Thursday, 10 July 2025
TheStatesTimes

'บก.ฟ้าเดียวกัน' หยัน!! ชนชั้นนำฝ่ายขวา มีปัญญายุบพรรค แต่ไม่มีปัญญาชนะเลือกตั้ง

(13 ส.ค. 67) นายธนาพล อิ๋วสกุล บรรณาธิการบริหารสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน บุคคลในกลุ่มที่ใกล้ชิด นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า...

ความน่าตลก ปนสมเพช ของชนชั้นนำฝ่ายขวาก็คือว่าหลังจากยุบพรรคไทยรักไทย ของทักษิณ ชินวัตร ในปี 2550

ผ่านมา 17 ปี ก็มายุบพรรคก้าวไกลศัตรูตัวใหม่ของชนชั้นนำฝ่ายขวา (หลังจากยุบพรรคอนาคตใหม่ไป 4 ปีก่อนหน้านั้น)

แต่ตัวเองก็ไม่มีตัวเลือกที่ดีพอ ก็กลับไปใช้บริการ ทักษิณ ชินวัตร พรรคไทยรักไทยที่ตอนนี้กลายร่างมาเป็นเพื่อไทย

อันนี้สิถึงเรียกว่า ความไร้น้ำยาอย่างแท้จริง

มีปัญญายุบพรรค-รัฐประหาร แต่ไม่มีปัญญาชนะเลือกตั้ง ความอับจนชนชั้นนำฝ่ายขวา

‘เล็ก คาราบาว’ ลั่น!! สูงวัยแล้ว เพลาๆ เรื่องการเมือง ชี้!! ควรเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่แสดงฝีมือ-โชว์พลังบ้าง

(13 ส.ค. 67) ปรีชา ชนะภัย หรือ เล็ก คาราบาว โพสต์เฟซบุ๊ก ‘Lek Carabao Solo’ ว่า เมื่อวานขณะอยู่บนเวทีพี่แอ๊ดพูดกับผู้ชมว่า “ผมแก่แล้ว ไม่อยากพูดเรื่องการเมืองแล้ว” แล้วแกก็หันมาทางผมพร้อมพูดว่า “เดี๋ยวโดนพี่เล็กว่า พี่เล็กเค้าห้ามไว้” อิอิ เป็นมุขน่ารักประจำในช่วงนี้น่ะครับ 

แต่จะว่าไปตามจริง เรื่องการเมืองนั้น พี่แอ๊ดทำมามากมายเหลือเกิน ไปดูภาพข่าวเก่า ๆ ดิ ทำแม้กระทั่งโกนหัวประท้วงก็เคยมาแล้ว

ในมุมของผม เห็นว่าพี่แอ๊ดยังทำอะไรเกี่ยวกับการเมืองและประเทศของเราได้อีกมากมาย เช่นเขียนหนังสือ เป็นต้น อีกอย่าง พวกเราสว.กันแล้ว ควรปล่อยให้ลูกหลานเค้าแสดงฝีมือแสดงพลังกันบ้าง

ทุกสิ่งอย่างคือบทพิสูจน์ พี่แอ๊ดเองก็พูดให้ได้ยินอยู่บ่อย ๆ ว่า เด็ก ๆ สมัยนี้เก่ง และมีแนวคิดที่น่าสนใจ แกว่าแกยังชอบฟังพวกเค้าเวลาอภิปรายกันเลย

มะม่วงไม่เด็ดก็ร่วงเองถ้ามันสุก ทุกอย่างคือบทพิสูจน์เมื่อมันพร้อม เคยมีพิธีกรหลายท่าน ถามผมถึงหัวข้อประมาณ เคยเป็นห่วงว่าวงเพื่อชีวิตจะหายไปไหม วงเพื่อชีวิตจะอ่อนแรงไหม หรืออะไรแนว ๆ นี้

คำตอบของผมคือ ไม่รู้สึกห่วงแม้แต่น้อย เพราะวงเพื่อชีวิตคือแนวสะท้อนภาพของชีวิตผู้คน ดังนั้นเมื่อพวกเราไปเฝ้าเง็กเซียนฮ่องเต้กันแล้ว ลูก ๆ หลาน ๆ เค้าก็ต้องทำหน้าที่สะท้อนภาพสังคมในยุคของเค้ากันต่อได้ ไม่ต้องห่วงหรอกครับ เพียงแต่วงเพื่อชีวิตในอนาคตอาจใส่ชุดมนุษย์อวกาศขึ้นเวทีก็ได้ใครจะรู้เรื่องวันข้างหน้าล่ะ ว่าไหม อิอิ

