Sunday, 19 May 2024
พรรคเพื่อไทย

'อุ๊งอิ๊ง' นำทัพ 'เพื่อไทย' ลุยถิ่น 'โทนี่' 9-11 ก.ย. นี้ เปิดไฮไลท์นโยบายเกษตร พาประเทศออกจากวิกฤต

เพื่อไทย โหมอีเวนต์ 'สะบัดชัย เพื่อไทยมาเหนือ' ด้าน ‘อุ๊งอิ๊ง’ หอบคณะลุยเชียงใหม่ 9 – 11 ก.ย. เปิดนโยบายเกษตร รอฟังไฮไลท์หมัดเด็ด พาประเทศออกจากวิกฤต

(5 ก.ย. 2565) ที่พรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย แถลงว่า กิจกรรมครอบครัวเพื่อไทย ตอน 'สะบัดชัย เพื่อไทยมาเหนือ' ในวันที่ 9-11 กันยายน ที่จังหวัดเชียงใหม่ จะเป็นครั้งแรกที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย จะลงพื้นที่ไปปฏิบัติภารกิจทางการเมืองที่จังหวัดเชียงใหม่ ถือเป็นบ้านเกิดของครอบครัวชินวัตร ดังนั้นจึงมีการจัดรูปแบบ เนื้อหาและเวลาสำหรับแกนนำพรรคเพื่อไทยและครอบครัวเพื่อไทย นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย ส.ส.และสมาชิกพรรค ได้ลงพื้นที่พบปะพูดคุยสื่อสารความคิด นโยบายและนำเสนอแนวทางแก้ไขปัญหากับพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดเชียงใหม่อย่างเต็มที่

โดยวันที่ 9 ก.ย. แกนนำพรรคเพื่อไทยและแกนนำครอบครัวเพื่อไทย จะพบปะพูดคุยรับฟังปัญหาจากพี่น้องเกษตร จะได้มีโอกาสนำเสนอแนวทางและนโยบายในการแก้ปัญหาควบคู่กันไป ช่วงบ่าย จะมีการพบปะนักธุรกิจสตาร์ทอัพและเอสเอ็มอี ที่มีแนวคิดและแนวทางในการพัฒนา ขับเคลื่อนธุรกิจให้มีศักยภาพ ให้เข้มแข็ง โดยการหนุนเสริมของรัฐที่ชัดเจน หลังจากนั้นคณะแกนนำพรรคเพื่อไทยและแกนนำครอบครัวเพื่อไทยจะร่วมกันลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน พ่อค้า แม่ค้า บริเวณกาดหลวง ซึ่งเป็นสถานที่เชิงสัญลักษณ์ในทางธุรกิจและการท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งขณะนี้พี่น้องประชาชนกำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจซบเซา กระทบการประกอบธุรกิจ

ส่วนวันที่ 10 ก.ย.จะมีเวทีครอบครัวเพื่อไทย สะบัดชัย เพื่อไทยมาเหนือ ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จังหวัดเชียงใหม่ โดยแกนนำพรรคและแกนนำครอบครัวเพื่อไทย ที่จะขึ้นเวทีพูดคุยกับพี่น้องประชาชน นำโดย นพ.ชลน่าน น.ส.แพทองธาร นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยาและประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ และรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย รวมไปถึงตนที่จะได้พูดคุยกับพี่น้องประชาชนด้วย นอกจากนี้จะมีสมาชิกพรรค สมาชิกครอบครัวเพื่อไทย และผู้บริหารท้องถิ่น ที่จะมาร่วมแสดงพลังว่าเรามีศักยภาพและมีความพร้อมในการแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน

“ไฮไลต์สำคัญของเวที คือ การประกาศแนวนโยบายด้านการเกษตร แนวทางการแก้ปัญหาให้พี่น้องเกษตรกร โดยนางสาวแพทองธาร ภายใต้แนวคิดตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ รวมทั้งจะมีขบวนกลองสะบัดชัย เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคเหนือ นำโดย นพ.ชลน่าน จะถือธงนำแสดงพลัง แสดงความพร้อมของพรรคเพื่อไทย ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสดทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ของพรรคเพื่อไทย ให้พี่น้องประชาชนทั่วประเทศได้รับชม” นายณัฐวุฒิ ระบุ

สำหรับช่วงบ่ายวันที่ 10 กันยายน คณะครอบครัวเพื่อไทย จะลงพื้นที่เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยใหม่เอี่ยม เพื่อพบปะพูดคุยกับนักธุรกิจและนักวิชาการศิลปะร่วมสมัย ในประเด็นการปลดล็อกศักยภาพเศรษฐกิจสร้างสรรค์ด้วยนโยบายที่สร้างสรรค์ ซึ่งพรรคเพื่อไทยมีแนวคิดในการดึงศักยภาพของคนในแต่ละครอบครัวมาพัฒนาส่งเสริม เพื่อทำให้แต่ละครอบครัวมีตัวแทนที่มีศักยภาพใช้ซอร์ฟเพาเวอร์ ในการยกระดับความเข้มแข็งด้านเศรษฐกิจของครัวเรือน ซึ่งจะส่งผลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ แล้วในช่วงเย็นก็จะมีกิจกรรมลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนที่ตลาดสันกำแพง

