Saturday, 18 May 2024
บิ๊กแจ๊ส

'ชูวิทย์' ลั่น!! การเมืองปทุมธานีเเตกเเยก ผู้มีอิทธิพลครองเมือง ชาวบ้านหวาดกลัว

(12 พ.ค. 66) จากกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ลงพื้นที่ช่วยนางสาวณัฐธิดา เกียรติพัฒนาชัยผู้สมัครเขต 4 ปทุมธานีหาเสียง เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 66 แล้วมีกรณีภาพปรากฏร่วมกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกอบจ.ปทุมธานี จนทำให้หลายคนจับตาไปที่กระแสข่าวลือการย้ายพรรคของ 'บิ๊กแจ๊ส' แต่หลังจากนั้นไม่นานบิ๊กแจ๊สได้ออกมาตอบชัดว่าไม่ทิ้งพี่ทักษิณไปไหนแน่นอนนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ได้ให้สัมภาษณ์กับ THE STATES TIME ว่า ตนรู้เรื่องปทุมธานีดี มีนักการเมืองพยายามทุ่มเงินซื้อเสียงที่ปทุมธานี เพราะต้องการวางรากฐานที่จะเข้ามายึดพื้นที่ในกรุงเทพฯ เนื่องจากการที่จะเข้ามายึดพื้นที่ในกรุงเทพฯ ได้นั้น จะต้องไปตรึงพื้นที่เขตปริมณฑลก่อน ซึ่งได้แก่ ปทุมธานี, นนทบุรี, สมุทรปราการ

ดังนั้นจะเห็นได้ว่าแผนการของพรรคการเมืองบางพรรค ซึ่งเขาไม่เคยมีฐานเสียงมาก่อน ไม่เคยมาปักหลักที่กรุงเทพฯ และปทุมธานี จึงต้องพยายามทุกวิถีทางที่จะเข้ามาปักหลักให้ได้ แต่วิธีการที่จะเข้ามา เขามาด้วยวิธีการซื้อเสียง ไม่ได้มาด้วยการเข้ามาดูแลพื้นที่ โดยการซื้อเสียงของคนพวกนี้ได้ทำการซื้อผ่านนักการเมืองท้องถิ่นให้เป็นหัวคะแนน

นายชูวิทย์ กล่าวย้ำอีกด้วยว่า นี่เป็นเรื่องจริงที่ได้มีพรรคการเมืองเข้าไปซื้อนักการเมืองท้องถิ่นจริง ซึ่งตนอยากจะฝากเตือนว่า ท่านจะอยู่ในตำแหน่งได้ไม่นาน ถ้าท่านไปเอาพรรคบางพรรค ซึ่งไม่ได้วางรากฐานแบบจริงๆ ใช้วิธีการซื้อหรือกว้านซื้อ ท้ายที่สุดแล้วถ้าเป็นแบบนี้ประชาชนในพื้นที่จะไม่เลือกท่าน

เนื่องจากพอมีพรรคการเมืองพรรคหนึ่งเข้าไปเปิดดีลลับกับนักการเมืองท้องถิ่น ก็จะเห็นได้ว่าการเมืองในจังหวัดปทุมธานีนั้นกลับมีการแข่งขันกันสูงมากขึ้นจนเห็นได้ชัด ระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย ตนไม่อยากจะเปิดข้อมูลการซื้อเสียงของจังหวัดปทุมธานีให้สื่อมวลชนดูว่ามันมีการซื้อเสียงที่เยอะมากขนาดไหน

การที่มีกลุ่มผู้มีอิทธิพลเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่ตอนนี้ ตนอยากจะบอกว่าปทุมธานีเป็นจังหวัดที่มีอิทธิพลเยอะมาก โดยเฉพาะอิทธิพลของนักการเมืองท้องถิ่นชาวบ้านในพื้นที่กลัวมาก ถึงขนาดเวลาที่ชาวบ้านจะส่งข้อมูลมาให้ตนยังย้ำแล้วย้ำอีกให้ตนปิดข้อมูล ปิดชื่อ ปิดที่อยู่ให้ด้วย เพราะชาวบ้านที่ปทุมธานีกลัวมาก เนื่องจากชาวบ้านเขาสู้นักการเมืองท้องถิ่นไม่ได้ ไม่เชื่อลองไปสืบประวัตินักการเมืองท้องถิ่นดูแต่ละคนดูประวัติไม่ธรรมดาทั้งนั้น ตนบอกได้เลยว่าการที่จะให้ชาวบ้านแจ้งข้อมูลเบาะแส กตต.จะต้องคุ้มครองชาวบ้าน ชาวบ้านถึงจะกล้าให้ข้อมูล แต่ถ้าไม่คุ้มครองพวกเขาไม่มีชาวบ้านคนไหนกล้าให้ข้อมูลแน่นอน เพราะทุกคนกลัวโดนอุ้ม

