Tuesday, 8 July 2025
TheStatesTimes

วัดระดับ 'มุมมอง-ความคิด-ความเก่ง' ของคนในชาติ ผ่าน 'คุณภาพ' นักการเมืองที่พวกเขาเลือกสนับสนุน

จำกันได้ไหมครับว่าไม่กี่เดือนก่อน บ้านเราเคยมีนักการเมืองที่กลิ้งกลอก และชอบโกหกเป็นอาชีพ ถูกจับได้ว่าหลอกสังคมด้วยการเอาภาพวาดที่คล้าย 'Woman with a parasol - Madam Monet and Her Son' ของ 'Monet' จิตรกรระดับโลกมาอวดอ้าง แล้วบอกว่าตนเองเป็นผู้สร้างสรรค์รูปภาพนี้ขึ้นมาเอง 

แค่เรื่องนี้เรื่องเดียว คนในชาติที่ 'คิดเป็น' และพัฒนาแล้วในเรื่องของ 'สามัญสำนึก' จะไม่มีทางสนับสนุน 'คนต้มตุ๋นสังคม' เช่นนี้ ให้ได้เป็นใหญ่เป็นโตในบ้านเมืองของตนเองเป็นอันขาด

แค่เป็นคนเดินดินธรรมดายังไม่น่าคบค้าสมาคมเลย!!

แต่ก็คงจะยกเว้นสำหรับ 'คนเบาปัญญาบางกลุ่ม' ของสังคมไทย ที่พร้อมใจกันหลับหูหลับตาสนับสนุนชายคนนี้อย่างสุดลิ่มทิ่มประตู หวังให้เป็นผู้นำในการบริหารประเทศ 

โฆษณาว่าเป็น 'คนรุ่นใหม่' นึกว่าจะชมชอบความสุจริตโปร่งใส แต่กลับมีรสนิยมชอบ 'คนต้มคน' ไปได้ ดีนะที่ประเทศนี้ยังมีพระสยามเทวาธิราช คอยเป็นเทพยดาศักดิ์สิทธิ์ที่อภิบาลรักษาประเทศไทย ให้รอดพ้นจาก 'ความเลวร้าย' ของคนจำนวนหนึ่งได้สำเร็จ

แต่ 'ตลกร้าย' เรื่องแรกยังไม่ทันจางหายไปจากการจดจำของคนที่รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ก็มีเรื่องให้คนไทยต้อง 'ยิ้มเจื่อน ๆ' โผล่มาอีกหนึ่ง นั่นคือ ลูกเศรษฐีหนีคดี อดีตเคยโกงข้อสอบจนเป็นข่าวดัง ก็ได้รับการผลักดันให้เป็นผู้นำทางการเมือง เพื่อมาบริหารประเทศชาติ 

ผมไม่ได้แปลกใจใน 'เกมเปลี่ยนตัวนอมินี' เพราะเชื่อมาตลอด ว่าได้อยู่ในแผนร้ายของผู้ชักใยมานานแล้ว ว่าคงจะไว้ใจใครไม่ได้นอกจาก 'เลือดเนื้อทึ่ม ๆ' ของตัวเอง คงมีแต่คนโง่ โลภ และใจบอดเท่านั้นที่ปล่อยให้ 'ใครก็ได้' มาเป็นใหญ่เป็นโตได้อย่างง่ายดายในประเทศที่ตัวเองบอกว่ารักยิ่งชีพ

สังคมไทยยุคนี้จึงมีแต่เรื่อง 'ตลกร้าย' โผล่มาให้คนไทย 'หัวเราะทั้งน้ำตา' รายวัน อย่าไปคิดอะไรให้มากกว่านี้เลยครับ เรามีประชาชนที่มีสติปัญญาระดับไหน เราก็จะได้เห็นนักการเมืองมีคุณภาพในระดับนั้น 

‘สาว’ จอดรถในที่คนพิการ แกล้งทำขาเป๋ แม้ตัวเองปกติ เจอชาวเน็ตแห่อวยพรสนั่น ขอให้สมหวังอย่างใจคิด

