Tuesday, 7 May 2024
ข้าว

ครม.เตรียมเคาะโครงการประกันรายได้ “ข้าว มัน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์”

การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 25 ตุลาคม 2564 ที่ประชุมเตรียมพิจารณาข้อเสนอของหน่วยงานต่าง ๆ โดยกระทรวงพาณิชย์เสนอโครงการประกันรายได้เกษตรกร ซึ่งจะครอบคลุมพืชสำคัญทั้ง 3 ชนิด คือ ข้าว มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รวมไปถึงมาตรการคู่ขนานเพื่อจะช่วยรักษาเสถียรภาพของราคาพืชแต่ละชนิดเอาไว้ แยกเป็น โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 รอบที่ 1 มีกรอบวงเงินที่ผ่านการเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) วงเงิน 89,402 ล้านบาท กำหนดเป้าหมายเกษตรกร ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร 4.689 ล้านครัวเรือน 

ทั้งนี้ได้กำหนดราคาและปริมาณประกันรายได้ คือ ราคาความชื้นไม่เกิน 15% ไม่เกินครัวเรือนละ 40 ไร่ยกเว้นข้าวเจ้า ไม่เกิน 50 ไร่ โดยชดเชยเป็นจำนวนตันในแต่ละชนิดข้าว คือ ข้าวเปลือกหอมมะลิ 15,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ 14,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน ข้าวเปลือกเจ้า 10,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ตัน ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี 11,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ตัน และข้าวเปลือกเหนียว 12,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน  

ส่วนการประกันรายได้ประกันรายได้มันสำปะหลัง ปีการผลิต 2564/65 มีวงเงิน 6,811 ล้านบาท โดยรัฐบาลรับประกันรายได้ มันสำปะหลังที่กิโลกรัมละ 2.50 บาท แต่ไม่เกิน 100 ตันต่อครัวเรือน และไม่ซ้ำแปลง คาดว่า จะช่วยดูแลเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังกว่า 520,000 ครัวเรือนทั่วประเทศ และมาตรการคู่ขนาน 4 โครงการ คือ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกมันสำปะหลัง โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมมันสำปะหลังและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร โครงการชดเชยดอกเบี้ยในการเก็บสต็อกมันสำปะหลัง และโครงการเพิ่มศักยภาพการแปรรูปมันสำปะหลัง

ประเมินน้ำท่วมสูญ 1.6 ล้านไร่ เสียหาย 5,400 ล้าน

ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยฯ ประเมินผลผลิตข้าวที่เสียหายจริงหลังจากได้รับผลกระทบจากอุทกภัย อยู่ที่ประมาณ 1.6 ล้านไร่ คิดเป็นเพียง 2.3% ของพื้นที่ปลูกข้าวทั้งประเทศ และคิดเป็นมูลค่าความเสียหายรวมประมาณ 5,400 ล้านบาท โดยผลผลิตข้าวที่ได้รับเสียหายส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่จังหวัด นครราชสีมา นครสวรรค์ ชัยภูมิ ศรีสะเกษ และพิจิตร เนื่องจากมีน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน

สำหรับผลกระทบจากอุทกภัยในปี 2564 ส่งผลเสียหายน้อยเมื่อเทียบกับมหาอุทกภัยในปี 2554 และปัญหาภัยแล้งในปี 2558 โดยอุทกภัยปี 2554 มีพื้นที่เพาะปลูกข้าวที่ได้รับความเสียหายจริงอยู่ที่ 11.2 ล้านไร่ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายรวมถึง 43,600 พันล้านบาท ขณะที่ภัยแล้งในปี 2558 มีพื้นที่เพาะปลูกข้าวที่ได้รับความเสียหายจริงอยู่ที่  2.9 ล้านไร่ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายรวมประมาณ 10,500 ล้านบาท

ราเมศ แจ้ง ข่าวดี “จุรินทร์” จ่ายเงินส่วนต่าง “ประกันรายได้” เกษตรกร ข้าว ยาง พรุ่งนี้ 9 ธ.ค.

