Friday, 4 July 2025
เกาหลีใต้

ชายเกาหลีวัย 42 ปี แฉชีวิตคู่พังยับ!! เมียเวียดนามหลอกแต่งงาน-แอบค้าบริการ แพร่โรคติดต่อหลังนอนกับผู้ชาย 600 คน

(20 พ.ค. 68) โลกโซเชียลเกาหลีแชร์เรื่องราวของ ‘นายเอ’ (นามสมมุติ) ชายชาวเกาหลีใต้จากเมืองนัมยางจู กลายเป็นกระแสบนโลกออนไลน์ เมื่อเขาเปิดเผยว่า หลังจากเลิกรากับแฟนที่คบกันมา 12 ปี เขาตัดสินใจแต่งงานกับหญิงสาวชาวเวียดนามผ่านเอเจนซี่ โดยทั้งคู่หมั้นและแต่งงานกันในปี 2022 ก่อนย้ายมาอยู่ด้วยกันที่เกาหลีในปี 2023

หลังใช้ชีวิตคู่ไม่นาน กลับพบพฤติกรรมต้องสงสัย? ภรรยามีอาการป่วยจนพบว่าเธอและสามีติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STDs) ขณะเดียวกันเธอก็เริ่มมีพฤติกรรมลึกลับ ขอค้างคืนกับ “เพื่อนสนิท” แต่หายไป 3 วันโดยไม่สามารถติดต่อได้ และเมื่อกลับมาก็ไม่ยอมให้สามีตรวจดูโทรศัพท์ แถมยังทำร้ายตัวเอง สุดท้ายสารภาพว่าคบซ้อนกับชายอื่นซึ่งเป็นลูกค้าของเธอในสถานบันเทิง

นายเอพบความจริงสุดสะเทือนใจ! เขาค้นพบว่าภรรยาเคยขายบริการ และยังคงแอบค้าประเวณีอย่างต่อเนื่องกับชายกว่า 600 คน โดยโกหกว่าวัน ๆ ออกไปเรียนหรือทำงานพาร์ทไทม์ ทำให้เขายื่นฟ้องหย่าและเรียกค่าเสียหาย ซึ่งฝ่ายหญิงยอมรับผิดในตอนแรก แต่ภายหลังกลับหลบหนีและตัดการติดต่อทั้งหมด

เรื่องราวถูกแชร์เพื่อเตือนภัยสังคม เกิดเสียงเรียกร้องขับไล่หญิงแฝงตัว! นายเอเปิดเผยเรื่องราวเพื่อเตือนชายเกาหลีไม่ให้ตกเป็นเหยื่อซ้ำอีก โดยชี้ว่า หากอดีตภรรยายังอยู่ในประเทศ อาจมีเหยื่อรายอื่นเพิ่มเติม กระแสโซเชียลในเกาหลีใต้เรียกร้องให้มีการตรวจสอบเจ้าสาวต่างชาติที่แฝงตัวเข้ามาเพื่อค้าบริการ และดำเนินการเนรเทศออกนอกประเทศทันที

เกาหลีใต้ดันหนังสือเรียน AI ใช้จริงแล้ว 30% ของโรงเรียน หวังยกระดับการศึกษา ปรับการสอนตามนักเรียนแต่ละคน

(21 พ.ค. 68) หลังจากกระทรวงศึกษาธิการเดินหน้าผลักดันการศึกษาแบบดิจิทัลในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โรงเรียนระดับประถม มัธยมต้น และมัธยมปลายในเกาหลีใต้กว่า 30% ได้เริ่มนำหนังสือเรียนที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในการเรียนการสอน

ซอฟต์แวร์จากภาคเอกชนและรัฐช่วยให้ AI แจกโจทย์การบ้านเฉพาะบุคคล รวมถึงเขียนรายงานประเมินผลตามระดับความเข้าใจของนักเรียนแต่ละคน เพื่อให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

แม้เทคโนโลยีจะเปิดทางสู่การเรียนรู้แบบเฉพาะบุคคล แต่ครูบางส่วนกังวลว่าอาจกลายเป็นภาระเพิ่มเติม ขณะที่ผู้ปกครองตั้งคำถามว่า AI จะช่วยพัฒนาการเรียนรู้ได้จริงหรือแค่ทำให้เด็กติดหน้าจอมากขึ้น

รัฐจึงตัดสินใจคงการใช้หนังสือกระดาษไว้ในบางวิชา เช่น ภาษาเกาหลีและหน้าที่พลเมือง พร้อมเลื่อนการใช้ AI ในวิชาอื่นออกไปก่อน และเตรียมอบรมครู 160,000 คน รวมถึงส่งติวเตอร์ดิจิทัลกว่า 1,200 คนลงพื้นที่ช่วยโรงเรียนทั่วประเทศ

