Tuesday, 14 May 2024
ชาบู

ขัดตาชาวพุทธ!! ‘พระพยอม’ ติงร้านชาบู ใช้บาตรพระเป็นหม้อจุ่ม ชี้! ไม่เหมาะสม ควรเคารพสัญลักษณ์ศาสนา

จากคลิปไวรัลที่ตกเป็นที่สนใจของผู้คนในแอพพลิเคชั่น TikTok หลังมีร้านชาบูแห่งหนึ่งนำบาตรที่พระสงฆ์ใช้บิณฑบาต มาดัดแปลงเป็นหม้อจุ่มอาหาร จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องความเหมาะสม

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจร้านไม่หมูก็เนื้อชาบู ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ซึ่งนายคุณาทิป คินิพันธ์ อายุ 28 ปี, นายคิรินท์ ร.ฤทธิ์บุญ อายุ 28 ปี และนายณัฐพล อ้นอินทร์ อายุ 28 ปี ซึ่งทั้งหมดเป็นเจ้าของร้านที่ร่วมหุ้นกันเปิดร้านชาบูแห่งนี้

นายคุณาทิป คินิพันธ์ หนึ่งในหุ้นส่วนร้าน กล่าวว่า ร้านชาบูแห่งนี้ได้เริ่มต้นเปิดให้บริการมาตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา ในคอนเซ็ปต์เป็นร้านชาบูบรรยากาศแบบแคมป์ปิ้ง ซึ่งต่อมายอดขายของทางร้านได้ตกลง เนื่องจากทางวัดลาดปลาดุกได้จัดงานวัดขึ้นหลายวัน ทำให้ลูกค้าเริ่มเข้าร้านบางตา จึงได้ปรึกษากับเพื่อนๆ ว่า สงสัยร้านชาบูเราจะโดนทำของ หรือคุณไสยใส่ จึงชักชวนกันไปทำบุญที่วัด เพื่อหวังจะนำน้ำมนต์จากวัดมาปะพรมที่ร้านเพื่อแก้เคล็ด

“จนไปเห็นน้ำมนต์อยู่ในบาตรพอดี จึงเกิดไอเดียขึ้นมาว่า ถ้านำบาตรมาเป็นภาชนะแทนหม้อจุ่มชาบูก็น่าจะสร้างความแปลกใหม่ให้กับลูกค้าที่ชื่นชอบไอเดียนี้ จึงได้ไปหาซื้อบาตรพระมา 2 ชนิดคือ บาตรดำแบบทั่วไป และบาตรแบบสแตนเลส ซึ่งมีมาตรฐานเดียวกับภาชนะทำอาหารทั่วไปมาทดลองทำคอนเทนต์ดู”

นายคุณาทิป กล่าวว่า ปรากฎว่าระหว่างที่ทดลองทำคอนเทนต์ เพื่อลงคลิปในโซเซียล หม้อแบบสแตนเลสที่นำมาทดลองใช้เป็นภาชนะแทนหม้อจุ่มชาบูถ่ายภาพออกมาแล้วดูไม่สวย เพราะมีลักษณะเหมือนภาชนะหุงต้มทั่วไป จึงได้นำบาตรดำมาทดลองถ่ายทำคอนเทนต์แทน ปรากฎว่า ภาพออกมาสวยตามคอนเซ็ปต์ที่ตนกับเพื่อนๆ ต้องการ จึงได้ถ่ายคลิปกับภาพประกอบ และนำเนื้อหมูมาทดลองจุ่มดูเท่านั้น ไม่ได้มีการเสิร์ฟให้กับลูกค้าในร้านจริง ๆ อย่างที่ผู้คนในโซเซียลสงสัย เพราะตนก็ทราบดีว่าบาตรพระแบบรมดำ หรือเคลือบดำนั้นหากถูกความร้อนจะมีสารที่ไม่ปลอดภัยในการบริโภคปะปนออกมา จึงไม่ได้นำบาตรดำมาเสิร์ฟให้ลูกค้าเลย แต่หากมีลูกค้าต้องการใช้บาตรเป็นภาชนะสำหรับจุ่มอาหารจริง ๆ ทางร้านตนก็จะใช้บาตรสแตนเลส ซึ่งเป็นวัสดุที่ปลอดภัยเกรดเดียวกับภาชนะหึงต้มทั่วไปมาเสิร์ฟให้ลูกค้าแทน

