Tuesday, 8 July 2025
PoliticsQUIZ

‘ชัชชาติ’ เตือนม็อบห้ามเคลื่อนขบวน-ค้างคืน ชี้!! หากออกจากลานคนเมือง กทม.ไม่รับผิดชอบ

(16 พ.ย. 65) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมกิจกรรมที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการ กทม. (เสาชิงช้า) ถึงกรณีเปิดพื้นที่ให้ชุมนุมในช่วงการประชุมเอเปคบริเวณลานคนเมืองวันนี้เป็นวันแรก ว่า กรุงเทพมหานครมีหน้าที่รับนโยบายจากภาครัฐมาปฏิบัติเป็นหลัก โดยมีการวางกำลังกระจายเจ้าหน้าที่พร้อมประสานกับหน่วยงานต่าง ๆ ตลอดเวลา

“จากกระแสว่าจะมีการชุมนุมค้างคืน ผมขอย้ำว่าไม่มีการอนุญาตให้ค้างคืน การชุมนุมต้องเป็นไปตามนโยบายและข้อตกลง เรื่องนี้ได้มอบหมายให้พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก และ พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นผู้ดูแลความเรียบร้อย ซึ่งจากการประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการร้องขอให้เปิดพื้นที่ลานคนเมืองให้เป็นที่แสดงออกในการชุมนุม ประชาชนจะได้ไม่ต้องลงถนนหรืออาจไปกระทบต่อการเดินทางของผู้ร่วมประชุมเอเปค” นายชัชชาติ กล่าว

นายชัชชาติ กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าพื้นที่ลานคนเมืองทำให้ประชาชนแสดงออกได้ตามหลักประชาธิปไตย และไม่กังวลเพราะเคารพความคิดเห็นซึ่งกันและกัน การชุมนุมแสดงความเห็นต่างเป็นเรื่องที่สากลเข้าใจ และเป็นเรื่องที่สวยงามหากไม่แสดงออกด้วยความรุนแรง อย่างไรก็ตาม หากมีการเคลื่อนตัวออกนอกพื้นที่ที่กำหนด อำนาจหน้าที่จะเป็นของฝ่ายความมั่นคงในการจัดการดูแลทันที เพราะ กทม.ดูแลได้เฉพาะพื้นที่ที่กำหนดให้เท่านั้น และไม่มีการเชิญชวนให้ใครมาชุมนุม เพียงแต่เปิดพื้นที่ให้สามารถแสดงออกได้ ซึ่งได้เปิดมาตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครแล้ว

‘ตรีชฎา’ ซัด ‘ทิพานัน’ ใช้ตำแหน่งสาดโคลนเพื่อไทย ถาม!! หนุนคนทำรัฐประหาร ไม่ละอายใจบ้างหรือ?

‘ตรีชฎา’ สมเพช ‘ทิพานัน’ ใช้ตำแหน่งโทรโข่ง รบ.สาดโคลนใส่ร้ายพท. โวมีแต่นายกฯ จากการเลือกตั้ง ถามกลับยืนข้างคนทำรัฐประหารไม่อายบ้างหรือ

(16 พ.ย. 65) น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีที่ น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวหาพรรคพท.ว่าด้อยค่าการจัดประชุมเอเปค 2022 ของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ พร้อมใส่ร้ายความเท็จผู้อื่น เอาดีเข้า พล.อ.ประยุทธ์ว่าไม่ใช้เวทีประชุมเอเปคเพื่อหาผลประโยชน์เข้าตนเอง หรือ ตระกูลใดตระกูลหนึ่งที่เคยโกงชาติไปว่า เป็นอีกครั้งที่น.ส.ทิพานันใช้ตำแหน่งทีมโฆษกรัฐบาลสาดโคลนโจมตีทางการเมือง น่าสมเพช หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะไม่แต่งตั้งโฆษกแบบนี้เพื่อมาทำงานลักษณะนี้ ความจริงเรื่องการทำหน้าที่ประธานในการจัดการประชุมเอแปค 2022 ภาคประชาสังคมและพรรคเพื่อไทยชี้แนะให้รัฐบาลใช้โอกาสการเป็นเจ้าภาพให้ประชาชนได้ประโยชน์ เช่น วิธีการและเป้าหมายในการบรรลุข้อตกลงร่วมแบบทวิภาคีกับกลุ่มประเทศสมาชิกเอเปคเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ตกต่ำ เป็นหนึ่งในวิธีดึงดูดเม็ดเงินการลงทุนจากประเทศสมาชิก เพื่อให้คุ้มค่ากับเงินลงทุนที่ประเทศต้องสูญเสียจากการจัดงาน เป็นต้น 

