Friday, 10 May 2024
ประจวบคีรีขันธ์

‘รฟท.’ อัปเดตความคืบหน้า รถไฟทางคู่สายใต้ หัวหิน-ประจวบฯ งานโยธาเสร็จ 100% เตรียมเปิดปี 67 พร้อมกระตุ้นการท่องเที่ยว

(23 มี.ค. 66) การรถไฟแห่งประเทศไทย รายงานความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ล่าสุดการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กม. มูลค่า 5,807 ล้านบาท ซึ่งเป็น 1 ใน 5 โครงการรถไฟทางคู่สายใต้ระยะที่ 1 ได้ดำเนินการก่อสร้างงานโยธาเสร็จสิ้นครบ 100% แล้ว และพร้อมเปิดให้บริการภายในปี 2567 นี้ 

สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ มีระยะทางก่อสร้าง 84 กิโลเมตร เป็นการก่อสร้างทางวิ่งรถไฟใหม่เพิ่ม 1 ทาง ขนานไปกับทางรถไฟเดิม เป็นโครงสร้างทางรถไฟวิ่งระดับพื้นดินทั้งหมด ประกอบด้วย สะพาน 2 แห่ง สถานีรถไฟ 12 แห่ง ป้ายหยุดรถ 1 แห่ง ย่านเก็บกองและขนถ่ายตู้สินค้า (CY) จำนวน 2 แห่งที่สถานีสามร้อยยอด และสถานีทุ่งมะเม่า และงานก่อสร้างอื่นๆ เช่น งานระบบระบายน้ำ สะพานลอยคนเดินข้าม งานรั้ว งานก่อสร้างถนนยกระดับข้ามทางรถไฟ ถนนกลับรถยกระดับรูปตัวยู ถนนลอดใต้สะพานทางรถไฟ เพื่อแก้ปัญหาอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดทางเสมอระดับรถไฟกับรถยนต์ 

ที่สำคัญการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ การรถไฟฯ ยังได้คำนึงคงความเป็นเอกลักษณ์ ความสวยงาม เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยรอบในพื้นที่ มีไฮไลต์สำคัญ เช่น สถานีรถไฟหัวหิน ได้ออกแบบสถานีให้เป็นแบบผสมผสานนำเอกลักษณ์และความสวยงามของสถานีรถไฟหัวหินเดิมมาไว้ที่สถานีหัวหินใหม่ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม โดยเมื่อสถานีแห่งใหม่เปิดให้บริการ สถานีหลังเดิมจะยังคงเปิดให้บริการควบคู่ไปด้วย

‘ลุงป้อม’ ลุย ‘ประจวบฯ-เพชรบุรี’ ติดตามการพัฒนาแหล่งน้ำ ชาวบ้านแห่ต้อนรับคึกคัก ปลื้ม!! ลุงแก้ปัญหาเร็ว-ได้ผลดี

(31 มี.ค. 66) พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกประจำตัวรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) พร้อมคณะได้เดินทางไปปฏิบัติราชการพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดเพชรบุรี เพื่อติดตามการพัฒนาแหล่งน้ำ การบริหารจัดการน้ำ และการผลิตน้ำประปาคุณภาพ

โดยเมื่อ พล.อ.ประวิตร เดินทางถึง วัดห้วยมงคล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้เข้าสักการะองค์หลวงปู่ทวด และถวายสังฆทานแด่เจ้าอาวาส เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนเดินทางไปยังอ่างเก็บน้ำห้วยมงคลอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 14 เพื่อประชุมหารือร่วมกับทางจังหวัด รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สทนช., กรมชลประทาน และผู้ว่าการประปาส่วนภูมิภาค

โดยรับฟังการบรรยายสรุปภาพรวมการบริหารจัดการน้ำของจังหวัด ซึ่งมีลำน้ำทั้งหมด 6 ลุ่มสาขา ปัจจุบันมีปริมาณน้ำ รวม 220 ล้าน ลบ.ม.ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาล ปี 61-65 จำนวน 781 โครงการ, ปี 65 จำนวน 13 โครงการ, ปี 66 จำนวน 21 โครงการ และโครงการสำคัญอีก 5 โครงการ สำหรับอ่างเก็บน้ำห้วยมงคล ก่อสร้างเพื่อเก็บกักน้ำเพื่ออุปโภค บริโภค และบรรเทาความเดือดร้อนจากอุทกภัย ช่วงฤดูน้ำหลาก มีความจุ 5.85 ล้าน ลบ.ม.

จากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวมอบนโยบายที่สำคัญ โดยกำชับ สทนช. ให้เร่งรัดการดำเนินงานตาม 10 มาตรการรองรับฤดูแล้ง พร้อมย้ำให้ กรมชลประทาน เร่งบริหารจัดการแหล่งเก็บน้ำให้มีประสิทธิภาพ และตอบสนองความต้องการใช้น้ำให้เพียงพอทุกพื้นที่ รวมทั้ง เพิ่มประสิทธิภาพระบบประปา ต้องผลิตน้ำที่ได้มาตรฐาน และมีคุณภาพ สำหรับบริการประชาชนและนักท่องเที่ยว ด้วย

‘คิงก่อนบ่าย’ สมัครเขต 1 พปชร. ถือฤกษ์ 5 5 5 ได้เบอร์ 11 ประกาศลั่น!! ตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อคนประจวบฯ

คิงก่อนบ่าย ยึดเลขเลขสวย ถือฤกษ์ 5 5 5  ได้เบอร์11

(5 เม.ย.66) นายณภัทร ชุ่มจิตตรี อดีตดารานักแสดงตลกชื่อดัง ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 ในนามพรรคพลังประชารัฐ ยื่นเอกสารเพื่อสมัครรับเลือกตั้งในเวลา 11.05 น. วันที่ 5 เมษายน ที่หอประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 

โดยได้หมายเลข 11 ท่ามกลางกองเชียร์ที่มาร่วมให้กำลังใจ มีทั้ง กลุ่มวัวลาน กลุ่มชาวประมง เป็นจำนวนมาก เพราะเชื่อมั่น ในอุดมการณ์ เเละเป็นคน พูดจริงทำจริง ของ คิง ซึ่งก่อนหน้ายื่นใบสมัคร นายณภัทร ได้เดินขึ้นบันไดเขาช่องกระจก 369 ขั้น ด้านหน้าศาลากลางประจวบฯ เพื่อกราบขอพรจาก พระบรมสารีรกธาตุบนยอดเขาด้วย ทำให้บรรยากาศ ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์คึกคักขึ้นมาทันที 

เเม้วันนี้จะเป็นวันที่ 3 ของการรับสมัครก็ตาม  โดยคิง ณภัทร ระบุว่า ดีใจที่ได้หมายเลข 11 เพราะถือว่าเป็นเลขคู่บุญ ประจำตัว ตั้งใจทำอย่างเต็มที่ เพื่อชาวประจวบคีรีขันธ์

‘เศรษฐา’ นำทัพ 'เพื่อไทย' จิบน้ำชา-ทานปาท่องโก๋ พบปะประชาชน ที่ตลาดเช้า 'หัวหิน-ปราณบุรี'

(14 เม.ย.66) นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย, จักรพงษ์ แสงมณี กรรมการบริหารพรรค, ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการ, สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และ ขัตติยา สวัสดิผล ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ พรรคเพื่อไทย ได้แก่ วัชรพล ปลั่งศรีสกุล เขต 1 เบอร์ 2, พรเทพ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ เขต 2 เบอร์ 4 และจีราวัฒน์ กำบัง เขต 3 เบอร์ 1 เดินทางไปตลาดเช้าหัวหิน อ.หัวหิน และ ตลาดปราณบุรี แยกปราณบุรี อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์  เพื่อพบปะพ่อค้าแม่ค้า พี่น้องประชาชน และนักท่องเที่ยว

