Wednesday, 15 May 2024
สุพรรณบุรี

24 มกราคม พ.ศ. 2555 ย้อนรอยเหตุการณ์ ‘พลุ-ดอกไม้ไฟระเบิด’ จ.สุพรรณบุรี บ้านเรือนไฟโหมกว่า 50 หลัง - บาดเจ็บอีกหลายราย

เมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2555 ท่ามกลางงานรื่นเริงรับเทศกาลวันตรุษจีน ได้เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญขึ้น ณ อุทยานมังกรสวรรค์ พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรี ตำบลรั้วใหญ่ อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งในวันนั้นได้มีการจัดงาน ‘ตรุษจีนสุพรรณบุรี ปีทองมังกรสวรรค์’ โดยจัดขึ้นในช่วงวันที่ 23-29 มกราคม พ.ศ. 2555 มี นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี 

โดยเหตุการณ์สะเทือนขวัญนี้เกิดขึ้นในเวลา 19.30 น. ในระหว่างการแสดงพลุดอกไม้ไฟไพโรเทคนิคชุด ‘ปีทองมังกรสวรรค์อวยชัยให้พรตรุษจีน’ ได้เกิดเหตุพลุจำนวนมากระเบิดขึ้นพร้อมกัน จนสามารถเห็นเป็นลำแสงที่พุ่งสู่ท้องฟ้าในยามค่ำคืนและเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว 

เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ลูกไฟได้ตกใส่บ้านเรือนของประชาชนที่ตั้งติดกันอยู่กันนับร้อยหลังคาเรือนจนเกิดไฟโหมไหม้กว่า 50 หลัง ทั้งยังมีผู้ได้บาดเจ็บกว่า 75 ราย และเสียชีวิต 4 ราย นอกจากนี้หลังจากเหตุการณ์ได้มีผู้มาแจ้งความเสียหายของบ้านเรือนทั้งหมด 435 หลัง ซึ่งมีกว่า 71 ราย ที่บ้านเสียหายทั้งหลัง อีกทั้งวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ก็ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดเช่นกัน 

ซึ่งผลจากเหตุการณ์นี้ส่งผลให้มีชาวบ้านจำนวนไม่น้อยไร้ที่อยู่อาศัย ซึ่งทางภาครัฐได้เข้ามาช่วยเหลือ โดยการจัดศูนย์พักพิงชั่วคราวขึ้น และในส่วนของพื้นที่จัดงานเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดล้อมไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่ และได้เข้าตรวจสอบในตอนเช้าของวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2555 โดยนายสมศักดิ์ ภูรีศรีศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ทั้งภาครัฐและเอกชน เจ้าหน้าที่วิทยาการ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเก็บกู้ระเบิด เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ  

หลังจากเหตุการณ์นี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ขอร้องให้ยกเลิกงานโดยทันที ส่งผลให้งานต้องยกเลิกเพื่อเหตุผลด้านความปลอดภัย อีกทั้งส่งผลให้จังหวัดอื่นๆ ยกเลิกการแสดงดอกไม้ไฟการแสดงพลุด้วยเช่นกัน 

ชื่นชม!! 2 ตร.ช่วยชายเครียดสูงวัย กระโดดน้ำจากสะพาน ที่ จ.สุพรรณบุรี โชคดี!! ประคองตัวเข้าฝั่งปลอดภัย ด้าน ตร.เผย!! "ต้องช่วยให้เขารอด"

(24 ม.ค. 67) เพจเฟซบุ๊ก 'ดาวแปดแฉก' ได้โพสต์เรื่องราวนาทีชีวิต ระบุว่า...

