Sunday, 19 May 2024
นครราชสีมา

‘โคราช’ ชู ‘กางเกงแมว’ ซอฟต์พาวเวอร์น้องใหม่ หวังช่วยสร้างอาชีพ - ส่งเสริมการท่องเที่ยวในท้องถิ่น

เมื่อวานนี้ (20 พ.ย. 66) เพจ ‘Korat Next Step’ โพสต์ข้อความในหัวข้อ #กางเกงแมวโคราช โคราชผุดไอเทมใหม่ 'กางเกงแมว' ชูเป็นซอฟต์พาวเวอร์ใหม่ โชว์อัตลักษณ์โคราชเเละส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยระบุว่า…

หลังจากโคราชจัดประกวดออกแบบ KORAT MONOGRAM (โคราช โมโนแกรม) เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2566 ที่ลานกิจกรรมชั้น 1 ศูนย์การค้า ‘เซ็นทรัลโคราช’ เพื่อนำผลงานออกแบบที่ชนะเลิศ เพื่อนำไปต่อยอดเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการ ที่มีสัญลักษณ์เมืองโคราช เพื่อสร้างการจดจำให้กับนักท่องเที่ยว ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์และบริการด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

ล่าสุดในงาน ‘มามูย่าโคราช’ ที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี จัดระหว่างวันที่ 16-26 พฤศจิกายน 2566 เทศกาลและการท่องเที่ยวสายมู พบกับตลาดวัฒนธรรม สินค้าชุมชนท้องถิ่น อาหารพื้นบ้านจากท้องถิ่น และกิจกรรมการเเสดงศิลปะวัฒนธรรมจากเยาวชนและศิลปินโคราชมากมาย ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์สินค้าท้องถิ่นโดยใช้ลาย ‘โคราช โมโนแกรม’ ที่ชนะเลิศประกวดมาพิมพ์ลงบนเสื้อ หมวก กระเป๋า ถุง และไฮไลต์ ‘กางเกงแมว’ คล้าย ‘กางเกงช้าง’ ที่กำลังนิยมของไทย

นายไพจิตร มานะศิลป์ กรรมการหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า “หลังจากทางหอการค้าฯ ร่วมกับจังหวัด ได้จัดกิจกรรมการประกวด KORAT MONOGRAM (โคราช โมโนแกรม) เป้าหมายของกิจกรรมเพื่อต้องการพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านเศรษฐกิจ ด้านการท่องเที่ยว และด้านการกีฬา โดยเฉพาะในเรื่องของการนำเรื่องราวประวัติศาสตร์ วิถีชีวิต วัฒนธรรม และอัตลักษณ์พื้นถิ่นของชาวโคราช สื่อผ่านลวดลายโมโนแกรมที่มีเอกลักษณ์”

“เนื่องจากการสร้างลวดลายโคราช หรือ KORAT Monogram เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงอัตลักษณ์ของเมืองโคราช และความเป็นโคราชอย่างชัดเจน ให้เป็นที่จดจำว่าลาย Monogram นี้ เป็นรูปแบบลวดลายที่เป็นของคนโคราชอย่างแท้จริง เป็นจังหวัดแรกของประเทศที่ริเริ่มให้มีลายประจำจังหวัด”

นายไพจิตร กล่าวอีกว่า “ซึ่ง ‘กางเกงแมว’ เหมือน ‘กางเกงช้าง’ ถ้านักท่องเที่ยวมาโคราชก็ต้องซื้อ ‘กางเกงแมว’ เป็นซอฟต์พาวเวอร์โคราช โดยจะขอพื้นที่ข้างลานย่าโมกับเทศบาลเพื่อตั้งบูธขายประจำตลอดไปด้วย เพื่อให้คนที่มาไหว้ย่าโมได้มาซื้อของที่ระลึกจากบูธอีกด้วยไม่ใช่มาสักการะย่าโมอย่างเดียว โดยเฉพาะสินค้าทุกชิ้นเราสั่งทำในโคราชทั้งหมด ต่อไปก็จะเอาลายนี้ไปให้ชาวบ้านทอเป็นผ้าลายต่อยอด ส่งเสริมอาชีพให้ชาวบ้านอีกด้วย ถ้าฮิตชาวบ้านก็ทอขายเองได้เลย ๆ เป็นลิขสิทธิ์ของจังหวัด ซึ่งต้องมาคุยรายละเอียดอีกครั้ง”

“และที่ฮือฮาเมื่อวันที่ 18-19 พ.ย.ที่ผ่านมา ทีมหอการค้าโคราชได้ใส่ ‘กางเกงแมว’ ไปร่วมงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ที่กรุงเทพฯ ถูกชาวหอการค้าที่มาร่วมงานถามถึงที่มา แถมสั่งซื้อ 100 กว่าตัวส่วนที่โคราชไปซื้อได้ในงาน ‘มามูย่า’ ถึงวันอาทิตย์ที่ 26 พฤศจิกายนนี้ที่ลานย่าโม” นายไพจิตร กล่าวทิ้งท้าย

‘กางเกงแมว’ ซอฟต์พาวเวอร์ใหม่แห่ง ‘เมืองย่าโม’ ชู!! อัตลักษณ์เด่นประจำจังหวัด หวังสร้างภาพจำให้นทท.

