Saturday, 20 April 2024
Gigafactory

Gigafactory ฐานผลิตแบตฯ ใหญ่สุดในอาเซียน ภายใต้อภิมหาโปรเจกต์ล่าสุดของ EA

“วันนี้ประเทศไทยของเรา กำลังจะมีโรงงานผลิตแบตเตอรี่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ใหญ่กว่าโรงงานแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่สหรัฐอเมริกา ถึง 1.4 เท่า ด้วยเงินลงทุนที่ถูกกว่า ก็ทำให้เราสามารถผลิตแบตเตอรี่ได้ในราคาที่ถูกกว่า นั่นหมายความว่าเราก็จะส่งออกแบตเตอรี่นี้ออกไปต่างประเทศได้ ถ้าคนไทยทำได้จริง ๆ ทำไมคนไทยจะเป็นผู้ชนะบ้างไม่ได้”

นี่คือคำกล่าวของ ‘สมโภชน์ อาหุนัย’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ผู้บุกเบิกและพัฒนาการนำ ‘พลังงานสะอาด’ หรือ ‘พลังงานทดแทน’ มาใช้ขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมเป้าหมายในประเทศไทย ทั้งอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า โดยพัฒนาแบรนด์ยานยนต์ไฟฟ้าสัญชาติไทย MINE Mobility ด้วยสโลแกน MISSION NO EMISSION ซึ่งไม่ได้มีแค่รถยนต์ส่วนบุคคลเท่านั้น แต่ในปี 2564 นี้ แบรนด์ MINE ได้เปิดตัว MINE Smart Ferry เรือโดยสารไฟฟ้า สายแรกแห่งลำน้ำเจ้าพระยา ที่เป็นนวัตกรรมฝีมือคนไทย 100%

...และวันนี้ เขากำลังจะพาประเทศไทยเข้าไปสู่โอกาสใหม่แห่งอนาคต ภายใต้ Gigafactory โรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนและระบบกักเก็บพลังงานแบบครบวงจร ทันสมัย มีกำลังการผลิตขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน!!

>> อนาคตประเทศไทย ภายใต้โรงงานผลิตแบตฯ สุดยิ่งใหญ่แห่งอาเซียน

12-12-2021 หรือวันที่ 12 เดือน 12 ที่ผ่านมา ได้กลายเป็นอีกหนึ่งวันที่ประเทศไทยต้องบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ เมื่อ EA ประกาศตอบสนอง New S-Curve ของประเทศไทย ด้วยการเปิดโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนและระบบกักเก็บพลังงานแบบครบวงจร ทันสมัย มีกำลังการผลิตขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ภายใต้ ‘อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย)’ ซึ่งจะตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมบลูเทคซิตี้ (Bluetech City) กิจการของ EA ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา 

สมโภชน์ เล่าให้ฟังถึงเหตุผลของการตั้งโรงงานแห่งนี้ว่า...

โลกเราทุกวันนี้ ร้อนจนกระทั่งไม่รู้ว่ามนุษยชาติจะอยู่บนโลกนี้ได้หรือไม่ แต่บางคนก็ยังพูดว่าตอนนี้ น้ำมันถูก มีความจำเป็นอะไรที่เราต้องไปซื้อพลังงานทดแทนมาใช้ 

ฉะนั้นผมว่า วันนี้ไม่ใช่เรื่องของอะไรถูก อะไรแพง แต่มันจะเป็นเรื่องที่บอกว่า มนุษย์เราจะอยู่ต่อไปบนโลกนี้ได้อย่างไร

ปัจจุบันการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน ถูกลงเรื่อย ๆ ถูกจนกระทั่งสามารถผลิตออกมาได้ถูกกว่าการใช้น้ำมัน การใช้ก๊าซธรรมชาติ หรือแม้กระทั่งถ่านหินเสียอีก

แต่ปัญหามันมีอยู่ข้อเดียว คือ พลังงานทดแทน เป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน เวลาไม่มีแดด โซลาร์เซลล์ ก็ไม่ผลิตกระแสไฟฟ้า เวลาไม่มีลม กังหันลม ก็ไม่ผลิตกระแสไฟฟ้าเช่นกัน

แต่มนุษย์เรา ต้องการไฟฟ้าในเวลาที่เราต้องการ เมื่อกลับถึงบ้าน รู้สึกร้อน ใคร ๆ ก็อยากเปิดแอร์ เวลากลางคืน ทุกคนก็อยากมีไฟฟ้าใช้ แบตเตอรี่ก็จะทำหน้าที่เก็บพลังงานไฟฟ้าเวลาที่เราไม่ได้ใช้ และจะจ่ายกระแสไฟฟ้าออกมาเวลาที่เราต้องการ ถ้าเราสามารถทำขั้นตอนนี้ได้ถูกลง นั่นคือ เราไม่มีความจำเป็นต้องใช้น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ หรือแม้กระทั่งถ่านหิน