นาทีชีวิตตำรวจกระโดดลงน้ำช่วยชีวิตประชาชน สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 23 ม.ค.67 เวลาประมาณ 13.45 น. 'จ.ส.ต.ธรรมรัตน์ ศรีอำพัน' ผบ.หมู่ (ป.) สภ.สองพี่น้อง และ 'ส.ต.ต.ณัชพล จันนาคา' ผบ.หมู่ (ผช.พงส.) สภ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ได้ช่วยชีวิตชายสูงอายุ ที่กระโดดจากสะพานเทศบาลเมืองสองพี่น้อง ลงไปในคลอง

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชาวบ้านชุมชนหลังตลาดบางลี่ ชื่นชมการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจสายตรวจทั้งสองนาย อีกทั้งภาพการช่วยเหลือถูกแชร์ในโซเชียลมีเดีย สังคมออนไลน์แสดงความคิดเห็นชื่นชมตำรวจทั้งสองนาย

โดยวันนี้ (24 ม.ค.67) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เรียก พ.ต.อ.เกียรติชัย เกิดโชค ผกก.สภ.สองพี่น้อง, จ.ส.ต.ธรรมรัตน์ ศรีอำพัน และ ส.ต.ต.ณัชพล จันนาคา เข้าพบที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อมอบรางวัลเป็นกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ และ ทำความดี

โดยเพจดาวแปดแฉก ได้ระบุเพิ่มเติมอีกว่า ตำรวจทั้งสองนาย คือ จ.ส.ต.ธรรมรัตน์ ศรีอำพัน ผบ.หมู่ (ป.) และ ส.ต.ต.ณัชพล จันนาคา ผบ.หมู่ (ผช.พงส.) ปฏิบัติหน้าที่สายตรวจ สภ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ส.ต.ต.ณัชพล เล่าว่า...

"เวลาประมาณ 13.45 น. ของวันที่ (23 ม.ค.2567) ระหว่างออกตรวจในเขตรับผิดชอบ กำลังขับขี่ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ กับ คู่ตรวจไปยังที่พักสายตรวจ ได้รับจากห้องวิทยุสื่อสาร สภ.สองพี่น้อง ให้ตรวจสอบชายกระโดดจากสะพานเทศบาลเมืองสองพี่น้องลงไปในคลอง ซึ่งอยู่ใกล้พอดี ใช้เวลา 2 นาทีถึงจุดเกิดเหตุ

"โดยมีชาวบ้าน 2-3 คน บอกว่าชายสูงอายุกระโดดลงไปในคลอง และเห็นชายสูงอายุลอยอยู่กลางคลองเกาะกองผักตบชวา จึงบอก จ.ส.ต.ธรรมรัตน์ ขับขี่รถจักรยานยนต์ ไปหาจุดที่ใกล้ที่สุดเพื่อช่วยเหลือ ระหว่างหาทางชาวบ้านคนหนึ่ง ออกมาบอกว่าให้เข้าภายในบ้านเขาเลยใกล้กว่า พอไปถึงหลังบ้าน จ.ส.ต.ธรรมรัตน์ แจ้งวิทยุสื่อสารไปยัง สภ.สองพี่น้อง รายงานสถานการณ์ ส่วนผมมองไปที่ชายสูงอายุ ที่เห็นนาทีนั้นเหมือนชายสูงอายุจะไม่ไหวแล้ว สังเกตเห็นได้แค่ใบหน้าเท่านั้น"

ส.ต.ต.ณัชพล เล่าอีกว่า "นาทีนั้นที่ผมเห็น ผมถูกฝึกมาให้ช่วยเหลือ ถูกสอนว่า เราต้องช่วยให้เขารอด แต่เราต้องไหว จึงตัดสินใจทันทีถอดเสื้อเกราะ ถอดเข็มขัดอาวุธ ถอดรองเท้า ระหว่างวิ่งไปจะกระโดดน้ำก็ถอดเสื้อเครื่องแบบทิ้งไว้ที่พื้นดิน กระโดดน้ำทันทีระยะประมาณ 15 เมตร ไปถึงจุดที่ชายสูงอายุลอยเกาะกองผักตบชวา ผมก็ประคองตัวตะโกนเรียกพี่ ๆๆๆ แต่เขาไม่ตอบ แต่สังเกตว่าเขายังพอมีสติ ก็ล็อกคอชายสูงอายุ ซึ่งผมหันหลังประคองเข้าฝั่ง โดยมี จ.ส.ต.ธรรมรัตน์ อยู่ที่ริมตลิ่งพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยรอช่วยเหลือประคองชายสูงอายุขึ้นจากน้ำ"

