Thursday, 2 May 2024
อีลอนมัสก์

‘อีลอน มัสก์’ ทำมูลค่าทางการตลาด ‘X’ หายไป 71% นับตั้งแต่ทุ่มเงิน 44 พันล้านดอลลาร์ เข้าซื้อกิจการ

เมื่อวานนี้ (3 ม.ค.67) มูลค่าทางการตลาดของทวิตเตอร์ลดลงไปกว่า 71% นับตั้งแต่โดนเจ้าของเทสลา อีลอน มัสก์ ซื้อออกจากตลาดหลักทรัพย์ไปเมื่อตุลาคมปี 2022 ในดีล 44 พันล้านดอลลาร์ ก่อนจะเริ่มต้นปลดพนักงานครั้งใหญ่ เปลี่ยนชื่อแพลตฟอร์มเป็น X และผจญมรสุมต่างๆ นานา โดนใบเหลืองเตือนจาก EU ข้อหาเผยแพร่ข้อมูลเท็จ และมัสก์โดนกระแสทวีตเหยียดยิวเล่นงานจนโฆษณาหนี

เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษรายงานในวันอังคาร (2 ม.ค.) ว่า บริษัทการลงทุน Fidelity เปิดเผยว่าตั้งแต่หลังจากมหาเศรษฐีพันล้านเจ้าของเทสลา อีลอน มัสก์ ซื้อบริษัททวิตเตอร์ไปเมื่อตุลาคมปี 2022 ได้ในราคา 44 พันล้านดอลลาร์ พบว่ามูลค่าหุ้นตกลงไปกว่า 71.5%

Fidelity ซึ่งถือหุ้นอยู่ในทวิตเตอร์เปิดเผยในการรายงานของสื่อ Axios ของสหรัฐฯ ได้ประเมินว่า แพลตฟอร์ม X ในชื่อปัจจุบันมีมูลค่าอยู่ราว 12.5 พันล้านดอลลาร์ ในการเปิดเผย

ทวิตเตอร์นั้นถูกเปลี่ยนชื่อเป็น X เมื่อกรกฎาคมปี 2023 และยังคงประสบปัญหามาโดยตลอด ตัวเลขผู้ใช้ประจำเดือนตกลงไป 15% ในปีแรกตั้งแต่มัสก์ซื้อท่ามกลางความวิตกการเพิ่มขึ้นของวาทะแสดงความเกลียดชัง หรือ hate speech บนแพลตฟอร์มซึ่งหลังจากที่มัสก์ซื้อทวิตเตอร์ออกมาจากตลาดหลักทรัพย์ เขาสั่งปลดพนักงานออกไปไม่ต่ำกว่า 50% และลดการตรวจสอบลง ส่งผลทำให้ในกันยายนปีที่ผ่านมา สหภาพยุโรป EU ออกคำเตือนไปยังอีลอน มัสก์ หลังจากพบว่าแพลตฟอร์ม X ของเขามีอัตราสูงสุดของการโพสต์ข้อมูลปลอมของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทั้งหมด

และล่าสุด อีลอน มัสก์ยังทำให้ X โดนแห่ถอนโฆษณาจากบริษัทยักษ์ใหญ่ชื่อดังนับตั้งแต่มัสก์ได้ทวีตให้การสนับสนุนทฤษฎีสมคบคิดเหยียดชาวยิว อ้างอิงจากหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส และส่งผลทำให้เจ้าของเทสลาออกมาตอบโต้การแห่ถอนโฆษณาจาก X ด้วยการกล่าวว่า “ขอให้บริษัทพวกนั้นไปลงนรกซะ” ระหว่างการให้สัมภาษณ์อยู่ในเมืองนิวยอร์ก ซิตี

มัสก์ซึ่งถูกนิตยสารฟ็อบส์จัดให้เป็นบุคคลที่รวยที่สุดในโลกมีความมั่งคั่ง 251 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเมื่อครั้งที่เขาซื้อทวิตเตอร์ไปเขาแสดงเหตุผลว่า “เป็นการซื้อเพื่อช่วยมนุษยชาติ”

และมัสก์ที่มีแนวคิดทางการเมืองนิยมฝ่ายขวาและพรรครีพับลิกันได้สั่งยกเลิกการแบนบุคคลทางการเมืองอื้อฉาวของสหรัฐฯ ทั้งอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ และนักจัดรายการวิทยุเจ้าของเผยแพร่ทฤษฎีสมคบคิด อเล็กซ์ โจนส์ (Alex Jones) ซึ่งบุคคลทั้งสองต่างมีคดีติดตัว

'ไซเบอร์ทรัก' ชนรถคู่กรณีกลางถนนรัฐแคลิฟอร์เนีย อีกฝ่ายพังยับ ด้าน ตำรวจเทกซัสถาม 'อีลอน มัสก์' ขอใช้เป็นรถตำรวจได้ไหม?

