Tuesday, 7 May 2024
ปีใหม่

"นายกฯ" เร่งแก้ปม วาด้า -ธงชาติไทย ในสนามกีฬานานาชาติ จ่อเข้า ครม.28ธค.นี้-เตรียมอุทธรณ์ศาลกีฬาโลก พร้อมชม หน่วยงานรัฐ มอบของขวัญปีใหม่ คนไทย กระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยเหลือประชาชน

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เร่งผลักดันแก้ปัญหากรณีองค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก หรือ “WADA" ที่สั่งคาดโทษแบนจนไม่สามารถใช้ธงชาติไทยในเวทีนานาชาติ โดยให้เร่งบรรจุร่างพระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารต้องห้าม ทางการกีฬา พ.ศ. 2555 รวม  24 มาตรา  ที่เกี่ยวกับมาตรฐานของ WADA  ให้นำส่งสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เพื่อเร่งบรรจุเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 28 ธันวาคม นี้ เมื่อ ครม. เห็นชอบแล้วคาดว่ากฎหมายจะแล้วเสร็จภายในเดือนมกราคม 2565 

นายธนกร กล่าวว่า หลังจากรัฐบาลดำเนินทุกขั้นตอนของการแก้ไขกฎหมายในประเทศเรียบร้อย จะประสานกับ WADA เพื่อขอให้ปลดโทษแบนเร็วกว่ากำหนด สำหรับประเด็นที่ไม่สามารถใช้ธงชาติไทยในเวทีนานาชาติได้นั้น จะทำเรื่องอุทธรณ์ต่ออนุญาโตตุลาการศาลกีฬาโลกอีกครั้ง "นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้ดำเนินการแก้ไขมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมจะเร่งแก้ไขปัญหาให้ลุล่วงโดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และขวัญและกำลังใจของนักกีฬาไทยและผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายด้วย" นายธนกร กล่าว 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ชื่นชมการทำงานของทุกหน่วยงานที่ร่วมกันมอบของขวัญปีใหม่ให้คนไทย ส่งความสุขในช่วงท้ายปี 2564 นี้ และทุกหน่วยงานได้รับลูกไปดำเนินการเพื่อกำหนดเป็นมาตรการต่างๆ ส่งมอบความสุข มอบของขวัญวันปีใหม่ให้คนไทยทุกคน 

เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด – 19 เช่น มาตรการช้อปดีมีคืน ปี 2565 ผู้มีเงินได้ซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการเท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการสำหรับการซื้อสินค้าหรือการรับบริการในราชอาณาจักรให้กับผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงค่าซื้อหนังสือและค่าบริการหนังสือที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต และค่าสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนแล้ว ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 30,000 บาท ระยะเวลา ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 15 ก.พ.2565 โดยมีข้อยกเว้น ไม่รวมถึงค่าสินค้าและบริการบางชนิด เช่น ค่าสุรา เบียร์ และไวน์ ค่ายาสูบ ค่าน้ำมันและก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ ค่าบริการจัดนำเที่ยว ค่าที่พักในโรงแรม ค่าสาธารณูปโภค

สมุทรปราการ - “สส.พลังประชารัฐ” ส่งความสุขรับปีใหม่! เดินหน้า “โครงการปันสุข” ลงพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชน

ดร.ยงยุทธ สุวรรณบุตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสมุทรปราการ เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย นางอรัญญา สุวรรณบุตร นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนและผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลแพรกษา จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นำคณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลแพรกษา ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในชุมชนต่างๆ ในเขตพื้นที่ ภายใต้โครงการ "แพรกษา ปันสุข” อาทิ ชุมชนบ้านเอื้ออาทร 12 หมู่บ้านปัญฐิญา หมู่บ้านศุภาลัย เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน

โดยถุงยังชีพนั้นประกอบด้วย ข้าวสาร อาหารแห้ง เจลแอลกอฮอล์ น้ำยาฆ่าเชื้อ เงินสด จำนวน 200 บาท และสิ่งของอื่น ๆ อีกหลายรายการ โดยกิจกรรม “แพรกษา ปันสุข” ในวันนี้ถือเป็นการส่งมอบความสุข ความห่วงใยที่มีต่อพี่น้องประชาชน รับเทศกาลปีใหม่ที่จะมาถึง