แค่คอนเทนต์!! ‘เจ้าของร้านชาบู’ แจงหลังทัวร์ลง ปมใช้บาตรเป็นหม้อจุ่ม เผยแค่นำมาถ่ายรูปสร้างกระแส ไม่ได้นำใส่อาหารจริง

(9 มี.ค. 66) จากกรณีผู้ใช้ติ๊กต็อกรายหนึ่ง โพสต์คลิปใช้บาตรพระทำหม้อชาบู จนกลายเป็นไวรัลที่ถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันถึงเรื่องความเหมาะสม และสุขอนามัยสำหรับภาชนะที่ใส่อาหาร 

เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 8 มี.ค. 66 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ร้าน ‘ไม่หมูก็เนื้อ’ ตั้งอยู่บริเวณคลองถนน ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เพื่อสอบถามถึงที่มาของคลิปไวรัลในติ๊กต็อกที่นำบาตรพระมาใช้แทนภาชนะหม้อชาบู โดยผู้สื่อข่าวได้พบนายคิรินท์ ร.ฤทธิ์บุญ อายุ 28 ปี นายคณาทิพย์ คิริพันธุ์ อายุ 28 ปี และนายณัฐพล อ้นอินทร์ อายุ 28 ปี ทั้ง 3 คนเป็นเจ้าของร้านและหุ้นส่วนร้าน ‘ไม่หมูก็เนื้อ’ ที่เปิดมาเกือบ 3 เดือน 

นายคิรินท์ (ผมหยิก) กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนเป็นพนักงานประจำทำงานเกี่ยวกับ interior design ออกแบบภายใน ร้านทั้งหมดได้ไอเดียจากทุกคนที่ตั้งใจอยากจะเปิดร้านหมูกระทะด้วยกัน การออกแบบทั้งหมดก็ช่วยกันแต่ตนจะเป็นเมนหลักของเรื่องการออกแบบขึ้นมา ทางร้านเปิดมาได้ประมาณเกือบ 3 เดือน (ตั้งแต่ 16 ธ.ค. 65) มีเมนูอาหารตามชื่อร้านเลยคือ ‘ไม่หมูก็เนื้อ’ มีทั้งเมนูเซ็ตหมู เมนูเซ็ตเนื้อ สามารถทานได้ทั้งแบบชาบู หมูกระทะปิ้งย่าง ซิกเนเจอร์ของร้านเลยคือเมนูเซ็ตเนื้อ เพราะเนื้อของทางร้านเป็นเนื้อนำเข้าจาก U.S.A. วากิวสำหรับคอเนื้อโดยเฉพาะ

ส่วนไอเดียเรื่องบาตรพระคือพวกตนไปเที่ยวงานวัดมาแล้วเจอจุดทำบุญ มีบาตรพระ เลยเกิดไอเดียเพื่อนำมาสร้างคอนเทนต์ให้กับร้านเท่านั้น ลูกค้าที่ไม่อยากทานแบบเซ็ตหมูหรือเนื้อ ก็สามารถสั่งเป็นแบบถาด เช่น หมูสามชั้นสไลด์ สันคอหมู สันนอกหมู น้ำจิ้มรสเด็ด มีดนตรีสดทุกวัน อยากให้ทุกคนมาชิมอาหารอร่อยและมาฟังเพลงเพราะๆ กับบรรยากาศสบายๆด้วยกัน 

หากใครสนใจมาลิ้มลองความอร่อย และหม้อชาบูไอเดียเก๋ๆ สามารถเดินทางมาได้ที่ร้าน “ไม่หมูก็เนื้อ” ทางร้านเปิดบริการทุกวัน (ไม่มีวันหยุด) ตั้งแต่เวลา 17.00-23.30 น. โดยสามารถติดต่อผ่านเพจร้าน “ไม่หมูก็เนื้อ” และติ๊กต็อก “Maimookornuer” การเดินทางมาที่ร้านสามารถดูโลเคชั่นได้ตาม Google Map เลย https://g.co/kgs/WQSsde หรือขับรถมาบริเวณเลียบคลองบางไผ่ เข้าทางวัดลาดปลาดุก เลยโรงเรียนกสินธรเซนต์ปีเตอร์มานิดนึง อยู่ด้านขวามือ หรือติดต่อได้ที่เบอร์ 091-499-1694 