นายชูวิทย์ กล่าวต่อว่า ตอนนี้จังหวัดปทุมธานีมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกัน ระหว่าง ส.ส. กลุ่มเดิม กับนักการเมืองท้องถิ่นอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งโดยธรรมชาติเวลาเลือกตั้งก็จะมีการแข่งขันกันอยู่แล้ว แต่ก็ไม่รุนแรงเท่ากับครั้งนี้ มันเหมือนการย้อนยุคไปในอดีต 20 - 30 ปีก่อน ตนฟันธงได้เลยว่าการเมืองในครั้งนี้ทำให้การเมืองท้องถิ่นในปทุมธานีแตกแยก

ก่อนที่นายชูวิทย์จะทิ้งท้ายถึงพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ว่า ตนเข้าใจบิ๊กแจ๊สที่ทำตัวเป็นพ่อพระ เลือกทุกพรรครักทุกคน เนื่องจากอยู่ในสภาวะกล้ำกลืนฝืนทนซ้ายก็พวกขวาก็พวก ตนขอเตือนบิ๊กแจ๊สอย่าได้สนับสนุนใคร เพราะจะทำให้ปทุมธานีแตกเป็นเสี่ยง ๆ 

ปทุมธานี 'บิ๊กแจ๊ส' ลาออกจากนายก อบจ. เพื่อประโยชน์ของประชาชน

เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2567 พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่างนายก องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีชี้แจงกรณียื่นหนังสือลาออกต่อผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ยืนยันทำเพื่อประโยชน์ของประชาชนเต็มที่แล้ว

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่างนายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า เหตุผลอันดับแรกคือผมเองได้หารือเกี่ยวกับปัญหาน้ำหลาก เพื่อที่จะป้องกันได้อย่างไร จังหวัดลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่นครสวรรค์ลงมา สิงห์บุรี อ่างทอง ปทุมธานี เราจะคุยกันตลอดในช่วง 2 ถึง 3 ปีที่ผ่านมา ปริมาณน้ำมากจนก็เกือบจะแย่ แล้วช่วงฤดูน้ำหลากที่จะถึงนี้ปริมาณน้ำคาดว่าจะมากกว่าปีที่ผ่านมาซึ่งทางปทุมเราสู้มาตลอดเวลาสามปีเพื่อให้จังหวัดปทุมธานีไม่จมน้ำ เราได้มีการประสานพูดคุยกันตลอดเพื่อเตรียมการตั้งรับ เมื่อได้พูดคุยกันทุกจังหวัดหากเข้าการเลือกตั้งตามปกติ ที่จะหมดวาระในวันที่ 19 ธันวาคม เมื่อหมดวาระแล้ว ก่อนหมดวาระ 6 เดือนเราจะช่วยเหลือประชาชนไม่ได้เลย อะไรก็ต้องอยู่ในกฎกติกาหมด เบิกจ่ายไม่ได้ ยิ่ง 3 เดือนสุดท้ายยิ่งแย่ใหญ่เลย เราจึงตัดสินใจด้วยกันในฐานะประธานสมาพันธ์นายก อบจ.ภาคกลาง ทุกคนจึงมีความเห็นว่าหากเราช่วยเหลือประชาชนไม่ได้ เราจะอยู่ทำไม่ เมื่ออยู่แล้วทำอะไรไม่ได้ ซึ่งเราคาดว่าปีนี้น้ำจะเยอะ นี่คือเหตุผลหลัก เป็นเหตุผลที่ต้องออกก่อน ผมเองจะออกพร้อมกัน 3 จังหวัด โดยทาง นครสวรรค์ และอ่างทอง เราได้คุยกันโดยผมได้ยื่นใบลาออกมีผลตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ส่วนจังหวัดอื่นๆเดี๋ยวคงตามมาอีก เพราะเมื่อเข้าสู้ 180 วันจะเริ่มระวังตัวกัน และข้อกฎหมายยุบยิบ