เมื่อเวลาพี่แอ๊ดนิ่ง ๆ และปล่อยวาง แกดูน่าเคารพมาก ๆ เลย เพราะพี่แอ๊ดเป็นคนที่มากไปด้วยความสามารถ ประสบการณ์ก็เปี่ยมล้น แค่เขียนหนังสือ และให้คำปรึกษาลูก ๆ หลาน ๆ ก็ถือว่าสุด ๆ แล้วหละครับ

ด้วยความเป็นเพื่อน ก็ได้แค่มองๆ และประคับประคองชีวิตในยามที่ควรสงบร่มเย็นไม่อยากให้เพื่อนโดนทัวร์ลงโดยไม่จำเป็น

สำหรับผมก็เห็นเช่นพี่แอ๊ดว่า เด็ก ๆ สมัยนี้เค้ามีความรู้ความสามารถและวิสัยทัศน์ที่น่าสนใจไม่น้อยเลย เพียงแต่พวกเค้ายังต้องฝึกวิทยายุทธเพิ่มเติมอีกหน่อยถึงจะเทียบชั้นพวกผู้เฒ่าได้

เรื่องนี้ภรรยาผมสนใจเลยถามผมว่า “เด็ก ๆ เค้าเก่ง แล้วทำไมถึงยังเทียบชั้นกับพวกผู้เฒ่าไม่ได้ล่ะ“ หึ หึ อยากรู้เหรอ ”พวกผู้เฒ่าเค้าพิษเยอะ“ จ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!! จ๊ากยาวเลย

สวัสดียามเช้าที่เปียกแฉะ

‘ลิซ่า’ ยอมเรียนการแสดง เพื่อซีรีส์ ‘The White Lotus Season 3’ ชี้ เกือบร้องไห้ ตอนรู้ผลว่าแคสต์ผ่าน หลังย่องเงียบคัดตัวไม่บอกใคร

(13 ส.ค.67) นิตยสาร ELLE ได้ปล่อยภาพงานถ่ายแบบของ ‘ลิซ่า’ พร้อมบทสัมภาษณ์ของเธอออกมา ซึ่งเจ้าตัวได้เผยถึงที่มาที่ไปของการเดบิวต์การแสดงผ่านซีรีส์เรื่องดัง ‘The White Lotus Season 3’ ทางสถานี HBO

โดยซีรีส์เรื่อง The White Lotus จะเป็นการพูดถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายในโรงแรม และซีซั่นที่ 3 นี้ถูกถ่ายทำที่ภูเก็ต เกาะสมุย และกรุงเทพฯ

“พอมาถ่ายทำที่ประเทศบ้านเกิด หนูก็เลยได้กินอาหารไทยทุกวันเลยค่ะ แล้วก็ถือเป็นโอกาสดีที่ได้พาแม่มาอยู่ใกล้ชิดด้วยตอนระหว่างถ่ายทำ”

”จริง ๆ แล้วหนูไม่ได้บอกแม่ ไม่ได้บอกเพื่อนว่าไปออดิชันมา หนูเกือบร้องไห้เลยตอนรู้ผลว่าผ่านได้แสดงในเรื่องนี้ เพราะถือเป็นงานแสดงแรกของหนูเลย ทั้งตื่นเต้นและกังวลใจเวลาเดียวกัน ตอนที่รู้ผลข่าวเรื่องแคสต์งาน หนูมีความสุขอยู่แป๊บเดียวจากนั้นก็คิดได้ว่า ‘แล้วเราจะบอกคนอื่นเรื่องนี้ยังไงดี?’”

ทั้งนี้ ลิซ่า ไม่ได้บอกว่าเธอรับบทบาทเป็นอะไรในซีรีส์เรื่องนี้ แต่เจ้าตัวได้ทำการบ้านโดยการไปเรียนการแสดงกันเลยทีเดียว

“หนูลงเรียนการแสดงเลยค่ะ แต่ตอนแรกก็สงสัยเรื่องทักษะการแสดงของตัวเองเหมือนกัน แต่ก็เดาว่ามันคงจะคล้าย ๆ กับการถ่ายมิวสิควิดีโอ ก็หวังว่าแฟน ๆ จะชอบกันนะคะ ได้ดูเรื่องนี้ หนูว่าคนจะยิ่งรักเมืองไทยมากขึ้นค่ะ” ลิซ่า กล่าวด้วยความภูมิใจ

