Sunday, 28 April 2024
เสกสกล

“แรมโบ้” ซัด “ปิยบุตร-ไอติม” ดันร่างแก้รัฐธรรมนูญฉบับใต้ตาตุ่มปิยบุตร ฝันยกบ้านเมืองให้นักเลือกตั้ง สถาปนาระบอบทักษิณสายพันธ์ุใหม่ อันตรายกว่าเดิม เตือนชื่อ ปิยบุตร อย่าทรพีแผ่นดินเกิด ประชามติ 16 ล้านเสียงมาจากเสียงประชาชนอย่าดูหมิ่นดูแคลนเสียงประชาชน 

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี แสดงความเห็นกรณีนายปิยบุตร แสงกนกกุล นายพริษฐ์ วัชรสินธุ์ อภิปรายในรัฐสภา กล่าวหาโจมตีนายกฯประยุทธ์ว่าเป็นไวรัสประยุทธ์ และผลักดันร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับ ‘ล้ม-โละ-เลิก-ล้าง’  

 นายเสกสกลเปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา คือ วัคซีนที่มารักษาโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง ที่ปล่อยให้การเมืองสามานย์กินบ้านโกงเมืองอยู่ก่อนหน้านี้ จะเห็นว่ามีคนโกงหนีคดี มีอดีตรัฐมนตรี ข้าราชการระดับสูงเข้าคุกคดีโกงไม่รู้กี่คนต่อกี่คน รวมถึงใช้อำนาจคณะรัฐประหารจ่ายเงินค่าข้าวชาวนาที่รัฐบาลนักเลือกตั้งชักดาบชาวนาทิ้งไว้ด้วย 

"นายไอติมหลงคิดว่าตนเองวิเศษวิโส แกว่งปากหาเสี้ยน สอบตกในพื้นที่ กทม. ได้เข้าสภาก็เพราะวิ่งหาแสง อาศัยเรื่องแก้รัฐธรรมนูญเข้ามาแล้วประดิษฐ์วาทกรรมกร่าง หลอกนายกฯในสภา คิดว่าโก้ ถือดีว่าเป็นนักเรียนนอก แต่ไม่เคยมีประสบการณ์ทำงานประสบความสำเร็จอะไรเลย ปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม เหมือนกบในบ่อน้ำ เห็นแค่ปากบ่อ คิดว่านั่นคือแผ่นฟ้าทั้งหมดแล้ว น่าเวทนามาก” 

นายเสกสกลยังกล่าวถึงนายปิยบุตรด้วยว่า ร่างที่เสนอมา อ้างว่าฉบับประชาชน แต่ใครยกร่าง ประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วมแท้จริงหรอก เหมือนรัฐธรรมนูญฉบับใต้ตุ่มในประวัติศาสตร์การเมืองไทยนั่นเอง แต่คราวนี้เป็นใต้ตาตุ่มของนายปิยบุตร ผู้มีแนวคิดปฏิปักษ์กับสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างรุนแรง และหวังล้างแค้นศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ ทั้งที่ตนเองทำผิดรัฐธรรมนูญจริงๆ สู้คดีก็แพ้ ขอขนานนามว่า “ปิแยร์กิโยติน หลวงชำนาญกฎหมายพ่ายทุกคดี” 

"ที่สำคัญ ร่างแก้ไขฉบับใต้ตาตุ่มปิยบุตร มุ่งรวบอำนาจให้นักการเมือง เหลือสภาเดียว ขนาดสหรัฐ อังกฤษ ก็มีสองสภาทั้งนั้น แบบนี้ส.ส.จะใหญ่คับบ้านคับเมือง เข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงแม้กระทั่งอำนาจศาลยุติธรรม  เท่ากับจะยกบ้านยกเมืองให้นักการเมือง สถาปนาระบอบทักษิณสายพันธ์ุใหม่ ร้ายแรงกว่าเก่า ไม่ต่างจากโควิดสายพันธ์ุใหม่ แถมลบล้างผลพวงรัฐประหาร นักการเมืองโกงที่ได้ผลร้ายได้อานิสงส์ ทะลุฝาโลง ลุกขึ้นมาจากหลุม สร้างความปั่นป่วนวุ่นวาย การนำเสนอเช่นนี้เหมือนแบ่งงานกันทำกับขบวนการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขนั่นเอง”