สหรัฐฯ เล็งถอนทหาร 4,500 นายจากเกาหลีใต้ เตรียมย้ายกำลังพลรับมือจีนในอินโด-แปซิฟิก แทน

(23 พ.ค. 68) รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพิจารณาแผนถอนทหารสหรัฐฯ ราว 4,500 นาย จากกองกำลังสหรัฐฯ ประจำเกาหลีใต้ (USFK) ซึ่งมีจำนวนรวมประมาณ 28,500 นาย โดยมีแนวโน้มย้ายไปประจำการในพื้นที่อื่นของอินโด-แปซิฟิก เช่น เกาะกวม ตามรายงานของ The Wall Street Journal อ้างแหล่งข่าวในกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ

แผนดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการทบทวนนโยบายไม่เป็นทางการในการรับมือกับเกาหลีเหนือ แต่มีแนวโน้มสะท้อนยุทธศาสตร์ 'America First' ของทรัมป์ ซึ่งมุ่งลดภาระทางทหารในต่างประเทศและเพิ่มการแบ่งภาระจากพันธมิตร โดยเฉพาะการรับมือกับภัยคุกคามจากจีน

อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการกองบัญชาการอินโด-แปซิฟิก และผู้บัญชาการ USFK แสดงความกังวลในวุฒิสภาว่า การถอนทหารจะเพิ่มความเสี่ยงที่เกาหลีเหนือจะรุกราน และบั่นทอนบทบาทสำคัญของสหรัฐฯ ในการคานอำนาจรัสเซียและจีนในภูมิภาค

ขณะที่กระทรวงกลาโหมยังไม่ได้ประกาศนโยบายอย่างเป็นทางการ ซึ่งการเคลื่อนไหวนี้อาจสร้างความกังวลในเกาหลีใต้ที่เป็นพันธมิตรหลักของสหรัฐฯ โดยเฉพาะในช่วงที่เกาหลีเหนือมีพัฒนาการด้านขีปนาวุธและนิวเคลียร์ท่ามกลางความร่วมมือทางทหารที่ใกล้ชิดกับรัสเซียมากขึ้น

ผู้เขียน ‘Why Nations Fail’ มอง!! ผู้นำทหารในการเมือง ยกกรณี ‘เกาหลีใต้’ สร้างชาติได้เข้มแข็ง วางรากฐานมั่นคง

(1 มิ.ย. 68) หลังจากที่ได้มีโอกาสอ่านหนังสือ Why Nation fail. ของ คุณ James A Robinson. ขอสรุปไว้ดังนี้ครับ

ข้าพเจ้ามองว่า " ผู้เขียน Why Nations Fail อาจเลือกเปรียบเทียบไทยกับเกาหลีใต้ เพราะต่างเคยเผชิญการล่าอาณานิคมในช่วงใกล้เคียงกัน ในหัวข้อของการนำทหารออกจากการเมืองนั้น การเปรียบเทียบต้องพิจารณาบริบทภายในที่แตกต่างกัน ไทยถูกทหารบางฝ่ายแทรกแซงตั้งแต่ ปี2475 แม้ในนามประชาธิปไตย แต่กลับกลายเป็นจุดด่างดำของประวัติศาสตร์ ขณะที่ทหารไทยเองในยุคสมัยต่อมาก็ทำให้บ้านเมืองเจริญงอกงามได้อย่างไม่มีที่ติ ดูสิแม้แต่ เกาหลีใต้ เริ่มจากผู้นำทหารหลังยุคสงครามแต่ก็สามารถวางรากฐานรัฐเข้มแข็งได้จริง ที่เราควรสนใจจริงๆคือเราจะสร้างระบบยุติธรรมที่จัดการคนโกงได้อย่างไร เพื่อไม่ให้ ชาติล่มสลาย หรือเปล่า?

‘เกาหลีใต้’ เปิดฉากเลือกตั้ง ‘ปธน.คนใหม่’ แทน ‘ยุน ซอกยอล’ โดยผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ทั้งหมดกว่า 44 ล้านคน คาดรู้ผลพรุ่งนี้

(3 มิ.ย. 68) ชาวเกาหลีใต้เริ่มออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งประธานาธิบดีแล้วในวันนี้ เพื่อเลือกผู้นำคนใหม่แทนที่อดีตประธานาธิบดี ยุน ซอกยอล ที่ถูกถอดถอนไปก่อนหน้า

รายงานข่าวแจ้งว่า หน่วยเลือกตั้งกว่า 14,000 แห่งทั่วประเทศได้เปิดตั้งแต่เวลา 06.00 น. ตามเวลาเกาหลีใต้ และจะปิดในเวลา 20.00 น. จากผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมดกว่า 44 ล้านคนนั้น มีประมาณ 34.7% ที่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าไปแล้ว

ผลการเลือกตั้งที่ขับเคี่ยวกันระหว่าง 3 ผู้สมัครคนสำคัญ ได้แก่ อี แจมยอง ตัวเต็งจากพรรคประชาธิปไตย (DP), คิม มุนซู จากพรรคพลังประชาชน และ อี จุนซอก จากพรรคปฏิรูปใหม่ คาดว่าจะทราบผลได้ในวันพรุ่งนี้ (4 มิ.ย.)

