่า กทม. ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษก กทม. นายประพาส เหลืองศิรินภา ผอ.สำนักการจราจรและขนส่ง กทม. ศ.ดร.พิชัย ธานีรณานนท์ ประธานอนุกรรมการความปลอดภัยทางถนนและจราจร สภาวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย นายสุจิณ มั่งนิมิต ที่ปรึกษาศูนย์ปฏิบัติความปลอดภัยคมนาคม กระทรวงคมนาคม นายวิทยา จันทน์เสนะ ผู้อำนวยการกองบูรณาการความปลอดภัยทางถนน  ผู้แทนกรมส่งเสริมการปกครองถิ่น กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท และกรมการขนส่งทางบก ร่วมประชุมหารือแนวทางการป้องกันแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุบริเวณทางม้าลาย

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ฯ เปิดเผยว่า ได้นำ “มติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ (นปถ.) ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธาน เมื่อวันที่ 27 ม.ค.65 มอบหมายให้ ตร.ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง โดยให้นำเทคโนโลยีมาสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ควบคู่กับการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนมีความตระหนัก มีจิตสำนึก และมีความรับผิดชอบต่อสังคม”

ในที่ประชุมวันนี้ได้สั่งการให้สถานีตำรวจทั่วประเทศ ตรวจสอบทางม้าลายร่วมกับ จังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แขวงการทาง หรือหน่วยงานภาคเอกชนที่เป็นเจ้าของถนน เพื่อหาแนวทางปรับปรุงแก้ไขเส้นทางข้ามให้เหมาะสมเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ทั้งการทาสี ตีเส้น ทำแถบชะลอความเร็ว ทำป้ายเตือน  ปรับทัศนวิสัย  ติดตั้งไฟสัญญาณจราจรควบคุมทางข้าม การติดตั้งกล้อง CCTV

นอกจากนี้ ตำรวจจะร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ พิจารณากำหนดอัตราความเร็วในเขตชุมชนที่มีประชาชนหนาแน่น หรือบริเวณสถานศึกษาหรือโรงพยาบาลตั้งอยู่ รวมถึงความเร็วขั้นต่ำก่อนถึงทางม้าลาย จัดทำป้ายจำกัดความเร็ว ซึ่งในเขตชุมชนอาจจำกัดความเร็ว 30 – 40 กม./ชม.  นอกเขตชุมชน จำกัดความเร็วไม่เกิน 60 กม./ชม. และจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับผู้ที่ฝ่าฝืน

รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า แต่ละสถานีตำรวจจะจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร และอาสาจราจรดูแลความปลอดภัยบริเวณทางม้าลาย โดยเฉพาะทางข้ามที่ไม่มีการติดตั้งไฟสัญญาณจราจรควบคุมในช่วงที่มีประชาชนเดินสัญจรไปมาจำนวนมาก และจะบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง กับผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายเกี่ยวกับทางม้าลาย เช่น ไม่จอดให้คนข้าม ปรับไม่เกิน 1,000 บาท แซงบริเวณทางข้าม ปรับ 400- 1,000 บาท  จอดรถในทางม้าลายปรับไม่เกิน 500 บาท รวมทั้งบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิดข้อหาที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะ 10 ข้อหาหลัก เช่น ฝ่าไฟแดง ย้อนศร ขับรถเร็ว เมาแล้วขับ อย่างต่อเนื่อง

“บิ๊กป๊อก” สั่งศปถ.ทุกจังหวัดคิกออฟ! ลดอุบัติเหตุทางข้าม 21 – 25 ก.พ. พร้อมรณรงค์สร้างความปลอดภัยทุกวันที่ 21 ของเดือน เข้มเอาผิดใครฝ่าฝืนรับโทษสูงสุด

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ฐานะประธานกรรมการและผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เปิดเผยว่า จากกรณีเกิดเหตุรถจักรยานยนต์ชนคนเดินข้ามถนนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตบริเวณทางข้ามเมื่อช่วงปลายเดือนม.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการนโยบายการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เป็นประธาน ได้มีมติให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดทั่วประเทศ เร่งสร้างกระแสการรับรู้และสร้างความปลอดภัยทางถนน โดยเฉพาะผู้ขับขี่ให้มีจิตสำนึกและตระหนักถึงความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นจากการขับรถที่ไม่มีวินัย และไม่ปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้เกิดการสร้างกระแสการรับรู้ สร้างความตระหนักด้านความปลอดภัยทางถนนให้เกิดขึ้นกับสังคมไทยอย่างมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน 

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า จึงได้สั่งการไปยังผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด ฐานะผอ.ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัด จัดกิจกรรมสัปดาห์การรณรงค์ภายใต้ชื่อ “การรณรงค์เพื่อลดอุบัติเหตุบริเวณทางข้าม” ระหว่างวันที่ 21 - 25 ก.พ.ด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบดำเนินคดีกับผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมายให้ได้รับโทษสูงสุด เพื่อให้ผู้ขับขี่เคร่งครัดในการปฏิบัติตามกฎหมาย และเร่งปรับปรุงบริเวณทางข้ามให้มีความปลอดภัย อาทิ การตีเส้นชะลอความเร็วก่อนถึงทางข้าม การจัดทำเครื่องหมายจราจรบนพื้นผิวถนนให้มีความชัดเจน จัดทำป้ายเตือนและป้ายสัญลักษณ์ให้ผู้ขับขี่และผู้ข้ามถนนเห็นได้ชัดเจน นอกจากนี้ให้จัดกิจกรรมรณรงค์ในสถานศึกษาเพื่อให้มีความปลอดภัย โดยเฉพาะทางข้ามบริเวณโรงเรียน รณรงค์สร้างจิตสำนึกให้ผู้ขับขี่ลดความเร็วในเขตชุมชน สถานศึกษา สถานพยาบาล ด้วยการชะลอความเร็วในที่คับขันที่มีการจราจรพลุกพล่านหรือมีสิ่งกีดขวาง ทางร่วม ทางแยก ทางข้ามหรือทางม้าลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหยุดให้คนข้ามในทางข้ามหรือทางม้าลาย ทั้งนี้ ให้มีการจัดกิจกรรมรณรงค์อย่างต่อเนื่องทุกเดือน กำหนดให้วันที่ 21 ของทุกเดือนเป็นเป้าหมายในการรณรงค์