(20 ส.ค. 67) กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียล เมื่อเพจเฟซบุ๊ก อีซ้อขยี้ข่าว 3 ได้แชร์คลิปหญิงรายหนึ่ง จอดรถในที่คนพิการ ซึ่งมีป้ายติดชัดเจน และมีข้อความว่า ‘ที่จอดรถผู้ใช้รถเข็น Handicapped Parking’ โดยหญิงรายนี้ได้จอดรถกระบะแล้วเดินลงจากรถ พร้อมกับทำท่าทางเหมือนคนขาเป๋ ทั้งที่ตัวเองเป็นคนปกติ โดยคลิปดังกล่าวระบุข้อความว่า "POV : ไผสิฉลาดกว่าผู้ใหญ่" 

อย่างไรก็ตาม เพจดังกล่าวได้เขียนข้อความระบุว่า "เป็นถึงผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านก็อยากจะพิการให้ได้" ซึ่งภายหลังโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตต่างคอมเมนต์ถึงความไม่เหมาะสม อาทิ ทำคอนเทนต์ หรือทำจริงหะ จริงนะขำไม่ออกเลย, สาธุ ขอให้เป็นดั่งหวัง!, ขอให้สมปรารถนา, มันมีอยู่จริง ๆ นะคนที่คิดว่าตัวเองฉลาดในเรื่องโง่ ๆ อะ, คอนเทนต์โง่ ๆ ขยันทำกันนัก, พฤติกรรมน่ารังเกียจมากค่ะ, สาธุ ขอให้มันพิการเหมือนคอนเทนต์, ไม่ได้เรียกว่าฉลาด เรียกเห็นแก่ตัวค่ะ, เรื่องง่าย ๆ แบบนี้ยังเอารัดเอาเปรียบสังคม นี่หรือคนที่จะอาสามาดูแลชาวบ้าน, ผช.บ้านไหนนะ ชาวบ้านคงภูมิใจมาก, คนพิการแค่ร่างกาย แต่มันก็ยังสู้คนที่พิการทางสมองไม่ได้ ทำแล้วก็ให้คนอื่นถ่ายคลิป นั่นแหละคือการประจานตัวเองแท้ ๆ เป็นต้น 

‘พีระพันธุ์’ ตอบชัดปมเข้าร่วมรัฐบาล ลั่น!! ไม่อยากยืนอยู่ฝั่งเดียวกับศัตรูของชาติและสถาบัน

เมื่อไม่นานมานี้ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ตอบชัดถึงอีกปมประเด็นคำถามจากสังคมว่า ‘ทำไม รวมไทยสร้างชาติ จึงต้องเข้าร่วมรัฐบาล อย่างชัดเจน’ โดยนายพีระพันธุ์ระบุว่า…

"ในสภาไม่มีตรงกลาง ถ้าเราไม่ร่วมรัฐบาล เขาก็จะจัดสรรเราเป็นฝ่ายค้าน เราก็ต้องอยู่ภายใต้กำกับดูแลของหัวหน้าฝ่ายค้าน ซึ่งเป็นใครก็รู้อยู่...

"มันไม่มีอะไรที่จะถูกใจได้ทั้งหมด แต่อันไหนที่พอจะดีกว่า แย่น้อยกว่า เสียน้อยกว่า และสามารถทำประโยชน์ให้ประเทศชาติได้ นี่คือสิ่งที่ใช้ตัดสินใจ...

"เราไม่อยากยืนคู่อยู่กับคนที่เป็นศัตรู ของชาติ ของแผ่นดิน และของสถาบัน...

"การเมืองเป็นเรื่องความรู้สึก และความรู้สึกที่สำคัญที่สุด คือ ความรู้สึกเกี่ยวกับความมั่นคงของชาติและสถาบัน..."

สุดท้ายนายพีระพันธุ์ ได้กล่าวไว้เกี่ยวกับการที่รวมไทยสร้างชาติได้ร่วมรัฐบาลอีกว่า จะทำให้ประชาชนได้ประโยชน์อย่างที่สุด 

"ในปีหน้า ถ้าเป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ เรายังได้กำกับดูแลที่เดิม ประชาชนจะได้รับของขวัญ เป็น ค่าไฟ ค่าน้ำมัน อย่างแน่นอน!!!" 