ผู้ชนะจะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นเวลา 5 ปี โดยตำแหน่งประธานาธิบดีเกาหลีใต้นั้นว่างลงตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย. หลังจากที่นายยุนถูกถอดถอนตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่รับรองมติการถอดถอนของรัฐสภา สืบเนื่องจากการประกาศกฎอัยการศึกชั่วคราวของเขาเมื่อเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา

ตามผลสำรวจของแกลลัพ โคเรีย (Gallup Korea) ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 27 พ.ค. นั้น อี แจมยอง มีคะแนนนำอยู่ที่ 49% ขณะที่คิม มุนซู ตามมาเป็นอันดับสองอยู่ที่ 35% ส่วน อี จุนซอก ได้รับคะแนน 11%

‘อีแจมยอง’ ชนะเลือกตั้ง คว้าเก้าอี้ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ประกาศให้คำมั่น ‘รวมใจประชาชน’ หยุดแบ่งขั้วการเมือง

(4 มิ.ย. 68) อีแจมยอง ชนะการเลือกตั้ง ขึ้นเป็นประธานาธิบดีเกาหลีใต้คนใหม่ โดยได้รับคะแนนเสียง 49.4% เอาชนะคิม มุนซู จากพรรคเดียวกับอดีตประธานาธิบดียุน ซอกยอล ที่เพิ่งถูกถอดถอนหลังพยายามประกาศกฎอัยการศึกจนเกิดวิกฤตการเมืองครั้งใหญ่

ในพิธีสาบานตนเมื่อวันพุธ อีแจมยองให้คำมั่นว่าจะ 'รวมใจประชาชน' และย้ำว่าจะไม่ยอมให้สถาบันประชาธิปไตยถูกคุกคามอีก พร้อมประกาศจัดตั้งทีมเศรษฐกิจฉุกเฉินทันที เพื่อรับมือกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ

ประธานาธิบดีเกาหลีใต้คนใหม่ยังกล่าวถึงวิกฤตการเมืองที่ผ่านมาว่า เกิดจาก 'กลุ่มการเมืองที่ไม่สนใจชีวิตประชาชน' พร้อมเตือนว่าจะยุติการเมืองแบบแบ่งขั้ว พร้อมสร้างรัฐบาลที่ 'ยืดหยุ่นและเน้นความเป็นจริง'

แม้จะมีอดีตพัวพันคดีการเมืองหลายคดี แต่นักวิเคราะห์มองว่าชัยชนะของเขาเป็นผลจากความโกรธของประชาชนต่อการใช้อำนาจโดยมิชอบของรัฐบาลก่อนหน้า โดยเฉพาะการประกาศกฎอัยการศึกที่ถูกมองว่าละเมิดหลักประชาธิปไตย

อย่างไรก็ตาม อีแจมยองยังต้องเผชิญแรงต้านจากกลุ่มผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดียุน ซึ่งยังคงมีพลังทางการเมือง และยังมีการพิจารณาคดีในศาลสูงที่อาจส่งผลต่ออนาคตทางการเมืองของเขา ขณะที่ อี แจมยอง ต้องพยายามเปลี่ยนความไม่พอใจของประชาชนให้กลายเป็นความหวังของชาติ

‘แอนนี่’ ทายาทตระกูลแชโบลเตรียมเดบิวต์ กรุ๊ปชายหญิง ALLDAY PROJECT ค่ายลูก YG

(10 มิ.ย. 68) เกิดเป็นกระแสฮือฮาบนโลกโซเชียล เมื่อ ‘แอนนี่’ (Annie) ลูกสาวของประธาน Shinsegae (ชินเซเก ห้างสรรพสินค้าชื่อดังของเกาหลีใต้) เตรียมเดบิวต์ในวงไอดอลใหม่ ALLDAY PROJECT ภายใต้การดูแลของโปรดิวเซอร์ชื่อดัง TEDDY แห่ง THEBLACKLABEL โดยวงมีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 มิถุนายนนี้

ALLDAY PROJECT เป็นวงไอดอลแบบผสมชาย-หญิง ที่มีคอนเซปต์ “ไร้ขอบเขตทางเพศ” ประกอบด้วยสมาชิก 5 คน ได้แก่ Annie, Tarzzan, Bailey, Woochan และ Youngseo การรวมตัวของสมาชิกที่มาจากหลากหลายพื้นเพ ทำให้วงนี้ได้รับความสนใจตั้งแต่เปิดตัวภาพทีเซอร์แรกบนโซเชียล

