Monday, 17 June 2024
นครราชสีมา

‘ทักษิณ’ รู้ ใครอยู่เบื้องหลังสั่ง ‘สว.’ ให้ร้อง ‘นายกฯ’ มองแค่สร้างความวุ่นวาย แต่ไม่น่าล้มได้ หากชี้แจงได้ก็ผ่าน

(25 พ.ค.67) ที่ร้านส้มตำพันล้าน จ.นครราชสีมา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง 40 สว. วินิจฉัยคุณสมบัติของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จนทำให้มีการมองกันว่ามีกระบวนการวางยาพรรคเพื่อไทย (พท.) ว่า ในพรรคเพื่อไทย ไม่มีปัญหาแน่นอน แต่ภายนอกการเมืองก็ยังเป็นการเมืองมีความลี้ลับอยู่ พอสมควร ส่วนใหญ่เราจะดูความเคลื่อนไหว เพราะประเทศไทยใครเคลื่อนไหวอะไร ก็จะรู้ว่าคนนี้เป็นคนของใคร เคลื่อนไหวด้วยเหตุอะไร แต่แน่นอนในฐานะนายกรัฐมนตรีก็มีหน้าที่ต้องตอบ ซึ่งท่านต้องเตรียมตอบคำถามของท่าน และไม่ว่าใครจะเคลื่อนไหวอย่างไรก็แล้วแต่ หากเราไม่ได้ทำอะไรผิดก็ชี้แจง 

เมื่อถามว่า นักวิชาการให้จับตานายใหญ่ที่จะเช็กบิล 40 สว.นั้น นายทักษิณร้องโอ๊ะ ก่อนจะกล่าวว่า 

“ผมจะไปมีสิทธิ์อะไร วันนี้ผมเป็นคนแก่คนหนึ่ง ที่ให้คำปรึกษารุ่นน้อง ๆ ให้ช่วยกันให้บ้านเมืองเจริญดีกว่า ก็คงไม่มีน้ำยาอะไรหรอก แก่แล้ว” 

เมื่อถามว่า จากประสบการณ์มองว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่ม 40 สว. มีเบื้องหลังจากกลุ่มอำนาจไหน นายทักษิณ กล่าวว่า สังคมการเมืองเขารู้ว่าใครเป็นคนของใคร อย่างไร เป็นเรื่องธรรมดา มีเช่นนี้มาช้านานแล้ว 

เมื่อถามว่า เป้าหมายคือการล้มนายเศรษฐาเลยหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า คงไม่ถึงขั้นล้มได้ แต่อาจเป็นการสร้างความวุ่นวาย บ้านเมืองชะงักบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา แต่มองว่าจะไม่มาก เพราะหากชี้แจงได้ก็ไม่เป็นอะไร 

เมื่อถามว่า บางฝ่ายยังมองว่าเป้าหมายของการเคลื่อนไหวครั้งนี้คือนายทักษิณ นายทักษิณ ย้อนถามสื่อว่า จะเล่นงานผมน่ะหรือ โอ๊ย ผมไม่มีอะไรให้เล่นแล้วแก่แล้ว ต่างคนต่างอยู่เถอะ

เมื่อถามต่อว่า กรณีนี้ พรรคเพื่อไทย ต้องเตรียมรับมืออะไรบ้าง นายทักษิณ ก็กล่าวทิ้งท้ายว่า “ไม่มีอะไรครับ ก็ทำอะไรให้ถูกต้อง ไม่เป็นไร ไม่ต้องไปหวั่นไหวมาก” 

นครราชสีมา-มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ จับมือ หน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน เติมกำลังใจ ให้ผู้พิการ

30 พฤษภาคม 2567 นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ ประธานมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ พร้อม แรงงานจังหวัด จัดหางานจังหวัด ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 และ ทีมงานมวลชนสัมพันธ์ กลุ่มไทย สมายล์ กรุ๊ป  ลงพื้นที่ ณ จังหวัดนครราชสีมา  นางเธียรรัตน์ กล่าวว่า มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์  ได้รับการประสานขอรับ บริจาครถเข็นวีลแชร์ จาก น.ส.ปภิญญา ทองสมจิตร แรงงานจังหวัด เพื่อมอบให้ผู้พิการ จำนวน 2 ราย  ได้แก่ นายสาคร นภาสกุล อายุ 71 ปี พำนักอยู่ ต.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา เป็นผู้ป่วยติดเตียงมีโรคประจำตัวหลายโรค และ ด.ช. สมชาย ช่วงสำโรง อายุ 14 ปี พำนักอยู่ หมู่ 3 ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา เป็นผู้พิการโปลิโอตั้งแต่เด็ก  โดยมูลนิธิ ได้รับการบริจาค จาก กลุ่มไทยสมายล์กรุ๊ป (รถและเรือโดยสารสาธารณะพลังงานไฟฟ้า)

