Friday, 4 July 2025
รัสเซีย

ซีอีโอ Telegram เผยเตรียมยกสมบัติ 4.9 แสนล้าน ให้ลูกกว่า 100 คน 12 ประเทศ ที่เกิดจากการบริจาคสเปิร์ม

(21 มิ.ย. 68) พาเวล ดูรอฟ (Pavel Durov) ผู้ก่อตั้งแอปฯ ส่งข้อความเข้ารหัส Telegram เผยผ่านนิตยสาร Le Point ของฝรั่งเศสว่า เขาได้เตรียมพินัยกรรมยกทรัพย์สินทั้งหมดราว 13.9 พันล้านดอลลาร์ (ราว 4.9 แสนล้านบาท) ให้แก่ลูก ๆ มากกว่า 100 คนที่เขาเป็นพ่อ โดยย้ำว่า "พวกเขาทุกคนคือลูกของผม และมีสิทธิเท่ากันหมด"

ดูรอฟเปิดเผยว่า ตนเป็นพ่อโดยชอบด้วยกฎหมายของลูก 6 คนจากแม่ 3 คน แต่ยังมีเด็กอีกกว่า 100 คนใน 12 ประเทศที่เกิดจากการบริจาคสเปิร์มในคลินิกเมื่อ 15 ปีก่อน โดยเขาตั้งใจไม่ให้ลูก ๆ ได้รับมรดกก่อนเวลา 30 ปี เพื่อให้พวกเขา "ใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา และสร้างตัวด้วยตัวเอง"

ขณะเดียวกัน เขาได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาในฝรั่งเศสเกี่ยวกับการไม่ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการควบคุมเนื้อหาผิดกฎหมายบน Telegram โดยชี้ว่า "แค่เพราะอาชญากรใช้แพลตฟอร์มของเรา ไม่ได้แปลว่าเราคืออาชญากร" ทั้งยังระบุว่า Telegram มีมาตรการควบคุมเนื้อหาเทียบเท่ามาตรฐานสากล

ดูรอฟ วัย 40 ปี ปัจจุบันพำนักในดูไบ และถือสองสัญชาติ ฝรั่งเศส-สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เขาก่อตั้ง Telegram หลังออกจาก VKontakte โซเชียลเน็ตเวิร์กชื่อดังของรัสเซียในปี 2013 โดย Telegram ยังคงเป็นที่นิยมทั่วโลกแม้ถูกวิจารณ์เรื่องการแพร่เนื้อหาสุดโต่งและผิดกฎหมาย

‘รัสเซีย’ โต้ ‘ยูเครน’ กล่าวหาส่งศพปลอมยันเอกสารตรง เชื่อจัดฉากหวังทำลายภาพลักษณ์

เมื่อวันที่ (19 มิ.ย. 68) ที่ผ่านมา รัฐมนตรีมหาดไทยยูเครน อีฮอร์ คลีเมนโก (Ihor Klymenko) กล่าวหาฝ่ายรัสเซียผ่านช่องทาง Telegram ว่ามีการ ‘ปลอมแปลง’ ศพในการส่งมอบร่างทหารยูเครน โดยอ้างว่ารัสเซียใส่ศพทหารตนเองลงในถุงหมายเลข 192/25 พร้อมแนบหลักฐานเป็นบัตรประจำตัวและป้ายชื่อของทหารรัสเซียชื่อ เอ.วี. บูกาเยฟ (A.V. Bugayev)

อย่างไรก็ตาม เอกสารการส่งมอบระบุว่า ถุงหมายเลข 192/25 นั้น เป็นศพของทหารยูเครนชื่อ มิโคลา ดิดิก (Mykola Ivanovych Didyk) ซึ่งเสียชีวิตในการสู้รบเมื่อ 6 พฤษภาคม 2024 ที่เขตบัคมุต แคว้นดอแนตสก์ ประเทศยูเครน โดยในศพมีชุดเครื่องแบบทหารยูเครนและสำเนาบัตรทหารครบถ้วน และถูกฝังอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2025 ตามประกาศของสภาเมืองโอบูคอฟ