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงการจ่ายเงินส่วนต่าง โครงการประกันรายได้ว่า

ในส่วนของเงินส่วนต่างของนโยบายประกันรายได้ข้าว ซึ่งมีการจ่ายไปแล้ว 3 งวด ส่วนงวดที่จะจ่ายจากนี้ไปคืองวดที่ 3 ส่วนที่เหลือและงวดที่ 4-7 รวม 5 งวดเป็นเงินประมาณ 64,000 ล้านบาท จะจ่ายวันที่ 9 -13 ธ.ค. รวมทั้งหมดที่เกษตรกรทั้งหมดในโครงการประกันรายได้จะได้รับคือประมาณ 87,000 ล้านบาท 

ในส่วนของเงินส่วนต่างของนโยบายประกันรายได้ยางพารา จะมีการโอนเงินส่วนต่างยางพาราจะได้รับพร้อมกันกับพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกข้าว 2 งวด เกษตรกรยางพาราจะได้รับงบประมาณ 1,400 ล้านบาทเช่นกัน

นายราเมศ กล่าวต่อว่า ขอให้เกษตรกรมั่นใจว่าในส่วนนโยบายประกันรายได้ของพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญในการเข้าร่วมรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ขับเคลื่อนอย่างเต็มที่เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อพี่น้องเกษตรกรมากที่สุด และที่สำคัญนายจุรินทร์ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในความเป็นอยู่ของพี่น้องเกษตรกร จึงร่วมทำงานอย่างใกล้ชิดกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

'เฉลิมชัย' เดินหน้าพัฒนาเกษตรอีสาน มอบ 'อลงกรณ์' คิกออฟงานวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ

'เฉลิมชัย' เดินหน้าพัฒนาเกษตรอีสานมอบ 'อลงกรณ์' คิกออฟงานวันข้าวและชาวนาแห่งชาติโชว์เทคโนโลยีอัจฉริยะและนวัตกรรมลดต้นทุนการผลิต เพิ่มศักยภาพชาวนาวิถีใหม่พร้อมมอบที่ทำกิน สปก.กว่า 200 ครัวเรือน

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานรณรงค์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตข้าวระดับเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องในวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ ประจำปี 2565 ภายใต้แนวคิดงาน “๙๐ พรรษา ชาวนาวิถีใหม่ ๙ ไกลด้วยพระบารมี” ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 - 25 มิถุนายน 2565 โดยมีนางสาวนนทิชา วรรณสว่าง รองอธิบดีกรมการข้าว นายกฤษ อุตตมะเวทิน รองอธิบดีกรมการข้าว นายทินกร อ่อนประทุม นายณฐกร สุวรรณธาดา คณะทำงานที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ.และผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ เข้าร่วม ณ ศูนย์วิจัยข้าวอุบลราชธานี ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมการข้าว จัดงานดังกล่าวขึ้นเพื่อเป็นการเผยแพร่องค์ความรู้ด้านข้าวแก่ชาวนาและผู้สนใจทั่วไป นำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมในการผลิตข้าว รวมถึงผลงานของกรมการข้าวด้านอื่น ๆ ที่ดำเนินการในรอบปีที่ผ่านมา โดยให้ความสำคัญด้านการวางแผนการผลิต ระบบการผลิต และการบริหารจัดการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ซึ่งจะนำไปสู่ความมั่นคงแก่ชาวนา รวมทั้งเป็นการเชิดชูเกียรติ และสร้างขวัญกำลังใจให้กับชาวนา ในฐานะผู้ผลิตอาหารหลักให้กับประชาชนทั้งประเทศ นอกจากนี้ ยังเป็นช่องทางให้ชาวนาได้แลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็น และประสบการณ์กับหน่วยงานราชการ เอกชน และชาวนาด้วยกัน

