Sunday, 28 April 2024
ศรีสุวรรณ

‘ศรีสุวรรณ’ ยื่นฟ้อง ‘อนุทิน-ผู้บริหาร สธ.’ ปมซื้อ ‘ฟาวิพิราเวียร์’ เพิ่มไม่หยุด ชี้มีข้อพิรุธ

วันที่ 18 มี.ค. 65 เวลา 10.00 น. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมาศาลปกครองกลาง เพื่อยื่นฟ้อง รมว.กระทรวงสาธารณสุข, ปลัดกระทรวงสาธารณสุข, อธิบดีกรมการแพทย์ และเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ฐานใช้ดุลยพินิจโดยมิชอบในการผลักดันการจัดซื้อจัดหายาฟาวิพิราเวียร์เพิ่มไม่หยุดหย่อน ทั้งๆ ที่ยาดังกล่าวประเทศผู้ผลิตยังไม่อนุมัติให้ใช้ยาดังกล่าว เพราะอาจไม่ปลอดภัยต่อผู้ใช้

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากการที่คณะรัฐมนตรี ได้มีมติอนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการจัดหาเวชภัณฑ์ยาและขยายระยะเวลาดำเนินการโครงการแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่ : กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระยะการระบาดระลอกเมษายน 2564 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ตามที่กระทรวงสาธารณสุข เสนอ โดยมีสาระสำคัญ คือ การเปลี่ยนแปลงรายการจัดซื้อเวชภัณฑ์ยาจากยา Molnupiravir (โมลนูพิราเวียร์) ตามโครงการแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่ฯ 50,000 โดส เป็นยา Favipiravir-ฟาวิพิราเวียร์ จำนวน 17,065,457 เม็ด โดยก่อนหน้านี้กระทรวงสาธารณสุขมีคำสั่งให้ซื้อยาฟาวิพิราเวียร์ ในเดือนสิงหาคม-กันยายน 2564 แล้วจำนวน 254 ล้านเม็ด และเดือนตุลาคม-ธันวาคม เดือนละ 100 ล้านเม็ด รวม 300 ล้านเม็ด ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 4-6 หมื่นล้านบาทเลยทีเดียว

'ศรีสุวรรณ' ลุยแจ้งเอาผิด 'พรบ.คอมพ์-ม.112' ข้อหา 'ไทยเวียตเจ็ท' ละเมิดสถาบัน

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย แจ้งผ่านเฟซบุ๊ค กรณีที่สายการบินไทยเวียตเจ็ท เกาะกระแสวันเอพริลฟูลเดย์ ในวันที่ 1 เมษายน 2565 ซึ่งเป็นวันโกหกของพวกฝรั่ง (แต่ไม่ใช่ประเพณีไทย-เอเซีย) โดยโพสต์ทวิตเตอร์เล่นมุกสายการบินไทยเวียตเจ็ทเปิดบินเส้นทางใหม่ “น่าน-มิวนิก” เริ่มต้น 1,010 บาท พร้อมทั้งมีการติดแฮชแทก April Fool's Day ไว้ที่ช่วงท้ายของภาพ

การกระทำดังกล่าวคนไทยไม่ตลกด้วย เข้าข่ายเจตนาล่วงละเมิดสถาบันของไทย เพราะเด็กอมมือก็รู้ว่ามีเจตนาจะแซะสถาบันของไทย ซึ่งแม้ทวิตฯดังกล่าวจะถูกลบไปแล้ว และทางบริษัทได้ออกมาขอโทษและปลดพนักงานที่ดูแลเพจแล้วก็ตาม…แต่แค่นั้นยังไม่พอ
 

'ศรีสุวรรณ' จี้!! 'ก.ทางหลวง-มหาดไทย' เอาผิด 'บิ๊กป้อม' ปมป้ายอวยพร จ่อ ร้องป.ป.ช. เข้าข่ายฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง

เมื่อวันที่ 14 เม.ย. 65 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯ ได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังอธิบดีกรมทางหลวงขอให้สั่งการไปยังผู้อำนวยการแขวงทางหลวงต่างๆ ทั่วประเทศ หลังมีป้ายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือ บิ๊กป้อม หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ติดอวยพรปีใหม่ 2565 อยู่ตามเสาไฟฟ้าริมถนนสำคัญ ๆ ทั่วประเทศ ซึ่งได้รับการยืนยันจากแขวงทางหลวงสระบุรีแล้วว่า “ไม่ได้ขออนุญาต”  