ส่วนศพของนายบูกาเยฟ ซึ่งยูเครนกล่าวอ้างนั้น เดิมทีถูกส่งจากรัสเซียในถุงหมายเลข 567 โดยไม่มีเอกสาร ป้ายชื่อ หรือสิ่งของระบุตัวตนใด ๆ แต่หลังจากยูเครนส่งถุงใบเดิมกลับคืนในภายหลัง กลับพบว่ามีเอกสาร ป้ายชื่อ และโทรศัพท์มือถือของบูกาเยฟอยู่ในถุง ทำให้รัสเซียสงสัยว่า ยูเครนอาจใส่หลักฐานเพิ่มเติมเข้าไปทีหลัง เพื่อสร้างเรื่องหรือบิดเบือนข้อเท็จจริง

แหล่งข่าวจากรัสเซียระบุว่า ตอนนี้รัสเซียพร้อมจะส่งคืนศพทหารยูเครนอีกกว่า 3,000 ราย แต่ทางการยูเครนยังไม่ยอมรับกลับไป พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า การกล่าวหารัสเซียในครั้งนี้ อาจเป็นความพยายามของยูเครนในการโจมตีด้านข้อมูล ซึ่งเริ่มเกิดขึ้นหลังจากที่ยูเครนเปลี่ยนผู้รับผิดชอบเรื่องการรับศพจากหน่วยข่าวกรองทหาร (GUR) มาเป็นหน่วยความมั่นคง (SBU) ซึ่งมีแนวโน้มจะใช้ประเด็นเหล่านี้เพื่อบ่อนทำลายภาพลักษณ์ของภารกิจมนุษยธรรมที่รัสเซียดำเนินการอยู่

‘เวียดนาม’ เร่งปิดดีลโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ หวังบรรลุข้อตกลงกับ ‘รัสเซีย’ ภายใน ส.ค. นี้

(26 มิ.ย. 68) รัฐบาลเวียดนามสั่งการให้กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งสรุปการเจรจากับรัสเซียภายในเดือนกรกฎาคม เพื่อเตรียมลงนามข้อตกลงระหว่างรัฐบาลว่าด้วยความร่วมมือก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์นิญถ่วน 1 ในเดือนสิงหาคม โดยโครงการนี้มีเป้าหมายแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2030 หรืออย่างช้าที่สุดในปี 2031

บุ่ย แทงห์ เซิน รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า การเจรจากับรัสเซียล่าช้ากว่ากำหนด ซึ่งอาจส่งผลต่อกระบวนการอนุมัติและดำเนินโครงการ กระทรวงอุตสาหกรรมในฐานะฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการพัฒนาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ จึงถูกกำชับให้จัดตั้งคณะเจรจาโดยด่วน และต้องระบุความรับผิดชอบของแต่ละฝ่ายในข้อตกลงอย่างชัดเจน

ควบคู่กันนั้น ทางการเวียดนามยังรื้อฟื้นความร่วมมือกับญี่ปุ่นในโครงการนิญถ่วน 2 โดยมอบหมายให้หน่วยงานต่าง ๆ เร่งหารือและรายงานผลภายในเดือนกรกฎาคม ด้านโครงการนิญถ่วน 1 และ 2 ซึ่งอยู่ในจังหวัดนิญถ่วน จะมี การไฟฟ้าแห่งประเทศเวียดนาม (EVN) และ บริษัทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเวียดนาม (PVN) เป็นเจ้าของโครงการตามลำดับ

รัฐบาลเวียดนามเน้นย้ำว่า การฟื้นโครงการพลังงานนิวเคลียร์มีเป้าหมายเพื่อรองรับความต้องการพลังงานที่เติบโตต่อเนื่อง และสนับสนุนเป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนให้เป็นศูนย์ภายในปี 2050 พร้อมกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดทำแผนการลงทุนและข้อกำหนดด้านความปลอดภัย รวมถึงการจัดสรรงบประมาณและแผนโยกย้ายชุมชนให้เสร็จสิ้นตามกรอบเวลาที่กำหนด

‘ทรัมป์’ เสียงอ่อย รับยุติสงคราม ‘รัสเซีย-ยูเครน’ ไม่ง่าย โบ้ยศึกซับซ้อน ‘ปูติน-เซเลนสกี’ เจรจาด้วยยาก

(26 มิ.ย. 68) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวเมื่อวันพุธว่า ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะยุติ แม้เจ้าตัวจะเคยประกาศในเวทีหาเสียงว่าจะสามารถ “ยุติสงครามใน 24 ชั่วโมง” หากได้กลับมาเป็นผู้นำประเทศอีกครั้งก็ตาม โดยยอมรับว่า ทั้งประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน และโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ต่างก็สร้างความยุ่งยากในเวทีเจรจา

