Sunday, 19 May 2024
บิ๊กเด่น

ผบ.ตร. ชื่นชม ตำรวจจราจรทางด่วนร่วมกับเจ้าหน้าที่การทางพิเศษ เจรจาเกลี้ยกล่อมชาย พร้อมลูกสาว ใช้มีดจี้คอพยายามกระโดดสะพานพระราม 9

วันนี้ (21 มี.ค.66) เวลา 15.30 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มอบรางวัลตามโครงการ “ทำดี มีรางวัล” ให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรศูนย์ควบคุมการจราจรด่วน1 กก.2 บก.จร. ช่วยชีวิตชายพยายามจะกระโดดสะพานพระราม 9 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 17 มี.ค.66 เวลาประมาณ 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุ พบชายมีพฤติกรรมพยายามจะกระโดดสะพานพระราม 9 ขาเข้า เจ้าหน้าที่ตำรวจ โดย พ.ต.ต.ชัชชัย ดีมงคล สารวัตร งานศูนย์ควบคุมการจราจร CCTV กก.4 ช่วยราชการงานศูนย์ควบคุมจราจร ด่วน1 และ ด.ต.ทรงกิต ศิริวรรณ ผู้บังคับหมู่ งานศูนย์ควบคุมจราจร ด่วน 1 กก.2 บก.จร. ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบชายยืนเอามีดจี้คอตนเองบริเวณราวสะพาน ซึ่งมีลูกสาวยืนกอดขาอยู่ข้างๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยการทางพิเศษ ประกอบด้วยนายทวีวัฒน์ เวชกร, 
นายเสนีย์ ศรีเจริญสุข และ นายสุภชัย ชฎาวิภู ได้ร่วมกันเจรจาเกลี้ยกล่อม ชายคนดังกล่าวจนเริ่มมีอาการผ่อนคลาย จากนั้นจึงเข้าคว้าอาวุธและควบคุมตัวตามหลักยุทธวิธีโดยไม่มีใดได้รับบาดเจ็บ หลังจากชายคนดังกล่าวได้สงบสติอารมณ์ เจ้าหน้าที่ได้ทำการประสานญาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รับตัวเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สั่งดำเนินคดีบุคคลแอบอ้างเบื้องสูง และบุคคลสำคัญของไทยหลอกลวงผู้ประกอบการเกิดความเสียหาย

ตามที่ปรากฏในข่าวสื่อสังคมออนไลน์ว่ามีกลุ่มทุนจีนสีเทา ชื่อ นายหยู ซิน ฉี(Mr.Yu Xin Qi)  สัญชาติจีน บุคคลดังกล่าวได้จัดตั้งสมาคมชื่อ “มณฑลส่านซีสมาคมแห่งประเทศไทย”และเป็นเจ้าของสมาคมสมาคมดังกล่าวมีลักษณะประกอบการดำเนินงานให้คำแนะนำการลงทุนช่วยเหลือผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรมและสถาบันต่างๆ ในการจัดตั้งสำนักงานเครือข่ายในประเทศไทยเชิญนักธุรกิจชาวจีนโพ้นทะเลที่มีชื่อเสียงของไทยไปประเทศจีนเพื่อเข้าร่วมประชุม  จัดกิจกรรมขนาดใหญ่เช่นการประชุมส่งเสริมการลงทุนนิทรรศการตลอดจนให้บริการส่วนลดยานพาหนะในการเดินทางและบริการรับส่งสนามบินแบบวีไอพีแต่ นายหยู ซิน ฉี มีพฤติการณ์อันน่าสงสัยว่า ได้นำภาพถ่ายที่ตนเองถ่ายคู่กับบุคคลมีชื่อเสียงและบุคคลสำคัญ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำรูปถ่ายคู่ร่วมกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.เพื่อไปสร้างความน่าเชื่อถือ  รวมถึงมีการแอบอ้างสถาบันเบื้องสูงและบุคคลสำคัญระดับประเทศในการแสวงหาผลประโยชน์ หลอกลวงผู้อื่นเข้ามาเป็นสมาชิกและเรียกเก็บเงินบริจาคเข้าสู่สมาคม มีผู้เสียหายที่ถูกแอบอ้างและถูกหลอกลวงจำนวนหลายราย


พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.ดำเนินการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว จากการสืบสวนพบว่านายหยู ซิ นฉี มีพฤติการณ์การแอบอ้างสถาบันเบื้องสูงและบุคคลสำคัญระดับประเทศเพื่อแสวงหาผลประโยชน์จริง  อีกทั้งมีการจัดตั้งสมาคมที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายและไม่มีรายชื่อในสาระบบของกรมการปกครอง  ต่อมา วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2566  เจ้าหน้าที่ตำรวจนำหมายค้นศาลอาญาที่ 198/2566 ลง 17 กุมภาพันธ์ 2566 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 77/525 หมู่บ้านภัสสร 19 ซอย 52 ถนนจตุโชติ แขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร  พบ นายหยู ซิน ฉี  (Mr.Yu Xin Qi) สัญชาติจีน  แสดงตัวเป็นเจ้าบ้านและนำตรวจค้น ผลการตรวจค้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดของกลางเพื่อตรวจพิสูจน์ จำนวน 11 รายการ ได้แก่