'เพื่อไทย' ชม 'บิ๊กป้อม' รักษาการฯ เพียงไม่กี่วัน เห็นผลงานโดดเด่น

(6 ก.ย. 65) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังจากที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ต้องเข้ามาทำหน้าที่แทนพล.อ.ประยุทธ์ ปรากฎว่าการทำงานของพล.อ.ประวิตร ในเวลาไม่กี่วันกลับทำได้ดีกว่าพล.อ.ประยุทธ์ มาก เข้าใจปัญหาและเข้าถึงใจประชาชนได้มากกว่าพล.อ.ประยุทธ์ ขนาดทำให้พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเสียศูนย์ออกมาแสดงอาการหวงตำแหน่งเดิมอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยรูปนั่งคุยกับนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกฯ และ รมว. สาธารณสุข นั่งพร้อมกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา โดยไม่ได้คำนึงถึงความเหมาะสม เพราะโดยตำแหน่งแล้วนายอนุทิน ที่เป็นรองนายกฯ ย่อมมีฐานะสูงกว่าพล.อ.ประยุทธ์ ที่เป็น รมว. กลาโหมเท่านั้น ยิ่งแสดงถึงภาพการยึดติดและอิจฉาทำใจไม่ได้ที่มีกับพล.อ.ประวิตร ทั้งที่น่าจะรู้ว่าเวลาของตนเองหมดแล้ว แต่ยังพยายามจะดันทุรัง 

ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ลงพื้นที่ กลับเสียคะแนน เพราะนั่งรถกันกระสุนและไม่ยอมเปิดหน้าต่างคุยกับประชาชน โดยอ้างว่าเปิดไม่ได้เพราะเป็นรถกันกระสุน ซึ่งถ้าหากกลัวคนทำร้ายและกลัวตายขนาดนี้ ก็ไม่น่าจะยังดื้อรั้นจะอยู่ตำแหน่งต่อไปอีกเลย ควรออกไปได้แล้ว ทั้งสองเรื่องนี้แสดงถึงความเสื่อมของพล.อ.ประยุทธ์ได้ชัดเจนและพิสูจน์ได้เลยว่าใครเหมาะจะมาเป็นนายกฯ ก็จะทำได้ดีกว่า จากผลงานของพล.อ.ประวิตรเพียงไม่กี่วันมานี้พิสูจน์แล้ว

นายพิชัย กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร โชว์ฟอร์มเหนือชั้นกว่าพล.อ.ประยุทธ์ แล้ว ก็อยากให้เร่ง แก้ไขปัญหาของประเทศที่ควรจะเร่งทำทันที อย่าปล่อยให้มีปัญหามากขึ้นเหมือนพลเอกประยุทธ์ ทำโดยนอกจากนโยบายของพรรคพลังประชารัฐที่ยังไม่ได้ทำแล้ว อยากให้เร่งทำ 8 เรื่องดังนี้…

1.) การแก้ไขหนี้ ทั้งหนี้ธุรกิจและหนี้ครัวเรือน โดยจัดระบบการพิจารณาลดหนี้ ลดดอกเบี้ย ยืดเงินต้น เพื่อให้ประชาชนทำธุรกิจและประคองชีวิตต่อได้ โดยหนี้ไม่ท่วม และวิธีแก้ที่ดีที่สุดคือการต้องเพิ่มรายได้ เพื่อให้ชำระหนี้ได้ เรื่องนี้ควรเร่งทำก่อนดอกเบี้ยจะขึ้นไปอีกมาก

2.) การปรับโครงสร้างราคาพลังงาน ทั้งราคาน้ำมัน ก๊าซ และ ไฟฟ้า เพื่อแก้ไขให้ยุติธรรม อย่าให้บริษัทพลังงานและนายทุนพลังงานเอาเปรียบประชาชน

3.) การเจรจาพื้นที่ทับซ้อน ไทย-กัมพูชา เพื่อให้ได้พลังงานในราคาถูก อีกทั้งยังจะมีรายได้เข้ารัฐสามารถนำไปทำสวัสดิการได้

4.) เร่งก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อ หนองคาย-เวียงจันทน์-จีน เพื่อให้ส่งสินค้าไทยไปจีน และนักท่องเที่ยวจีนมาไทยได้

