แจ้งจับ!! ‘เมียบิ๊กตำรวจดัง’ ย่องลักทรัพย์ในคอนโด ด้าน ‘ผบช.สพฐ.’ รุดคุมเก็บหลักฐานด้วยตัวเอง

อาจารย์พิเศษโรงเรียนนายร้อยตำรวจ แจ้งความ สน.พระโขนง ให้ดำเนินคดี 'ศิรินัดดา หักพาล' ภรรยา 'บิ๊กโจ๊ก' ลักทรัพย์ในคอนโด ซ.สุขุมวิท 101 หลานเห็นกับตาใช้กุญแจ-คีย์การ์ดเปิดห้องเข้าไป ขณะที่ ‘พล.ต.ท.ไตรรงค์’ ลงพื้นที่คุมเก็บหลักฐาน มัดตัวคนผิดด้วยตัวเอง 

มีรายงานว่า ในเอกสารรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีของสถานีตำรวจนครบาลพระโขนง ได้มีการบันทึกลงวันที่ 20 ตุลาคม โดยมีความตอนหนึ่งสรุปว่า สถานที่เกิดเหตุ กรีนคอนโด ซอยสุขุมวิท 101 เขตพระโขนง กรุงเทพ นางสาวธณัฎฐา ยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นอาจารย์พิเศษโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ได้เดินทางมายัง สน.พระโขนง แจ้งว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและนายภีมพจน์ น้อมชอบพิทักษ์ สามี ซึ่งพักอาศัยที่คอนโดมิเนียมแห่งนี้เป็นประจำ ต่อมาเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม เวลาประมาณ 14.00 น.ได้ใช้ให้นายพงษ์พัฒน์ วรเกตุ ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลาน เข้ามาเอาของที่ห้องพัก เมื่อเดินทางมาถึงและออกจากลิฟต์ชั้น 7 แล้วได้สังเกตเห็นนางศิรินัดดา หักพาล ผู้ต้องหาในคดีนี้ ใช้กุญแจและคีย์การ์ดเข้าไปในห้องดังกล่าว สามีและหลานจึงได้โทรศัพท์เรื่องดังกล่าวให้กับตนเองได้ทราบ ตนเองจึงรีบเดินทางมาจากนครปฐมและเข้าไปยังห้องพักและเข้าตรวจสอบทรัพย์ที่ได้เก็บไว้ในลิ้นชักในตู้เสื้อผ้าภายในห้องดังกล่าว (ตามบัญชีทรัพย์สินถูกประทุษร้าย) ทรัพย์สินดังกล่าวเป็นทรัพย์สินที่ตนเองและสามี ซื้อร่วมกันเพื่อจะเอาไว้ในงานแต่งงานระหว่างตนเองกับสามี

โดยในเอกสารได้มีการลงนามบันทึกโดย ส.ต.อ.จิรัฏฐ์ ธันย์ปวัฒน์ และ พ.ต.ท.สิทธิเดช หาญจริง พนักงานสอบสวน

โดยผู้เสียหายได้ให้ข้อมูลรายละเอียดกับตำรวจว่า ตนและสามีพักอาศัยอยู่ที่คอนโดฯแห่งนี้ แต่ตอนนี้ได้ย้ายไปพักย่านพุทธมณฑล เนื่องจากทำงานที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ส่วนสามีจะไปพักที่คอนโดฯแห่งนี้เป็นประจำ

ต่อมาเวลาประมาณ 14.00 น. วันที่ 18 ส.ค. ตนทราบว่าภรรยานายตำรวจยศคนดังได้ใช้คีย์การ์ดเปิดเข้าไปในห้องที่คอนโดฯ จึงเดินทางไปที่คอนโดฯ พบว่าทรัพย์สินที่เก็บไว้ในลิ้นชักตู้เสื้อผ้าทั้ง 6 รายการได้หายไป รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท โดยเป็นทรัพย์สินที่ตนและสามีจัดซื้อมาเพื่อเตรียมใช้ในงานแต่งงาน หลังเกิดเหตุได้ติดต่อทวงถามโดยตลอด แต่ไม่สามารถติดต่อภรรยานายตำรวจยศนายพลคนดังได้ จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ

ผู้สื่อข่าวสอบถาม พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ ประดับไทย ผกก.สน.พระโขนง ถึงกรณีดังกล่าว ซึ่ง ผกก.สน.พระโขนง ระบุว่า มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความเรื่องนี้จริง ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือน ส.ค. แต่ผู้เสียหายเข้าแจ้งความในวันที่ 20 ต.ค. นอกจากนี้ผู้เสียหายได้ไปออกรายการทีวีดังและพูดถึงประเด็นนี้ ซึ่งรายละเอียดความเสียหายที่ผู้เสียหายเคยให้ไว้กับตำรวจในวันแจ้งความ มีข้อมูลน้อยกว่าที่ไปพูดในรายการดังกล่าว ตอนนี้ตำรวจได้ติดต่อผู้เสียหายเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมแล้ว แต่ผู้เสียหายยังไม่ได้เข้าไปให้การเพิ่มเติม หลังจากนี้หากเข้าให้การแล้วจะเรียกตัวพยานในเหตุการณ์มาสอบปากคำเพิ่มเติมด้วย แต่ก็ต้องตรวจสอบก่อนว่ามีพยานในเหตุการณ์ดังกล่าวหรือไม่ ส่วนการเรียกผู้ถูกกล่าวหามาสอบปากคำจะต้องเป็นขั้นตอนหลังจากสอบผู้เสียหายเสร็จแล้ว เบื้องต้นตำรวจได้เก็บข้อมูลกล้องวงจรปิดในห้องพักไปตรวจสอบแล้ว