1.ป้ายไวนิลรูปและตราสมาคม จำนวน 2 ป้าย
2.ของชำร่วยที่ระลึกของสมาคม(กำไล) จำนวน 1 ชิ้น
3.ตราประทับ จำนวน 13 ชิ้น
4.ป้ายสมาคม จำนวน 1 ชิ้น
5.นามบัตรสมาคม จำนวน 2 กล่อง
6.บัตรประจำตัวสภาเครือข่าย จำนวน 1 ชิ้น
7.ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนสมาคมมิตรภาพไทย-ฉ่านซี จำนวน 1 ชิ้น
8.นามบัตรกิตติมศักดิ์ จำนวน 40 ชิ้น
9.เอกสารที่เกี่ยวข้องกับสมาคม จำนวน 1 ชุด
10.หนังสือรับรองบริษัทฯ จำนวน 1 ชุด
11.กระเป๋าถือสมาคมแต้จิ๋ว จำนวน 1 ใบ

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและนายกสมาคมแม่บ้านตำรวจนำข้าราชการตำรวจร่วมฟังธรรมในโครงการ “ธรรมนำใจ” เพื่อตำรวจไทยมีคุณธรรม ฟังธรรมตามกาล คือมงคลอันประเสริฐ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยข้าราชการตำรวจทั่วประเทศในทุกมิติ ทั้งการทำงาน สุขภาพกาย และสุขภาพใจ ซึ่งในการปฏิบัติหน้าที่อาจทำให้ข้าราชการตำรวจและครอบครัวเกิดความเครียดและวิตกกังวล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และคุณสุมนา กิตติประภัสร์ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ จึงได้จัดทำโครงการ “ธรรมนำใจ” ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 เพื่อให้ข้าราชการตำรวจได้น้อมนำคุณธรรม มาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน

วันนี้ (29 มี.ค.2566) เวลา 09.30-11.00 น. พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย คุณสุมนา กิตติประภัสร์ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ ได้เป็นประธานในโครงการ “ธรรมนำใจ” ครั้งที่ 1 ซึ่งได้กราบอาราธนานิมนต์ และรับเมตตาจากพระเดชพระคุณ “หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม” ประธานสงฆ์ วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม อ.วังน้ำเขียว จว.นครราชสีมา มาแสดงพระธรรมเทศนา เรื่อง “ครองตน ครองคน ครองงาน บริหารตามหลักธรรมาธิปไตย” ณ ห้องประชุมแจ้งยอดสุข ชั้น 2 อาคาร ศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากร และสวัสดิการ  สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถ.พระราม 1 เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร โดยมี พลตำรวจโท กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , พลตำรวจโท นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ,พลตำรวจโท ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล , พลตำรวจโท นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการสำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ , พลตำรวจโท อนุชา รมยะนันทน์ ผู้บัญชาการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ , พลตำรวจโท สุคุณ พรหมายน ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว , คุณนิภาพรรณ สุขวิมล อุปนายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ , พลตำรวจตรีหญิง วิรญา พรหมายน ,คุณรงรอง ภูริเดช , คุณชนาพร ไกรทอง กรรมการบริหารสมาคมฯ , คณะแม่บ้านฯ พร้อมข้าราชการตำรวจ เข้าร่วมพิธี

ทั้งนี้ โครงการ “ธรรมนำใจ” ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 กำหนดให้มีการฟังบรรยายธรรม เดือนละหนึ่งครั้ง ระหว่างเดือนมีนาคมถึงกันยายน 2566 และให้ข้าราชการตำรวจเข้าร่วมฟังบรรยายจำนวนคราวละ 350 นาย ณ ห้องประชุมแจ้งยอดสุข ชั้น 2 อาคารศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรและสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งวันนี้เป็นการจัดกิจกรรมครั้งแรก

ผบ.ตร.ลงพื้นที่โคราช เน้นความปลอดภัยเล่นน้ำสงกรานต์ ลานย่าโม นำโมเดล ถนนข้าวสาร มาปรับใช้ ชื่นชมตำรวจ ภ.3 ป้องกันลดอุบัติเหตุเป็นอันดับหนึ่งประเทศ เร่งอำนวยความสะดวกการจราจรประชาชนเดินทางกลับ กทม.คาดหนาแน่นสุด 16-17 เม.ย.นี้...