น.ส.ตรีชฎา กล่าวต่อว่า แต่ความคิดที่ฝังแน่นและท่องจำจนเป็นนิสัยติดตัว ที่พยายามใส่ร้ายและพาดพิงถึงอดีตนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน เป็นการใส่ร้ายที่น่าเวทนาเป็นอย่างยิ่ง จึงขอฉายภาพให้น.ส.ทิพานันได้เห็นการทำหน้าที่ประธานในการจัดการประชุมเอเปคเมื่อปี 2545 ที่มีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และรัฐบาลในขณะนั้นทำหน้าที่จัดงาน ผู้นำแต่ละประเทศเห็นความสำคัญกับวาระการจัดงานของประเทศไทย ตอนนั้นผู้นำเขตเศรษฐกิจมาครบครัน ทั้งผู้นำสหรัฐฯ ผู้นำรัสเซีย รวมทั้งผู้นำของประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจมากมาย มีการจัดการประชุมอย่างสมบูรณ์แบบทุกด้าน เกิดผลการเจรจาจนสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจให้กับประเทศมากมาย จากนั้นยังใช้โอกาสฟื้นฟูหลังโรคซาร์ส คนไทยรู้ดีว่าเขตการค้าเสรีทำเพื่อคนไทยทั้งประเทศ มีแต่ น.ส.ทิพานันที่ไม่ว่าจะก้มหน้าหรือเงยหน้า ก็ท่องจำแต่เรื่องการทำเพื่อประโยชน์ของตระกูลใดตระกูลหนึ่ง พรรคเพื่อไทยไม่ได้ด้อยค่าการเป็นเจ้าภาพของประเทศไทย แต่สั่งสอนให้รู้ว่ามืออาชีพเขาทำอย่างไรมากกว่า และยังกังวลว่ารัฐบาลนี้จะสามารถเป็นเจ้าภาพได้ดี และคุ้มค่ากับสิ่งที่คนไทยไดัรับในการจัดการประชุมหรือไม่

‘โรม’ ประณามตร.จับ 3 นักศึกษามุสลิมช่วงเอเปก ชี้!! จับแบบเลื่อนลอย-ไร้หลักเกณฑ์ ขายขี้หน้าชาวโลก

(16 พ.ย. 65) ‘รังสิมันต์ โรม’ โฆษกพรรคก้าวไกล แสดงความเห็นต่อกรณีที่มีนักศึกษามุสลิมจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง 3 คนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าค้นที่พักก่อนควบคุมตัวไปที่ สน.หัวหมาก โดยทางตำรวจอ้างเหตุว่าอาจก่อความไม่สงบระหว่างการประชุม APEC ต่อมาเมื่อทั้ง 3 คนติดต่อทนายความส่วนตัวได้แล้ว ทางตำรวจแจ้งว่าหากลงลายมือชื่อยินยอมให้เข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและบันทึกประจำวันก็จะปล่อยตัวภายในวันนี้ (ล่าสุดได้รับการปล่อยตัวแล้ว)

รังสิมันต์ระบุว่า การเข้าค้นดังกล่าวนั้นเจ้าหน้าที่อ้างว่ามีหมายค้น ซึ่งทราบมาว่าสุดท้ายแล้วไม่พบสิ่งของที่เป็นความผิดหรือต้องสงสัยว่าจะไปก่อเหตุใด ๆ ได้ แต่การที่ตำรวจนำตัวนักศึกษาไปยัง สน.หัวหมากด้วยนั้นเป็นสิ่งที่เกินเลยกว่าเรื่องการค้นไปแล้ว เพราะอาจเข้าข่ายเป็นการจับ ซึ่งไม่มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ที่เข้าค้นนั้นมีหมายจับนักศึกษาทั้ง 3 คน และทั้ง 3 คนนี้ก็ไม่เคยมีคดีความมั่นคงมาก่อน การที่จะจับโดยที่ไม่มีหมายนั้นจึงต้องเป็นกรณีที่พบการกระทำความผิดซึ่งหน้าเท่านั้น

‘เปลว สีเงิน’ จวก ‘สื่อ – กลุ่มสามนิ้ว’ ป่วนเอเปค ซัด ดีแต่ทำตัวถ่วงชาติ แทนที่จะเป็นเจ้าบ้านที่ดี

เปลว สีเงิน นักหนังสือพิมพ์และคอลัมนิสต์ชื่อดัง เขียนบทความถึงกลุ่มคนบางกลุ่มที่พยายามปลุกม็อบให้ออกมาต่อต้านการประชุมเอเปค ที่กำลังจัดขึ้นในประเทศไทยในขณะนี้ ว่า 

ขอให้กูได้ 'ชังชาติ' เถอะ

'แขกบ้าน-แขกเมือง' ทยอยมาเหยียบชานเรือนแต่วาน (๑๖ พ.ย.๖๕) แล้วนะครับ

ประธานาธิบดีเวียดนาม 'นายเหวียน ซวน ฟุก' และภริยา เป็นท่านแรก ที่เดินมาถึง

ตามด้วย 'เจมส์ มาราเป' นายกฯ ปาปัวนิวกินี 'นายลี  เซียนลุง' นายกฯ สิงคโปร์

'นายเฟอร์ดินานด์ โรมูอัลเดซ มาร์กอส จูเนียร์' ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ 'นายกาบริเอล โบริซ ฟอนต์' ประธานาธิบดีชิลี