พร้อมแวะทานอาหารเช้า พร้อมซื้อหมูปิ้งร้านโปรดของเศรษฐา ทวีสิน ที่แวะทานเป็นประจำเวลามาหัวหิน โดยบรรยากาศการเดินตลาดทั้งตลาดเช้าเป็นไปอย่างคึกครื้น มีประชาชนมอบดอกไม้ให้เศรษฐาเพื่อเป็นกำลังใจ และขอถ่ายภาพกับเศรษฐาตลอดทาง

'ก.คมนาคม' เผย สะพานข้ามทางรถไฟประจวบฯ เสร็จสมบูรณ์ ช่วยแก้ปัญหาอุบัติเหตุยั่งยืน ยกระดับความปลอดภัย ปชช.

(27 ก.ย. 66) กรมทางหลวงชนบท สร้างสะพานข้ามทางรถไฟบนถนนสาย ปข.1003 จ.ประจวบคีรีขันธ์ เสร็จสมบูรณ์ เพิ่มศักยภาพการแก้ปัญหาอุบัติเหตุอย่างยั่งยืน ยกระดับความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน พร้อมรองรับรถไฟทางคู่ในอนาคต ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ดำเนินโครงการก่อสร้างสะพานข้ามทางรถไฟ จุดตัดทางรถไฟกับ
ถนนทางหลวงชนบทสาย ปข.1003 แยก ทล.4 - บ้านโพธิ์เรียง อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เสร็จสมบูรณ์ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการยกระดับความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน แก้ไขปัญหาการเกิดอุบัติเหตุในระยะยาว รวมทั้งเป็นการสนับสนุนโครงการรถไฟทางคู่ของกระทรวงคมนาคมในอนาคต ตามนโยบายของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

ปัจจุบันถนนที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ทช. ที่มีจุดตัดผ่านทางรถไฟมี จำนวน 153 แห่ง สำหรับโครงการก่อสร้างสะพานข้ามทางรถไฟ จุดตัดทางรถไฟกับถนนทางหลวงชนบทสาย ปข.1003 แยก ทล.4 - บ้านโพธิ์เรียง อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นหนึ่งในโครงการที่อยู่บนถนนที่มีจุดตัดผ่านทางรถไฟ ซึ่งในอดีตบริเวณถนนทางหลวงชนบทสาย ปข.1003 มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ทช. จึงได้ดำเนินการปรับปรุงจุดตัดผ่านทางรถไฟดังกล่าวให้สอดคล้องกับมาตรการความปลอดภัยของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่กำหนดให้บริเวณจุดตัดผ่านทางรถไฟที่มีค่าคูณควบจราจร (Traffic Moment หรือ T.M.) มากกว่า 100,000 ให้ก่อสร้างทางผ่านเป็นทางต่างระดับในรูปแบบของสะพานหรืออุโมงค์ ซึ่งเป็นการสนับสนุนนโยบายของกระทรวงคมนาคมในการรองรับโครงการพัฒนาการขนส่งระบบราง (โครงการรถไฟทางคู่)

โครงการก่อสร้างสะพานดังกล่าว ใช้งบประมาณในการก่อสร้างรวม 288.700 ล้านบาท มีจุดเริ่มต้นโครงการ เชื่อม ทล.4 (กม.ที่ 278) จุดสิ้นสุดเชื่อมถนนองค์การบริหารส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (กม.ที่ 1+450) ซึ่งก่อสร้างเป็นสะพานข้ามทางรถไฟ จำนวน 2 แห่ง ประกอบด้วย

- สะพานแห่งที่ 1 ยาว 310 เมตร พื้นสะพานกว้าง 10 เมตร และก่อสร้างถนนต่อเชื่อมแบบคอนกรีตเสริมเหล็กกว้าง 7 เมตร ไหล่ทางกว้าง 1.5 เมตร รวมความยาวถึงจุดสิ้นสุดโครงการ 1,246 เมตร พร้อมก่อสร้างทางกลับรถใต้สะพานผิวทางคอนกรีตเสริมเหล็ก 