วันนี้ (15 เม.ย.) ที่อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี หรือลานย่าโม จ.นครราชสีมา พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.3 พล.ต.ต.ฐากูร นัทธีศรี รอง ผบช.ภ.3 พล.ต.ต.อิทธิพล นาคคำ ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา เดินทางมาตรวจเยี่ยมการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ของจังหวัดนครราชสีมา พร้อมกับร่วมประชุมติดตามสถานการณ์การดูแลความปลอดภัยการจัดงานสงกรานต์ การอำนวยความสะดวกการจราจร และการป้องกันลดอุบัติเหตุในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 3 ร่วมกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ภาพรวมของการจัดงานสงกรานต์บริเวณลานย่าโม เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปฏิบัติตามแผน แนวทางที่ ตร.สั่งการเป็นอย่างดี ทั้งจุดคัดกรอง แผนเผชิญเหตุต่างๆ โดย ผบ.ตร.ได้กำชับเพิ่มเติม การจัดระเบียบการละเล่นกรณีคนหนาแน่น รวมทั้งคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ การทะเลาะวิวาทต่างๆ โดยนำโมเดลถนนข้าวสารมาปรับใช้ พร้อมมอบสิ่งของเป็นขวัญกำลังใจ เพื่อขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกนายที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข็มแขงเสียสละ และขอให้นำอุดมคติตำรวจมาเป็นหลักในการปฏิบัติหน้าที่ ตร.พร้อมจะดูแลสวัสดิการ ขวัญกำลังใจหลังเสร็จสิ้นภารกิจ

หลังจากนั้น ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และ พล.ต.ท.ธนา ได้เดินทางไปร่วมประชุมร่วมกับข้าราชการตำรวจ เพื่อรับทราบปัญหาการดูแลความปลอดภัย การจัดการจราจร และการป้องกันลดอุบัติเหตุในพื้นที่ ภ.3 ณ ห้องประชุม ภ.จว.นครราชสีมา โดยมี ผบช.ภ.3 ตำรวจภูธรในจังหวัด ภ.3 และ ตำรวจทางหลวงเข้าร่วมผ่านการประชุมทางไกล โดยที่ประชุมได้รายงานสภาพการจราจรมีประชาชนเริ่มเดินทางกลับเข้า กทม. โดยการจราจรจะเริ่มหนาแน่นในเส้นทางถนนมิตรภาพตั้งแต่รอยต่อ จ.ขอนแก่น เชื่อมต่อนครราชสีมา ต่อเนื่องจนถึงช่วงกลางดง ออกสู่ จ.สระบุรี ส่วน ทล.24 จะเริ่มหนาแน่นตามแยกสัญญาณไฟจราจร และ ทล.348 ช่องตะโก

ผบ.ตร.สั่งการเน้นย้ำให้ ตำรวจทางหลวง ตำรวจท้องที่ ส่วนเกี่ยวข้อง เปิดช่องทางพิเศษระบายการจราจร และเข้าควบคุมสัญญาณจราจรตามแยกที่จราจรหนาแน่น ส่วนมอเตอร์ M6 ปากช่อง-ขามทะเลสอ เปิดให้บริการขากลับเข้า กทม.แล้ว ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ทำให้ช่วยการจราจรถนนมิตรภาพให้คล่องตัวขึ้น 

สำหรับอุบัติเหตุ ภ.3 มีการกวดขันวินัยจราจร บังคับใช้กฎหมาย เพื่อป้องปรามเป้าหมายเพื่อลดอุบัติเหตุ จนมีผลดำเนินการด้านการลดอุบัติเหตุดีที่สุดเป็นดับหนึ่งของประเทศ  แต่อย่างไรก็ตามปีนี้มีการละเล่นสงกรานต์หลายพื้นที่ ทำให้สถิติอุบัติเหตุเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะจากเมาแล้วขับ จยย.ไม่สวมหมวกนิรภัย นั่งท้ายกระบะ  จึงสั่งปรับแผนให้เน้นตรวจเพิ่มตามชุมชน พื้นที่รอบการจัดงาน โดยแสวงหาความร่วมมือ บูรณาการทุกภาคส่วนร่วมกัน ซึ่งพื้นที่ ภ.3 ทำได้ดีในทุกมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุ 

ผบ.ตร. กล่าวว่า “ ขอบคุณและชมเชยตำรวจภูธรภาค 3 และตำรวจภูธรจังหวัด นครราชสีมาที่ใช้มาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุ ซึ่งสถิติสี่วันที่ผ่านมาตำรวจภูธรภาค 3 ถือว่าเป็นมีผลดำเนินการด้านการลดอุบัติเหตุดีที่สุดเป็นดับหนึ่งของประเทศ  อีก 3 วันที่เหลือ ได้สั่งการให้ดำเนินการตามมาตรการเพื่อคงสถิติที่ดีอย่างนี้ต่อไป

นอกจากนี้ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความเรียบร้อยของการจัดงานสงกรานต์ จ.นครราชสีมา บริเวณอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี หรือลานย่าโม ซึ่งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ได้กำชับการเพิ่มแผนปฏิบัติเช่นเดียวกับถนนข้าวสาร กรณีที่มีคนหนาแน่น เช่น การกำหนดทางเข้าออก การกำหนดเวลาละเล่นสงกรานต์ เส้นทางฉุกเฉิน การทะเลาะวิวาท และคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ 