‘หยวนต้า’ วิเคราะห์!! ‘นักลงทุนต่างชาติ’ เริ่มกลับมาสนใจซื้อหุ้นไทย หลังได้นายกฯ คนใหม่-ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว มีโอกาสฟื้นตัวใน 1-2 เดือน

(20 ส.ค. 67) เพจเฟซบุ๊ก ‘Business Tomorrow’ โพสต์ข้อความในหัวข้อ ‘1,400 จุดแค่เอื้อม ฝรั่งเล็งเดินเครื่องช้อนหุ้นไทย ‘หยวนต้า’ ชี้เป็นจุดน่าซื้อที่สุดรอบ 2 ปี’ ระบุว่า…

คุณภาดล วรรณรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล.หยวนต้า ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านทาง Live สด กับ Business Tomorrow เมื่อวันที่ 19 ส.ค. 2567 กล่าวว่า…

แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเริ่มเห็นสัญญาณเชิงบวกจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ดีขึ้นจากปัจจัยการเมืองไทยคลายล็อกจุดเปลี่ยนสำคัญคือก้าวขึ้นรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เบื้องต้นประเมินว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยปีนี้ได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว และมีโอกาสเห็นการฟื้นตัวของดัชนีฯ แตะ 1,400 จุดภายใน 1-2 เดือนข้างหน้า 

สำหรับปัจจัยสนับสนุนความเชื่อมั่นนักลงทุน คาดว่าเกิดจากกระบวนการแต่งตั้งนายกฯ คนใหม่ดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งคาดว่าจะเห็นโฉมหน้า ครม.ชุดใหม่ภายในสิ้นเดือน ส.ค. และโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเริ่มทำงานในเดือน ก.ย.นี้ 

นอกจากนี้ ตลาดจับตาการทบทวนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต อาจจะเห็นการเปลี่ยนรูปแบบในมิติลดความเสี่ยงภาระหนี้ของประเทศ หรืออาจปรับเปลี่ยนให้เกิดผลบวกต่อการบริโภคในประเทศโดยตรง เป็นลักษณะนโยบายประชานิยม ส่วนหนึ่งเพื่อปูทางสู่การเลือกตั้งในอีก 3 ปีข้างหน้า

"ตอนนี้ต้องบอกว่าแนวโน้มหุ้นไทยโดยรวมอยู่ในช่วงที่มีนารีขี่ม้าขาวมาช่วย ไม่ใช่ม้าธรรมดาแต่เป็นม้าบินจะพาหุ้นไทยติดปีก ทำให้คาดหวังได้ว่าใน 1-2 เดือนข้างหน้ามีโอกาสเห็น 1,400 จุด และในปีนี้ต้องบอกว่าหุ้นไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ในความรู้สึกส่วนตัวมองว่าหุ้นไทยกำลังเป็นบรรยากาศที่ดีที่สุดสำหรับการลงทุนในรอบ 2 ปีทั้งจากปัจจัยต่างประเทศที่เอื้อและการเมืองไทยคลายกังวล" คุณภาดล กล่าว 

คุณภาดล ยังประเมินอีกว่า มีโอกาสสูงที่นักลงทุนต่างชาติจะเริ่มกลับมาซื้อหุ้นไทยอีกครั้ง เนื่องจากค่าเงินบาทส่งสัญญาณแข็งค่า ทำให้ต่างชาติรับส่วนต่างกำไรเพิ่มขึ้นจากค่าเงิน ถึงแม้ว่าเมื่อวันที่ 19 ส.ค. ต่างชาติมีสถานะขายสุทธิเกือบ 1.05 หมื่นล้านบาท แต่หากพิจารณาพบเป็นผลกระทบจากรายการบิ๊กล็อตหุ้น SCCC มูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาท ฉะนั้นหากตัดรายการดังกล่าวจะพบต่างชาติกำลังเดินเครื่องซื้อสุทธิหุ้นไทยราว 1.5 พันล้านบาท

ฟังสัมภาษณ์หุ้นไทยจะบินหรือจะตก ภายใต้รัฐบาลชุดใหม่ นายกฯ คนใหม่ (ภาดล วรรณรัตน์)
https://www.youtube.com/watch?v=RhrjqiQk-g4

‘ไทยสมายล์บัส’ เปิด 13 เส้นทางวิ่งรถ 24 ชม. ‘เที่ยงคืน-ตี 5’ หวังรองรับการเดินทางช่วงกลางคืนของพี่น้องประชาชน