“แรมโบ้” ซัด "หมอชลน่าน" อย่าตีกินทางการเมืองหยุดใช้ปากและน้ำลายสกปรกยุยงประชาชนเข้าใจนายกฯผิดๆ ยัน นายกฯมีความตั้งใจใช้รถทหารช่วยขนส่งมีเจตนาดีช่วยประชาชน ไม่ได้ประชด หรือยั่วยุใคร พร้อมขอผู้ประกอบการขนส่งเข้าใจรัฐบาลช่วยเหลือเต็มที่ 

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย วิพากษ์วิจารณ์แนวคิดนายกฯกรณีให้นำรถทหารมาใช้ขนส่งทดแทน เหมือนเป็นการยั่วยุให้เพิ่มมาตรการกดดัน โดยยืนยันว่าที่นายกฯพูดนั้น เพราะเป็นความหวังดีที่อยากจะช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในเรื่องของการขนส่งต่างๆ หากรถบรรทุกประท้วงหยุดงาน  ไม่ได้คิดเป็นอย่างอื่น ไม่ได้พูดประชดใคร หรือยั่วยุอย่างแน่นอน

นอกจากนี้นายกฯยังมองเห็นถึงศักยภาพของกองทัพที่สามารถช่วยเหลือประชาชนได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งขณะนี้กองทัพได้หารือถึงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง และแนวทางปฎิบัติในการนำรถยนต์บรรทุกขนาดต่าง ๆ พร้อมกำลังพล เตรียมพร้อมเข้าให้ความช่วยเหลือแล้ว เตรียมรถยนต์ทหารที่เหมาะกับด้านการขนส่งทางถนนประมาณ 3,700 คัน

นายเสกสกล ยังขอให้หมอชลน่านอย่าตีความเจตนาของนายกฯผิด ที่ผ่านมารัฐบาลได้มีความพยายามที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการขนส่งมาโดยตลอด ล่าสุด ครม.ยังได้อนุมัติการกู้เงินจำนวน 2 หมื่นล้านบาท สำหรับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อใช้ในการพยุงราคาน้ำมันดีเซลไว้ที่ระดับ 30 บาทต่อลิตรแล้ว    

นายกฯเข้าใจถึงความเดือดร้อนของประชาชนทุกกลุ่มอาชีพ และขอให้ผู้ประกอบการขนส่งได้เข้าใจนายกฯ ด้วยเช่นกันว่ามีความพยายามที่จะช่วยเหลือให้ดีที่สุด ซึ่งตนเองเชื่อว่าอีกไม่นานสถานการณ์ราคาน้ำมันจะคลี่คลายลงได้

“เสกสกล” หนุน “ซูเปอร์โพล" ไม่เห็นด้วยขบวนการสั่นคลอนสถาบัน เย้ย ส.ส.เพื่อไทย ทนทำตามคำสั่งนายใหญ่ 

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน “รู้ทันความเคลื่อนไหวทำลายชาติ”พบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 96.5 ระบุสถาบันกษัตริย์เป็นรากฐานสำคัญของประเทศที่ต้องอยู่คู่กับประชาชน และร้อยละ 96.3 ไม่เห็นด้วยกับขบวนการสั่นคลอนสถาบัน พยายามบิดเบือน จาบจ้วงก้าวล่วง พาคนลงถนน คุกคามและไม่เคารพผู้อื่น ทำบ้านเมืองปั่นป่วนวุ่นวายและทำลายความหวังของประชาชนที่จะร่วมกันฟื้นฟูประเทศ

นายเสกสกล กล่าวว่า ผลสำรวจดังกล่าวเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าคนส่วนใหญ่ทั้งประเทศ จงรักภักดี เคารพเทิดทูนต่อสถาบัน อย่างมั่นคงเคารพ ไม่ยอมให้ใครมาจาบจ้วงและเคลื่อนไหวทำลายชาติ สร้างความเดือดร้อนเด็ดขาด ดังนั้นขอให้กลุ่มม็อบและบางพรรคการเมืองที่ออกมาเคลื่อนไหวเรื่องของสถาบัน ฟังเสียงประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศว่าการออกมาเคลื่อนไหวจาบจ้วง ก้าวล่วงสถาบัน เป็นการทำร้ายจิตใจของคนส่วนใหญ่ทั้งประเทศ

