Sunday, 19 May 2024
ผู้ว่ากทม

'วิโรจน์' นำทีม ส.ก. จัดเวทีปราศรัย Flash meet โชว์กึ๋นหางบประมาณเพิ่มได้อีก 13,000 ล้านต่อปี

เมื่อวันที่ 24 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเย็นเมื่อวานนี้ (23 เม.ย.) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 1 พรรคก้าวไกล เปิดเวทีปราศรัยย่อย หรือ ‘Flash meet’ บริเวณใต้สะพานพระราม 8 พร้อมผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพ (ส.ก.) ฝั่งธนบุรี ทั้ง 15 เขต ซึ่งเป็นการปราศรัยรูปแบบมาไว ไปไว ไม่ยืดเยื้อ เพื่อให้สอดคล้องไลฟ์สไตล์คนกทม.

โดยนายวิโรจน์ ปราศรัยว่า หากมองด้วยมาตรฐานของสภาใหญ่ที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล ได้ทำไว้ ในเรื่องการตรวจสอบการใช้งบประมาณ คนกทม. ควรเลือก ส.ก. จากพรรคก้าวไกล เข้าไปทำหน้าที่ปกป้องภาษีที่มาจากประชาชน และเพื่อไปผลักดันให้มีการนำภาษีไปใช้เกิดประโยชน์สูงที่สุด เพราะตนเชื่อว่า ส.ก.ก้าวไกลจะสร้างมาตรฐานสภากรุงเทพฯ ให้เทียบเท่ากับสภาผู้แทนราษฎรได้ งบประมาณกรุงเทพฯ รวมแล้วมีมากกว่า 100,000 ล้านบาทต่อปี ส.ก. มีหน้าที่ดูแลเงินภาษีของพวกท่าน ถ้า ส.ก. เฮงซวย เงินภาษีของจะถูกใช้ไปแบบเฮงซวย ดังนั้น นี่คือเหตุผลที่ต้องเลือก ส.ก. จากพรรคก้าวไกล

นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า นโยบายต่างๆ ไม่ว่าจะผู้สมัครผู้ว่าฯ คนไหนโฆษณาไว้อย่างไร ล้วนแล้วแต่ต้องใช้เงินจากงบประมาณทั้งสิ้น ผู้ว่าฯ ในฐานะที่เป็นผู้บริหารของเมือง หน้าที่แรกคือ การหาเงินงบประมาณ หากผู้ว่าฯ ไม่บอกวิธีการหาเงิน นโยบายต่างๆ ที่โฆษณาจะไม่สามารถทำได้อย่างแน่นอน การปราศรัยในครั้งนี้จึงต้องการมาบอกว่า กทม. จะหาเงินได้อย่างไร 

นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า กรุงเทพฯ จะมีงบประมาณเพิ่มได้จากการเก็บภาษีสิ่งปลูกสร้าง หรือที่เรียกว่าภาษีโรงเรือน ซึ่งกทม. มีตึกรามบ้านช่องมากมาย แต่ที่ผ่านมาเก็บภาษีสิ่งปลูกสร้างได้เพียง 5,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งความจริงแล้วกทม. สามารถตั้งเป้าหมายการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้มากกว่าเดิมอีก 10,000 ล้านบาทต่อปี แต่ที่ผ่านมาทำไม่ได้เพราะว่าที่ดินบางแห่งย่านใจกลางเมืองหรือย่านธุรกิจจะถูกทำให้เป็นที่ตาบอด เพื่อทำให้ที่ดินตรงนั้นราคาประเมินถูกลง เพื่อทำให้เสียภาษีถูกลง เราจะไม่เห็นสภาพการณ์แบบนี้เกิดกับเมืองดังๆ ทั่วโลกเลย แต่เราเห็นได้ที่กทม. และที่ประเทศไทย ผมคิดว่าผู้ว่าฯ กทม. ต้องกล้าออกข้อบัญญัติหรือระเบียบในการจัดการเรื่องนี้แบบตรงไปตรงมา ไม่ใช่อ่อนข้อให้นายทุนคนตัวใหญ่ หลบเลี่ยงการจ่ายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

‘ชัชชาติ’ ลุยหาเสียง 'บางกะปิ-สะพานสูง' ชูนโยบาย 'ปชช. ร่วมประเมินผลงาน ผู้ว่าฯ-ผอ.เขต'

