Tuesday, 30 April 2024
NGO

NGO ต่างจาก Lobbyist อย่างไร??

เป็นที่ถกเถียงในสังคมมาพักใหญ่ๆ แล้ว เกี่ยวกับ 'พ.ร.บ. ควบคุม NGO' ที่คนบางกลุ่มบางพวกนำมาอ้างว่าจะลิดรอนสิทธิเสรีภาพในการชุมนุม การรวมกลุ่ม หรือรับเงินจากต่างชาติ จนนำมาซึ่งการประท้วงเพื่อให้พ.ร.บ.ฉบับนี้ไม่ถูกนำมาบังคับใช้

อย่างไรก็ตาม หลายประเทศทั่วโลกก็มีกฎหมายแนวๆ นี้ บังคับใช้ โดยเฉพาะประเทศเสรีตะวันตก อย่างเช่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย สหภาพยุโรป หรืออีกหลายประเทศ

อย่างในสหรัฐอเมริกา มีกฎหมายที่ชื่อว่า FARA (Foreign Agents Registration Act) ซึ่งเป็นกฎหมายเกี่ยวกับการขึ้นทะเบียองค์กรต่างชาติ องค์กรซึ่งเป็นตัวแทนของต่างชาติ หรือรับเงินต่างชาติเข้ามา ซึ่งเป็นกฎหมายเกี่ยวกับความมั่นคงล้วนๆ เพราะมีไว้ควบคุมการเข้ามาแทรกแซง หรือครอบงำ หรือมีอิทธิพลของต่างชาติในการเมืองสหรัฐอเมริกา

หากมองลึกเข้าไปถึงแก่นแท้ จะเห็นได้ว่า พ.ร.บ. ฉบับนี้ ต้องการให้ NGO มีความโปร่งใส และเปิดเผยว่า...
1. เอาเงินมาจากไหน?
2. ใช้เงินทำตามวัตถุประสงค์หรือไม่?
3. แสวงหาอำนาจรัฐ หรือเอื้อต่อกลุ่มการเมืองใดหรือไม่?

อีกนัยก็เพื่อเป็นการแยก NGO ที่ดี ออกจากพวกที่มีผลประโยชน์ทางการเมืองแอบแฝง 

กลัวอะไรถ้าบริสุทธิ์ใจจริง กับ กฎหมายเปิดเผยเงิน NGO | NEWS GEN TIMES ชวนคิด กับ กิตติธัช EP.54

✨ กลัวอะไรถ้าบริสุทธิ์ใจจริง กับ กฎหมายเปิดเผยเงิน NGO 
✨ ทำอะไรสักอย่างสิ!! ชุมชนผู้สูญเสียเหตุกราดยิงร้องขอ ด้าน ‘ไบเดน’ ตอบ “เราจะทำอะไรสักอย่าง”
✨‘ไทย’ จับมือ ‘เวียดนาม’ ยกระดับคุณภาพข้าวและยาง เพิ่มอำนาจต่อรองในตลาดโลก

NEWS GEN TIMES ชวนคิด กับ กิตติธัช

โดย อ.ต้อม - กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระและอาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

'หมอวรงค์' เปิดแผง สาวไส้พวกทำลายชาติ ชี้!! รับเงินต่างชาติ มีวิธีการบ่อนเซาะแยบยล

เมื่อวานนี้ (4 มิ.ย. 65) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก โดยมีรายละเอียดดังนี้ อุดมการณ์ชาติ ผมเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหว ของกลุ่มการเมืองกลุ่มหนึ่ง ที่พยายามปลุกระดมคนไทยด้วยกัน ให้เกลียดชัง ด้อยค่า อุดมการณ์ชาติ ซึ่งเป็นอุดมการณ์ ของความเป็นชาติไทย

คนกลุ่มนี้นับวัน มีการขยายตัว ทั้งจากกลุ่มการเมือง กลุ่มอาจารย์ เยาวชนคนรุ่นใหม่ สื่อมวลชน NGO ศิลปินดารา และ influencer แน่นอนว่า การขับเคลื่อนกิจกรรมทำลายอุดมการณ์ชาติ ย่อมหนีไม่พ้นการสนับสนุนจากต่างชาติ แต่แฝงมาในรูปแบบต่างๆ