แม้จะก้าวเท้ามาชิมลางงานแสดง แต่เจ้าตัวก็ยังคงเป็นสมาชิกวง BlackPink หลังจากที่ทั้งวงได้ตัดสินใจต่อสัญญาแบบวงกับทาง YG Entertainment ต่อไปตั้งแต่เดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว แต่แยกย้ายกันในส่วนของงานเดี่ยวที่ต่างมีสังกัดของตนเองและสังกัดอื่นช่วยดูแล

“หนูภูมิใจที่ได้เป็น Blackpink และหนูก็รักสมาชิกวงทุกคน มันไม่ใช่แค่เพราะแฟน ๆ ของเรา แต่เพราะพวกเราเองด้วย ไม่ต้องสงสัยเลย นี่คือชีวิตของพวกเราค่ะ”

“สำหรับตัวหนูเองตอนที่เป็นเด็กฝึกหัดอายุ 13 ปี หนูอยากจะบอกกับเธอว่าให้เดินหน้าต่อ เธอคงจะไม่อยากทำลายทุกอย่างนี้ อย่าไปคิดมากถึงอนาคต และโฟกัสแค่สิ่งที่กำลังทำ อย่ายอมแพ้ อย่าเลิกทำ”

สมุทรปราการ-เปิดแล้ว ตรอ.สาขา 9!! 'สส.ยงยุทธ' 'ผู้การวิชิต' ประธานตัดริบบิ้น ร่วมแสดงความยินดีกับบอสใหญ่ ตรอ.

ท่าน ดร.ยงยุทธ สุวรรณบุตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสมัยที่ 25 และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ให้เกียรติมาเป็นประธานตัดริบบิ้น เปิดสถานตรวจสภาพรถเอกชน ตรอ.มังกร สาขา 9 ตั้งอยู่ภายในซอยเพชรวิฑูรย์ ถนนศรีนครินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ

พร้อมทั้งนำกระเช้าดอกไม้ร่วมแสดงความยินดีกับ พ.ต.อ.สาโรช และ ร.ต.ต.หญิงพวงผกา วิริยะเลิศสกุลชัย บอสใหญ่สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) เนื่องในโอกาสเปิดสถานตรวจสภาพรถเอกชน ตรอ.มังกร ออโต้คาร์ สาขา 9 ทั้งนี้ยังมีสาขาพร้อมเปิดให้บริการทั้งหมดถึง 9 สาขาด้วยกัน

โดยในช่วงเช้าทางครอบครัว วิริยะเลิศสกุลชัย ถือฤกษ์ดีประกอบพิธีบวงสรวงสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จากนั้น พ.ต.อ.สาโรช พร้อมด้วย ร.ต.ต.หญิงพวงผกา วิริยะเลิศสกุลชัย และครอบครัวประกอบพิธีถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 9 รูป เพื่อความเป็นสิริมงคล

โดยมี ดร.ยงยุทธ สุวรรณบุตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมัยที่ 25 และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ตลอดจนแขกผู้มีเกียรติ นักธุรกิจ ผู้ประกอบการ จำนวนมากร่วมในพิธี พร้อมทั้งร่วมแสดงความยินดีและร่วมถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์ จากนั้น พระสงฆ์ทั้ง 9 รูป ประกอบพิธีเจริญชัยมงคลคาถาและเจริญพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นศิริมงคลให้กับทางร้านและทางครอบครัววิริยะเลิศสกุลชัย

ทั้งนี้ สถานตรวจสภาพรถเอกชน ตรอ.มังกร ออโต้คาร์ สาขา 9 จะเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00-18.00 น. และสำหรับประชาชนที่สนใจจะใช้บริการกลับสถานตรวจสภาพรถเอกชน ตรอ.มังกร ออโต้คาร์ สาขา 9 ถนนศรีนครินทร์ สามารถโทรสอบถามได้ที่เบอร์ 061-179-5551

'อดีตนายกฯ บังกลาเทศ' แฉ!! ถูก US ปลุกระดมโค่นอำนาจ แก้แค้นไม่ยอมให้ตั้งฐานทัพ หากยอมแต่แรกอำนาจไม่หลุด