24 เม.ย. 65 นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่เขตบางกะปิและเขตสะพานสูง พบปะผู้ค้าและประชาชนที่ตลาดเช้าแฟลตคลองจั่น ตลาดหมู่บ้านสหกรณ์เคหสถาน ตลาดสัมมากร และตลาดตะวันนา พร้อมรับฟังปัญหาจากผู้นำชุมชนต่างๆ

นายชัชชาติ กล่าวว่า ปัญหาในแต่ละชุมชนมีหลากหลาย การแก้ไขปัญหาของชุมชนจะต้องให้ประชาชนเข้ามาร่วมตัดสินใจ เนื่องจากประชาชนรู้ดีที่สุดว่าเกิดปัญหาอะไร และต้องการวิธีไหนในการแก้ไข เสนอนโยบายให้ประชาชนมีส่วนร่วมจัดลำดับความสำคัญของโครงการต่างๆ ตั้งแต่ในระดับเขตจนไปถึงระดับ กทม. 

‘จอมขวัญ’ เผย ถูกผู้สมัครเทเวทีดีเบต ถามแรง จะเป็นผู้ว่าฯ ตามที่หาเสียงได้ใช่ไหม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จอมขวัญ หลาวเพ็ชร์ พิธีกรชื่อดัง ได้โพสต์ทวิตเตอร์ ระบุว่า “รับปากไว้ไม่มา..จะเป็นผู้ว่าฯ ตามที่หาเสียงไว้ได้ใช่มั้ยคะ #ผู้ว่ากรุงเทพ #ผู้ว่ากทม”

โดย จอมขวัญ จะจัดรายการดีเบตผู้ว่าผ่านทาง The Matter โดยมีรายนามผู้เข้าร่วม ได้แก่ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร, นายสกลธี ภัททิยกุล, นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์, พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง, นางสาวรสนา โตสิตระกูล, นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และ น.ต.ศิธา ทิวารี จัดขึ้นวันที่ 18 พฤษภาคม 2565 นี้

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ เวทีเปิดวิสัยทัศน์ ของผู้ว่าฯ กทม. ว่าด้วยนโยบายสิทธิมนุษยชน มีผู้ขึ้นเวทีถึง 24 คน ถูกห้ามไม่ให้จัดที่หน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร โดย พล.ต.อ.อัศวิน ติดภารกิจไม่สามารถเข้าร่วมได้


ที่มา : https://twitter.com/jomquan/status/1521447297292603392
https://www.matichon.co.th/politics/news_3326075

ทีม 'เชียร์ลุงตู่' ปลุกกระแสเลือก 'อัศวิน' ก่อนจะได้ผู้ว่าฯ อิสระปลอมๆ นำไปสู่แลนด์สไลด์ทั่วไทย

แอดมินกลุ่มเฟซบุ๊ก 'เชียร์ลุงตู่' ชูยุทธศาสตร์ ไม่เลือกเราเขามาแน่ ลั่นถ้าไม่เลือก 'อัศวิน' จะได้ผู้ว่าอิสระปลอมๆ นำไปสู่แลนด์สไลด์ทั่วไทย สู่หนทางกลับไทยแบบเท่ๆ ของ 'ทักษิณ'

13 พ.ค. 65 - วัชระ บุญหวาน แอดมิน กลุ่มเฟซบุ๊ก 'เชียร์ลุงตู่มาอยู่กลุ่มนี้1' ที่มีสมาชิก 2.5 แสนคน โพสต์ข้อความถึงการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. มีเนื้อหาดังนี้

ถ้าไม่เลือกอัศวิน อะไรจะเกิดขึ้น

อันดับแรกเลย เราจะได้ผู้ว่าอิสระปลอมๆ ครับ แต่ไม่อิสระจริง
เพราะการเลือกตั้งผู้ว่าครั้งนี้ มันวัดกันแค่ 2 ฝ่ายครับ
คือฝ่ายเอาทักษิณ กับ ไม่เอาทักษิณ
โดยที่ฝ่ายทักษิณต้องการใช้บันไดขั้นแรกของการเลือกตั้งผู้ว่าครั้งนี้
นำไปสู่โปรเจคแลนด์สไลด์ทั่วไทย
เพื่อหนุนลูกสาวก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่สอง ต่อจาก ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

