Friday, 3 May 2024
ททท

'เท่าพิภพ' แนะ!! ทุ่มงบ 20 ล้านจ้างยูทูบเบอร์ดีกว่า เชื่อ!! ก.ท่องเที่ยวทำวิดีโอเอง คนดูไม่ถึงหมื่นแน่

เท่าพิภพ อภิปรายขอตัดงบ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ 20 ล้านทุ่มสร้างแพลตฟอร์มวิดีโอและไลฟ์สตรีมเอง ชี้แค่ทำเซิฟเวอร์ก็ไม่พอแล้ว มั่นใจคนดูไม่ถึงหมื่นแน่นอน แนะจ้างยูทูบเบอร์ยังจะได้ผลมากกว่า

เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส. กรุงเทพฯ พรรคก้าวไกล อภิปรายสงวนคำแปรญัตติ การพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 วาระ 2 ในมาตรา 11 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยขอตัด 5% ในส่วนของสำนักปลัดการท่องเที่ยวและกีฬา

โดยเท่าพิภพ ระบุว่าโครงการที่มีปัญหา คือโครงการยกระดับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย ในส่วนงบรายจ่ายวีดีโอออนดีมานด์และไลฟ์สตรีมมิ่ง ที่มีการตั้งงบประมาณไว้ที่ 20.4 ล้านบาท ซึ่งแม้ว่าทางกรรมาธิการจะได้ตัดออกไป 5 ล้านบาทแล้ว ก็ยังไม่สมเหตุสมผล

เนื่องจากโครงการดังกล่าว ไม่ต่างอะไรกับการสร้างแพลตฟอร์มวีดีโอขึ้นมาเป็นของตัวเอง ใช้ในการโปรโมตการท่องเที่ยวด้วยวีดีโอของตัวเอง แล้วหวังว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาดู ซึ่งเพียงการตั้งโครงการด้วยวิธีคิดเช่นนี้ก็ผิดตั้งแต่ต้นแล้ว เช่น ในการทำเซิฟเวอร์ขึ้นมาเองด้วยงบประมาณเพียง 20 ล้านบาท ย่อมไม่เพียงพอที่จะทำให้แพลตฟอร์มมีประสิทธิภาพได้แน่นอน

รัฐฟื้นท่องเที่ยวไทยแตะ 80% เหมือนก่อนโควิดผุด คาดปี’ 66 โกยรายได้ 2.38 ลลบ.

(19 ก.ย. 65) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า... “รัฐบาลวางเป้าหมายสนับสนุนการท่องเที่ยว

โดยให้ภาพรวมปี 2566 การท่องเที่ยวของไทยกลับมาอยู่ในสัดส่วนเป็น 80% เหมือนก่อนสถานการณ์โควิด-19 (ของปี 2562) โดยคาดว่าจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวรวมทั้งสิ้น 1.73 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากต่างประเทศ 970,000 ล้านบาท และรายได้หมุนเวียนจากตลาดคนไทย 760,000 ล้านบาท และเชื่อว่าหากเป็นไปตามสถานการณ์ท่องเที่ยวที่เอื้ออำนวยในทุกด้าน (Best Case Scenario) คาดว่าจะมีรายได้รวม 2.38 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากตลาดต่างประเทศ 1.5 ล้านล้านบาท และตลาดในประเทศ 880,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ รัฐบาลยินดีที่สายการบินมีการปรับแผนและการดำเนินธุรกิจให้เหมาะสมและสอดคล้องกับปริมาณนักท่องเที่ยว ซึ่งจะเพิ่มปริมาณมากขึ้นในฤดูการท่องเที่ยวในไตรมาส 4 จนถึงต้นปีหน้า หรือช่วง High Season”

โดยจากข้อมูลของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พบว่า การท่องเที่ยวไทยจะฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยประเมินว่าไตรมาส 4 ในเดือน ตุลาคม - ธันวาคม จะมีนักท่องเที่ยวจำนวน 1.5 ล้านคนต่อเดือน และ ททท.จะจับมือกับสายการบินพันธมิตรผลักดันการท่องเที่ยวช่วง High Season ผ่านการส่งเสริมการขายและการตลาดอย่างต่อเนื่อง สะท้อนบรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวที่กลับมาคึกคักหลังนโยบายเปิดประเทศเต็มรูปแบบ

