Friday, 3 May 2024
Crypto

Crypto ร่วงแรง!! หลังนักลงทุนหวั่น FTX ล้มละลาย ฉุดราคา 'BTC-ETH' หลุดต่ำสุดใหม่ในรอบปีนี้

ราคา Crypto กำลังลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยสาเหตุหลักมาจากการที่นักลงทุนกังวลต่อการล้มละลายของ FTX และสถานะของเงินทุนของลูกค้า ฉุดให้ราคา BTC และ ETH ร่วงลงอย่างรุนแรง สร้างจุดต่ำสุดใหม่ในรอบปีนี้

จากการเปิดเผยของ cointelegraph ระบุว่าราคา Crypto ลดลงทั่วทุกกระดานเทรดในวันที่ 8 พฤศจิกายน เนื่องจากความกังวลในกระแสข่าวการล่มสลายของ FTX กระดานเทรดคริปโตชื่อดังที่สั่นคลอนความเชื่อมั่นนักลงทุน โดยเฉพาะประเด็นการโต้เถียงของเหรียญ FTT ซึ่งเป็นเหรียญคู่บุญประจำกระดานของ FTX และการออกมาให้ข้อมูลของ Alameda ซึ่งส่งผลกระทบต่อตลาด crypto ทั้งหมด

ก่อนหน้านี้ในวันนั้น Bitcoin (BTC), Binance coin (BNB), Ethereum (ETH), FTX token (FTT) และ Solana (SOL) กลับขึ้นมารีบาวด์ได้ในช่วงสั้น ๆ หลังจากมีข่าวว่า Binance จะเข้าซื้อกิจการของ FTX แต่การเด้งกลับเกิดขึ้นมานั้นก็ยังคงแกว่งตัวผันผวนต่อเนื่อง

ในขณะที่เขียน FTT ตกลงต่ำกว่าเครื่องหมาย 7 ดอลลาร์ซึ่งขาดทุน 70% ในวันนั้น ขณะที่ราคาโซลานายังอยู่ภายใต้แรงกดดัน โดยต้องเผชิญกับการปรับฐาน 18% เนื่องจากซื้อขายต่ำกว่า 25 ดอลลาร์ หลังจากข่าว Binance จะซื้อกิจการ FTX ขณะที่ BNB ดูเหมือนจะเป็นเหรียญเดียวที่ไม่ได้รับผลกระทบในวันนี้ อย่างไรก็ตามการชะลอตัวของตลาดไม่ได้สำรองโทเค็นการแลกเปลี่ยนซึ่งปัจจุบันซื้อขายที่ 328 ดอลลาร์ซึ่งสะท้อนถึงการสูญเสีย 2.6%

นอกจากนี้ความกังวลเกี่ยวกับงบดุล FTX ได้ทำให้ตลาดมีการพลิกกลับอย่างรวดเร็วหลังจากที่ Binance ประกาศเข้าซื้อกิจการของ FTX ซึ่งทำให้ตลาดปรับตัวสูงขึ้น โดยจากรายงานพบว่า FTX มีความพยายามในการระดมทุนมากถึง 6 พันล้านดอลลาร์เพื่อโปะช่องว่างในงบดุล ซึ่งทำให้ข้อตกลง และสถานะทางบัญชีตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤติ

ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์กำลังเปรียบเทียบความคล้ายคลึงกันระหว่างการดำเนินการของ FTX ในปัจจุบัน ซึ่งมีช่องว่างด้านงบประมาณขนาดใหญ่ และสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นคล้ายกับ Terra Luna ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับนักลงทุนอย่างมากเมื่อช่วงกลางปี โดยความหวาดกลัวเหล่านี้ได้เพิ่มความกังวลให้กับนักลงทุนจำนวนมาก เกี่ยวกับอุตสาหกรรมคริปโตเคอเรนซีโดยรวม

>> ภัยคุกคามจากกฎระเบียบเขย่าตลาดคริปโตอย่างต่อเนื่อง

อุตสาหกรรมคริปโตเคอเรนซีและหน่วยงานกำกับดูแลมีประวัติที่ไม่สอดคล้องกันเนื่องจากความเข้าใจผิดต่าง ๆ หรือไม่ไว้วางใจในกรณีการใช้งานจริงของสินทรัพย์ดิจิทัล โดยหากไม่มีกรอบการทำงานสำหรับกฎระเบียบของภาค crypto ในประเทศและรัฐต่าง ๆ มีนโยบายที่ขัดแย้งกันมากมาย เกี่ยวกับวิธีการจัดประเภท cryptocurrencies เป็นสินทรัพย์และสิ่งที่ถือเป็นระบบการชำระเงินทางกฎหมาย

อย่างไรก็ดีการขาดความชัดเจนในเรื่องนี้ ส่งผลต่อการเติบโตและนวัตกรรมภายในภาคส่วน และนักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่าการรวมกลุ่มของ cryptocurrencies หลักๆไม่สามารถเกิดขึ้นได้จนกว่าจะมีการออกกฎหมายที่เข้าใจกันในระดับสากลและเข้าใจมากขึ้น

Warren Buffett ชี้!! Crypto เป็นเพียงแค่เหรียญพนัน แต่ยังมีคนทำเรื่องโง่ๆ เพียงเพราะหวังรวยแบบข้ามคืน

(14 เม.ย. 66) World Maker เผยมุมมองของนักลงทุนระดับตำนานอย่างปู่ Warren Buffett ซึ่งมองว่า “Crypto เป็นเพียงเหรียญพนัน” ที่ไม่เคยมีมูลค่าอะไรจริง ๆ เลยแม้แต่น้อย ! หลังจากก่อนหน้านี้ออกมากล่าวชัดเจนว่าอนาคตของ Crypto จะพบจุดจบที่เลวร้าย !