โดยการใช้แคมเปญแลนด์สไลด์ทั่วไทย
เพื่อหนทางไปสู่การกลับไทยแบบเท่ๆ ของนักโทษหนีคดี อย่าง ทักษิณ ชินวัตร
เพราะเป็นหนทางสุดท้ายแล้วที่ทักษิณหวัง
ทักษิณจะใช้สนามเลือกตั้งหยั่งเสียง ว่าเขาจะมีโอกาสได้กลับไทยหรือไม่ ชาตินี้
ถ้าคนของฝ่ายเขาชนะ แผนสอง แผนสามก็จะตามมาทันที ตามนิสัยทักษิณ
ที่จะรุกคืบเมื่อมีโอกาส และรู้ว่าตัวเองเป็นต่อ
เหมือนเช่นเมื่อครั้งที่เขาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และเคยทำเรื่องมิบังควรมาแล้ว

มันไม่เคยมีสัจจะสำหรับคนๆ นี้
เคยพร่ำว่าจะไม่ยุ่งการเมืองมากี่ครั้ง แต่ก็ไม่เคยเลิกรา

พวกเราจะปล่อยให้ทุกอย่างมันสายเกินจะแก้ไขไม่ได้ครับ
ถ้าปล่อยให้ฝ่ายทักษิณกลับมามีอำนาจได้ ก็อย่าหวังว่าจะมีใครมาล้มเขาได้อีกครับ
จะให้เขาเข้ามาโกงกินทำความเสียหายให้ประเทศชาติไม่ได้อีกแล้วครับ
และจะไม่มีทหารคนไหนคิดยึดอำนาจรัฐประหารอีกครับ
หากเราคนไทยไม่คิดป้องกันเอาไว้

'อัษฎางค์' ยก 5 เหตุผลเชียร์ 'อัศวิน' ก่อนแดงจะแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน

'อัษฎางค์' ยก 5 เหตุผลเชียร์ 'อัศวิน' ยันไม่ใช่ว่าชอบหรือชื่นชมมากกว่า 'สกลธี-สุชัชวีร์' แต่เลือกผู้ว่าฯ ได้แค่คนเดียว รับต่อให้เอาคะแนน 3 คนมารวมกันยังแพ้ 'ชัชชาติ' ต้องยกเมืองไทยให้เขากลับประตูหน้าแบบเท่ๆ

18 พ.ค.2565 - นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊กถึงการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ว่า .. 
บันทึก
วันพุธที่ 18 พฤษภาคม 2022 เวลา 7 โมงเช้า ยังตาสว่าง

ที่ตาสว่างไม่ใช่เพราะเข้าใจโลกหรือบรรลุธรรม

แต่เพราะ…ถึงตัวจะอยู่ที่ ซิดนีย์ ออสเตรเลีย แต่ใจอยู่ที่กรุงเทพ ประเทศไทย เลยนอนไม่หลับ

ที่นอนไม่หลับไม่ใช่เพราะถูกเข้าใจผิดหรือโดนด่าหรือถูกเกลียดขึ้หน้า เพราะอันนี้เรื่องเล็กนิดเดียว

แต่เรื่องใหญ่ที่ทำให้นอนไม่หลับคือ ฝ่ายเราเสียงแตก ตีกันเอง และจะเกิดรอยร้าวในหมู่ของพวกเรา (ตลอดไปหรือไม่) และมันกำลังจะแลนด์สไลด์ มันกำลังจะแดงทั้งแผ่นดิน

จริง ๆ ผมไม่ต้องเดือนเนื้อร้อนใจกับเรื่องร้ายๆ ในเมืองไทยก็ได้ เพราะผมอยู่ออสเตรเลียมาเกือบครึ่งชีวิตแล้ว

ถึงตัวผมจะมีอนาคตที่ดีที่นี่แล้ว แต่ใจผมอยู่ที่เมืองไทยตลอดมาและจะตลอดไป

งานนี้ผมเปลืองตัวมาก บอกตรงๆ

ถ้าผมอยู่เฉยๆ ก็ไม่มีคนเกลียดขี้หน้าแล้ว ผมก็ลอยตัว สบายๆ ไป ไม่มีคนด่า ไม่มีคนเกลียด

แต่ที่ต้องออกมาพูด อย่างที่บอกคือ ไม่ใช่ว่า ชอบหรือชื่นชม อัศวิน มากกว่า สกลธีหรือสุชัชวีร์
แต่เชียร์ อัศวิน เพราะ…