ททท. รุกตลาดแดนอิเหนา จับมือ บริษัทนำเที่ยวยักษ์ใหญ่อินโดนีเซียสำรวจสินค้าท่องเที่ยวเชียงใหม่

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ และบริษัทนำเที่ยว Ayo Wisata ประเทศอินโดนีเซีย จัดกิจกรรม Amazing Thailand New Chapter X Ayo Wisata Agent Fam Trip นำผู้ประกอบการนำเที่ยวชั้นนำจากอินโดนีเซีย จำนวน 16 ราย และสื่อมวลชน 2 ราย สำรวจสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวเส้นทางเชียงใหม่-เชียงราย-กรุงเทพฯ ในระหว่างวันที่ 16-20 พฤศจิกายน 2565 

ในโอกาสเดียวกันนี้ ได้จัดเวทีเจรจาธุรกิจในลักษณะ B2B ระหว่างผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวอินโดนีเซียจำนวน 16 ราย ในฐานะผู้ซื้อ (Buyer) กับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 32 ราย ในฐานะผู้ขาย (Seller) ประกอบด้วย โรงแรมที่พัก 11 หน่วยงาน แหล่งท่องเที่ยว 9 หน่วยงาน บริษัทนำเที่ยว 7 หน่วยงาน สปาและเวลเนส 3 หน่วยงาน สนามกอล์ฟ 1 หน่วยงาน และสายการบิน 1 หน่วยงาน จัดขึ้นในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2565 ณ โรงแรมดวงตะวันเชียงใหม่ เพื่อสร้างโอกาสในการเสนอขายและแลกเปลี่ยนสินค้าบริการทางการท่องเที่ยวให้เกิดการเชื่อมโยงทางธุรกิจต่อไปในอนาคต รวมทั้งได้จัดงานเลี้ยงต้อนรับ ณ ร้านอาหารเอื้องคำสาย ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่

นางสิรินาถ ฉัตรศุภกุล ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานจาการ์ตา กล่าวว่า "ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2565 (มกราคม-ตุลาคม 2565) มีนักท่องเที่ยวชาวอินโดนีเซียเดินทางเข้ามายังประเทศไทยแล้วจำนวน 139,638 คน-ครั้ง มีค่าใช้จ่ายต่อคนต่อทริปอยู่ที่ราว 26,000 บาท ระยะเวลาพำนัก 9.5 วัน ขณะที่สายการบินเชื่อมโยงเส้นทางอินโดนีเซีย-ไทย ปัจจุบันกลับมาเปิดให้บริการแล้วราวร้อยละ 50 ในเส้นทางจาการ์ตา-กรุงเทพฯ และเดนบาซาร์-กรุงเทพฯ รวมจำนวน 59 เที่ยวบิน/สัปดาห์ หรือราว 13,227 ที่นั่ง/สัปดาห์ การเดินทางของชาวอินโดนีเซียส่วนใหญ่ยังคงพึ่งพิงเอเย่นต์ในการจัดการเดินทางเป็นหลัก การรับประทานอาหารหากมีการจัดแยกส่วนอาหารฮาลาลจะดีมาก รวมทั้งยังคงต้องการมัคคุเทศก์ที่สื่อสารภาษาบาฮาซา-อินโด"

ททท.จัด 'มหกรรมเที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม' สัญจร ที่จังหวัดเชียงใหม่

ททท. ปลื้มมหกรรมเที่ยวเมืองไทยAmazing ยิ่งกว่าเดิมคึกคัก เดินหน้าจัดงานมหกรรม เที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม@เชียงใหม่ พบกับ กิจกรรมเจรจาธุรกิจใน Business Matching ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายกว่า 130 บริษัททั่วประเทศ ได้แก่ ผู้ประกอบการท่องเที่ยวภาคเหนือองค์กรภาครัฐและเอกชน บริษัทนำเที่ยว โรงเรียนนานาชาติ และกลุ่มผู้จัดงานทั่วประเทศ หวังสร้างโอกาสทางธุรกิจ ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย

ในวันพุธ ที่ 21 ธันวาคม 2565 เวลา 08.30 - 13.00 น. ททท. จัดกิจกรรมการเจรจาทางธุรกิจ (B2B) ในโครงการ มหกรรมเที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม สัญจร ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย  กล่าวเปิดงาน พร้อมด้วยนางสาวสุลัดดา ศรุติลาวัณย์ ผู้อำนวยการสำนักงานททท.สำนักงานเชียงใหม่  นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้ นายพัลลภ แซ่จิว ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ นายศุภมิตร กิจจาพิพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารศิริปันนา วิลล่า รีสอร์ทและสปาเชียงใหม่ และผู้ประกอบการท่องเที่ยว ร่วมกิจกรรม ณ โรงแรมดิเอ็มเพรส เชียงใหม่

นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาค ภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท. กำหนดจัดงานมหกรรมเที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม @เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 20 – 21 ธันวาคมนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยวในประเทศ สร้างโอกาสทางธุรกิจ เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยอย่างยั่งยืนขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย เตรียมพร้อมรองรับการท่องเที่ยวที่จะกลับสู่สภาวะปกติในปี 2566 ตามแนวคิดโครงการ Save Partner

โดยกิจกรรมดังกล่าวถือเป็นการต่อยอดงาน 'มหกรรมเที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม' ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 15 – 18 ธันวาคม ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ ที่ผ่านมา ซึ่ง ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยการจัดงานตลอดทั้ง 4 วัน พบว่า มีผู้เข้าร่วมงานทั้งหมดกว่า 50,000 คน เกิดการซื้อขายภายในงานกว่า 70 ล้านบาท  

สำหรับการจัดงานมหกรรมเที่ยวเมืองไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม@เชียงใหม่ เป็นการจัดกิจกรรม การเจรจาธุรกิจ B2B (Business to Business) ในรูปแบบของ 'Business Matching' ระหว่าง กลุ่มผู้ซื้อ (Buyer) และผู้ขาย (Seller) จำนวนกว่า 130 รายจากทั่วประเทศ ประกอบด้วย กลุ่มผู้ซื้อ (Buyer) จากองค์กรจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน บริษัทนำเที่ยว กลุ่มการศึกษา โรงเรียนเอกชน โรงเรียนนานาชาติ กลุ่มผู้จัดงาน เป็นต้น และ ผู้ขาย (Seller) ประกอบด้วย ผู้ประกอบการโรงแรม บริษัทนำเที่ยว ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ฯลฯ ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในภูมิภาคภาคเหนือ ร่วมนำเสนอแพ็คเกจพิเศษการท่องเที่ยวสำหรับองค์กรและการจัดรายการนำเที่ยว

‘บิ๊กตู่’ สั่ง ‘ททท.’ เตรียมความพร้อมจัดกิจกรรมสงกรานต์ เร่งวางแผนหนุนการท่องเที่ยว คาด นนท.สูงถึง 17–20 ล้านคน

(26 มี.ค. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม วางแนวทางการทำงานส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2566 สั่งการให้เตรียมความพร้อมจัดงานเพื่อเฉลิมฉลองสงกรานต์แบบยิ่งใหญ่ ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์ว่าการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศจะเติบโตมาก วางแผนวิจิตรสงกรานต์ 5 ภาค พร้อมประชาสัมพันธ์โครงการ ‘365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทยเที่ยวได้ทุกวัน’ กระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวภายในประเทศ

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากการคาดการณ์แนวโน้มการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2566 ททท. คาดว่าจะคึกคักมากกว่า ปี 2562 ช่วงสงกรานต์ก่อนสถานการณ์โควิด-19 เนื่องจากการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมคาดการณ์ว่า การเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยในช่วงวันหยุดยาวสงกรานต์ จะสนับสนุนให้เกิดการเดินทางในประเทศทั้งเดือนเมษายน ปี 2566 อยู่ที่ 17-20 ล้านคน/ครั้ง

‘นทท.ไทย-เทศ’ แห่ร่วม ‘งานประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้ง’ ชมขบวนนางรำสักการะสุดยิ่งใหญ่ คาด เงินสะพัดหลายล้าน!!

นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติจำนวนมาก เดินทางมาเที่ยว ‘งานประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้ง’ อย่างคึกคัก ชมขบวนแห่เทพพาหนะทั้ง 10 ขบวนแห่พระนางภูปตินทรลักษมีเทวี แสดงโดย ‘บิ๊นท์ สิรีธร ลีห์อร่ามวัฒน์’ มิสอินเตอร์ เนชั่นแนล 2019-2021 พร้อมชมขบวนแห่สักการะ ‘น้อมจิตบังคม พนมรุ้งนาฏการ’ นางรำจากทุกอำเภอ ร่วมพันคน รำถวายสักการะ ตลอดงาน คาดจะมีเงินสะพัดหลายล้านบาท
.
(2 เม.ย. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 1 เม.ย. 2566 ที่อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง ตำบลตาเป๊ก อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานเปิดงานประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้ง ประจำปี 2566 ที่ทางจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กรมศิลปากร และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จัดขึ้น อย่างยิ่งใหญ่ ในระหว่างวันที่ 31 มีนาคม – 2 เมษายน 2566 เพื่ออนุรักษ์สืบสานประเพณี และส่งเสริมการท่องเที่ยวทางอารยธรรมขอมโบราณ ที่อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง เป็นแหล่งท่องเที่ยวโบราณสถานที่สำคัญของจังหวัด และยังเชื่อมโยงการท่องเที่ยวกีฬามาตรฐานโลก โดยมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มารอชมขบวนแห่กันเป็นจำนวนมาก

ภายในงานได้มี ขบวนแห่พาหนะเทพ ผู้พิทักษ์ทิศทั้ง 10  และขบวนเสด็จของพระนางภูปตินทรลักษมีเทวี แสดงโดย ‘บิ๊นท์ สิรีธร ลีห์อร่ามวัฒน์’ มิสอินเตอร์ เนชั่นแนล 2019-2021 และนางจริยา นำเครื่องบวงสรวงประกอบด้วย เทพพาหนะทั้ง 10 นางสนมกำนัล เหล่าทหาร ข้าทาสบริวาร ดำเนินผ่านเสานางเรียงประดับด้วยธงทิวยิ่งใหญ่อลังการ ขึ้นไปบนอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง

จากนั้น เป็นการแสดงแสงแห่งศรัทธาปราสาทพนมรุ้ง และขบวนแห่สักการะ ‘น้อมจิตบังคม พนมรุ้งนาฏการ’ การรำถวายสักการะใต้ร่มพนมรุ้ง จากนางรำ ทั้ง 23 อำเภอ ร่วม 1,000 คน แต่งกายด้วยชุดพื้นเมืองประจำถิ่นของแต่ละอำเภอ มาฟ้อนรำถวายอย่างงดงามอลังการ ซึ่งได้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มารอชมขบวนแห่กันเป็นจำนวนมาก

นอกจากนั้น ยังได้จัดแสดงและจำหน่ายสินค้าโอท็อป ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ชุมชนคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นผ้าไหม ผ้าฝ้ายที่มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น ทั้งผ้าซิ่นตีนแดง ผ้าหางกระรอกคู่ตีนแดง ผ้าภูอัคนี (ผ้าฝ้ายย้อมดินภูเขาไฟ) รวมถึงผลิตภัณฑ์ประเภทอาหาร เครื่องใช้ และของที่ระลึกอื่น ๆ อีกมากมาย

'ททท.' เปิดรับ 'นักท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย' ออกเที่ยวนาน 4 เดือน พร้อมเงิน 5 แสนบาท

เมื่อวันที่ 30 เม.ย.66 โอกาสดีของคนรักการเที่ยวเมืองไทย ททท. เฟ้นหา “นักท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” เพียงหนึ่งเดียว รับเงิน 5 แสน ออกไปเที่ยวเมืองไทยเป็นเวลา 4 เดือน

เมื่อเร็วๆนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดตัวกิจกรรม ภายใต้ "โครงการ 365 วันมหัศจรรย์เมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน" โดยหนึ่งในกิจกรรมสุดว้าว และเป็นโอกาสดีของคนรักการเที่ยวเมืองไทย คือ กิจกรรมรับสมัคร "นักท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย" เพียงเดินทางออกไปสัมผัสความมหัศจรรย์ของเมืองไทยและจัดทำเนื้อหาประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว พร้อมทั้งสมัครและส่งแฟ้มประวัติผลงานผ่านช่องทางเว็บไชต์ของโครงการ ททท.จะคัดเลือกผู้ร่วมกิจกรรมจำนวน 20 คน จากคอนเทนต์ที่นำเสนอ