(25 พ.ย.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีหรือย่าโม ที่ใช้เป็นสถานที่จัดงาน ‘มามูย่า’ ได้มีประชาชนชาวโคราชแห่มายืนต่อแถวยาวเหยียดเกือบ 200 คน เพื่อรอต่อแถวซื้อกางเกงแมวกันอย่างคึกคัก หลังจากที่เกิดเป็นกระแสดังในโลกออนไลน์

โดยลวดลายเป็นกางเกงแมวนั้น เกิดจากการที่ทางหอการค้าร่วมกับจังหวัดนครราชสีมา ได้มีการจัดประกวดออกแบบลาย KORAT MONOGRAM (โคราช โมโนแกรม) เพื่อนำผลงานออกแบบที่ชนะเลิศ นำไปต่อยอดเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการ ที่มีสัญลักษณ์เมืองโคราช เพื่อสร้างการจดจำให้กับนักท่องเที่ยว ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ และบริการด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

ซึ่งได้ผลงานชนะเลิศในครั้งนี้ และนำมาใช้ในการเพิ่มมูลค่าสินค้าต่างๆ และนอกจากกางเกงแมวแล้วลายโมโนแกรมยังถูกนำมาสกรีนบนเสื้อ กระเป๋า กระติกน้ำ หมวก ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากประชาชนด้วยเช่นกัน ซึ่งตอนนี้กางเกงแมวถือว่าเป็นคู่แข่งกับกางเกงช้างได้แล้ว

สำหรับลายที่อยู่บนกางเกงแมวนั้นเป็นภาพโมโนแกรมที่สื่อถึงจังหวัดนครราชสีมา ทั้งแมวซึ่งเป็นสัตว์ประจำจังหวัดนครราชสีมา ปราสาทหินพิมาย ประตูชุมพล รวมไปถึงดอกสาธรซึ่งเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งลวดลายที่ทำออกมานั้นสวยงามถูกใจชาวโคราชเป็นอย่างมาก โดยชาวโคราชรายหนึ่งที่มายืนต่อแถวรอซื้อกางเกงแมวบอกว่า เนื่องจากตนเป็นคนโคราชและกางเกงแมวและสินค้าชนิดอื่นที่วางขายนั้นเป็นของคนโคราชเลยตัดสินใจที่จะมาซื้อและชอบลายที่อยู่บนกางเกงแมวนั้นสวยถูกใจ ซึ่งตอนแรกตนตั้งใจจะมาซื้อทั้งหมด 32 ตัว เอาไปแจกญาติพี่น้องแต่ทางร้านบอกว่าจำกัดสิทธิ์แค่คนละตัวเท่านั้นตนเลยต้องมาต่อแถวรอบ 2 เพื่อจะซื้อเพิ่มอีก 1 ตัว

ทั้งนี้กางเกงแมวนั้นสามารถมาซื้อได้ที่งาน ‘มามูย่า’ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 26 พ.ย. 66 เวลาประมาณ 17.00 น. จำกัดสิทธิ์คนละ 1 ตัว และของมีจำนวนจำกัด นอกจากนี้ยังสามารถสั่งซื้อได้ที่ทางเพจเฟซบุ๊ก ‘มามูย่า’ ได้ใช้เวลา 14-15 วัน ถึงจะได้สินค้า สำหรับราคากางเกงแมวนั้นขายตัวละ 199 บาท 

'สุวัจน์' ลุ้น!! โคราชเจ้าภาพจัดงาน 'พืชสวนโลก 2029' เชื่อ!! ดัน 'ศก.-การท่องเที่ยว' โคราชและภาคอีสานพุ่ง

(1 ธ.ค.66) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี จ.นครราชสีมา เสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานพืชสวนโลกในปี 2572 ว่า...

"เป็นโอกาสที่ดีที่ประเทศไทยจะได้เป็นเจ้าภาพจัดงานในระดับโลกอีกครั้ง หลังจากที่เราเคยเป็นเจ้าภาพจัดมาแล้วที่เชียงใหม่ เมื่อปี 2549 ทั้งนี้ จ.นครราชสีมา มีความพร้อมทั้งทางด้านวิชาการ และพื้นฐานทางเศรษฐกิจ และยังเป็นเมืองเก่าแก่ ที่มีอายุ 555 ปี มีวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามมากมาย ขณะเดียวกันในปี 2572 หรือในอีก 6 ปีข้างหน้า รถไฟความเร็วสูง มอเตอร์เวย์ ก็จะเสร็จสมบูรณ์ พร้อมอำนวยความสะดวกในการเดินทาง

"ถ้าโคราชได้รับเลือก ก็จะเป็นโอกาสที่ประชาสัมพันธ์ภาพใหญ่ของประเทศว่าเรามีความพร้อมทางด้านเทคโนโลยี เป็นเมืองทันสมัย ที่มีความพร้อมที่จะจัดงานระดับโลกได้ และจะสามารถดึงนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ และ จ.นครราชสีมา จะเป็นผลดีกับเศรษฐกิจของโคราช และภาคอีสานโดยเฉพาะเรื่องการท่องเที่ยว" นายสุวัจน์ กล่าว 

ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวถึง กรณี แอนโทเนีย โพซิ้ว รองนางงามจักรวาล จะเดินทางกลับ จ.นครราชสีมา บ้านเกิด วันที่ 11 ธันวาคม ว่า แอนโทเนีย เป็นความภาคภูมิใจของคนไทยและคนโคราช ที่สามารถสร้างภาพลักษณ์ให้กับประเทศไทย ในฐานะที่ได้ครองตำแหน่งระดับโลก ได้โปรโมตทั้งความสวย และความเก่งของสุภาพสตรีไทย ซึ่งกว่าจะได้มาเธอต้องต่อสู้อย่างเข้มแข็งมาก การได้ตำแหน่งของเธอในครั้งนี้ เป็นประโยชน์ต่อการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมาก เพราะเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่รัฐบาลเองก็ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยว จึงถือว่าแอนโทเนียมาถูกสถานการณ์มาก นอกจากนี้เธอยังมีบทบาทในการส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ วัฒนธรรม ประเพณี อันดีงามของชาวโคราช ให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาชาวโลกด้วย

‘กรมควบคุมโรค’ เผย คนไทยป่วย ‘ไข้หวัดใหญ่’ แล้ว 4.6 แสนราย ชี้!! ‘นครราชสีมา’ น่าห่วง หลังยอดพุ่งไม่หยุด แนะ ปชช.ดูแลสุขภาพ

(7 ม.ค.67) สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา รายงานสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ในประเทศไทย ล่าสุดว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-26 ธันวาคม 2566 พบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่แล้ว 467,899 ราย อัตราป่วย 707.10 ต่อประชากรแสนคน โดยมีผู้เสียชีวิต 13 ราย เป็นผู้ป่วยเพศหญิงมากกว่าเพศชาย และพบมากที่สุดในกลุ่มอายุ 10-14 ปี รองลงมาคือ กลุ่มอายุ 0-4 ปี และกลุ่มอายุ 7-9 ปี ตามลำดับ

ทั้งนี้ เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นจากอิทธิพลของความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีน แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงทำให้มีอากาศเย็นในตอนกลางคืน และเช้า ส่วนตอนกลางวันอาการจะค่อนข้างร้อน ซึ่งสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้ มีผลทำให้เชื้อไวรัสอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นาน แพร่กระจายได้ง่าย และเร็วขึ้น

อีกทั้งทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายลด โดยเฉพาะกลุ่ม 608 และเด็กเล็ก จะมีความเสี่ยงสูง สามารถติดเชื้อได้ง่าย โดยรับเชื้อที่ปนเปื้อนอยู่ในอากาศขณะที่ผู้ป่วยไอ จาม ในพื้นที่ที่มีคนอยู่รวมกันหนาแน่น และเชื้อยังแพร่ผ่านการสัมผัสฝอยละอองน้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะของผู้ป่วย หรือใช้สิ่งของร่วมกับผู้ป่วย เช่น ลูกบิดประตู ราวบันได ปุ่มกดลิฟต์ รถสาธารณะ เป็นต้น ความเสี่ยงการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่จึงเพิ่มสูงขึ้นในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว ซึ่ง 4 จังหวัดในพื้นที่ดูแลของเขตสุขภาพที่ 9 ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา, ชัยภูมิ, บุรีรัมย์ และสุรินทร์

นพ.ทวีชัย วิษณุโยธิน ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา เปิดเผยว่า สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่น่าเป็นห่วงอย่างมาก โดยรายงานล่าสุด พบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-23 ธันวาคม 2566 มียอดผู้ป่วยสะสมมากถึง 58,430 ราย และมีรายงานผู้เสียชีวิต 3 ราย เป็นผู้ป่วยเพศหญิงมากกว่าเพศชาย ซึ่งสถานการณ์การระบาดของโรคในช่วง 8 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม-24 ธันวาคม 2566 หรือประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา พบผู้ป่วย 10,808 ราย โดยพบมากที่สุดในกลุ่มอายุ 5-9 ปี รองลงมาคือ กลุ่มอายุ 0-4 ปี และกลุ่มอายุ 10-14 ปี ตามลำดับ

เมื่อจำแนกสถานการณ์ 8 สัปดาห์ย้อนหลังในแต่ละพื้นที่ พบว่า ช่วงวันที่ 29 ตุลาคม-23 ธันวาคม 2566 จังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุดคือ นครราชสีมา พบผู้ป่วยมากถึง 6,043 ราย รองลงมาคือ สุรินทร์ 2,019 ราย, ชัยภูมิ 1,645 ราย และบุรีรัมย์ 1,101 ราย โดยอำเภอที่มีอัตราป่วยสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา คิดเป็นอัตราป่วย 551.71 ต่อประชากรแสนคน รองลงมาคือ อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ คิดเป็นอัตราป่วย 533.59 ต่อประชากรแสนคน และ อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา คิดเป็นอัตราป่วย 511.38 ต่อประชากรแสนคน

ซึ่งจำนวนผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ปี พ.ศ. 2566 เมื่อเปรียบเทียบกับค่ามัธยฐาน 5 ปีย้อนหลัง (พ.ศ.2561-2565) พบความผิดปกติของการเกิดโรคเนื่องจากมีผู้ป่วยมากกว่าค่ามัธยฐานตั้งแต่สัปดาห์ ที่ 6 คือในช่วง 1 มกราคม-6 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นช่วงฤดูหนาว และมีแนวโน้มผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่สัปดาห์ที่ 21 ช่วงวันที่ 21-27 พฤษภาคม ซึ่งเข้าฤดูฝนแล้ว และมีแนวโน้มลดลงตั้งแต่สัปดาห์ที่ 39 ช่วงวันที่ 24-30 กันยายน 2566

จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังรักษาสุขภาพ ดูแลอนามัยส่วนบุคคล โดยเฉพาะประชาชนใน 7 กลุ่มเสี่ยง ที่ป่วยแล้วจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนและอาการรุนแรง ได้แก่ ผู้มีโรคประจำตัว เด็กเล็ก เด็กวัยเรียน และผู้สูงอายุ ต้องดูแลสุขอนามัย รักษาความอบอุ่นร่างกาย และควรฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ปีละ 1 ครั้ง และในกรณีที่มีอาการระบบทางเดินหายใจ ให้สวมหน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงไปในที่มีฝูงชนจำนวนมาก หมั่นล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำ และสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ

สำหรับอาการของโรคไข้หวัดใหญ่ นอกจากจะมีอาการไข้สูงเฉียบพลัน ไอ จาม มีน้ำมูก เจ็บคอ ตาแดง และหนาวสั่นแล้ว มักจะมีอาการปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และอ่อนเพลียร่วมด้วย ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่จะหายได้เอง แต่ในกลุ่มเสี่ยงหากรับประทานยาเบื้องต้นแล้วอาการรุนแรง ไม่ดีขึ้น ขอให้รีบไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยรักษาโดยเร็ว

โดยหากมีข้อสงสัย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422

โรงเรียนเอกชนชื่อดังในโคราช ปิดถนน 10 นาทีให้เด็กเต้น สนุกบนความเดือดร้อนของชาวบ้าน รถติดยาวนานเป็นชั่วโมง

เมื่อวานนี้ (19 ก.พ. 67) บนโซเชียลฯ แชร์คลิปเหตุการณ์ที่โรงเรียนมารีย์วิทยา ถนนมุขมนตรี ตรงข้ามสถานีรถไฟนครราชสีมา ก่อนถึงห้าแยกหัวรถไฟ หรือห้าแยกนิ้งหน่อง เขตเทศบาลนครนครราชสีมา ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา เมื่อมีการปิดถนนให้นักเรียนเต้นกลางถนนยาวนานกว่า 10 นาที สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้ใช้รถใช้ถนนจำนวนมาก โดยในเฟซบุ๊ก ‘กลุ่มข่าวคนโคราชบ้านเอ็ง’ โพสต์ข้อความว่า "ปิดถนนหน้าโรงเรียนเพื่อให้เด็กเต้น รถติดบานเดือดร้อนกันทั้งเมืองเลย คนจัดเอาอะไรคิดก่อน? โรงเรียนเอกชนชื่อดัง ย่านหัวรถไฟ จังหวัดโคราช (นครราชสีมา) ผู้บริหาร คณะครู หรือตำรวจในท้องที่อนุญาตได้อย่างไร สนุกบนความเดือดร้อนของชาวบ้าน รถติดยาวนานเป็นชั่วโมง ถนนก็ถนนสายหลักทั้งนั้น เจริญละท่าน ต้องมีคนออกมาขอโทษหรือรับผิดชอบ"

ด้านเพจที่ชื่อว่า ‘กูประชด’ ดูดคลิปไลฟ์สดกิจกรรมดังกล่าว พร้อมระบุว่า "ปิดถนนหน้าโรงเรียนเพื่อให้เด็กเต้น รถติดบานเลย คนจัดเอาอะไรคิดก่อน?" ปรากฏว่ามีชาวเน็ตแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก เช่น

- "คณะครูโรงเรียนเอาสมองส่วนไหนคิด จัดกิจกรรมที่ไม่เกิดประโยชน์ต่อสังคมและบุคคลที่ใช้ถนน ถนนหลวงไม่มีสิทธิ์ปิดกั้นขนาดนี้ ถ้ามีกิจกรรมก็อาจจะสัก 1 ช่องจราจรพอได้ เป็นกิจกรรมที่ทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเดือดร้อนอย่างมาก"

- "ไม่ขอพื้นที่ในโรงเรียนวะ"

- "ระวังตะวันไปบีบแตรนะคะ" (หมายถึง น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ ผู้ต้องหาคดีคุกคามขบวนเสด็จฯ)

- "สภาพ...รถไม่ติดยาวถึงตลาด 100 ปี เลยเหรอเนี่ย"

- "เสรีภาพแต่คนอื่นเดือดร้อน"

- "อยากโชว์ว่ามีกิจกรรมดีๆ แต่ลืมคำนึงว่าคนอื่นจะเดือดร้อนไหม"

- "รอคำอธิบายจากคณะผู้บริหารโรงเรียนและผู้ที่อำนวยความสะดวก (ตำรวจเมืองนครราชสีมา)​"

- "การเต้นอะดี แต่ไม่ควรจัดที่ถนน เพราะเวลาเลิกเรียนหรือตอนเช้า เส้น ท.2 กับมารีย์คือรถติดมากๆ พื้นที่ใน รร.ก็มี จัดใน รร.ก็ได้ ถ้าคนอื่นอยากเข้าไปดู ก็เปิดให้เข้าไปดู"

