‘โตโน่ ภาคิน’ ส่งต่อกุศลการบวชของตนให้กับทุกคน บอกเป็น 7 วันที่รู้สึกปลื้มปีติ ทำให้ได้ขัดสนิมในใจออกบ้าง ในส่วนของการจัดสรรงบประมาณเครื่องมือแพทย์ จากที่ตั้งใจระดมเงินเพื่อเตียงไอซียูเด็ก แต่ตอนนี้เงินของทุกคนได้สร้าง Cath Lab ศูนย์สวนหัวใจและหลอดเลือดให้กับโรงพยาบาลนครพนม และมอบอุปกรณ์การแพทย์ 20 รายการให้กับ โรงพยาบาลแขวงคำม่วง สปป. ลาว
(17 ม.ค. 66) สึกออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ ‘โตโน่ พาคิน คำวิลัยศักดิ์’ ที่ได้บวชเป็นเวลา 7 วัน เพื่อศึกษาธรรมะ และตอบแทนน้ำใจของชาวไทยและชาวลาวที่ได้บริจาคเงินช่วยเหลือในโครงการ One Man & The River หนึ่งคนว่าย หลายคนให้ กันอย่างมากมาย
หลังจากสึกแล้ว โตโน่ ภาคิน ได้เปิดใจกับสื่อมวลชน โดยช่องยูทูป อาจารย์อั๋นพาเลาะ สัมภาษณ์ความรู้สึกโตโน่หลังบวช รวมถึงเรื่องของเงินบริจาคในโครงการว่า…
“ประโยชน์จากการบวชในครั้งนี้ดีใจกับการได้ปฏิบัติหน้าที่กับการเป็นพระสงฆ์อย่างเต็มที่ใน 7 วันนี้ ก็ขอให้สิ่งดี ๆ ที่พวกเราช่วยกันทำมาส่งกลับไปหาทุกคนให้มีแต่ความสุข รอยยิ้ม สุขภาพแข็งแรง มีแต่ความรัก ความสามัคคีต่อกันครับ คนไทยทุก ๆ จังหวัด รวมถึงคนลาวด้วย 7 วันที่ผ่านมาผมสบายใจมากครับ รู้สึกดีมาก ๆ ตอนแรกคิดว่าเวลา 7 วันมันน้อย แต่พอมันเป็น 7 วันที่เราตั้งใจมาก ๆ มันก็ทำให้เราได้อะไรรับคำสอนเยอะ รู้สึกปลื้มปีติ”
“สิ่งที่ผมได้จากการบวชครั้งนี้คงเป็นเรื่องของความคิด รู้สึกหัวใจเราปลื้มปีติ ที่ผ่านมาเราเติมแต่ทางโลก แต่ไม่เคยเติมทางธรรมเลย เราหลาย ๆ คนรวมถึงตัวผม ที่ผมรู้สึกได้เลยว่าเราอาจจะไกลห่างออกจากศาสนา พอได้กลับมาใกล้ศาสนาบ้าง ทำให้เราได้ขัดสนิมในใจเราบ้างที่มันมีอยู่เต็มไปหมด มันก็ทำให้เรารู้สึกว่ามันปลอดโปร่งขึ้นในหลาย ๆ อย่างที่คิด ที่จะทำต่อไป ผมก็ขอให้สิ่งดี ๆ เหล่านี้เกิดขึ้นกับทุกคนเช่นกันครับ”
ในส่วนของการจัดสรรงบประมาณเครื่องมือแพทย์ เตรียมการสร้าง Cath Lab สร้างศูนย์สวนหัวใจและหลอดเลือดให้กับโรงพยาบาลนครพนม และมอบอุปกรณ์การแพทย์ 20 รายการให้กับ โรงพยาบาลแขวนงคำม่วง สปป. ลาว เจ้าตัวเผยว่า
“ก็เป็นเรื่องของโรงพยาบาลนครพนมและท่าแขกแล้วครับ ตอนนี้ทางคุณหมอและพยายามกำลังเลือกสเปกเครื่องกันอยู่ แต่ละบริษัทเขาก็จะยื่นว่าเขามีอะไรที่เหมาะสมที่สุด คนเลือกจะเป็นคุณหมอ ไม่ใช่ผม คุณหมอจากทั้งสองที่จะเป็นคนเลือกหาสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อคนไทยและคนลาว”
“เราเตรียมการสร้าง Cath Lab สร้างศูนย์สวนหัวใจและหลอดเลือดให้กับโรงพยาบาลนครพนม น่าจะใช้เวลาพอสมควร อย่างน้อยประมาณ 6 เดือน และใช้เงินเยอะมากด้วย น่าจะประมาณ 50 กว่าล้าน ในอนาคตที่ท่านผู้อำนวยการบอกผมว่า นครพนมจะสามารถสร้างนักเรียนแพทย์ขึ้นได้ด้วย และแผนกนี้จะสามารถพัฒนาไปรักษาโรคหลอดเลือดในสมองได้อีก”