เมื่อถูกถามว่าเหตุใดจึงยังไม่สามารถยุติสงครามได้ ทรัมป์ตอบว่า “เพราะมันยากกว่าที่คนทั่วไปจะจินตนาการ” พร้อมเผยว่าเคยมีปัญหากับเซเลนสกีในบางช่วง แต่การพบกันล่าสุดนั้นเป็นไปด้วยดี และไม่ได้มีการหารือเรื่องหยุดยิงโดยตรง

อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ระบุว่า เซเลนสกีต้องการยุติสงคราม และตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ดี ที่จะบรรลุเป้าหมายดังกล่าว พร้อมเปิดเผยว่า เขากำลังพิจารณาส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศ "แพทริออต" (Patriot) ให้ยูเครน แม้จะยอมรับว่าอาวุธเหล่านี้หายาก เพราะสหรัฐฯ เองก็ต้องการใช้ และบางส่วนได้ส่งให้กับอิสราเอลแล้ว

เมื่อถูกถามว่าสหรัฐฯ จะร่วมจ่ายเงินช่วยเหลือยูเครนในวงเงิน 5 พันล้านดอลลาร์ ที่พันธมิตร NATO เสนอหรือไม่ ทรัมป์ตอบเพียงสั้น ๆ ว่า “เดี๋ยวค่อยว่ากัน” ท่ามกลางความไม่แน่นอนว่ารัฐบาลวอชิงตันจะสนับสนุนความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนเพิ่มเติมหรือไม่

‘ทหารผ่านศึกยูเครน’ เดินหน้าประท้วงรัฐ ‘เมินสวัสดิการ’ ไล่พวกคอร์รัปชัน มีแต่คนรวยเพิ่ม ทำทหารเกณฑ์หาย

(26 มิ.ย. 68) เกิดการประท้วงเรียกร้องความเปลี่ยนแปลงในยูเครน แม้เป็นภาพที่เห็นแทบทุกสัปดาห์ แต่ครั้งนี้กลับไม่ธรรมดา เพราะมีผู้ร่วมประท้วงเกือบพันคน และส่วนใหญ่เป็นทหารอาสาสมัครและอดีตผู้ร่วมรบจากสงครามกับรัสเซีย นี่จึงเป็นปรากฏการณ์ใหญ่กว่าครั้งก่อน ๆ

ผู้ประท้วงยกประเด็นคอร์รัปชันที่รุนแรงและแทรกซึมในระบบระหว่างช่วงสงคราม พวกเขามองว่า เงินงบประมาณถูกใช้ผิดจุด จนเกิดการขาดสวัสดิการและความโปร่งใส โดยเฉพาะในหน่วยทหารที่บาดเจ็บ และขาดการดูแลที่เหมาะสม

นอกจากนี้ ครอบครัวของทหารที่ถูกบังคับเกณฑ์ ทั้งที่เสียสละชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ยังออกมาเรียกร้องให้ทางการเร่งเจรจาขอแลกเชลยกับรัสเซีย และจัดตั้งระบบดูแลทหารที่ชัดเจน พวกเขาต้องการให้รัฐบาลแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่แก้ไขแบบผิวเผิน

ข้อมูลจากสื่อยูเครนยังระบุว่า ช่วง 2–3 ปีที่ผ่านมา บรรดามหาเศรษฐีในประเทศเพิ่มจำนวนอย่างมาก ซึ่งส่วนหนึ่งได้มาจากการจ่ายสินบนเพื่อหลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร หรือจ่ายเพื่อหลีกหนีออกนอกประเทศ นี่จึงสะท้อนให้เห็นภาพของ “สงครามคอร์รัปชัน” ที่เกิดขึ้นควบคู่กับสมรภูมิรบจริง ๆ

ทรัมป์รับประกัน! รัสเซียจะไม่บุกยุโรปในยุคตน สวนทาง ‘นาโต’ ที่เร่งจัดสรรงบเตรียมรับศึกใหม่