Annie หรือ มุนซอยุน เกิดปี 2002 ปัจจุบันศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัย Columbia ในสหรัฐฯ แม้ยังไม่มีหุ้นใน Shinsegae แต่ในฐานะทายาทตระกูลแชโบลชั้นนำ เธอกลายเป็นที่จับตาทันทีหลังเปิดตัวเป็นหนึ่งในสมาชิกของวง โดยก่อนหน้านี้เธอเคยถูกคาดการณ์ว่าจะเดบิวต์ในวง Meovv ที่ได้เดบิวต์อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2024 แต่ปรากฏว่าเธอไม่ได้ร่วมเป็นสมาชิกของวงดังกล่าว 

สำหรับ แชโบล (Chaebol) คือกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ในเกาหลีใต้ที่มีอำนาจทางเศรษฐกิจสูง และมักจะถูกควบคุมโดยครอบครัวเดียวกัน ซึ่งจะมีการลงทุนข้ามธุรกิจที่แตกต่างกัน เพื่อกระจายความเสี่ยงและขยายธุรกิจไปในหลายภาคส่วน เช่น Samsung, Hyundai, SK Group และ Lotte

อย่างไรก็ตาม สมาชิกคนอื่นของวง ALLDAY PROJECT ก็มีความโดดเด่นไม่แพ้กัน เช่น โจ อูชาน (Jo Woo-Chan) อดีตผู้เข้าแข่งขันรายการ Show Me The Money 6, ยองซอ (Youngseo) อดีตเด็กฝึกจากเกิร์ลกรุ๊ป ILLIT รวมถึง เบย์ลี่ (Bailey) และ ทาร์ซาน (Tarzzan) ที่มีพื้นฐานแน่นในสายการเต้นและแฟชั่น ซึ่งการรวมตัวของทั้ง 5 คนถูกมองว่าเป็นกลุ่มไอดอลรุ่นใหม่ที่พร้อมพลิกภาพลักษณ์วงการ

ทั้งนี้ การเปิดตัว ALLDAY PROJECT ถือเป็นก้าวสำคัญของค่าย THEBLACKLABEL ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ YG Entertainment ที่เคยปลูกปั้นกรุ๊ปชื่อดังอย่าง BIGBANG, 2NE1 และ BLACKPINK 

ปธน.อีแจมยอง เดินเกมสันติปิดลำโพงโจมตีเปียงยาง ส่งสัญญาณฟื้นสัมพันธ์สองเกาหลี

(12 มิ.ย. 68) ประธานาธิบดีคนใหม่ของเกาหลีใต้ นายอี แจมยอง มีคำสั่งให้กองทัพปิดลำโพงยักษ์ที่เคยเปิดเพลง K-Pop ข่าวสาร และข้อความโฆษณาชวนเชื่อต่อเกาหลีเหนือมาเป็นเวลาหนึ่งปี ซึ่งถือเป็นก้าวแรกในการลดความตึงเครียดและฟื้นฟูความเชื่อมั่นระหว่างสองประเทศ

ก่อนหน้านี้ อดีตผู้นำเกาหลีใต้ นายยุน ซอกยอล ที่ถูกถอดถอนจากตำแหน่ง มีนโยบายตอบโต้เกาหลีเหนือด้วยการใช้เสียงเพลงและใบปลิวโจมตีผู้นำคิม จองอึน ส่งผลให้เกาหลีเหนือส่งลูกโป่งบรรจุขยะกลับมาเป็นการตอบโต้เช่นกัน

รัฐบาลอีแจมยองยังได้ขอให้นักเคลื่อนไหวงดปล่อยลูกโป่งโปรยใบปลิว ขณะเดียวกันเตือนว่าอาจใช้กฎหมายความปลอดภัยสาธารณะควบคุมการเคลื่อนไหวดังกล่าว หากส่งผลกระทบต่อความมั่นคงบริเวณชายแดน

ล่าสุดเกาหลีเหนือก็ได้ปิดลำโพงของตนลงเช่นกันในวันพฤหัสบดี ทำให้ฝ่ายเกาหลีใต้มองว่านี่อาจเป็นสัญญาณของการยุติสงครามเสียงชั่วคราว ขณะที่ประชาชนชายแดนต่างหวังว่าชีวิตจะกลับสู่ความสงบอีกครั้ง

แม้ยังไม่มีท่าทีตอบรับอย่างเป็นทางการจากเปียงยาง แต่นักวิเคราะห์มองว่าการเคลื่อนไหวล่าสุดของรัฐบาลใหม่เกาหลีใต้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการทลายกำแพงความขัดแย้งที่สะสมมายาวนานในคาบสมุทรเกาหลี


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top