‘แพทองธาร’ ลั่น ไม่ยึดติดต้องเป็นนายกฯเอง หากมีคนที่เหมาะสมกว่า รับเคยคิดการเมืองโหดร้ายกับตระกูลชินวัตร ชี้รัฐประหารเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นแล้ว

เราจะร่วมทำงานกับคนที่ มีหัวใจประชาธิปไตย เชื่อในประชาธิปไตย ไม่รู้ว่านายกฯ (ประยุทธ์) เชื่อแบบนั้นไหม เพราะไม่ได้มาจากประชาชน

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร
หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย
ให้สัมภาษณ์รายการ “เปิดปาก กับ ภาคภูมิ”
เมื่อวันที่ 8 กันยายน 65

‘แพทองธาร’ ลั่น ไม่ยึดติดต้องเป็นนายกฯเอง หากมีคนที่เหมาะสมกว่า รับเคยคิดการเมืองโหดร้ายกับตระกูลชินวัตร ชี้รัฐประหารเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นแล้ว 

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และหัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย ลูกสาวของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ “เปิดปาก กับ ภาคภูมิ” ดำเนินรายการโดย นายภาคภูมิ พันธุ์สถิตย์ ทางช่องไทยรัฐทีวี เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา โดยในรายการได้ถามว่าหากสมมติได้เป็นนายกรัฐมนตรี กลัวหรือไม่จะเป็นแบบพ่อ (ทักษิณ) ที่ถูกทำรัฐประหาร น.ส.แพทองธาร กล่าวยืนยันว่า รัฐประหารเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นแล้ว แต่ตนเองกลัวการถูกนำกฎหมายมาใช้แบบ 2 มาตรฐานมากกว่า เพราะทุกวันนี้ตนเองเคยพูดว่าโซเชียลมีเดียมันแรงขึ้น เรามีสื่อในมือ เราสามารถตอบคำถามและแก้ต่างในสิ่งที่มันไม่จริงได้ มั่นใจเลยว่าหากไทยรักไทยสมัยก่อนมีโซเชียลมีเดียในมือจะไม่เป็นแบบนี้ เพราะเรื่องหลายๆ เรื่องจะสามารถถูกชี้แจงได้ เพราะมีหลักฐานเพียงพอ แต่ในเวลานั้นมันไม่มีช่องทาง หรือสื่อที่จะแก้ต่างได้อย่างรวดเร็ว เพราะพ่อเองก็ไม่มีเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ที่จะตอบโต้ได้เลย

ส่วนประเด็นที่มีคนบอกว่ามาเล่นการเมือง เพราะต้องการให้นายทักษิณกลับบ้านใช่หรือไม่นั้น น.ส.แพทองธาร ตอบด้วยเสียงสั่นเครือและน้ำตาคลอ ว่า “แยกเป็น 2 เรื่องนะ อิ๊งค์เป็นลูกสาวคนเล็ก อิ๊งค์เป็น Daddy’s girl มาตั้งแต่วันที่อิ๊งค์จำความได้ อิ๊งค์อยากให้พ่อกลับบ้านทุกวันนะคะ ตั้งแต่วันที่ออก ลูกสาวคนเล็ก นี่เราไม่พูดถึงคนกลางคนโต พูดถึงแค่ตัวเรา เราอยากให้พ่อกลับบ้านทุกวัน ถ้าใครตามอินสตาแกรมมาตั้งแต่เนิ่นนาน อิ๊งค์พูดมาทุกครั้ง อิ๊งค์อวยพรพ่อทุกรอบ ปีหน้าจัดงานวันเกิดที่บ้านเรานะ พูดทุกรอบ (ตั้งแต่ปี 49 พูดอย่างนี้ทุกปี) ทุกปีค่ะ มันคือความหวัง นั่นคือสิ่งที่ทำให้เรา ครอบครัวอยู่ได้ เพราะเราก็มีความหวัง ไม่เคยพูดเลยว่าปีหน้าจะโอกาสน้อยลง พูดว่ามันมากขึ้นทุกปี อันนี้คือในเซ้นส์ของครอบครัว”

น.ส.แพทองธาร กล่าวต่อว่า แต่ในเซ้นส์ของการเมือง เรื่องที่ตนเองแบกไว้ว่าอยากให้พ่อกลับบ้านทุกวัน มันคือปัญหาของครอบครัวตนเอง แต่ไม่ได้ต้องการจะผลักดันให้เป็นปัญหาของประเทศ เพราะการเมืองและประเทศตอนนี้ ปัญหาคือปากท้อง และประชาชนยากจน หนี้สินท่วมท้น นี่คือสิ่งที่ต้องแก้ ไม่เอามาปนกัน โดยยอมรับว่าพ่อมีความหวังจะได้กลับประเทศ เพราะปัจจุบันอายุ 73 ปีแล้ว ที่ทุกวันนี้ยังหัวเราะเฮฮา ออกกำลังกายทุกวัน เพราะยังอยากแข็งแรงทั้งใจและร่างกาย