(27 มิ.ย. 68) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กล่าวในการประชุมนาโตที่กรุงเฮกเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ว่า รัสเซียจะไม่โจมตีกลุ่มนาโต ตราบใดที่เขายังดำรงตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ยอมรับว่า รัสเซียอาจต้องการขยายอิทธิพลไปไกลกว่ายูเครนในอนาคต 

แม้จะไม่ปฏิเสธความเสี่ยงจากมอสโก ซึ่งทรัมป์ลดทอนน้ำหนักภัยคุกคามของรัสเซีย โดยระบุว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ไม่ได้ร้ายกาจหรืออันตรายอย่างที่หลายประเทศเชื่อ แต่เป็นแค่คนที่มีมุมมองหรือความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสถานการณ์โลก ซึ่งคำพูดนี้สวนทางกับความกังวลของหลายประเทศในยุโรปที่เริ่มเตรียมรับมือกับความเป็นไปได้ของสงครามเต็มรูปแบบระหว่างรัสเซียกับนาโต

ท่าทีที่เบาลงของทรัมป์มีขึ้นในช่วงที่สถานการณ์ระหว่างรัสเซียกับยุโรปเริ่มตึงเครียดมากขึ้น เพราะไม่นานก่อนหน้านั้น ประธานาธิบดียูเครน โวโลดีมีร์ เซเลนสกี เพิ่งเปิดเผยว่า หน่วยข่าวกรองของยูเครนพบหลักฐานว่ารัสเซียกำลังวางแผนโจมตียุโรปอีกระลอก ขณะที่ประธานาธิบดีปูตินก็เพิ่งประกาศชัดว่า “ยูเครนทั้งหมดเป็นของรัสเซีย” ยิ่งทำให้หลายฝ่ายกังวลว่ารัสเซียอาจไม่หยุดแค่ยูเครน

ทั้งนี้ ท่ามกลางกระแสคุกคามที่เพิ่มขึ้น ประเทศสมาชิกนาโตจึงเห็นพ้องร่วมกันในการเพิ่มงบกลาโหม โดยตั้งเป้าให้แต่ละประเทศจัดสรรงบประมาณด้านความมั่นคงอย่างน้อย 5% ของ GDP ภายในปี 2035 ด้านผู้นำใหม่ของนาโต มาร์ค รุตเต้ (Mark Rutte) ยังเน้นย้ำให้ทุกฝ่ายมีท่าทีสมจริงต่อภัยจากรัสเซียและจีน ขณะที่เยอรมนีก็เตือนว่า รัสเซียอาจทดสอบความเหนียวแน่นของพันธมิตรนาโตนอกเหนือจากยูเครนในเร็ว ๆ นี้

EU รับยังไม่พร้อมลงศึกสงครามโดรน หวั่นเกรงโดรนรัสเซีย! สยบรถถังเพียง 6 นาที

(27 มิ.ย. 68) อันดรีอุส คูบิลิอุส (Andrius Kubilius) กรรมาธิการฝ่ายกลาโหมแห่งสหภาพยุโรป ให้สัมภาษณ์กับสกายนิวส์ว่า ยุโรปยังไม่มีความพร้อมหากเกิดสงครามโดรนกับรัสเซีย พร้อมระบุว่า หากสถานการณ์เลวร้ายถึงขั้นเปิดฉากสู้รบ จำเป็นต้องมีโดรนอย่างน้อย 3 ล้านลำต่อปีเพื่อรับมือ

คูบิลิอุสอ้างข้อมูลว่ารัสเซียอาจมีโดรนถึง 5 ล้านลำ ซึ่งทำให้ยุโรปต้องเร่งเพิ่มขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีอากาศไร้คนขับ หากหวังจะเอาชนะหรือป้องกันตนเองในกรณีที่เกิดความขัดแย้งทางทหารในอนาคต

ในสงครามยูเครน-รัสเซียที่ยังดำเนินอยู่ โดรนกลายเป็นอาวุธหลักในสนามรบ สหภาพยุโรปจึงเร่งตอบสนองด้วยการอนุมัติเงินกู้ 150,000 ล้านยูโร (ราว 5.8 ล้านล้านบาท) เพื่อสนับสนุนการผลิตอาวุธ โดยเฉพาะโดรนรุ่นใหม่ พร้อมผลักดันการฝึกกำลังพล และพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศให้ทันสมัยและยืดหยุ่นมากขึ้น