เมื่อวานนี้ (19 ส.ค.67) น.ส.กุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไทย สมายล์ กรุ๊ป หรือ TSB ผู้นำการให้บริการรถเมล์และเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทที่เป็นผู้รับใบอนุญาตเดินรถอย่างถูกต้องจากกรมการขนส่งทางบกในการให้บริการพี่น้องประชาชน ได้รับข้อร้องเรียนจากประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ไม่มีรถให้บริการช่วงเวลากลางคืนในหลายพื้นที่ หลังจากผู้ประกอบการรายเดิม ยกเลิกวิ่งกะกลางคืนในบางเส้นทางไปก่อนหน้านี้

ทางด้านบริษัทได้พิจารณาถึงความต้องการเดินทางในช่วงกลางคืนของพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย จึงได้ทยอยจัดเพิ่มการเดินรถกะสว่าง หรือรถ 24 ชั่วโมง ขณะนี้ให้บริการแล้วใน 13 เส้นทาง นับตั้งแต่เวลา 00.00 น. (เที่ยงคืน) ถึงเวลา 05.00 น. มีรถเมล์โดยสารพลังงานไฟฟ้าออกให้บริการในเส้นทางต่าง ๆ ตลอดทุกชั่วโมง อีกทั้งจะทยอยเพิ่มจำนวนรถต่อเนื่องเพื่อให้สอดคล้องไปกับความต้องการของผู้โดยสาร

สำหรับสายรถที่ ไทยสมายล์บัส เปิดวิ่งให้บริการช่วงกลางคืน ประกอบด้วย

1. สาย 1-3(34) เส้นทางบางเขน-ถนนพหลโยธิน-หัวลำโพง
ให้บริการตั้งแต่เวลา : 23.00 น., 00.00 น., 01.00 น., 02.00 น., 03.00 น., 05.00 น.
2. สาย 1-37(27) เส้นทางมีนบุรี-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
ให้บริการเวลา : 22.00 น., 00.00 น., 05.00 น.
3. สาย 1-39(71) เส้นทางสวนสยาม-คลองเตย
ให้บริการเวลา : 22.00 น., 22.40 น., 00.00 น., 01.00 น., 02.00 น., 03.45 น., 04.00 น., 04.15 น., 04.30 น., 04.45 น., 05.00 น.
4. สาย 2-15(97) เส้นทางกระทรวงสาธารณสุข-รพ.สงฆ์
ให้บริการเวลา : 23.00 น., 00.00 น., 01.30 น., 03.00 น., 04.00 น., 04.10 น., 04.20 น., 04.30 น., 04.40 น., 04.50 น., 05.00 น.
5. สาย 2-38(8) เส้นทางแฮปปี้แลนด์-ท่าเรือสะพานพุทธ
ให้บริการเวลา : 22.00 น., 23.00 น., 00.00 น., 01.00 น., 02.00 น., 03.45 น., 04.00 น., 04.10 น., 04.20 น., 04.30 น., 04.40 น., 04.50 น., 05.00 น.

6. สาย 3-1(2) เส้นทางปากน้ำ-ท่าเรือสะพานพุทธ
ให้บริการเวลา : 22.00 น., 00.00 น., 01.00 น., 02.00 น., 03.00 น., 03.50 น., 04.05 น., 04.20 น., 04.35 น., 04.50 น., 05.00 น.
7. สาย 3-6(25) เส้นทางโรงเรียนปทุมคงคาสมุทรปราการ-สถานีขนส่งเอกมัย (เพิ่ม 1 คัน)
ให้บริการเวลา : 22.40 น., 23.00 น., 01.00 น., 02.00 น., 04.30 น., 04.45 น., 05.00 น.
8. สาย 3-36(4) เส้นทางท่าเรือคลองเตย-ท่าเรือภาษีเจริญ
ให้บริการเวลา : 22.00 น., 23.30 น., 01.00 น., 02.00 น., 03.30 น., 04.00 น., 04.30 น., 05.00 น.
9. สาย 34 เส้นทางรังสิต-หัวลำโพง
ให้บริการเวลา : 22.10 น., 00.00 น., 03.40 น., 04.20 น., 05.00 น.
10. สาย 4-36(7) เส้นทางโรงเรียนศึกษานารี-หัวลำโพง
ให้บริการเวลา : 23.30 น., 01.00 น., 02.30 น., 03.45 น., 04.00 น., 04.10 น., 04.20 น., 04.30 น., 04.40 น., 04.50 น., 05.00 น.

