Saturday, 4 May 2024
PCT

ตำรวจ PCT ร่วมกับ นครบาล ขยายผลการจับกุมขบวนการผลิตแบงค์ดอลล่าห์ปลอม ยึดแท่นปั๊มเงิน ธนบัตร USD กว่า 10,000 ฉบับ ผู้ช่วยทูตสหรัฐฯ ขอบคุณ

วันนี้ ( 18 พ.ย.64) เวลา 11.30 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT, พล.ต.ท.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ฯ ,พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ฯ, พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.น. ,พล.ต.ต.ฉัตรชัย นันทมงคล ผบก.พฐก.สพฐ.ตร., พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8/หน.ชป.3 PCT และ นายคริสโตเฟอร์ โรห์ดี้ (Christopher Rohde) ผู้ช่วยฑูต/หัวหน้าสำนักงาน U.S. Secret Service ประจำสำนักงานกรุงเทพ ร่วมกันแถลงผลการสืบสวนขยายผลการจับกุมขบวนการผลิตธนบัตรดอลล่าร์สหรัฐอเมริกาปลอม โดยสามารถจับกุมนายทุนและผู้ร่วมขบวนการ ยึดแบงค์ดอลล่าร์ปลอมได้กว่า 10,000 ใบ คิดเป็นเงินไทย กว่า 30,000,000 บาท พร้อมบุกทลายโรงพิมพ์ได้อีก 1 แห่ง

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ฯ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้  ตำรวจ PCT และนครบาล ได้ร่วมกันจับกุมผู้ลักลอบจำหน่ายธนบัตร USD ปลอม และขยายผลไปตรวจค้นโรงงานผลิตที่ อ.บางเลน จ.นครปฐม จับกุมเจ้าของโรงงาน ยึดธนบัตรปลอมได้กว่า 36,000 ฉบับ คิดเป็นเงินไทยกว่า 100 ล้านบาท

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ฯ​ ยังกล่าวอีกว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. กำชับมาว่า ให้ขยายผล จับกุมผู้ร่วมขบวนการที่ยังเหลือทั้งหมด ซึ่งจากการสืบสวนทางโซเชียลมีเดียจนรู้ตัวนายทุนและช่างพิมพ์ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาล และในวันที่ 11 พ.ย.64 นำกำลังเข้าตรวจค้น 2 จุด

จุดที่ 1 ตรวจค้นและจับกุมนายทองมาก หรือช่างแม็ค (สงวนนามสกุล) ได้ที่บริเวณ ถ.พระราม 3 โดยช่างแม็คทำหน้าที่เป็น "ผู้ควบคุมการผลิตธนบัตรปลอม" จากนั้นได้พาตัวไปตรวจค้นบ้านพักที่ อ.เมือง จ.เพชรบุรี พบเครื่องพิมพ์และอุปกรณ์การพิมพ์ที่คาดว่าเตรียมไว้ใช้ผลิตธนบัตรปลอมได้อีกจึงได้ตรวจยึดไว้ตรวจสอบ

จุดที่ 2 ตรวจค้นและจับกุมตัว นายบุญช่วย หรือป๋าลี ขณะอยู่ที่บ้านพักในเขตห้วยขวาง กทม. โดยป๋าลีเป็น "นายทุนจัดหาเครื่องพิมพ์และอุปกรณ์การพิมพ์" ให้แก่โรงงานที่ อ.บางเลน

และต่อมา วันที่ 12 พ.ย.64 ได้ขยายผลจับกุมตัว นายกิจพัฒน์ หรือโปรจี (สงวนนามสกุล) พร้อมธนบัตร USD ปลอมกว่า 10,000 ฉบับ คิดเป็นเงินไทยกว่า 30,000,000 บาท จากการสอบสวนนายโปรจี รับว่า นายสิรภพ หรือเฮียเกรียง (สงวนนามสกุล) เป็นผู้นำธนบัตรปลอมมาให้จำหน่าย โดยมีป๋าลี (คนลาว) เป็นนายทุนให้เฮียเกรียง เช่าอาคารหลังหนึ่งใน ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ซึ่งน่าเชื่อว่าจะเป็นแหล่งผลิตธนบัตรปลอมอีกแห่งหนึ่งของขบวนการนี้