และ 'นายเอมมานูเอล มาครง' ประธานาธิบดีฝรั่งเศส

วันนี้ (๑๗ พ.ย.๖๕) เมื่อการประชุม G 20 ที่อินโดฯ จบ

ประธานาธิบดีจีน 'สี จิ้นผิง' และผู้นำอีก ๒๐ เขตเศรษฐกิจ รวมทั้งแขกรับเชิญของนายกฯ ก็จะทยอยมาถึงตามลำดับ

เพื่อเข้าร่วมประชุม APEC ระดับผู้นำ ระหว่าง  ๑๘-๑๙ พ.ย. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

เต็มที่ครับ...

คนไทยทุกคน พร้อมและตั้งอก-ตั้งใจทำหน้าที่ 'ประเทศเจ้าภาพ' ที่ดี แข็งขัน น่าชื่นใจจริง ๆ

แต่ก็นั่นแหละ ในมวลหมู่ดอกไม้ ย่อมมีหนอนจัญไร คอยชอนไชปะปน เป็นธรรมดา

ในขณะที่คนส่วนใหญ่ทั้งบ้าน-ทั้งเมือง ทำหน้าที่เจ้าบ้านที่ดี

ก็มีขบวนการ 'แดง-ส้ม' สามนิ้ว และ 'นางหน้ามึน' แก๊งขี้ข้าองค์กรต่างชาติ ตัวเดิม ๆ ออกมาป่วนบรรยากาศ

ที่จริง ก็รู้อยู่ 'พวกนี้-พวกไหน' กินน้ำข้าวกระถางใคร?

มันคือ 'ขยะ' ไม่ต่าง 'หมาในคอก'

อ้างเป็น 'รุ่นใหม่' จะมานำชาติ นำพวก 'ชาติชั่ว' ด้วยกันละพอได้ แต่ที่สะเออะ จะมานำประเทศชาตินั้่น

ไปเล่นกันไกล ๆ เลย ไป๊!

ตัวการ 'ชังชาติ-ล่มสถาบัน' มันเอาไปปั่นสมอง ป้อนวาทกรรม ๓-๔ ประโยค ให้ท่องไว้พ่น เป็นนกแก้ว-นกขุนทองเข้าหน่อย

'สื่อร่วมแก๊ง' เชิญไปออกจอ ก็เหมือนนังรุ้ง ที่เจอคำถามอาจารย์อานนท์คราวนั้น

รุ่นใหม่ 'ขยะเปื้อนสารพิษ' นี่เหมือนกัน พ้นจากที่เขาสอนให้ท่องจำแล้ว ไม่ต่างจาก 'สากกะเบือ' ตรงไหน?

ทำซ่ากันไปเถอะ....

แค่ลูกกิ้งก่า คอยังสั้น อย่าชูให้มันสูง ด้วยผยองมี "ไอ้สามสัส" เป็นแบ็กใหญ่ และ 'ลูกพี่ใหญ่' ของมัน แถว ๆ 'ถนนวิทยุ' จะคุ้มกะลาหัวได้

ไอ้พวกนี้ 'ตาบอดไม่กลัวเสือ' ขนานแท้จริง ๆ!

มันชุมนุมบ้าง พยายามจะเข้าไปบริเวณที่ประชุมบ้าง ไปขึงป้าย ชูป้ายประท้วงการประชุม ด้วยคำหยาบ ๆ บ้าง

ความจริง ที่ทำกันนั้น เจตนาเดียวที่พวกนี้ต้องการ คือ

เป็น 'อีเวนต์' ให้สื่อที่ร่วมขบวนการ

'ถ่ายภาพ' นำไปทำเป็นข่าวเผยแพร่ออกจอ ทำให้ภาพลักษณ์ประเทศเสียหาย 'ดิสเครดิต' นายกฯ ได้ นั่นคือความสำเร็จ

'วิน-วิน' ด้วยกัน........

เบอร์บัญชีใคร-บัญชีมัน นี่คือ 'ประเทศไทย' วันนี้ ที่เป็นอยู่!

แค่ 'ปลาเค็ม' มันยังสรรค์เป็นเรื่อง-เป็นประเด็นขึ้นมา 'เข่นฆ่า' บ้านเมืองตัวเองได้

ก็ไม่จำเป็นต้องหาเหตุผลอะไรมาแถ เพราะพฤติกรรมทนโท่ 'ซ้ำซาก' สมค่า-สมราคา ๒,๐๐๐ ล้านต่อปี ที่รัฐบาลจัดหามาให้

ทำหน้าที่ 'ก้อนกรวด' ในรองเท้าประเทศอย่างเท่ ๆ!