ด้าน ดร.ยงยุทธ สุวรรณบุตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า ในวันนี้ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และตัวแทนพี่น้องประชาชนจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วย นางอรัญญา สุวรรณบุตร นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา มีความเป็นห่วงพี่น้องประชาชนที่ขาดรายได้ และประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงได้นำคณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ คณะเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลแพรกษา ลงพื้นที่จัดกิจกรรม”แพรกษาปันสุข” เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน พร้อมทั้งถือโอกาสอวยพรปีใหม่ให้กับพี่น้องประชาชนอีกด้วย

 

“เหล่าทัพ-ตร.”เตรียมพร้อมอำนวยความสะดวกประชาชนช่วงปีใหม่ แนะกำลังพลเข้มงวดตัวเองเฉลิมฉลอง-ท่องเที่ยว ป้องกัน “คลัสเตอร์ทหาร” ทอ.วางกฎ 4 ข้อ คัดกรองเข้มข้น-เวิร์คฟอร์มโฮม50เปอร์เซ็นต์ 1 เดือนเต็ม หวั่นช่วง “โอมิครอน”ขาขึ้น

ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ภายหลังการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ พล.ต. ธีรพงศ์ ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย แถลงว่า พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) เน้นย้ำ เหล่าทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ปฏิบัติหน้าที่ตามนโยบายรัฐบาล และกลาโหมด้วยความมุ่งมั่น ทุ่มเทเ เสียสละเพื่อประโยชน์ประเทศชาติ ประชาชนและ สถาบัยพระมหากษัตริย์ พร้อมให้ทุกหน่วยให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยหนาวในช่วงฤดูหนาว พร้อมให้ตั้งจุดอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนเพื่อลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่

ที่ประชุมได้รับทราบแนวทางการปฏิบัติของแต่ละหน่วยดังนี้ โดย กองบัญชาการกองทัพไทย ได้นำเสนอแนวทางการพัฒนาขีดความสามารถการป้องกันภัยทางอากาศของกองทัพไทยเพื่อให้สามารถตอบโต้ต่อภัยคุกคามในทุกรูปแบบได้อย่างทันท่วงที และมีความพร้อมในการเป็นหลักประกันด้านความมั่นคงให้กับประเทศชาติและประชาชน กองทัพบก ได้รายงานผลการสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายของกองกำลังป้องกันชายแดนในห้วงที่ผ่านมา โดยมีการลาดตระเวน เฝ้าตรวจพื้นที่ล่อแหลม การจัดตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ตลอดจนการดำเนินงานด้านการข่าวเชิงรุกในแต่ละพื้นที่

กองทัพเรือ ได้นำเสนอแนวทางการพัฒนาขีดความสามารถด้านสงครามไซเบอร์ของกองทัพเรือ โดยได้นำแนวคิด People – Process – Technology มาเป็นแนวทางในการบริหารจัดการเพื่อสร้างความสมดุลระหว่างบุคลากร เทคโนโลยี และกระบวนการ กองทัพอากาศ ได้นำเสนอแนวทางการพัฒนาขีดความสามารถของกำลังกองทัพอากาศตามแนวคิดการปฏิบัติการที่ใช้เครือข่ายเป็นศูนย์กลาง (Network Centric Operation) และแนวคิดการปฏิบัติการหลายมิติ (Multi Domain Operation) ให้มีขีดความสามารถในมิติทางอากาศ มิติไซเบอร์ และมิติอวกาศ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้นำเสนอนโยบายการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยการจัดทำโครงการที่สำคัญ จำนวน 3โครงการ ได้แก่ โครงการดำเนินงานชุมชนยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ โครงการตำรวจประสานโรงเรียน (1ตำรวจ  โรงเรียน) และโครงการการศึกษาเพื่อต่อต้านการใช้ยาเสพติดในเด็กนักเรียน ทั้งยังมีการสร้างสถานบำบัดอย่างเป็นระบบบูรณาการกับทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหาผู้เสพด้วยชุมชนบำบัดจนเกิดผลสำเร็จ ลดระดับความรุนแรงของปัญหายาเสพติดในสังคมไทย นำไปสู่ผลสัมฤทธิ์ “สังคมไทยปลอดภัยจากยาเสพติด” พร้อมกำชับกองทัพบกเน้นย้ำสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตั้งจุดตรวจ จุดสกัดและดำเนินการด้านการข่าวเชิงรุกในแต่ละพื้นที่อย่างเข้มงวด