เพื่อให้เกิดความเข้าใจ อุดมการณ์ชาติ เป็นเรื่องของความคิด ความเชื่อ ความศรัทธาของคนในชาติที่ยอมรับร่วมกัน ขณะเดียวกันยังสามารถยึดเหนี่ยว สมาชิกของคนในชาติ ไว้ร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว และเป็นแบบแผนปฏิบัติ ในทางดำเนินชีวิตที่ดีของคนในชาติ นำมาซึ่งจุดร่วมของความรักและสามัคคีร่วมกัน

อุดมการณ์ชาติ ในแต่ละชาติ จะไม่เหมือนกัน แต่อุดมการณ์ชาติ ของไทยเรา ที่เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวของคนไทยทั้งชาติ และปลูกฝังมาอย่างยาวนาน ก็คือสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ในวันนี้มีความชัดเจนขึ้นมาก ของแผนการจ้องทำลายอุดมการณ์ชาติของคนไทย

เราไม่ต้องพูดถึง สถาบันพระมหากษัตริย์ ที่คนกลุ่มนี้พุ่งเป้าทำลาย ผ่านการกระทำที่หยาบคาย ให้ร้าย ปล่อยเฟกนิวส์ ต้องการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ยกเลิกมาตรา ๑๑๒ รวมทั้งการนำเสนอการแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวดพระมหากษัตริย์ เพื่อด้อยค่าสถาบัน และทำลายล้างในที่สุด

ในส่วนสถาบันศาสนา ซึ่งเป็นเรื่องของศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ภารกิจที่เห็นกันชัดเจน ก็คือขบวนการจ้องทำลายสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้า ทั้งเรื่องหลวงปู่แสง พระกาโตะ ตามข่าวที่คนไทยรับทราบ เพื่อให้ศาสนาของชาติเสื่อมลง

ที่เลวร้ายที่สุดของขบวนการเหล่านี้ กำลังค่อยๆ บ่อนเซาะทำลายชาติ ซึ่งคำว่าชาติ ไม่เพียงหมายถึงแผ่นดินที่เป็นประเทศ แต่หมายถึงประชาชน รวมถึงรากเหง้า วัฒนธรรม ประเพณี ภาษาไทย อักษรไทย เลขไทย

ขบวนการเหล่านี้มีความแยบยลที่เสนอ เช่นอ้างการกระจายอำนาจ แต่กำลังแบ่งแยกชาติ ให้เลือกผู้ว่าราชการจังหวัด เหมือนเลือกผู้ว่าการรัฐ ซึ่งต้องเข้าใจว่า ผู้ว่ากทม. ไม่ใช่ผู้ว่าราชการจังหวัด เพียงแต่การเรียกชื่อให้คนเข้าใจผิด เพราะตำแหน่งนี้ไม่ต่างจากนายกมหานครกรุงเทพฯ

‘เพจดัง’ งัดหลักฐานแฉ ‘แอมเนสตี้’ หนุนม็อบประท้วงป่วนช่วง APEC 2022

(12 พ.ย. 65) เพจเฟซบุ๊ก The METTAD โพสต์ข้อความว่า #เรื่องใหญ่แล้วนะวิ สรุปพวกมรึงจะไม่ให้ประเทศสงบสุขบ้างเลยเลยใช่ไหม? ได้! งั้นเดี๋ยวจัดให้ หลังจากเก็บมือเก็บเท้า เจี๋ยมเจี๊ยมมาพักใหญ่ จนกระแสไล่แอมเนสตี้เริ่มซาลง นั่นล่ะฮะ คุณผู้ชม มันก็มากวนตีนเราอีกครั้ง

ล่าสุดแบบสด ๆ ร้อน ๆ มี เอกสารฉบับหนึ่ง ถูกเผยแพร่ออกมาโดยแอมเนสตี้เอง เอกสารนี้ชื่อว่า “PROTECT THE PROTEST - FLAGSHIP CAMPAIGN ON THE RIGHT TO PROTEST AND PEOPLE’S MOVEMENTS, OPERATIONAL PLAN JUNE 2022-DECEMBER 2023”

