Tuesday, 21 May 2024
ณัฐชาบุญไชยอินสวัสดิ์

‘ณัฐชา’ ซัด!! กองสลากฯ ออกกฎขายสลากเอื้อนายทุน หลังประกาศผู้รับโควตาที่อายุ 70 ปี+ ต้องมีใบรับรองสุขภาพ

‘ณัฐชา’ ซัดเดือด กองสลากฯ ประกาศกฏผู้สูงอายุ 70 ปี+ ต้องตรวจสุขภาพไม่มีโรคส่วนตัวถึงขายได้ ชี้หยุดประเคนผลประโยชน์ให้ทุนใหญ่

(14 พ.ย. 65) ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.เขตบางขุนเทียน พรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจากพ่อค้าแม่ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลรายย่อย ว่าพวกเขาได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากหลังจากที่มีประกาศจะให้คนที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไปที่มีโควตาขายสลากต้องมีใบรับรองสุขภาพว่าสุขภาพดี

ณัฐชาระบุว่า ในความเป็นจริงผู้ที่มีอายุ 70ปี ขึ้นไปจะไม่มีโรคประจำตัวเลยคงยาก แค่ที่พบเห็นทุกคนที่ไม่ว่าจะเดินหรือนั่งขายสลากพวกเขาแข็งแรงในระดับที่ช่วยเหลือตัวเองได้ ประกาศที่ออกมาตนมองว่าเป็นการบีบและตอกย้ำว่าประเทศไทยต้องมีรัฐสวัสดิการ ไม่เช่นนั้นผู้สูงอายุ พวกเขาจะถูกคัดออกจากระบบและกดดันให้ไม่สามารถมีพื้นที่ในการทำมาหากินอะไรได้เลย เบี้ยคนชราวันละ 20 บาทไม่สามารถรองรับชีวิตใครได้ 

“ผมว่าประเทศไทยต้องเลิกดูถูกผู้สูงอายุได้แล้ว พวกเขาต้องได้รับการดูแลให้มีศักดิ์ศรีในสังคม” ณัฐชา กล่าว

‘ณัฐชา’ ชี้ ฉายานายกฯ ‘แปดเปื้อน’ เรื่องเล็ก ฝาก ‘บิ๊กตู่’ ละอายใจบ้าง ทำปชช.มืดแปดด้าน

(27 ธ.ค. 65) ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กรุงเทพฯ เขตบางขุนเทียน พรรคก้าวไกล กล่าวถึงฉายารัฐบาล 2565 จากผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาลว่า ฉายานายกฯ ‘แปดเปื้อน’ ยังน้อยไป เพราะตลอดระยะเวลาที่ประเทศไทยมี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ประเทศไทยและพี่น้องประชาชนยังต้องตกอยู่ในสถานการณ์มืดแปดด้านกับอนาคตของประเทศ 

นอกจากนี้ มองว่าการตั้งฉายาให้รัฐบาลและนายกรัฐมนตรีไม่ใช่สีสันทางการเมือง แต่เป็นการรวบยอดคำจำกัดความของการทำงานที่ผ่านมา จึงขอฝากไปยังรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีว่า กรุณาละอายใจต่อเสียงสะท้อนของสังคมเสียบ้างไม่ว่าจากสื่อมวลชนหรือพี่น้องประชาชน

‘ณัฐชา’ ฉะ ‘แรมโบ้’ เหลือสำนึกความเป็นคนบ้าง หลังหนุน จนท. ปิดปากลากตัว คนเห็นต่าง ‘บิ๊กตู่’

(15 มี.ค.66) ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.เขตบางขุนเทียน กรุงเทพ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ขอฝากไปยังคุณแรมโบ้ เสกสกล อัตถาวงศ์ อย่าทำตัวเป็นโบโบ้ที่ซื่อสัตย์กับเผด็จการ หนุนพฤติกรรมป่าเถื่อนชอบใช้อำนาจบาตรใหญ่กดขี่ข่มเหงประชาชนให้มากนัก อย่างน้อยก็เคยเป็นแกนนำมวลชนคนเสื้อแดงที่เคยถูกกดขี่ข่มเหงจากอำนาจไม่เป็นธรรม จะพูดจาอะไรให้เหลือสำนึกความเป็นคนที่มีคุณธรรมและมนุษยธรรมไว้บ้าง

