'Make America Great Again' (ทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง) เป็นคำขวัญที่ใช้ในการรณรงค์หาเสียงทางการเมืองของสหรัฐอเมริกาโดยนักการเมืองฟากฝั่ง Republican มีบทบาทเป็นอย่างมากในช่วงการรณรงค์หาเสียงของ Donald Trumps คำขวัญนี้เกิดขึ้นมาในปี 1979 ขณะที่สหรัฐอเมริกากำลังประสบปัญหาทางเศรษฐกิจที่เลวร้ายจากภาวะการชะงักงันทางเศรษฐกิจ เริ่มถูกใช้โดย Ronald Reagan ในช่วงการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 1980 (Let's Make America Great Again) ซึ่งในห้วงเวลานั้นเองสหรัฐอเมริกาต้องเสียหน้าจากการที่ขบวนการนักศึกษาอิหร่านบุกยึดสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงเตหะราน จับเจ้าหน้าที่การทูตสหรัฐฯ เป็นตัวประกันนาน 444 วัน และปฏิบัติการ Eagle Claw เพื่อช่วยเหลือตัวประกันชาวอเมริกันดังกล่าวประสบกับความล้มเหลว
ในปี 2012 Donald Trumps ได้นำคำขวัญนี้มาเป็นคำขวัญอันเป็นสัญลักษณ์ประจำตัว และใช้ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งในปี 2016 โดยเฉพาะการสวมหมวกที่ปักคำว่า 'Make America Great Again' แต่ Donald Trumps ไม่ได้จดทะเบียนสิทธิบัตรวลีดังกล่าวในเชิงพาณิชย์ ดังนั้น 5 สิงหาคม 2015 จึงถูก Bobby Estell หรือ Bobby Bones ผู้จัดรายการวิทยุชื่อดังยื่นขอจดทะเบียนสิทธิบัตรเพื่อใช้วลีนี้ในเชิงพาณิชย์ได้สำเร็จ และสองวันต่อมา Bones ได้ทวีตข้อความถึง Trumps โดยเสนอให้ใช้คำขวัญนี้อีกครั้งโดยแลกกับการบริจาคเงิน 100,000 ดอลลาร์ให้กับโรงพยาบาลเด็ก St Jude ต่อมา 29 ตุลาคม Estell ได้ทวีตข้อความดังกล่าวต่อด้วยภาพเช็คจากสำนักงานของ Trump ซึ่งจำนวนเงินบนเช็คไม่ได้รับการเปิดเผย และ Estell กล่าวว่า Trump สามารถ "รับคำขวัญนี้กลับมาใช้ได้แล้ว"
ในความเป็นจริงแล้ว “Make America Great Again” ไม่ใช่เพียงแค่คำขวัญของ Donald Trumps เท่านั้น แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงด้วยปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องของสหรัฐอเมริกาเอง ไม่ว่า ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาจะมาจากพรรค Republican หรือ Democrat ก็ตาม หลังจากสิ้นสุดสงครามเย็นเพราะสหภาพโซเวียตล่มสลายในเมื่อ 26 ธันวาคม 1991 ทำให้ภัยคุกคามจากลัทธิคอมมิวนิสต์หมดไปด้วย สหรัฐอเมริกาดูเหมือนจะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง แต่ในความเป็นจริงแล้วเกือบ 200 ประเทศบนโลกใบนี้ไม่ได้เห็นด้วยกับสหรัฐฯ เสมอไป สหรัฐฯ จึงต้องเผชิญกับการท้าทายจากชาติและกลุ่มที่ไม่ชอบและไม่เห็นด้วยกับสหรัฐฯ อยู่ตลอดเวลา
หลังจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สองในปี 1945 สหรัฐอเมริกากลายเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และการทหารชั้นนำของโลก และเริ่มทำหน้าที่หลักในการจัดระเบียบโลก แม้ว่าระเบียบโลกในระดับนานาชาติจะขึ้นอยู่กับความยินยอมและความร่วมมือ แต่สหรัฐฯ ได้นำเอาแนวคิด Pax Americana (สันติภาพแห่งอเมริกา) มาสู่การปฏิบัติในความพยามที่จะสร้างโลกขั้วเดียวขึ้น ด้วยการจัดระเบียบโลกโดยมีศูนย์กลางอำนาจเพียงผู้เดียวคือ สหรัฐอเมริกา ด้วยหลังจากสงครามโลกครั้งที่สองแล้ว โลกไม่มีความขัดแย้งด้วยอาวุธเกิดขึ้นระหว่างประเทศตะวันตกที่สำคัญ และไม่มีการใช้อาวุธนิวเคลียร์ในสงครามที่เปิดเผย มีองค์การสหประชาชาติเกิดขึ้นเพื่อช่วยรักษาความสัมพันธ์อันสงบสุขระหว่างประเทศต่าง ๆ และสถาปนาอำนาจยับยั้งสำหรับสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ซึ่งรวมถึงสหรัฐอเมริกาด้วย
ในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 20 สหภาพโซเวียตและมหาอำนาจของสหรัฐอเมริกาเข้าร่วมในสงครามเย็น ซึ่งสามารถมองได้ว่าเป็นการต่อสู้ระหว่างอำนาจสูงสุดเพื่อครอบครองโลก โดยหลังจากปี 1945 สหรัฐอเมริกามีสถานะที่ได้เปรียบเมื่อเทียบกับประเทศอุตสาหกรรมอื่น ๆ ในช่วงการขยายตัวทางเศรษฐกิจหลังสงครามโลกครั้งที่สอง สหรัฐฯ รับผิดชอบผลผลิตภาคอุตสาหกรรมครึ่งหนึ่งของโลก มีทองคำสำรองร้อยละ 80 ของโลก และมีอาวุธนิวเคลียร์เพียงชาติเดียวในโลก (ในขณะนั้น) หายนะจากสงครามโลกครั้งที่สองทำให้การทำลายชีวิต โครงสร้างพื้นฐาน และทุน จนลัทธิจักรวรรดินิยมของโลกเก่าทั้งผู้ชนะและผู้แพ้จบสิ้นลง สหรัฐอเมริกาซึ่งมีเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกในขณะนั้นสามารถฟื้นตัวจากสงคราม โดยแทบไม่มีโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศที่เสียหายเลย และกองกำลังทหารมีความแข็งแกร่งอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
'โลกขั้วเดียว' (Unipolar World) เป็นแนวคิดทางภูมิรัฐศาสตร์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่อธิบายสถานการณ์ที่มีประเทศมหาอำนาจเพียงประเทศเดียวที่มีอำนาจสูงสุดทั้งในด้านการทหาร เศรษฐกิจ และการเมืองเหนือประเทศอื่น ๆ ในโลก อันหมายถึงระบบระเบียบของโลกที่มีเพียงขั้วอำนาจเดียวเป็นศูนย์กลาง โดยประเทศนั้นสามารถมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจระดับโลกได้อย่างกว้างขวางและมักไม่มีประเทศใดสามารถท้าทายได้อย่างแท้จริงในระยะเวลานั้น ช่วงหลังสงครามเย็น (1991 เป็นต้นมา) หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต สหรัฐอเมริกากลายเป็นชาติที่มีอำนาจสูงสุดเพียงชาติเดียวในโลกที่ มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุด มีเทคโนโลยีล้ำหน้า กองทัพแกร่งและแทรกแซงในหลายภูมิภาค มีอิทธิพลต่อองค์กรระหว่างประเทศ เช่น UN, IMF, World Bank ฯลฯ