จากนั้น จึงได้ขออนุมัติหมายศาลไปตรวจค้นสถานที่ดังกล่าว พบเครื่องพิมพ์และอุปกรณ์การพิมพ์หลายรายการ ซึ่งมีร่องรอยหลักฐานการพิมพ์ธนบัตรดอลล่าร์สหรัฐปลอมหลงเหลืออยู่ จึงได้ตรวจยึดไว้ และจะได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับผู้ร่วมกระทำความผิดในข้อหา “ร่วมกันผลิตทำปลอมขึ้นซึ่งเงินตราไม่ว่าจะปลอมขึ้นเพื่อให้เป็นเหรียญกษาปณ์ ธนบัตร หรือสิ่งอื่นใด ซึ่งรัฐบาลต่างประเทศออกใช้หรือให้อำนาจให้ออกใช้" ซึ่งมีอัตราโทษสูงสุดถึงจำคุกตลอดชีวิต

รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ในการจับกุมขบวนการปลอมธนบัตรดอลล่าร์สหรัฐอเมริกาในครั้งนี้ หน่วย U.S.Secret Service ซึ่งเป็นหน่วยงานดูแลอาชญากรรมทางเศรษฐกิจประจำสถานฑูตสหรัฐอเมริกา ได้ส่ง จนท.ไปร่วมตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และตรวจสอบธนบัตรปลอม ซึ่งได้ให้ข้อมูลว่า ธนบัตรปลอมที่ผลิตจากโรงงานที่ อ.บางเลน จ.นครปฐม มีความเชื่อมโยงกับธนบัตรปลอมที่ผลิตจากโรงงานที่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี สอดคล้องกันกับข้อมูลทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเชื่อว่าเป็นกลุ่มขบวนการเดียวกัน ทั้งนี้จากการสืบสวนของศูนย์ PCT เชื่อว่า อาจจะยังมีกลุ่มผู้ลักลอบผลิตและจำหน่ายธนบัตรดอลล่าร์สหรัฐปลอมหลงเหลืออยู่ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เฝ้าระวังและสืบสวนติดตามเพื่อจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมายจนกว่าขบวนการนี้จะหมดไป

รอง ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า สำหรับการจับกุมคดีธนบัตรดอลล่าร์สหรัฐปลอมที่ผ่านมาในประเทศไทย นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2555 จนถึงปัจจุบัน มีจำนวนทั้งสิ้น 40 คดี ธนบัตรของกลางที่ตรวจพบโดยส่วนใหญ่จะเป็นธนบัตรรุ่นปี 2006 และจะมีรุ่นปี 2006A (รุ่นของธนบัตร) เป็นส่วนน้อย ลักษณะการตรวจพบความผิด คือ

 1.การล่อซื้อผู้ลักลอบจำหน่าย

 2.การนำเงินไปแลกที่ธนาคาร/ร้านค้า และ

 3.การผลิตธนบัตรปลอม

 ซึ่งจับกุมตรวจค้นโรงงานผลิตได้เพียงครั้งเดียวเมื่อปี พ.ศ.2559 ที่เขตสายไหม กทม.

นายคริสโตเฟอร์ ฯ กล่าวด้วยว่า กว่า 30 ปี ที่สำนักงาน United States Secret Service ได้ทำงานร่วมกันกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการสืบสวนอาชญากรรมที่เกี่ยวกับการปลอมแปลงธนบัตร การโกงธนาคาร และล่าสุด การฉ้อโกงในรูปแบบอาชญากรรมทางไซเบอร์ เมื่อเร็วๆนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจไทย ประสบความสำเร็จจากการสืบสวนจนพบแหล่งผลิตธนบัตรดอลล่าร์สหรัฐฯปลอม ที่มีการนำไปใช้แพร่หลายทั้งในไทยและในต่างประเทศ อันเป็นแหล่งผลิตใหญ่แห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย จากการสืบสวนได้นำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหา 8 รายด้วยกัน และสามารถยึดแท่นพิมพ์ที่ใช้ในการผลิตได้อีกหลายแท่น ผมอยากจะขอขอบคุณเพื่อนผู้บังคับใช้กฎหมายของเรา ที่ทำงานในเชิงรุก อย่างเข้มแข็ง จนนำไปสู่การจับกุมตัวผู้กระทำความผิด เพื่อเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายต่อไป