'อุ๊งอิ๊ง' ยังอุบนั่งแคนดิเดตนายกฯ พท. ชี้ ฟ้าลิขิตให้เป็นหรือไม่ อยู่ที่ประชาชน

‘อุ๊งอิ๊ง’ ตีปี๊บมีเซอร์ไพรส์! กิจกรรม ‘สะบัดชัย เพื่อไทยมาเหนือ’ 10 ก.ย.นี้ อุบสานต่อนโยบายจำนำข้าว ยันคอนเซ็ปต์ดี ปมนั่งแคนดิเดตนายกฯ ยังกั๊กเหมือนเดิม อ้างรอเคาะวันเลือกตั้งก่อน

9 ก.ย. 2565 – เมื่อเวลา 11.45 น. ที่โรงงานซันสวีท น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า พรรคจะมีการจัดกิจกรรม “สะบัดชัย เพื่อไทยมาเหนือ” ในวันที่ 10 ก.ย. และอาจจะมีเซอร์ไพรส์ ขอให้ประชาชนติดตาม เราทำงานอย่างหนักเพื่อคิดแต่ละนโยบายขึ้นมาในการนำปัญหาของประชาชนมาแก้ไข ซึ่งเราจะเริ่มทยอยเปิดนโยบายในช่วงการหาเสียง โดยเกษตรกรเป็นแรงสำคัญ เป็นแรงหลัก เราไม่ได้มองแค่การหาเสียงหรือการชนะเลือกตั้ง แต่ปากท้องของประชาชนต้องเริ่มตั้งแต่เกษตรกร หากในส่วนนี้แข็งแรงก็จะสะท้อนภาพใหญ่ของประเทศได้

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยจะมีการเดินหน้าสานต่อนโยบายจำนำข้าวหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีการทบทวนรายละเอียด และต้องทำให้ดี แน่นอนว่ากระบวนการที่มีปัญหาหรือมีอะไรบางอย่าง จะต้องนำมาแก้ไขเพื่อตอบสนองประชาชนได้อย่างแท้จริง อย่างที่เคยพูดนโนบายจำนำข้าวเป็นการช่วยเหลือเกษตรกร และจุดมุ่งหมายของพรรคคืออยากให้เกษตรกร ประชาชนสามารถลืมตาอ้าปากได้ ดังนั้นนโยบายจำนำข้าวในเรื่องคอนเซปต์ยังเป็นสิ่งที่ดี

ส่วนที่ขณะนี้หลายพรรคเริ่มมีการเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรค พท. ควรจะมีความชัดเจนได้เร็วขึ้นหรือไม่ เนื่องจากกระแสเริ่มมีมากขึ้น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวอยากให้มีการกำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจนก่อน พรรค พท. จะมีความชัดเจนแน่นอน

เมื่อถามว่า จะมีฟ้าลิขิตให้เป็นนายกฯ ได้หรือไม่ หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องอยู่ที่พี่น้องประชาชน คนในพรรค และต้องดูเรื่องความเหมาะสม ซึ่งจะต้องดูเมื่อการเลือกตั้งที่จะมาถึง ประเทศต้องไปต่อ ไม่ใช่จะมาดูว่าใครจะเป็นผู้นำ แต่จะต้องเป็นพรรคที่เสนอนโยบายที่ตอบโจทย์ประชาชนอย่างแท้จริง แก้ปัญหาให้ประชาชน เอาประชาชนเป็นหลัก คือหัวใจของประชาธิปไตย ทั้งนี้ พรรค พท. จะมีการเปิดแคนดิเดตนายกฯ เมื่อได้วันเลือกตั้ง แต่สุดท้ายแล้วก็อาจจะไม่แน่ ขอให้ประชาชนรอลุ้นต่อไป

'เพื่อไทย' ยุ่งแล้ว!! คนอีสานชู 'สุดารัตน์' ขึ้นแท่นนายกฯ 'แพทองธาร' มาที่สอง

ถือว่ามาตามนัด สำหรับ 'หญิงอ้อ' คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ที่เฉิดฉายอย่างยิ่งในกิจกรรม 'สะบัดชัย เพื่อไทยมาเหนือ' ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ จ.เชียงใหม่ พร้อมเพรียงด้วยบุคคลในครอบครัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และพลพรรคเพื่อไทย ซึ่งต่างมาให้กำลังใจคุณแพทองธาร ชินวัตร กันอย่างคับคั่ง ประกาศศักดาครอบครัวเพื่อไทยยืนหนึ่งในเวทีการเลือกตั้งหนหน้า