พล.ต. ธีรพงศ์  กล่าวว่า ในส่วนของจุดตรวจ บริการเป็นโครงการของกระทรวงกลาโหม เติมความสุขให้คนไทยตามแนวทางวิถีชีวติใหม่จากใจทหาร 17 ธ.ค.64  ถึง 3 ม.ค. ให้หน่วยประสานกับหน่วยในพื้นที่ โดยกองทัพไทย 50 หน่วย กองทัพเรือ 47 หน่วย กองทัพอากาศ 20 หน่วย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองทัพบก ทุกหน่วย ส่วนแนวทางป้องกันลักลอบหนีเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ทางกกล.จัดกำลังเต็มที่ ไม่ได้ลดกำลังลง ผบ.ทสส.ได้เน้นย้ำให้กองกำลังตามแนวชายแดนอย่างเคร่งครัด 

พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  กล่าวว่า เป็นภารกิจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด กว่า 1,400 จุดทั่วประเทศ โดย ผบ.ตร. ได้จัดให้มีแอพพลิเคชั่น ทีพีซีซี โดยมีห้องโอเปอเรชั่น บริหารจัดตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ทุกจุด ดูจากกล้องวงจรปิดได้ 24 ชม.แบบเรียลไทม. ภาระหน้าที่คือ อำนวยความสะดวกจรจร สกัดกั้นอาชญากรรมและยาเสพติดรวมกับเหล่าทัพ ฝ่ายปกครอง และยังเป็นจุดบริการ โดยปฏิบัติร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ ใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจ 8 หมื่นกว่านาย เพิ่มมาตรการสกัดกั้นโควิด-19 โดยมีเจ้าหน้าที่ สธ.ร่วมด้วย ทั้งนี้โครงการฝากบ้านกับตำรวจยังคงมีอยู่ และเพิ่มความสะดวกให้ประชาชนฝากบ้านผ่านแอพลิเคชั่นได้ด้วย  

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงมาตรการรับมือโควิด-19 ในช่วงเทศกาลปีใหม่ของกำลังพลว่า คงมาตรการเคร่งครัดเสมอ หากกำลังพลมีความพร้อมและปลอดจากการติดเชื้อก็สามารถออกไปปฏิบัติภารกิจข้างนอกอย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยส่วนแรก กำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดน อำนวยความสะดวกกับประชาชน จะเพิ่มมาตรการเข้มข้นในการระวังตัวให้มากกว่าเดิม และ ส่วนที่ใช้ชีวิตตามปกติ เฉลิมฉลองในเทศกาลปีใหม่ ศบค.ทบ.ได้ออกมาตรการกำชับให้กำลังพล ครอบครัว และผู้ที่พักอาศัยในพื้นที่ค่ายทหาร ให้ร่วมมือในการปฏิบัติตามคำแนะนำในการ ลด ละ เลี่ยงพื้นที่ที่มีคนจำนวนมาก เพราะช่วงนี้เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการแพร่ระบาดของเชื้อสายพันธ์ใหม่และเก่า ถ้าป้องกันไว้ก่อน ทุกคนจะได้กลับมาใช้ชีวิตในช่วงโควิดขาขึ้นได้อย่างปกติสุข

ตร.เตือน!! ‘การยิงปืนขึ้นฟ้า’ เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อน มีโทษตามกฎหมาย ตำรวจพร้อมดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด!!