อย่างไรก็ตาม สำหรับการเต้นดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมที่ชื่อว่า ซาวเด้อ โคราช มิวสิก เฟสต์ 2024 โคราชเมืองดนตรี ซาวเด้อ เอ็กซ์ เค-แบทเทิล รวมพลังชาวคัฟเวอร์ร่วมกิจกรรมแรนดอมแดนซ์ เพื่อประชาสัมพันธ์เทศกาลดนตรีซาวเด้อ โดยกำหนดจัดกิจกรรมวันที่ 19 ก.พ. เวลา 17.00-17.20 น. หน้าโรงเรียนมารีย์วิทยา โดยงานดังกล่าวจัดโดยกระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับจังหวัดนครราชสีมา และภาคส่วนต่างๆ เช่น สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ เทศบาลนครนครราชสีมา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา วิทยาลัยนาฏศิลปนครราชสีมา โรงเรียนสุรนารีวิทยา บริษัท พาวเวอร์ มูฟ จำกัด และกลุ่ม เค แบทเทิล ไทยแลนด์

ภายหลังเฟซบุ๊กเพจ ‘Sounder Korat Music Fest’ โพสต์ข้อความระบุว่า "การทำประชาสัมพันธ์งาน Random Dance เป็นการตัดสินใจของทีมผู้จัด ไม่เกี่ยวข้องกับทางโรงเรียน หรือหน่วยงานใดๆ ด้วยเจตนาที่อยากสร้างสีสันให้กับเมือง ทางทีมผู้จัดคิดไม่รอบคอบ ต้องกราบขออภัยอย่างสูงในความไม่สะดวก มา ณ ที่นี้ ด้วยครับ ทางทีมผู้จัดขอน้อมรับทุกความคิดเห็น และจะปรับปรุงแก้ไขไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก ขอขอบพระคุณทุกคำเสนอแนะ ครับผม" แต่ก็มีชาวจังหวัดนครราชสีมาตำหนิพฤติกรรมดังกล่าวอยู่ดี

นักท่องเที่ยว - ปชช. ที่โคราช วิ่งหนีตาย แตกตื่น อลหม่าน เพราะเข้าใจว่า เกิดเหตุ กราดยิง ซ้ำรอยในอดีต ขึ้นอีกครั้ง

ช่วงค่ำวานนี้ (2 มี.ค.67) เกิดเหตุยิงกันบริเวณหน้าศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 จ.นครราชสีมา ทำให้ประชาชนซึ่งอยู่ภายใน ต่างวิ่งหลบหนีตามจุดต่างๆ หลังเกิดเหตุ ตำรวจ และหน่วยกู้ภัยเมตตา ได้เข้าตรวจสอบ

พบผู้บาดเจ็บ 1 คน คือ นายณัฐดนัย เหล็กกล้า อายุ 30 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ บริเวณคาง และไหล่ขวา ก่อนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล นายณัฐดนัย บอกว่า ตัวเองเป็นฝ่ายรักษาความปลอดภัยของโรงแรมแห่งหนึ่ง

ก่อนหน้านี้ เห็น นายศุภพรพงษ์ ซึ่งเป็นเชฟของโรงแรมเดียวกัน นำสุราเข้าไปดื่มภายในที่ทำงาน 2-3 ครั้ง จึงได้ตักเตือน และรายงานให้หัวหน้างานทราบ ทำให้นายศุภพรพงษ์ ถูกไล่ออกจากงาน และมีปากเสียงกับตัวเอง จากนั้นผู้ก่อเหตุได้กลับไปที่ห้องพักซึ่งอยู่ด้านหลังศูนย์การค้าฯ ก่อนนำปืนลูกซองสั้น มายิงตัวเองได้รับบาดเจ็บ แล้วขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปทาง บขส.นครราชสีมา แห่งที่ 2 ซึ่งขณะนี้ตำรวจ อยู่ระหว่างติดตามตัว

สำหรับศูนย์การค้าแห่งนี้ เป็นที่เดียวกับเหตุการณ์ที่มีทหารนายหนึ่ง ได้มาซ่อนตัวหลังก่อเหตุยิงผู้บังคับบัญชาเสียชีวิตจากปมขัดแย้งเรื่องบ้านพักทหาร เมื่อวันที่ 8 ก.พ.2563 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต รวม 30 คน และบาดเจ็บอีก 58 คน

‘สภาสตรีโคราช’ กังวลต่อป้ายโฆษณาแอปฯ หาคู่ จี้!! ให้ปลดออก เหตุสื่อความหมายสองแง่สองง่าม อาจทำให้คนเข้าใจสับสนได้

(22 มี.ค.67) จากกรณีสื่อชาวโซเชียล มีการแชร์ต่อป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ ซึ่งมีข้อความว่า ‘ของอร่อยนครราชสีมา!’ แล้วต่อด้วยตัวเลือก 2 ข้อ คือ ผัดหมี่โคราช มีเครื่องหมายกากบาทผิดต่อท้าย และมีข้อความผู้สาวโคราชและมีเครื่องหมายถูกต่อท้าย และด้านล่างมีโลโก้ของแอปพลิเคชันหาคู่เจ้าหนึ่ง  