ปู่กล่าวว่า “ได้เห็นคนจำนวนมากทำเรื่องโง่ ๆ มาตลอดชีวิต เช่น การซื้อล็อตเตอรี่” (ซึ่งมีโอกาสถูกรางวัลน้อยมาก) และรู้สึกเห็นใจที่คนส่วนใหญ่มีความคิดว่าจะรวยได้รวดเร็วแบบข้ามคืน ! พร้อมทั้งกล่าวว่า Bitcoin หรือ Crypto ก็แทบไม่ต่างกันเลย มันเป็นการพนันล้วน ๆ

นอกจากนี้ยังกล่าวอีกว่า “สัญชาตญาณในการพนันของคนนั้นแข็งแกร่งมาก” โดยเฉพาะเมื่อเห็นเรื่องราวของคนที่รวยได้แบบข้ามคืนจากการพนัน จะยิ่งทำให้ผู้คนอยากพนันมากขึ้นไปอีก เพราะคิดว่าตัวเองจะเป็นผู้โชคดี

ทางด้านปู่ Charlie Mungur คู่หูของปู่ Buffett เองก็มีมุมมองที่คล้ายคลึงกัน โดยกล่าวว่าเหรียญเหล่านี้เป็นสิ่งลวงโลกที่เอามาหลอกคนอยากรวยเร็ว มันเป็นเหมือนกามโรคชนิดหนึ่ง และยังกล่าวอีกว่ารัฐบาลควรออกกฏหมายใหม่เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้คนเข้าไปเก็งกำไรแบบผิด ๆ จนเกิดหายนะ

📌 ซึ่งพร้อมกันนี้ ราคา Bitcoin พุ่งกลับขึ้นมายืนเหนือ 30,000 $/BTC อีกครั้ง และเริ่มมีข่าวปั่นกระแสเหมือนที่สื่อไทยคุบางแห่งเคยหลอกเงินชาวบ้านโดยเชียร์ซื้อเหรียญพร้อมอ้างว่าเป็นอนาคตของโลกตอนราคาประมาณ 50,000-60,0000 ดอลลาร์ก่อนจะร่วงยับ -80% เช่นเดียวกับที่เชียร์ซื้อหุ้น Tesla ตอนยอดดอย บอกเป็นโอกาสสุดท้ายในการซื้อราคาถูก ก่อนร่วงยับ -70%

อย่างไรก็ตาม บางคนยังพยายามกระหน่ำมุมมองว่า Crypto จะเข้ามาล้มดอลลาร์และระบบเงิน Fiat ในอนาคต โดยให้เหตุผลถึงการพุ่งขึ้นของ Bitcoin ว่ามาจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นต่อระบบการเงินดั้งเดิม โดยเฉพาะหลังจากเกิด Bank Run ทำให้คนสนใจในคริปโตมากขึ้น ?

เว็บเทรด ‘Hotbit’ ของฮ่องกง ประกาศยุติให้บริการ หลังบริษัทประสบปัญหาต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2022

เมื่อวาน 22 พ.ค. 66 Hotbit กระดานเทรด Crypto ที่จดทะเบียนในฮ่องกง ประกาศว่า จะยุติการดำเนินงานในวันที่ 22 พฤษภาคม และขอให้ผู้ใช้บริการทำการถอนเงินออกก่อนเวลา 11.00 น. ของวันที่ 21 พฤษภาคมตามเวลาไทย

สำหรับการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ บริษัทได้ให้เหตุผลว่า การดำเนินงานของบริษัทเริ่มย่ำแย่ลง หลังจากอดีตสมาชิกทีมคนหนึ่งถูกสอบสวนเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2022 และบริษัทถูกสั่งให้ยุติการดำเนินธุรกิจเป็นเวลาหลายสัปดาห์

Hotbit ยังได้อ้างถึงสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายในวงการ Crypto ด้วยว่า สถานการณ์เหล่านั้นก็ส่งผลต่อบริษัทด้วยเช่นกัน รวมไปถึงการล่มสลายของ FTX และวิกฤตการธนาคารที่ส่งผลให้ USDC หลุด Peg ทำให้เงินทุนของบริษัทไหลออกอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ทีมของ Hotbit ยังเชื่อด้วยว่า กระดานเทรดแบบรวมศูนย์ ‘มีความยุ่งยากมากขึ้น’ และ ‘ดูเหมือนว่าจะไม่ตอบสนองต่อเทรนด์แนวโน้มในระยะยาว’ พร้อมกล่าวว่า หนทางเดียวในการแก้ไขปัญหานี้ คือ การทำให้กระดานเทรดมีความกระจายศูนย์ หรือยอมรับกฎระเบียบต่าง ๆ