- สะพานแห่งที่ 2 ยาว 449.95 เมตร พื้นสะพานกว้าง 8 เมตร และก่อสร้างถนนต่อเชื่อมแบบคอนกรีตเสริมเหล็กกว้าง 6 เมตร ไหล่ทางกว้าง 1 เมตร รวมความยาวถึงจุดสิ้นสุดโครงการ 195 เมตร พร้อมสะพานลอยคนเดินข้าม 1 แห่ง มีผนังกันราวตกและมีหลังคาคลุมตลอดทางเดิน

‘สาวนักกินจุ’ ร้อง!! กินหมดไวกว่า แต่ดันแพ้ที่ 1 อ้าง!! ลีลาไม่ดี ซ้ำ!! ถูกหน่วยงานรัฐโทรมาขู่ฟ้อง ชาวเน็ตสงสัยมีนอกมีใน?

(28 ก.พ.67) ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้ออกมาโพสต์ขอความเป็นธรรม หลังจากไปร่วมการแข่งขันกินเร็วอาหารญี่ปุ่น ที่จัดโดยหน่วยงานราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เธอกินหมดเป็นคนแรกแต่ได้ที่ 2 เพราะลีลาสู้คนได้ที่ 1 ไม่ได้

ซึ่งเธอได้ลงคลิปวิดีโอในช่วงของการแข่งขันและตอนที่ประกาศรางวัล โดยมีเสียงพิธีกรพูดว่า “น้องตั้งใจกินมาก แต่เสียดายไม่เก่งเรื่องลีลา”

ทำเอาคนแห่พุ่งเป้าว่าแบบนี้มีนอกมีในกันรึเปล่า เพราะตามประกาศการแข่งขันก็ไม่ได้มีการบอกกฏว่าแข่งกินเร็วต้องใช้ลีลาร่วมด้วย แต่มาเพิ่มกฎภายหลัง

หลังจากเรื่องราวกลายเป็นไวรัล เธอก็ได้ออกมาโพสต์เพิ่มเติมว่า “วันนี้ทางผอ.ผู้จัดมีการโทรมาคุยนะคะ แต่ไม่ได้ทำให้รู้สึกดีเลยค่ะ บอกว่าแข่งเอาความสนุกไม่ได้ซีเรียสขนาดนี้

ทำไมเราต้องทำลายชื่อเสียงขององค์กร? และมีการต่อว่า ว่าจะฟ้องร้องที่เราลงคลิปการแข่งขันทั้งหมดด้วย ทุกคนคิดว่าไงคะ???”

ชาวเน็ตหลายคนคิดตรงกันว่า ผลค้านสายตา แข่งกินเร็ว กินหมดคนแรกก็ควรได้ที่ 1 อีกทั้งกฎการแข่งขันที่ประชาสัมพันธ์ก็บอกเพียงว่า “การแข่งขันกินเร็วอาหารญี่ปุ่น ไม่จำกัดเพศ ไม่จำกัดอายุ ชิงเงินรางวัล”

บางคนวิจารณ์แรงว่า “เขียนว่าการแข่งขันกินเร็ว ก็เพื่อหาคนกินเร็วที่สุด ถ้าเขียนว่าการแข่งขันเอาความสนุก ไม่เน้นกินเร็วก็ค่อยตัดสินตามนั้น เป็นผู้กำหนดกติกา แต่ดันทำตัดสินผิดกติกาที่ตัวเองตั้งไว้เอง อันนี้ว่ากันจากที่เห็นตามคลิปและป้ายจัดงานนะคะ”

นอกจากการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมของตัวผู้ชนะการแข่งกินจุแล้ว ยังลามไปถึงหน่วยงานราชการที่มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบโดยตรงอย่างรุนแรงอีกด้วย เช่น “คุณภาพราชการไทย ไม่ต่างอะไรจากคอลเซนเตอร์”, “องค์กรที่น่าเลื่อมใส”, “เรื่องปกติของกะลาแลนด์” ฯลฯ

มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ จับมือ หน่วยงานกระทรวงแรงงาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ภาคเอกชน และกลุ่มไทยสมายล์ สถานีประชาชน ไทยพีบีเอส ร่วมกิจกรรมถวายความจงรักภักดี แด่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ

วันที่ 2 เมษายน 2567 นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ ประธานมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ พร้อมด้วยหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ภาคเอกชน รวมถึงทีมงานมวลชนสัมพันธ์ (CSR) กลุ่มไทยสมายล์ และรายการสถานีประชาชน สถานีข่าวไทยพีบีเอส ร่วมกิจกรรมถวายความจงรักภักดี ลงพื้นที่มอบรถเข็นวีลแชร์ และอุปกรณ์เพื่อช่วยเหลือ ตลอดจนเครื่องอุปโภคบริโภค แก่ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้ จำนวน 9 ราย ณ วิสาหกิจชุมชน กลุ่มผลิตน้ำมันมะพร้าว บ้านประดู่ลาย อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ (วันที่ 2 เมษายน) แด่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี 

นางเธียรรัตน์ กล่าวว่า ในวันนี้ดิฉันในนามมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ นำอุปกรณ์เพื่อช่วยเหลือผู้พิการและผู้ยากไร้ ประกอบไปด้วย รถเข็นวีลแชร์ จำนวน 4 คัน ไม้เท้าพยุงสามขา จำนวน 1 ตัว และวอล์คเกอร์ช่วยเดิน จำนวน 2 ตัว ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก กลุ่มไทยสมายล์ (รถและเรือโดยสารสาธารณะพลังงานไฟฟ้า) มามอบให้กับ ผู้สูงอายุและผู้พิการ ตามที่ได้รับการประสานจาก นางแสงรุ้ง พึ่งสีใส แรงงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ณ ต.ไชยราช อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 2 ราย ได้แก่ นางสาวจิ๋ม พานทอง และ นายจำนงค์ วรสุทธ์ ต.นาหูกวาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 4 ราย ได้แก่ นางอุษา ชมอินทร์ นายกำพล เพชรนิล นายมานิตย์ แซ่จิว และนายสิทธิ์ เจริญรัตน์ และ ต.ไร่เก่า อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 1 ราย ได้แก่ นายสมพงษ์ โพธิ์น้อย นอกจากนี้ยังมีภาคเอกชนนำเครื่องอุปโภคบริโภค ขนมขบเคี้ยว มามอบให้กับน้องๆนักเรียน ใน ต.นาหูกวาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 2 ราย ได้แก่ นางสาวกัญญาภัค รักบุญ (มัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนทับสะแกวิทยา) และเด็กหญิงพรฤดี เคลือบอาบ (ประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านมะเดื่อทอง) 

ซึ่งทั้งเก้าราย เป็นกลุ่มเปราะบาง มีฐานะยากจน และประสบปัญหาความเดือดร้อนทางสังคม การที่มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ได้นำอุปกรณ์เพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้ มามอบในครั้งนี้ เพื่อต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อน มอบกำลังใจ ให้แก่ผู้ป่วย ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้ ซึ่งถือเป็นกิจกรรมหนึ่งซึ่งสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของมูลนิธิในด้านการสร้างสาธารณประโยชน์ต่อชุมชน สังคม และที่สำคัญจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้ ซึ่งมีความยากลำบากในการดำเนินชีวิต ต้องการอุปกรณ์ช่วยเหลือดังกล่าวมากกว่าบุคคลทั่วไป

‘นายกฯ หัวหิน’ บูรณาการน้ำ ‘เขาแล้ง-หัวนา-ไร่นุ่น’ ดันประปาทั่วถึง ประชาชนมีน้ำใช้ช่วงสงกรานต์

ไม่นานมานี้ นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน ได้เป็นประธานประชุมชี้แจงสถานการณ์น้ำประปาเทศบาลเมืองหัวหิน ที่ห้องดำเนินเกษม สำนักงานเทศบาลเมืองหัวหิน มีคณะผู้บริหารเทศบาล ปลัดเทศบาล หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ในช่วงวันหยุดยาวของเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2567 ที่มีประชาชนเดินทางกลับมาเยี่ยมครอบครัว และนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาในพื้นที่จำนวนมาก อีกทั้งจะมีกิจกรรมการเล่นน้ำสงกรานต์ปีใหม่ไทยด้วย ซึ่งส่งผลให้มีปริมาณการใช้น้ำมากกว่าปกติ