ตามที่ปรากฏข่าวผ่านสื่อมวลชนและสื่อสังคมออนไลน์ กรณีการสูญเสียชีวิตจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของบุคคล หรือกลุ่มบุคคลที่ชอบยิงปืนขึ้นฟ้าเฉลิมฉลองเทศกาลต่าง ๆ ด้วยความคึกคะนอง ซึ่งในบางเหตุการณ์ก่อให้เกิดการสูญเสียของชีวิตและทรัพย์สิน นั้น

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์  ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนไปยังพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะในช่วงของเทศกาลปีใหม่ ประจำปี 2565 ที่ทุกครอบครัวต่างพากันเฉลิมฉลองเพื่อส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ มักจะมีเหตุการณ์การยิงปืนขึ้นฟ้า อาจจะเป็นเพราะความเชื่อส่วนบุคคลที่คิดว่าเป็นการขับไล่สิ่งที่ไม่ดี หรือเคราะห์กรรมต่าง ๆ เพื่อเป็นการเปิดรับโชคลาภเงินทอง

เป็นการกระทำที่ขาดการยั้งคิดยั้งทำ เพราะกระสุนปืนที่ยิงออกไปนั้นจะไปหล่นใส่บุคคลให้ได้รับอันตรายบางรายถึงขั้นเสียชีวิต หรือหล่นใส่หลังคาบ้านเรือนประชาชนจนได้รับความเสียหายซึ่งถือว่าเป็นความผิด และมีโทษตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจะจับกุมและดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

 

“บิ๊กตู่" สั่งคุมเข้มระบบขนส่ง การจราจร และมาตรการป้องกันโควิด-19   ตั้งแต่วันนี้  เตรียมรองรับการเดินทางของพี่น้องประชาชนในสัปดาห์สุดท้ายของปืนี้  

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นห่วงการเดินทางของประชาชนในสัปดาห์สุดท้ายของปืนี้  ซึ่งคาดจะมีการเดินทางข้ามจังหวัด พื้นที่จำนวนมาก จึงขอให้กระทรวงสาธารณสุขประสานกระทรวงคมนาคม บริษัทขนส่งทางบก  (บขส.) เตรียมมาตรการรองรับประชาชนที่จะมาใช้บริการขนส่งสาธารณะ โดยกระทรวงสาธารณสุขแนะนำว่า กรณีรถโดยสารที่ต้องใช้เวลาเดินทางเกิน 4 ชั่วโมงขึ้นไป ควรมีการตรวจ ATK ผู้โดยสารก่อนขึ้นรถทุกคน ส่วนผู้โดยสารต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ขณะใช้บริการทั้งที่สถานีขนส่งและบนรถโดยสารตลอดการเดินทาง  สำหรับพนักงานขับรถและพนักงานบริการจะต้องมีการตรวจ ATK  ก่อนปฏิบัติงาน ตามมาตรการเฝ้าระวังโควิด-19 นอกจากนี้  ยังมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมเตรียมรองรับการเดินทางตั้งแต่ 29 ธันวาคม 2564 - 4 มกราคม 2565 รวมระยะเวลา 7 วัน ติดตามการใช้เส้นทางจราจรทางถนน ให้มีความคล่องตัว ไม่ติดขัดด้วย

นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีหวังว่า ปีนี้จะสามารถลดจำนวนการเกิดอุบัติเหตุ และลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนให้มากที่สุด ควบคู่กับการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ด้วย

ทั้งนี้  บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.)  คาดการณ์ว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการเพิ่มประมาณ 30% จากในช่วงปีใหม่ 64 โดยคาดว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 นี้ เที่ยวไประหว่างวันที่ 28 – 30 ธันวาคม 2564 จะมีผู้ใช้บริการเฉลี่ยวันละ 60,000 คน ใช้รถโดยสาร (รถ บขส. รถร่วม,รถตู้) เฉลี่ยวันละ 4,700 เที่ยว ส่วนเที่ยวกลับระหว่างวันที่ 2 – 3 มกราคม 2565 คาดว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการเฉลี่ยวันละ 50,000 คน ใช้รถโดยสารประมาณ 4,500 เที่ยว  ซึ่ง บขส. พร้อมให้บริการด้วยรถโดยสารที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย SHA Plus และจัดการเดินรถตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดด้วย