ทว่าในวันนี้ (10 ก.ย.65) อีสานโพล ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสานมหาวิทยาลัยวิทยาลัยขอนแก่น ได้เปิดเผยผลสำรวจในหัวขัอ 'ความเครียดของคนอีสานกับปัญหาเศรษฐกิจ' โดยผลการสำรวจพบว่า 3 ปัญหาที่คนอีสานกำลังเผชิญและมีความเครียดมากที่สุด คือ ค่าครองชีพสูงและราคาวัตถุดิบเพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานเพิ่มขึ้นมาก และรายได้ไม่พอกับรายจ่ายจนต้องมีหนี้เพิ่ม และยังมีปัญหาเศรษฐกิจอื่นๆ ที่คนอีสานราวๆ 30% รู้สึกเครียดมากและรอการบรรเทาปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการหางานใหม่ยากหรือหางานทำยาก ภาระรายจ่ายด้านการศึกษา ผ่อนชำระหนี้กับสถาบันการเงินไม่ไหวขาดทุนจากการทำเกษตรหรือแทบไม่มีกำไร ขาดแคลนเงินทุนหรือสินเชื่อในการทำมาหากิน เป็นผู้สูงอายุที่มีเงินไม่พอใช้หรือมีภาระต้องเลี้ยงดูผู้สูงอายุ และผ่อนชำระหนี้นอกระบบไม่ไหว

รศ.ดร.สุทิน เวียนวิวัฒน์ หัวหน้าโครงการอีสานโพล เปิดเผยว่า การสำรวจนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจความคิดเห็นของคนอีสานต่อความเครียดที่คนอีสานกำลังเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจและการเงินเพื่อสะท้อนปัญหาของคนอีสานให้กับทางภาครัฐหรือพรรคการเมืองต่างๆ ได้หาแนวทางบรรเทาปัญหาเศรษฐกิจให้กับคนอีสาน จากกลุ่มตัวอย่างอายุ 18 ปีขึ้นไป 1,065 รายในเขตพื้นที่ภาคอีสาน 20 จังหวัด โดยเมื่อสอบถามกลุ่มตัวอย่างเกี่ยวกับความเครียดเกี่ยวกับปัญหาด้านเศรษฐกิจและการเงินใน 14 ประเด็น 

แต่ประเด็นไฮไลต์จากผลโพลล์ดังกล่าว อยู่ที่ 'การเลือกตั้งครั้งใหม่ อยากให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี' เพื่อมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ พบว่า อันดับ 1 เป็นของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ร้อยละ 23.4 รองลงมาคุณแพทองธาร ชินวัตร ร้อยละ 21.1 อันดับ 3 คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ร้อยละ 20.2 ตามมาด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร้อยละ 12.5 นานอนุทิน ชาญวีรกุล ร้อยละ 9.9 คนอื่นๆ จากพรรคเพื่อไทย ร้อยละ 6.5 คุณจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ร้อยละ 2.8 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ร้อยละ 1.7 และอื่นๆ ร้อยละ 1.9

‘แพทองธาร’ นำทีมเพื่อไทยแลกเปลี่ยนมุมมองนักวิชาการ ศิลปินหลายสาขา หวังสร้างโอกาสงานศิลปะ ผลักดันเมืองให้กลายเป็นเมืองแห่งความคิดสร้างสรรค์เต็มรูปแบบ

พรรคเพื่อไทย นำโดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นางสาวทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ส.ส.เชียงใหม่ นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย และรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นางสาวจิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ดและกรรมการบริหารพรรค นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช  คณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง ดูแลด้านนโยบาย พรรคเพื่อไทย นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นางสาวอรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ความรู้กับตัวแทนนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขา ร่วมกับ นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญภูมิปัญญาท้องถิ่นเกี่ยวกับศิลปะร่วมสมัย นักธุรกิจ  ในประเด็น ‘ปลดล็อคศักยภาพเศรษฐกิจสร้างสรรค์ด้วยนโยบายที่สร้างสรรค์’ โดยมีตัวแทนนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะ ได้แก่ ผศ.ดร.จิรันธนิน กิติกา สถาปนิกและนักวิชาการ รศ.ดร.สันต์ สุวัจฉณาภินันท์ อาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรม  ม.เชียงใหม่ นางสาวกัณณิกา บัวจีน บ่อสร้าง  

ตัวแทนด้านภาพยนตร์ นายชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล (มะเดี่ยว) ผู้กำกับภาพยนตร์ ตัวแทนด้านวรรณกรรม นางสาวนันท์ณิชา ศรีวุฒิ นักออกแบบหนังสือ ปกอัลบั้มและภาพประกอบเพลง จาก Boof re ตัวแทนด้านดนตรี นายภราดล พรอำนวย นักดนตรีแซ็กโซโฟน และเจ้าของร้านนอร์ทเกต ตัวแทนด้านกีฬา นายพิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมเทควันโด  