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ล่าสุดเจ้าหน้าที่หมวดทางหลวงหนองแค แขวงทางหลวงสระบุรี สำนักงานทางหลวงที่ 11 (ลพบุรี) ทำการเก็บป้ายที่ไม่ได้รับอนุญาต ในพื้นที่ ทล.1 ระหว่าง กม.95+000 - กม.103+000 เป็นช่วงๆ โดยมีป้ายอวยพรปีใหม่ ของ พล.อ.ประวิตร รวมอยู่ด้วย โดยอ้างว่าเพื่อความปลอดภัยของผู้ที่ใช้รถใช้ถนนสัญจรในบริเวณดังกล่าว แต่ทว่าป้ายลักษณะดังกล่าว มิได้มีแต่เฉพาะในพื้นที่จังหวัดสระบุรีเท่านั้น หากแต่มีการติดกันในหลายพื้นที่ถนนสายหลัก ทั้งป้ายขนาดเล็กติดเสาไฟฟ้าและป้ายคัตเอาต์ขนาดใหญ่ ในบริเวณป้ายโฆษณาของเอกชน ซึ่งตาม พรบ.ทางหลวง 2535 และแก้ไขเพิ่มเติม 2549 จะต้องมีการขออนุญาตการติดตั้งจากผู้อำนวยการทางหลวงเสียก่อน แต่เมื่อไม่ได้มีการขออนุญาต ก็ย่อมเข้าข่ายความผิดตาม ม.38 วรรคสาม แห่งกฎหมายข้างต้น ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 5 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

'พี่ศรี' ไล่เลียงคุณสมบัติ 'ทนายขยะ' ด่าคนอื่นหิวแสง แต่ชอบแย่งคดีมาทำ

'ศรีสุวรรณ' ไล่เลียงคุณสมบัติ 'ทนายขยะ' ชอบด่าคนอื่นว่าหิวแสง แต่ตนเองนั้นยิ่งกว่า ชอบไลฟ์สดอวดเก่ง ว่าแน่กว่าทนายคนอื่น ชอบแย่งคดีทนายอื่นมาทำ อย่างไม่ละอาย แถมชอบอ้างรู้จักตำรวจ/คนใหญ่คนโตไปทั่ว

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุว่า…
คุณสมบัติของ ‘ทนายขยะ’ ขาดข้อใดข้อหนึ่งถือว่าไม่ใช่…

- ชอบด่าคนอื่นว่าหิวแสง แต่ตนเองนั้นยิ่งกว่า
- ชอบไลฟ์สดอวดเก่ง ว่าแน่กว่าทนายคนอื่น
- ชอบแย่งคดีทนายอื่นมาทำ อย่างไม่ละอาย
- ชอบตอบคำถามข้างๆ คูๆ เถียงคำไม่ตกฟาก
- ชอบอ้างรู้จักตำรวจ/คนใหญ่คนโตไปทั่ว
- ชอบเถียงฉันไม่แคร์เพราะมี FC เยอะเวลาถูกทัวร์ลง
- ชอบร้อง จุกกรูรรรรร์ๆๆ ๆๆ เป็นเนืองนิจ

'พี่ศรี' จวก 'ชัชชาติ' ลอกคลองเป็นเรื่องเพ้อฝันหรือไม่? หลังเจอเศษอิฐ-ดิน-หิน-ปูนในคลองลาดพร้าวเพียบ!!

เมื่อวันที่ 1 ก.ย. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เปิดเผยว่า ตามที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ออกมาให้ข่าวว่าได้ประสานกับกองทัพเพื่อขอให้ส่งทหารมาร่วมกับสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพฯ เพื่อกำหนดกันแบ่งพื้นที่ขุดลอกคลองลาดพร้าวและคลองแสนแสบ ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ค. 65 ที่ผ่านมา 

โดยกรุงเทพมหานคร มีข้อมูลว่า คลองลาดพร้าวมีปัญหาเรื่องความตื้นเขิน น้ำไหลช้า จึงจะเริ่มดำเนินการขุดลอกคลองลาดพร้าวเพิ่มขึ้น แต่จากการสำรวจพื้นที่คลองลาดพร้าวพบว่า ยังมีกองดินและเศษอิฐหินปูน ที่เททิ้งมาจากโครงการบ้านมั่นคงที่ก่อสร้างอย่างผิดกฎหมายอย่างมากมาย ทำให้คลองตื้นเขิน และชาวบ้านริมคลองยืนยันว่ายังไม่มีเจ้าหน้าที่กทม. หรือทหาร มาขุดลอกตามข่าวแต่อย่างใด เวลาฝนตกมามากทำให้น้ำเอ่อล้นท่วม ระบายได้ช้ามาก 