ภายหลังประชุม นายนพพร ได้กล่าวว่า ปัญหาการขาดแคลนน้ำของหัวหินนั้น ตนได้เตรียมวางแผนไว้ประมาณ 7 - 8 ปีที่แล้ว ได้เห็นผลในการดำเนินการดังกล่าว เช่น หัวหินในอดีตนั้นมีแค่การประปาของเทศบาลอย่างเดียว แต่ปัจจุบันนี้มีการประปาส่วนภูมิภาคเข้ามาช่วยดำเนินการด้วย เรื่องของการเพิ่มน้ำดิบจากบ่อแขม มาที่เทศบาลเมืองหัวหินนั้น ก็ดำเนินการเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ปัจจุบันนี้หน่วยงานรับน้ำ หมายถึงเทศบาลเมืองชะอำและเทศบาลเมืองหัวหิน ถือว่าเป็นหน่วยงานที่รับน้ำ หน่วยงานที่ส่งน้ำคือ เขื่อนเพชรของชลประทาน 

“ผมเชื่อว่าการรับน้ำจากคลองส่งน้ำมีปัญหาในช่วงหน้าแล้ง ทำให้น้ำจากบ่อแขมที่เรารับน้ำมาโดยตลอด มีปริมาณน้อยลง เนื่องจากคนมาใช้น้ำในคลองมากขึ้น เทศบาลฯ ก็ประสานงบประมาณจากสองรัฐบาลที่ผ่านมา เป็นเงิน 1,045 ล้านบาท เพื่อให้หัวหินรับน้ำจากท่อขนาด 1,000 ขณะนี้ท่อเส้นนี้มาถึงหัวหินแล้ว ทำให้หัวหินมีการรับน้ำดิบจากท่อเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเพิ่งเชื่อมท่อเมื่อต้นเดือนเมษายนนี้เอง ส่วนอีกทางหนึ่ง ก็มาจากเขื่อนปราณบุรี ได้ดำเนินการร่วมกับสำนักงานชลประทาน 14 ตอนนี้มีท่อน้ำใหม่มาอีกหนึ่งเส้น เท่ากับว่าในระยะเวลา 7 - 8 ปีนี้ เทศบาลฯ นำน้ำดิบมาเพิ่มจาก 3 ส่วนด้วยกัน เพื่อให้ช่วยกันผลิตประปาให้ประชาชนและภาคธุรกิจได้ใช้” 

อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาเทศกาลสงกรานต์นี้ นายนพพร มองว่า ปัญหาเรื่องของการผลิตที่ไม่เพียงพอ เนื่องจากเป็นหน้าร้อน, คนมาเที่ยวหัวหินเยอะ และเป็นช่วงวันหยุดยาว ซึ่งโรงผลิตน้ำที่หัวนายังผลิตน้ำประปาตามปกติ แต่เมื่อผลิตออกไปตามเส้นทางของท่อ จะผ่านตามบ้านคน สถานประกอบการ อาคารชุด โรงแรม ซึ่งมีถังอยู่ใต้ดิน เพราะฉะนั้นน้ำที่อยู่ปลายทางก็ไปไม่ถึง เพราะข้างล่างน้ำยังไม่เต็ม นี่คือสิ่งที่เป็นปัญหาว่า ทำไมถึงมีน้ำที่โรงผลิต แต่ทำไมที่บ้าน ที่โรงแรมน้ำจึงไม่ไหล