‘4 หนุ่ม’ วงแตก!! แก๊สกระป๋องหม้อไฟชาบูระเบิด รู้สึกกลัว!! แต่ในมือยังถือ ‘ถ้วย-ตะเกียบ’ แน่น

เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 66 ผู้ใช้ติ๊กต็อกที่ใช้ชื่อว่า ‘a2tuinho100991’ โพสต์คลิปวิดีโอไว้เป็นอุทาหรณ์สายชาบูทั้งหลาย เผยว่า ขณะกำลังนั่งกินชาบูหม้อไฟพร้อมกับเพื่อนรวม 4 คน แต่ความอร่อยต้องมาสะดุด เมื่อที่บริเวณใส่ขวดแก๊สเปิดออก หลังจากนั้นไม่ถึง 3 วินาที เตาระเบิดทันทีทำให้ 3 หนุ่มวิ่งหนี แต่อีก 1 หนุ่มยังอึ้งกับเหตุการณ์และที่มือยังถือถ้วยและตะเกียบไว้แน่น

โดยเจ้าของคลิป ยังระบุข้อความไว้ว่า “มองย้อนกลับไปตอนนี้ยังรู้สึกกลัวอยู่ ระวังกันด้วยนะทุกคน สบายดี”

เด็กน้อยชั้น ป.2 เก็บเงินวันละ 60 บาท เพื่อมากินชาบู เจ้าของร้านใจดีลดราคาให้ ชาวเน็ตแห่ชม-ชวนกันอุดหนุน

เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 66 โลกออนไลน์ในจังหวัดภูเก็ต ได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอน่ารักๆ โดยในคลิปเป็นเด็กนักเรียน 2 คน มานั่งรับประทานชาบูที่ร้านชาบูแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งผู้โพสต์คือ ‘Thippanat Thongrod’ ผ่านโซเชียล TikTok โดยระบุว่า…

“วันนี้ไปกินชาบูกับแฟน ไปโต๊ะแรก สักพักมีน้อง 2 คนเดินเข้ามา น้องบอกว่ามากินชาบู พี่ๆ ในร้านเห็นน้อง 2 คนตัวเล็กมาก เลยถามมีเงินคนละเท่าไร น้องบอกมีคนละ 400 บาท พี่ๆ น่าจะโทรหาเจ้าของร้าน ที่น่ารักคือ เจ้าของร้านคิดน้องแค่คนละ 200 บาท จากคนละ 289 บาท ถ้าฟังไม่ผิด แถมยังรีฟิลน้ำอัดลมอีก ซึ่งปกติราคา 289 บาท ได้แค่น้ำชามะลิ น้ำหวานแถม พี่ๆ ในร้านคือ บริการน้องดีมาก ใส่ใจดูแล คอยถามตลอด พี่ๆ ถามว่า น้องๆ เรียนอยู่ชั้นไหนแล้ว น้องบอก ป.2 เก็บเงินวันละ 60 บาท ไว้มากินชาบู #ความน่ารักของเด็กๆ #ความน่ารักของพี่ๆ #shabushabubyphuketboi น้องในคลิปและพี่ๆ พนักงานนะคะ”

จากนั้นได้มีการแชร์คลิปดังกล่าวกันไปเป็นจำนวนมาก พร้อมกับแสดงความคิดเห็น เช่น

“ร้านชาบูนี้อยู่ที่ไหน จะไปกิน”
“เจ้าของใจดีมาก”
“ร้านนี้ดีค่ะ แถมพนักงานน่ารักมากกกกก บริการดียิ้มแย้มแจ่มใส”
“ร้านนี้เถ้าแก่ใจดีอยู่แล้วครับ เพราะว่าผมไปกินบ่อย”
“เด็กๆ รู้จักอดออม เจ้าของร้านก็มีน้ำใจ น่าชื่นชมทั้งคู่เลยค่ะ”