“ ผบ.ตร. เผย สงกรานต์ 2566 อุบัติเหตุและผู้เสียชีวิตลดลงตามเป้าหมาย บังคับใช้กฎหมาย 10 ข้อหาหลักร่วม 500,000 ราย จับกุมเมาแล้วขับ 23,278 คดี พร้อมปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนฯ”

วันนี้ (18 เม.ย. 66) เวลา 11.00 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์  กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.รอย  อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. / ผอ.ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุฯ ตร. , พล.ต.ท.ธนา  ชูวงศ์  ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ประจวบ  วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.วีระ  จิรวีระ รอง จตช. แถลงผลการดำเนินการในการอำนวยการจราจร ป้องกันและลดอุบัติเหตุ และการบังคับใช้กฎหมาย 10 ข้อหาหลัก ช่วงควบคุมเข้มข้น 7 วัน เทศกาลสงกรานต์ 2566 ระหว่าง 11 – 17 เม.ย.66 พร้อมปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนฯ ตร.

 
ผบ.ตร. เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พอใจผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ช่วยดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกการเดินทางให้กับประชาชน และการบังคับใช้กฎหมายโดยเฉพาะข้อหาเมาแล้วขับ เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุ  โดยในส่วน ของ ตร. นั้น ผบ.ตร. ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนฯ ตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.66 เป็นต้นมาจนถึงวันสุดท้ายคือ 18 เม.ย.66 ซึ่งทุกวันจะมีการประชุมติดตามสถานการณ์การจราจร และการปฏิบัติด้านการบังคับใช้กฎหายของแต่ละหน่วย ผ่านระบบ VDO Conference  โดยมี พล.ต.อ.รอยฯ รอง ผบ.ตร. และ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ที่รับผิดชอบงานจราจร เป็นผู้กำกับดูแลในแต่ละวัน และให้หน่วยระดับ บช., ภ.จว. และทุกสถานีเข้าร่วมประชุม ทั้งนี้เพื่อลดอุบัติเหตุ ผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ ตามค่าเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนด  สรุปผลการดำเนินการในแต่ละด้าน มีดังนี้

  
1. การอำนวยความสะดวกแ0ละจัดการจราจร  จัดกำลังตำรวจกว่า 100,000 นาย ดูแลการจราจรตลอด 7 วัน มีปริมาณรถ เข้า-ออกจาก กทม. รวมจำนวน 6,777,659 คัน ออกจาก กทม. จำนวน 3,318,418 คัน และเข้า กทม. จำนวน 3,459,241 คัน วันที่ประชาชนเดินทางออกจาก กทม. มากที่สุด คือวันที่ 12 เม.ย.66 วันที่ประชาชนเดินทางเข้า กทม. มากที่สุด คือวันที่ 16 เม.ย.66
มีการเปิดช่องทางพิเศษ (Reversible Lane) จำนวนทั้งสิ้น 82 ครั้ง (ระบายรถขาออก 32 ครั้ง / ขาเข้า 50 ครั้ง)


รถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป ที่ขออนุญาตเดินรถในช่วงเวลาห้าม ผ่านระบบออนไลน์ จำนวน 41,941 คัน อนุญาตให้เดินรถได้ 41,348 คัน  (รถที่ได้รับอนุญาตมากที่สุด คือ รถบรรทุกน้ำมันหรือแก๊ส (ร้อยละ 49.9) รองลงมา คือ รถบรรทุกอาหาร เครื่องอุปโภค บริโภค (ร้อยละ 40.0) ) ไม่อนุญาตจำนวน 593 คัน และพบผู้ฝ่าฝืนเดินรถในเวลาห้าม จำนวน 327 ราย เนื่องจากเป็นสาเหตุให้การจราจรติดขัด

        
2. การบังคับใช้กฎหมาย 10 ข้อหาหลัก มีการตั้งจุดตรวจทุกวันเพื่อบังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่ฝ่าฝืนทั่วประเทศ มีจำนวนจุดตรวจกวดขันวินัยจราจร  2,183 จุดตรวจ จุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ 1,637 จุดตรวจ พบผู้ที่   ฝ่าฝืนทั้งสิ้น 499,282 ราย  เป็น ข้อหาขับรถในขณะเมาสุรา 23,278 ราย (มากกว่าค่าเฉลี่ยสงกรานต์ 3 ปีย้อนหลัง  คิดเป็น 21.31 %) ขับรถเร็วเกินกำหนด 195,118  ราย/ไม่สวมหมวกนิรภัย 94,745 ราย/ไม่รัดเข็มขัดนิรภัย 24,967 ราย โดย 10 ข้อหาหลักนี้ จะก่อให้เกิดอันตรายอย่างยิ่งต่อผู้ใช้รถใช้ถนนรายอื่น จึงจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการดำเนินคดีเมาแล้วขับ เป็นการนำผู้ขับขี่ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ซึ่งมีโอกาสก่ออุบัติเหตุออกจากท้องถนนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุได้จำนวน 23,278 คน