ผู้ทรงคุณสมบัติ ระดับชั้น 'กูรู' ด้านสื่อทั้งนั้น ตั้งแต่ ผอ.ลงไปถึงบอร์ดบริหารนโยบาย

แต่ไม่รู้จักการ 'เช็กข่าว ๒ ด้าน' ทั้งที่ต้นตอของข่าวอยู่ที่เชฟ 'ชุมพล แจ้งไพร' แต่กลับไปไล่สัมภาษณ์ร้านค้าปลาเค็มทั้งตลาดด้านเดียว

ทั้งที่ในความเป็นจริง ใครซื้อ ซื้อเอาไปไหน.....

ทั้ง 'คนซื้อ-คนขาย' ปลาเค็ม จะต้อง 'กรอกแบบสอบถาม' กันด้วยงั้นหรือ?

ทีขายข้าวจำนำ 'เจ๊ทูเจี๊ยะ' เป็นแสนล้าน ควรต้องสงสัยกลับไม่สงสัย ไม่ไปไล่เช็กทั้งปลายทาง 'เสี่ยเปี๋ยง' และต้นทาง 'ยิ่งลักษณ์' เหมือนปลาเค็มเลย

ไล่ถามร้านค้าอันเป็น 'ปลายทาง' นั่นก็ไม่ว่า

แต่เห็นแถลงการณ์ ชนิดองอาจ-ผึ่งผายว่า 'ไทยพีบีเอสเสนอข้อมูลอย่างถูกต้องรอบด้าน เป็นธรรม'

ขอโทษนะ อดไม่ได้จริง ๆ ขอถามนิด

แล้วที่ออกข่าว 'ด้านเดียว' โดยไม่สอบถามข้อเท็จจริงจากต้นตอข่าวคือเชฟ 'ชุมพล' อีกด้านแบบนั้นนะ

'รอบด้าน' หรือ 'รอบจัด' มิทราบ?

เรื่อง 'ปลากุเลาเค็ม' อยากรู้ ต้องมาถามผมนี่ เพราะผมนี่แหละทายาท 'ราชาปลากุเลาเค็ม' ตัวจริง-เสียงจริง

โตจำความได้ ก็เห็นพ่อเขาทำปลากุเลาเค็มกับปลากระบอกเค็มตากเป็นราวพรืด

ในกระบวนการปลาเค็ม ต้องยกให้ปลากุเลาเป็นราชา ปลาอินทรี ไว้กินตอนไม่มีอะไรจะกิน อันดับสอง ก็ต้อง 'ปลากระบอกเค็ม'

ข้อสำคัญ ต้องเอาปลาสดมาทำ ห้ามเอาปลาแช่เย็นมาทำเด็ดขาด ใครฝ่าฝืน ถือว่า 'ฝืนบัญชาสวรรค์'

ต้องจับตัวไปให้เชฟชุมพล 'โบยหลัง' ๓๐ ที!

'ดรามาปลาเค็ม' จบ ชนิดศพไม่สวยไปแล้ว มีโง่แล้วเสือกแซะโผล่มาอีกราย

"เมนูอาหารรับผู้นำ APEC เสิร์ฟคาเวียร์หรู จากปลาสเตอร์เจียน มันไทยตรงไหน?"

ไม่อยากอวดรู้ เอาที่คนรู้เขาโพสต์ไว้มาให้อ่านดีกว่า .........................

อาณาจักร โกวิทย์

'ปลาสเตอร์เจียน' สถานีวิจัยโครงการหลวงดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ สามารถเพาะเลี้ยงได้เมื่อ 17 ปีก่อน

ปัจจุบันเนื้อขายกิโลกรัมละ 800 บาท 

ส่วนไข่นำมาทำ 'คาเวียร์' ขายกิโลกรัมละ 6 หมื่นบาท  ต้องสั่งจองล่วงหน้า

การเพาะเลี้ยงต้องใช้เวลา 3 ปี เนื้อจะขายได้ ขณะที่ผลิตคาเวียร์ได้ ปลาต้องมีอายุ 7 ปีขึ้นไป และน้ำไหลเวียนตลอดเวลา

อาศัยน้ำจากน้ำตกบนดอยอินทนนท์และมีอากาศเย็นตลอดเวลา

'คาเวียร์' สถานีวิจัยโครงการหลวงดอยอินทนนท์ ถูกนำไปเป็นส่วนประกอบสำคัญเมนู

'กระทงทองไส้ครีมซอสและไข่ปลาสเตอร์เจียน' ในการประชุมเอเปกครั้งนี้

มีอะไรจะ 'ด้อยค่า-ขัดขา' ประเทศอีกล่ะ?

'เนื้อวากิว' ไง ไม่ยกมาโชว์โง่อีกล่ะว่า เป็นของญี่ปุ่นแท้ ๆ ไหงตีขลุมว่า 'วากิวไทย' ที่ใช้เลี้ยง APEC

ก็บอกซะเลย ที่โคราช 'บ้านเฮา' นี่แหละ เขาเลี้ยง 'โควากิว' เป็นผลิตภัณฑ์ชุมชน 'วากิวโคราช' โด่งดังทั้งบ้าน-ทั้งเมือง

อย่าดันทะลึ่งเอา 'หมี่กรอบข้าวซอยล้านนา' ที่เชียงใหม่มาโพสต์แซะ ว่าไทยไปเอา "ข้าวซอยของนิวยอร์ก" มาเคลมเป็นของไทยล่ะ

จะถูก ถ.สระอี บ.!