ตัวแทนศิลปิน นายศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ นักวิชาการและอาจารย์คณะวิจิตรศิลป์ ม.เชียงใหม่  นายนลธวัช มะชัย ศิลปิน ลานยิ้มการละคร ผศ.ดร.ทัศนัย เศรษฐเสรี ศิลปิน คณะวิจิตรศิลป์ ม.เชียงใหม่ นางสาวกิตติมา จารีประสิทธิ์ ภัณฑารักษ์พิพิธภัณฑ์ร่วมสมัยใหม่เอี่ยม โดยมีชานันท์ ยอดหงษ์ (ปกป้อง) ผู้รับผิดชอบนโยบายด้านอัตลักษณ์และความหลากหลายทางเพศ พรรคเพื่อไทย ดำเนินการเสวนา 

ในการแลกเปลี่ยนมุมมอง ความคิดเห็น และความรู้ในครั้งนี้ เน้นไปที่ความท้าทายของจังหวัดเชียงใหม่และอีกหลายพื้นที่ในประเทศไทย ซึ่งคนในพื้นที่มีการรวมกลุ่มกันของคนที่คิดแบบเดียวกันและลงมือทำจนกลายเป็นกลุ่มคนที่มีพลังในการสร้างสินทรัพย์ทางปัญญาใหม่ๆ (Community) หรือวัฒนธรรมร่วมสมัยจำนวนมาก  สามารถนำเอางานศิลปะเหล่านี้  ผลักดันให้กลายเป็นเมืองแห่งความคิดสร้างสรรค์ (Creative City) ขณะเดียวกันหากสามารถนำเอาข้อมูลเชื่อมโยงเข้ากับภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เกษตรกรรม วิถีชีวิต และหัตถกรรม ในรูปแบบดิจิทัลสู่การท่องเที่ยวแบบสืบค้นที่สนุกและสร้างสรรค์  เชียงใหม่และจังหวัดอื่นๆ ที่มีศักยภาพ จะสามารถยกระดับให้กลายเป็นเมืองแห่งความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มรูปแบบ งานฝีมือของคนเชียงใหม่และทั่วประเทศ จะกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยต้องมีนโยบายหรือการส่งเสริมจากภาครัฐ  ที่กระจายไปสู่กลุ่มการทำงานสร้างสรรค์ในรูปแบบอื่นๆ โดยเฉพาะศิลปินหน้าใหม่ด้วย

‘แพทองธาร’ ควง ‘ทัศนีย์’ ลงพื้นที่ตลาดสันกำแพง บ้านเกิด 2 อดีตนายกฯ ชินวัตร

‘แพทองธาร’ ควง ‘ทัศนีย์’ ลงพื้นที่ตลาดสันกำแพง บ้านเกิด 2 อดีตนายกฯ ชินวัตร แนะดันสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว ขณะที่ ‘ทัศนีย์’ ย้ำคนยังรัก ‘ทักษิณ’ เพราะ 30 บาทรักษาทุกโรคช่วยให้รอดตาย ด้านแม่ค้าขายเสื้อ ยันเลือก ‘เพื่อไทย’ เป็นรัฐบาลแน่นอน

(10 ก.ย. 2565) ที่ตลาดถนนคนเดินส้นกำแพง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยนายแพทย์ชลน่านศรีแก้ว ส.สน่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายพานทองแท้ ชินวัตร สมาชิกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นางสาวทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เขต 3 อ.สันกำแพง อ.แม่ออน และ อ.ดอยสะเก็ด นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ เขต 3 พรรคเพื่อไทยและคณะลงพื้นที่ที่ตลาดคนเดินสันกำแพงซึ่งเป็นย่านค้าขายที่ 2 อดีตนายกรัฐมนตรี คือ ดร.ทักษิณ ชินวัตร และ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีความผูกพัน และยังเป็นอำเภอบ้านเกิดของคนตระกูลชินวัตร

โดยระหว่างลงพื้นที่ นางสาวแพทองธาร ได้เลือกซื้อเสื้อผ้า พร้อมขนมในตลาดด้วย จากนั้น นางสาวแพทองธาร ระบุว่า มาที่ถนนสันกำแพง คิดถึง ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ของตน เมื่อมาถึงทำให้รู้สีกบรรยากาศในอดีตสมัยวัยเด็ก ส่วนตัวอยากให้สนับสนุนของดีของ อ.สันกำแพง เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ทั้งนี้ นางสาวทัศนีย์ ระบุว่า ดีใจที่พรรคเพื่อไทยให้โอกาสลงสมัคร ส.ส.เขตสันกำแพง  ทั้งนี้ประชาชนทั้งประเทศรัก ดร.ทักษิณ เพราะนโยบายที่เคยทำไว้ในสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย

“ทำไมประชาชนในพื้นที่ ถึงรักนายกฯทักษิณไม่เปลี่ยนแปลง เป็นเพราะนโยบาย เพราะบางคนบอกว่ารอดตายโรคหัวใจมาได้ จากนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคได้ และยังมีกองทุนหมู่บ้านมาช่วยเหลือประชาชนได้” นางสาวทัศนีย์ กล่าว

นายจักรพล ระบุว่า ถนนคนเดินสันกำแพงนี้เป็นถนนที่ตั้งของตึกชินวัตรซึ่งเคยประกอบกิจการค้าผ้า และยังเป็นวัดโรงธรรมสามัคคีซึ่งเก็บอัฐิของอัฐิของบรรพบุรุษตระกูลชินวัตร ทั้งนี้ยืนยันว่าการสลับเขตกับนางสาวทัศนีย์มาลงเขตเลือกตั้งที่ 3 ไม่ได้มีปัญหาและน่าเป็นห่วง เพราะเมื่อผนวกกับนโยบายของพรรคเพื่อไทยและกระแสก็มั่นใจว่าทางนางสาวทัศนีย์น่าจะได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.ในเขตนี้

“ฝังอยู่ในความรู้สึกของประชาชน สิ่งที่พัฒนาตั้งแต่พรรคไทยรักไทยมีผลดีและเป็นประโยชน์กับคน อ.สันกำแพง” นายจักรพล ระบุ

'ชลน่าน' ประกาศแล้ว ศัตรูทางการเมืองของพรรค พรรคอ้างพี่น้อง 'เพื่อไทย' และพวกฝักใฝ่เผด็จการ

เมื่อ 10 ก.ย. 65 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ปราศรัยในงาน 'สะบัดชัย เพื่อไทยมาเหนือ' ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จ.เชียงใหม่ ช่วงหนึ่งว่าพรรคเพื่อไทย ครอบครัวเพื่อไทย ยกทัพมาเชียงใหม่ เพราะเชียงใหม่คือเมืองหลวงของพรรคเพื่อไทย เลือกเชียงใหม่ลั่นกลองสะบัดชัย เพื่อประกาศว่าพร้อมรบแล้ว แลนด์สไลด์ ทั้งแผ่นดิน ซึ่งจะเป็นไปไม่ได้ถ้าเชียงใหม่ไม่ได้ทั้ง 11 เขต ขอทั้ง 11 เขต

เราต้องการสร้างขวัญกำลังใจให้ผู้สมัครของพรรคทั้ง 400 เขตทั่วประเทศ ที่ต้องให้ได้แลนด์สไลด์ 250 เสียงขึ้นไปเพื่อเอาหัวใจที่รักที่หวงแหนที่สุดกลับคืนมา แล้วเอาระบบประยุทธ์ ออกไป เอา ส.ว. 250 ที่เลือกพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ออกไป แล้วเอา 250 เสียงมาเลือกนายกฯ ของเราเอง เอาหนี้ออกไป เอาความเป็นอยู่กินดีกลับคืนมา ถ้าไม่แลนด์สไลด์สิ่งที่กล่าวมาจะไม่เกิดขึ้น เราต้องเอาชนะให้ได้ และถ้าได้ 250 เสียง

นพ.ชลน่าน ปราศรัยว่า สิ่งที่เราจะทำเรื่องแรกคือ ต้องมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่พวกเราช่วยกันสร้าง ประชาธิปไตยที่สมดุลต้องมาจากรัฐธรรมนูญที่เราร่วมสร้าง เอาสิ่งที่พวกเรารักที่สุดกลับคืนมา ซึ่งหลายท่านอาจบอกอยู่ในใจ ซึ่งตนรู้ว่าคำพูดของพวกเราคืออะไร แต่สิ่งที่พูดบนเวทีนี้ สิ่งที่รักที่สุดคือประชาธิปไตย ใครคิดลึกขอให้คิดกันเอาเอง ดังนั้นเวลาเข้าคูหาขอให้กาทั้งคนทั้งพรรคเลือกชนะให้เด็ดขาด

เพื่อไทย สนับสนุนนวัตกรรมปลูกเชื้อเห็ดคืนป่า ร่วม ม.แม่โจ้และชาติพันธุ์แม่แจ่ม สร้างคนอยู่ร่วมป่า สร้างระบบนิเวศน์สมบูรณ์

นายธีระชัย เปรมชื่นพนาวัน ตัวแทนชาวบ้านตำบลแม่ศึก อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ มอบก้อนเชื้อเห็ดป่าให้พรรคเพื่อไทย ขอบคุณให้ความสำคัญใส่ใจ และเปิดนโยบายเกษตรในกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทยมาเหนือสุด โดยเชื่อว่าความมุ่งมั่นตั้งใจใช้การเกษตรขับเคลื่อนประเทศไทย ด้วยแนวคิด ‘ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้’ ประชาชนคนไทยทั่วทุกภาค-ทุกคน ก็จะได้รับประโยชน์ร่วมกัน