 

เที่ยวบินปีใหม่ลดฮวบ 17% หลังคนหวั่น 'โอมิครอน'

นายทินกร ชูวงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ด้านปฏิบัติการ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) เปิดเผยว่า บวท. ประเมินตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค.64-3 ม.ค.65 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ประชาชนเดินทางเป็นจำนวนมาก จะมีเที่ยวบินรวม 9,440 เที่ยวบิน หรือ 944 เที่ยวบินต่อวัน อย่างไรก็ตามหากเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ปริมาณเที่ยวบินลดลง 17% ซึ่งมีเที่ยวบินรวม 11,443 เที่ยวบิน 

ทั้งนี้จากการที่รัฐบาลมีนโยบายเปิดประเทศ ส่งผลให้ปริมาณเที่ยวบินในเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 23% มีเที่ยวบินรวม 30,457 เที่ยวบิน ได้แก่ เที่ยวบินภายในประเทศ 20,002 เที่ยวบิน และเที่ยวบินระหว่างประเทศ 7,287 เที่ยวบิน นอกนั้นเป็นเที่ยวบินผ่านน่านฟ้า (Overfly) และอื่นๆ

ทบ. ร่วมหน่วยงานมั่นคง ควบคุมพื้นที่ ดูแลปชช. ชายแดนตาก พร้อมช่วยเหลือผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาตามหลักมนุษยธรรม พร้อมสั่งเข้มปีใหม่มาตรการป้องกันโควิดทั้งในหน่วยทหารและบ้านพัก

ที่กองบัญชาการกองทัพบก(บก.ทบ.) พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า  พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ประชุมสรุปสถานการณ์ประจำวันด้วยระบบออนไลน์ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ได้รายงานสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน จ.ตาก ซึ่งปัจจุบันมีการสู้รบในเขตประเทศเพื่อนบ้านระหว่างทหารเมียนมากับชนกลุ่มน้อยอยู่เป็นระยะ  หน่วยงานด้านความมั่นคงทั้งระดับพื้นที่และระดับนโยบาย ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน ฝ่ายปกครอง อาสาสมัครกู้ภัย ผู้นำชุมชน ได้ร่วมกันติดตามสถานการณ์ในทุกด้าน

รวมทั้งการส่งกำลังพลและยุทโธปกรณ์ลาดตระเวนและเฝ้าตรวจตลอดแนวชายแดนที่ติดกับพื้นที่สู้รบ และพร้อมจะใช้กลไกที่มีอยู่ดูแลอธิปไตยตามหลักสากล  ควบคู่กับการใช้กระบวนการแจ้งเตือนโดยทันทีเมื่อตรวจพบสถานการณ์ที่มีผลกระทบต่ออำนาจอธิปไตย ผลประโยชน์ของชาติและความปลอดภัยของประชาชน เช่น เมื่อมีกระสุนข้ามมาตกยังฝั่งไทย ฝ่ายไทยได้ทำการประท้วงไปยังรัฐบาลเมียนมา ผ่านช่องทางคณะกรรมการชายแดนระดับท้องถิ่นไทย-เมียนมา (TBC) ให้ระมัดระวังเรื่องการใช้อาวุธ และปฏิบัติการทางอากาศ ซึ่งที่ผ่านมาการคลี่คลายผลกระทบดังกล่าวได้ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย 

โดยผู้บัญชาการทหารบก ได้ย้ำให้ทุกหน่วยดำเนินตามนโยบายของรัฐบาล และ กระทรวงกลาโหม  ในการติดตามสถานการณ์และการปฏิบัติตามแผนป้องกันประเทศของกองกำลังป้องกันชายแดน เพื่อสร้างความปลอดภัยและความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่ พร้อมสั่งการให้กองกำลังนเรศวรเข้าดูแลราษฎรไทยที่บ้านเรือนได้รับความเสียหาย จากกระสุนที่พลัดตกเข้ามาในฝั่งไทย ช่วยซ่อมแซมให้คืนสภาพโดยเร็ว รวมถึงการปรับภูมิทัศน์ ที่พักอาศัยของประชาชนชายแดนให้มีความปลอดภัยจากสถานการณ์  