แน่นอนว่า บางคนบอกอาจจะบอกว่า แบตเตอรี่ ราคายังแพงอยู่ ไว้เดี๋ยวเวลาพลังงานชนิดนี้ถูก ค่อยไปผลิตเอามาใช้ก็ได้ รอก่อน แต่ผมมองว่าความคิดแบบนี้ทำให้เราเป็นผู้ตามเรื่อยไป และประเทศไทย ถ้ายังคิดแบบนี้ เราก็ยังต้องเป็นผู้ซื้อตลอดไป

ยิ่งไปกว่านั้น หากเราต้องการจะหลุดพ้นจาก Middle Income Trap เราไม่มีทางเลือกหรอกครับที่จะพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเราเองขึ้นมาให้ได้ เราต้องมีแรงของตัวเอง เพื่อเพิ่ม Value added หรือสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับประเทศ เพื่อให้ประชาชน พี่น้องชาวไทย มีรายได้ที่ดีขึ้น ทำให้ปัญหาสังคมและเศรษฐกิจของประเทศหายไปได้

‘ก.อุตฯ’ เปิดโรงงานผลิตแบตฯ ใหญ่สุดในอาเซียน เตรียมดันไทยสู่สังคมพลังงานสะอาดยั่งยืน

ไม่นานมานี้ บริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด จังหวัดฉะเชิงเทรา นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.กระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานพิธี เปิดโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน และระบบกักเก็บพลังงานแบบครบวงจร ทันสมัย มีกำลังการผลิตขนาดใหญ่ที่สุด ในภูมิภาคอาเซียน โดยมี นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.กระทรวงแรงงาน, นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี, นายกวิน ทังสุพานิช เลขานุการรัฐมนตรีพลังงาน, รองศาสตราจารย์ คุณหญิงสุมณฑา พรหมบุญ อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา, นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัด ฉะเชิงเทรา พร้อมผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และคณะผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมในพิธี

นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทพลังงานบริสุทธิ์จำกัด (มหาชน) หรือ EA ผู้นำนวัตกรรมด้านพลังงานหมุนเวียน-พลังงานไฟฟ้าและยานยนต์ไฟฟ้า กล่าวว่า โรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนและระบบกักเก็บพลังงาน จะเป็นหัวใจสำคัญของการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle) และการนำพลังงานหมุนเวียนที่มีเสถียรภาพเข้ามาใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยได้ออกแบบให้โรงงานแห่งนี้ใช้ระบบที่ทันสมัย เพื่อให้สามารถดำเนินการผลิตได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ รวมทั้งยังสามารถปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงขั้นตอนการผลิตได้ง่ายขึ้น เพื่อตอบโจทย์เทคโนโลยีในอนาคต อีกทั้งโรงงานยังเน้นแนวคิดที่ใช้พลังงานในการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ ลดของเสียที่เกิดจากกระบวนการผลิต มุ่งเน้นการรีไซเคิลในกระบวนการผลิตให้มากที่สุด โดยได้รับความร่วมมือจาก บริษัท อมิตา เทคโนโลยี อิงค์ (ไต้หวัน) ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนในไต้หวันมากว่า 20 ปี

ทั้งนี้ กลุ่มพลังงานบริสุทธิ์ได้เข้าร่วมทุน ถ่ายทอดประสบการณ์และเทคโนโลยีในการสร้างโรงงานจนเป็นผลสำเร็จ ผ่านบริษัทย่อยภายใต้ ชื่อ บริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด มีกำลังการผลิตขนาดใหญ่มากขึ้นในระดับ World Class เพื่อผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน ชนิด Pouch Cell ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่และวัสดุที่มีความปลอดภัยสูงในการผลิตเซลล์แบตเตอรี่ให้สามารถจุพลังงานได้สูง มีน้ำหนักเบา มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ไม่มีส่วนประกอบของสารที่เป็นอันตราย เช่น กรดหรือตะกั่ว และใช้เทคนิคพิเศษในการผลิตเซลล์ เมื่อหมดอายุการใช้งาน นำไปรีไซเคิล ด้วยการคัดแยกแผ่นขั้วบวกและขั้วลบได้ง่าย เพราะเป็นแบตเตอรี่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้แบตเตอรี่ของอมิตายังออกแบบให้เข้ากันกับเทคโนโลยีแบบ Ultra-Fast Charge ที่รองรับการชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ได้ภายในเวลาเพียง 15 นาที พร้อมรองรับการชาร์จได้สูงถึง 3,000 รอบ ที่จะเป็นจุดเด่นสำหรับรองรับการใช้งานของยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ ซึ่งปัจจัยเรื่องเวลาเป็นสิ่งสำคัญในการใช้งานอย่างคุ้มค่าที่สุด”

ความภาคภูมิใจของคนไทย!! เปิดเส้นทางฐานผลิตแบตฯ ใหญ่สุดในอาเซียน ใต้แนวคิดปั้น ‘ศก.-พลังงาน’ แห่งอนาคตจาก EA