ดังนั้นการดำเนินการปิดน้ำที่เขาแล้ง เพื่อผันน้ำลงไปพื้นที่โรงผลิตน้ำหัวนาและไร่นุ่น ระยะเวลาจุดละประมาณ 3 ชั่วโมงนั้น จะให้มีน้ำดิบเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 20% โดยน้ำดิบช่วงนั้นที่ลงมา จะทำให้ผลิตน้ำประปาได้เพิ่มขึ้นสำหรับสองวันเต็ม ๆ พร้อมปล่อยต่อได้ 24 ชั่วโมงด้วย ซึ่งนี่เป็นวิธีในการนำน้ำดิบมาเพิ่มให้หัวหิน เพราะต้องยอมรับว่าน้ำดิบที่มีอยู่ในปัจจุบัน ถ้าปล่อยตามธรรมชาติ ยังไงก็จะมีผลกระทบเหมือนช่วงหลายวันที่ผ่านมา 

ฉะนั้นแนวคิดนี้จึงเหมือน ‘โครงการแกล้งน้ำ’ ที่เรานำน้ำดิบที่เขาแล้งปล่อยลงมาสู่ข้างล่างที่หัวนา ประมาณ 6 ชั่วโมง ซึ่งจะทำให้บริเวณเขาแล้งเดือดร้อนช่วงหนึ่ง แต่พอพ้นจากช่วงนั้นไปแล้ว ก็จะได้รับน้ำปกติ และทำให้น้ำที่หัวนาเพิ่มมากขึ้น จนสามารถโยกน้ำที่หัวนา มาช่วยน้ำที่ดำเนินเกษม ซึ่งจะเป็นการช่วยทำให้น้ำในเมืองมีเพิ่มมากขึ้นตาม

จากแนวทางดังกล่าว ทำให้ชาวบ้านที่ใช้น้ำจากเขาแล้งนั้น ตั้งแต่หัวนาซอย 102 หมู่บ้านสมอโพรงฝั่งทิศเหนือ หมู่บ้านบ่อฝ้ายทั้งหมด และถนนดำเนินเกษม ตั้งแต่แยกประมง แยกไฟแดงวังไกลกังวล จนถึงสนามบิน จะได้รับผลกระทบประมาณ 6 ชั่วโมง แต่หลังจากพ้นจาก 6 ชั่วโมงไปแล้ว ภาพรวมของน้ำประปาของหัวหินนั้นจะดีขึ้นเกือบทั้งเมือง เป็นการแก้ไขปัญหาวิกฤติน้ำประปาในช่วงสงกรานต์นี้

ส่วนสถานการณ์การใช้น้ำและเล่นน้ำช่วงสงกรานต์ อาจจะได้รับผลกระทบ แต่ไม่มาก ถ้ามีการบริหารจัดการแบบที่แจ้ง รวมทั้งเล่นน้ำสงกรานต์แบบพอเพียง แต่มั่นใจว่าทุกคนได้เล่นแน่นอน ทว่าตอนนี้ทางเทศบาลฯ ก็อยากจะขอใช้คำว่า ‘แบบพอเพียง’ จากเดิมที่เคยจัดสวนน้ำค่อนข้างจะใหญ่ ก็อาจะลดขนาดเล็กลง เรื่องของสวนน้ำ ก็อาจจะใช้ปาร์ตี้โฟมเข้ามาช่วยเสริม เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤติตรงนี้ไปได้

“อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนได้สำรองน้ำไว้ใช้ล่วงหน้า เพื่อบรรเทาปัญหาในช่วงเวลาดังกล่าว ทั้งนี้เทศบาลเมืองหัวหินได้บูรณาการรถบรรทุกน้ำจากหน่วยงานต่างๆ ส่งน้ำช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยสามารถแจ้งคำร้องได้ที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองหัวหิน โทร. 032-511666 หรือแจ้งโดยตรงที่นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน โทร. 092-789-3694 นายอติชาติ ชัยศรี รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน โทร.066-146-5269 นายจีรวัฒน์ พราหมณี ปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน โทร. 081-813-5529 และสามารถแจ้งผ่านสมาชิกสภาเทศบาลในเขตพื้นที่ได้รับผลกระทบ และต้องขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้” นายนพพร กล่าว

