“ช่วงชีวิตนี้เป็นช่วงชีวิตที่ผมมีความสุขมากที่สุด แม้จะโดนร้องโดนเห่าหอนบ้าง โอ้ยธรรมดาพี่น้องเอ้ย เวลาไปวัดกลางคืน กลับบ้านมาหมาก็เห่าหอนเป็นธรรมดา อย่าไปพยายามตีความว่ามันเห่ายังไง อย่าไปใส่ใจ หมาอยู่ส่วนหมา คนก็อยู่ส่วนคน”
(14 พ.ย 67) 'ทักษิณ' ปราศรัยเดือดอุดรธานีวันที่ 2 ยอมรับควักส่วนตัวจ้างต่างชาติ 300 ล้านบาท ช่วย 'อิ๊งค์’ รื้อโอทอป ฝากประชาชนบอกพรรคส้มก่อนคิดกฎหมายใหม่ ล้างซวยกฎหมายเก่าก่อน ประกาศขอเสียงอุดรฯ ชนะถล่มทลาย เมินเสียงนักร้อง ลั่นคนอยู่ส่วนคน-หมาอยู่ส่วนหมา อย่าไปฟังเสียงเห่าหอน
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 14 พ.ย. ที่ตลาด 4 ธันวา อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) อาทิ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีปราศรัยช่วยนายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี ในนามพรรคเพื่อไทย (พท.) หาเสียง โดยมีประชาชนมารอฟังการปราศรัยกว่า 5,000 คน
นายณัฐวุฒิ ปราศรัยว่า ตนมาครั้งที่แล้วและบอกขอยกจังหวัด ยกจังหวัดยังไงหายไปสามเขต วันนี้จึงขอมาทวงสัญญา เพราะเรารักกันมาตั้งแต่ปี 2544 วันนี้ 23 ปีแห่งความทรงจำ 23 ปีที่ยังยืนเคียงข้างกัน แล้วจะพิสูจน์พลังอีกครั้งในการเลือกตั้ง อบจ. ครั้งนี้ ขอให้สื่อถ่ายภาพเก็บเป็นหลักฐาน หากคะแนนไม่มาเดี๋ยวจะตามไปหาถึงบ้าน ซึ่งนายวิเชียร ขาวขำ แสดงสปิริตลาออกจากนายก อบจ. สุขภาพไม่ดี เดินกะเผลก ก็ยังลาออกเพื่อเปิดทางให้กับนายศราวุธ เพชรพนม ไม่เหมือนคนกรุงเทพฯ เดินไม่ดีก็ยังอยากเป็นนายกฯ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายณัฐวุฒิปราศรัย ได้ทำท่าเดินกะเผลกไปด้วย
ขณะที่นายทักษิณ ปราศรัยว่า ไม่เห็นหน้ากันนานแล้วนะ คิดถึงกันบ้างหรือไม่ ที่เลือกมาอุดรธานี เพราะคิดถึงพี่น้องชาวอุดรธานี และคนอุดรธานีก็ไม่เคยลืมตน มีใครทันตอนตนเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ที่ต้องถามเพราะตอนนี้ตนอายุ 75 ปีแล้ว แต่ความรู้สึกยังเหมือนอายุ 25 ปี วันนี้เห็นพี่น้องมาเยอะ แบบนี้หัวใจมันก็พองโต เมื่อก่อนตอนเป็นพรรคไทยรักไทย ตนก็มาเจอพี่น้องต่างจังหวัดกลับไปมีความสุข และไปนั่งคิดอย่างเดียวว่าจะทำอย่างไรให้เขาหายจน เพราะชีวิตตนเคยลำบากมา