ผมเคยตาม 'พลเอกนิพนธ์ ภารัญนิตย์' รองประธานที่ปรึกษาโครงการพัฒนาราษฎรชาวไทยภูเขาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

ไปดู 'ศูนย์บริการและพัฒนาที่สูงปางตอง ตามพระราชดำริ' ที่แม่ฮ่องสอนเมื่อ ๒-๓ ปีก่อน

'พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร' มีพระราชดำริให้ตั้งขึ้น ตั้่งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๒๓

เป็นแหล่งเรียนรู้การใช้ประโยชน์ที่ดินบนพื้นที่สูง ปรับปรุงแหล่งน้ำ อนุรักษ์ทรัพยากรดินและน้้ำ การปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ รวมทั้งเพาะเลี้ยงปลาบนที่สูง

มีผู้ชำนาญการแต่ละด้านของกระทรวงเกษตรฯ คอยดูแลและวิจัยพืชพันธุ์และสัตว์

ที่ศูนย์เพาะเลี้่ยงปลา โอ้โฮ...ถ้าไม่เห็นด้วยตา ใครบอกก็ไม่เชื่อ มาเพาะพันธุ์และเลี้ยงปลาบนเขา ปลากดเงี้ย...แต่ละตัว โตเท่าขา!

และที่นี่ ทดลองเลี้ยง 'ปลาสเตอร์เจียน' ในบ่อซีเมนต์ด้วย

‘อนุสรณ์’ แซะ ‘บิ๊กตู่’ เตรียมย้ายไปค่ายใหม่ เย้ย!! ไปต่อกับ ‘พลังประชารัฐ’ มีแต่จะลำบาก

‘เพื่อไทย’ ชี้นโยบายพรรคการเมืองแค่พูดแล้วทำไม่พอ แต่ต้องทำอย่างถูกต้องด้วย แซะขนาด ‘ประยุทธ์’ ยังเตรียมขนก๊วนย้ายค่ายใหม่ เย้ยไปต่อพลังประชารัฐลำบาก

(17 พ.ย. 65) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. ... ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ช่วงหลังการประชุมเอเปคว่า ก่อนที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) จะมาโทษฝ่ายค้าน ควรหันกลับไปดูการทำงานร่วมกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลก่อน จนถึงขณะนี้ยังมีความเห็นต่างกันอย่างมากในหลายประเด็น และไม่ใช่เฉพาะเรื่องนี้ เชื่อว่ายิ่งใกล้วันยุบสภาจะยิ่งเกิดความขัดแย้งรุนแรงระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลมากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กับพรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งกำลังประสบกับปัญหาเผชิญกับสภาวะวิกฤติศรัทธาจากประชาชน หลายนโยบายที่หาเสียงไว้แล้ว ทำไม่ได้หรือไม่ได้ทำ คาดว่าในช่วงโค้งสุดท้าย จะหันกลับมาร่วมวงไพบูลย์ถล่มพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเอง เพราะอาจจะเหลือแนวทางที่เป็นทางเลือก และทางรอดสุดท้ายที่จะใช้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า 

เพจดัง ชี้!! Thai PBS สื่อจากภาษีคนไทย ที่นำเสนอความจริง 'ยังทำไม่ได้'

(17 พ.ย. 65) เพจ 'ฤๅ - Lue History' จากกรณีที่ Thai PBS เสนอข่าวเพื่อจับโป๊ะรัฐบาลเรื่อง 'ปลากุเลาตากใบ' ที่ถูกเลือกเป็นหนึ่งในเมนูอาหารสำหรับงานเลี้ยงกาลาดินเนอร์แก่ผู้นำต่างชาติในงานประชุม APEC 2022 ว่าไม่ได้เป็นปลาที่มาจากตากใบ ซึ่งเป็นการไปเอาข้อมูลสัมภาษณ์มาจากคนในพื้นที่ (บางคน) โดยไม่ได้สืบสาวต้นตอข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง

สุดท้าย Thai PBS โป๊ะแตกเอง เมื่อเชฟใหญ่ที่รับผิดชอบเมนูอาหารครั้งนี้ยืนยันด้วยตัวเองว่า ได้ซื้อวัตถุดิบปลากุเลาจากร้านค้าในพื้นที่ตากใบจริง พร้อมแสดงใบเสร็จสั่งซื้อชัดเจน

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ แค่เมนูอาหาร แต่มันสร้างผลกระทบถึงเศรษฐกิจภาพรวมของตากใบ รวมไปถึงภาพลักษณ์การประชุมระดับโลกที่ถูกด้อยค่า ที่จะต้องมาตามแก้ไขความเท็จที่ไม่ควรเกิดขึ้นจากการทำงานของสื่อไร้จรรยาบรรณ