“การจัดงานรณรงค์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตข้าวฯ ถือเป็นการแสดงวัฒนธรรมด้านข้าว ภูมิปัญญาท้องถิ่น และเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อสร้างการเรียนรู้ของเกษตรกรและเจ้าหน้าที่ เกษตรกรสามารถปรับเปลี่ยนวิธีการผลิตข้าวให้เหมาะสม ทำให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด ซึ่งจะเป็นแนวทางหนึ่งในการที่จะเพิ่มศักยภาพการผลิตข้าวของชาวนาให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ตามหลักการพึ่งพาตนเอง และทำให้อาชีพการทำนามีความยั่งยืน ก่อให้เกิดความมั่นคงแก่เกษตรกรต่อไป” นายอลงกรณ์ กล่าว

'จุรินทร์' โชว์วิชั่นกลางวงผู้นำเข้าข้าวโลกกว่า 1,000 ราย ดันข้าวไทยเป็นแหล่งผลิตแปรรูป-ส่งออก สร้างความมั่นคงทางอาหารคุณภาพโลก พร้อมย้ำ!ไทยส่งเสริมการค้าข้าวเสรีทั้งตลาดในและต่างประเทศ

(16 พ.ย.65) เวลา 10.30 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมประชุมและกล่าวปาฐกถาพิเศษการประชุมข้าวโลก ครั้งที่ 14 (14th World Rice Conference) พร้อมด้วย Mr.Jeremy Zwinger ประธานกรรมการบริหารนิตยสาร The Rice Trader นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยและผู้ประกอบการค้าข้าวทั้งในและต่างประเทศ ที่โรงแรมดวงจิตต์ รีสอร์ท แอนด์ สปา จังหวัดภูเก็ต โดยในงานนายจุรินทร์ได้กล่าวว่า ขอบคุณ Mr.Jeremy Zwinger และนิตยสาร The Rice Trader ที่ให้เกียรติกับประเทศไทยเป็นครั้งที่ 3  เพราะเคยจัดที่ไทยมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกที่จังหวัดเชียงใหม่ปี 2016 ครั้งที่สองที่จังหวัดภูเก็ตปี 2010 และครั้งนี้ครั้งที่สาม 2022 จังหวัดภูเก็ตเป็นเกาะเชื่อมกับจังหวัดพังงา ซึ่งเป็นเขตเลือกตั้งของตน การที่มาจัดการประชุมข้าวโลกที่ภูเก็ต หวังว่าทุกท่านจะได้มีโอกาสข้ามสะพานท้าวเทพกระษัตรีไปยังจังหวัดพังงาและจังหวัดอื่นในอันดามัน ทั้งภูเก็ตและกระบี่ ขอต้อนรับผู้ประกอบการข้าวจากทั่วโลกที่ได้มีโอกาสมาเยือนภูเก็ต

สำหรับสถานการณ์ข้าว ถือเป็นธัญพืชที่เพาะปลูกมากเป็นลำดับ 3 ของโลก รองจากข้าวโพด และข้าวสาลี ภูมิภาคที่บริโภคข้าวมากที่สุดในโลกคือทวีปเอเชีย มากกว่า 90% ของผลผลิตทั้งโลก ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์พบว่าปีนี้ 2022  ความต้องการข้าวโลกจะมากขึ้นประมาณ 3.5% เทียบจากปีที่แล้วที่ 517 ล้านตัน สูงสุดในรอบ 10 ปี เพราะปัญหาความวิตกกังวลเรื่องความมั่นคงทางอาหารจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน เศรษฐกิจโลกและความเปลี่ยนแปลงทางด้านภูมิอากาศ ส่งผลให้หลายประเทศที่เป็นผู้นำเข้าข้าวหันมาปลูกข้าวเพิ่มขึ้น เช่น อินโดนีเซียเซเนกัล ออสเตรเลีย ทั้งที่เป็นผู้นำข้าวมาก่อน ทำให้เกิดการแข่งขันด้านการตลาดข้าวรุนแรงตามไปด้วย