1. อยากเห็นฝ่ายเราชนะเลือกตั้ง

2. ที่อยากเห็นฝ่ายเราชนะเลือกตั้ง

ก็เพื่อป้องกันฝ่ายล้มเจ้าชนะเลือกตั้ง

ชัชชาติประกาศชัด ว่าถ้าได้เป็นผู้ว่า จะให้มีม็อบได้เสรี ทุกที่ ทุกเวลา คิดดูว่าม็อบทุกวันเป็นยังไง ถ้ามีผู้ว่า กทม สนับสนุนม็อบล้มเจ้า เพิ่มขึ้นอีกคนจะเป็นยังไง

วิโรจน์ ไม่ต้องพูดถึง ชัดเจนที่สุด

3. ดังนั้น ทำอย่างไร ฝ่ายเราถึงจะชนะ สู้กันตรงๆ แพ้ตั้งแต่อยู่ในมุ้ง มันถึงต้องมีกลยุทธ์ ด้วยยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง

4. เชื่อตามโพลนิด้า ซึ่ง อ.อานนท์ คือผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูล จบ ป.เอก ด้านข้อมูล การันตีว่า โพลนิด้าน่าเชื่อถือที่สุด และโพลนิด้า บอกว่า ชัชชาติมาที่ 1 อัศวินมาที่ 2 (ห่างๆ) อันดับที่เหลือยิ่งห่างออกไปอีก

'ปานเทพ' วิเคราะห์ผลเลือกตั้งผู้ว่าฯ 'กทม.-ส.ก.' ชี้!! กรุงเทพฯ เปลี่ยนไปแล้ว

ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โพสต์เฟซบุ๊ก วิเคราะห์ผลการเลือกตั้งผู้ว่า กทม. และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร พร้อมระบุ กรุงเทพเปลี่ยนไปแล้ว ว่า...

1. ฝ่ายอนุรักษ์เดิมมีคะแนนลดลงโดยรวมอย่างมาก รวมทั้งประชาธิปัตย์ และพลังประชารัฐ และเชื่อว่าจำนวนของกลุ่มนี้ได้ย้ายข้างไปเลือกชัชชาติมากขึ้นด้วย และถือว่าเป็นยุคตกต่ำที่สุดของฝ่ายอนุรักษ์นิยมในรอบ 11 ปี ส่วนหนึ่งประชากรกลุ่มนี้มีจำนวนลดลง ด้วยเสียชีวิตตามวัย ในขณะที่ประชาชนจำนวนมากที่เคยสนับสนุนรัฐบาล กลับไม่พอใจการบริหารรัฐบาลในรอบหลายปีที่ผ่านมา

ฐานเดิมของพรรคเพื่อไทยและพรรคอนาคตใหม่ ในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2562 คะแนนคือ 1,408,971 คน (45.42%) แต่การเลือกตั้งผู้ว่า กทม. 2565 คะแนนขอคุณชัชชาติ + คุณวิโรจน์ +คุณศิธา รวมกันได้ 1,711,062 คน (63.99%)  โดยรวมแล้วผ่านไป 3 ปี ปีกต่อต้านรัฐบาลมีคะแนนเพิ่มขึ้น 302,091 คะแนน หรือส่วนที่เพิ่มขึ้นมา 18.57%

ในขณะที่ฐานเดิมของพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคพลังประชารัฐ ในการเลือกตั้งทั่วไปปี 2562 คะแนนคือ 1,266,713 คน (40.84%) แต่การเลือกตั้ง ผู้ว่า กทม. 2565 คะแนนของคุณสุชัชวีร์ + คุณสกลธี + คุณอัศวิน + คุณรสนา รวมกันได้ 777,018 คะแนน (29.08%)  โดยรวมแล้วผ่านไป 3 ปี ปีกฝ่ายรัฐบาลมีคะแนนลดลง 489,695 คะแนน หรือส่วนที่ลดลงไป 11.76%  

ดังนั้นต่อให้มี “ทิศทางโหวตยุทธศาสตร์รวมกัน 4 คน” ก็ยังแพ้คุณชัชชาติคนเดียวอยู่ดี ไม่เกี่ยวกับว่าต้องมีใครสั่งการหรือไม่ แสดงให้เห็นว่านอกจากจะมีเสียงย้ายข้างไปที่คุณชัชชาติแล้ว กลุ่มปีกแดงยังได้แนวร่วมคนกลางๆไปมากขึ้นกว่าเดิมด้วย และถือเป็นความตกต่ำของฐานเสียงที่เคยสนับสนุนรัฐบาล สอดคล้องไปกับโพลคะแนนความนิยมของรัฐบาลตกต่ำลงมาโดยตลอด

'ธันวา' ปลื้ม!! 'ชัชชาติ' ปัดตบมุกเสี้ยมจากนักข่าว ย้ำชัด!! ขอเป็นผู้ว่าฯ ของคนกรุงเทพฯ ทุกคน

นายธันวา ไกรฤกษ์ ทีมโฆษกพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กถึงท่าทีของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ หลังถูกนักข่าวถามเสี้ยม ระบุว่า...