(13 ส.ค. 67) อดีตนายกรัฐมนตรีหญิง ชัยค์ ฮาสินา แห่งบังกลาเทศ ซึ่งถูกบีบให้ลาออกและหลบหนีออกนอกประเทศ ท่ามกลางการประท้วงใหญ่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กล่าวหาสหรัฐฯ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการขับไล่เธอพ้นจากอำนาจ

ระหว่างให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์อีโคโนมิกไทม์ส ที่เผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ (11 ส.ค.) ฮาสินา บ่งชี้ว่าเธออาจยังคงอยู่ในอำนาจต่อไป หากว่าเธอยินยอมอ้าแขนรับให้กองทัพสหรัฐฯ เข้ามาตั้งฐานทัพในบังกลาเทศ

"ฉันลาออกแล้ว เพื่อที่ว่าฉันจะไม่ได้เห็นขบวนแห่ศพผู้เสียชีวิต พวกเขาต้องการก้าวเข้าสู่อำนาจด้วยศพของพวกนักศึกษา แต่ฉันไม่ยอมให้มันเกิดขึ้น ฉันลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี" ฮาสินากล่าว "ฉันอาจยังคงอยู่ในอำนาจ หากว่าฉันยอมสละอธิปไตยของเกาะเซนต์มาร์ติน และเปิดทางให้อเมริกามีอิทธิพลเหนืออ่าวเบงกอล ฉันขอวิงวอนผู้คนในแผ่นดินของฉัน กรุณาอย่าถูกบิดเบือนด้วยพวกหัวรุนแรง"

ฮาสินา อ้างถึงเกาะผืดหินปะการังของบังกลาเทศ ในทางตะวันออกเฉียงเหนือของอ่าวเบงกอล ที่กล่าวอ้างว่าวอชิงตันพยายามยึดครองมัน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่บังกลาเทศหลายคนกล่าวอ้างในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ว่าอเมริกาขอเช่าเกาะแห่งนี้ในหลายโอกาส แต่ถูกปฏิเสธ ขณะที่ ฮาสินา บอกว่า ‘พวกชายผิวขาว’ คำที่เธอใช้เรียกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เคยมาขอเข้าพบเธอก่อนศึกเลือกตั้งก่อนหน้านี้ และขอให้เธอสนับสนุนโครงการก่อสร้างฐานทัพอากาศบนเกาะเซนต์มาร์ติน

นักการเมืองหญิงวัย 76 ปี ซึ่งครองอำนาจมานานกว่า 15 ปี หลบหนีไปยังอินเดีย ประเทศเพื่อนบ้าน หลังลาออกจากตำแหน่งในวันที่ 5 สิงหาคม อย่างไรก็ตาม เธอประกาศว่าจะเดินทางกลับกรุงธากาเร็ว ๆ นี้ "ด้วยพระคุณแห่งผู้ทรงฤทธานุภาพ พระอัลเลาะห์"

การพ้นจากตำแหน่งของฮาสินา มีขึ้นหลังจากเกิดการประท้วงทั่วประเทศที่นำโดยนักศีกษาต่อเนื่องยาวนานหลายสัปดาห์ เกี่ยวกับระบบโควตางานของรัฐบาล ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเอื้ออำนวยต่อคนที่เกี่ยวข้องกับพรรครัฐบาล การประชุมเริ่มต้นอย่างสันติ แต่จากนั้นได้ลุกลามกลายเป็นสถานการณ์ความรุนแรงอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตกว่า 400 คน และถูกจัมกุมประมาณ 11,000 คน

ไม่นานหลังจาก ฮาสินา ลาออก ทางพลเอกวาเกอร์-อุซ-ซามัน ประธานคณะเสนาธิการร่วมของบังกลาเทศ แถลงว่าเขาจะตั้งรัฐบาลรักษาการ โดยที่ มูฮัมหมัด ยูนูส เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ผู้ริเริ่มและพัฒนาแนวคิดการให้กู้เงินแก่คนจนโดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ได้สาบานตนเข้ารับตำแหน่งหัวหน้ารัฐบาลรักษาการ เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม

'องค์กรไม่แสวงหากำไรในสหรัฐฯ’ แจ้งเตือน 'ไทย' เตรียมรับมือด่วน หลังพบเรือขนขยะพิษจากแอลเบเนียกว่า 100 ตู้กำลังจะถึงแหลมฉบัง