สำหรับประเทศไทย ถือเป็นประเทศที่ผลิตข้าวรายสำคัญของโลกปีนี้ ประเทศไทยผลิตข้าวเป็นลำดับ 4 ของโลก ประเทศที่ผลิตมากที่สุดในโลกคือ จีน 147 ล้านตัน อินเดีย 124 ล้านตัน เวียดนาม 27 ล้านตันและไทยผลิตได้ 20 ล้านตัน สำหรับการส่งออก 9 เดือนแรกของปีนี้ ม.ค.-ก.ย.ประเทศไทยส่งออกข้าวแล้ว 2,796 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 35.5% ปีที่แล้วส่งออกได้ 6.1 ล้านตัน ปีนี้คาดว่าจะส่งออกได้ถึง 7.5 ล้านตันโดยประมาณ  ด้านคุณภาพในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะตัวแทนรัฐบาลไทย ขอยืนยันว่าข้าวไทยเป็นข้าวที่มีคุณภาพดีที่สุดในโลกชนิดหนึ่งหรือประเทศหนึ่ง ดูจากผลการประกวดข้าวโลกของนิตยสาร The Rice Trader ซึ่งจัดมา 13 ครั้งประเทศไทยได้แชมป์ข้าวโลกถึง 7 ครั้ง เกินกว่าครึ่งหนึ่งของการจัดประกวด คือเครื่องการันตีว่าข้าวไทยเป็นข้าวที่มีคุณภาพมากที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง สำหรับนโยบายของรัฐบาลไทย 1. ประเทศไทยมียุทธศาสตร์ข้าวไทย ว่า 5 ปีตั้งแต่ปี 2020-2024 มีเป้าหมายสำคัญทำให้ประเทศไทยเป็นผู้นำด้านการผลิตด้าน การตลาดและด้านผลิตภัณฑ์ข้าวที่มีคุณภาพของโลกใช้ยุทธศาสตร์ 'ตลาดนำการผลิต' เพื่อสนองความต้องการของตลาดโลก กำหนดเป้าหมายแต่ละด้านชัดเจน เช่น ภายใน 5 ปี จะเพิ่มพันธุ์ข้าวใหม่ให้ได้อย่างน้อย 12 พันธุ์ วันนี้ปี 2022 มีข้าวพันธุ์ใหม่ที่ได้รับการรับรองแล้ว 6 พันธุ์ และคาดว่าไม่เกินปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า จะได้ข้าวพันธุ์ใหม่เพิ่มอีก 6 พันธุ์ รวมเป็น 12 พันธุ์ใหม่สนองความต้องการของตลาดโลกต่อไป 

ข้าวพันธุ์ใหม่ประกอบด้วยข้าวพื้นนุ่ม 4 พันธุ์ ข้าวพื้นแข็ง 4 พันธุ์ ข้าวหอม 2 พันธุ์ รวมทั้งข้าวคุณสมบัติพิเศษ เช่น ข้าวสี ข้าวเพื่อการบริโภค ข้าว Functional Food อีก 2 พันธุ์ วันนี้สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยกับกระทรวงพาณิชย์นำมาแสดงและให้ทุกท่านได้ชิม 2. นโยบายประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ดำเนินการมา 3 ปีเต็ม และปีนี้เป็นปีที่ 4 ปลายอายุของรัฐบาลนี้ จะหมดวาระประมาณเดือนมีนาคมปีหน้า  เมื่อวานคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเดินหน้าต่อนโยบายประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวใช้เงิน 81,200 ล้านบาท ให้ชาวนาในประเทศไทยมีรายได้เพียงพอกับการยังชีพ ถ้าราคาตกต่ำกว่ารายได้ที่ประกันจะมีเงินส่วนต่างช่วยชดเชยให้สามารถเลี้ยงชีพได้ ไม่เลิกอาชีพปลูกข้าวเพื่อทำให้ประเทศไทยมีข้าวบริโภคและเป็นส่วนหนึ่งด้านความมั่นคงทางอาหารของโลกดำรงอยู่ต่อไปได้ ด้วยฝีมือชาวนาไทยที่มีส่วนสำคัญ และทำให้ประเทศไทยเป็นครัวโลกหรือ Kitchen of the World เป็นแหล่งสำรองอาหารให้กับโลกโดยเฉพาะข้าวได้ต่อไป