'เสกสกล' ซัด 'ณัฐชา' ก่อนเสี้ยมพรรคอื่นแตกคอ ให้ย้อนดูพรรคตัวเอง ขัดแย้ง-งูเห่า

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนาย​ณัฐชา​ บุญไชยอินสวัสดิ์​ โฆษกพรรคก้าวไกล วิจารณ์การทำงานของนายกรัฐมนตรีนั้นรวบอำนาจ ว่า นายณัฐชา เป็นถึง ส.ส. ที่มาจากประชาชน ควรจะสนับสนุนนโยบายการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ไม่ไช่ว่าจะออกมาขัดขวางการทำงานของรัฐบาล กีดกันไม่ให้ประชาชนได้รับการแก้ไขปัญหา หรือได้รับประโยชน์จากนโยบายรัฐบาล การทำงานหลายกระทรวงร่วมกัน เป็นการบูรณาการช่วยกันแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ยืนยันพรรคร่วมรัฐบาลยังเหนียวแน่น ไม่ได้มีปัญหาอะไร อย่ามาพูดใส่ร้าย ยุยง เสี้ยมให้พรรคร่วมแตกคอกัน ไม่มีทางเกิดขึ้น ขอให้นายณัฐชา ย้อนมองดูพรรคการเมืองตัวเองก่อนว่าแตกคอกันมากน้อยแค่ไหน เห็นมีแต่งูเห่าเต็มไปหมด เพราะไม่มีใครอยากอยู่กับพรรคการเมืองที่จ้องแต่จะจาบจ้วง ก้าวล่วง ล้มล้าง โดยไม่สนใจความเป็นอยู่ของประชาชน

'เสกสกล' ซัดนายเก่า ถนัดแต่ให้คนอื่นโล้ชิงช้าให้  ไม่ทำเอง ยก 'บิ๊กตู่' กำลังแก้ปัญหาโควิด ไม่คิดปมการเมือง

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี่ วู้ดซัม ร่วมสนทนาในรายการ CARE Talk x CARE ClubHouse พูดถึงการย้ายสังกัดพรรคของนายกฯ และนายกฯถนัดขึ้นชิงช้าให้คนอื่นโล้ ทำเองไม่เป็นนั้น โฆษกรัฐบาลออกมายืนยันแล้วว่านายกฯยังคงอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะที่พรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ตนเชื่อว่านายกฯประยุทธ์ไม่มีแนวคิดไปตั้งพรรคการเมืองใหม่ หรือคิดเรื่องทางการเมืองในขณะนี้ เพราะอยู่ระหว่างแก้ไขปัญหา ฟื้นฟูประเทศอยู่

“แรมโบ้” ยืนยันนายกฯและรัฐบาลให้ความสำคัญกับการปราบปรามยาเสพติด ซัด “ณัฐวุฒิ” อย่าใช้โอกาสนี้กล่าวหา โจมตีรัฐบาล  ไม่มีใครอยากให้ใช้ประเทศเป็นทางผ่านขนส่งยาเสพติด

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำเครือข่ายไล่ประยุทธ์ โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก ตั้งกระทู้ออนไลน์ ถึงนายกรัฐมนตรีจะกู้ภาพลักษณ์ไทยยังไงหลังกลายเป็นชาติส่งออกยาเสพติดระดับโลก โดยยืนยันว่าที่ผ่ามานายกฯและรัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการปราบปรามปัญหายาเสพติด ถือเป็นนโยบายเร่งด่วน และวาระแห่งชาติ ซึ่งสถิติการจับกุมยาเสพติดในประเทศไทยตั้งแต่ตุลาคม 63-มิถุนายน 64 จับกุมยาเสพติดที่เตรียมส่งออกไปยังต่างประเทศ รวม 84 คดี รวมถึงยังได้ทำงานเชิงรุกเรื่องการขยายผลต่อ ดังนั้นทำให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้