ป้ายโฆษณาดังกล่าวอยู่บนอาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ริมถนนโพธิ์กลาง ภายในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ห่างจากลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ราว 500 เมตร โดยเป็นตัวอักษรภาษาไทยสีขาว พื้นหลังสีแดง โดดเด่น นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านแจ้งว่าป้ายลักษณะนี้ ยังมีติดอยู่หลายพื้นที่ของ ซึ่งจากข้อความดังกล่าว สร้างความไม่สบายใจให้กับชาวจังหวัดนครราชสีมา  

ด้าน นางสุทิน ชาติพุดซา ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรี อำเภอเมืองนครราชสีมา กล่าวว่า อยากให้เจ้าของป้ายขยายข้อความสื่อสารให้ถูกต้อง หรือไม่ก็ปลดป้ายลง ซึ่งคำว่าสาวโคราชตามด้วยเครื่องหมายกากบาท เป็นการสื่อความหมายสองแง่สองง่าม และในส่วนของผัดหมี่โคราช ถือว่าเป็นอาหารที่ขึ้นชื่อที่ทุกคนที่มาโคราช ซึ่งเป็นคนต่างพื้น ต้องมากิน และป้ายโฆษณาจะมาทำเครื่องหมายกากบาทผิด อาจทำให้คนอื่นไม่เข้าใจและสับสนได้ จึงวอนอยากให้ปลดป้ายโฆษณาออก เนื่องจากจะทำให้คนต่างพื้นที่เข้าใจสับสนและเมืองนครราชสีมาเป็นจังหวัดที่มีสตรีท้าวสุรนารี ที่มีความกล้าหาญเป็นแบบอย่างให้กับสตรีชาวโคราช

‘นศ.ราชมงคลอีสาน’ ออกแบบ อาร์ตทอย ‘ย่าโม’ วีรสตรีประจำเมือง   ผลักดันให้เป็น ‘ซอฟต์พาวเวอร์’ ของฝากของสะสม ให้กับนักท่องเที่ยว

(7 เม.ย.67) กลายเป็นไวรัล ที่หลายคนแห่ชื่นชมในไอเดียสุดสร้างสรรค์ หลังได้เห็นผลงานการออกแบบ อาร์ตทอย (Art Toy) ‘ท้าวสุรนารี’ หรือ ‘คุณย่าโม’ วีรสตรีแห่งเมือง โคราช ที่หลายคนต่างเคารพนับถือ

ผลงานการออกแบบโดย ‘ก้องพิภพ หมู่โสภณ’ นักศึกษา ปี 3 ซึ่งเป็นส่วนหนี่ง ของรายวิชา ศิลปวัฒนธรรมอีสานเพื่องานออกแบบนิเทศศิลป์ หลักสูตรการออกแบบนิเทศศิลป์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และสื่อสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.) จังหวัดนครราชสีมา

ล่าสุด กลับมาเป็นที่ฮือฮาอีกครั้ง หลังผู้ออกแบบ ออกมาเปิดใจผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก ‘Korat : เมืองที่คุณสร้างได้’ โดยระบุว่า

ท้าวสุรนารี หรือ คุณหญิงโม หากเป็นภาษาพูดเรียกว่า ‘ย่าโม‘ เป็นบุคคลในประวัติศาสตร์ชาติไทยในฐานะวีรสตรีมีส่วนกอบกู้เมืองนครราชสีมา จากกองทัพเจ้าอนุวงศ์ พระมหากษัตริย์เวียงจันทน์ เมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2369 ในรัชสมัย ‘พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3)’

ต่อมาได้รับการสถาปนาขึ้นเป็น ‘ท้าวสุรนารี’ และได้สร้างอนุสาวรีย์ฯของสามัญชนสตรีคนแรกของประเทศไทย

ปัจจุบันทุกภาคส่วนในจังหวัดนครราชสีมา ร่วมจัดงาน ‘วันฉลองชัยชนะของท้าวสุรนารี’ ซึ่งเป็นงานประจำของทุกปีที่จัดยิ่งใหญ่ระหว่างวันที่ 23 มีนาคม ถึง 3 เมษายน 12 วัน 12 คืน

โดยมีสตรีชาวโคราชหลายพันคนรำบวงสรวงหน้าอนุสาวรีย์พร้อมการแสดงแสงสีเสียง เรื่อง ‘วีรกรรมท้าวสุรนารี’ ตลอดทั้งปีมีจำนวนนักท่องเที่ยวมากราบไหว้สักการะขอพรท้าวสุรนารี หากเดินทางมาที่โคราช ก็ต้องหาเวลามากราบไหว้ขอพรด้วย

จากกระแสในโลกออนไลน์ให้ความชื่มชมผลงานการออกแบบผลงานศิลปะ ‘อาร์ตทอย ท้าวสุรนารี’ (Art toy THAO SURANARI ) ‘ย่าโม’ Artist -Dodeedope ของนักศึกษาหนุ่ม ชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.) นครราชสีมา อาร์ทอยชิ้นนี้ ได้รับแรงบันดาลใจจากลักษณะเอกลักษณ์ของท้าวสุรนารี หรือย่าโม วีรสตรีของชาวโคราช

มีรูปร่างหน้าตาน่ารักโดนใจคนรุ่นใหม่ พร้อมสอดแทรกวีรกรรมความรู้ในรูปแบบการ์ตูนมินิคอมมิคให้กับนักสะสม ขณะนี้จัดแสดงอยู่ที่อาคาร 37 หอศิลป์ตะโกราย คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และศิลปกรรมสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.) นครราชสีมา