ทั้งนี้ การสร้างความมั่นใจและดูแลความปลอดภัยให้กับราษฎรไทยเป็นเรื่องที่กองกำลังป้องกันชายแดนและหน่วยงานด้านความมั่นคงให้ความสำคัญสูงสุด  สำหรับการช่วยเหลือผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาให้ยึดตามหลักมนุษยธรรมภายใต้ขีดความสามารถของหน่วยงาน และเมื่อเหตุการณ์สงบลงให้ช่วยอำนวยความสะดวกในการส่งกลับข้ามแดนด้วยความสมัครใจ  ซึ่งส่วนใหญ่ประสงค์จะเดินทางกลับประเทศทันทีอยู่แล้วเมื่อการสู้รบในแต่ละห้วงยุติลง 

“บิ๊กตู่” อวยพรสื่อมวลชนเนื่องในโอกาสปีใหม่ ในฐานะสื่อกลางที่มีคุณภาพ และรักษาไว้ซึ่งจรรยาบรรณของสื่อมวลชน เพื่อความรักสามัคคีของคนไทย” 

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม อวยพรเนื่องในโอกาสเทศกาลวันขึ้นปีใหม่แทนการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า “ ในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2565 ที่จะมาถึงนี้ ผมขออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์และพระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ได้อำนวยพรให้สื่อมวลชนทุกท่าน ทุกแขนง มีสุขภาพกาย สุขภาพใจที่แข็งแรง ประสบความสำเร็จดังที่ตั้งไว้ และเป็นส่วนสำคัญในการนำพาประเทศชาติ และประชาชน เดินไปข้างหน้า อย่างมั่นคง และยั่งยืน ในฐานะสื่อกลางที่มีคุณภาพ และรักษาไว้ซึ่งจรรยาบรรณของสื่อมวลชน เพื่อความรักสามัคคีของคนไทย” 

ทบ. ตั้งจุดบริการ ดูแลความปลอดภัยปชช. ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด

ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า   เนื่องในเทศกาลปีใหม่ 2565 นี้ กองทัพบกเตรียมดูแลประชาชนในการเฉลิมฉลองเทศกาลอย่างมีความสุขและปลอดภัย ภายใต้แนวคิด “ปีใหม่ปลอดภัย กองทัพบกห่วงใยประชาชน” ซึ่ง พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้มอบหมายให้หน่วยทหารทั่วประเทศร่วมกับส่วนราชการประจำจังหวัด จัดตั้งจุดพักรถและจุดบริการประชาชนบริเวณหน้าหน่วยทหาร และสถานที่สำคัญของจังหวัด ที่มีประชาชนสัญจรเป็นจำนวนมาก รวม 226 จุด ทั่วประเทศ ตั้งแต่ 28 ธ.ค.64 – 5 ม.ค.65  

ในแต่ละจุดได้จัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน อาทิ น้ำดื่ม กาแฟ ผ้าเย็น พร้อมจัดกำลังพลจิตอาสา เจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับเส้นทางการจราจร เจ้าหน้าที่เสนารักษ์พร้อมชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้น พร้อมทั้งจัดเตรียมอุปกรณ์ช่างที่จำเป็น อุปกรณ์ชาร์จไฟฟ้าสำหรับโทรศัพท์มือถือ ให้บริการห้องน้ำ และนวดแผนไทยผ่อนคลาย

ในโอกาสนี้ กองทัพบกได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมโครงการทหารพันธุ์ดีในหน่วยทหาร จำนวน 107 แห่ง โดยมีเจ้าหน้าที่ให้ความรู้และเปิดโอกาสให้ประชาชน มีส่วนร่วมด้วยวิธี Learning by Doing ในกิจกรรมต่างๆ ของโครงการ อาทิ การปลูกผักปลอดภัยปลอดสารพิษ การทำปุ๋ยอินทรีย์ เป็นต้น รวมทั้งจำหน่ายผลผลิตจากโครงการในราคาถูกให้กับประชาชนทั่วไปด้วย