ทั้งนี้ ณัฐชา กล่าวว่า รู้สึกสมเพชกับสิ่งที่นายแรมโบ้ทำ มีการเล่าเป็นฉากๆ เพื่อแก้ตัวให้การกระทำอันป่าเถื่อนภายใต้ความเพิกเฉยของนายกรัฐมนตรี กรณีคุณป้าท่านหนึ่งเตรียมขวางขบวนเพื่อขอเข้าพบนายกฯ ที่จังหวัดราชบุรี ว่าเป็นการกระทำที่ไม่เกินกว่าเหตุแถมยังขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ปกป้องนายกฯแด้วย

นายณัฐชา กล่าวว่า ในฐานะนักการเมือง พวกเราไปหาเสียงมาทั่วประเทศ มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เหตุการณ์แบบนี้เราก็เคยเจอ แต่ในเมื่อประชาชนมีสิทธิที่จะคิดและแสดงความเห็น เราก็ต้องรับมือเหตุการณ์เหล่านี้ด้วยวุฒิภาวะ แน่นอนว่าตนไม่เห็นด้วยกับการป่วนหรือคุกคามใช้ความรุนแรงในการแสดงออก แต่เรามีวิธีจัดการได้มากมายโดยไม่ใช้การกระทำเหมือนเห็นประชาชนไม่ใช่คนอย่างนี้

ณัฐชา ย้ำว่า การที่เจ้าหน้าที่เข้าไปฉุดกระชากลากตัวเข้าซอกแคบ ๆ ปิดตา ปิดปากแถมยังเอาร่มบังระหว่างจับกุมคุมตัว ไม่ใช่วิธีการตามหลักสากลแน่นอน แต่คือการละเมิดและทำร้ายร่างกายอย่างชัดเจนและอุกอาจ

‘ณัฐชา ก้าวไกล’ เสนอ 5 แนวทางแก้ปัญหา PM2.5 ลดผลกระทบต่อ ปชช. - เศรษฐกิจ - การท่องเที่ยว

(17 มี.ค.66) ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.พรรคก้าวไกล กทม. เขตบางขุนเทียน กล่าวว่าปัญหาฝุ่น PM2.5 เป็นปัญหาที่ไม่มีการแก้ไขแม้ตนได้มีการส่งหนังสือร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่มาแล้วหลายครั้ง โดยมีข้อเรียกร้องในการแก้ปัญหา 5 ข้อ คือ

1. ให้มอบหมายหนวยงานที่ชัดเจน เพื่อการแก้ปัญหาฝุ่น P.M.2.5 ที่เกิดขึ้นแล้วในปัจจุบัน ทั้งนี้อาจจะเป็นการมอบหมายใหกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย ใหเป็นหนวยงานหลักที่จะดูแลและแก้ไขปญหาฝุน P.M.2.5 ที่มีอยูในปัจจุบัน

2. ให้กรมควบคุมมลพิษ สร้างระบบการแจ้งเตือน แอปพลิเคชัน หรือข้อความ SMS แจ้งเตือนเข้าโทรศัพท์มือถือของประชาชนในพื้นที่เสี่ยงรวมถึงมีการควบคุมแหลงกำเนิดฝุ่น P.M.2.5 ที่อาจจะเกิดขึ้นใหม่ เพื่อใหประชาชนรู้ล่วงหน้าและการวางแผนหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยงดังกล่าว

3. ให้ประกาศมาตรการของการเกิดฝุ่น P.M.2.5 ทั้งในระดับปกติระดับปานกลาง ระดับรุนแรง และระดับวิกฤตว่าในแต่ละระดับ ประชาชนควรมีมาตรการรับมือกับปญหาอยางไร และจะสามารถดำเนินชีวิตอย่างไร เช่น หากค่าฝุ่นอยูในระดับวิกฤต มีการแจงเตือนจากกรมควบคุมมลพิษชัดเจน ประชาชนสามารถใช้เปนเหตุผลในการกรอกใบลาไดโดยไมมีการหักค่าจ้าง

‘ณัฐชา’ นำทีม 10 ผู้สมัครส.ส. ประกาศปักธงสีส้มฝั่งธนฯ ลั่น!! จะไม่ยอมเสียฐานที่มั่นใน กทม. หวังเก้าอี้ทุกเขต