นายธีระชัย กล่าวอีกว่า อำเภอแม่แจ่ม เป็นหมู่บ้านอยู่บนพื้นที่สูง อาศัยและทำกินอยู่กับป่ามานาน แต่อุปสรรคหลายอย่าง ยังทำให้เราประสบปัญหาเรื่องกรรมสิทธิ์ทำกิน และข้อกล่าวหาทำลายป่าทำลายระบบนิเวศน์

วันนี้ เรานำเห็ดจำนวน 3,000 ก้อน ที่ได้ร่วมกับทีมงานเกษตรพรรคเพื่อไทย นำโดย คุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง และศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมเห็ดป่าและฐานเรียนรู้เห็ด มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ใช้เทคโนโลยีองค์ความรู้ที่มีอยู่แล้ว รื้อฟื้นการผลิตก้อนเชื้อเห็ดโคน ซึ่งใช้เวลาเติบโตกว่าครึ่งปี วันนี้พร้อมใช้งาน เติมเป็นเชื้อเห็ดกลับคืนสู่ป่า สร้างอาหาร สร้างรายได้ให้คนทำกิน

'เพื่อไทย' ระดม 'ส.ส.-ว่าที่ผู้สมัคร-ส.ก.-ทีมงาน' ลงพื้นที่ช่วยปชช. หลังน้ำท่วมกรุงหนัก

เมื่อวันที่ 11 กันยายน นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานครพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายวราวุธ ยันต์เจริญ คณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานครพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่นำอาหารไปมอบให้พี่น้อง ชุมชนเลียบคลองเปรมประชากร ที่ประสบภัยน้ำท่วม ร่วมกับ นายตกานต์ สุนนทวุฒิ ส.ก.เขตหลักสี่ และ นายสมบัติ กนกทิพย์วรรณ ผู้อำนวยการเขตหลักสี่ จากนั้น นายสุรชาติ เทียนทอง ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย และนายตกานต์ ได้ลงพบปะกับผู้ประสบภัยน้ำท่วมต่อ รับฟังปัญหาเพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือพร้อมกับคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครมหานคร และผู้อำนวยการเขตหลักสี่ ในชุมชนคลองเปรมพัฒนา ชุมชนมิตรประชา และชุมชนเปรมสุขสันต์ ซึ่งเป็นชุมชนที่ตั้งอยู่ติดกับคลองเปรมประชากร

ขณะที่ ส.ส. ว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม. และส.ก. ของพรรคเพื่อไทย ได้ระดมกำลังและทีมงานลงพื้นที่ต่อเนื่อง โดยนายสุธนพจน์ กิจธนาภิทักษ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขตดอนเมือง และนางกนกนุช กลิ่นสังข์ ส.ก.เขตดอนเมือง พรรคเพื่อไทย  นำอาหารกล่องไปมอบให้กับชุมชนซอยอิ่มละมัย ชุมชนสะพานปูน และชุมชนร่มเย็นที่ประสบภัยน้ำท่วม พร้อมประสานแก้ปัญหาเบื้องต้นให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ พร้อมหาแนวทางแก้ไขเพื่อลดปัญหาที่เกิดขึ้น 

เขตลาดกระบัง น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวานิช ส.ส.เขตลาดกระบัง พรรคเพื่อไทย ได้ลงพื้นที่ พร้อมประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้เจ้าหน้าที่นำเรือผลักดันน้ำมาช่วยพร่องน้ำในคลอง เนื่องจากประสานไปทางกทม. แล้วแต่ ยังไม่ได้คำตอบว่าจะสามารถดำเนินการหรือไม่ อย่างไร ตอนไหน ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมส่งหนังสือขอความช่วยเหลือไปยังกองทัพเรืออีกครั้ง 

เขตบางกะปิ น.ส.นภัสสร พละระวีพงศ์ ส.ก.เขตบางกะปิ พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมเช่นกันโดยเร่งประสานงานช่วยเหลือประชาชน ทั้งนึ้ น.ส.นภัสสร กล่าวว่า ขอขอบคุณนายนพ ชูสอน ผู้อำนวยการเขตบางกะปิ และเจ้าหน้าที่ทุกๆท่าน เร่งสูบน้ำ เร่งบรรจุกระสอบทรายเพิ่ม เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนที่น้ำท่วมเข้าบ้าน  และนำไปปิดอุดรอยรั่วที่เป็นฟันหลอ ป้องกันน้ำทะลักเข้าท่วม ด้านเจ้าหน้าที่เทศกิจได้นำรถออกบริการประชาชน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top