 
3. การป้องกันและลดอุบัติเหตุ รัฐบาลกำหนดค่าเป้าหมายให้ จำนวนครั้ง การเกิดอุบัติเหตุ จำนวนผู้เสียชีวิต และจำนวนผู้บาดเจ็บ (admit) ต้องลดลงไม่น้อยกว่า 5 % เมื่อเทียบกับสถิติในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เฉลี่ย 3 ปีย้อนหลัง (พ.ศ.2562 2564 และ2565) ซึ่งจากการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ส่งผลให้สถิติอุบัติเหตุลดลงตามเป้าในทุกด้าน
-การเกิดอุบัติเหตุ 7 วันของเทศกาลสงกรานต์ 2566 เกิดจำนวน 2,203 ครั้ง  ลดลงจากค่าเฉลี่ยสงกรานต์ 3 ปีย้อนหลัง (2,540 ครั้ง) เป็นจำนวน -337 ครั้ง (ลดลง -13.27 %)
- จำนวนผู้เสียชีวิต 7 วันของเทศกาลสงกรานต์ 2566 มีจำนวน 264 ราย  ลดลงจากค่าเฉลี่ยสงกรานต์ 3 ปีย้อนหลัง (314 ราย) เป็นจำนวน -50  ราย (ลดลง -15.83 %)
- จำนวนผู้บาดเจ็บ 7 วันของเทศกาลสงกรานต์ 2566 มีจำนวน 2,208 คน  ลดลงจากค่าเฉลี่ยสงกรานต์ 3 ปีย้อนหลัง(2,556 คน) เป็นจำนวน -348 คน (ลดลง 13.62 %)


ทั้ง 3 สถิติถือว่าลดลงมากกว่า 5% สำเร็จตามค่าเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนด

ผบ.ตร. ชื่นชมตำรวจ สน.ชนะสงคราม อำนวยความสะดวกพี่น้องประชาชน คลี่คลายสถานการณ์ช่วงสงกรานต์ ได้อย่างดีเยี่ยม

วันนี้ (18 เม.ย.66) เวลา 12.00 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มอบเกียรติบัตรโครงการ “ทำดี มีรางวัล” แก่ ผกก.สน.ชนะสงคราม และตำรวจ สน.ชนะสงคราม จากการคลี่คลายสถานการณ์ประชาชนเล่นน้ำสงกรานต์ที่ถนนข้าวสาร

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ กล่าวว่า สืบเนื่องจากการงดจัดงานสงกรานต์ถึง 3 ปี เนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโควิด19 โดยในปี 2566 นี้ ประชาชน
และนักท่องเที่ยว ได้ออกมาเฉลิมฉลอง เล่นน้ำสงกรานต์กันอย่างหนาแน่น โดยเฉพาะในแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ “ถนนข้าวสาร” ซึ่งอยู่ในพื้นที่การดูแลของ สน.ชนะสงคราม

โดยเมื่อวันที่ 13 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการจัดงานวันแรก ปรากฏว่า มีประชาชนได้หลั่งไหลเข้าไปเล่นน้ำเป็นจำนวนมากอย่างแออัดหนาแน่น จนพื้นที่ไม่สามารถรองรับประชาชนได้ มีความเสี่ยงที่ประชาชนจะได้รับอันตรายคล้ายกับเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นที่ “อิแทวอน” โดยเมื่อเวลา 20.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ  สน.ชนะสงคราม นำโดย พ.ต.อ.สนอง แสงมณี 
ผกก.สน.ชนะสงคราม จึงได้ประกาศยุติการเข้าเล่นน้ำในถนนข้าวสารก่อนเวลา เพื่อความปลอดภัยของประชาชนในภาพรวม ป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นจากความโกลาหลและการเบียดเสียดของนักท่องเที่ยว และทำการระบายฝูงชน นักท่องเที่ยว ออกจากพื้นที่โดยเร็ว ตลอดจนจัดการจราจรอำนวยความสะดวก จนสามารถคลี่คลายสถานการณ์ให้เป็นปกติ ได้เป็นอย่างดี 

ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า “ตนขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม ที่มีความสามารถในการบริหารจัดการในภาวะวิกฤติ มีการตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยว เห็นแก่ประโยชน์และความปลอดภัยในส่วนรวม และมีความทุ่มเทการทำงานเป็นอย่างมากในการดูแลพี่น้องประชาชน และนักท่องเที่ยว ตนจึงได้มอบใบประกาศเกียรติคุณและรางวัลตามโครงการ “ทำดี มีรางวัล” และเงินรางวัล 5,000 บาท เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการที่จะมอบรางวัลให้กับข้าราชการตำรวจหรือประชาชนที่ปฏิบัติหน้าที่ดีเด่น ทำงานเชิงรุก เพื่อความสงบสุขของประชาชน ประกอบคุณงามความดี ช่วยเหลือประชาชน หรือทางราชการ ประพฤติตนดี คิดถึงประโยชน์ส่วนรวมและช่วยเหลือประชาชนจนเป็นที่ยอมรับต่อสังคม”