เอกสารนี้เกี่ยวกับอะไรน่ะเหรอ ข้อมูลชุดนี้คือ เอกสารที่แอมเนสตี้ได้กำหนดการแทรกแซงในหลายประเทศ โดยมีการกำหนดเป้าประสงค์ กำหนดวิธีการ และตั้งปฏิทินไทม์ไลน์ตั้งแต่กลางปี 2022 ไปจนถึงปลายปี 2023

และไทยก็เป็นหนึ่งในหลายประเทศที่ตกเป็นเป้าหมาย ในการปฏิบัติการเคลื่อนไหวสนับสนุนกลุ่มต่อต้านรัฐบาลไทยในทุกโอกาส โดยใช้ข้ออ้างเรื่อง ‘สิทธิเสรีภาพ’

นั่นหมายความว่า ทุกกลุ่มทุกก๊วนที่ออกมารวมตัวประท้วงช่วง APEC ก็อาจจะมีองค์กรอีแอบ หรือ แอมเนสตี้ ที่ช่วยสนับสนุนการเคลื่อนไหว เพราะตัวแอมเนสตี้ ร่างเป้าประสงค์ออกมาเองเลยว่า ต้องเคลื่อนไหวร่วมกับกลุ่มเล็กกลุ่มใหญ่ทุกกลุ่มในการประท้วง แล้วพวก ‘เครือข่ายราษฎร’ และ ‘Amnesty International Thailand’ ก็ทำตามตำราของมันจริงๆ ด้วย

ฉะนั้น เครือข่ายคนรุ่นใหม่ กลุ่มทะลุแก๊ส ทะลุฟ้า ทะลุแก๊ซ เครือข่ายพีมงพีมู๊ฟ หรือราษฎรหยุด APEC 2022 ไม่ว่ามรึงจะใช้ชื่อบ้าบออะไรก็ตาม มาก่อม็อบป่วนการประชุม APEC ก็เชื่อได้ว่า มาจากการสนับสนุน จากองค์กรต่างชาติเหล่านี้แน่นวลจ้ะพี่จ๋า

'นานาชาติ' วอน 'ยุติสงครามกลางเมือง-ลดการคว่ำบาตร' เปิดทางส่งความช่วยเหลือผู้ประสบภัยครั้งใหญ่ในซีเรีย

จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เมืองคาห์รามานมารัส ทางตอนใต้ของตุรเคีย เมื่อวันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา ไม่ได้มีแค่เฉพาะตุรเคียที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากเหตุการณ์นี้ แต่ยังมีซีเรีย ที่ได้รับความเสียหายรุนแรงจากภัยพิบัติครั้งนี้ไม่แพ้กัน ซึ่งล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิตเฉพาะในซีเรียแล้วมากกว่า 1,500 คน บ้านเรือนพังถล่มเสียหายเป็นจำนวนมากในหลายเมือง กระทบต่อการใช้ชีวิตของชาวซีเรียไม่ต่ำกว่า 4.5 ล้านคน

นานาชาติได้เร่งระดมส่งความช่วยเหลือไปยังประเทศที่ประสบภัย ซึ่งการส่งผ่านความช่วยเหลือไปยังตุรเคียไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่สำหรับซีเรีย ประเทศที่แตกสลายจากสงครามกลางเมืองนานร่วม 12 ปี ที่ยังอยู่ภายใต้การปกครองของประธานาธิบดี บาชาร์ อัล อัสซาด ที่ถูกชาติมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา และพันธมิตรชาติตะวันตกคว่ำบาตร กลายเป็นความท้าทายที่เดิมพันด้วยชีวิต และความหวังของประชาชนผู้ประสบภัยทั้งประเทศ

ซึ่งทั้งรัฐบาลสหรัฐฯ และ รัฐบาลซีเรีย ต่างก็ถูกตำหนิจากนานาชาติ ที่ใช้เงื่อนไขการคว่ำบาตร และความขัดแย้งทางการเมืองขัดขวางการส่งสิ่งของ และทุนสนับสนุนไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ 

โดย รัฐบาลซีเรีย ของผู้นำบาร์ชา อัล อัสซาด ประกาศว่ายินดีรับความช่วยเหลือจากทุกองค์กรในต่างประเทศ แต่ขอให้ส่งมายังศูนย์กลางที่กรุงดามัสกัสเท่านั้น ที่จะทำหน้าที่เป็นหน่วยงานกลางแห่งเดียวที่จะกระจายสิ่งของ และอุปกรณ์ช่วยเหลือไปยังเมืองต่าง ๆ ที่ประสบภัยด้วยตนเอง 