นายทักษิณ กล่าวต่อว่า วันนี้นั่งรถมา เห็นสภาพพี่น้องก็เป็นห่วง ตนถูกปฏิวัติออกไป 17 ปี วันนี้มีสิ่งสวย ๆ เกิดขึ้นบางที่บางแห่ง แต่พี่น้องยังลำบากอยู่ คนไม่มีหนี้มีน้อย แสดงว่าที่ผ่านมา คนจนไม่ได้รับการเหลียวแล ถามจริง ๆ ทำไมคนอุดรธานีไม่ลืมตน ก่อนจะถามประชาชนที่มาฟังปราศรัยว่า ชอบนโยบายอะไรที่ตนทำไว้มากที่สุด โครงการ 30 บาทใช่หรือไม่ แล้วกองทุนหมู่บ้านยังมีอยู่หรือไม่ เพิ่มทุนหรือไม่ เมื่อก่อนตอนที่ผมอยู่ โอทอปเลื่องลือมาก แต่ตอนนี้หายไปเยอะ หากโอทอปได้รับการปรับปรุงเหมือนสมัยที่ตนอยู่ คงจะขายได้เยอะ และจะทำให้พี่น้องมีรายได้เพิ่มขึ้น
นายทักษิณ กล่าวอีกว่า ตนใช้เงินส่วนตัว 300 ล้านบาท จ้างชาวต่างชาติ ปรับปรุงโอทอปครั้งใหญ่ อีกไม่นานเขาจะเปิดตัวว่าจะต้องรื้อไปทำอะไร และเพื่อปรับปรุงโอทอปไปขายทั่วโลก แล้วจะมาเสนอนายกฯ อิ๊งค์ (น.ส.แพทองธาร ชินวัตร) โดยที่ไม่เก็บเงิน เพราะตนจ่ายเงินไปแล้ว ทั้งนี้ นายกน อิ๊งค์ ก็ได้บอกด้วยว่า ได้สั่งการให้กระทรวงการคลังร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ โดยเฉพาะหนี้ครัวเรือน
“เห็นผมใกล้ ๆ แล้ว ผมแก่ไปเยอะหรือไม่ ตอนนี้แก่ไปเยอะ แต่เห็นพี่น้องมากันเยอะ ก็รู้สึกหนุ่มขึ้น จะร้องเพลงเสก โลโซ ว่าอย่างไร เขาบอกคิดถึงตอนอายุ 14 แต่ผมคิดถึงตอนอายุ 55 ที่มาเป็นนายกฯ นายกฯ อิ๊งค์ เป็นลูกคนเล็ก เป็นคนที่ติดตามผมไปทุกที่ตั้งแต่แปดขวบ แม้กระทั่งไปประชุมเอเปค ก็ติดตามผมไป วันนี้ไปประชุมเอง เป็นนายกฯ เอง แต่สิ่งที่นายกฯ อิ๊งค์ มีอยู่เหมือนผมทุกอย่าง คือความรักและความห่วงใยพี่น้องประชาชน คิดว่าต้องแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนให้ได้ และเชื่อว่ากลางปีหน้า พี่น้องประชาชนจะเห็นแสงสว่าง ปลายปีจะเห็นเศรษฐกิจที่คึกคักมาก เขาบ่นกับผมมาคำหนึ่งว่า พ่อ อิ๊งค์คิดว่าการผูกขาดทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นการผูกขาดโดยรัฐก็ดี หรือผูกขาดโดยเอกชนก็ดี ทำให้คนไทยจน เพราะการผูกขาดเหมือนเป็นเสือนอนกิน วันนี้จึงต้องลดทุนของการผูกขาดให้ประชาชนมากที่สุด” นายทักษิณ กล่าว
นายทักษิณ กล่าวต่อว่า แม้กระทั่งข้าวที่จัดส่งออกต่างประเทศ ก็ต้องผ่านสมาคมผู้ส่งออก มีการตรวจสารพัด ซึ่งเป็นต้นทุนของเกษตรกร และกฎหมายนี้ก็ใช้ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง ที่บอกว่าข้าวเป็นยุทโธปกรณ์หรือเครื่องมือทางทหารที่ต้องควบคุม แต่ทุกวันนี้ก็ยังใช้กฎหมายเดิมอยู่ ฉะนั้น จึงต้องยกเลิกกฎหมายเก่า ๆ ที่ทำให้คนไทยจน โดยเฉพาะเสรีภาพทางการค้าขายต่าง ๆ