(5 ม.ค. 67) รอยเตอร์ส รายงาน ภายหลังรถไซเบอร์ทรักของเทสลา (Tesla Cybertruck) เกิดอุบัติเหตุชนกับรถคู่กรณีที่ 'พาโล อัลโต' (Palo Alto) รัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้กลายเป็นเรื่องโจษจันไปทั่ว หลังภาพที่ปรากฏพบรถเก๋งฝ่ายตรงข้าม (โตโยต้า) อยู่ในสภาพยับเยิน แต่รถกระบะไฟฟ้าของเทสลานั้นแค่บุบ ขณะที่ตำรวจรัฐเทกซัสเกิดความสนใจและส่งทวีตหา 'อีลอน มัสก์' ว่า "ไซเบอร์ทรักเป็นรถตำรวจได้ไหม"

สำหรับเหตุการณ์นี้ ตำรวจทางหลวงรัฐแคลิฟอร์เนีย CHP ที่เดินทางไปจุดเกิดเหตุบนถนนสกายไลน์ บูเลวาร์ด (Skyline Boulevard) ในพาโล อัลโต (Palo Alto) ยืนยันว่า คนขับไซเบอร์ทรักเป็นวิศวกรเทสลาจากซานฟรานซิสโก และช่วงเกิดเหตุรถไม่ได้ใช้ระบบขับอัตโนมัติ

ส่วนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น มาจากรถโตโยต้าที่ผู้ขับขี่วัย 17 ปี ได้ขับรถชนขอบแนวดินข้างทางและส่งผลทำให้รถพุ่งกลับเข้าไปบนถนนในเลนตรงข้ามและชนกับรถไซเบอร์ทรัก โดยตามการรายงานสภาพในพื้นที่พบว่า สภาพอากาศไม่แจ่มใสและถนนเปียกชื้น

หลังเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ตำรวจเมืองโรเซนเบิร์ก (Rosenberg) รัฐเทกซัส ได้ทวีตถาม 'อีลอน มัสก์'อย่างติดตลกเมื่อวันอังคาร (2 ม.ค.67) ที่ผ่านมา (อ้างอิงจาก NDTV ของอินเดีย) ว่า "คิดว่าไซเบอร์ทรักซึ่งมีสนนราคาสูงลิ่วถึง 60,990 ดอลลาร์ จะเป็นรถตำรวจได้ไหม?" ด้าน มัสก์ ก็ได้ตอบทวีตกลับมาด้วยว่า "100" ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการตอบรับในเชิงเห็นด้วย 100% นั่นเอง

ก่อนหน้านี้ อีลอน มัสก์ เคยออกมาประกาศบนแพลตฟอร์ม X ว่า "ผมเชื่อมั่นอย่างสูงว่า ไซเบอร์ทรักจะเป็นรถที่มีความปลอดภัยมากที่สุดสำหรับคนขับรถเองและสำหรับคนใช้ถนน"

สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเพียงรายเดียว คือ ผู้ขับขี่รถเก๋งโตโยต้า ซึ่งปฏิเสธการไปโรงพยาบาล ส่วนภายในรถกระบะไฟฟ้าไซเบอร์ทรัก (Tesla Cybertruck) ซึ่งพบว่ามีผู้ที่โดยสารมาในรถด้วย 3 คน ปลอดภัยดี

เหตุการณ์นี้ ได้กลายเป็นไวรัลไปทั่วโลกในทันที เพราะเหมือนมีคนมาช่วยพิสูจน์ความแข็งแกร่งของ Tesla Cybertruck กันจริงๆ ให้เห็นแล้ว

'นิวรัลลิงก์' ฝังชิปในสมองของมนุษย์คนแรก ด้าน 'อีลอน' ฟุ้ง!! การทดสอบเป็นที่น่าพอใจ

(30 ม.ค.67) บริษัทนิวรัลลิงก์ (Neuralink) บริษัทด้านการพัฒนาเทคโนโลยีระบบประสาทของสหรัฐ ที่ก่อตั้งโดยอีลอน มัสก์ เปิดเผยว่า นิวรัลลิงก์ ได้ทำการปลูกถ่ายฝังไมโครชิปในสมองคนไข้มนุษย์รายแรกแล้วและคนไข้ฟื้นตัวเป็นอย่างดีเยี่ยม 

อีลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้งบริษัทนิวรัลลิงก์ ได้โพสต์ข้อความลงใน X ส่วนตัว ข้อความว่า การทดสอบในเบื้องต้นพบการทำงานของเซลล์ประสาทในระดับที่น่าพอใจ ผลิตภัณฑ์แรกของพวกเขาชื่อว่า Telepathy จะทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ได้โดยใช้ความคิด โดยเริ่มต้นจะใช้กับผู้ที่ไม่สามารถใช้แขนและขาได้ อีลอน มัสก์ หวังว่ามันจะช่วยให้พวกเขาสื่อสารได้เร็วเท่ากับการพิมพ์จากมืออาชีพ

โดยเมื่อปีที่แล้ว สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA) ได้อนุมัติ ให้ทางนิวรัลลิงก์ (Neuralink) สามารถดำเนินการการทดลองทางคลินิกในมนุษย์เป็นครั้งแรก ซึ่งแสดงถึงก้าวแรกที่สำคัญ ที่จะทำให้เทคโนโลยีของเราสามารถช่วยเหลือผู้คนจำนวนมากได้ในอนาคต ซึ่งนิวรัลลิงก์ ดำเนินการใช้หุ่นยนต์ฝังชิปเข้าไปที่สมองส่วนที่ใช้ควบคุมการเคลื่อนไหว โดยเป้าหมายในเบื้องต้นคือการทำให้คนสามารถควบคุมเคอร์เซอร์ของคอมพิวเตอร์ หรือแป้นพิมพ์ คีย์บอร์ด ด้วยการใช้ความคิดเพียงอย่างเดียว

‘ยูเครน’ โวย!! Starlink ให้กองทัพรัสเซียใช้ได้ไง ด้าน ‘อีลอน มัสก์’ แจง!! “มันเป็นแค่ข่าวปลอม”

สำนักหน่วยข่าวกรองของยูเครน ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่าน Telegram ว่า ตอนนี้กองทัพรัสเซียกำลังใช้บริการอินเทอร์เน็ตดาวเทียม Starlink ของ อีลอน มัสก์ ในเขตพื้นที่ยึดครองของรัสเซียในยูเครน พร้อมแนบหลักฐานเป็นคลิปสนทนาสั้น ๆ ที่ระบุว่าเป็นทหารรัสเซียที่คุยกันว่า ‘พวกเขากำลังใช้อินเทอร์เน็ตของ Starlink อยู่’ 

ด้าน อังเดรย์ ยูซอฟ ตัวแทนจากหน่วยข่าวกรองของยูเครนออกมากล่าวว่า ทางยูเครนมีหลักฐานการแอบใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม Starlink ของกองทัพรัสเซียเป็นจำนวนมาก เชื่อว่าเรื่องนี้จะนำไปสู่ปัญหาในเชิงระบบในไม่ช้า อีกทั้งยังเปิดเผยด้วยว่า กองกำลังฝ่ายรัสเซีย และพื้นที่ที่พบการใช้งาน ก็คือ กองพลจู่โจมทางอากาศที่ 83 ที่ปักหลักโจมตีในเมือง Klishchiivka และ Andriivka ในเขตแคว้นโดเนตสค์ ซึ่งตอนนี้อยู่ในพื้นที่ยึดครองของรัสเซีย

Starlink เป็นบริษัทผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมของอีลอน มัสก์ ปัจจุบันมีดาวเทียมส่งสัญญาณมากถึง 5,289 ดวง ครอบคลุมการใช้งานถึง 70 ประเทศในทุกทวีปทั่วโลก โดยอีลอน มัสก์ ได้เปิดให้ยูเครนใช้บริการ Starlink เป็นกรณีพิเศษ ตั้งแต่ช่วงเริ่มสงครามรัสเซีย-ยูเครน เพื่อสนับสนุนการตอบโต้ของกองทัพยูเครน 

แต่ทว่า ต่อมาความสัมพันธ์ของอีลอน มัสก์ และ รัฐบาลยูเครนเริ่มเย็นชาต่อกัน ตั้งแต่ที่อีลอน มัสก์ สั่งให้ระงับสัญญาณในบริเวณพื้นที่ชายฝั่งทางคาบสมุทรไครเมีย ทำให้กองทัพยูเครนต้องพับแผนการโจมตีไครเมียด้วยโดรนพิฆาตไป โดยอีลอน อ้างว่า การโจมตีของฝ่ายยูเครนในพื้นที่ไครเมียอาจทำให้สงครามเข้าสู่จุดที่เลวร้ายมากกว่าเดิม จนถึงขั้นสงครามนิวเคลียร์ได้ 