นอกจากนี้นายกฯแสดงความกังวลในเรื่องนี้เช่นเดียวกัน โดยได้สั่งการหน่วยงานด้านความมั่นคง ป.ป.ส. กระทรวงยุติธรรม ติดตามเรื่องนี้ รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบจะต้องมีการตรวจสอบสิ่งของที่จะต้องส่งออกให้ถี่ถ้วนมากขึ้น พร้อมขอให้ประชาชนหากรู้เบาะแสการกระทำความผิดขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ได้ โดยจะได้รับความคุ้มครอง 

"แรมโบ้"สวนกลับแกนนำราษฎร โกหกโกอินเตอร์หลอกเด็ก “ลั่น”ยูเอ็นละเมิดอธิปไตยไทยไม่ได้ “ขี้”ถ้าแอมเนสตี้ไม่มีแผล ไม่ต้องกลัว “ขู่” ถ้าเจตนาร้าย ชักศึกเข้าบ้าน เคลื่อนไหวปลุกปั่นฝ่าฝืนกฎหมาย สมคบล้มล้างการปกครอง ปลายทางคือคุก

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีกลุ่มม็อบราษฎรแถลงเคลื่อนไหวยกเลิก ม.112 ต่อเนื่อง อีกทั้งนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข เตรียมฟ้องยูเอ็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ไม่เคารพสิทธิมนุษยนชน แต่กลับตนแสดงจุดยืนขับไล่องค์กรแอมเนสตี้ออกจากประเทศ และดำเนินคดี112 กับประชาชน ว่า การที่ตนประกาศขับไล่แอมเนสตี้ประเทศไทย นั้นยืนยันไม่มีใครมาสั่งให้ทำ นายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้สั่ง แต่เป็นเพราะองค์กรดังกล่าวสนับสนุนกลุ่มคนที่ทำผิดกฎหมายไทยซ้ำซาก ฝ่าฝืนคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญอันถือเป็นที่สุด มีผลผูกพันทุกองค์กร จาบจ้วงสถาบันรุนแรง แสดงตนเป็นปฏิปักษ์กับสถาบันพระมหากษัตริย์ เสนอเลิกมาตรา 112 กดดันระบบยุติธรรมให้ยกเว้นดำเนินคดีกับจำเลยคดี 112 ที่เป็นแกนนำม็อบทำผิดซ้ำซาก ไม่ใยดีกับสิทธิและเสียงของคนไทยอีกหลายสิบล้านคนที่ทนไม่ไหวกับขบวนการจาบจ้วงสถาบันโดยใช้ข่าวปลอมสารพัดเรื่อง 

“แม้กระทั่งกรณีสนามม้านางเลิ้งที่กำลังดำเนินการเป็นสวนสาธารณะก็เคยถูกศาสดาของคนพวกนี้ใส่ร้ายป้ายสีสร้างความเกลียดชังต่อสถาบันมาอย่างต่อเนื่อง
ไล่ดูแถลงการณ์ ไล่ดูกิจกรรม ไล่ดูหน้าเว็บของแอมเนสตี้ แทบจะไม่ต่างจากเว็บของกลุ่มม็อบจาบจ้วงสถาบัน ถ้าแอมเนสตี้ประเทศไทยดำเนินการถูกต้อง ไม่มีแผล ไม่มีการซิกแซก ฝ่าฝืนกฎหมาย กฎระเบียบ ไม่ได้รับเงินต่างชาติมาทำกิจกรรม ไม่ได้รับใช้เพื่อผลประโยชน์ของใคร ไม่ว่าใครก็ทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องเกรง  แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เคยชี้แจงรายละเอียดว่ารายรับแต่ละปี เงินทุนที่นำมาดำเนินการมาจากไหน เท่าไหร่ มีแต่ปฏิเสธแบบเรื่อยเปื่อย

'แรมโบ้' จวก 'ฝ่ายค้าน' ตั้งใจทำสภาล่ม ขอ ประชาชนลงโทษ สมัยหน้าอย่าเลือกเข้าสภา เหตุ ทำตัวสกปรก รกรุงรัง น่าอับอายที่สุด เสียดายเงินเดือน ส.ส.ที่มาจากภาษี