อย่างไรก็ตามเหตุการณ์นี้ญาติของชายสูงอายุ มาจุดเกิดเหตุแจ้งว่า ชายสูงอายุมีความเครียดจากโรคประจำตัว หลังจากนั้นจึงได้นำตัวส่งไปโรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 เพื่อตรวจร่างกาย และรอดูอาการ จนกระทั่งเวลาประมาณ 15.00 น. แพทย์อนุญาตให้ญาติรับตัวกลับไปดูแลต่อไป

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งลงพื้นที่ซับน้ำตา..มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุโรงงานพลุระเบิด จังหวัดสุพรรณบุรี

ตามที่ได้เกิดเหตุโรงงานพลุระเบิดในพื้นที่ ตำบลศาลาขาว อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรีเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินจำนวนมากนั้น โดยภายหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้มอบหมายให้ นายอรัณย์ โตทวด ผู้จัดการใหญ่มูลนิธิฯ จัดทีม ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นำโดย นางศิริพร กระจ่างหล้าง ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ พร้อมด้วย นายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย ลงพื้นที่สำรวจข้อมูลเพื่อเตรียมการให้ความช่วยเหลือแก่ญาติผู้เสียชีวิตในทันที

วันนี้ (วันพุธที่ 24 มกราคม 2567) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ พร้อมด้วย นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ นายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและเหรัญญิก และ นายนิพนธ์ โชคภิรมย์วงศา กรรมการปฏิคม นำทีมแผนกสาธารณภัย ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นำโดย นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ ลงพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลศาลาขาว  เพื่อเข้าพบพร้อมให้กำลังใจและมอบเงินช่วยเหลือค่าฌาปนกิจแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว รวม 23 รายๆ ละ 20,000 บาท รวมงบประมาณทั้งสิ้น 460,000 บาท (สี่แสนหกหมื่นบาทถ้วน) โดยมี 
นายประทีป การมิตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมด้วย อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย ดร.ปภัสรา เตชะไพบูลย์ อาสาสมัครกิตติมศักดิ์ ร่วมในพิธี ณ องค์การบริหารส่วนตำบลศาลาขาว อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอแสดงความเสียใจ และขอส่งกำลังใจไปยังครอบครัวผู้เสียชีวิต ผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวทุกท่านมา ณ ที่นี้

ตลอดระยะเวลา 114 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง  ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ  ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้รวมถึงการช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตจากสาธารณภัย และพัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ”

ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung

# มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต 
#แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418
#ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน

‘วราวุธ’ เผย ได้มอบเงินเยียวยาเหตุ รง.พลุระเบิดแล้ว 7 ลบ. พร้อมส่งจิตวิทยาตามประกบครอบครัวเหยื่อตลอด 24 ชั่วโมง

(30 ม.ค. 67) ที่ทําเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้ากรณีโรงงานพลุระเบิดที่ จ.สุพรรณบุรี ว่า เรื่องนี้แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ 1.การเยียวยาด้านปัจจัย ซึ่งในเรื่องงบประมาณนั้น ทาง พม.ร่วมกับหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน มอบเงินไปทั้งสิ้นเกือบ 7 ล้านบาท ให้กับทุกครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ โดยในส่วนของ พม.นั้นได้มอบเงินเกือบ 6 แสนบาทสำหรับการเยียวยาให้ผู้สูญเสียและซ่อมแซมที่อยู่อาศัย และในวันที่ 3 กุมภาพันธ์นี้ จะมีการฌาปนกิจชิ้นส่วนของผู้เสียชีวิต และมอบเงินช่วยเหลืองวดสุดท้าย

2.การเยียวยาด้านจิตใจ ซึ่งทาง พม.ได้ส่งทีมนักสังคมสงเคราะห์และนักจิตวิทยา ไปพูดคุยกับทุกครอบครัวอยู่ตลอด โดยตอนนี้มี 3 ครอบครัวที่ยังน่าเป็นห่วง เช่นครอบครัวของลูกชายเจ้าของโรงงาน ซึ่งประสบเหตุการณ์มาตั้งแต่ครั้งที่แล้ว และมีความคิดต่างๆ โดยเจ้าหน้าที่นักจิตวิทยาต้องประกบตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งขณะนี้อยู่ในสถานการณ์ที่ดีขึ้น แต่อีกครอบครัวหนึ่ง ยังทำใจไม่ได้กับการสูญเสีย นักจิตวิทยาก็ติดตามอย่างใกล้ชิด เชื่อว่าสภาพจิตใจจะดีขึ้นตามลำดับ โดยจะดูแลไปอีกพักใหญ่