(25 มี.ค. 66) ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ อดีต ส.ส.พรรคก้าวไกล ในฐานะว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ เขต 27 บางบอน (เฉพาะแขวงบางบอนใต้และแขวงคลองบางบอน) และเขตบางขุนเทียน (ยกเว้นแขวงท่าข้าม) กล่าวถึงความเชื่อมั่นของพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้ง 2566 หลังจัดคาราวานประเทศไทยไม่จำนนในเขตฝั่งธนบุรี เพื่อพบปะทักทายประชาชนและแนะนำว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ว่า เขตฝั่งธนบุรีเป็นฐานที่มั่นของพรรคอนาคตใหม่ในการเลือกตั้งปี 2562 เราได้รับชัยชนะมากที่สุดในกรุงเทพมหานคร แม้จะมี ส.ส.บางคนแปรพรรคทรยศความไว้วางใจของประชาชน แต่ตนและเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร อดีต ส.ส.กรุงเทพฯ เขตบางกอกใหญ่ คลองสาน ธนบุรี พรรคก้าวไกล ได้เป็นตัวแทนของพรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกล พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการทำงานตลอด 4 ปีของพวกเรายืนหยัดต่อสู้เรื่องทุนผูกขาดมาโดยตลอด เพราะเราต้องการกลับหัวพีระมิดของประเทศนี้ให้คนธรรมดาได้มีอำนาจในฐานะเจ้าประเทศ

ดังนั้น การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นเดิมพันครั้งสำคัญของพรรคก้าวไกลและพี่น้องชาวฝั่งธน ที่จะประกาศออกไปผ่านปลายปากกา ว่า พวกเราไม่ยอมจำนนและไม่ทนต่อความย่อยยับแบบนี้อีกต่อไป เป้าหมายไม่ใช่แค่ส่ง 3ป. กลับไปเลี้ยงหลาน แต่ต้องถูกส่งไปอยู่ในทัณฑสถาน จึงจะเป็นการปิดสวิตช์ 3ป. อย่างสมบูรณ์แบบ นี่คือภารกิจร่วมกันของพวกเรา

‘ณัฐชา’ แฉ เกมการเมืองเก่า ปล่อยเฟคนิวส์เกลื่อนไลน์ วอนหยุดปั้นน้ำเป็นตัว ชี้!! ไม่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน

(30 มี.ค. 66) นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ อดีต ส.ส.กรุงเทพฯ เขตบางขุนเทียน พรรคก้าวไกล กล่าวว่า เมื่อปี่กลองการเลือกตั้งดังขึ้น สิ่งที่ตามมาคือ สารพัดวิชามาร ปล่อยข่าวลวงหรือข่าวเท็จป้ายสีกัน เป็นวิธีของการเมืองแบบเก่า ที่เมื่อสู้ด้วยไอเดีย สู้ด้วยนโยบายไม่ได้ก็ใช้ความกลัวจากการโกหกประชาชนสู้แทน

“ขณะนี้ในไลน์เกลื่อนมาก โดยเฉพาะพรรคการเมืองเก่า ที่เล่นการเมืองแบบเก่า ๆ จะเป็นต้นทาง สั่งให้หัวคะแนนพรรคตัวเอง สร้างเฟคนิวส์ส่งเข้าไลน์กลุ่มหมู่บ้าน กลุ่มโรงเรียน กลุ่มชุมชนโจมตีพรรคก้าวไกลแบบถี่ ๆ ด้วยเนื้อหาที่บิดเบือน เช่นบอกว่า ถ้าเลือกพิธาเป็นนายกฯ จะยกเลิกบำนาญข้าราชการ ลูกหลานจะลำบาก เป็นการโกหกมดเท็จที่ไม่มีความจริงแม้แต่นิดเดียว ผมขอยืนยันเป็นครั้งที่ร้อยว่า พรรคก้าวไกลไม่มีและไม่เคยมีนโยบายยกเลิกบำนาญข้าราชการ” นายณัฐชา กล่าว

'ณัฐชา' โหมลงพื้นที่บางบอน-บางขุนเทียน หวั่นสับสนแบ่งเขตใหม่ ชี้!! ปชช. ให้การตอบรับดี พร้อมเชื่อมั่นการทำงานแบบ ‘ก้าวไกล’