‘กรมการข้าว’ เตรียมแจก ‘6 พันธุ์ข้าว’ ทรงปลูกพระราชทาน ในวันพืชมงคล ปชช. ลงทะเบียนรับพันธุ์ข้าวผ่านช่องทางออนไลน์ ตั้งแต่วันนี้ - 3 พ.ค.66

28 เม.ย.66 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมการข้าว เตรียมเมล็ดพันธุ์ข้าวทรงปลูกพระราชทานทั้งหมด 6 พันธุ์ จำนวน 2,244 กิโลกรัม นำเข้าพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 16-17 พฤษภาคม 2566 และนำไปบรรจุซองพลาสติก จำนวน 400,000 ซอง เพื่อแจกจ่ายให้ผู้สนใจและชาวนาทั่วประเทศ เพื่อเป็นมิ่งขวัญและสิริมงคล 

ผู้ที่สนใจรับพันธุ์ข้าวพระราชทาน สามารถลงทะเบียนออนไลน์ได้ที่ https://rice.moac.go.th/ ตั้งแต่วันนี้ - 3 พฤษภาคม 2566 โดยสามารถรับพันธุ์ข้าวได้ตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม - 16 มิถุนายน 2566 ณ จุดที่ลงทะเบียนไว้ โดยกรุงเทพมหานครรับเมล็ดพันธุ์ข้าวพระราชทานที่ อาคารที่ทำการกรมการข้าว ชั้น 1 และส่วนต่างจังหวัด รับเมล็ดพันธุ์ข้าวพระราชทานได้ที่ สำนักงานเกษตรจังหวัดทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมการข้าว กองเมล็ดพันธุ์ข้าวที่เบอร์โทรศัพท์ 02-561-3794 และศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวทั้ง 29 แห่ง ศูนย์วิจัยข้าวทั้ง 27 แห่ง และสถาบันวิทยาศาสตร์ข้าวแห่งชาติ จังหวัดสุพรรณบุรี 

‘เศรษฐา’ ลั่น!! พร้อมยกราคาข้าวให้สูงขึ้นเทียบ ‘รบ.ยิ่งลักษณ์’ หนุนส่งออกข้าวไทยสู่เวทีโลก ปลุก ปชช.เลือก ‘พท.’ ให้ชนะขาด

(30 เม.ย. 66) พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดเวทีปราศรัยที่ศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทยและประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำพรรค, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย, นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เพื่อหาเสียงให้ผู้สมัคร ส.ส.มหาสารคาม 6 เขต ประกอบด้วย

เขต 1 นพ.กิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ เบอร์ 4
เขต 2 นายไชยวัฒนา ติณรัตน์ เบอร์ 7
เขต 3 นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร เบอร์ 9
เขต 4 นายสรรพภัญญู ศิริไปล์ เบอร์ 2
เขต 5 นายจิรวัฒน์ ศิริพานิชย์ เบอร์ 1
เขต 6 นายรัฐ คลังแสง เบอร์ 8

โดยมีประชาชนมารับฟังการปราศรัยเต็มพื้นที่แม้จะมีสายฝนโปรยปรายลงมาเป็นระยะ

นายเศรษฐา ปราศรัยว่า สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯ ราคาข้าวสูงมาก สูงกว่าที่เป็นอยู่ปัจจุบัน พี่น้องอยากให้ราคาข้าวกลับไปเป็นเหมือนเดิมหรือไม่ แน่นอนว่าราคาข้าวจะกลับมาดี ถ้าพี่น้องเลือกนายยุทธพงศ์ให้ชนะขาด ยืนยันว่าพรรค พท.จะเดินหน้าเอาข้าวไปขายทั่วโลก มีอีกหลายประเทศยังไม่รู้จักข้าวไทย ถ้าหลายประเทศสนใจ มีออเดอร์สั่งซื้อเยอะ ราคาข้าวก็จะขึ้นสูงแน่นอน พี่น้องจำไว้เลยสมัยนายกฯ ยิ่งลักษณ์ราคาข้าวดี เพราะ รมช.เกษตรฯ คือ นายยุทธพงศ์ นำมาซึ่งราคาข้าวที่เป็นที่น่าพอใจ