ทั้งนี้ คูบิลิอุสเตือนว่า แม้ยูเครนจะผลิตโดรนได้ถึง 4 ล้านลำในปีนี้ แต่ยุโรปยังห่างไกลจากเป้าหมายดังกล่าว พร้อมยกตัวอย่างจากประสบการณ์แนวหน้าของยูเครนที่ทุกอย่างควบคุมด้วยโดรน และรถถังแบบเดิมอยู่ได้เพียง 6 นาทีเท่านั้นในสงครามสมัยใหม่ จึงเรียกร้องให้นาโตและประเทศสมาชิกเร่งลงทุน ขยายกำลังป้องกันทางอากาศ และพัฒนาเทคโนโลยีต้านโดรนอย่างจริงจัง

เครมลินชี้!! ชาติตะวันตกเริ่มยอมรับความจริง แม้พยายามหนัก แต่ไม่สามารถเอาชนะรัสเซียได้

(30 มิ.ย. 68) รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ (Sergey Lavrov) กล่าวระหว่างเยือนคีร์กีซสถานว่า ชาติตะวันตกเริ่มตระหนักว่า ไม่สามารถเอาชนะรัสเซียในเชิงยุทธศาสตร์ได้ แม้จะพยายามใช้อาวุธและสนับสนุนรัฐบาลยูเครนที่ลาฟรอฟกล่าวหาว่าเป็น “ระบอบนาซี” เพื่อบีบให้รัสเซียพ่ายแพ้ แต่ที่ผ่านมาไม่เคยสำเร็จ และครั้งนี้ก็จะล้มเหลวอีกเช่นกัน

ลาฟรอฟยืนยันว่ารัสเซียพร้อมร่วมมืออย่างจริงใจในการหาทางยุติสงครามในยูเครน แต่จะไม่ยอมตกเป็นเครื่องมือของเกมการเมืองที่ผู้นำยุโรปบางรายพยายามกดดันให้รัสเซียเข้าร่วม พร้อมโจมตีผู้นำฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง และนายกรัฐมนตรีเยอรมนี ฟรีดริช แมร์ทซ์ ว่าไม่มีเหตุผล และกำลังพยายามรื้อฟื้นอิทธิพลเดิมของยุโรปในแบบที่เคยเกิดขึ้นในอดีต

นอกจากนี้ ลาฟรอฟยังหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศคีร์กีซถึงประเด็นแรงงานข้ามชาติ โดยระบุว่ารัสเซียยินดีต้อนรับแรงงานจากประเทศพันธมิตร แต่ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด พร้อมหารือเรื่องสถานการณ์ในยูเครน อิหร่าน และปัญหาปาเลสไตน์

ลาฟรอฟแสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลคีร์กีซที่มีท่าทีเป็นกลางและไม่เข้าข้างฝ่ายใดในความขัดแย้งยูเครน-รัสเซีย โดยการเยือนครั้งนี้เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 29–30 มิถุนายน และเขายังเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศขององค์กรสนธิสัญญาความมั่นคงร่วมกัน (CSTO) อีกด้วย

ตร.อาเซอร์ไบจาน บุกสำนักข่าวสปุตนิก จับ 2 พนักงาน เครมลินเดือด!! ชี้จงใจทำลายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

(1 ก.ค. 68) กระทรวงมหาดไทยอาเซอร์ไบจาน และตำรวจ เข้าตรวจค้นสำนักงานใหญ่สปุตนิกในกรุงบากู ก่อนจะทำการจับกุมอิกอร์ คาร์ตาวิช ผู้อำนวยการบริหาร และเยฟเกนี เบลูซอฟ บรรณาธิการบริหาร โดยทั้งสองถูกกล่าวหาว่าทำงานให้กับหน่วยข่าวกรองรัสเซีย ซึ่งทางสำนักข่าว Caliber ของอาเซอร์ไบจานอ้างว่า เหตุการณ์นี้เชื่อมโยงกับการแฮ็กเว็บไซต์รัฐบาลอาเซอร์ไบจาน ที่เจ้าหน้าที่ระบุว่ามีต้นตอมาจากรัสเซียและกลุ่มที่สนับสนุนโดย IRGC ของอิหร่าน

มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย แสดงความกังวลหลังไม่สามารถติดต่อนักข่าวสปุตนิกได้เป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง ขณะที่ดมิทรี คิลิซอฟ หัวหน้าสถานีข่าวสปุตนิก ยืนยันว่าการปฏิบัติงานของสำนักข่าวเป็นไปอย่างถูกกฎหมาย และเชื่อว่าการกักขังครั้งนี้มีเจตนาเพื่อทำลายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีอิลฮัม อาลีเยฟ ของอาเซอร์ไบจานปฏิเสธเข้าร่วมขบวนพาเหรดวันแห่งชัยชนะที่มอสโกว์ เนื่องจากความไม่พอใจที่รัสเซียไม่แสดงความเคารพต่ออาเซอร์ไบจาน นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้ประธานาธิบดีปูตินขอโทษอย่างเป็นทางการ เกี่ยวกับเหตุการณ์เครื่องบิน Azerbaijan Airlines (AZAL) flight J2-8243 ตกที่เมืองอักเตา ประเทศคาซัคสถาน จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวน 38 คน ซึ่งอ้างว่าเครื่องบินลำนี้อาจถูกยิงตกโดยระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซีย (SAM Pantsir) 

นอกจากนี้ ในช่วงสงคราม 12 วันที่ผ่านมา อิหร่านมีหลักฐานแน่ชัดว่าอาเซอร์ไบจานมีส่วนช่วยอิสราเอลในการโจมตีอิหร่าน และกระทรวงการต่างประเทศอิหร่านได้ส่งหนังสือขอคำชี้แจงอย่างเป็นทางการแล้ว ทำให้สถานการณ์ระหว่างประเทศทั้งสามยังคงเต็มไปด้วยความตึงเครียดและความไม่แน่นอนอย่างต่อเนื่อง

‘คิม จองอึน’ ผู้นำเกาหลีเหนือกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ จัดพิธีไว้อาลัยทหารกล้า!! สู้เคียงข้างรัสเซีย

(1 ก.ค. 68) คิม จองอึน แสดงความอาลัยต่อทหารเกาหลีเหนือที่เสียชีวิตในยูเครน โดยสื่อทางการเกาหลีเหนือเผยภาพผู้นำสูงสุดกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ระหว่างวางธงชาติเกาหลีเหนือบนโลงศพทหารในพิธีไว้อาลัย ณ กรุงเปียงยาง เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยมีรัฐมนตรีวัฒนธรรมรัสเซีย โอลกา ลูบิโมวา ร่วมพิธีและแสดงความโศกเศร้าเช่นกัน ซึ่งพิธีนี้จัดขึ้นในวาระครบรอบ 1 ปี ข้อตกลงทางทหารระหว่างเกาหลีเหนือและรัสเซีย

เกาหลีเหนือยกย่องทหารของตนที่ร่วมรบกับรัสเซียในสมรภูมิเคิร์สก์ โดยระบุว่าเป็นผู้เสียสละเพื่อมาตุภูมิ และ “เป็นดั่งดวงดาวที่ส่องสว่าง” ขณะเดียวกัน ฝ่ายเกาหลีใต้เปิดเผยว่า มีทหารเกาหลีเหนือเสียชีวิตแล้วกว่า 600 นาย และบาดเจ็บอีกหลายพันคนจากการสู้รบในสงครามยูเครน

ในพิธีไว้อาลัย มีการเผยเอกสารที่เชื่อว่าเป็นคำสั่งจากคิม จองอึน อนุมัติแผนปฏิบัติการ “ปลดปล่อยเคิร์สก์” พร้อมสั่งให้หน่วยรบพิเศษลงมือโจมตีในช่วงปลายปี 2024 ขณะเดียวกัน บุตรสาวของเขา “คิม จูแอ” ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่าอาจถูกวางตัวเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำ ก็ปรากฏตัวร่วมพิธีอย่างเป็นทางการ

แม้จะมีรายงานว่าเกาหลีเหนืออาจส่งทหารไปเสริมแนวรบในยูเครนเร็ว ๆ นี้ แต่กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ระบุเมื่อวันอังคารว่า ขณะนี้ยังไม่พบความเคลื่อนไหวที่บ่งชี้ว่าจะมีการส่งกำลังเพิ่ม เนื่องจากกองทัพเกาหลีเหนือกำลังอยู่ในช่วงฝึกซ้อมประจำฤดูร้อนตามแผนปกติ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top