กรณีเช่นนี้ ขอถามผู้ว่าฯ กทม. นโยบายหาเสียงที่บอกจะเร่งขุดลอกคูคลองนั้น เพ้อฝันหรือไม่ หรือเป็นเพียงม็อตโต้ของการโฆษณาชวนเชื่อเท่านั้น เพราะข้อความจริงที่พบ กับนโยบายมันต่างกัน กทม.อาจจะหลอกคนทั่วไปได้แต่หลอกความจริงไปไม่ได้ 

'ธันวา' สวน ศรีสุวรรณ 'สร้างอนาคตไทย' เล่นตามกติกา ขออย่าเลือกปฏิบัติ หากจะตรวจสอบควรทั่วถึง

นายธันวา ไกรฤกษ์ รองโฆษกพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์เฟสบุ๊กสวนกลับนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กรณีไปยื่นคำร้องขอให้ กกต.ตรวจสอบป้ายหาเสียงของพรรคสร้างอนาคตไทย โดยกล่าวหาว่าไม่เป็นไปตามระเบียบว่าด้วยการหาเสียง ปี 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 3 เมื่อวันที่ 23 กันยายน ที่ผ่านมาได้กำหนดไว้ โดยระบุว่า การที่นายศรีสุวรรณจะดำเนินการฟ้องร้องพรรคใดนั้นก็ถือเป็นสิทธิของนายศรีสุวรรณ แต่การที่พรรคสร้างอนาคตไทยเอาป้ายใหญ่ซึ่งมีขนาดเกินที่กำหนดไว้ในระเบียบดังกล่าวลงตั้งแต่ก่อนเริ่มนับกรอบเวลา 180 วันนั้น พรรคได้แสดงเจตนาชัดเจนว่าเราพร้อมทำตามกฎหมาย

ส่วนกรณีตามที่ถูกยื่นร้อง ถ้าเข้าใจไม่ผิดน่าจะเป็นป้ายของผู้เสนอตัวลงสมัครในพื้นที่จังหวัดปทุมธานีแถวบ้านนายศรีสุวรรณ ตนได้ตรวจสอบแล้วได้ข้อเท็จจริง ดังนี้

ชายเดือด!! บุกต่อย ‘ศรีสุวรรณ’ กลางวงสื่อ เหตุกร้าว!! ใครชุมนุมจะแจ้งความจับหมด

(18 ต.ค. 65) ที่ ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (กองปราบ) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนเอาผิด เดี่ยว 13 ‘โน้ส อุดม-แต้พานิช’ หนุนม็อบหรือไม่ ขณะที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย นำหลักฐานมาเข้าพบพนักงานสอบ บก.ปอท. เพื่อขอให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามครรลองของกฎหมาย กรณีมีบุคคลทอล์กโชว์เดี่ยวไมโครโฟน-13 ซึ่งเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งมีการใช้ถ้อยคำ บางคำพูดอันอาจมีลักษณะส่งเสริมให้บุคคลร่วมชุมนุมสาธารณะที่ผิดกฎหมาย ซึ่งอาจขัดต่อความมั่นคงของรัฐและหรือละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น และหรือขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน อันเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ประกอบ พรบ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ.2560 หรือไม่ อย่างไร

ทั้งนี้ บทพูดของการโชว์เดี่ยวไมโครโฟนดังกล่าว มีบางคำพูด อาทิ “วันนี้รถติดเยอะหน่อย มีม็อบไล่คนที่เราอยากจะไล่เขา ก็ให้อภัยเขาไปนะครับ ถือว่าเขาทำงานแทนเรา” นั้น จะสื่อความหมายไปอย่างอื่นมิได้ นอกเสียจากการพูดเพื่อที่จะสื่อหรือโฆษณาให้ผู้ฟังหรือผู้ชม ได้เข้าใจตรงกันว่า มีเจตนาหรือจงใจที่จะให้ทุกคนที่รับฟังและรับชมให้อภัยกลุ่มผู้ที่ออกมาชุมนุมสาธารณะที่เกิดขึ้นหลายๆ ครั้งเมื่อช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานั่น “ทำงานแทนเรา” นั่นเอง โดยที่การชุมนุมเหล่านั้นล้วนผิดกฎหมาย ฝ่าฝืนข้อกำหนดใน ม.9 แห่ง พรก.ฉุกเฉิน 2548 และมีการสอดใส้การชุมนุมเป็นเรื่องการยกเลิก ปอ.112 และการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ มิใช่การชุมนุมเพื่อขับไล่ผู้นำรัฐบาลแต่อย่างใดไม่