จากนั้นคัดเลือกด้วยการสัมภาษณ์กับคณะกรรมการเพื่อเฟ้นหา 1 คนที่จะได้เป็นนักท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซึ่งจะได้รับเงินรางวัลสนับสนุนในการท่องเที่ยว พร้อม Voucher ท่องเที่ยวสำหรับเข้าใช้บริการสินค้าและกิจกรรมด้านการท่องเที่ยว

คุณสมบัติของผู้สมัคร
- ต้องเป็นผู้ที่มีสัญชาติไทย อายุ 20 ปีขึ้นไป
- มีความสามารถในการเขียนคอนเทนต์ได้เป็นอย่างดี
- มีความสามารถในการถ่ายภาพหรือคลิปวิดีโอ และสามารถตัดต่อได้อย่างสวยงาม
- มี Social Media เพื่อใช้ในการประชาสัมพันธ์คอนเทนต์ โดยไม่จำกัดแพลตฟอร์ม
- สามารถออกเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ หรือ ท่องเที่ยวตามปฏิทินท่องเที่ยวของ ททท. ได้ หรือตามแหล่งท่องเที่ยวที่ ททท.กำหนด

โดยผู้ที่ได้รับคัดเลือกเพียงหนึ่งเดียวนั้น จะได้รับเงินสนับสนุนการท่องเที่ยวจาก ททท. เป็นจำนวนเงิน 504,000 บาท (หรือเดือนละ 126,000 เป็นเวลา 4 เดือน) พร้อม Voucher ท่องเที่ยวและของรางวัลอื่นๆ ส่วนผู้ที่ผ่านการเข้ารอบสัมภาษณ์ แต่ไม่ได้รับคัดเลือก ก็ยังได้รับ Voucher ท่องเที่ยว เป็นรางวัลปลอบใจ

‘ไทย’ เผยยอด ‘นทท.ต่างชาติ’ ครึ่งปีแรก ทะลุ 12 ล้านคน คาดสร้างได้จากการท่องเที่ยวให้ประเทศ 2.38 ล้านล้านบาท!!

เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 66 สำนักข่าวซินหัว, กรุงเทพฯ รายงานว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ประเทศไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในช่วงเดือนมกราคมถึงกลางเดือนมิถุนายน ปี 2023 จำนวนกว่า 12.46 ล้านคน ซึ่งสอดคล้องกับการมุ่งหน้าสู่เป้าหมายเพิ่มยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติ 25 ล้านคนตลอดปีนี้

เมื่อนับถึงสัปดาห์ก่อน ไทยทำรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่า 5.14 แสนล้านบาท ซึ่งการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนมีส่วนส่งเสริมสำคัญ โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติขาเข้าเพิ่มขึ้นในกลุ่มตลาดหลักส่วนใหญ่ช่วงสัปดาห์ที่แล้ว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากจีน

เมื่อวันจันทร์ (26 มิ.ย.) แถลงการณ์จากอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ปัจจุบันยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติขาเข้าพุ่งสูงสุดในรอบ 3 ปี และคาดว่าจะแตะ 25 ล้านคนภายในสิ้นปี 2023

อนุชา เผยว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนการส่งเสริมต่างๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายทำรายได้จากการท่องเที่ยว 2.38 ล้านล้านบาทในปีนี้ โดยตัวเลขนักท่องเที่ยวล่าสุดทะลุสถิติตลอดปี 2022 ที่ 11.15 ล้านคนแล้ว

ก่อนเกิดการระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในปี 2019 นักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนไทยเกือบ 40 ล้านคน โดยการท่องเที่ยวซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการเติบโตทางเศรษฐกิจไทย ครองสัดส่วนราวร้อยละ 12 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ
 

ททท. เปิดรับสมัครนักเรียนในระดับอุดมศึกษา เพื่อร่วมกิจกรรมชิงเงินรางวัล ผ่านการสร้างเส้นทางท่องเที่ยวกว่า 70,000 บาท

เปิดรับสมัครแล้ววันนี้ พร้อมกันทั่วประเทศ !!!!