“หากวันนี้ประเทศไทย มีโรงงานผลิตแบตเตอรี่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ใหญ่กว่าโรงงานแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่สหรัฐอเมริกา ถึง 1.4 เท่า ด้วยเงินลงทุนที่ถูกกว่า จะทำให้สามารถผลิตแบตเตอรี่ได้ในราคาที่ถูกกว่า และส่งให้ไทยสามารถเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ในการส่งออกแบตเตอรี่ไปต่างประเทศได้ในอนาคต” 

นี่คือความมุ่งมั่นจาก ‘สมโภชน์ อาหุนัย’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA (Energy Absolute) ธุรกิจไทยผู้บุกเบิกและพัฒนาการนำ ‘พลังงานสะอาด’ หรือ ‘พลังงานทดแทน’ มาใช้ขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมเป้าหมายในประเทศไทย รวมถึงอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เช่น กลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า 

เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ความมั่นใจหรือแค่คำพูด แต่เป็นภารกิจของ EA ในการพาประเทศไทยเข้าสู่โอกาสใหม่แห่งอนาคต ภายใต้ Gigafactory โรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนและระบบกักเก็บพลังงานแบบครบวงจร ทันสมัย ซึ่งมีกำลังการผลิตขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน!!

12-12-2021 หรือวันที่ 12 เดือน 12 ปี 2564 ที่ผ่านมา เป็นอีกหนึ่งวันที่ประเทศไทยต้องบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ เมื่อ EA ประกาศตอบสนอง New S-Curve ของประเทศไทย ด้วยการเปิดโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนและระบบกักเก็บพลังงานแบบครบวงจร ทันสมัย มีกำลังการผลิตขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ภายใต้ ‘อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย)’ ซึ่งจะตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมบลูเทคซิตี้ (Bluetech City) กิจการของ EA ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา

CEO แห่ง EA อย่าง สมโภชน์ ยอมรับว่า การที่เขาเลือกตั้งโรงงานแห่งนี้ เพราะเขามองเห็นว่า แม้ทิศทางของโลกจะหันหาเข้าสู่การใช้พลังงานทดแทน แต่พลังงานทดแทนที่ต้องผลิตให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ชีวิตคน ก็ยังไม่เสถียร

นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ EA ภายใต้ สมโภชน์ เบนเข็มเข้าโฟกัสโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน เพื่อตอบโจทย์การใช้พลังงานที่มีความเสถียร 

แน่นอนว่า ในปัจจุบันเริ่มมีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน และราคาต้นทุนก็ถูกลงเรื่อยๆ เรียกว่าถูกจนกระทั่งสามารถผลิตออกมาได้ถูกกว่าการใช้น้ำมัน การใช้ก๊าซธรรมชาติ หรือแม้กระทั่งถ่านหินเสียอีก แต่ปัญหามันติดอยู่ที่ว่า พลังงานทดแทน เป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน เวลาไม่มีแดด โซล่าร์เซลล์ ก็ไม่ผลิตกระแสไฟฟ้า หรือแม้แต่เวลาไม่มีลม กังหันลม ก็ไม่ผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยเช่นกัน

“มนุษย์เรา ต้องการไฟฟ้าในเวลาที่เราต้องการ เมื่อกลับถึงบ้าน รู้สึกร้อน ใครๆ ก็อยากเปิดแอร์ เวลากลางคืน ทุกคนก็อยากมีไฟฟ้าใช้ แบตเตอรี่ก็จะทำหน้าที่เก็บพลังงานไฟฟ้าเวลาที่เราไม่ได้ใช้ และจะจ่ายกระแสไฟฟ้าออกมาเวลาที่เราต้องการ ถ้าเราสามารถทำขั้นตอนนี้ได้ถูกลง นั่นคือ เราไม่มีความจำเป็นต้องใช้น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ หรือแม้กระทั่งถ่านหินอีกเลย และแบตเตอรี่ คือ คำตอบของเรื่องนี้

“ถึงกระนั้น บางคนบอกอาจจะมองว่า แบตเตอรี่ ราคายังแพงอยู่ ไว้เดี๋ยวเวลาพลังงานชนิดนี้ถูก ค่อยไปผลิตเอามาใช้ก็ได้ รอก่อน แต่ผมมองว่าความคิดแบบนี้ทำให้เราเป็นผู้ตามเรื่อยไป และประเทศไทย ถ้ายังคิดแบบนี้ เราก็ยังต้องเป็นผู้ซื้อตลอดไป

“ยิ่งไปกว่านั้น หากเราต้องการจะหลุดพ้นจาก Middle Income Trap มันก็มีแค่ทางเลือกเดียว คือ การพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเราเองขึ้นมาให้ได้ เราต้องมีแรงของตัวเอง เพื่อเพิ่ม Value added หรือสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับประเทศ เพื่อให้ประชาชน พี่น้องชาวไทย มีรายได้ที่ดีขึ้น ทำให้ปัญหาสังคมและเศรษฐกิจของประเทศหายไปได้”


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top