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน ระบุสภาฯล่ม เป็นการบ่งบอกถึงความไม่พร้อมของรัฐบาล และฝ่ายค้านไม่ได้เล่นเกม ไม่ใช่ต้นเหตุสภาฯล่ม ว่า พรรคฝ่ายค้านควรตั้งสติและลองทบทวนดูว่าในที่ประชุมมีฝ่ายค้านเข้าร่วมประชุมกี่คน และฝ่ายรัฐบาลเข้าร่วมประชุมกี่คน จากการตรวจสอบพบว่า ฝ่ายรัฐบาลมีส.ส. 268 คน ออกเสียง 219 คน แต่ส.ส.ฝ่ายค้าน มี 208 คน มาออกเสียงเพียง 14 คนเท่านั้น  ดังนั้นฝ่ายค้านไม่ควรที่จะออกมาโทษ ส.ส.จากฝั่งรัฐบาลเพียงอย่างเดียว

ขณะเดียวกันหัวหน้าพรรคเพื่อไทยยังออกมายอมรับแล้วว่าปัญหาสภาล่มหากมีการมองว่าเป็นเกมการเมือง ก็ไม่เถียง แต่เป็นการเล่นเกมการเมืองแบบโปร่งใส รัฐบาลมีหน้าที่เป็นฝ่ายรักษาองค์ประชุมในฐานะเสียงข้างมาก ซึ่งฝ่ายค้านจะให้บทเรียนรัฐบาลแบบนี้ไปเรื่อยๆจนกว่าจะปรับตัวเอง หรือจนกว่าจะยุบสภา  ซึ่งตนเองมองว่าการออกมาพูดแบบนี้เป็นการแก้ตัวน้ำขุ่นๆ และเป็นการแถไปเรื่อย ให้ตัวเองดูดี แต่ประชาชนเขารู้ทันอยู่แล้ว

เป็นถึง ส.ส. ผู้ทรงเกียรติในสภาฯแต่กลับไม่มีสมองคิด ทำผิดต้องยอมรับผิด ทำตัวไม่มีความน่าเชื่อถือ จะเป็นฝ่ายค้าน หรือ รัฐบาล ก็ถือว่าเป็น ส.ส. เช่นเดียวกัน มีหน้าที่ลงพื้นที่รับฟังปัญหาของประชาชน และเข้าประชุมสภาฯ แต่จะมาบอกว่าตนเองเป็นฝ่ายค้าน จึงไม่ต้องเข้าประชุม หากสภาฯล่มก็ถือเป็นความผิดของฝ่ายรัฐบาล แบบนี้ถือเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง 

ขอให้เลิกนิสัยเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่นได้แล้ว และอย่าคิดว่าคนอื่นเขาไม่รู้ว่าพรรคฝ่ายค้านจะทำอะไร เป็น ส.ส. มีหน้าที่ลงพื้นที่และประชุมสภาฯ ยังทำไม่ได้ แบบนี้จะดูแลประชาชนในพื้นที่ได้อย่างไร เสียดายเงินเดือน ส.ส.ที่มาจากภาษีของประชาชน 

“แรมโบ้” ซัด “ก่อแก้ว” สงบปาก สงบคำ และเบิกตาดูก่อน นายกฯทำอะไรให้ประชาชนและประเทศบ้าง ชี้ประชาชนชื่นชอบหลายโครงการรัฐบาล  พร้อมยกผลโพลสำนักวิจัยซูปเปอร์โพล ให้พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนักการเมืองครองใจประชาชน

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) และอดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ยก 7 เรื่องออกมาไล่ขยี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ลาออกเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน หลังจากที่นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ทุกกระทรวงจัดของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน โดยนายเสกสกล ระบุว่า นายก่อแก้ว ไม่น่าหาเรื่องใส่ตัวเลย เพราะการที่ออกมาพูดอะไร ก็เข้าตัวหมด  นายก่อแก้ว อย่าลืมว่าตัวเอง มีชื่อของการเป็นเสื้อแดงติดอยู่ และคงจะติดตัวไปจนกว่านายก่อแก้ว จะตายจากไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนส่วนใหญ่รับไม่ได้และรู้ดีว่าเสื้อแดงในอดีตทำอะไรกับประเทศไว้บ้าง สร้างความเสียหาย เผาบ้าน เผาเมือง เสียหายไปเท่าไหร่ ประชาชนที่ร่วมอุดมการณ์ติดคุกไปเท่าไหร่ ขณะที่แกนนำบางคนยังอยู่ดี มีสุข ลอยนวลสบายใจเฉิบ