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ไปยังร้านชาบูดังกล่าว ชื่อร้าน ‘ชาบูชาบู’ ตั้งอยู่ตรงข้ามคริสต์จักร ถนนเจ้าฟ้าตะวันออก ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นบุฟเฟ่ชาบู โดยเจ้าของร้านชื่อ ‘คุณนิ่ม’ เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ตอนนั้นกำลังไปซื้อของเข้าร้านเพิ่มเติม จากนั้น น้องๆ ที่ร้านได้โทรมาแจ้งว่า มีน้องๆนักเรียนมาทานชาบู แต่มีเงินคนละ 200 บาท โดยทั้งสองคนเก็บเงินกันวันละ 60 บาท เพื่อมาทาน ตนเองจึงลดราคาให้จาก 289 เหลือคนละ 200 บาท แถมน้ำฟรีตลอด จนกระทั่งมาเห็นคลิปที่มีลูกค้าถ่ายไว้ รู้สึกปลื้มใจที่น้องๆ อุตส่าห์เก็บออมเงินกันมาทานชาบู

‘หม่าล่า’ เครื่องเทศเผ็ดร้อนสไตล์จีน อร่อยถูกปากคนไทย ฟีเวอร์จนขึ้นแท่นสุดยอดเมนูฮอตฮิต ติดชาร์ตทุกโซเชียล

กระแสความนิยม ‘หม่าล่า’ เครื่องเทศรสเผ็ดชาจากจีน ทำให้แบรนด์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านสุกี้ ขนมขบเคี้ยว พิซซ่า ในไทย หยิบ ‘หม่าล่า’ มาสร้างสรรค์เป็นเมนูเสิร์ฟให้กับกลุ่มลูกค้ากันอย่างต่อเนื่อง ด้วยรสชาติที่มีลักษณะเฉพาะตัวและเป็นเอกลักษณ์ ประกอบกับคนไทยชอบทานรสเผ็ดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และที่สำคัญแบรนด์ต่าง ๆ ในไทยฟัง ‘เสียงผู้บริโภค’ ในโลกสังคมออนไลน์หรือโซเชียลมีเดียอย่างใกล้ชิด ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ว่า ทำไมหม่าล่าหม้อไฟ และหม่าล่าสายพานถึงเป็นเมนูยอดนิยมของเหล่าหม่าล่าเลิฟเวอร์

จากการเก็บข้อมูลผ่านเครื่องมือ DXT360 เพื่อฟังเสียงในสังคมออนไลน์ (Social Listening) ที่มีการพูดถึงหม่าล่า ระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม – 11 กันยายน 2566 พบว่า สังคมออนไลน์ หรือ โซเชียลมีเดียมีการพูดถึงหม่าล่ามากถึง 3,697 ข้อความ และ มี Engagement ทั้งหมดจำนวน 315,561 ครั้ง โดยแบ่งได้ดังนี้

- Twitter มีการพูดถึง 2,691 ข้อความ มีจำนวน Engagement 4,875 ครั้ง
- Facebook มีการพูดถึง 455 ข้อความ มีจำนวน Engagement 175,225 ครั้ง
- Instagram มีการพูดถึง 281 ข้อความ มีจำนวน Engagement 95,804ครั้ง
- YouTube มีการพูดถึง 270 ข้อความ มีจำนวน Engagement 39,657 ครั้ง

ทำไมเมนู ‘หม่าล่า’ ถึงเป็นที่นิยม?
ในช่วงปีนี้กระแส ‘หม่าล่าชาบู’ หรือ ‘หม่าล่าสายพาน’ ในประเทศไทยมาแรงมาก ซึ่งหม่าล่าฟีเวอร์นั้นก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วในช่วงปี 2018 แต่ในปีนั้นเมนูที่ได้รับความนิยมจะเป็น ‘หม่าล่าปิ้งย่างเสียบไม้’ ที่เรามองไปทางไหนก็จะเห็นแต่ร้านที่ขายเมนูนี้ ซึ่งในช่วงนั้นจุดเริ่มต้นกระแสหม่าล่าก็ได้เกิดขึ้น