กรณีดังกล่าวจึงไม่ใช่เป็นเรื่องส่วนตัวของบุคคลใดบุคคลหนึ่งแต่อย่างใด หากแต่อาจเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความผิดต่อแผ่นดิน อาจกระทบต่อความมั่นคง และอาจขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน อันเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.84 ม.85 และหรือ ม.87 ประกอบ ม.14 แห่งพรบ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ.2560 ต้องระวางโทษกึ่งหนึ่งของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นด้วย และหรือต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

โดยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงต้องนำความพร้อมพยานหลักฐานมาแจ้งต่อ บก.ปอท. ให้ใช้อำนาจตามกฎหมายในการตรวจสอบ สอบสวน กรณีดังกล่าวว่าเข้าข่ายความผิดอาญาต่อแผ่นดินหรือไม่ หากพบว่าเป็นความผิดให้ดำเนินการตามครรลองของกฎหมายต่อไป นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด

ทั้งนี้นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การที่มาร้องวันนี้ไม่ได้เกี่ยวกับรัฐบาล ที่ผ่านมาถ้ารัฐบาลทำไม่ถูกต้องตนก็ร้องมาอยู่แล้วตลอด ส่วนโน้ส อุดม เขาก็เคยวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลมาทุกยุคทุกสมัยอยู่แล้ว แต่บางคำพูดที่เป็นการยุยงส่งเสริมม็อบ ตนไม่เห็นด้วย

หลังจากนั้น ปรากฏว่านายวีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล ในนามของ ‘กลุ่มศักดินาเสื้อแดงต่อต้านเผด็จการ’ ซึ่งแฝงตัวมาเป็นนักข่าวทำท่าทีสอบถามประเด็นการร้องเรียนของนายศรีสุวรรณ ว่าหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินคดี 8 ปีนายกรัฐมนตรี จะมีการแจ้งความคนเห็นต่างหรือไม่ แต่ยังไม่ทันจะถามจบนายวีรวิชญ์ได้เข้าไปทำร้ายชกต่อยนายศรีสุวรรณ ทันทีกลางวงสัมภาษณ์ ทำให้นักข่าวอึ้งกันทั้งวงสัมภาษณ์

หลังจากนั้น นายวีรวิชญ์ ให้สัมภาษณ์ว่า “ตนคาใจเพราะหลังจากศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยปม 8 ปี นายกรัฐมนตรี นายศรีสุวรรณ ออกมาประกาศว่า ใครชุมนุมจะแจ้งความจะแจ้งจับหมด ซึ่งตนเป็นคนหนึ่งที่ชุมนุม วันนี้ตั้งใจมาตบเพื่อสั่งสอน ซึ่งมีตำรวจที่รู้จักฝากมาตบด้วย กราบขอโทษกองปราบที่มาทำแบบนี้ เพราะไม่มีโอกาสเลย ตนเฝ้าและแอบดูว่านายศรีสุวรรณจะไปร้องอะไรบ้าง เมื่อเช้าตนยอมทิ้งงาน ตนอายุ 62 ปี จะเป็นอะไรไม่สนใจ อยากให้เห็นว่า คำว่าประชาธิปไตย ทุกคนต้องยอมรับความเห็นต่าง ประเทศนี้เป็นของประชาชน ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง ถ้าถูกดำเนินคดีพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และที่มาวันนี้ไม่ได้มีใครจ้างมาแต่ตั้งใจมาด้วยตัวเอง”

ปฏิเสธไม่ได้ว่าในห้วงที่ผ่านมาประเทศไทยมีประเด็นสาธารณะเกิดขึ้นกับปรากฏการณ์ เดี่ยวไมโครโฟน โน้ส อุดม ถึง นักร้อง ศรีสุวรรณ จรรยา ที่กลายเป็นกระแสดรามาและสะท้อนถึงปัญหาในสังคมยุคปัจจุบัน  