11. สาย 4-44(80A) เส้นทางหมู่บ้าน วปอ.11-สวนหลวงพระราม 8
ให้บริการเวลา : 22.30 น., 01.00 น., 04.45 น., 05.00 น.
12. สาย 4-46(84) เส้นทางวัดไร่ขิง-BTS กรุงธนบุรี
ให้บริการเวลา : 22.00 น., 23.00 น., 00.00 น., 01.00 น., 02.00 น., 03.00 น., 04.00 น., 04.10 น., 04.20 น., 04.30 น., 04.40 น., 04.50 น., 05.10 น.
13. สาย 4-15(82) เส้นทางท่าน้ำพระประแดง-บางลำพู
ให้บริการเวลา : 22.00 น., 23.00 น., 00.00 น., 01.00 น., 02.00 น., 03.00 น., 04.00 น.(04.29), 04.30 น.(04.31), 04.40 น., 05.00 น.

ขณะเดียวกัน TSB ยังคำนึงถึงปัญหาค่าครองชีพของพี่น้องประชาชน โดยรถเมล์ไฟฟ้าสีน้ำเงินทุกคันจะรองรับบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ HOP Card ที่ได้รับสิทธิประโยชน์ ‘เดลิ แมกซ์ แฟร์’ (Daily Max Fare) ให้ผู้โดยสารสามารถขึ้น-ลง กี่ครั้ง กี่ต่อ ไม่อั้นภายในหนึ่งวัน ด้วยการจ่ายค่าโดยสารสูงสุดไม่เกิน 40 บาทต่อวันเท่านั้น หรือนั่งรถต่อเรือ เรือต่อรถ ชำระค่าโดยสารสูงสุดเพียง 50 บาทเท่านั้น แต่หากผู้โดยสารท่านใดไม่ได้นั่งบ่อยก็จ่ายตามจริง เริ่มเพียง 15-20-25 บาท

‘ตาวัย 83 ปี’ ต้องออกมาขับแท็กซี่ ดูแลภรรยาป่วยติดเตียง เผย ถ้าไม่ทำก็อดตาย แม้บางวันรายได้ไม่พอค่าเช่ารถ

เมื่อวานนี้ (19 ส.ค. 67) จากเพจเฟซบุ๊ก ‘แจ้งข่าว-ล่าสุด’ โพสต์ข้อความระหว่างการสนทนากับคนขับแท็กซี่ ในวัย 83 ปีรายหนึ่ง โดยระบุว่า…

เรา : เบื่ออยู่บ้านเหรอถึงมาขับแท็กซี่ แล้วลูกหลานไปไหนหมด
ลุงแท็กซี่ : ผมไม่มีลูก ผมเช่าบ้านอยู่ 2 คนตายาย แฟนผมนอนติดเตียง ผมต้องออกมาขับแท็กซี่ไม่งั้นก็อดตาย
เรา : แล้ววัน ๆ หนึ่งพอใช้เหรอ
ลุงแท็กซี่ : บางวันก็ได้ไม่พอค่าเช่ารถ ไม่มีคน
เรา : ผมฝากเงินช่วยค่ายาแฟนลุงนะ และขอเบอร์ลุงไว้เผื่อเรียกใช้บริการ

#ใครผ่านมาแถวเซ็นทรัลศาลายา เรียกใช้บริการลุงได้นะครับสงสารแกไม่อยากคิดเลย ถ้าวันไหนขับรถแท็กซี่ไม่ไหวสองคนตายายจะอยู่กันยังไง (ใครอยากใช้บริการแท็กซี่ของลุง เบอร์คุณลุงนะครับ 0645139583 ขอบคุณเจ้าของภาพ)

‘จุลพันธ์’ แย้ม!! ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ มีทางออกที่ดี ชี้ ขอให้ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วจะแถลงครั้งเดียว

(20 ส.ค.67) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่มีกระแสข่าวว่าจะยกเลิก ว่า ตอนนี้มีทางไป และมีทางออกที่ดี แต่ขอยังไม่เปิดเผยรายละเอียด ขอให้ขั้นตอนทุกอย่างเรียบร้อยแล้วจะแถลงครั้งเดียว 

เมื่อถามย้ำว่า ที่ระบุว่าจะมีทางออกที่ดี นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ใช่ แต่รอให้ชัดเจนสักนิดนึง ขอย้ำว่ามีทางออกที่ดี เมื่อถามว่าแสดงว่าจะเดินหน้าต่อใช่หรือไม่ นายจุลพันธ์ หัวเราะพร้อมกล่าวว่า มีทางออกที่ดีครับ 