‘นายกฯ หัวหิน’ ปรับกลยุทธ์ปัญหาน้ำหัวหินขาดแคลน ระดมรถบรรทุกน้ำกระจายแจก ประคองช่วงสงกรานต์

ไม่นานมานี้ นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน จ.ประจวบฯ เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับคณะผู้บริหารเทศบาลฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ขาดแคลนน้ำประปาขณะนี้ว่า เนื่องจากในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ มีประชาชนเดินทางกลับมาเยี่ยมครอบครัว รวมถึงนักท่องเที่ยวจำนวนมาก หลั่งไหลเข้ามาในพื้นที่เพื่อเล่นน้ำสงกรานต์ ประกอบกับปัญหาน้ำดิบที่นำมาผลิตน้ำประปาที่มาจากเขื่อนปราณบุรี ซึ่งขณะนี้เหลือน้ำอยู่เพียง 26.51% และเขื่อนเพชรที่ส่งน้ำมาให้หัวหินผลิตน้ำประปาปริมาณน้อย แต่สภาพความต้องการใช้น้ำในเขตเทศบาลฯ ในช่วงหน้าร้อนนี้ มีผู้ใช้น้ำทั้งจากโรงแรม, รีสอร์ท, คอนโดฯ บ้านพัก และประชาชนในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้มีปริมาณการใช้น้ำมากกว่าปกติ บางส่วนไม่เพียงพอ บางพื้นที่น้ำไหลน้อย และบางพื้นที่ปลายทางน้ำไม่ไหล ซึ่งขณะนี้สั่งให้กองการประปาเทศบาลเมืองหัวหิน บูรณาการน้ำระหว่างโรงผลิตน้ำเขาแล้ง กับโรงผลิตน้ำหัวนา และโรงผลิตน้ำไร่นุ่น

โดยทางเทศบาลฯ ได้บูรณาการรถบรรทุกน้ำจากหน่วยงานต่างๆ เพื่อส่งน้ำช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยแจ้งคำร้องได้ที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลหัวหิน โทร. 0-3251-1666 ซึ่งหลังจากผันน้ำเข้าสู่โรงผลิตน้ำประปาหัวนาเสร็จสิ้นลงแล้ว โรงผลิตน้ำประปาเขาแล้ง ก็จะดำเนินการผลิตน้ำประปาส่งเข้าระบบแจกจ่ายได้ตามปกติต่อไป พร้อมขอความร่วมมือผู้ประกอบการภาคท่องเที่ยวต่างๆ ในเขตเทศบาลฯ และภาคประชาชน ช่วยกันใช้น้ำอย่างประหยัดในช่วงนี้ และมั่นใจว่าจะไม่กระทบต่อการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์หัวหิน

“ก่อนหน้านี้ เราเจอปัญหาการหยุดจ่ายน้ำประปาที่โรงผลิตน้ำเขาแล้ง เพื่อผันน้ำให้กับโรงผลิตน้ำหัวนาและไร่นุ่น ซึ่งจะส่งผลกระทบให้น้ำประปาไหลอ่อนและไม่ไหลในบางพื้นที่ในเขตเทศบาลฯ ได้แก่ ชุมชนทางรถไฟฝั่งตะวันตก, ชุมชนหนองแกฝั่งทางรถไฟตะวันตกถนนชมสินธุ์ฝั่งทิศใต้, ชุมชนสนามกอล์ฟ, ชุมชนสมอโพรงฝั่งทิศเหนือตั้งแต่ชลประทานซอย 1 ถึงหมู่บ้านเคียงนทีหรือแพไม้, ฝั่งตะวันออกถนนคันคลองและฝั่งตะวันตกตั้งแต่หัวหินซอย 2-ซอยชลประทาน 24 รวมถึงถนนเพชรเกษมฝั่งตะวันออก ตั้งแต่หัวหินซอย 1-หัวหินซอย 35 ถนนเพชรเกษมฝั่งตะวันตกตั้งแต่หัวหินซอย 2-หัวหินซอย 40/1 และชุมชนบ่อฝ้ายทั้งหมด” นายนพพร กล่าว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top