ซึ่งเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ ได้จัดเสวนาพิเศษ “ถอดบทเรียน…ปรากฏการณ์ โน้ส อุดม ถึง ศรีสุวรรณ” ณ ห้องประชุมชั้น 3 อาคาร ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เพื่อถอดบทเรียนในครั้งนี้ ทีมข่าว THE STATES TIMES ได้ร่วมฟังโดยมีความคิดเห็นในหลายมุมมองที่น่าสนใจดังนี้

องอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ กทม. ได้แสดงความคิดเห็นในกรณีของคุณโน้ส อุดม ว่าเป็นการแสดง Talk Show จุดมุ่งหมายก็คือทำให้คนดูรู้สึกสนุกสนานไปกับสิ่งที่เค้าพูด แต่อยู่ที่คนดูว่ารู้สึกอย่างไร บางคนก็สนุกสนาน ขำไปด้วย บางคนก็อาจไม่ขำ ไม่พอใจ มีมากมายหลายความรู้สึก หรือจนถึงกรณีของคุณศรีสุวรรณ สมมุติถ้าเราไม่เอ่ยชื่อสองคนนี้เลยเอาเฉพาะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมมองเหตุการณ์ครั้งนี้อยู่หลายประเด็น ประเด็นแรก ประเทศของเราปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพระดับหนึ่งภายใต้บทบัญญัติของกฎหมาย เราต้องมองในกรณีของคุณโน้สอุดม หรือคุณศรีสุวรรณ ทั้งคู่ได้แสดงออกภายใต้บทบัญญัติของกฎหมาย ใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกในการดำเนินการในการกระทำ ส่วนใครจะชอบไม่ชอบก็อีกเรื่องหนึ่ง 

ประการที่สอง การแสดงออกของใครก็ตามภายใต้สิทธิเสรีภาพที่มีอยู่ ในกรณีที่ท่านไม่ชอบและเห็นว่าการแสดงออกของเค้าไม่ถูกต้องท่านก็มีสิทธิวิพากษ์วิจารณ์ได้เช่นเดียวกัน ถือเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพของท่าน หรือถ้าท่านเห็นว่าสิ่งที่เค้าแสดงออกมันผิดกฎหมายท่านก็มีสิทธิใช้กระบวนการทางกฎหมายได้เช่นกัน ประการที่สาม ผมเห็นมีการใช้ความรุนแรงเกิดขึ้นปรากฏว่ามีคนในสังคมเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยในการใช้ความรุนแรง จริงๆ แล้วความรุนแรงไม่ได้มีเฉพาะการกระทำต่อร่างกายแต่มีการกระทำต่อจิตใจอีกด้วย เราจึงไม่ควรใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา 

ส่วนปู จิตกร บุษบา นักสื่อสารมวลชนชื่อดัง  แสดงความเห็นว่า สังคมไทยกำลังมีปัญหา ต้นเหตุของมันจริงๆ เริ่มจากหลายสิบปีมานี้การเมืองไทยได้สุมไฟให้คน และปีนี้เป็นช่วงที่คนมีจุดเดือดต่ำ เพราะถูกสะสมมายาวนาน การต่อสู้ทางการเมืองได้ติดตั้งอาวุธนี้ให้กับสังคม  ปรากฏการณ์ โน้ส อุดม ถึงศรีสุวรรณ เป็นหลักฐานสำคัญมีสาเหตุหลายประการ ประการแรก ผู้คนขาดความมั่นคงทางอารมณ์ หรือวุฒิภาวะทางอารมณ์ ไม่สามารถเผชิญในสิ่งที่ไม่ถูกใจได้ อารมณ์จะขึ้นทันทีและไม่สามารถควบคุมระดับอารมณ์ของตัวเองได้ ขาดความสามารถในการจัดการกับอารมณ์ของตัวเอง 