(13 ส.ค.67) Spacebar รายงานว่า ‘Basel Action Network’ องค์กรไม่แสวงหากำไรในสหรัฐฯ ที่ติดตามการส่งออกของเสียที่เป็นพิษ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยแจ้งเตือนมาเลเซียถึงการขนส่งขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ผิดกฎหมาย และได้แจ้งประเทศไทยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าวที่ทางองค์กรเชื่อว่าเต็มไปด้วยฝุ่นเตาเผาไฟฟ้าที่อาจเป็นอันตรายกำลังมุ่งหน้าสู่ประเทศไทย ณ ท่าเรือแหลมฉบัง

นอกจากนี้ ยังพบว่าเรือลำหนึ่งที่บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ไม่ปรากฏบนบริการติดตามตำแหน่งทางทะเลอีกต่อไป จากนั้นเรือก็จอดเมื่อเข้าใกล้เมืองเคปทาวน์เมื่อปลายเดือนที่แล้ว หลังจากที่ ‘Basel Action Networ’ ระบุว่าได้แจ้งเตือนเจ้าหน้าที่แอฟริกาใต้เกี่ยวกับการขนส่งดังกล่าว 

เจ้าหน้าที่ไทยได้รับแจ้งว่าตู้คอนเทนเนอร์ถูกบรรทุกขึ้นเรือที่แอลเบเนียเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม และกำลังดำเนินการร่วมกับหน่วยงานในแอลเบเนียและสิงคโปร์เพื่อระงับการขนส่งดังกล่าว ซึ่งเรือจะเข้าเทียบท่าในช่วงปลายเดือนนี้ 

กรมโรงงานอุตสาหกรรมของไทย ซึ่งมีหน้าที่ดูแลการจัดการขยะระหว่างประเทศระบุในอีเมลว่า “หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องไม่ได้รับแจ้งและไม่ได้ให้ความยินยอมสำหรับการขนส่งเหล่านี้ ขณะนี้เรากำลังประสานงานและติดตามเพื่อป้องกันการขนส่งที่ผิดกฎหมายเหล่านี้” 

สำหรับประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต้องเผชิญกับขยะล้นประเทศที่มาจากประเทศพัฒนาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นขยะพลาสติกสกปรก ขยะอุตสาหกรรมและขยะอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งอาจมีสารพิษเจือปนอยู่ด้วย  

โดยตามอนุสัญญาบาเซลของสหประชาชาติ (Basel Convention) ข้อตกลงระดับโลกที่ลงนามโดยหลายประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งประเทศต่าง ๆ จำเป็นต้องยินยอมให้ประเทศพัฒนาแล้วส่งขยะมาทิ้งในประเทศของตัวเอง 

อย่างไรก็ตาม จากรายงานของ ‘Basel Action Network’ ได้ระบุว่า ตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าวอยู่บนเรือแคมป์ตัน และแคนเดอร์ของบริษัท A/S AP Moller-Maersk โดยทางบริษัทยืนยันว่าเรือบรรทุกสินค้า 2 ลำของบริษัทกำลังบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ที่มาจากแอลเบเนีย ซึ่งบริษัทเดินเรืออีกแห่งหนึ่งจองไว้ 

“ไม่มีตู้คอนเทนเนอร์ใดที่ถูกระบุว่ามีขยะอันตราย มิฉะนั้นแล้ว Maersk (เมิร์สก์) ก็คงปฏิเสธที่จะขนส่งตู้คอนเทนเนอร์เหล่านี้ เนื่องจากมีการคาดเดาเกี่ยวกับตู้คอนเทนเนอร์เหล่านี้ บริษัท Maersk จึงจะส่งมอบตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าวให้กับบริษัทเดินเรือที่จองและรับผิดชอบต่อตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าว” ซัมเมอร์ ชี โฆษกหญิง ระบุในอีเมล 

ถึงกระนั้น ‘Basel Action Network’ ซึ่งร่วมกับกลุ่มสิ่งแวดล้อม ‘มูลนิธิบูรณะนิเวศ’ (EARTH) ก็ได้แจ้งเตือนประเทศต่าง ๆ มากมาย เมื่อทราบว่าฝุ่นจากเตาเผาไฟฟ้ามากกว่า 800 ตัน ถูกบรรทุกลงบนเรือในแอลเบเนีย จากนั้นจึงส่งต่อไปยังเรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ของบริษัท Maersk ในเมืองทรีเอสต์ ประเทศอิตาลี โดยข้อมูลการขนส่งทางออนไลน์แสดงให้เห็นว่า เรือของบริษัทเมดิเตอร์เรเนียน ชิปปิ้ง (MSC) ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขนส่งครั้งนี้ด้วย โดยมีประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทาง 