นายก้องพิภพ หมู่โสภณ หรือ ‘น้องโด้’ นักศึกษาหลักสูตรการออกแบบนิเทศศิลป์ ชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน เจ้าของผลงาน อาร์ททอยท้าวสุรนารี ‘ย่าโม’ เปิดเผยว่า

‘โปรเจ็กต์นี้ทางอาจารย์ต้องการให้เอาของดี ของโบราณ ของเมืองโคราชมาออกแบบ มาดีไซน์ใหม่ในแนว “อาร์ตทอย” (Art toy) ให้โดนใจคนรุ่นใหม่ ซึ่งจากการลงสำรวจ จุดที่คนร่วมตัวกันเยอะที่สุดก็ คือ บริเวณอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี หรือย่าโม ที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเลยต้องเดินทางมาตรงจุดนี้เป็นหลัก’

ที่ผ่านมาไม่กล้านำย่าโมมาเกี่ยวข้องเลย เพราะกลัวเรื่องของกระแสดราม่าต่าง ๆ นานา แต่เมื่อย่าโมมีความสำคัญมากกับชาวโคราช เมื่อค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับของฝากของที่ระลึกถึงย่าโม กลับไม่มีอะไรที่สื่อเลย นอกจากรูปปั้นย่าโมในกรอบทองที่นำไปบูชาเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อ

ตนจึงเกิดไอเดียต้องการสร้างของฝาก ของสะสม ที่สื่อถึงคุณย่าโมมากกว่านี้ ประกอบกับกระแสความนิยม ‘อาร์ตทอย’ กำลังมาแรง ได้ลงมือออกแบบคอลเลคชั่น คุณย่าโม เป็นเหมือนของสะสม ของฝากให้กับนักท่องเที่ยว

นอกเหนือไปจากผัดหมี่โคราช เกิดการสร้างรายได้หมุนเวียนในท้องถิ่นมากขึ้น จากกระแสในโลกโซเชียลส่วนใหญ่มีแต่คนเห็นด้วยและชื่นชม เพราะเป็นผลงานที่ดูแปลกตา ไม่เหมือนกับที่เคยพบเห็นทั่วไป”

ขณะที่ “อาจารย์บิว -ศศิรดา พันธ์วิเศษศักดิ์” อาจารย์ผู้สอนรายวิชา ศิลปวัฒนธรรมอีสานเพื่องานออกแบบนิเทศศิลป์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และศิลปกรรมสร้างสรรค์ มทร.อีสาน เผยว่า

“ได้นำองค์ความรู้จากการไปศึกษาปริญญาเอกสาขาออกแบบอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (Creative Industries Design) วิทยาลัยการผังเมืองและการออกแบบ (College of Planning) มหาวิทยาลัยแห่งชาติเฉิงกุง ประเทศไต้หวัน เมื่อปี 2019

มีแรงบันดาลใจจากการเรียนการสอน วัฒนธรรม รวมทั้งได้เห็นสัมผัสซึมซับเรียนรู้ พื้นที่ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของคนรุ่นใหม่ มีโซนแสดงนิทรรศการ กิจกรรมกลางแจ้ง เต็นท์ขายของแฮนด์เมด งานคราฟต์ งานอาร์ตทั้งหลาย…”

อาจารย์บิว กล่าวอีกว่า “สำหรับผลงาน อาร์ตทอย คุณย่าโม ถือเป็นผลงานต้นแบบที่โดดเด่น มีการนำอัตลักษณ์ เรื่องราวทางประวัติศาสตร์มาตีความออกมาในมุมมองของคนรุ่นใหม่ และเป็นผลงานออกแบบที่สามารถจำหน่ายได้จริง นำไปสู่การต่อยอดครีเอเตอร์อีโคโนมี เศรษฐกิจสร้างสรรค์ รวมทั้งสามารถเป็นซอฟต์พาวเวอร์ สินค้าอันเป็นอัตลักษณ์คนโคราชที่สร้างรายได้ให้กับท้องถิ่นในอนาคต”

‘โรงเรียนบุญวัฒนา’ ไฟเขียว!! นร. LGBTQ+ ‘ชายไว้ผมยาว-หญิงไว้ผมสั้น’ ด้าน 'สส.ก้าวไกล-ชาวเน็ต' ปลื้ม!! เป็นโรงเรียนที่ก้าวหน้า ไม่แบ่งเพศ

(5 พ.ค.67) บนโซเชียลฯ แชร์ภาพจากเฟซบุ๊ก สภานักเรียนโรงเรียนบุญวัฒนา ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำจังหวัดนครราชสีมา แห่งที่ 3 ตั้งอยู่ที่ตำบลหัวทะเล อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ได้นำภาพระเบียบการแต่งตัวที่ถูกต้องให้แก่รุ่นน้องที่จะเข้ารับการศึกษาในปีการศึกษา 2567 ที่จะถึงนี้ โดยมีการกำหนดการแต่งตัวทั้งนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น มัธยมศึกษาตอนปลาย นักศึกษาวิชาทหาร และนักเรียนเพศทางเลือก LGBTQ+ ชายไว้ผมยาว หญิงไว้ผมสั้น