ผู้สื่อข่าวถามถึงตำแหน่งในกระทรวงการคลัง ที่มีข่าวว่า นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง จะถอนตัวจริงหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่าไม่รู้เลย เรื่องดังกล่าวเป็นสิทธิ์ของนายกรัฐมนตรี เรื่องนี้ขอไม่ตอบแล้วกัน ส่วนตัวตนไม่ทราบอะไร เมื่อถามว่าวันที่ 19 ส.ค. ได้พบกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ขอคำแนะนำอะไรหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ไม่ได้มีการขอคำแนะนำอะไรเป็นการพูดคุยถึงภารกิจที่ยังค้างอยู่ว่ามีอะไรบ้าง 

27 สิงหาคม พ.ศ. 2426 ภูเขาไฟ ‘กรากาตัว’ ในอินโดนีเซียระเบิดครั้งรุนแรงที่สุด เกิดเสียงดังกึกก้องไกลถึงออสเตรเลีย คร่าชีวิตกว่า 3.6 หมื่นคน

ภูเขาไฟ ‘กรากาตัว’ ที่ตั้งอยู่ระหว่างเกาะชวา และเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนิเซีย บนแนววงแหวนแห่งไฟ ภูเขาไฟแห่งนี้เคยระเบิดครั้งใหญ่ในปี พ.ศ. 2426 โดยเริ่มจากการระเบิดรุนแรงในวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2426 แต่เหตุการณ์ก็สงบ แม้จะมีการระเบิดในระดับไม่รุนแรงอีกหลายครั้งซึ่งไม่มีใครคิดว่านี้เป็นสัญญานเตือนภัย…

ต่อมาเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2426 เกิดการระเบิดอย่างรุนแรง และการระเบิดระดับกลางติดต่อกันอีกหลายครั้ง และในวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2426 ก็เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ที่สุด แรงระเบิดทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เถ้าถ่านจำนวนหลายล้านตันบดบังแสงอาทิตย์จนมืดมิด เสียงระเบิดดังกึกก้องไปไกลถึงออสเตรเลีย ผลจากการระเบิดยังทำให้เกิดคลื่นสึนามิสูงกว่า 30 เมตร ซากปะการัง, เศษหิน และวัสดุต่าง ๆ ประมาณ 600 ตัน ถูกคลื่นหอบขึ้นฝั่ง มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ประมาณ 36,000 คน

>> ความรุนแรงครั้งนั้นส่งผลกระทบไปไกลเพียงใด

ในประเทศไทยสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพขณะดำรงพระยศเป็น ‘พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร’ ทรงบันทึกเหตุการณ์ดังกล่าวไว้ใน ‘ประวัติอาจารย์’ (พระนิพนธ์ประวัติของพระยาพฤฒาธิบดีศรีสัตยานุการ (อ่อน โกมลวรรธนะ) ซึ่งเคยเป็น เจ้าอาวาสวัดนิเวศน์ธรรมประวัติ) ขณะนั้นพระองค์ทรงผนวชเป็นพระภิกษุ และประทับที่วัดนิเวศน์ธรรมประวัติ บางปะอิน อยุธยา ว่า…

“เมื่อเดือนสิงหาคมจะเป็นวันใดข้าพเจ้าไม่ได้จดไว้ แต่อยู่ในระหว่างวันที่ 27 จนถึงวันที่ 30 เวลาบ่าย ข้าพเจ้านั่งอยู่ที่ตำหนักได้ยินเสียงดังเหมือนยิงปืนใหญ่ไกลหลายนัด นึกในใจว่าคงยิงสลุตรับแขกเมืองที่เข้ามากรุงเทพฯ ครั้นเวลาเย็นลงไปนั่งเล่นที่สะพานท่าน้ำตามเคย ไปพูดขึ้นกับพระที่อยู่มาก่อน ท่านบอกว่าที่วัดนิเวศน์ฯ ไม่เคยได้ยินเสียงปืนใหญ่ยิงในกรุงเทพฯ ข้าพเจ้าไม่เห็นเป็นการสำคัญก็ไม่ค้นหาเหตุผลต่อไป