ทั้งนี้ ฝุ่นจากเตาเผาที่ต้องได้รับการบำบัดเป็นขยะอันตรายที่มักมาจากการรีไซเคิลเศษเหล็ก และมีออกไซด์โลหะที่เป็นพิษ เช่น แคดเมียมและโครเมียม ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม 

ตามข้อมูลบนเว็บไซต์ติดตามตู้คอนเทนเนอร์ของ MSC ระบุอีกว่า “ตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 20 ฟุต จำนวน 40 ตู้ถูกโหลดขึ้นเรือ ‘Contship Vow’ เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ที่ท่าเรือดูร์เรสของแอลเบเนีย จากนั้นตู้คอนเทนเนอร์เหล่านี้จะถูกส่งต่อไปยังเรือแคมป์ตันของบริษัท Maersk ที่เมืองทรีเอสต์ ในอีกไม่กี่วันต่อมา และจะถูกส่งต่ออีกครั้งบนเรือ MSC ที่สิงคโปร์ในวันที่ 18 สิงหาคม” 

โดยเรือบรรทุกดังกล่าวมีกำหนดเดินทางถึงท่าเรือแหลมฉบังของไทยในวันที่ 20 สิงหาคมนี้ ในขณะเดียวกัน การขนส่งตู้คอนเทนเนอร์จำนวนประมาณ 60 ตู้ ซึ่งเดิมบรรจุอยู่บนเรือ MSC จากแอลเบเนีย ก็กำลังมุ่งหน้าสู่สิงคโปร์บนเรือแคนเดอร์ของบริษัท Maersk ด้วยเช่นกัน 

ทว่า เรือแคมป์ตัน ได้ปิดการส่งสัญญาณตำแหน่งเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม โดยบริษัท Maersk กล่าวว่า “เรือลำนี้ไม่มีกำหนดแวะจอดที่แอฟริกาใต้ และไม่ใช่เรื่องแปลกที่เรือจะปิดการส่งสัญญาณตำแหน่งด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย” ปัจจุบันเรือลำนี้อยู่ในมหาสมุทรอินเดีย เพื่อมุ่งหน้าไปยังสิงคโปร์  

ทั้งนี้มีการคาดการณ์ว่าเรือแคมป์ตันจะจอดที่สิงคโปร์ในวันที่ 14 สิงหาคม ส่วนเรือแคนเดอร์จะเดินทางถึงสิงคโปร์ในวันที่ 22 สิงหาคม ก่อนที่ตู้คอนเทนเนอร์ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเต็มไปด้วยฝุ่นเตาเผาจะมุ่งหน้าไปยังประเทศไทย 

“ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญมาก เนื่องจากสิงคโปร์และไทยจะต้องดำเนินการเพื่อหยุดยั้งเรือเหล่านี้...แอลเบเนียควรนำตู้คอนเทนเนอร์กลับคืน เพื่อให้แน่ใจว่าขยะจะไม่ถูกส่งออกอีกครั้งไปยังจุดหมายปลายทางอื่นๆ” จิม พักเก็ตต์ ผู้อำนวยการบริหารของ ‘Basel Action Network’ กล่าว 

ทัพเรือไทย-เวียดนาม ประชุม Navy to Navy Talks ครั้งที่ 4

พล.ร.ต.เทพฤทธิ์ ลาภเหลือ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน กรมยุทธการทหารเรือ และคณะผู้แทน ทร.ไทย ร่วมประชุม Navy to Navy Talks ครั้งที่ 4 กับ พล.ร.ต.Nguyen Viet Khanh รองเสนาธิการทหารเรือเวียดนาม และคณะผู้แทน ทร.เวียดนาม ณ โรงแรมมณเฑียร ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ

โดยการประชุมเป็นไปด้วยความราบรื่น มีประเด็นหารือ สรุปได้ดังนี้

1.การแลกเปลี่ยนด้านการศึกษา ซึ่งผู้แทน ทร.ไทย แจ้งให้ทราบถึงการเสนอที่นั่งหลักสูตร รร.สธ.ทร. และ วทร. โดยเสนอที่นั่งหลักสูตร รร.สธ.ทร. ให้กับ ทร.เวียดนาม เป็นประจำทุกปี และเสนอที่นั่งหลักสูตร วทร. ให้กับ ทร.เวียดนาม ในปี 2570
2.การแลกเปลี่ยนด้านการข่าว  ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องต้องกัน ถึงความสำคัญของการประชุมแลกเปลี่ยนข่าวสาร ซึ่งใช้เป็นเวทีสำคัญในการเเลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารสำคัญต่างๆ ระหว่างกัน และเห็นพ้องให้ ทร.เวียดนาม เป็นเจ้าภาพการประชุมใน ครั้งต่อไป
3.การลาดตระเวนร่วมและความร่วมมือด้านยุทธการ
3.1 ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้ดำรงการลาดตระเวนร่วม จำนวน 2 ครั้งต่อปีไว้ซึ่งในปีงบประมาณ 2568 ทร.ไทย มีแผนที่จะทำการลาดตระเวนร่วม ครั้งที่ 50 ในเดือน พ.ย.67 และครั้งที่ 51 ในเดือน เม.ย.68 โดย ทร.ไทย มีแผนที่จะเข้าเยี่ยมเมืองท่าเวียดนาม ภายหลังจากเสร็จสิ้นการการลาดตระเวนร่วมครั้งที่ 51
3.2 ผู้แทน ทร.ไทย ได้เสนอร่างแผนการลาดตระเวนร่วม 2571 - 2580 เพื่อเป็นการกำหนดกรอบการดำเนินการลาดตระเวนร่วม ระหว่าง ทร.ทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้แผนดังกล่าว สามารถปรับเปลี่ยนได้ ตามที่ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกัน
3.3 ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้มีการจัดการแลกเปลี่ยนความรู้ของผู้เชี่ยวชาญ ในโอกาสที่การเยือน การประชุม หรือการเยี่ยมเมืองท่าของเรือรบ หรือโอกาสอื่นๆ ที่เอื้ออำนวย เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกำลังพลทั้งสองฝ่าย
4. เรื่องอื่นๆ
4.1 ผู้แทน ทร.ไทย เสนอขอเข้าเยี่ยมชมหน่วยป้องกันฝั่งและระบบอาวุธนำวิถียิงจากฝั่ง ต่อต้านเรือรบผิวน้ำระยะไกล ซึ่ง ทร.เวียดนาม มีความยินดีให้เยี่ยมชมในการไปประชุมที่เวียดนาม ในครั้งต่อไป
4.2 ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้จัดการประชุม NTNT ครั้งต่อไป ณ เวียดนาม ในไตรมาสที่ 2 หรือ 3 ของปี 2568 อีกด้วย

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ชลบุรี 0909535645 

'เพจน้องอิคคิว' แจง!! คลิปรูบิคที่นำมาลง ล้วนได้รับอนุญาตจากบุคคลนั้นๆ ด้านแฟนคลับย้ำ!! อย่าหยุดความชื่นชอบ เพราะแค่กลุ่มคนทัศนคติไม่ดี

(14 ส.ค.67) จากเพจ 'Ik-Q & LeBron Family Fun' ซึ่งเผยแพร่ผลงานของ 'น้องอิคคิว-เอกภูมิ ศิริศักดิ์ไพศาล' เซียนรูบิคตัวน้อย ที่กำลังกลายเป็นไวรัลบนโลกโซเชียล ได้โพสต์ข้อความชี้แจง ระบุว่า...

"จากนี้ไป คลิปรูบิคที่ทางช่องนำมาลง คืองานคอนเทนต์ที่ได้รับอนุญาตจากบุคคลนั้น ๆ แล้วเท่านั้น และจะไม่มีการซื้อขายเกิดขึ้น" เว้นแต่บุคคลในรูปมีความประสงค์ที่จะขอซื้อ!!

ที่ผ่านมาเราไม่ชัดเจนเอง ทำให้คนบางส่วนไม่เข้าใจ และนำไปให้ข้อมูลผิดเพี้ยน หรือปั่นกระแสเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง 

เราต่อรูบิคมาทั้งหมด 72 รูปโดยประมาณ เพื่อทำคอนเทนต์เท่านั้น มีเพียง 3 รูปที่บุคคลในภาพมีความประสงค์ที่จะขอซื้อ และไม่มีรูปไหนได้เกิน 25,000 บาท (ทุน 22,000 บาท) เพราะเราบอกเขาว่าเราเอาเท่าทุน เพื่อนำไปซื้อรูบิคมาต่อใหม่ ยกเว้น รูบิค บอสชาตรี ที่ให้รางวัลซุปเปอร์แฟน 