(6 เม.ย.66)  นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ อดีต ส.ส.เขตบางขุนเทียน กรุงเทพ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ กกต.แบ่งเขตพื้นที่ใหม่ อย่างไรก็ตาม ไม่รู้สึกกังวล ที่ผ่านมาทำงานเข้าถึงพื้นที่และขยายไปยังพื้นที่รอบ ๆ มาตลอดอยู่แล้ว เพราะงานพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนเป็นงานเชิงประเด็นมีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกัน ไม่ว่าเรื่องที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อยหรือเบี้ยยังชีพคนชราที่ตนขับเคลื่อนอยู่ไม่สามารถแบ่งขาดด้วยการขีดเส้นเขตปกครองหรือมองเป็นเขตใครเขตมันได้ เมื่อลงไปจัดการแก้ปัญหาใด ๆ ก็จะพยามยามแก้ให้ครบถ้วนและครอบคลุมที่สุด

อย่างไรก็ตาม การแบ่งเขตใหม่พี่น้องประชาชนอาจยังไม่รู้ว่าเขตไหน ใครลงสมัครบ้าง ช่วงนี้จึงขยับไปแนะนำตัวในจุดใหม่ ๆ ซึ่งพบว่าเมื่อไปตั้งโต๊ะปราศรัยจุดใดพี่น้องประชาชนให้การต้อนรับเป็นอย่างดี แม้ตอนแรกพี่น้องประชาชนสะท้อนว่าการแบ่งเขตใหม่ทำให้สับสน แต่เมื่อรู้ว่าตนจะเป็นตัวแทนที่เขาเลือกไปทำงานในสภาได้ กลายเป็นยิ่งยินดีเพราะเชื่อมั่นในการทำงานแบบก้าวไกลและอยากเห็นความเปลี่ยนแปลงในพื้นที่รวมถึงในระดับโครงสร้างของประเทศ

‘ธนาธร-ณัฐชา’ ยิ้มแห้ง!! ก่อนโดนพี่วินฯ ตั้งคำถาม “ประชาชนจะได้อะไรจากการแก้ไข ม.112”

เมื่อมานานมานี้ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล เขตบางขุนเทียน ได้ออกเดินทางหาเสียงพร้อมกับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล โดยในระหว่างการเดินหาเสียงนั้น มีพี่วินมอเตอร์ไซค์ท่านหนึ่งได้เข้ามทตั้งคำถามกับทั้งสอง โดยถามว่า “ม.112 แก้แล้ว ตัวเขาเองที่ประกอบอาชีพขับรถวินมอเตอร์ไซค์นั้นจะได้อะไร”

นายณัฐชา ตอบกลับว่า “การแก้ ม.112 นั้นเป็นการแก้ไขเพื่อการหยุดกลั่นแกล้งทางการเมือง” ซึ่งพี่วินคนดังกล่าวก็ได้ตั้งคำถามกลับว่า “พวกเขาเหล่านั้นลบหลู่สถาบัน ก็ต้องมีการแจ้งความ เพราะมันแจ้งความไม่ได้ถ้าหากไม่มีการด่าทอสถาบันก่อน”

พี่วินยังเสริมอีกว่า “ผมเกิดมา 47 ปี ผมยังไม่เคยโดนข้อหา ม.112 เลยอยากถามว่าแก้ ม.112 ไปแล้วพวกผมได้อะไร เพราะจากที่ดูในสภาไม่เห็นพรรคก้าวไกลนั้นพูดถึงการแก้ปัญหาอื่นๆ ให้ประชาชนเลย พูดแต่เรื่องแก้ ม.112 แถมยังสนับสนุนม็อบ และม็อบเหล่านั้นเวลาถูกจับ ก็ไม่ได้โดนจับจากเรื่องม.112 แต่ถูกจับเพราะเรื่องพ่นสี ไปด่าคนอื่น ” 

พี่วินยังตั้งคำถามอีกว่า “ถ้าหากตนด่าถึงพ่อ ถึงแม่ จะโกรธไหม ถ้าโกรธก็ต้องแจ้งความจับตน ก็เหมือนกันการที่คนชอบหมิ่นสถาบันที่เป็นประมุข”