...ได้ฟังคุณชัชชาติให้สัมภาษณ์ที่สวนลุมเมื่อเช้า มีนักข่าวสำนักนึง พยายามถามเสี้ยมประมาณว่า...

"ผลคะแนนที่ออกมาถือเป็นการสั่งสอนให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาและรัฐบาลรู้ตัวว่าประชาชนไม่ศรัทธาต่อไปแล้ว ควรคืนอำนาจได้แล้วใช่หรือไม่ รวมถึงผลคะแนนเลือกตั้ง ส.ก. ที่ฝ่ายประชาธิปไตยได้เก้าอี้เป็นจำนวนมากนั้น ก็เป็นการตอกย้ำข้อเท็จจริงดังกล่าวใช่หรือไม่"

คุณชัชชาติ ตอบอย่างชัดเจนว่า "อย่าไปพูดอะไรแบบนั้นเลยครับ อย่าแบ่งคนออกเป็นฝ่ายๆ และอย่าถือว่าใครเป็นฝ่ายประชาธิปไตย ผมพยายามเป็นผู้ว่าของคนกรุงเทพทุกคน เพื่อให้เดินหน้าไปด้วยกัน"

'หมอเหรียญทอง' ชี้อย่าเพิ่งมีอคติต่อ 'ชัชชาติ' ลั่น ต้องให้โอกาสทำงาน แม้จะยังไม่ไว้ใจ

วันที่ 24 พฤษภาคม 2565 พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้ออกโพสต์แสดงความคิดเห็นส่วนตัวถึงการชนะการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.

อย่าเพิ่งมีอคติ หรือมีมโนภาพจินตนาการไปในทางเลวร้ายว่า ผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ และคณะจะมาบ่อนทำลายความมั่นคงของชาติ ถึงแม้เราอาจจะไม่ไว้วางใจหรือมีความรู้สึกหวาดระแวงพวกเขาก็ตาม

เราต้องยอมรับว่าเสียงส่วนใหญ่เลือกเขามา ขณะเดียวกันการที่เขามาจากเสียงส่วนใหญ่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะทำอะไรได้ตามอำเภอใจ สิ่งที่เขาจะทำยังคงต้องเป็นไปตามครรลองคลองธรรมตามกฎหมาย เพื่อชาติบ้านเมือง

การที่ผู้ว่าฯ กทม.และคณะจะประสบความสำเร็จหรือบริหารราชการเมืองไปได้ด้วยดีนั้น ผู้ว่าฯ กทม และคณะจะต้องคำนึงถึงความมั่นคงของสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ด้วย หาก ผู้ว่าฯ กทม และคณะ หาได้ใส่ใจ ไม่ใยดียี่หระต่องานรักษาความมั่นคงและความสงบสุขเรียบร้อยของเมือง คือ กทม. แล้ว ผู้ว่าฯ กทม.และคณะก็จะประสบปัญหาร้ายแรงจนไม่อาจดำรงอยู่ได้

กกต.รับรอง ‘ชัชชาติ’ เป็นผู้ว่าฯ กทม.แล้ว หลังคนกรุงเทคะแนนท่วมท้นกว่า 1.38 ล้านเสียง

ที่ประชุม กกต.ประกาศรับรอง ‘ชัชชาติ สิทธิพันธุ์’ ให้เป็นผู้ว่าฯ กทม คนที่ 17 แล้ว หลังได้รับเลือกตั้งด้วยคะแนน 1,386,215 คะแนน  

วันนี้ (31 พ.ค.65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นประธานการประชุมกกต. ผ่านระบบออนไลน์โปรแกรม Zoom Cloud Meeting ซึ่งเป็นการประชุมเพื่อพิจารณาผลคะแนนการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯกทม.) และสมาชิกกรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 หลังการประชุมวานนี้ สำนักงานกกต. เสนอความเห็นต่อที่ประชุมว่ากรณีที่นายชัชชาติ ถูกร้องเรียนเรื่องป้ายหาเสียงอาจเข้าข่ายทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตเที่ยงธรรม จึงควรตรวจสอบเพื่อให้เกิดความรอบคอบ