“เวลาพรรคประชาชนมาหาเสียง ท่านต้องบอกพรรคประชาชนว่าไม่ต้องเสนอกฎหมายใหม่ หรือยกเลิกกฎหมายเก่าที่เป็นปัญหากับประชาชนดีที่สุด วันนี้แข่งกันออกกฎหมายใหม่ แข่งกันไปทำไม เพราะกฎหมายเก่าเฮงซวยกันเยอะแยะ ก่อนสร้างสิ่งใหม่ เอาสิ่งเฮงซวยออกไปก่อน ล้างซวย” นายทักษิณ กล่าว
นายทักษิณ กล่าวว่า นอกจากนี้ ด้านระบบการศึกษา เราต้องปรับค่านิยมของคนไทย อย่าให้ลูกรับปริญญาแล้วไม่มีงานทำ และโลกบอกว่าปริญญามีความสำคัญน้อยกว่าความชำนาญ วันนี้จึงขอฝากพี่น้องบ้านดุง ให้บอกว่าวันนี้ทักษิณกลับมาแล้ว ใครค้ายาแถวนี้ระวังตัวให้ดี ทักษิณเกลียดพ่อค้ายา ถ้าอยากให้ทักษิณรัก ต้องเลิกค้ายา มาทำมาหากินสุจริตกันดีกว่า เพราะลูกหลานเราไม่ไหวกัน แล้วประสาทหลอน วันนี้ต้องเอาลูกหลานกลับคืนมา แล้วทักษิณก็ขยันเดินตรวจด้วย เป็นคนแก่หัวใจหนุ่ม
นายทักษิณ กล่าวด้วยว่า นโยบายหลักของพรรคไทยรักไทย คือ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส ซึ่งยังใช้ได้จนถึงทุกวันนี้ รัฐบาลมีหน้าที่ทำเศรษฐกิจท้องถิ่นให้ดี เลยต้องมาสนใจ อบจ. สมัยที่นายวิเชียร ลงเลือกนายก อบจ. ตนเขียนจดหมายมา แต่วันนี้ตนมาด้วยตัวเองแล้ว เพื่อสนับสนุนผู้สมัครเบอร์สอง
“ถ้าไม่ได้ชนะถล่มทลาย ผมอายเขานะ คนอุดรฯ อย่าให้ผมอายนะ ถ้าไม่อาย ผมจะได้มาเยี่ยมบ่อย ๆ ถ้าไม่งั้นผมต้องใส่หน้ากากอนามัยมาเยี่ยม” นายทักษิณ กล่าว ก่อนจะถามว่าใครได้เงิน 10,000 ไปแล้วบ้าง คนที่ไม่ได้ อยากได้หรือไม่ มาแน่ มาช้าดีกว่าไม่มาใช่หรือไม่ นี่เป็นวัฒนธรรมที่สืบมาจากพรรคไทยรักไทย ที่พูดอะไรแล้วต้องทำ แต่วันนี้ทำยากกว่าเมื่อก่อน เพราะมีกลไกข้าราชการเทอะทะจากการปฏิวัติ บางกฎหมายคนจะเขียน ก็เอารูปตนตั้งไว้แล้วบอกว่า กูจะจัดการมันอย่างไรดี
“อิจฉาอะไรก็ไม่รู้ ทำให้การช่วยเหลือบ้านเมืองนั้นทำได้ยาก หาว่าครอบงำ นักร้องก็เยอะ ไม่รู้มันร้องอะไรนักหนา วันนี้ผมไม่คิดอะไรมาก แค่อยากช่วยชาวบ้านให้หายจน อยากให้ยาเสพติดหมดไป ใครอยู่แถวนี้ต้องใช้ความพยายาม พี่น้องต้องมีกำลังใจ ผมกลับมาแล้ว พี่น้องต้องมีกำลังใจอีกนิด ตนเหลืออีก 25 ปี จะครบ 100 ปี ก็ขอให้ช่วยกัน เห็นสภาพบ้านเมืองแล้วหดหู่ หากปล่อยไว้แบบนี้ คนไทยจะเหมือนคนลาว ถูกพัฒนาช้า พัฒนาเร็วเฉพาะส่วน คนส่วนใหญ่ถูกทอดทิ้ง ผมก็เป็นคนบ้านนอก ฉะนั้น ใจผมเป็นห่วงที่สุดคือคนรากหญ้า สิ่งที่ยากเลยคือนักการเมืองเฮงซวย หากการเมืองเฮงซวยเมื่อไหร่ นักการเมืองก็เฮงซวยตาม แต่ระหว่างที่ผมออกไป เขาก็สร้างระบบกติกาให้การเมืองมันเฮงซวยขึ้นเรื่อย ๆ“ นายทักษิณ กล่าว