จนกระทั่งวันนี้ที่หน่วยข่าวกรองยูเครนออกมาแถลงว่า พบหลักฐานว่ากองทัพรัสเซียสามารถเข้าถึงบริการ Starlink ของอีลอน มัสก์ ได้แล้ว พร้อมข่าวลือแพร่สะพัดว่า รัสเซียซื้ออุปกรณ์สัญญาณถูกลิขสิทธิ์ของ Starlink ผ่านทางรัฐบาลดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

เป็นเหตุให้อีลอน มัสก์ ต้องออกมาโพสต์ผ่าน X ว่า “มีการปล่อยข่าวปลอมมากมายว่า SpaceX กำลังจะเปิดสัญญาณ Starlink ให้รัสเซีย ซึ่งมันเป็นแค่ข่าวปลอม สิ่งที่พวกคุณควรรู้ไว้คือ เราไม่เคยขาย Starlink ให้รัสเซีย ไม่ว่าจะทางตรง หรือ ทางอ้อม ใด ๆ ทั้งสิ้น”

เช่นเดียวกับทางรัสเซีย ดมิตริ เพสคอฟ โฆษกประจำทำเนียบเครมลิน ก็ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาของยูเครนที่ว่า กองทัพรัสเซียแอบมาขโมยเสาสัญญาณ Starlink ไปใช้ หรือได้ใช้อินเทอร์เน็ต Starlink ในเขตยึดครองโดเนตสค์

แต่ก็มีความเป็นไปได้เหมือนกันที่ฝ่ายกองทัพรัสเซียจะเข้าถึงสัญญาณอินเทอร์เน็ตของ Starlink ได้ เนื่องจากอินเทอร์เน็ตดาวเทียม ส่งสัญญาณตามขอบเขตทางภูมิศาสตร์ ทหารรัสเซียก็มีโอกาสเข้าถึง Starlink ในพื้นที่ของยูเครน และอาจทำการปลอมแปลงข้อมูลเขตภูมิศาสตร์ให้แสดงว่ากำลังใช้งานอยู่ในพื้นที่ที่ถูกบล็อก หรืออยู่นอกเขตบริการ Starlink ก็ทำได้เช่นกัน

ในยุค Internet of Things ทุกอย่างเสกสรรได้ด้วยอินเทอร์เน็ต ไม่เว้นแต่ความได้เปรียบในการทำศึกสงครามที่ไม่ได้วัดด้วยปริมาณกำลังพลเสมอไป ดังนั้นการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่เสมอกันของฝั่งศัตรู ไม่ว่าจะซื้อใช้เอง ขอยืมใช้ หรือแอบใช้ ก็สร้างความระแวงได้เหมือนกัน

‘กลุ่มหัวรุนแรง’ วางเพลิงเสาไฟฟ้าข้างโรงงาน Tesla ในเยอรมัน อ้าง!! ต้องการโค่น ‘อีลอน มัสก์’ พร้อมตราหน้า ‘นักเทคโนโลยีฟาสซิสต์’ 

‘อีลอน มัสก์’ ฉุนขาด เมื่อโรงงานผลิตรถยนต์ Tesla ในแคว้นบรันเดินบวร์ค ของเยอรมัน กลายเป็นเป้าหมายในการโจมตีของกลุ่มคนหัวรุนแรงฝ่ายซ้ายจัด ที่ชื่อว่า ‘Vulkangruppe’ หรือ กลุ่มภูเขาไฟ ได้ลอบวางเพลิงเสาไฟฟ้าข้างโรงงาน ส่งผลให้ไฟฟ้าดับทั้งเมือง โรงงานรถยนต์ต้องหยุดชะงัก และ หมู่บ้านในบริเวณใกล้เคียงไม่มีไฟฟ้าใช้ 

เมื่อวันอังคาร (5 มี.ค. 67) ที่ผ่านมา เกิดเพลิงไหม้เสาไฟที่จ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าโรงงาน Tesla กระทบต่อระบบไฟฟ้าในโรงงานทั้งหมด จนต้องหยุดการผลิตชั่วคราว คาดว่าอาจต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะกลับมาเดินสายการผลิตรถยนต์ได้อีกครั้ง 

ต่อมาไม่นาน เว็บไซต์ ‘kontrapolis.info’ ของเยอรมัน ได้โพสต์จดหมายของกลุ่มหัวรุนแรงฝ่ายซ้ายในเยอรมัน ที่เรียกตัวเองว่ากลุ่มภูเขาไฟ (Vulkangruppe) ออกมาแสดงตนว่าเป็นผู้ก่อเหตุลอบวางเพลิงดังกล่าว ด้วยการตัดกระแสไฟเข้าโรงงาน Tesla เพื่อสร้างความปั่นป่วนจนต้องปิดโรงงาน