นอกนั้นไม่มีรูปไหนเลยที่เราขาย ยกเว้นงานจ้าง แต่คนเข้าใจว่าเราขาย เข้าใจว่าเรายกไปให้ คลิปที่ยกไปให้เกิดจาก คนที่จ้างต่อรูบิค ต้องการให้เราเอาไปมอบให้ถึงมือเท่านั้น

ในตอนแรกเราจะให้น้องหยุดต่อรูบิค และทำด้านอื่น ๆ ที่น้องทำอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น การตีกลอง การเล่นบาส การรีวิวของเล่นและสถานที่ท่องเที่ยว เพราะน้องทำยูทูบ เพื่ออยากหารายได้ด้วยตัวเอง และนำไว้เป็นค่ารักษาดวงตาน้องมาตลอดตั้งแต่ 7 ขวบ 

แต่มีพี่ ๆ เยอะมากสนับสนุนให้น้องต่อรูบิคที่น้องชอบต่อไป และอย่าหยุดความฝันความชอบน้อง เพราะคนกลุ่มเล็ก ๆ หรือ คนทัศนคติไม่ดี 

พ่อและแม่เลยตัดสินใจที่พร้อมจะสนับสนุนในสิ่งที่ลูกทำและมีความสุขต่อไปครับ

เราขอขอบคุณทุกท่านที่เข้าใจและสนับสนุนเรา เราจะพยายามสื่อสารให้ชัดเจนและตรงไปตรงมาในอนาคต เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดและสร้างคอนเทนต์ที่ดีต่อไปครับ

กำลังพล สอ.รฝ. กายพร้อม ใจพร้อม ก่อนปฏิบัติราชการภาคใต้

รพ.อาภากรเกียรติวงศ์ ฐท.สส. โดย นาวาโท สมบูรณ์ ดอนสนธิ์ หน.จิตวิทยาทางการแพทย์ กองสุขภาพจิต ดำเนินกิจกรรม “เตรียมความพร้อม ด้านสุขภาพจิตทหาร“ แก่กำลังพล สอ.รฝ. ก่อนออกปฏิบัติราชการ ฉก.นย.ทร./ฉก.นย.ภต. ชุด รปภ.สนามบิน จว. นราธิวาส ณ อาคารเอนกประสงค์ สอ.รฝ. อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

23 สิงหาคม พ.ศ. 2553 ‘Airport Rail Link’ เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ เชื่อม 'พญาไท-สุวรรณภูมิ' ด้วยเวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมง

รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ (Airport Rail Link) หรือ รถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นโครงการระบบขนส่งมวลชนแบบพิเศษ เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2553 โดยปัจจุบันต้นสถานีของ ARL คือ ‘พญาไท’ และปลายสถานี คือ ‘สนามบินสุวรรณภูมิ’ โดยใช้ระยะเวลาการเดินทาง 25 นาที

โดยในวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2564 รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น ‘AERA1’ (เอราวัน) ภายใต้ผู้รับสัมปทานรายใหม่ คือ บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด ของกลุ่มซี.พี. และพันธมิตร จากผู้รับสัมปทานรายเดิม คือ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) บริษัทลูกของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)

ในอนาคต ‘รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์’ จะมีการรวมรถไฟฟ้าสายนี้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน สุวรรณภูมิ ดอนเมือง และอู่ตะเภา โดยใช้เส้น Airport Rail Link เดิมเป็นส่วนต่อขยาย โดยแนวเส้นทางส่วนที่ต่อขยายคือ สถานีพญาไท เชื่อมต่อกับสถานีกลางบางซื่อ ซึ่งเป็นสถานีต้นทางของรถไฟชานเมืองสายสีแดง บางซื่อ- รังสิต และ บางซื่อ-ตลิ่งชัน และจะเชื่อมต่อไปยังสถานีดอนเมือง

ทั้งนี้ หากก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดใช้งาน ระยะเวลาที่ใช้เดินทางจาก สถานีพญาไทไปสนามบินดอนเมืองจะใช้เวลาเพียง 10-15 นาทีเท่านั้น ซึ่งจะทำให้การเดินทางสู่สองสนามบินเป็นเรื่องง่ายดาย ทั้งลดระยะเวลาการเดินทางและมีความสะดวกสบายที่มากขึ้น


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top