 

PCT ร่วมกับ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว และ บช.สอท. เปิดปฏิบัติการทลายแก๊งเว็บพนันจีน ลักลอบใช้เมืองไทยเป็นฐานการพนัน จับกุมพนักงานเว็บจีนกว่า 56 คน

ด้วยเจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร.ร่วมกับ สตม., บช.ทท.และ บช.สอท.สืบทราบว่า มีกลุ่มชาวต่างชาติชาวจีนได้ลักลอบใช้เมืองไทยเปิดเว็บไซต์พนันออนไลน์ชื่อ เห่อชิง (HengXin) และ คายยุน (Kaiyun) มีพนักงานกว่า 50 คน อยู่ที่หอพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ สวนหลวง และหัวหมาก กทม.จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานทำการขออนุมัติหมายค้นหอพักดังกล่าว และศาลอาญาพระโขนงอนุมัติหมายค้นให้เข้าทำการตรวจค้นในวันที่ 28 ต.ค. 2565

ต่อมาวันที่ 28 ต.ค.2565 เวลา 12.00 น.เจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. ร่วมกับ สตม., บช.ทท.,บช.สอท.
ได้ร่วมกันนำกำลังเข้าตรวจค้นอาคารเป้าหมายตามหมายค้น ปรากฏว่าพบคนจีนและคนมาเลเซียจำนวนหนึ่งกำลังทำงานเกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์ โดยทำหน้าที่ควบคุมดูแลความเรียบร้อยและดูแลระบบเซิร์ฟเวอร์ ต่อมาได้ขยายผลและพบว่ากลุ่มคนร้ายอีกจำนวนหนึ่งไปทำงานที่หอพักอีกแห่งหนึ่งบริเวณ แขวง หัวหมาก เขต บางกะปิ กทม. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหาบางส่วนเข้าขยายผล ซึ่งจากการเข้าตรวจค้นพบกลุ่มคนจีนอีกกว่า 56 คน ทำงานเป็นแอดมินเว็บไซต์พนันออนไลน์ทำหน้าที่ชักชวนลูกค้าชาวต่างชาติให้เข้าเล่นผ่านแอพพลิเคชั่นโซเชียล Let’s Talk และ Telegram

ทำกันได้ลง!! ‘สืบสวนนครบาล’ รวบสาวนายหน้า หลอกขายประกันโควิด-19 คนหลงซื้อเพียบ ตร.เตือน ตรวจสอบข้อมูลก่อนตกเป็นเหยื่อ

(9 มี.ค. 66) ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ ผอ.ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี PCT ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรม ที่กระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบ ซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก

โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น.ได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มผู้เสียหายว่าถูกคนร้ายขายประกันชีวิต โควิด-19 ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เป็นที่นิยม ราคาถูก จึงอาศัยโอกาสโพสต์ขายอ้างตนเป็นตัวแทนบริษัทประกันชีวิตในส่วนของโควิด-19 ที่มีชื่อต่าง ๆ ในลักษณะเงื่อนไขแบบเจอจ่ายจบผ่านช่องทางสื่อออนไลน์ Facebook กรมธรรม์ 590 บาท จ่าย 10,000 บาท ผู้เสียหายเป็นโควิด-19 นำกรมธรรม์ไปเบิกเงิน ทราบว่าเป็นกรมธรรม์ปลอมซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน

พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส. บช.น. หัวหน้าชุด PCT ชุดปฏิบัติการ 5 พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ รอง ผบก.สส. บช.น. พ.ต.อ.สมบูรณ์ สุขศรีดาวเดือน ผกก.สส.3 บก.สส. บช.น. พ.ต.ท.ชนะชัย ศิริสว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.3 บก.สส. บช.น. จับกุมนางริญญภัสร์ ผสมทรัพย์ อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงชลบุรี ที่ 292/2565 วันที่ 2 พ.ย.2565 ข้อหา “ฉ้อโกง โดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง ละโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวง, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยกระทำต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง” จับกุมได้ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ จับกุมได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 8/6 หมู่ที่ 9 ตลาดนัดสังกะสี ต.เทพารักษ์ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 8 มี.ค. เวลาประมาณ 10.30 น. ที่ผ่านมา

หลังคนร้ายประกอบอาชีพนายหน้าขายประกันชีวิต เนื่องจากสถานการณ์แพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ประกันโควิด-19 เป็นที่นิยม ราคาถูก และมีความคุ้มค่าเป็นอย่างมาก คนร้ายจึงอาศัยโอกาสโพสต์ขาย อ้างตนเป็นตัวแทนบริษัทประกันชีวิตในส่วนของโควิด-19 ที่มีชื่อต่าง ๆ ในลักษณะเงื่อนไขแบบ ‘เจอจ่ายจบ’ ผ่านช่องทางสื่อออนไลน์ Facebook และเมื่อมีผู้สนใจ จะทำการติดต่อดำเนินเอกสารกรมธรรม์ให้ แต่เมื่อผู้เสียหายมีสิทธิ์ใช้ประกันดังกล่าว และต้องการเบิกเงินประกันที่ผู้เสียหายต้องได้รับ พบว่า เอกสารกรมธรรม์ดังกล่าว เป็นเอกสารที่คนร้ายจัดทำขึ้นด้วยตนเอง ไม่ผ่านขั้นตอนของบริษัทประกัน ทำให้ไม่สามารถใช้การได้ ผู้เสียหายทราบว่า ตนเองนั้นถูกหลอกลวง จึงได้เดินทางแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดี

‘ผบช.กมค.’ ชี้!! PCT ทำคดี ‘มินนี่’ ถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมาย ไม่อยากพูดเยอะ เพราะนายกฯ ตั้ง กก.ตรวจสอบด้วยแล้ว

(29 ก.ย. 66) จากกรณี น.ส.ธันยนันท์ หรือ สุชานันท์ สุจริตชินศรี หรือ ‘มินนี่’ หนึ่งในผู้ต้องหาคดีเว็บพนันออนไลน์ ได้ออกมาเปิดใจกรณีการถูกเจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (PCT ) อย่างน้อย 2 นาย บุกค้นบ้านตอนตีสาม พร้อมยึดโทรศัพท์มือถือนำไปตรวจสอบก่อนมีภาพหลุดส่วนตัวถ่ายคู่กับนายตำรวจที่ถูกกล่าวหาพัวพันกับบัญชีม้าเว็บพนัน ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ล่าสุด พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผบช.กมค.) ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการ PCT กล่าวว่า เรื่องการสอบสวนได้ส่งให้พนักงานสอบสวนตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ทุกเรื่องควรจะอยู่ในสำนวนได้แล้ว เพราะตนได้ชี้แจงไปเยอะแล้ว ประกอบกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ตั้งคณะกรรมการมาตรวจสอบการปฏิบัติการในวันตรวจค้นด้วยแล้ว ซึ่งจะรอผลการตรวจสอบ

นอกจากนี้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ PCT เข้าตรวจค้นและจับกุม ‘มินนี่’ ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายทุกประการ

และเมื่อถามต่อว่า ตำรวจที่ชื่อ ‘เจ’ ที่มินนี่อ้างว่ายึดมือถือไปนั้นมีตัวตนจริงหรือไม่ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ได้ปฏิเสธตอบคำถามดังกล่าว บอกเพียงว่าทุกอย่างอยู่ในสำนวน ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการตามขั้นตอนของกฎหมาย แล้วขออนุญาตให้สัมภาษณ์เพียงแค่นี้ก่อน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top