นอกจากนี้ กองทัพบกได้เปิดแหล่งท่องเที่ยวทางทหารอนุสรณ์สถาน และพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์ในหน่วยทหาร จำนวน 173 แห่ง ทั่วประเทศให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าชม และศึกษาเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทยควบคู่กับการจัดกิจกรรมสันทนาการโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

“ ตร.เตรียมความพร้อม ดูแลประชาชนเดินทางไป-กลับภูมิลำเนาอย่างปลอดภัย ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 ”

วันนี้ (29 ธ.ค.2564) เวลา 16.30 น. ที่ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (หมอชิต) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. ได้มอบนโยบายแนวทางในการปฏิบัติเกี่ยวกับการบริหารจัดการจราจร โดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด บช.น. กว่า 14,000 นาย ช่วยอำนวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 ที่จะถึงนี้

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ เปิดเผยว่าได้กำชับการปฏิบัติเกี่ยวกับการบริหารจัดการจราจรในพื้นที่กรุงเทพมหานครให้อำนวยความสะดวกการจราจร ป้องกันอุบัติเหตุจราจรให้กับพี่น้องประชาชน และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในการเดินทางไป – กลับภูมิลำเนา เพื่อฉลองปีใหม่กับครอบครัวและบุคคลอันเป็นที่รักอย่างปลอดภัยและมีความสุข ทั้งนี้กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้เตรียมความพร้อมการปฏิบัติในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 โดยจัดกำลังข้าราชการตำรวจ จำนวน 14,000 นายเศษ ไว้คอยดูแลความเรียบร้อย และอำนวยความสะดวกด้านการจราจรบริเวณเส้นทางเข้า – ออกกรุงเทพมหานคร, สถานีขนส่ง, สนามบิน และจุดเชื่อมต่อเส้นทางหลักให้กับพี่น้องประชาชน รวมทั้งตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์และสารเสพติดร่วมกับ บขส. เพื่อวัดปริมาณแอลกอฮอล์พนักงานขับรถโดยสารสาธารณะ การตั้งจุดกวดขันวินัยจราจร เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุทางถนน โดยมอบนโยบายเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติดังนี้

1) ให้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรในทุกส่วน เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้กับประชาชน โดยเน้นเส้นทางเข้า - ออก กรุงเทพมหานคร, สถานีขนส่ง, สถานีรถไฟ และสนามบิน ตลอดจนการประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนรับทราบประกอบในการวางแผนการเดินทาง

2) ขอความร่วมมือจากประชาชนในทุกภาคส่วน ให้ปฏิบัติตามกฎหมายจราจรโดยเคร่งครัด เพื่อเป็นการป้องกันและลดอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่

3) จัดให้มีจุดบริการประชาชน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

4) จัดเตรียม และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับการช่วยเหลือประชาชนกรณีมีเหตุฉุกเฉิน เช่น  รถยก, 
รถกู้ภัย, รถฉุกเฉินทางการแพทย์ เป็นต้น

5) การบังคับใช้กฎหมาย โดยให้มีการตั้งจุดตรวจเพื่อกวดขันวินัยจราจร, จุดตรวจวัดแอลกอฮอล์, เพื่อป้องกันอุบัติเหตุให้กับประชาชน โดยเน้นพื้นที่ที่เป็นจุดเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ

6) จัดกำลังพลตรวจตราการจัดงาน/กิจกรรมในช่วงเทศกาลปีใหม่ รวมทั้งร้านอาหาร สถานประกอบการ ให้ปฏิบัติตามมาตรการของคณะกรรมการควบคุมโรค เช่น การจำกัดจำนวนคนเข้ารับบริการ การเว้นระยะห่างไม่แออัดจนเกินไป และการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top