จริง ๆ แล้วการสืบค้นหาข้อมูลจากต้นตอของแหล่งข่าว ถือเป็นพื้นฐานของการทำงานสื่อมวลชนด้วยซ้ำ ซึ่งในเคสนี้แค่ไปสอบถามข้อเท็จจริงจากหน่วยงาน หรือผู้รับผิดชอบโดยตรงก็จบแล้ว

แต่มาตราฐานแบบนี้กลับไม่มีเลยในการทำงานของ Thai PBS

ซ้ำร้ายยังมีข้อมูลมาด้วยว่า สื่อนี้มีการสนับสนุนช่องทางของขบวนการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างเปิดเผยอีกด้วย ซึ่งเราจะนำประเด็นนี้มาพูดคุยในครั้งต่อไป

‘ม็อบต้านเอเปค’ ป่วน ปะทะ คฝ.แยกอโศก พบส่วนใหญ่ล้วนหน้าเดิม - บางคนมีคดีติดตัว

จากกรณีที่นักกิจกรรมการเมืองและประชาชนที่เรียกตัวเองว่า 'เครือข่ายราษฎรหยุด APEC 2022' นำโดย น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ มายด์, นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ดาวดิน และแนวร่วมเครือข่ายต่าง ๆ เตรียมได้ฉวยโอกาสช่วงที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปค 2022 นัดชุมนุมขับไล่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา หลังจากห่างหายไปหลายเดือน ด้วยหวังส่งสารไปถึงผู้นำระดับโลกที่เข้าร่วมการประชุมเอเปค

ล่าสุด เมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 17 พ.ย. 65 พบว่า มีการรวมตัวกันของกลุ่มราษฎร 63 พร้อมแนวร่วมอีก 13 เครือข่าย จัดกิจกรรม What happening in Thailand? และพยายามจะฝ่าแนวกั้นเข้าไปบริเวณด้านหน้าอาคารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งเป็นสถานที่จัดประชุมให้ได้ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศให้ผู้ที่จะเข้าร่วมชุมนุมต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หากจะจัดชุมนุมจะต้องแจ้งการชุมนุม ส่วนจะเคลื่อนย้ายไปสถานที่ใดจะต้องแจ้งล่วงหน้า และห้ามชุมนุมกีดขวางการจราจร

ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า กลุ่มราษฎร 63 และแนวร่วม ประมาณ 60 คน ซึ่งรวมตัวกันที่บริเวณแยกอโศกมนตรีนั้น ล้วนเป็นบุคคลที่ออกมาชุมนุมเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ ออกจากตำแหน่ง และเชื่อมโยงกับขบวนการล้มล้างสถาบัน ซึ่งมีบางคนในกลุ่มนี้ที่ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 อาทิ นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข, น.ส.ณัฐนิช ดวงมุสิทธ์ หรือใบปอ และน.ส.เนติพร เสน่ห์ สังคม หรือ บุ้ง ทะลุวัง อยู่ในกลุ่มนี้ด้วย

นอกจากนี้ ทางฝ่ายความมั่นคง ยังพบว่ามีบุคคลซึ่งเป็นแกนนำกลุ่มราษฎร 63 ในพื้นที่อีกจำนวนมาก อาทิ นายณัฐพงศ์ มาลี, นางนภัสสร บุญรีย์, นายพนัส พลายบัว, นายกีรติ สโมรินทร์, นายสามารถ ปุยปัญจะ, นายเจษฎา ศรีปลั่ง, นายธัชพงศ์ แกดำ, นายธีรัตน์ พณิชอุดมพัชร์, นางธนพร วิจันทร์, นายกรกช แสงเย็นพันธ์, น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว, น.ส.อันนา อันนานนท์, นายพิชัย เลิศจินตวงษ์, นางสาคร คำแถลง, นายพิชัย เลิศจินตวงษ์, นางจิรัชยา สกุลทอง, นางเงินตา คำแสน, นายเอกชัย หงส์กังวาน, นางพรวลัย ทวีธนวาณิชย์, นายวสันต์ กล่ำถาวร, นายวีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล, นายสุรเมธ น้อยอุบล, นายกันต์ แสงทอง, นายเชน ชีวอบัญชา, นายแซม สามแมท, นายจิรภาส กอรัมย์, นายสมพร งามสง่า, น.ส.สุวรรณา ตาลเหล็ก

‘อัษฎางค์’ ฟาดพวก 3 นิ้ว รู้ดี ‘เรื่องเท็จ-ข่าวปลอม’ แต่ประโยชน์ของ APEC กลับอ้าง “ไม่รู้อะไรเลย”