โดยมีรายงานว่า การประชุมกกต.วันนี้ ที่ประชุมมีมติรับรองนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครหมายเลข 8 ในนามอิสระ ซึ่งได้รับคะแนนสูงสุดเป็นอันดับ 1 ด้วยคะแนน 1,386,215 คะแนน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
 

‘ดร.สามารถ’ เผยงบกทม. ปี 65 เหลืองบลงทุนให้ผู้ว่าฯชัชชาติ แค่ 94 ลบ. เท่านั้น

'ดร.สามารถ' ส่องงบกทม. ปี 65 เหลืองบลงทุนให้ผู้ว่าฯชัชชาติ แค่เพียง 94 ล้านบาทเท่านั้น แต่สามารถโอนงบประเภทอื่นมาเป็นงบกลางเพื่อใช้ในการลงทุนได้แต่คงเหลือไม่มาก ต้องรอปีงบประมาณ 2566 จะสามารถดำเนินงานตามนโยบายที่ใช้หาเสียงไว้ได้อย่างเต็มที่

1 มิ.ย.2565- ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.)โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก เรือง ส่องงบ กทม. ปี 65 เหลือให้ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ใช้เท่าไหร่ ? มีเนื้อหาดังนี้

งบรายจ่ายของ กทม. ประจำปีงบประมาณ 2565 จะเหลือไว้ให้ท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติ ได้ใช้ทำงานตามนโยบายที่หาเสียงไว้ได้มากน้อยแค่ไหน ? ถ้าเหลือน้อย จะทำอย่างไร ?

1. งบ กทม. ปี 2565 มีเท่าไหร่ ? งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ของ กทม. มีทั้งหมด 78,979,446,500 บาท ประกอบด้วยงบ 11 ประเภท เช่น  งบบุคลากร ซึ่งเป็นรายจ่ายที่กําหนดให้จ่ายเพื่อการบริหารงานบุคคล งบดําเนินงาน ซึ่งเป็นรายจ่ายที่กําหนดให้จ่ายเพื่อการบริหารงานประจํา ได้แก่รายจ่ายที่จ่ายในลักษณะค่าตอบแทน ค่าใช้สอย ค่าวัสดุและค่าสาธารณูปโภคงบลงทุน ซึ่งเป็นรายจ่ายที่กําหนดให้จ่ายเพื่อการลงทุน ได้แก่รายจ่ายที่จ่ายในลักษณะค่าครุภัณฑ์ค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง งบเงินอุดหนุน ซึ่งเป็นรายจ่ายที่กําหนดให้จ่ายเป็นค่าบํารุงหรือเพื่อช่วยเหลือสนับสนุนการดําเนินงานให้แก่หน่วยงานของรัฐ หรือองค์กรอื่นใดที่ขอรับเงินอุดหนุน และ งบกลาง ซึ่งเป็นงบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้เป็นรายจ่ายของส่วนกลางมิได้กําหนดให้เป็นของหน่วยงานหนึ่งหน่วยงานใดโดยเฉพาะ เป็นต้น

2. งบประเภทไหนมากที่สุด ? จากงบทั้ง 11 ประเภท พบว่างบบุคลากรสูงที่สุดคือ 21,071,439,960 บาท คิดเป็น 26.68% ตามด้วยงบโครงการต่อเนื่อง 14,997,130,849 บาท คิดเป็น 18.99% และงบกลาง 14,417,767,187 บาท คิดเป็น 18.26%

3. งบลงทุนมีเท่าไหร่ ? จากงบประมาณรายจ่ายปี 2565 ทั้ง 11 ประเภท พบว่ามีงบที่สามารถใช้ในการลงทุนได้รวมทั้งหมด 14,222,239,849 บาท คิดเป็น 18.01% โดยรวมมาจากงบ 4 ประเภท ดังนี้ ค่าครุภัณฑ์ที่ดินและสิ่งก่อสร้าง (รายการปีเดียว) 1,392,845,085 บาทโครงการต่อเนื่อง (เฉพาะงบลงทุน) ประกอบด้วย งบ กทม. 8,815,786,377 บาท และเงินอุดหนุนรัฐบาล 989,667,000 บาท งบกลาง (เฉพาะที่ใช้ลงทุน) 2,760,113,387 บาท นโยบายผู้บริหาร + โครงการใหม่ (เฉพาะที่ใช้ลงทุน) 263,828,000 บาท


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top