นอกเหนือจากราคาข้าว ปัญหาความยากจนและรายได้กลายเป็นเรื่องใหญ่ เรามีนโยบายพักต้นพักดอกให้เกษตรกร 3 ปี เราจะติมเงินให้ 2 หมื่นบาท สำหรับครอบครัวที่มีรายได้ไม่ถึง 2 หมื่นบาท ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทใน 4 ปี ปีหน้าขึ้นทันที 400 บาท นอกจากนี้ยังมีนโยบายดิจิทัล วอลเล็ต ทำพรรคคู่แข่งดิ้น ออกมาบอกว่าทำไม่ได้บ้าง ผิดกฎหมายบ้าง อย่าไปเชื่อ เราทำได้แน่นอน เงินจะเข้าสู่ระบบหลายหมื่นล้าน ไม่ต้องไปรอรัฐบาลที่ไร้หัวใจ บัตรคนจนเราไม่ยกเลิก แต่เมื่อพรรคพท.มา พี่น้องจะมีแต่ความร่ำรวย ไม่ต้องพึ่งบัตรคนจน เก็บบัตรคนจนไว้เป็นที่ระลึกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เคยให้ท่านไว้เพื่อเรียกพวกท่านว่า ‘คนจน’

‘ลูกชาวนา’ เปิดใจ!! เล่าความบอบช้ำชาวนาเมื่อปี 57 ยอมรับ!! รอดพ้นวิกฤตต่างๆ มาได้เพราะ ‘รัฐบาลลุงตู่’

(11 พ.ค. 66) ผู้งานติ๊กต็อกชื่อ ‘skincare_by_yammy’ ได้ออกมาพูดถึงเรื่องการเลือกตั้งปีนี้ และได้เปิดเผยสาเหตุในการตัดสินใจเลือกพรรคการเมืองที่ตนชื่นชอบ โดยเจ้าของช่องติ๊กต็อกดังกล่าวได้เผยว่า…

“เมื่อคืนที่ผ่านมา ได้ลงคลิปตอนที่ถามกับลูกว่าจะเลือกใครเป็นนายก แล้วลูกได้ตอบว่า “เลือกลุงตู่” ซึ่งเราก็ได้ลงคลิปไปเล่นๆ ไม่ได้คิดอะไร แต่ก็เกิดดรามาขึ้นจนได้ หลังจากมีชาวเน็ตมาแห่กันคอมเมนต์ในคลิปดังกล่าวที่เราได้โพสต์ลงไป”

เจ้าของช่องติ๊กต็อกดังกล่าวได้เล่าต่อว่า “เราเป็นคนบ้านกง จังหวัดสุโขทัย เป็นลูกชาวนาแทนๆ พ่อแม่ของเราก็เป็นชาวนา พ่อใหญ่แม่ใหญ่ของเราก็เป็นชาวนามาก่อน ซึ่งก่อนหน้านี้เราและครอบครัวก็เคยสนับสนุนพรรคการเมืองที่ดูแลในเรื่องของการทำนา การเกษตร จนได้มีจุดเปลี่ยน ในปี 2557 ที่ทำให้เราและครอบครัวได้รับผลกระทบอย่างมาก เนื่องจากเราได้ขายข้าวไป แต่ไม่ได้รับเงิน ทำให้ครอบครัวเราต้องแบกรับภาระค่าปุ๋ย ค่ายา ตลอดจนค่าจ้างในการเก็บเกี่ยวข้าวทั้งหมด เป็นเงินร่วมหลายแสนบาท ครอบครัวของเราเครียดเป็นอย่างมาก จากการต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายตรงนี้ ซึ่งใน ณ ห้วงเวลานั้น ถือเป็นวิกฤตอย่างหนักของชาวนา หากใครย้อนกลับไปมองในช่วงนั้น จะเห็นได้ว่า ‘ลุงกำนัน สุเทพ เทือกสุบรรณ’ ได้พาชาวนาไปประท้วง เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลในยุคนั้นเร่งแก้ไขปัญหานี้ให้ชาวนาโดยด่วน ซึ่งเราไม่ได้ไปร่วมเดินประท้วงด้วย แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งในคนที่ได้รับผลกระทบตรงนี้จริงๆ”