นายทักษิณ กล่าวต่อว่า วันนี้ต้องเลิกดัดจริต ต้องอยู่กับความเป็นจริงว่าบ้านเมืองเราต้องการการพัฒนาสูงมาก ทุกวันนี้ระบบราชการเทอะทะ ควบคุมมากเกินไป ไม่ไว้ใจพี่น้องประชาชน ที่จริงแล้วประชาชนสามารถช่วยตัวเอง และตัดสินใจเองได้ ประเทศจะเจริญได้ต้องลดอำนาจภาครัฐ เพิ่มอำนาจให้ภาคประชาชน เพื่อป้องกันเรื่องโอกาสที่ไม่เท่าเทียมกัน พรรคเพื่อไทย กับพรรคประชาชนหรือพรรคสีส้มนั้น มีความเหมือนคือเรื่องของความเท่าเทียม แต่พรรคประชาชน บอกว่าทุกคนเท่ากัน ทั้งฐานะ หรือสถานะ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่พ่อจะเท่ากับลูก แต่พรรคเพื่อไทยมองว่าเป็นความเท่าเทียมทางโอกาส พรรคเพื่อไทยจึงพยายามอย่างยิ่งให้คนยากจนมีโอกาสเท่าเทียมกัน นายกฯ อิ๊งค์ บอกว่าจะประกาศข่าวดี ในการที่จะหาเงินส่งลูกหลานไปเรียนเมืองนอก
“ส่วนใครโดนคอลเซ็นเตอร์หลอก นายกฯ อิ๊งค์ บอกว่า หากธนาคารไม่ดูแล ต่อไปธนาคารต้องมารับผิดชอบ ซึ่งคอลเซ็นเตอร์ตัวแสบอยู่ที่เมียนมา ซึ่งใช้ระบบสื่อสารไทย ใช้ไฟฟ้าไทย นายกฯ อิ๊งค์ เลยบอกว่า บริษัทที่ทำโทรศัพท์ทั้งหลาย หากใครให้บริการข้ามเขต ต้องถือว่าเป็นจำเลยร่วม และสั่งการไฟฟ้า หากจ่ายไฟไปทำยาเสพติด ต้องเจอข้อหาจำเลยร่วม พระพุทธเจ้าบอกว่าเกิดเหตุที่ไหนต้องดับที่นั่น เราจึงต้องดับที่ต้นเหตุ ไม่ใช่ปลายทาง ต้องจัดการเด็ดขาด ในเรื่องการใช้กฎหมายและการบริหารบ้านเมือง เพื่อประชาชน” นายทักษิณ กล่าว
นายทักษิณ กล่าวอีกว่า ขอให้มั่นใจว่ากลางปีหน้าจะเห็นแสงสว่าง ปลายปีหน้าจะรู้สึกว่าชีวิตดีขึ้นเยอะ ตนขับรถผ่านเห็นคู่แข่ง บางรูปเห็นรูปคู่กับหัวหน้าพรรค บางรูปก็คู่กับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แสดงว่าเห็นว่านายพิธา หล่อกว่าหัวหน้าพรรคประชาชน แต่พรรคเพื่อไทยใช้รูปนายกฯ อิ๊งค์ ไม่จำเป็นต้องใช้รูปคู่ตน เพราะนายกฯ อิ๊งค์ หน้าเหมือนตนอยู่แล้ว แต่อิ๊งค์เขาสวยกว่าตน และตนก็หล่อกว่าอิ๊งค์ นึกว่าตนไม่อยู่ 17 ปี คนอุดรจะหมดหนี้แล้ว อุตส่าห์ปฏิวัติตั้ง 2 รอบ แต่ยังจนอยู่เลยนะ ขออย่าไปเชื่อหวยเถื่อนทั้งหลาย และอย่าไปเชื่อสายมูมาก พี่น้องที่ติดยาเสพติด เห็นนรกแน่ ๆ เราต้องขจัดให้ได้ ซึ่ง อบจ. จะเป็นส่วนสำคัญที่พาลูกหลานไปบำบัด ต่อไปกลไกของรัฐบาลนายกฯ อิ๊งค์ บอกว่าจะต้องใช้ท้องถิ่นเยอะ ๆ แต่การบำบัดต้องเป็นรัฐบาล จึงจะมีงบเยอะ อยากให้พี่น้องตั้งใจร่วมกับตนว่า จะแก้ไขปัญหาบ้านเมืองร่วมกัน มาบอกให้ตนรู้
