'องค์กรไม่แสวงหากำไรในสหรัฐฯ’ แจ้งเตือน 'ไทย' เตรียมรับมือด่วน หลังพบเรือขนขยะพิษจากแอลเบเนียกว่า 100 ตู้กำลังจะถึงแหลมฉบัง
(13 ส.ค.67) Spacebar รายงานว่า ‘Basel Action Network’ องค์กรไม่แสวงหากำไรในสหรัฐฯ ที่ติดตามการส่งออกของเสียที่เป็นพิษ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยแจ้งเตือนมาเลเซียถึงการขนส่งขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ผิดกฎหมาย และได้แจ้งประเทศไทยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าวที่ทางองค์กรเชื่อว่าเต็มไปด้วยฝุ่นเตาเผาไฟฟ้าที่อาจเป็นอันตรายกำลังมุ่งหน้าสู่ประเทศไทย ณ ท่าเรือแหลมฉบัง
นอกจากนี้ ยังพบว่าเรือลำหนึ่งที่บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ไม่ปรากฏบนบริการติดตามตำแหน่งทางทะเลอีกต่อไป จากนั้นเรือก็จอดเมื่อเข้าใกล้เมืองเคปทาวน์เมื่อปลายเดือนที่แล้ว หลังจากที่ ‘Basel Action Networ’ ระบุว่าได้แจ้งเตือนเจ้าหน้าที่แอฟริกาใต้เกี่ยวกับการขนส่งดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ไทยได้รับแจ้งว่าตู้คอนเทนเนอร์ถูกบรรทุกขึ้นเรือที่แอลเบเนียเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม และกำลังดำเนินการร่วมกับหน่วยงานในแอลเบเนียและสิงคโปร์เพื่อระงับการขนส่งดังกล่าว ซึ่งเรือจะเข้าเทียบท่าในช่วงปลายเดือนนี้
กรมโรงงานอุตสาหกรรมของไทย ซึ่งมีหน้าที่ดูแลการจัดการขยะระหว่างประเทศระบุในอีเมลว่า “หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องไม่ได้รับแจ้งและไม่ได้ให้ความยินยอมสำหรับการขนส่งเหล่านี้ ขณะนี้เรากำลังประสานงานและติดตามเพื่อป้องกันการขนส่งที่ผิดกฎหมายเหล่านี้”
สำหรับประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต้องเผชิญกับขยะล้นประเทศที่มาจากประเทศพัฒนาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นขยะพลาสติกสกปรก ขยะอุตสาหกรรมและขยะอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งอาจมีสารพิษเจือปนอยู่ด้วย
โดยตามอนุสัญญาบาเซลของสหประชาชาติ (Basel Convention) ข้อตกลงระดับโลกที่ลงนามโดยหลายประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งประเทศต่าง ๆ จำเป็นต้องยินยอมให้ประเทศพัฒนาแล้วส่งขยะมาทิ้งในประเทศของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม จากรายงานของ ‘Basel Action Network’ ได้ระบุว่า ตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าวอยู่บนเรือแคมป์ตัน และแคนเดอร์ของบริษัท A/S AP Moller-Maersk โดยทางบริษัทยืนยันว่าเรือบรรทุกสินค้า 2 ลำของบริษัทกำลังบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ที่มาจากแอลเบเนีย ซึ่งบริษัทเดินเรืออีกแห่งหนึ่งจองไว้