‘น้องลีวายส์’ เด็ก ป.5 รับจ้างทำเล็บ พร้อมร้องเพลงไทยเดิม ชาวโซเชียลแห่ชื่นชม จนกลายเป็นไวรัล ‘ล้านวิว’

(20 เม.ย.67) กลายเป็นไวรัลข้ามคืน หลังจากผู้ใช้บัญชี TikTok @คิดไม่ออกบอกกวาง โพสต์คลิปเด็กชาย ชั้น ป.5 ให้บริการทำเล็บ พร้อมร้องเพลงไทยเดิมให้ลูกค้าฟังระหว่างนั่งทำเล็บ โดยคิดค่าบริการเพียง 49 บาท ซึ่งหลังคลิปนี้เผยแพร่ไป 1 วัน พบว่ามีคนมาชมกว่า 1 ล้านวิว ต่างชื่นชมน้องนักเรียน ป.5 อย่างมาก

น้องลีวายส์ หรือ ด.ช.ลภณพัตน์ ทองโสภา อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.5 ขึ้น ป.6 โรงเรียนวัดหนองสะเดา อยู่ที่บ้านในพื้นที่ หมู่ 4 ต.หนองสะเดา อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี บุคคลในคลิปได้กล่าวว่า ตนได้มีโอกาสไปทำเล็บกับพี่ท่านหนึ่งแล้วรู้สึกชอบ จึงกลับมาศึกษาจากโซเชียลในการทำเล็บโดยมีคุณแม่คอยสนับสนุน เริ่มจากออกทุนในการซื้ออุปกรณ์ทำเล็บให้ในเบื้องต้น

จากนั้นก็เริ่มทำเล็บให้กับคนในหมู่บ้าน โดยตนเดินทางไปทำให้และบางครั้งก็จะมีคนให้ร้องเพลงไทยเดิมเนื่องจากตนเป็นเด็กกิจกรรมเรียนดนตรีไทยและชอบเต้นรำระหว่างทำไปก็ลองไปทำให้ลูกค้าชื่นชอบและมีคนนำไปลงในติ๊กต็อกจนมีคนติดตาม และมาให้กำลังใจ 

เบื้องต้นใช้เวลาหลังเลิกเรียนและวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ออกทำเล็บให้คนในหมู่บ้านได้มาประมาณสองเดือนถึงสามเดือนแล้วก็มีรายได้บางวันก็ได้ 50 ถึง 100 บาท แต่บางวันก็ไม่ได้เพราะตนเพิ่งเริ่มทำ ซึ่งเงินที่ได้ก็จะเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาและค่อยๆ พัฒนาในการทำเล็บไปเรื่อยๆ 

ส่วนทางด้าน น.ส.เสาวรส ทองโสภา อายุ 37 ปี คุณแม่ของน้องลีวายส์ ก็ได้กล่าวว่า รู้สึกภาคภูมิใจที่น้องรู้จักสร้างรายได้แม้จะเป็นเงินเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็ยังเป็นส่วนหนึ่งที่ให้น้องได้มีความตั้งใจในการทำมาหากินซึ่งน้องเป็นคนที่เมื่อทำอะไรแล้วทำจริงก็รู้สึกภาคภูมิใจที่ลูกมากในการทำมาหากินตั้งแต่ยังเด็ก เริ่มต้นก็ทำงานรับจ้างรายวันแต่ก็พยายามที่จะช่วยเหลือลูกในสิ่งที่ลูกรักและลูกต้องการอย่างเต็มที่  

หากใครต้องการติดตามก็สามารถติดตามน้องลีวายส์ได้ที่ TikTok ชื่อบัญชี ร้านทำเล็บเล็ก ๆ ของลีวายส์ หรือ เบอร์โทรน้องลีวายส์ 081-831-6013

สุดท้ายนี้ น้องลีวายส์ ฝากมาบอกชาว THE STATESTIMES ด้วยว่านอกจากจะชอบทำเล็บแล้ว หนูก็ยังชอบเต้นอีกด้วยนะ 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top