7 ข้อที่ยกมา แค่คำที่ฝ่ายค้านหรือแกนนำเสื้อแดงอย่างนายก่อแก้วคิดว่าสวยหรู แต่ความจริงมันต่างกันมาก ประชาชนรู้ดีว่า ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรี ทำอะไรให้เขาบ้าง อยู่ดีกินดีเห็นได้ชัด ทุกโครงการที่รัฐบาลโดยพล.อ.ประยุทธ์ ออกมาช่วยเหลือประชาชน ล้วนโดนใจ ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าหลายโครงการที่ออกมาจะมีชื่อของนายก่อแก้ว หรือคนในครอบครัว หรือสมัครพรรคพวก เป็นหนึ่งที่ได้รับอานิสงส์ด้วยหรือไม่  แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก เพราะไม่ว่าจะเป็นคนกลุ่มไหน เสื้อสีอะไร ชอบหรือไม่ชอบ ฝ่ายค้าน หรือรัฐบาล ก็ได้ประโยชน์จากทุกโครงการของรัฐบาลทั้งสิ้น และนายกรัฐมนตรีก็บอกแล้วว่า เป็นนายกรัฐมนตรีของประชาชนทุกคน ทุกภาค ไม่ได้เลือกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

และล่าสุดผลโพลจากสำนักวิจัยซูปเปอร์โพลได้ทำการสำรวจด้านการเมืองภาพใหญ่ที่สุดแห่งปี 2564 โดยประชาชนเห็นว่านักการเมืองฝ่ายรัฐบาลที่น่าประทับใจและน่าพอใจที่สุดแห่งปี 2564 อันดับแรกคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพอใจนโยบายและโครงการต่างๆของรัฐบาล ซึ่งตรงนี้น่าจะเป็นการสะท้อนให้เห็นได้แล้วว่า ประชาชนประทับใจและพอใจกับการทำหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีจากผลงานที่ประสบความสำเร็จมากมาย รวมถึงการแก้ไขปัญหาจากวิกฤตการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งส่งผลต่อเศรษฐกิจอย่างมาก ซึ่งรัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีก็ได้มีมาตรการต่างๆออกมาจนสถานการณ์คลี่คลายและเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจจนเป็นที่พอใจของทุกฝ่าย  

"แรมโบ้"ฟาด"ทักษิณ" คำพูดไม่ต่างจากผายลม เชื่อถืออะไรไม่ได้ ใกล้ปีใหม่ ขอให้ทำดีก่อนสิ้นลมหายใจ อย่าให้เสียชาติเกิด ที่ได้เกิดมาเป็นคนในชาตินี้

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี ที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่กำลังหนีคดีทุจริต อยู่ต่างประเทศ ก่อนหน้านี้ทางด้านนายทักษิณ  เคยได้กล่าวโจมตีรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าไม่มีทางฉีดวัคซีนได้ครบ 100 ล้านโดสในสิ้นปี 2564 ระหว่างการพูดคุยในคลับเฮ้าส์และเฟซบุ๊ก CARE คิด เคลื่อน ไทย เมื่อวันที่  1 มิถุนายน 2564 นายทักษิณ กล่าวตอนหนึ่งว่า "วัคซีนที่บอกว่าสิ้นปีถึง 100 ล้านโดส ผมบอกได้เลย ไม่มีทางเลย ผมไม่แน่ใจเลยว่า สั่งวัคซีนให้มากองให้ครบ 100 ล้านโดส สิ้นปี ยังไม่รู้จะได้หรือเปล่า จะฉีดให้ครบ 100 ล้าน ผมไม่มั่นใจเลยถ้าบริหารแบบนี้ คิดรวมศูนย์เป็นไปไม่ได้หรอก

คนๆเดียวจะไปคิดทุกอย่างไม่ได้หรอก"  นายทักษิณ ย้ำอีกครั้งว่า "ไม่มีทางเลย สิ้นปีนี้ฉีดวัคซีน ได้ 100 ล้านโดส 100 บาทเอาขี้หมากองเดียว สิ้นปีนี้ ไม่มี 100 ล้านโดส ฉีดให้ประชาชน" ด้าน นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี มองแบบเดียวกันกับ ทักษิณ เป็นไปได้ยาก ขนาดประเทศ อังกฤษ ฉีดมาตั้งแต่ต้นปี ยังได้แค่ 60 ล้านโดส 