“ไม่มีตู้คอนเทนเนอร์ใดที่ถูกระบุว่ามีขยะอันตราย มิฉะนั้นแล้ว Maersk (เมิร์สก์) ก็คงปฏิเสธที่จะขนส่งตู้คอนเทนเนอร์เหล่านี้ เนื่องจากมีการคาดเดาเกี่ยวกับตู้คอนเทนเนอร์เหล่านี้ บริษัท Maersk จึงจะส่งมอบตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าวให้กับบริษัทเดินเรือที่จองและรับผิดชอบต่อตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าว” ซัมเมอร์ ชี โฆษกหญิง ระบุในอีเมล
ถึงกระนั้น ‘Basel Action Network’ ซึ่งร่วมกับกลุ่มสิ่งแวดล้อม ‘มูลนิธิบูรณะนิเวศ’ (EARTH) ก็ได้แจ้งเตือนประเทศต่าง ๆ มากมาย เมื่อทราบว่าฝุ่นจากเตาเผาไฟฟ้ามากกว่า 800 ตัน ถูกบรรทุกลงบนเรือในแอลเบเนีย จากนั้นจึงส่งต่อไปยังเรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ของบริษัท Maersk ในเมืองทรีเอสต์ ประเทศอิตาลี โดยข้อมูลการขนส่งทางออนไลน์แสดงให้เห็นว่า เรือของบริษัทเมดิเตอร์เรเนียน ชิปปิ้ง (MSC) ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขนส่งครั้งนี้ด้วย โดยมีประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทาง
ทั้งนี้ ฝุ่นจากเตาเผาที่ต้องได้รับการบำบัดเป็นขยะอันตรายที่มักมาจากการรีไซเคิลเศษเหล็ก และมีออกไซด์โลหะที่เป็นพิษ เช่น แคดเมียมและโครเมียม ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
ตามข้อมูลบนเว็บไซต์ติดตามตู้คอนเทนเนอร์ของ MSC ระบุอีกว่า “ตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 20 ฟุต จำนวน 40 ตู้ถูกโหลดขึ้นเรือ ‘Contship Vow’ เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ที่ท่าเรือดูร์เรสของแอลเบเนีย จากนั้นตู้คอนเทนเนอร์เหล่านี้จะถูกส่งต่อไปยังเรือแคมป์ตันของบริษัท Maersk ที่เมืองทรีเอสต์ ในอีกไม่กี่วันต่อมา และจะถูกส่งต่ออีกครั้งบนเรือ MSC ที่สิงคโปร์ในวันที่ 18 สิงหาคม”
โดยเรือบรรทุกดังกล่าวมีกำหนดเดินทางถึงท่าเรือแหลมฉบังของไทยในวันที่ 20 สิงหาคมนี้ ในขณะเดียวกัน การขนส่งตู้คอนเทนเนอร์จำนวนประมาณ 60 ตู้ ซึ่งเดิมบรรจุอยู่บนเรือ MSC จากแอลเบเนีย ก็กำลังมุ่งหน้าสู่สิงคโปร์บนเรือแคนเดอร์ของบริษัท Maersk ด้วยเช่นกัน
ทว่า เรือแคมป์ตัน ได้ปิดการส่งสัญญาณตำแหน่งเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม โดยบริษัท Maersk กล่าวว่า “เรือลำนี้ไม่มีกำหนดแวะจอดที่แอฟริกาใต้ และไม่ใช่เรื่องแปลกที่เรือจะปิดการส่งสัญญาณตำแหน่งด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย” ปัจจุบันเรือลำนี้อยู่ในมหาสมุทรอินเดีย เพื่อมุ่งหน้าไปยังสิงคโปร์
ทั้งนี้มีการคาดการณ์ว่าเรือแคมป์ตันจะจอดที่สิงคโปร์ในวันที่ 14 สิงหาคม ส่วนเรือแคนเดอร์จะเดินทางถึงสิงคโปร์ในวันที่ 22 สิงหาคม ก่อนที่ตู้คอนเทนเนอร์ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเต็มไปด้วยฝุ่นเตาเผาจะมุ่งหน้าไปยังประเทศไทย
“ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญมาก เนื่องจากสิงคโปร์และไทยจะต้องดำเนินการเพื่อหยุดยั้งเรือเหล่านี้...แอลเบเนียควรนำตู้คอนเทนเนอร์กลับคืน เพื่อให้แน่ใจว่าขยะจะไม่ถูกส่งออกอีกครั้งไปยังจุดหมายปลายทางอื่นๆ” จิม พักเก็ตต์ ผู้อำนวยการบริหารของ ‘Basel Action Network’ กล่าว