นายทักษิณ ระบุว่า เมื่อก่อนตนทำทัวร์นกขมิ้น ไปทุกอำเภอ เป็นนายกฯ คนเดียวที่เดินทางถึงประเทศไทยมากที่สุด ไปที่ไหนก็ได้รับจดหมายน้อย ซึ่งข้อความคือทุกข์ที่พบอยู่ในหมู่บ้าน จึงได้สร้างโครงการที่ชื่อว่าเอสเอ็มแอล ทำให้ตนได้รับรู้ปัญหาของประชาชน
นายทักษิณ ยังฝากนายศราวุธ ผู้สมัครลงเลือกตั้งนายก อบจ. เบอร์สอง สมัยที่แล้วเคยเป็นกรรมาธิการ ลำดับต่อไปเป็นรัฐมนตรี โชคร้ายสอบตก จึงขอให้พี่น้องอุ้มมาเป็นนาย อบจ. และอนาคตจาก อบจ. เป็นรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนั้น นายศราวุธ ได้คุกเข่ากราบพี่น้องประชาชนที่มาฟังปราศรัย
“ชนะน้อย ๆ ไม่สนุก ต้องชนะเยอะ ๆ ต้องชนะให้ถล่มทลาย ผมจะได้เดินทางมาหาพี่น้องที่อุดรฯ อย่างหล่อ ๆ ไม่อยากเดินมาแบบมีหน้ากาก มีปี๊บ ช่วงชีวิตนี้เป็นช่วงชีวิตที่ผมมีความสุขมากที่สุด แม้จะโดนร้องโดนเห่าหอนบ้าง โอ้ย ธรรมดาพี่น้องเอ้ย เวลาไปวัดกลางคืน กลับบ้านมาหมาก็เห่าหอนเป็นธรรมดา อย่าไปพยายามตีความว่ามันเห่ายังไง อย่าไปใส่ใจ หมาอยู่ส่วนหมา คนก็อยู่ส่วนคน“ นายทักษิณ กล่าว
นายทักษิณ กล่าวว่า ขอให้พี่น้องมีพลังมีกำลังใจ วันนี้เพื่อไทยกลับมาเป็นรัฐบาลแล้ว เป็นพรรคที่เป็นนักแก้เศรษฐกิจ นักแก้ปัญหายาเสพติด นักกระจายอำนาจลงสู่ภาคประชาชน และวันนี้จะเป็นนักแก้การผูกขาด ขอให้พี่น้องอดทนมาร่วมกันอีกนิดเดียว ผมมั่นใจว่าสิ่งเหล่านั้น ท่านจะได้เห็นก่อนการเลือกตั้งใหญ่ในปีหน้า ก่อนที่นายทักษิณจะพูดแก้ว่า เป็นปี 70 เดี๋ยวจะตีความว่าจะยุบสภาแล้ว ตนพูดผิด พร้อมย้ำว่า อย่าลืมเบอร์สองนะ เบอร์สองเป็นคนของทักษิณ
ช่วงท้ายหลังการปราศรัยช่วยผู้สมัครนายก อบจ.อุดรธานี ที่ อ.บ้านดุง อดีตนายกฯ ทักษิณ ลงจากเวที ปรี่หาชาวอุดรฯ ที่มาฟังปราศรัย เพื่อทักทาย โดยอดีตนายกฯ เซอร์วิสแฟนคลับ ทั้งจับมือ และรับดอกไม้ บางรายมอบกระเช้าผลิตภัณฑ์ชุมชน บางคนเจอหน้าอดีตนายกฯ แล้วร้องไห้ บอก “ขอกอดหน่อย” บางรายเจออดีตนายกฯ แล้วยังงง ๆ เพราะจะขอถ่ายรูป ทักษิณได้หยิบมือถือชาวบ้านแล้วมาเซลฟี่ให้ คนเสื้อแดงที่เคยชุมนุมเมื่อปี 2553 เดินทางมาจากมหาสารคามเพื่อพบกอดีตนายกฯ โดยอดีตนายกฯ ก็กอดเสื้อแดงรายนั้นแน่น ๆ ก่อนจะเดินทางกลับ
ที่มา : dailynews