แต่ทว่า เน็ด ไพรซ์ โฆษกของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ทางสหรัฐฯ ยินดีส่งความช่วยเหลือให้ทั้งตุรเคียและซีเรีย แต่จะไม่ขอติดต่อผ่านรัฐบาลกลางที่กรุงดามัสกัส เพราะสหรัฐอเมริกาไม่รับรองว่า บาชาร์ อัล อัสซาด เป็นผู้นำที่ชอบธรรมตามกฏหมาย

ดังนั้น แม้ว่าวันนี้ซีเรียจะประสบภัยพิบัติร้ายแรงจากแผ่นดินไหว แต่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงมาตรการคว่ำบาตรจากทั้งสหรัฐฯ และพันธมิตรชาติยุโรปได้ ตราบใดที่ บาชาร์ อัล อัสซาด ยังคงอยู่ในอำนาจ

ส่วนการช่วยเหลือประเทศซีเรีย โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า จะประสานงานผ่านองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร (NGO) ต่าง ๆ ในพื้นที่เท่านั้น และกลายเป็นประเด็นที่ถูกตั้งคำถามอย่างมากว่า ด้วยกำลังคนและทรัพยากรที่มีของกลุ่ม NGO จะเพียงพอที่จะให้ความช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีได้อย่างไร

‘NGO’ สิทธิเด็กฯ ผุดแคมป์นานาชาติพันธุ์-ชนเผ่า ที่ จ.เชียงราย เปิดแล้ว 10 ห้อง รายได้ส่วนหนึ่งสมทบ ‘มูลนิธิเพื่อนลูกสาวไทย’

(27 ธ.ค. 66) ผู้บริหารจากองค์กรภาคเอกชนที่ทำงานด้านสิทธิเด็กหลายคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวอเมริกัน ได้ร่วมลงทุนสร้างแคมป์หรูหรา ‘Visama Mae Chan’ อยู่ติดกับป่าเขาใกล้ดอยจระเข้ เลขที่ 614 หมู่บ้านสันโค้ง หมู่ 10 ตำบลป่าตึง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ตั้งแต่เดือนเมษายน 66 จนแล้วเสร็จ และเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค. 2566 เป็นต้นมา

ซึ่งรูปแบบสิ่งปลูกสร้างที่พักแห่งนี้ดูแปลกตา สร้างอิงอยู่กับธรรมชาติของต้นไม้ ทุ่งนาและภูเขา บนเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 120 ไร่ รวมถึงที่พักและบริการต่างๆ ก็เน้นให้เข้ากับธรรมชาติ ไร้การให้บริการเรื่องโทรทัศน์ แต่ราคาค่าบริการในระดับเดียวกับโรงแรมขนาดใหญ่

โดย Visama Mae Chan ตั้งอยู่ห่างไกลชุมชนบ้านสันโค้งเข้าไปใกล้กับเขตป่า ด้านหน้าเป็นกอไผ่และใช้ไม้ไผ่ทำรั้ว มีทุ่งนาและเลี้ยงควายเผือกเป็นฉากทิวทัศน์ และด้านข้างมีอาคารต้อนรับ-ร้านอาหารเป็นเรือนไม้ 1 ชั้น ส่วนห้องพักจะอยู่ใต้ต้นไม้ เป็นสิ่งปลูกสร้างทรงยกสูงแต่ใช้ผ้าใบเต็นท์เป็นผนังหลัก มุ่งให้ผู้เข้าพักอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ แต่มีความเป็นเอกลักษณ์และหรูหรา หรือ ‘ลักชัวรีเต็นท์แคมป์แบบเอ็กซ์คลูซีฟ’

ปัจจุบันมีที่พักรูปแบบดังกล่าวที่สร้างแล้วเสร็จอยู่จำนวน 10 หลัง แบ่งเป็นเต็นท์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ที่อยู่ในเชียงราย คือ กลุ่มชาติพันธุ์อาข่า 7 หลัง, เย้า 1 หลัง, ลาหู่ 1 หลัง และ ลีซู 1 หลัง แต่ละเต็นท์มีขนาด 48-80 ตารางเมตร และมีเฉลียงขนาด 12-20 ตารางเมตร แล้วแต่ชนิดของเต็นท์