ประการที่สอง ความสามารถในการจำแนกแยกแยะ เช่น เดี่ยวไมโครโฟน เป็นการแสดงโชว์ด้วยการพูด ประเภทล้อเลียน เสียดสี เพื่อให้ตลกขบขัน ไม่ได้มีเจตนาแสดงโชว์เพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือ แสดงการปาฐกถา ผู้คนจำนวนไม่น้อยสูญเสียกระบวนแยกแยะ สิ่งนี้คือโชว์ชนิดหนึ่งเราก็จะวิพากษ์วิจารณ์ในฐานะที่เป็นการแสดงโชว์ว่าเป็นโชว์ที่เป็นประโยชน์สาธารณะหรือไม่ เรา สามารถนำโชว์นี้เป็นสารตั้งต้นเป็นรากฐานที่เป็นประโยชน์ยิ่งกว่า เช่น ถ้าเรามองว่าโน้ส อุดม ยังแสดงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการบริหารประเทศของนายกรัฐมนตรีไม่สมบูรณ์ ทำไมเราไม่ทำให้สมบูรณ์ล่ะ 

และประการที่สาม ความสามารถในการเลือกเครื่องมือเผชิญกับสถานการณ์ กลับกลายเป็นความรุนแรงที่เป็นเครื่องมือหยิบมาใช้และกลายเป็นสิ่งที่คนกลุ่มหนึ่งสนับสนุนเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุด 

ส่วนณัฐชัย มาไชยนาม นักกฎหมายคนรุ่นใหม่พรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเห็นว่า ต้องหาสาเหตุของเรื่องทั้งหมดทั้งสองกรณีก่อน เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นจากการพูด ถามว่าประชาชนสามารถวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลได้หรือไม่ สามารถวิพากษ์วิจารณ์ด้วยความสุจริตได้ตามกรอบของกฎหมาย  

‘พี่ศรี’ ไม่ทน!! โร่ฟ้องกกต. เอาผิด ‘ปดิพัทธ์ หลังปราศรัยพิษณุโลกพาดพิงถึงสถาบัน ชี้!! มีผลยุบพรรค

‘ศรีสุวรรณ’ ยื่นกกต. เอาผิด ‘ปดิพัทธ์’ ส.ส.ก้าวไกล ปราศรัยพาดพิงสถาบันระหว่างหาเสียงที่พิษณุโลก มีผลยุบพรรค

(20 มี.ค. 66) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางยื่นคำร้องต่อกกต. เพื่อขอให้ตรวจสอบถ้อยคำปราศรัยของนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล และกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ที่ได้ปราศรัยหาเสียงพาดพิงสถาบัน ที่จ.พิษณุโลก เมื่อวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา

โดยนายศรีสุวรรณ กล่าวว่า วันนี้ตนนำหลักฐานเป็นคลิปคำปราศรัยของกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล โดยในคำปราศรัยล้วนแล้วพูดถึงแต่สถาบัน บางถ้อยคำปรากฏชัดเจนว่าเป็นการพาดพิงไปถึงโครงการพระราชดำริมากมาย มีการคอร์รัปชัน ซึ่งคำพูดดังกล่าวตนคิดว่าเป็นการให้ร้ายต่อสถาบัน โดยโครงการพระราชดำริเป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 ทรงพระราชทานให้กับพสกนิกร ประชาชน เป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปของประชาชนชาวไทย และชาวต่างประเทศ ซึ่งมีมากกว่า 4,700 โครงการ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาให้กับคนทั้งประเทศ

‘ศรีสุวรรณ’ จ่อร้อง กกต. สอบ ‘พิธา’ ปมอ้างกลับไทยช่วงรัฐประหาร 49 ชี้ เข้าข่ายจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของพรรคการเมือง

(27 เม.ย.66) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวว่า ตามที่โลกโซเชียลจับโป๊ะ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล หลังถูกขุดบทสัมภาษณ์ที่ไปออกรายการกับสองพิธีกรชื่อดัง คือ คุณสรยุทธ (ปี 2566) และคุณหนูแหม่ม-สุริวิภา (ปี 2552) ซึ่งบทสัมภาษณ์ใน 2 รายการ 2 ช่วงเวลา แต่เห็นการณ์เดียวกันกับมีความแตกต่างกัน โดยเฉพาะประเด็นที่นายพิธาได้อ้างว่ากลับมาเมืองไทยช่วงรัฐประหารปี 49 ซึ่งมีถ้อยความที่ดูจะต่างกันพอสมควร อาทิ การรับราชการเป็นทีมงานนักการเมือง การให้ร้ายกองทัพเพราะถูกควบคุมตัว การไปงานศพคุณพ่อไม่ทัน การถูกควบคุมการเงินจนไม่มีเงินทำศพพ่อ ฯลฯ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top