ผบ.ตร. มอบรางวัลแก่อาจารย์โรงเรียนนายร้อยตำรวจ นำทีมสร้างชื่อให้หน่วยต่อเนื่อง

วันนี้ (21 เม.ย.66) เวลา 12.00 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มอบเกียรติบัตรโครงการ “ทำดี มีรางวัล” แก่อาจารย์โรงเรียนนายร้อยตำรวจ หัวหน้าทีมไซเบอร์โรงเรียนนายร้อยตำรวจ

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ กล่าวว่า สำหรับโครงการ “ทำดี มีรางวัล” 
นั้นเป็นโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับข้าราชการตำรวจและประชาชนที่ประกอบคุณงามความดีมีจิตสาธารณะ จนเป็นที่ยอมรับของสังคม ตลอดจนข้าราชการตำรวจที่มุ่งมั่นทุ่มเททำงานจนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ สร้างชื่อเสียงให้แก่หน่วยงาน และกรณีนี้คือ พ.ต.ต.วงศ์ยศ เกิดศรี อาจารย์ (สบ 2) กลุ่มงานคณาจารย์ คณะนิติวิทยาศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ผู้สร้างและผลักดัน “ทีมไซเบอร์โรงเรียนนายร้อยตำรวจ” 
จนได้รับรางวัลต่างๆ มากมาย ทั้งในและต่างประเทศ ได้แก่ 
- รางวัลชนะเลิศ (3 สมัยติดต่อกัน) ระดับเหล่าทัพ การแข่งขันทักษะทางความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ระดับโรงเรียนทหาร-ตำรวจ ประจำปี 2020-2022 (ถึงปัจจุบัน) 
- รางวัลชนะเลิศระดับเหล่าทัพ การแข่งขันแข่งทักษะทางความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์กองทัพไทย ประจำปี 2021-2022 
- รางวัลชนะเลิศระดับชาติ การแข่งขันทักษะทางความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์รายการ Thailand Cyber Top Talent 2022 (เป็นรายการที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย) 
- รางวัลชนะเลิศ รองชนะเลิศอันดับหนึ่ง และรองชนะเลิศอันดับสองระดับชาติ การแข่งขันทักษะทางความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์รายการ KPMG Cyber Security Challenge 2022 (กวาดทุกรางวัลจากการแข่งขัน) 
- รางวัลชนะเลิศระดับนานาชาติ การแข่งขันทักษะทางความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์รายการ OFPPT-CTF 2022 จากประเทศโมร็อกโก (Morocco) 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พิจารณาแล้วเห็นว่า พ.ต.ต.วงศ์ยศฯ เป็นผู้ที่มีความสามารถสูง ทำงานด้วยความมุ่งมั่นทุ่มเท จนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ สร้างชื่อเสียงให้กับหน่วยงาน สมควรแก่การยกย่องสรรเสริญ ตามโครงการ “ทำดีมีรางวัล” เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ข้าราชการตำรวจและสังคมสืบไป 

ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า “ตนขอชื่นชมในความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ผลักดันและพัฒนาหน่วยงานจนสามารถสร้างชื่อเสียงให้แก่องค์กร ตนจึงได้มอบใบประกาศเกียรติคุณและรางวัลตามโครงการ “ทำดี มีรางวัล” และเงินรางวัล 5,000 บาท เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจเป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคม ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการที่จะมอบรางวัลให้กับข้าราชการตำรวจหรือประชาชนที่ปฏิบัติหน้าที่ดีเด่น ทำงานเชิงรุก เพื่อความสงบสุขของประชาชน ประกอบคุณงามความดี ช่วยเหลือประชาชน หรือทางราชการ ประพฤติตนดี คิดถึงประโยชน์ส่วนรวมและช่วยเหลือประชาชนจนเป็นที่ยอมรับต่อสังคม”

ผบ.ตร.สั่งด่วน ตรวจสอบทุกประเด็นคลิปตำรวจท่องเที่ยวอำนวยความสะดวก ขนกระเป๋า พร้อมสั่งทำ SOP การทำงานของตำรวจท่องเที่ยว ให้ชัดเจน เป็นมาตรฐานเดียวกัน ไม่เลือกปฏิบัติ

วันนี้ (23 เม.ย.66 )ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า  “ตามที่ปรากฏข้อมูลข่าวสารทางสื่อโซเชียล กรณีนี้ตำรวจท่องเที่ยวให้การต้อนรับ ช่วยเหลือ ขนกระเป๋า สัมภาระต่างๆ โดยมีการพาดพิงถึงทนายความรายหนึ่งที่มีผู้ใหญ่ให้การดูแลช่วยเหลือนั้น