(17 พ.ย. 65) นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า มันแปลกดีน่ะ ข้อมูลข่าวสารดีๆ มีรายงานอยู่ตลอดมา ทั้งจากภาครัฐและภาคสื่อมวลชน แต่คนบางคนหรือบางกลุ่มมักมองไม่เห็นหรือไม่เคยมอง แล้วก็มักพูดว่า ไม่เคยรู้เรื่องอะไรเลย เพราะรัฐไม่เคยชี้แจงแถลงไข แต่กับข่าวปลอม ข้อมูลเท็จ กลับรู้กันดีจริงๆ แถมยังเชื่อว่าเป็นข้อเท็จจริง

นายอนุชา บรูพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยถึงประโยชน์ที่ประเทศ และประชาชนไทยจะได้รับจากการเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปค APEC 2022 อันได้แก่

1.) ส่งเสริมการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยอย่างมีนัยสำคัญ กล่าวคือ ทำให้ธุรกิจทั้งรายเล็กรายใหญ่ได้เข้าถึงประโยชน์จากระบบเศรษฐกิจยุคใหม่ได้อย่างเต็มที่

2.) เนื่องจากการประชุมผู้นำเอเปคครั้งนี้ เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีที่ผู้นำเอเปคได้เดินทางมาพบหน้ากัน แบบตัวต่อตัว จึงเป็นโอกาสที่ดีที่ไทยได้แสดงศักยภาพ และความพร้อมให้โลกได้เห็นผ่านความสำเร็จในการจัดประชุมที่จะมีตลอดทั้งปี ท่ามกลางความท้าทายในสถานะการณ์โควิด-19 และสถานการณ์โลกที่ผันผวน

3.) เป็นโอกาสอันดีในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้สนใจกลับมาเที่ยงเมืองไทย ผ่านภาพความสำเร็จ การจัดประชุมที่จะมีตลอดทั้งปี ท่ามกลางความท้าทายในสถานะการณ์โควิด -19

4.) เป็นโอกาสในการนำเสนอภาพความโดดเด่นทางวัฒนธรรม อาหาร การแสดง และเอกลักษณ์ความสวยงามของไทยจะถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก ซึ่งจะส่งผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยวและงานบริการ

5.) ในช่วงสัปดาห์การประชุมเอเปคจะมีผู้นำเอเปคและผู้แทนจากต่างประเทศเดินทางมาเยือนไทยประมาณ 3,000 คน และสื่อต่างชาติอีกกว่า 2,000 คน

และนอกจากการประชุมผู้นำเอเปคครั้งนี้ ยังมีการประชุมที่เกี่ยวข้องอีกหลายรายการ อาทิ APEC CEO summit, ABAC, APEC SME ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ไทยได้ต้อนรับผู้นำจากหลายประเทศ ทั้งที่เป็นผู้นำเขตเศรษฐกิจและที่เป็นแขกพิเศษ ได้แก่ มกุฎราชกุมารและนายกรัฐมนตรีซาอุดีอาระเบีย และประธานาธิบดีฝรั่งเศส ซึ่งทุกคนที่มาร่วมงานประชุม ตลอดจนโลกทั้งโลกที่ติดตามข่าวสารในการประชุมในครั้งนี้ จะได้เห็นศักยภาพของเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน ซึ่งจะนำไปสู่โอกาสการค้าและการลงทุนที่เพิ่มมากขึ้น

6.) เป็นโอกาสให้รัฐบาลได้นำเสนอวิสัยทัศน์ และความมุ่งมั่นตั้งใจในการส่งเสริมความยั่งยืน นวัตกรรม ควบคู่ไปกับศิลปวัฒนธรรมที่งดงาม ความสำคัญ ความหวังและผลประโยชน์มหาศาลจากการประชุมเอแปก

รองศาสตราจารย์ ดร.ปิติ ศรีแสงนาม ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจระหว่างประเทศ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เขียนบทความบอกเล่าถึงความสำคัญของ APEC 2022 Thailand เอาไว้ว่า APEC (ย่อมาจาก Asia-Pacific Economic Cooperation) เป็นเวทีการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ที่มีความสำคัญระดับโลก มีเป้าหมายหลักเพื่อส่งเสริมการเปิดเสรีการค้าการลงทุน ความร่วมมือในด้านมิติสังคมและการพัฒนาด้านอื่น ๆ

‘จิราพร’ ชี้ ‘ประยุทธ์’ เป็นได้แค่ผู้จัดเอเปก แต่ไม่ได้เป็น ‘ผู้นำ’ ที่เชิดหน้าชูตาให้ประเทศ

‘จิราพร’ ชี้ ภาพลักษณ์เผด็จการประยุทธ์เป็นอุปสรรคในเวทีโลก เย้ยเป็นได้แค่ผู้จัดประชุมเอเปค แต่ไม่เป็นผู้นำที่เชิดหน้าชูตา ยกนโยบายเศรษฐกิจสองทางสมัยทักษิณทำให้จัดเอเปคแล้วปัง

นางสาวจิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด และกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 29 นี้ว่า ในอดีตประเทศไทยเคยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปคมาแล้ว 2 ครั้ง แต่ครั้งที่ได้รับการยอมรับว่าประสบความสำเร็จมากที่สุด คือการจัดการประชุมเมื่อปี 2546 ในสมัยอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ที่นอกจากจะโดดเด่นในการดำเนินนโยบายการต่างประเทศเชิงรุก สามารถแสดงบทบาทนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้ทั่วโลกต้องจับตามองไทย และพาผู้นำประเทศมหาอำนาจ และเขตเศรษฐกิจขนาดใหญ่มาร่วมเวทีเดียวกันได้สำเร็จแล้ว

อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประเทศไทยได้ประโยชน์สูงสุดจากเวทีการประชุมเอเปคในครั้งนั้น คือ รัฐบาลอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร มีวิสัยทัศน์ในการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจสองแนวทาง หรือ Dual Track Policy ที่เน้นให้ไทยแสวงหาประโยชน์จากการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ ควบคู่ไปกับการสร้างกลไกภายในประเทศให้แข็งแกร่ง จึงเกิดการผลักดันนโยบายอย่างเป็นระบบเพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากในประเทศให้เข้มแข็ง เช่น นโยบายหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ การพักชำระหนี้เกษตรกร กองทุนหมู่บ้าน รวมถึงนโยบายการเตรียมความพร้อมประเทศสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ฯลฯ โดยดำเนินการไปพร้อมกับการดำเนินนโยบายการทูตเชิงเศรษฐกิจ ใช้เวทีการประชุมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะโอกาสการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค ประสานประโยชน์เพื่อยกระดับนโยบายในประเทศเชื่อมโยงไปยังต่างประเทศ ทำให้เศรษฐกิจไทยที่เคยประสบปัญหาจากวิกฤตต้มยำกุ้งและการแพร่ระบาดของโรคซาร์ส สามารถกลับมาเติบโตแบบก้าวกระโดด จนเกือบเป็นเสือตัวที่ 5 ของเอเชีย แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าการพัฒนากลับต้องสะดุดหยุดลงเพราะการทำรัฐประหาร

ในขณะที่ รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้นำที่มาจากการทำรัฐประหารสืบทอดอำนาจ มีสถานะที่อ่อนด้อยไม่ได้รับการยอมรับในเวทีโลก และยังไม่มีนโยบายภายในประเทศที่ช่วยวางรากฐานให้โครงสร้างเศรษฐกิจไทยสามารถเติบโตในระดับนานาชาติได้ เน้นเพียงมาตรการระยะสั้น และการแจกเงิน ซึ่งไม่ใช่นโยบายที่สามารถช่วยพัฒนาประเทศได้อย่างยั่งยืน นับวันยิ่งทำให้คนจนในประเทศเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทะลุ 22 ล้านคน ท่ามกลางหนี้สาธารณะประเทศทะลุ 10 ล้านล้านบาท หนี้ครัวเรือนสูงเกือบ 15 ล้านล้านบาท 

'อนุสรณ์' ชี้ นโยบายพรรคการเมือง แค่พูดแล้วทำไม่พอ แต่ต้องทำอย่างถูกต้องด้วย

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. ... ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ช่วงหลังการประชุมเอเปก ว่า ก่อนที่พรรคภูมิใจไทยจะมาโทษฝ่ายค้าน ควรหันกลับไปดูการทำงานร่วมกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลก่อน จนถึงขณะนี้ยังมีความเห็นต่างกันอย่างมากในหลายประเด็น และไม่ใช่เฉพาะเรื่องนี้เชื่อว่ายิ่งใกล้วันยุบสภาจะยิ่งเกิดความขัดแย้งรุนแรงระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลมากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐซึ่งกำลังประสบกับปัญหาเผชิญกับสภาวะวิกฤติศรัทธาจากประชาชน หลายนโยบายที่หาเสียงไว้แล้ว ทำไม่ได้หรือไม่ได้ทำ คาดว่าในช่วงโค้งสุดท้าย จะหันกลับมาร่วมวงไพบูลย์ถล่มพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเองเพราะอาจจะเหลือแนวทางที่เป็นทางเลือกและทางรอดสุดท้ายที่จะใช้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ขนาดพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ ยังมีแนวโน้มจะโบกมือลา ขนลูกพรรคในกลุ่มก๊วนของตัวเองไปอยู่พรรคการเมืองใหม่ แสดงว่าชื่อชั้นของพรรคพลังประชารัฐและพรรคร่วมรัฐบาลขายไม่ได้และไปต่อลำบาก ซึ่งจะเป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกพรรคการเมืองที่จะนำเสนอนโยบายต่อพี่น้องประชาชน ไม่ใช่แค่พูดแล้วทำแต่ต้องทำอย่างถูกต้องไม่ใช่ทำผิดทิศผิดทางและไม่ก่อให้เกิดปัญหาต่อประเทศชาติและพี่น้องประชาชน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top