‘ณัฐชา’ ยัน ‘ก้าวไกล’ ไม่ปรับกลยุทธ์หาเสียงช่วงโค้งสุดท้าย เน้นลงพื้นที่เข้าถึง ปชช. โว!! คะแนนนิยมดีทั้งออนไลน์-ออนกราวด์

(23 เม.ย.66) นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ผู้สมัครส.ส. พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคก้าวไกล จะปรับกลยุทธ์หาเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ทั้งในพื้นที่ที่กระแสตอบรับดี และพื้นที่ที่กระแสยังเป็นรองหรือไม่ ว่า ตนเชื่อว่าในหลายพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นกระแสของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และกระแสของพรรคในวันนี้จนไปถึงช่วงโค้งสุดท้ายจะดีขึ้น ทำให้หลายๆ เขตได้รับชัยชนะ น่าจะไม่มีการปรับกลยุทธ์เพิ่มเติมใดๆ เพราะเราก็หวังเสียงสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนอยู่แล้ว และนโยบายต่างๆ ของเราทั้ง 300 นโยบายเราก็ประกาศให้ประชาชนทราบหมดแล้ว สิ่งที่เราทำวันนี้ไปจนถึงโค้งสุดท้ายคือ เดินทางไปทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เราอยากจะทำ ความตั้งใจที่เราบอกกับประชาชนไปแล้วว่า เราจะเข้าไปทำงานอย่างตรงไปตรงมา

นายณัฐชา กล่าวต่อว่า เราไม่ได้มองเรื่องของการประกาศจุดยืนต่อพี่น้องประชาชนได้รับทราบ แต่เราประกาศทั้งหมดไปตั้งแต่ต้นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นนโยบาย เงื่อนไขที่เราประกาศว่าจะร่วมหรือไม่ร่วมกับใคร แนวทางของผู้สนับสนุนพรรคเรา สามารถรับได้ในสิ่งไหนบ้าง เราก็ได้ประกาศไปตั้งแต่เริ่มต้น รวมถึงการประกาศแคนดิเดตนายกฯ จนถึงวันนี้สิ่งที่เราเดินหน้าทำอยู่ คือเรื่องที่เราพูดออกไปหมดแล้ว เหลือเพียงแค่เราทำความเข้าใจกับประชาชนมากขึ้นๆ ในทุกๆ วัน จนเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งเท่านั้นเอง ไม่มีการปรับกลยุทธ์ ไม่มีการเพิ่มเติมเงื่อนไขต่างๆ เพราะสิ่งที่เราได้สื่อสารกับประชาชน เราได้ทำกันอย่างตรงไปตรงมาตั้งแต่แรก

เมื่อถามว่า กรณีโพลมติชน-เดลินิวส์ ที่กำลังเปิดโหวตครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 22-28 เมษายนนี้ สำหรับพรรคก้าวไกล จะปรับกลยุทธ์การหาเสียงโค้งสุดท้ายอย่างไร นายณัฐชา กล่าวว่า ยังยืนยันคำตอบเดิม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผลโพลก็ดี หรือคะแนนนิยมในพื้นที่ต่างๆเองก็ดีทั้งในออนไลน์ และออนกราวด์ เรามีแต่เดินหน้าบอกเรื่องราวต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ที่เป็นสิ่งที่เราได้บอกกล่าวไปตั้งแต่วันแรก ฉะนั้นไม่ว่าจะทำโพลกี่ครั้ง คะแนนนิยมของเราที่เพิ่มขึ้น มีการรับรู้ มีจำนวนประชาชนที่เข้าใจเพิ่มมากขึ้น บางคนอาจยังเข้าใจนโยบาย หรือแนวทางการทำงานของพรรคที่คลาดเคลื่อน ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง คือการทำความเข้าใจ พูดคุยกับพี่น้องประชาชน


ที่มา : https://www.matichon.co.th/election66/news_3939532

‘ก้าวไกล’ ยืนยัน!! ส.ส.อยู่ครบ ไม่มีใครถูกซื้อเสียงโหวต ‘บิ๊กป้อม’ ชี้!! ได้บทเรียนแล้ว หากเป็นงูเห่าสอบตกยกแผง