โดยทางกลุ่มได้ประกาศเป้าหมายอย่างชัดเจนว่า ต้องการทำลายโรงงานยักษ์ใหญ่ระดับ Gigafactory ของ Tesla และโค่นล้ม อีลอน มัสก์ ที่ทางกลุ่มกล่าวหาว่าเขาเป็น ‘นักเทคโนโลยีฟาสซิสต์’ ที่เสวยสุขบนทรัพยากรธรรมชาติ และแรงงานผู้คน ซึ่งการทำลายอีลอน มัสก์ จะถือเป็นก้าวสำคัญของการปลดปล่อยระบอบปิตาธิปไตย (ระบอบที่ชายเป็นใหญ่) พร้อมลงชื่อท้ายจดหมายว่า ‘Agua De Pau’ ภูเขาไฟในประเทศโปรตุเกส

กลุ่มภูเขาไฟ ถูกจัดอยู่ในกลุ่มหัวรุนแรงซ้ายจัดกลุ่มหนึ่งในเยอรมัน ที่เคยก่อเหตุลอบวางเพลิงในกรุงเบอร์ลินมาตั้งแต่ปี 2554 ภายใต้ชื่อ ‘Vulkangruppen’ โดยมักเล็งเป้าหมายไปที่ท่อสายเคเบิลบนทางรถไฟ, เสาสัญญาณวิทยุ, สายสัญญาณข้อมูลสื่อสาร หรือ รถยนต์ขององค์กรต่าง ๆ หลังก่อเหตุมักส่งจดหมายออกมาแสดงตนเป็นผู้รับผิดชอบต่อเหตุการณ์พร้อมลงท้ายจดหมายด้วยชื่อภูเขาไฟที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาไฟของไอซ์แลนด์ เช่น ‘Grimsvotn’, ‘Katla’ และ ‘Ok’ เป็นต้น 

กลุ่มภูเขาไฟ ไม่มีแกนนำชัดเจน มีอุดมการณ์ทางการเมืองใกล้เคียงกับระบอบอนาธิปไตย (ระบอบที่ปฏิเสธการมีอยู่ของรัฐบาล และ ลำดับชั้นทางสังคม) ซึ่งถือเป็นแนวคิดสุดขั้วที่สุดในอุดมการณ์ทางการเมืองฝ่ายซ้าย 

ต่อมาทางกลุ่มพยายามเข้ามามีอิทธิพลในการเคลื่อนไหวเรื่องปัญหาสภาพอากาศโลก และถูกนำมาเป็นข้ออ้างหนึ่งในการโจมตีโรงงาน Tesla ในวันนี้ที่ Tesla ถูกโยงว่าเป็นสัญลักษณ์ของ ‘ทุนนิยมสีเขียว’ 

ด้านอีลอน มัสก์ ได้โพสต์ข้อความลงใน X ถึงกลุ่มภูเขาไฟว่า เป็นผู้ก่อการร้ายเชิงนิเวศที่โง่ที่สุดในโลก รักษ์โลกแบบใด ถึงมาโจมตีโรงงานที่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า แทนที่จะไปโจมตีโรงงานที่ผลิตรถยนต์พลังงานฟอสซิล แล้วจะบอกว่าเป็นนักขับเคลื่อนเพื่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างไร 

อีลอน มัสก์ เปิดโรงงาน Tesla ในเยอรมันเมื่อปี 2565 ซึ่งเป็นโรงงานที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และยังเป็นการท้าทายผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมันที่เป็นหนึ่งในประเทศผู้นำด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ของโลกอีกด้วย

แต่ Tesla ก็กำลังมีประเด็นกับกลุ่มนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมในเยอรมัน เมื่อ อีลอน มัสก์ วางโครงการที่จะขยายโรงงานในเยอรมันเพิ่มกำลังการผลิตรถยนต์ Tesla ให้ได้ถึง 1 ล้านคันต่อปี เพื่อรองรับตลาดที่กำลังขยายตัวอย่างมากในยุโรป ซึ่งจำเป็นต้องถางพื้นที่ป่าเพิ่มอีกอย่างน้อย 420 เอเคอร์ จึงเกิดกระแสต่อต้านของกลุ่มพิทักษ์สิ่งแวดล้อม และชาวบ้านในพื้นที่ ที่มาปักหลักตั้งแคมป์เพื่อขัดขวางการถางป่าเพื่อขยายโรงงาน Tesla มาแล้ว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top