นครนายก – จัดกิจกรรมสัปดาห์รณรงค์ เพื่อลดอุบัติเหตุบริเวณทางข้าม และการขับเคลื่อนวาระจังหวัดนครนายก “นครนายกปลอดภัยจากอุบัติเหตุทางถนน”

ที่บริเวณด้านหน้าวิทยาลัยเทคนิคนครนายก ถนนสาย 305 รังสิต-นครนายก อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก จัดกิจกรรมสัปดาห์รณรงค์เพื่อลดอุบัติเหตุบริเวณทางข้าม และการขับเคลื่อนวาระจังหวัดนครนายก “นครนายกปลอดภัยจากอุบัติเหตุทางถนน” โดยมี นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก เป็นประธานเปิดงาน นายภราดล รุ่งโรจน์ธีระ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครนายก กรรมการและเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดนครนายกกล่าวรายงาน ในพิธีได้มีหัวหน้าส่วนราชการ ขนส่ง ทางหลวง ตำรวจ ผู้บริหารสถานศึกษา และนักศึกษา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว

จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก รับมอบหมวกนิรภัยจากบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ และได้ร่วมทำกิจกรรม ทาสีบริเวณทางข้าม เยี่ยมชมนิทรรศการจากส่วนราชการและการรณรงค์ในสถานศึกษาให้มีความปลอดภัยบริเวณทางข้าม โดยใช้ธงสีเขียวเป็นสัญลักษณ์

พร้อมเร่งมาตรการด้านผู้ใช้รถใช้ถนน โดยให้ดำเนินการสร้างการรับรู้และความตระหนัก ด้านความปลอดภัยทางถนน โดยเฉพาะผู้ขับขี่ให้มีจิตสำนึกและตระหนักถึงความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นจากการขับรถที่ไม่มีวินัยและไม่ปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด และมอบแนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในระดับพื้นที่ โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งดำเนินการปรับปรุง แก้ไขด้านกายภาพของถนนในความรับผิดชอบ รวมทั้งตรวจสอบและปรับปรุง แก้ไขเครื่องหมายจราจร สัญญาณไฟและป้ายเตือนให้มีความชัดเจนบริเวณทางข้าม ทางร่วม ทางแยก และจุดคับขันต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนเกิดความปลอดภัย ใช้ความระมัดระวัง และลดปัจจัยเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนน

 

 

‘อุ้ม อัชญา’ ผู้สมัคร กทม.ของ ‘ภท.’ ชูนโยบาย ‘กล้อง CCTV’ ตรวจจับรถที่ไม่หยุดให้คนข้ามถนน เพิ่มความปลอดภัยให้ ปชช.

(24 เม.ย. 66) น.ส.อัชญา จุลชาต หรือ ‘อุ้ม’ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 32 บางกอกใหญ่ บางกอกน้อย ภาษีเจริญ ตลิ่งชัน ธนบุรี เบอร์ 7 พรรคภูมิใจไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘อุ้ม อัชญา จุลชาต’ บอกเล่าประสบการณ์ที่พบเจอขณะลงพื้นที่ ว่าตนได้เข้าช่วยเหลือและปฐมพยาบาลเบื้องต้นแก่ผู้ประสบอุบัติเหตุ ถูกรถชนขณะกำลังข้ามถนนบริเวณทางม้าลาย โดยระบุว่า…

“ขณะที่อุ้มกำลังลงพื้นที่ อุ้มได้เจออุบัติเหตุรถชนคนที่กำลังข้ามถนนบริเวณทางม้าลายใกล้ ๆ MRT สถานีอิสรภาพ อุ้มและทีมงานเลยรีบเข้าไปให้ความช่วยเหลือด้วยการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และช่วยติดต่อประสานงานเจ้าหน้าที่มาให้ความช่วยเหลือ

ซึ่งพรรคภูมิใจไทย มีนโยบายการเชื่อมกล้อง CCTV บริเวณทางม้าลาย เพื่อยกระดับความปลอดภัยให้กับพ่อแม่พี่น้องประชาชน (ไว้ตรวจจับรถที่ไม่หยุดให้คนข้าม ทำให้เกิดอุบัติเหตุ แล้วนำข้อมูลมาปรับคะแนนจราจรของผู้ขับ) และจากมุมมองของคนพื้นที่อย่างอุ้ม การเชื่อมต่อกล้อง CCTV บริเวณทางม้าลาย ถือเป็นอีกหนึ่งนโยบายสำหรับกลุ่มกรุงเทพฯ ฝั่งธน ที่ตอบโจทย์ความต้องการและแก้ไขปัญหาของประชาชน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top