นายเสกสกล กล่าวว่า เวลานี้ ประเทศไทย ได้ฉีดวัคซีนครบ 100 ล้านโดส เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม  2564 ตามการแถลงข่าวของทางด้านศบค. เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2564  ตนเองอยากจะขอดูหน้านายทักษิณ สักหน่อย ที่เคยดูถูกปรามาส รัฐบาล ภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ ว่าไม่มีทางเป็นไปได้ ที่จะฉีดวัคซีนครบ 100 ล้านโดสในสิ้นปีนี้ แต่ตอนนี้รัฐบาลทำได้แล้ว อยากรู้เหมือนกันว่านายทักษิณ จะทำอย่างที่เคยพูดเอาไว้ไหม ที่บอกว่า 100 บาท เอาขี้หมากองเดียว  จะดูว่าคนที่เคยเป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศ จะรักษาคำพูดของตัวเองได้แค่ไหน หรือดีแต่พ่นลมปาก ไปวัน ๆ

เพราะที่ผ่านมา การพูดของนายทักษิณแต่ละเรื่อง สุดท้ายก็เชื่อถืออะไรไม่ได้ ลมที่ออกจากปากนายทักษิณ ไม่ผิดอะไรกับการผายลม ที่ออกมาจากก้นของนายทักษิณ เพราะเชื่อถืออะไรไม่ได้ ไม่มีราคา พูดอย่างทำอย่าง ดีแต่โม้ ไปรายวัน เอาเข้าจริงไม่ได้มีความสามารถอะไรเลย  งานนี้นายทักษิณหน้าแตกยับเยินไม่มีเครดิตหน้าเชื่อถืออะได้อีกต่อไป ต่อไปใครที่ไปเชื่อคนขี้โกงหนีคดีไปร่ำรวยคนนั้นก็คงบ้าไปแล้ว เพราะคำพูดยังเชื่อถือไม่ได้ 

" ที่นายทักษิณบอกว่า ถ้ารบ.ฉีดครบ100ล้านโดสไม่มีทาง 100 บาทเอาขี้หมากองเดียว ตนขอเสนอว่า 100 บาทของนายทักษิณมาจากเงินขี้โกงคงไม่มีใครอยากรับ เอาว่าไม่มีใครกล้ารับเงิน100 บาทของนายทักษิณเป็นแน่ แต่ขี้หมากองเดียวอยากให้เก็บไว้ให้สมุนคนใกล้ชิดในคลับเฮาส์ของนายทักษิณไว้กินเอง จะได้ไหม?

วันนี้ถ้านายทักษิณยังคงบริหารประเทศ ในช่วงเวลาวิกฤตโควิด-19 ระบาดแบบนี้
ประเทศไทย คงมีคนเสียชีวิต และติดเชื้อติดลำดับต้น ๆ ของโลกอย่างแน่นอน เพราะนายทักษิณ เป็นคนที่เก่งแต่พูด  แต่ให้ลงมือทำ ทำไม่ได้อย่างที่พูดสักเรื่อง ดูได้จากสิ่งที่นายทักษิณเคยพูดว่าตัวเองนั้นวางมือทางการเมืองแล้ว ไม่ยุ่งเกี่ยวการเมืองแล้ว พูดจนนับครั้งไม่ถูกแล้ว แต่สุดท้ายนายทักษิณ ก็ยังคงวนเวียน กับเรื่องการเมืองของประเทศไทย ไม่เคยหยุดแม้แต่วินาทีเดียว  หรือเรื่องที่บอกว่าตัวเองนั้นจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ก็เช่นกัน นายทักษิณ ก็มักจะพูดแค่เอาตัวรอดแต่การกระทำต่าง ๆ นั้นประชาชนคนไทยต่างก็ทราบดีว่าที่ผ่านมา นั้นไม่ได้ทำอย่างที่ปากพูด หลายครั้งที่นายทักษิณ พูดอย่างทำอย่าง จนประชาชนคนไทย เขารู้ไส้ รู้พุงนายทักษิณ หมดแล้ว 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top