โอกาสของเยาวชนทั่วประเทศไทย 
ในการสร้างสรรค์เส้นทางท่องเที่ยวแบบ Low carbon  ททท. ขอเชิญชวนน้อง ๆ เยาวชนในระดับอุดมศึกษา เข้าร่วม STGs Youth Camp : ยัง ยั่ง ยืน  

ภายใต้โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ Responsible Tourism (ททท.) ในธีม "สร้างสรรค์ เส้นทางสีเขียวสัมผัสการท่องเที่ยวแบบ Low Carbon" พร้อมร่วมกิจกรรมชิงเงินรางวัล ผ่านการสร้างเส้นทางท่องเที่ยวกว่า 70,000 บาทbสมัครได้ที่ STGsyouthcamp.com

ททท. เชียงใหม่ จับมือพันธมิตรกระตุ้นการท่องเที่ยวเชื่อมโยงสงขลา-กระบี่

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่ ผนึกกำลังร่วมกับสายการบินไทยแอร์เอเชีย และผู้ประกอบการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ เร่งทำการตลาดเชิงรุกนำสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่เสนอขายให้แก่ผู้ประกอบการนำเที่ยวจังหวัดสงขลา และจังหวัดกระบี่ ระหว่างวันที่ 29 มิถุนายน – 4 กรกฎาคม 2566 โดยกำหนดจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจ Table Top Sale ในวันที่ 30 มิถุนายน 2566 ณ โรงแรมบุรีศรีภู คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และในวันที่ 3 กรกฎาคม 2566 ณ โรงแรมปาหนัน กระบี่ รีสอร์ท จ.กระบี่ หวังดึงนักท่องเที่ยวจากจังหวัดสงขลาและกระบี่ เดินทางท่องเที่ยวข้ามภูมิภาคมายังจังหวัดเชียงใหม่ในช่วง Green Season และหน้าหนาวที่กำลังจะถึงนี้ พร้อมกันนี้ยังได้นำสื่อมวลชนจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมสำรวจเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงเชียงใหม่ สงขลา และกระบี่ ภายใต้โครงการ The Link Local to Global ส่งเสริมและกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยง Domestic to Domestic ผ่านการนำเสนอเรื่องราววิถีชีวิต สินค้าและบริการที่ได้รับการพัฒนาและยกระดับคุณภาพมาตรฐานบริการ และสอดคล้องกับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวเป้าหมายของพื้นที่

นางสาวสุลัดดา ศรุติลาวัณย์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่ได้เชื่อมโยงการท่องเที่ยวกับจังหวัดสงขลา และจังหวัดกระบี่ ผ่านการนำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวที่ได้รับการพัฒนาและยกระดับคุณภาพมาตรฐานบริการ โดยจังหวัดสงขลาเชื่อมโยงการท่องเที่ยวภายใต้แนวคิด The Bleisure Route เที่ยวได้งาน นำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวสำหรับกลุ่มประชุม/สัมมนา/Team Building รวมถึงสินค้าและบริการเชิงสุขภาพ Zodiac Spa สปาราศี สำหรับจังหวัดกระบี่เชื่อมโยงการท่องเที่ยวภายในแนวคิด Green Route นำเสนอประสบการณ์ท่องเที่ยวตามแนวคิด Sustainable Tourism Goals: STGs และ Low Carbon Tourism เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน นอกจากเราจะเชื่อมโยงกันด้วยสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมายแล้ว เรายังเชื่อมโยงกันด้วยเส้นทางบิน ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่มีเส้นทางบินตรงเชื่อมโยงเชียงใหม่ – หาดใหญ่ (สงขลา) โดยสายการบินไทยแอร์เอเชีย วันละ 1 เที่ยวบิน และเชียงใหม่ - กระบี่ โดยสายการบินไทยแอร์เอเชีย จันทร์/พุธ/ศุกร์/อาทิตย์ วันละ 1 เที่ยวบิน อังคาร/พฤหัส/เสาร์ วันละ 2 เที่ยวบิน

สอบถามข้อมูลการท่องเที่ยวเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานเชียงใหม่ เปิดให้บริการวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.30 – 16.30 น. (ยกเว้นวันหยุดราชการ) โทรศัพท์ 0 5324 8604-5 และสามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวด้านการท่องเที่ยวของ ททท.สำนักงานเชียงใหม่ได้ทาง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top