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ไม่ได้นิ่งนอนใจ สั่งการด่วนให้ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (บช.ทท.) ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว ที่เกิดขึ้นโดยละเอียดว่า การดำเนินการในลักษณะดังกล่าว เกิดขึ้นที่ไหนอย่างไร เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด บช.ทท. หรือไม่  เป็นการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่หรือไม่ รวมทั้งการให้บริการอำนวยความสะดวกดังกล่าว มีความเหมาะสมหรือไม่ อย่างไร มีการสั่งการให้ดูแลอำนวยความสะดวกเป็นกรณีพิเศษ หรือใช้อภิสิทธิ์ชน จนกระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์กรหรือไม่  หากพบว่าเป็นความผิดให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ โดยรายงานผลให้ทราบโดยเร็ว” 

ผบ.ตร.ตรวจเยี่ยมและปิดโครงการชุมชนยั่งยืนบ้านเกาะสินไห จ.ระนอง ชื่นชมความสำเร็จ แก้ปัญหายาเสพติดความเดือดร้อนชาวบ้าน มอบรางวัล “ทำดี มีรางวัล” ให้ตำรวจที่ทุ่มเททำโครงการ พร้อมตรวจเยี่ยมภูธรจังหวัดและ ตม. ระนอง สั่งคุมเข้มงานมั่นคง ยาเสพติด ยกระดับงานบริ

 วันที่ 24 เม.ย.66 เวลา 10.00 น. ที่บ้านเกาะสินไห อ.เมือง จ.ระนอง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์  กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เดินทางมาตรวจเยี่ยม และเป็นประธานปิดการอบรมชุมชนยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ  โดยมี พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 , นายศักระ กปิลกาญจน์ ผวจ.ระนอง , นายประเสริฐ บิลมาศ  ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดระนอง , พล.ต.ต.เชิดพงษ์ ชิวปรีชา ผบก.ภ.จว.ระนอง เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และ ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนาเข้าร่วม

หมู่บ้านเกาะสินไห อยู่ในความรับผิดชอบ สภ.ปากน้ำ มีประชากร 290 ครัวเรือน จำนวน 1,138 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม อาชีพประมงพื้นบ้าน อยู่ห่างจากฝั่ง ประมาณ 18 กม. (เดินทางโดยเรือหางยาว ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที) เวลาเกิดเหตุร้าย หรือคนวิกลจริตจากยาเสพติดก่อเหตุร้าย บางครั้งตำรวจไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ได้ทันเพราะเป็นเวลากลางคืน บางเวลาน้ำทะเลลงก็ไม่สามารถเดินทางขึ้นไปบนเกาะได้ จนชาวบ้านเดือดร้อนจากปัญหายาเสพติด

พล.ต.ต.เชิดพงษ์ ชิวปรีชา ผบก.ภ.จว.ระนอง ลงพื้นที่เห็นปัญหาการแพร่ระบาดยาเสพติด ที่ทำให้คนในชุมชนเดือดร้อนมานาน อีกทั้งชุมชนห่างประเทศเพื่อนบ้านเพียง 1 กม. ทำให้ยาเสพติดแพร่ระบาดง่าย เมื่อทำการตรวจปัสสาวะพบชาวบ้านติดยาเสพติด 87 ราย

          
ผบก.ภ.จว.ระนอง จึงนำนโยบาย ผบ.ตร. โครงการชุมชนยั่งยืนฯ มาแก้ปัญหายาเสพติดในชุมชนเกาะสินไห ดำเนินโครงการมาตั้งแต่ วันที่ 15 ธ.ค.65 จนถึง 19 เม.ย.66 มีการแต่งตั้งคณะทำงานและชุดปฏิบัติการติดตามโครงการแบบบูรณาการ ร่วมกับชุมชน ฝ่ายปกครอง สาธารณสุข ผู้นำศาสนา ทหาร ค้นหาผู้เสพ ผู้ใช้ยาเสพติด นำผู้เสพเข้าสู่การบำบัดฟื้นฟู  มีกิจกรรมบำบัดแบบผสมผสาน ทั้งศาสนาบำบัด อาชีพบำบัด และบำเพ็ญสาธารณประโยชน์บำบัด ปรับปรุงภูมิทัศน์ ป้องกันอาชญากรรมและยาเสพติด โดยมีภาคประชาชน ภาคเอกชน เช่น บริษัท ปตท.ร่วมดำเนินการ  พร้อมกับทำเครือข่ายป้องกันยาเสพติด สร้างชุมชนเข้มแข็งด้วยตนเอง


พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ได้ตรวจเยี่ยม และปิดโครงการชุมชนยั่งยืนเกาะสินไห พร้อมกับชื่มชมความเร็วของโครงการ และขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ที่มุ่งมั่น ทุ่มเท เสียสละ นำโครงการมาแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านจากปัญหายาเสพติด ปัจจุบันชุมชนอุ่นใจมากขึ้น เพราะไม่มีผู้เสพยา และบุคคลที่เคยเสพยาจนติด ก็เข้ารับการบำบัดจนหายแล้ว ชุมชนอยู่กันอย่างสงบ เศรษฐกิจภาพรวมก็ดีขึ้น มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น 