(17 ก.ค. 66) ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กรุงเทพฯ รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีกระแสข่าวการซื้อ ส.ส. พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยรวม 50 คน เพื่อเตรียมโหวตให้รัฐบาลเสียงข้างน้อยที่เสนอ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกรัฐมนตรีว่า ขอยืนยันว่า ส.ส. ก้าวไกลอยู่ครบ ไม่มีใครถูกซื้อแน่นอน ครั้งที่แล้วประชาชนลงโทษ ส.ส. งูเห่าทุกคนสอบตกหมด คะแนนต่ำพันก็มี ทุกพรรคเห็นตัวอย่างกันดีอยู่แล้วว่าการทรยศต่อประชาชน ผลออกมาเป็นอย่างไร ส่วนเรื่องการเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตรแข่งนั้น ขอพรรคเพื่อไทยอย่ากังวล ประชาชนจะกังวลไปด้วย เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้ด้วยเหตุผล 3 ข้อ

ข้อแรก ภายใน ส.ว. เองก็ไม่ได้มีเอกภาพ แม้ส่วนใหญ่จะไม่โหวตให้พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกฯ แต่ก็ไม่ได้หมายความทุกคนจะโหวตให้ พล.อ.ประวิตร ข้อสอง พรรคฝั่งรัฐบาลเดิมก็ไม่ได้เป็นเอกภาพ ว่าใครจะเป็นนายกฯ ถ้ามีการเสนอแข่ง ยังแย่งชิงกันอยู่ และข้อสาม สำคัญที่สุด แม้ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยได้ แต่ก็บริหารไม่ได้ ดังนั้น ถ้า 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลในปัจจุบันยังจับมือกันเหนียวแน่น แผนนี้ก็ไม่มีวันสำเร็จ

ส่วนกรณีที่มีการระบุว่าพรรคก้าวไกลสนใจแต่วาระทางการเมือง ไม่สนใจวาระประชาชน ความเดือดร้อนประชาชนต้องมาก่อนวาระการเมือง มัวลากยาวสู้ใน 2 สมรภูมิตามที่ประกาศเพียงจะทำเรื่องเชิงสัญลักษณ์นั้น ณัฐชากล่าวว่า พรรคก้าวไกลออกโรดแมปมาให้ประชาชนเห็นชัดๆ แล้วว่าเรามีแผนการอย่างไร จะสู้ในสองสมรภูมิ ซึ่งมีกรอบเวลาชัดเจนทั้งสองสมรภูมิ สมรภูมิโหวตนายกฯ ถ้าวันที่ 19 กรกฎาคม คะแนนโหวตนายกฯ รอบ 2 ยังห่างจาก 376 ก็เป็นอันจบ รอสมรภูมิต่อไปคือการยกเลิกมาตรา 272 ซึ่งต้องเข้าสภาฯ ภายใน 15 วันหลังยื่นร่าง คือภายในวันที่ 29 กรกฎาคมนี้ และถ้าผลออกมาคือร่างตก ก็จบเช่นกัน เรายอมถอยให้เพื่อไทยตั้งรัฐบาล พิธาเองก็ประกาศไปแล้วว่าถ้าไปต่อไม่ได้จริง ๆ ก็จะถอย เปิดโอกาสให้ประเทศ เพราะเวลาเรามีจำกัด จะลากไปเรื่อย ๆ ไม่ได้ เราคงไม่สามารถพูดชัดได้กว่านี้อีกแล้ว

ส่วนการที่บอกว่า มัวแต่สู้เชิงสัญลักษณ์ ทั้งที่รู้ว่าแพ้ เรื่องนี้พรรคก้าวไกลยืนยันว่าเรามีภารกิจต้องรับผิดชอบต่อประชาชนในฐานะพรรคอันดับหนึ่ง ถ้าสู้เหยาะ ๆ แหยะ ๆ ก็เท่ากับบอกประชาชนว่าเรายอมรับกฎที่อยุติธรรมและความผิดปกติในประเทศนี้ เราเป็นพรรคการเมือง เป็นผู้แทนราษฎร ต้องพิทักษ์เสียงของประชาชนอย่างดีที่สุด ไม่ใช่ปล่อยให้เขาเอาไปทิ้งน้ำ ต้องสู้ถึงที่สุดก่อน เพื่อให้สมกับความไว้วางใจที่ประชาชนมอบให้


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top