การที่มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ได้นำอุปกรณ์เพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้ มามอบในครั้งนี้ เพื่อต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อน เติมกำลังใจ ให้แก่ผู้ป่วย ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้ และถือเป็นกิจกรรมหลักที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของมูลนิธิในด้านการสร้างสาธารณประโยชน์ต่อชุมชน สังคม และที่สำคัญจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้ ที่มีความยากลำบากในการดำเนินชีวิต ต้องการอุปกรณ์ช่วยเหลือดังกล่าวมากกว่าบุคคลทั่วไป  ท่านที่มีความประสงค์จะร่วมบริจาคหรือสมทบทุน ให้แก่ มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์  สามารถติดต่อที่ เพจ มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ หรือ ติ๊กต๊อก มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์

‘สุวัจน์’ รุดพิสูจน์โครงกระดูกคนโบราณ  เพื่อชี้!! โคราชเป็นชุมชนนานถึง 2,000 ปี

(9 มิ.ย.67) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานพรรคชาติพัฒนา พร้อมด้วย นายแพทย์วรรณ ชาญนุกูล สส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคชาติพัฒนา นายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีนครราชสีมา รศ.ดร. อดิศร เนาวนนท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ผศ. ดร.ประเทือง จินตสกุล ผู้อำนวยการอุทยานธรณีโคราช ได้เดินทางมาที่จุดบริเวณขุดพบโครงกระดูกมนุษย์ อายุ 2,000 ปี ซึ่งอยู่บริเวณพื้นที่ปรับภูมิทัศน์ คูเมืองด้านตะวันออก ถ.อัษฎางค์ ตัด ถ.พลล้าน เขตเทศบาลนคร (ทน.) นครราชสีมา (เดิมเป็นอาคารสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 นครราชสีมา (สคพ.11 นม.)

นายสุวัจน์ กล่าวว่าสืบเนื่องจากทางท่านนายกเทศมนตรีนครราชสีมา อยู่ระหว่างการปรับปรุงภูมิทัศน์ของคูเมือง เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวให้กับนักท่องเที่ยว และเป็นแหล่งสันทนาการให้กับพี่น้องประชาชนชาวโคราช จึงได้ร่วมมือกับกรมศิลปากรในการเข้ามาบูรณะทางคูเมืองเก่าและกําแพงเมืองต่างๆ ก็ได้มีการขุดดินฐานราก ปรากฏว่ามาเจอโครงกระดูก พร้อมกับอุปกรณ์ต่างๆ ที่อยู่กับโครงกระดูก อาทิ เครื่องปั้นดินเผา เศษกระเบื้อง กระดูกสัตว์ หรือเครืองเหล็ก อะไรต่างๆ ซึ่งเนื้อของถ้วย ชาม ทางเจ้าหน้าที่กรมศิลปกร บอกว่าอายุประมาณ 2,000 ปี ถือเป็นถ้วย ชาม ยุคพิมายดำ และสิ่งต่างๆ เหล่านี้ สามารถที่จะสะท้อนถึงความเก่าแก่ของชุมชน