ผบ.ตร.ได้มอบใบประกาศเกียรติบัตรกับผู้เข้าร่วมโครงการ มอบโล่แก่ผู้สนับสนุนโครงการ พร้อมกล่าวปิด และลงนาม MOU ส่งต่อความยั่งยืนให้ชุมชนและองค์กรส่วนท้องถิ่นต่อไป 

สำหรับโครงการชุมชนยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ เป็นการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติดตามนโยบายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ บูรณาการร่วมหน่วยงานเกี่ยวข้องแก้ไขปัญหายาเสพติดทุกมิติ ที่ดำเนินการทั่วประเทศ คืนคนดีสู่สังคม จนเกิดความยั่งยืนเป็นสังคมสีขาวปลอดยาเสพติด

จากนั้น พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สำราญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สุรพงษ์ ผบช.ภ.8 พร้อมคณะเดินทางไปตรวจเยี่ยม รับฟังบรรยายสรุปของตำรวจ ภูธรจังหวัดระนอง และ ตม.จว.ระนอง

สมาคมแม่บ้านตำรวจมอบทุนการศึกษาบุตรข้าราชการตำรวจอย่างต่อเนื่อง ปีนี้มอบกว่า 2,200 ทุน รวมเป็นเงิน 6,950,000 บาท...

วันนี้ (25 เม.ย.66) สมาคมแม่บ้านตำรวจ โดย คุณสุมนา กิตติประภัสร์ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ จัดพิธีมอบทุนการศึกษาให้บุตรข้าราชการตำรวจ ประจำปี 2566 ณ ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานในพิธี ซึ่งในครั้งนี้เป็นการมอบทุนการศึกษา 2 ประเภท คือ 1)ทุนการศึกษาสำหรับบุตรข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพจากการปฏิบัติหน้าที่ จำนวน 7 ทุน ๆ ละ 50,000 บาท 2) ทุนการศึกษาบุตรข้าราชการตํารวจที่ประพฤติดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ จำนวน 2,200 ทุน ๆ ละ 3,000 บาท รวมทั้งสิ้น 2,207 ทุน รวมเป็นเงิน 6,950,000  บาท 

ทั้งนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้โอวาทแก่ผู้รับทุนการศึกษา โดยกล่าวว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติและสมาคมแม่บ้านตำรวจเห็นความสำคัญในการช่วยเหลือ ส่งเสริมการศึกษาแก่บุตรข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพจากการปฏิบัติหน้าที่ และขอแสดงความขอบคุณไปยังข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความทุ่มเท เสียสละ การมอบทุนในครั้งนี้ เป็นการเชิดชูเกียรติยศของตำรวจ ผู้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ และเป็นการส่งมอบกำลังใจให้กับครอบครัว ในฐานะข้าราชการตำรวจซึ่งปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี สำหรับการมอบทุนการศึกษาบุตรข้าราชการตำรวจที่ประพฤติดีขาดแคลนทุนทรัพย์นั้น ถือว่าเป็นการจัดสวัสดิการ เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน และแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับครอบครัวตำรวจ เพื่อให้มีความมุ่งมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อประเทศชาติและประชาชน ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่ตนดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ให้ความสำคัญด้านสวัสดิการของข้าราชการตำรวจและครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นด้านที่พักอาศัย การแก้ไขปัญหาหนี้สิน ตลอดจนให้นโยบายผู้บังคับบัญชาให้เข้าไปช่วยเหลือและส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้ข้าราชการตำรวจทุกนาย

ด้าน คุณสุมนา กิตติประภัสร์ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ กล่าวว่า สมาคมฯได้สนองนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ด้านการส่งเสริมสวัสดิการของข้าราชการตำรวจและครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ความช่วยเหลือตำรวจชั้นผู้น้อยที่เป็นกำลังพลส่วนใหญ่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ยังมีทุนการศึกษาอีก 2 ประเภท คือ ทุนต่อเนื่องระดับอนุปริญญา หรือสายวิชาชีพ และทุนต่อเนื่องในระดับอุดมศึกษา ที่ได้สานต่อนโยบายของ คุณรัตนาภรณ์ สีวลีพันธุ์ อดีตนายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ ซึ่งทางสมาคมจะดำเนินการพิจารณาคัดเลือกผู้ผ่านเกณฑ์การรับทุนในลำดับต่อไป 

นอกจากนี้ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ ได้กล่าวขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ให้การสนับสนุนเงินทุนจากมูลนิธิสงเคราะห์ข้าราชการตำรวจและครอบครัว รวมถึงบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) ที่เห็นคุณค่าของการศึกษา และมอบเงินสนับสนุนทุนการศึกษาแก่บุตรข้าราชการตำรวจด้วย ซึ่งเป็นขวัญและกำลังใจอย่างมากสำหรับข้าราชการตำรวจ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top