ครั้นรุ่งขึ้นอีกวันหนึ่ง เห็นแสงแดดเป็นสีเขียวตลอดวัน คนทั้งหลายพากันพิศวงทั่วไปในท้องถิ่น ที่ตื่นตกใจก็มี แต่ในวันต่อมาก็กลับเป็นปกติตามเดิม เป็นหลายวันจึงทราบข่าวว่าภูเขาไฟระเบิดที่เกาะกระกะเตา ซึ่งอยู่ระหว่างเกาะชวาและเกาะสุมาตรา คนตายหลายหมื่น เสียงภูเขาไฟระเบิดและไอที่ออกบังแสงแดด ทั้งละลอกน้ำในท้องทะเลแผ่ไปถึงนานาประเทศ ไกลกว่าที่เคยปรากฏมาแต่ก่อน”

‘ทนายรัชพล’ เตือนชาวเน็ตปมแชร์คลิป ‘ไอซ์ ปรีชญา’ ไลฟ์อาบน้ำ เสี่ยง พ.ร.บ.คอมฯ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท

(20 ส.ค.67) จากกรณีมีคลิปของนางเอกสาวชื่อดัง ‘ไอซ์ ปรีชญา พงษ์ธนานิกร’ หลุดว่อนโซเชียล จากการไลฟ์สดอาบน้ำนั้น จนต่อมาผู้จัดการส่วนตัวของนางเอกสาวก็ได้เผยถึงเรื่องนี้ว่า…

“ไอซ์ฝากขออภัยทุกคนมา ณ ที่นี้ และขอความเมตตากรุณาจากทุกท่านช่วยหยุดแชร์หรือเผยแพร่สิ่งนี้ ตอนนี้รู้สึกเสียใจและอับอายมาก และยอมรับความผิดที่ได้ทำพลาดไป ถือว่าเป็นบทเรียนครั้งสำคัญของไอซ์ในเรื่องการไลฟ์และการลงคอนเทนต์บนโซเชียลแพลตฟอร์มค่ะ”

ล่าสุดด้าน ทนายรัชพล ศิริสาคร ได้ออกมาเตือนชาวเน็ตที่มีการกดแชร์คลิปหลุดของทางด้านไอซ์ ปรีชญาว่า “มีความผิดพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท

เพราะการที่นำภาพโป๊เปลือยที่มีลักษณะลามกทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายหรืออับอายก็จะเข้าข่ายองค์ประกอบการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

อย่างไรก็ตามใครที่จะแชร์คลิปดังกล่าวก็ควรจะคิดก่อนแชร์เพราะผิดกฎหมาย อาจติดคุกได้”

‘ยิ่งลักษณ์’ โพสต์ยินดี ‘อุ๊งอิ๊ง’ รับตำแหน่งนายกฯ คนที่ 31 ลั่น!! ภูมิใจในตัวหลาน ขอให้โชคดีพาบ้านเมืองเจริญก้าวหน้า

(20 ส.ค. 67) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์รูปภาพคู่กับน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผ่านแอปพลิเคชันเอ็กซ์ พร้อมระบุข้อความว่า ขอแสดงความยินดีกับนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทย ในฐานะอาภูมิใจมากที่หลานอาสาเข้ามารับหน้าที่และภารกิจอันยิ่งใหญ่เพื่อประเทศครั้งนี้ การเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ไทยนั้น ย่อมต้องมีความกดดันและการคาดหวังเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจในช่วงนี้

“แต่อาเชื่อว่า นายกฯ หญิงของอา เป็นคนเข้มแข็ง มีความสามารถ และเปิดกว้างพร้อมรับฟังความคิดเห็นในการทำงาน ใส่ใจในความรู้สึกของคนรอบข้าง เราผ่านสถานการณ์ที่หนักและยากลำบากมาหลายครั้ง แต่ก็สามารถผ่านมาได้อย่างเข้มแข็ง อาจึงเชื่อเสมอว่า ปัญหาหรือสถานการณ์ในวันข้างหน้า หลานก็จะสามารถก้าวผ่านและประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน” น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุ

นอกจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุด้วยว่า “อาขอให้นายกรัฐมนตรีหญิงของอาโชคดีประสบความสำเร็จนำพาบ้านเมืองของเราไปสู่ความเจริญก้าวหน้า ประชาชน มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รักและห่วงใยหลานเสมอ”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top