ต่อมาเมื่อเวลา 16.00 น.วันเดียวกัน พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ.ตร. พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าพบ พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ ประดับไทย ผกก.สน.พระโขนง และได้เชิญตัว น.ส.ธณัฏฐา ผู้เสียหายเข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติมกรณีทรัพย์สินที่สูญหายไปรวมมูลค่าเกือบ 6 ล้านบาท และยังได้นำของกลางที่ผู้ถูกกล่าวหาทิ้งไว้ในห้องที่เกิดเหตุเลขที่ 8/125 ชั้น 7 ของคอนโดฯ ซอยสุขุมวิท 101 แขวงบางจาก เขตพระโขนง เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ประกอบด้วย นาฬิกาปาเต๊ะ ฟิลิปส์ 2 เรือน กระเป๋าสะพาย และเอกสารต่างๆของผู้ถูกกล่าวหาอีกหลายรายการ

น.ส.ธณัฏฐา แจ้งว่า ก่อนเกิดเหตุตน และสามี ซึ่งพักอาศัยอยู่ที่ ชั้น 7 ของคอนโดมิเนียมดังกล่าว ต่อมาตนและสามีย้ายไปพักอาศัยอยู่ที่ไอคอนโดฯ ต.พุทธมณฑล อ.ศาลายา จ.นครปฐม เนื่องจากประกอบอาชีพรับจ้าง เป็นอาจารย์พิเศษอยู่ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ อ.สามพราน จ.นครปฐม และสามีก็ทำงานรับราชการอยู่ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจเช่นกัน โดยตนและสามีได้มาพักผ่อนที่ห้องเกิดเหตุอยู่เป็นประจำ

ต่อมา ในวันที่ 18 ส.ค. เวลาประมาณ 14.00 น. ตนได้ใช้ให้หลานชาย เข้ามาเอาของที่ห้องพัก คอนโด ซอยสุขุมวิท 101 เมื่อหลานเดินทางมาถึงคอนโดและได้ขึ้นลิฟท์ไปบนชั้น 7 เมื่อออกจากลิฟท์แล้ว ได้สังเกตเห็นผู้ต้องหาในคดีนี้ ใช้กุญแจและคีย์การ์ดเปิดเข้าไปในห้องพักของตนและสามี หลานชายจึงได้โทรศัพท์แจ้งเรื่องดังกล่าวให้ทราบ ซึ่งขณะนั้นตนพักอยู่ที่ จ.นครปฐม จึงได้รีบเดินทางมาที่ห้องเกิดเหตุ ถึงห้องในเวลาประมาณ 16.00 น. เข้าไปตรวจสอบทรัพย์สินที่ได้เก็บไว้ในลิ้นชักในตู้เสื้อผ้าประกอบด้วย ทองคำประเภทต่างๆ น้ำหนักรวม 120 บาท เงินสดอีก 6 แสนบาท รวมมูลค่าประมาณ 5.7 ล้านบาท ทรัพย์สินดังกล่าวเป็นทรัพย์สินที่ตนและสามีซื้อร่วมกันเพื่อจะเอาไว้ใช้ในงานแต่งงาน ในเดือน ก.พ.2568 แต่ได้จดทะเบียนสมรสกันในเดือน พ.ค.2567 แล้ว

น.ส.ธณัฏฐา กล่าวต่อว่า หลังจากนั้น จึงได้พยายามติดต่อผู้ถูกกล่าวหาทั้งทางโทรศัพท์และทางไลน์แล้ว แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้เขียนจดหมายเพื่อทวงทรัพย์สินดังกล่าวคืน โดยนำไปให้ที่บ้านพักในวันที่ 17 ก.ย. 67 เวลาประมาณ 18.40 น.แต่ รปภ.หมู่บ้าน ไม่ให้ตนเข้าไปส่งด้วยตัวเอง แต่ได้ประสานให้นายตำรวจที่คอยดูแลบ้านพักของนายพลตำรวจคนดังมารับเอกสารแทน แต่ภรรยาของนายตำรวจใหญ่ก็ไม่ได้นำทรัพย์สินดังกล่าวมาคืน และพยายามติดต่อทวงทรัพย์สินเรื่อยมา แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ตนจึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในคดีนี้จนกว่าคดีจะถึงที่สุดตามกฎหมาย และติดตามทรัพย์สินดังกล่าวมาคืนให้กับตน

พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า พนักงานสอบสวน สน.พระโขนง ประสานมาให้ร่วมตรวจสอบเหตุลักทรัพย์ โดยผู้ถูกกล่าวหาได้ทิ้งหลักฐานไว้ในห้องที่เกิดเหตุหลายรายการ ซึ่งได้ตรวจลายนิ้วมือแฝงไว้หมดแล้ว และจะได้ไปตรวจสอบในห้องที่เกิดเหตุ ตรวจสอบภาพวงจรปิดในคอนโดฯ ที่เกิดเหตุเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับคดีนี้ ตำรวจพบว่ามีปมปัญหาความสัมพันธ์ส่วนตัว โดยภรรยาของนายตำรวจใหญ่คนดังที่ถูกกล่าวหา มีความสนิทสนมกับสามีของผู้เสียหาย ทั้งยังมีคีย์การ์ดเข้าออกห้องที่เกิดเหตุอีกด้วย