ประเด็นที่สอง สิ่งที่ผมกังวลที่สุดคือเรื่องวัคซีน ที่ฉีดให้พี่น้องประชาชนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ผมได้บทเรียนจากสถานการณ์โควิด-19 เราได้นำซิโนฟาร์มมาฉีดให้พี่น้องประชาชน นำนวัตกรรมใหม่ๆมา เป็นจังหวัดเดียวเลยที่สู้มาตลอด แล้วนำร่องมีการตั้งโรงพยาบาลสนาม เมื่อมีการระบาดไข้หวัดใหญ่ในพื้นที่ปทุมธานีเป็นอันดับหนึ่งในพื้นที่สุขภาพเขตที่ 4 ผมต้องขอบคุณท่านสาธารณสุขจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด จนมีการจัดซื้อวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ที่ดีที่สุดให้พี่น้องประชาชน ขณะนี้มีการระดมฉีด ซึ่งทางสาธารณสุขคาดว่าจะระบาดอย่างรุนแรงที่สุดในช่วงต้นฤดูฝน จึงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ผมต้องลาออกก่อน 

ส่วนอีกประเด็นเราจะมีงานพระราชพิธี งานประเพณีที่ยิ่งใหญ่ในการจัดแข่งเรือยาวประเพณีที่เป็นประเพณีของจังหวัดปทุมธานี เราได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากล้นเกล้ารัชกาลที่ 10 พระราชทานถ้วยรางวัลถึง 3 ถ้วย สมเด็จพระราชินีอีก 1 ถ้วย เราจัดมาแล้ว 2 ปี กำหนดไว้วันที่ 5 ธันวาฯ หากผมไม่ออกก่อนในวันที่ 19 ธันวาฯจะครบ มันใกล้เลือกตั้งทันที ผมจะทำอะไรไม่ได้จัดอะไรก็ไม่ได้ งานที่เป็นหน้าตาของปทุมธานีจะเสียหาย ภายในงานไม่ได้มีเพียงแข่งเรือยาวอย่างเดียวแต่จะมีการแสดงสินค้าโอทอป เศรฐกิจจะต้องหลั่งไหลเข้ามา 

และประเด็นสุดท้ายเพราะว่าการเลือกตั้ง สว.ที่จะถึงนี้ เนื่องจากผมเป็นประธานสมาพันธ์นายก อบจ.ภาคกลาง 25 จังหวัด การเลือกตั้ง สว.ครั้งนี้มีกติกายุบยิบ กติกาที่ไม่เคยมีมาก่อน ประชาชนไม่ได้เลือก สว.ไม่ได้มาจากประชาชน สว.จะมาจากการเลือกกันเองของคนบางกลุ่ม มีหลายๆคนที่ประสานมาหาผมเนื่องจากผมมีสายสัมพันธ์กับประธานสมาพันธ์ฯ อีก 3 ภาค เพื่อที่จะให้ผมช่วยเหลือในการล็อบบี้ได้ กฎหมายมันแรงมาก ถึงขนาดตัดสิทธิ์ตลอดชีวิต และมีจำคุก 1 ถึง 10 ปี หากใครที่มีส่วนกับการฮั้ว ผมจึงคิดว่าเราเลือกตั้งนี้ ผมไม่ยุ่ง ผมวางตัวเป็นกลางทางการเมืองจริง ๆ และเมื่อลาออกครั้งนี้ ในวันพรุ่งนี้มีผล จะเลือกตั้งใหม่ภายใน 60 วัน ผมก็จะลงอีก หรือหากเป็นคนอื่น เขาก็จะบริหารและใช้เวลาเต็มที่และเริ่มต้นใหม่ในการที่จะดูแลพี่น้องประชาชนต่อไปไม่ต้องมากังวลกับอะไร เหล่านี้คือเหตุผลที่ผมลาออก ที่ทำเพื่อประชาชน

ผมรู้สึกสบายๆอยู่แล้ว เพราะตอนที่ผมเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารจังหวัดปทุมธานี ผมก็ไม่เคยคิดที่มาเป็นนายก อบจ. เพราะมีน้อง ๆ ผอ.จากหลายโรงเรียน และผู้นำท้องถิ่นรวมถึงประชาชนเป็นจำนวนมาก มาพูดคุย เพื่อต้องการให้ช่วยกันพัฒนาการศึกษา และพัฒนาเมืองปทุมธานีให้รุ่งเรืองเทียบเที่ยงกับจังหวัดอื่นๆชั้นนำของประเทศ เมื่อเข้ามาแล้วก็มีโครงการที่ต่อเนื่อง ผมจึงไม่เคียดในการที่ลาออก และเลือกตั้งใหม่ใน 60 วัน แต่เราต้องคิดถึงประชาชนเป็นหลักเท่านั้นเอง ผมมองเพียงว่าประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับคืออะไร มันมีมากกว่ามหาศาล กับเวลาอีก 7 ถึง 8 เดือน เราลาออกไม่ได้ยึดติด ผมไม่ได้กังวลอะไร โดยเหตุผลที่สำคัญคือฤดูน้ำหลาก เรื่องโรคระบาด และการแข่งขันเรือประเพณีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของปทุมธานี


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top