เจ้าของช่องติ๊กต็อกยังเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากเกิดการปฏิวัติ โดยกล่าวว่า “แต่หลังเกิดการปฏิวัติ ‘ลุงตู่’ ได้เข้ามาช่วยชำระหนี้สินตรงนี้ทั้งหมด ทำให้หลังจากนั้นเราได้เปลี่ยนความคิดว่า เราอยู่ได้ เพราะยึดราคาต้นทุนต่าง ๆ ตามราคาท้องตลาด หากต้นทุนไม่สูง เราก็พออยู่ได้… แต่เมื่อเกิดสงครามระหว่างประเทศยูเครนและรัสเซีย ก็ทำให้ราคาปุ๋ยและยาแพงขึ้นมากอีก ส่งผลให้ต้นทุนในการทำนาสูงขึ้น หากไม่ได้รัฐบาลยุคลุงตู่ช่วยเข้าไปเจรจา ราคาปุ๋ยในท้องตลาดของประเทศไทยก็คงจะยังราคาสูงอยู่ ตอนนี้ราคาปุ๋ยลดลงมาแล้ว ซึ่งช่วยลดต้นทุนในการทำนาเป็นอย่างมาก”

“เราเป็นคนบ้านกงแท้ ๆ เป็นคนสุโขทัยแท้ ๆ ขอยืนยันที่จะสนับสนุนลุงตู่ต่อไป เพราะเรารักสถาบันฯ เราเรียนประวัติศาสตร์มา เราอย่าให้ตัวอักษรที่ถูกบรรจงเขียนไว้ ถูกลบเลือนไป เรายินดีที่จะรักษาความมั่นคงของประเทศชาตินี้ไว้ แม้จะเป็นเพียงเศษเสี้ยวเล็ก ๆ น้อย ๆ เราก็ขอยืนยันจริง ๆ ที่จะสนับสนุนต่อไป และขอชื่นชมอีกหลาย ๆ คนที่ออกมาพูดเช่นกัน การออกมาพูดของเราในครั้งนี้ อาจจะทำให้เพื่อนลดลง ก็ไม่เป็นไรค่ะ” เจ้าของช่องติ๊กต็อก กล่าวทิ้งท้าย

‘ฟิลิปปินส์’ ได้กลายเป็นผู้นำเข้า ‘ข้าว’ รายใหญ่ที่สุดของโลกประจำปี 2023/2024

รายงานจาก Satista เผย ‘ฟิลิปปินส์’ ได้กลายเป็นผู้นำเข้า ‘ข้าว’ รายใหญ่ที่สุดของโลกประจำปี 2023/2024 โดยวัดจาก 20 ประเทศชั้นนำของโลก 🌾🌍

ทั้งนี้ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มี 4 ประเทศที่นำเข้ามากที่สุด ได้แก่…

1.) ฟิลิปปินส์ 🇵🇭 นำเข้าข้าว 3.8 ล้านตัน 
2.) อินโดนีเซีย 🇮🇩 นำเข้าข้าว 2.5 ล้านตัน 
3.) เวียดนาม 🇻🇳 นำเข้าข้าว 1.4 ล้านตัน 
และ 4.) มาเลเซีย 🇲🇾 นำเข้าข้าว 1.2 ล้านตัน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top