โดยร้านที่ปลุกกระแสหม่าล่าฟีเวอร์นั่นก็คือ ‘Hai Di Lao’ ร้านหม่าล่าหม้อไฟชื่อดังจากประเทศจีนที่เข้ามาเปิดสาขาที่ประเทศไทย ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีตั้งแต่วันแรกที่เปิดร้าน  และจากการเข้ามาของร้าน Hai Di Lao ทำให้ตลาดร้านอาหารในประเทศไทยมีเมนูที่นำหม่าล่าเข้ามาเป็นส่วนประกอบและก็ยังมีร้านหม่าล่าหม้อไฟใหม่ ๆ เข้ามาลงเล่นในตลาดอีกด้วย

‘จีน’ เปิดประสบการณ์ดูหนังแบบใหม่ เปลี่ยนป๊อปคอร์นเป็น ‘ชาบู’ กินไป ดูไป อร่อยแบบฟินๆ สะเทือนวงการโรงหนัง คนสนใจเพียบ!!

เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 66 เกิดกระแสไวรัลที่ได้รับความสนใจอย่างมาก ในประเทศจีน หลังเว็บ Weibo ได้เผยภาพโรงภาพยนตร์แห่งหนึ่งในจีน ซึ่งสิ่งที่พีค คือ บริเวณโซนที่นั่งที่โซฟาแต่ละจุด จะมีโต๊ะและเซตหม้อไฟชาบู รวมไปถึงวัตถุดิบต่าง ๆ ตั้งอยู่ตรงหน้า โดยมีการระบุข้อความว่า “คุณสามารถกินชาบูในโรงหนังที่ประเทศจีนได้แล้ว”

อย่างไรก็ดี โดยปกติในโรงหนัง เราจะกินป๊อปคอร์นกับน้ำดื่มเวลาดูหนัง แต่ครั้งนี้เล่นเสิร์ฟชาบูให้ได้อิ่มท้องระหว่างดูหนัง ส่งให้งานนี้คอหนัง – สายกินทั้งหลายถูกใจ พากันแชร์ภาพโรงหนัง ที่เปิดให้ลูกค้า ‘ดูหนังไป กินชาบูไป’ ได้ด้วย พร้อมอยากเปิดประสบการณ์ใหม่นี้กันล้นหลาม

‘สุกี้ตี๋น้อย’ ถอด ‘น้ำซุปกระดูกหมูทงคตสึ’ ออกจากเมนู ขอปรับสูตรใหม่ และจะกลับมาพร้อมรสชาติที่ดียิ่งขึ้น

เรียกว่าเป็นประเด็นในช่วงที่ผ่านมาพอควร สำหรับ ‘สุกี้ตี๋น้อย’ หนึ่งในบุฟเฟต์ยอดฮิตของคนทุกกลุ่มวัย หลังจากทางแบรนด์ได้ผุด ‘น้ำซุปกระดูกหมูทงคัตสึ’ ออกมา เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้ลูกค้า แต่ดูเหมือนว่ารสชาติจะไม่เป็นทางถูกปากเท่าไหร่นัก

ล่าสุด (28 พ.ย. 66) เพจ ‘สุกี้ตี๋น้อย’ ได้ออกแถลงข้อความถึงประเด็นดังกล่าว โดยระบุข้อความดังนี้

เรียน ผู้มีอุปการคุณทุกท่าน

เนื่องจากทางร้านสุกี้ตี๋น้อยได้รับข้อติชมในเรื่อง ‘น้ำซุปกระดูกหมูทงคตสึ’ เข้ามา จึงขอยุติการเสิร์ฟก่อนกำหนด จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 29 พ.ย. 2566 เป็นสิ้นสุดทันที

โดยทางร้าน สุกี้ตี๋น้อย ขอนำข้อติชมนี้ไปพัฒนาปรับปรุงสูตรน้ำซุปกระดูกหมูทงคตสึ ให้ดียิ่งขึ้น และจะนำกลับมาใหม่ภายในเดือน ธ.ค. 2566 สุกี้ตี๋น้อย ขออภัยในความไม่สะดวก


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top