ภายในมีเตียงนอน ห้องน้ำ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ทันสมัยและหรูหรา แต่เข้ากับสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ โดยคิดค่าเข้าพักสำหรับเต็นท์อาข่าคืนละประมาณ 18,000 บาท และถ้าเป็นช่วงโปรโมชันลดเหลือ 13,600 บาท, เต็นท์เย้า 16,000 บาท, เต็นท์ลาหู่ 19,000 บาท และเต็นท์ลีซูประมาณ 40,000 บาท

ทุกเต็นท์จะไม่มีโทรทัศน์ให้เพื่อให้ผู้พักอยู่กับธรรมชาติอย่างสงบใจ แต่มีระบบอินเทอร์เน็ต หรือ WI-FI ให้ มีสถานที่นั่งพักผ่อนกลางทุ่งนาโดยไม่มีหลังคา เพื่อดูภาพยนตร์กลางแปลงพร้อมมีบริการเครื่องดื่มยามค่ำคืน

รวมทั้งมีกิจกรรมต่างๆ ให้ผู้เข้าพักได้ทำ เช่น ทำอาหารและทำความเข้าใจกับอาหารล้านนา, วาดภาพ, ปั้นดินเผาและงานมืออื่นๆ, ยิงธนู, ปลูกต้นไม้แล้วติดป้ายชื่อเพื่อให้ระลึกถึง, นวด-สปากลางทุ่งนา, ผจญภัยกลางแจ้ง, สระว่ายน้ำ, บริการนำเที่ยวสถานที่ต่างๆ ในเชียงราย ฯลฯ

ซึ่งบางรายการมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น วาดภาพประมาณ 3,200 บาท ฯลฯ โดยมีข้อมูลเผยแพร่และเปิดให้จองทาง https://maechan.visamalodges.com/ พร้อมระบุ รายได้ส่วนหนึ่งจะนำเข้าช่วยเหลือเด็กๆ ใน ‘มูลนิธิเพื่อนลูกสาวไทย’ ด้วย

‘Mr.Christopher Stafford’ หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Visama Mae Chan กล่าวว่า “เราตั้งใจให้ Visama Mae Chan เป็นสถานที่เต็นท์แคมป์แบบหรูหรา ซึ่งจะไม่เป็นเพียงแค่สถานที่ส่วนตัว แต่เป็นสาธารณะด้วย ทั้งนี้ เราพยายามเชื่อมโยงผู้เข้าพักกับอาหารไทย เพราะถือเป็นสิ่งที่อัศจรรย์มาก และในฐานะที่ตนอาศัยอยู่ในประเทศไทยมานาน 23 ปี ก็รู้สึกรักอาหารไทยที่มาจากทุกภูมิภาคของประเทศมาก”

ด้าน ‘นายสุพจน์ วงค์หนังสือ’ ผู้จัดการทั่วไป Visama Mae Chan กล่าวว่า “หลังจากเปิดให้บริการก็พบว่า มีนักท่องเที่ยวเข้าไปใช้บริการอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มเป้าหมายหลักของเราคือ ชาวอเมริกันและยุโรป แต่เราก็อยากประชาสัมพันธ์ให้ท้องถิ่นได้รับทราบด้วย”

ทั้งนี้ Visama Mae Chan เกิดจากผู้บริหารขององค์กรเอกชนที่ทำงานเพื่อช่วยเหลือเด็กๆ บางคนอยู่ในประเทศไทยมานานกว่า 20 ปี ได้พัฒนาพื้นที่นี้ทำธุรกิจ เพื่อนำรายได้ส่วนหนึ่งไปช่วยเหลือเด็กๆ ดังกล่าว ซึ่งนอกจากลักชัวรีเต็นท์แคมป์ทั้ง 10 หลังดังกล่าว แล้วยังมีแผนจะขยายออกไปอีก 10 หลังในภูเขาบริเวณใกล้กันด้วย โดยจะเริ่มดำเนินการขยายในปี 2567 ที่จะถึงนี้


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top