ล่าสุดวันนี้ พบโครงกระดูกที่ 3 อยู่ใกล้กับโครงกระดูกที่ 1 ซึ่งเป็นเพศชาย สูง 173 ซม.โครงกระดูกที่ 3 เจ้าหน้าที่กรมศิลป์ วิเคราะห์ว่าเป็นเพศหญิง เพราะพบเครื่องประดับเป็นต่างหูทองคำ พบแหวนทองที่นิ้ว พบสร้อยหิน อายุประมาณ 2,000 ปี แต่เมืองโคราช 556 ปี แต่การที่มีการค้นพบทั้งโครงกระดูกทั้งอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ที่บ่งบอกถึงความเก่าแก่มากกว่านี้ ก็อาจจะต้องมีการศึกษาค้นคว้ามากกว่านี้ แสดงว่าที่นี้เดิมที่มีชุมชน มีประชาชนที่อยู่เป็นพื้นฐานของบริเวณเหล่านี้ ก่อนที่จะมาสร้างเมืองโคราช อาจจะอยู่กันมาเป็นพันปีแล้วก็ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่กรมศิลป์กับทางเทศบาลฯ และมหาลัยราชภัฏนครราชสีมา ซึ่งทําเรื่องฟอสซิล ทําเรื่องอุทยานธรณีโลก จะต้องช่วยกันมาวิเคราะห์ในเรื่องของรายละเอียดต่างๆ ประวัติศาสตร์ต่างๆ ว่าเจอแหล่งโบราณอย่างนี้ เจอกระดูกโบราณ เจออุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ สามารถที่จะพัฒนาอะไรที่เป็นสิ่งที่จะเรียนรู้ ถึงอดีตก่อนที่จะเกิดเมืองโคราชในบริเวณเหล่านี้ได้อย่างไร หรือ มีบางคนเสนอว่าควรจะมีเป็นมิวเซียมที่จะบ่งบอกถึงประวัติของชุมชนที่จะสืบสานถึงประวัติศาสตร์ของคนโคราช

เพราะฉะนั้น ท่านนายกเทศมนตรีฯ กรมศิลปากร และมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา โดยอาจารย์ประเทือง จะได้ร่วมกันในการที่จะมาศึกษาต่อถึงแนวทางการดําเนินการที่จะศึกษาและเป็นแนวทางในการพัฒนาต่อไป 

เศร้า!! สภาพ 'ปาลิโอ เขาใหญ่' อดีตแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต ความทรงจำแห่งความสุข ที่เริ่มเลือนหายไปตามกาลเวลา

(14 มิ.ย.67) เคยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังที่มีคนเข้าไปเที่ยวไม่น้อย สำหรับ ‘ปาลิโอ เขาใหญ่’ จ.นครราชสีมา ซึ่งได้ปิดตัวไปเมื่อกรกฎาคม พ.ศ. 2563 พร้อมรอให้กลุ่มทุนใหญ่เทกโอเวอร์ หลังจากร้านค้าทยอยปิดตัวเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2563 ผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19

ล่าสุดผู้ใช้ติ๊กต็อกชื่อ ‘กินไหนดีโคราช’ ได้โพสต์คลิปวิดีโอลงในติ๊กต็อก ทำให้คนนำมาโพสต์ต่อในทวิตเตอร์ กลายเป็นคนให้ความสนใจจำนวนไม่น้อย

โดยมีข้อความว่า “ปาลิโอ เขาใหญ่ ในยุคหนึ่งเคยรุ่งเรืองสุด ๆ มีทั้งร้านอาหาร และร้านค้าต่าง ๆ มากมาย แถมมีมุมถ่ายรูปสวย ๆ เยอะมาก ใครมีความทรงจำกับที่นี่บ้าง คอมเมนต์เล่าให้ฟังกันบ้างน้าา”

ซึ่งก็มีคนเข้าไปคอมเมนต์จำนวนมาก อาทิ…

- “สมัยรุ่งเรืองได้แค่ถ่ายรูปอยู่ด้านนอกไม่กล้าเข้า”
- “ละครช่อง 3 4 หัวใจแห่งขุนเขา ทำให้อยากไปเที่ยวตรงนี้มากกก จนป่านนี้ก็ยังไม่ได้ไปเลย”
- “ออกรถยนต์ครั้งแรก ที่เที่ยว ที่ขับรถไปครั้งแรก ก็ปาลิโอ เขาใหญ่ครับ ภาพความสุข ความทรงจำในอดีตวันวานยังสวยงามเสมอ”
- “เคยไปเที่ยว เมื่อ 14-15 ปีที่แล้ว สวยดีนะ ไม่คิดว่าจะปิดตัวร้างแบบนี้”
- “เคยไปทัศนศึกษาตอนเรียนเมื่อหลายปีแล้ว บรรยากาศดี สวยดี”


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top