โดยข้อกำหนดเครื่องแบบนักเรียน LGBTQ+ ชาย-หญิง ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย พบว่า นักเรียนเพศชาย สามารถไว้ผมยาวได้ โดยรวบผมอย่าให้ปอยผมโผล่แล้วผูกโบสีขาว ส่วนท่อนล่างยังคงให้ใช้กางเกงขาสั้นเหมือนนักเรียนชาย ส่วนนักเรียนเพศหญิง สามารถไว้ผมสั้นได้ แต่ทรงผมไม่ยาวรกรุงรังจนเกินไป ไม่เลยตีนผม ส่วนท่อนล่างยังคงให้ใช้กระโปรงเหมือนนักเรียนหญิง โดยการขออนุญาตยกเว้นทรงผมนักเรียนเพศวิถี ต้องลงบันทึกการขออนุญาตในการไว้ทรงผมที่ห้องกิจการนักเรียนก่อน

สำหรับข้อกำหนดเครื่องแบบนักเรียน LGBTQ+ ชาย-หญิง ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตจำนวนมาก และมีเสียงชื่นชมตามมา เช่น นายปิยชาติ รุจิพรวศิน ส.ส.นครราชสีมา เขต 2 พรรคก้าวไกล โพสต์คอมเมนต์ระบุว่า "ชื่นชมแนวคิดสภานักเรียนโรงเรียนบุญวัฒนาครับ" ขณะที่ชาวเน็ตคนอื่นๆ ต่างแสดงความคิดเห็น อาทิ

"ดีใจแทนน้องๆ มากเลยค่ะ ขอบคุณแทนน้องๆ จากใจจริง"

"แนวคิดน่ารักกับเด็กๆ มากค่ะ"

"ไม่ได้อยู่ๆก็ทำ กว่าจะได้กระบวนการนี้ขึ้นมา สภานักเรียนก็และฝ่ายกิจการนักเรียนเป็นแกนนำในการทำประชาพิจารณ์ ทั้งกับนักเรียน ผู้ปกครอง และผู้บริหารครับ #ทีมเด็กบุญ"

"ยินดีดีใจกับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ด้วยนะครับ ปีนี้ถือเป็นการเปิดใหม่ยอมรับในมุมมองของเพศทางเลือก ถ้าทางโรงเรียนสามารถให้นักเรียนที่เป็นชายแต่อยากแต่งหญิง หรือนักเรียนที่เป็นหญิงแต่อยากแต่งชาย ให้สิทธิเปิดกว้างมากยิ่งขึ้นจะดีมากๆ ครับ สนับสนุนซัพพอร์ตบุญวัฒนาครับ"

"ทำถึงมาก เข้าใจนักเรียน ชอบโรงเรียนเเบบนี้ ทีนี้นักเรียนคงเรียนมีความสุขมากกว่าเดิม ไม่ต้องมาคอยกังวลอะไร เกี่ยวกับเรื่องทรงผม"

"ผมขอชื่นชมทีมงานผู้บริหาร รร.บุญวัฒนาเป็นอย่างยิ่งครับ ที่กล้าที่จะเปิดรับความหลากหลายทางเพศ ความคิดทันยุคทันสมัย ในฐานะศิษย์เก่าผมก็ขอปรบมือให้ครับ เยี่ยมจริงๆ"

"ขอบคุณทางโรงเรียนนี้มากนะคะ ที่เปิดโอกาสและเป็นกระบอกเสียงเล็กๆ ว่า LGBTQ+ ก็มีสิทธิ์เสรีภาพเทียบเท่ากับบุคคลอื่นๆ"

"นี่แหละโรงเรียนที่ก้าวหน้า โรงเรียนที่ไม่แบ่งเพศ ผู้บริหารก็สุดปัง ขอบคุณที่นึกถึงจิตใจและความสำคัญของเด็กทุกคน นี่คือโรงเรียนที่เจริญแล้ว โรงเรียนที่ก้าวหน้าและทันตามยุคสมัย ขอบคุณแทนน้องๆ นะคะดีใจแทนมาก โรงเรียน LGBTQ"

"ดีใจแทนเด็กรุ่นหลังๆ มาก ที่โรงเรียนเปิดรับขนาดนี้ ยินดีกับน้องๆ ด้วยนะคะ อย่าลืมตั้งใจเรียนกันด้วยนะ"

ชื่นชม!! ‘สามเณรกานต์กวินต์’ วัย 8 ขวบ สอบพระปาติโมกข์ผ่าน หลังใช้เวลา 55 นาที

(17 พ.ค.67) เป็นที่ชื่นชมไม่น้อย กับเรื่องของ ‘สามเณรกานต์กวินต์ ธานีวรรณ’ อายุ 8 ขวบ จากวัดนิคมผัง 16 จ.นครราชสีมา ที่สอบผ่านเป็นสามเณรผู้ทรงพระปาติโมกข์ โครงการสามเณรทรงพระปาติโมกข์เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว จัดโดยวัดตะโก ร่วมกับ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

ซึ่ง สามเณรวัย 8 ขวบรูปนี้ สามารถสอบผ่าน ใช้เวลาในการสอบ 55 นาที ตั้งแต่เริ่มสอบเวลา 06.05 - 07.01 น. โดยมีคนเข้าไปชื่นชมจำนวนไม่น้อย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top