เพื่อรักษาสถานะ 'โลกขั้วเดียว' ให้คงอยู่ตลอดไปรัฐบาลอเมริกันไม่ว่าพรรคไหนเข้ามาเป็นฝ่ายบริหารจึงมีการดำเนินนโยบาย 'Make America Great Again' ตลอดมา ซึ่งสามารถพิจารณาจากสถานการณ์โลกที่เกิดขึ้นจริงในปัจจุบัน ได้แก่ 1. สถานการณ์ในตะวันออกกลางดังแต่ อิรัก ลิเบีย ซีเรีย และล่าสุด อิสราเอล-อิหร่าน ในสามประเทศแรกฝ่ายที่สหรัฐฯ ให้การสนับสนุนสามารถยึดกุมอำนาจการปกครองประเทศไว้เป็นส่วนใหญ่ได้แล้ว โดยเฉพาะ ซีเรีย ซึ่งรัสเซียออกตัวให้การสนับสนุนรัฐบาลเก่า แต่ก็ทำไม่ได้เต็มที่เพราะยังติดสงครามกับยูเครน 2. สงครามยูเครน-รัสเซีย ซึ่งชัดเจนว่า ยูเครนเป็นตัวแทน NATO และสหรัฐฯ ในการทำสงครามกับรัสเซีย 3. จีน-ไต้หวัน ทั้ง ๆ ที่สหรัฐฯ รับรองจีนเดียวมากว่า 50 ปีแล้ว แต่ก็ยังสนับสนุนไต้หวัน รวมทั้งการขายอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมากให้ไต้หวันด้วย ซึ่งรวมทั้งความพยายามในการปิดล้อมจีนทางยุทธศาสตร์
ปัจจุบันสหรัฐฯ มีฐานทัพอยู่นอกประเทศในหลายจุดทั่วโลกราว 750 แห่ง โดยมีจุดประสงค์หลากหลาย เช่น การสนับสนุนพันธมิตร การป้องกันผลประโยชน์ของสหรัฐฯ และการตอบสนองต่อภัยคุกคามระหว่างประเทศ ฐานทัพเหล่านี้มักตั้งอยู่ในประเทศพันธมิตรหรือประเทศที่มีข้อตกลงทางทหารกับสหรัฐฯ โดยสามารถแบ่งออกตามภูมิภาคหลักๆ ได้ดังนี้: 1. ภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก 1.1 ญี่ปุ่น เป็นฐานทัพนอกประเทศที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ 1.2 เกาหลีใต้ 1.3 กวม (Guam) ดินแดนในอาณัติของสหรัฐฯ เอง 1.4 ฟิลิปปินส์ สหรัฐฯ กลับมาใช้ฐานบางแห่งหลังปี 2014 ภายใต้ข้อตกลง EDCA 2. ยุโรป 2.1 เยอรมนี มีฐานทัพสหรัฐฯ มากที่สุดตั้งแต่ยุคสงครามเย็น 2.2 อิตาลี 2.3 สหราชอาณาจักร 3. ตะวันออกกลาง 3.1 กาตาร์ 3.2 คูเวต 3.3 บาห์เรน ฐานทัพเรือของกองเรือที่ 5 ของสหรัฐฯ 3.4 สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) 4. แอฟริกา 4.1 จิบูตี Camp Lemonnier ซึ่งเป็นฐานทัพแห่งเดียวของสหรัฐฯ ในทวีปแอฟริกา 5. อเมริกาใต้ และอื่น ๆ ซึ่งมีฐานทัพหรือสิ่งอำนวยความสะดวกขนาดเล็กในบางประเทศ เช่น โคลอมเบีย, เปรู และในทะเลแคริบเบียน (ฐานทัพ ณ อ่าวกวนตานาโมในคิวบา)
ดังนั้น 'Make America Great Again' ไม่ว่าจะเป็นยุคใดสมัยไหนของฝ่ายบริหารโดยพรรคการเมืองใดก็ตาม เพื่อรักษาสถานะ 'โลกขั้วเดียว' ให้คงอยู่ต่อไป นโยบายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จึงยังต้องมีอยู่และดำเนินต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง จนกว่ามหาชนชาวอเมริกันจะมองเห็นและเข้าใจว่า 'Make America Great Again' และสถานะ 'โลกขั้วเดียว' นั้นไม่ได้สร้างประโยชน์โภคผลอันใดแก่อเมริกันชนเลย นอกจากการถมด้วยเม็ดเงินมหาศาลและมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นนี้ปีแล้วปีเล่า อันเป็นแหล่งก่อหนี้สาธารณะจำนวนมหาศาล ซึ่งไม่รู้ว่า จะสามารถใช้ได้หมดเมื่อไร
เรื่อง: ดร.ปุณกฤษ ลลิตธนมงคล
👉ติดตามผลงาน อาจารย์ปุณกฤษ ลลิตธนมงคล เพิ่มเติมได้ที่ : https://thestatestimes.com/author/ดร.ปุณกฤษ%20ลลิตธนมงคล