บริษัทยังได้กล่าวโทษการโจมตีทางไซเบอร์และการใช้ประโยชน์จาก ‘โปรเจกต์ที่มีข้อบกพร่องโดยผู้ไม่ประสงค์ดี’ ที่ส่งผลให้กระดานเทรดแห่งนี้เดินทางมาถึงคราวล่มสลาย

หลังจากการประกาศนี้ถูกเผยแพร่ คนในชุมชน Crypto หลายคนได้ออกมาบ่นตัดพ้อว่า พวกเขาไม่สามารถถอนเงินออกจากกระดานเทรดได้
 

‘ตร.ไซเบอร์’ เปิดปฏิบัติการล่าตัวราชาคริปโตฯ เครือข่ายจีนแสบ หลังหลอกตุ๋นลงทุนข้ามชาติ เสียหายทั่วโลกนับหมื่นล้าน!!

(27 มิ.ย. 66) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์, พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ, พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์, พล.ต.ต.ไพโรจน์ สุขรวยธนโชติ, พล.ต.ต.นิเวศน์ อาภาวศิน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.สอท.2, พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 ปฏิบัติการ ‘Trust No One ล่าข้ามโลกราชาคริปโตฯ Ep : 2’ ปิดล้อมตรวจค้น 10 จุด ประกอบไปด้วย ในพื้นที่กรุงเทพกรีฑา 7 จุด ย่านสาทร 1 จุด จังหวัดสมุทรปราการ 1 จุด และพัทยา จังหวัดชลบุรี 1 จุด แสวงหาพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง

โดยจุดสำคัญคือการเข้าตรวจค้นห้องชุดชั้น 37 มูลค่า 128 ล้านบาท ภายในคอนโดหรูย่านสาทร ซึ่งห้องดังกล่าวมีการตกแต่งบิ้วอินสุดหรู โดยพบว่าห้องดังกล่าวเป็นของ ‘นายอาบิน เย่’ สามีของ ‘นางเคอ ยี เย่’ หรือ ‘คี ยี’ เย่อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาชาวจีนตามหมายจับศาลอาญาที่ 1665-1666/2566 ลงวันที่ 26 พ.ค. ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฟอกเงิน ที่ถูกจับกุมไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งทางนายอาบิน เย่ คือ ผู้ต้องหาตามหมายแดงของตำรวจสากล ในความผิดฉ้อโกงประชาชน ที่ทางสาธารณรัฐประชาชนจีนต้องการตัวหลังก่อเหตุหลอกคนจีน สูญเงินมากกว่า 180 ล้านหยวน หรือมากกว่า 900 ล้านบาท

เบื้องต้นพบพยานเอกสารจำนวนมาก และเครื่องใช้ไฟฟ้าบางส่วนที่ถูกทิ้งไว้ จึงได้ทำการตรวจยึดไว้ตรวจสอบ นอกจากนี้ ในจุดอื่นๆ ส่วนใหญ่เป็นบ้านหรูหลังละ 60-80 ล้านบาท รวมทั้งในส่วนที่ จ.สมุทรปราการ และ จ.ชลบุรี ซึ่งในทางสืบสวนพบว่าถูกซื้อในนามนิติบุคคลของกลุ่มทุนจีน เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดอายัดไว้เพื่อดำเนินการตามกฎหมายในส่วนที่เกี่ยวข้อง

มีรายงานว่า ปฎิบัติการครั้งนี้เป็นการขยายผลจากปฏิบัติการ ‘Trust No One ล่าข้ามโลกราชาคริปโตฯ  Ep : 1’ โดยครั้งนั้นบช.สอท.ได้เข้าตรวจค้น 6 จุด ในย่านศรีนครินทร์ และจับกุมนายเซาเซียน ซู อายุ 31 ปี และนางคี ยิ ยี อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาชาวจีนตามหมายจับศาลอาญาที่ 1665-1666/2566 ลงวันที่ 26 พ.ค. ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฟอกเงิน  หลังก่อเหตุใช้โปรไฟล์ปลอมตีสนิท ผู้เสียหายผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ก่อนจะชวนลงทุนในแพลตฟอร์มปลอมสําหรับเทรดเงินสกุลดิจิตอลหรือ สินทรัพย์ต่างๆ ในลักษณะหลอกลงทุนไฮบริดสแกรม ซึ่งมีผู้เสียหายในพื้นที่สน.ศาลาแดง,สน.โชคชัย และ สภ.บางสะพาน จ. ประจวบคีรีขันธ์ รวมมูลค่ากว่า 35 ล้านบาท อย่างไรก็ตามสำหรับผลการปฎิบัติทางตำรวจไซเบอร์จะแถลงในเวลา 13:00 น. ที่ บช.สอท.ต่อไป
 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top